Saturday, 5 July 2025
NewsFeed

เคลียร์ชัด!! พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ‘PDPA’

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ที่ก่อนหน้านี้มีผลใช้บังคับแล้วบางหมวด บางมาตรา จะมีผลใช้บังคับทั้งหมดในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนผ่านสำคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละคน ตั้งแต่การมอบข้อมูล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเอง ที่อยู่ในมือของคนอื่นอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องสิทธิของตนไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิส่วนตัว

ทั้งนี้ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบกรอบของ PDPA ว่าสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง ภายใต้เงื่อนไขที่มีการระบุไว้ก่อนหน้า

สำหรับ PDPA นั้น มีประเด็นที่ประชาชนควรรู้ ดังนี้…
1. ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลเที่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมเฉพาะ เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลข ประจำตัว ข้อมูลสุขภาพ ฯลฯ (มาตรา 6)

2. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเราไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวม (ห้ามใช้นอกเหนือวัตถุประสงค์) (มาตรา 21)

3.ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเราเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบ
ด้วยกฎหมาย (มาตรา 22) (ใช้ข้อมูลของเราให้น้อยที่สุด)

4. ความยินยอม เป็นฐานการประมวลผลฐานหนึ่งเท่านั้น ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ในการกำหนดฐานการประมวลผล ให้สอดคล้องกับลักษณะการประมวลผล และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ตามมาตรา 24 หรือมาตรา 26)

พม. โดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเชิงปฏิบัติการสร้าง ความตระหนักรู้เรื่องพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558

วันนี้ (31 พฤษภาคม 2565 ) เวลา 09.00 น. นางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความตระหนักรู้เรื่องพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ณ โรงแรมบางกอกชฎา เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 

นางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 มุ่งเน้นการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ คุ้มครองและป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศในสังคม นับเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี แล้ว ตั้งแต่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว แม้จะเห็นว่าสังคมมีการยอมรับผู้หญิงหรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้น แต่ยังพบว่าการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศยังปรากฎให้เห็นในสังคม เช่น ปัญหาการถูกจำกัดสิทธิ โอกาส และความก้าวหน้าในการทำงาน ปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เป็นต้น 

นางสาวสุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างเพศ คือ การสร้างการรับรู้ ให้ประชาชนได้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เข้าใจและตระหนักรู้เรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศอย่างแท้จริง บนฐานความเข้าใจว่า “ควรเคารพในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่มีความแตกต่างหลากหลายในเรื่องเพศ ไม่เลือกปฏิบัติด้วยปัจจัยเพศภาวะ” กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเล็งเห็นว่ามูลนิธิ สมาคม ชมรม องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน หรือองค์กรเอกชน เป็นกลไกสำคัญในการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศในสังคม จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ขึ้น ในวันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2565 ณ โรงแรมบางกอกชฎา กรุงเทพฯ โดยการประชุมดังกล่าว มุ่งหวังสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านความเท่าเทียมระหว่างเพศตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 และสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศร่วมกับ มูลนิธิ สมาคม ชมรม องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน หรือองค์กรเอกชน 

เครือข่าย “กัญชา-เบียร์คราฟ-บุหรี่ไฟฟ้า” จับมือทวงสิทธิเชื่อเอาขึ้นบนดิน ได้ประโยชน์กว่าแบน

วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. 3 เครือข่ายดังจัดเสวนา “จากกัญชา ถึงบุหรี่ไฟฟ้าและคราฟเบียร์ ถูกกฎหมายแล้วดีอย่างไร” ชี้สังคมจะได้ประโยชน์จากการควบคุมอย่างถูกกฎหมาย เผยความยากในการเคลื่อนไหวให้ถูกกฎหมาย ต้องสู้กับความเข้าใจผิด และผลประโยชน์ขัดแย้ง ด้านทนาย “รณณรงค์” เผยกฎหมายห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการค้า แต่ผู้บริโภคกลับมารับโทษ ค่าประกันเป็นแสนเพราะกฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 31 พ.ค 65 เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ” ร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายประชาชน “กลุ่มกัญชาชน”  และ “กลุ่มประชาชนเบียร์” จัดเสวนาหัวข้อ “จากกัญชาถึงบุหรี่ไฟฟ้าและคราฟเบียร์”เนื่องในโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. เพื่อชี้ถึงปัญหาการแบนจนทำให้บุหรี่ไฟฟ้า เบียร์คราฟ เป็นสินค้าผิดกฎหมาย ขณะที่กัญชาซึ่งได้รับการควบคุมแล้ว กลับยังมีปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมาย ณ ร้าน Highland ถ.ลาดพร้าว ซอย 2 กรุงเทพฯ

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ เผยว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ หลายประเทศก็อนุญาตให้ใช้เพื่อเลิกบุหรี่ได้ แต่กลับเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไทย โดยจุดประสงค์การเรียกร้องสิทธิไม่ได้ต้องการสนับสนุนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสรี  แต่เป็นการให้เกิดการควบคุมให้ถูกต้อง
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ กล่าวเสริมในประเด็นการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกกฎหมายว่า 

“พวกเราเคยยื่นรายชื่อผู้สนับสนุนกว่า 4 หมื่นรายชื่อ พร้อมแนบงานวิจัยจากต่างประเทศจำนวนมากขึ้นที่ยืนยันตรงกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ รวมทั้งแนวทางการควบคุมของบางประเทศ เช่น อังกฤษ ที่แนะนำให้ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเลิกบุหรี่ได้ และเราหวังให้งานวิจัยเหล่านี้ควรต้องถูกนำมาพิจารณา แต่ก็ยังมีกลุ่มรณรงค์เลิกบุหรี่ที่อคติกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้ปรับแก้มาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีความก้าวหน้าเสียที”

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดังซึ่งร่วมเสวนาในวันนี้ด้วยกล่าวว่า “ความไม่ชัดเจนของกฎหมาย ทำให้ที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่พออัยการสั่งไม่ฟ้อง เคสการจับกุมก็น้อยลง แต่ก็อยากฝากไปถึงผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกคนว่าอย่ามีส่วนในการทำความผิดโดยการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ และขอให้หาทางต่อสู้ให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนว่าผู้ใช้ผิดหรือไม่ เช่นรวมตัวกันไปยื่นเอกสารให้ ผบ.สตช. พิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการจังหวัดปทุมธานีเป็นแนวทางบังคับใช้กฎหายของตำรวจ เป็นต้น”

สลดใจ!! นักเรียนสวนกุหลาบเกือบ 3,000 คน ขาดแคลนโรงอาหาร วอน สส.พลังประชารัฐ ผลักดันงบจัดสร้างเพื่อช่วยเหลือลูกๆ สวนกุหลาบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการประสานถึงปัญหาความเดือดร้อนของนักเรียนโรงเรียน นวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย สมุทรปราการ ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากโรงอาหารภายในสถานศึกษาแห่งนี้ มีไม่เพียงพอ ประกอบกับ มีนักเรียนจำนวนมากถึง 2,700 คน ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ต้องทนทุกข์กับปัญหานี้มานานหลายปี จากนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังสถานศึกษาแห่งนี้ พบว่าสถานศึกษาแห่งนี้มีนักเรียนศึกษาอยู่เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 - ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 จึงทำให้สถานที่โรงอาหารภายในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สมุทรปราการ ไม่เพียงพอรองรับกับจำนวนนักเรียนที่มีจำนวนมากเกือบ 3,000 คน นักเรียนบางรายต้องหอบหิ้วอาหารกลางวันไปทานบนอาคารเรียนเพื่อลดความแออัดเบียดเสียดภายในโรงอาหาร บางรายต้องหาที่นั่งตามใต้ต้นไม้เพื่อนั่งรับประทานอาหาร และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ น้องๆนักเรียนบางคนต้องนั่งตากเดือด เนื่องจากไม่มีโต๊ะให้นั่งรับประทานอาหาร

สัญญาณบวกชัด!! หลัง 'สัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ' แน่นแฟ้น!! ลุ้น!! ทุนซาอุฯ ขอเอี่ยวหลากอุตสาหกรรมไทย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายยาเซอร์ บิน อุสมาน อัล-รูมัยยาน (Yasir bin Othman Al-Rumayyan) ประธานกรรมการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund: PIF) ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าอันดับหนึ่งของโลก ก็ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวว่า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย มีคำสั่งให้มาพบนายกรัฐมนตรี เพื่อหาโอกาสเพิ่มความร่วมมือกับประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยซาอุดีอาระเบียประสงค์ที่จะมีความร่วมมือกับไทยทางการค้าการลงทุน และด้านพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสำรวจพลังงานและแก๊ส ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เพื่อหาโอกาสสร้างความร่วมมือระหว่างกันในหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยว การกีฬา E-sports และ Soft power รวมทั้ง ซาอุดีอาระเบียหวังจะมี Business Dialogue ร่วมกับไทย เพื่อสร้างโอกาส และสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างกัน และใช้ไทยเป็นฐานลงทุนในภูมิภาคด้วย

ก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการผนึกกำลังด้านพลังงานครั้งสำคัญของบริษัท ซาอุดี อารัมโก (Saudi Aramco Oil Company) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย กับ บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน ร่วมลงนามผนึกความร่วมมือด้านพลังงานในหลายมิติ ทั้งธุรกิจต้นน้ำ ปลายน้ำ รวมถึงการสร้างความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ว่า นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ ปตท. ในการกระชับความร่วมมือกับ ซาอุดี อารัมโก ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่ความร่วมมือด้านพลังงานแห่งอนาคต ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างสมดุลระหว่างการดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน และสร้างโอกาสให้กับประเทศสู่การใช้พลังงานสะอาดในภายภาคหน้า เพิ่มขีดความสามารถตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ตอบสนองความต้องการใช้พลังงานและเคมีภัณฑ์ทั่วโลก รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ของ ปตท.ที่จะขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตอีกด้วย
 

อึ้ง!! การค้าน้ำมัน 'รัสเซีย-อินเดีย' พุ่ง!! เติบโตมหาศาล 25 เท่าหรือ 2500%

World Maker เผย รัสเซีย-อินเดียค้าน้ำมันพุ่ง 25x !!! ล่าสุดเติบโตถึง 25 เท่าหรือ 2500% โดยการส่งมอบ 3 เดือนที่ผ่านมาคิดเป็นมากกว่า 10 เท่าของการส่งมอบตลอดปีที่แล้ว !!! เรียกได้ว่าเติบโตกันอย่าง 'มหาศาล' เลยทีเดียว ! และที่สำคัญคือราคา Discount จากตลาดโลกอย่างน้อย 30% !! งานนี้โกยกันยับทั้งคนซื้อทั้งคนขาย !

⚠️ล่าสุดดูเหมือนว่าการค้าระหว่างรัสเซีย-อินเดียโดยเฉพาะทางด้านน้ำมัน กำลังเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล โดยตัวเลขการส่งมอบพุ่งขึ้นถึง 25 เท่าหรือ 2500% ขณะที่การส่งมอบในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวสูงถึง 24 ล้านบาร์เรล !! เทียบกับปีที่แล้วเพียง 960,000 บาร์เรลเท่านั้น !

📌โดยรวมแล้วอินเดียรับน้ำมันดิบจากรัสเซียไปกว่า 34 ล้านบาร์เรลนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่ามูลค่าการนำเข้าทั้งหมดตลอดปี 2021 ถึง 10 เท่าหรือ 1000% ! ท่านผู้อ่านลองคิดดูเอาเองว่าตัวเลขนำเข้าเพียง 3 เดือนสูงกว่าตัวเลขตลอดปีที่แล้วถึง 10 เท่ามันมากแค่ไหน !!

ส่วนตัวเลข 24 ล้านบาร์เรลในเดือนนี้นั้น เพิ่มขึ้นจาก 7.2 ล้านบาร์เรลในเดือนเมษายน และขยายจาก 3 ล้านบาร์เรลในเดือนมีนาคม และที่ยิ่งไปกว่านั้น คาดว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะมีการส่งมอบสูงถึง 28 ล้านบาร์เรล !! (เพิ่มขึ้นอีก 4 ล้านบาร์เรลจากเดือนนี้)

การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกที่พึ่งประกาศคว่ำบาตรน้ำมันทางเรือ (คิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของการส่งมอบทั้งหมด) ต่อรัสเซีย ทำให้รัสเซียต้องเร่งปรับเปลี่ยน Supply Chain ไปยังตลาดอื่น ๆ แทน โดยเฉพาะในเอเชียและตลาดเกิดใหม่ ซึ่งสร้างโอกาสให้โรงกลั่นของอินเดียสามารถยกระดับการซื้อน้ำมันจากรัสเซียได้ในราคาพิเศษอย่างมาก ! รวมถึงประเทศจีนที่กำลังเร่งซื้อพลังงานจากรัสเซียอย่างมหาศาล

‘ดร.สามารถ’ เผยงบกทม. ปี 65 เหลืองบลงทุนให้ผู้ว่าฯชัชชาติ แค่ 94 ลบ. เท่านั้น

'ดร.สามารถ' ส่องงบกทม. ปี 65 เหลืองบลงทุนให้ผู้ว่าฯชัชชาติ แค่เพียง 94 ล้านบาทเท่านั้น แต่สามารถโอนงบประเภทอื่นมาเป็นงบกลางเพื่อใช้ในการลงทุนได้แต่คงเหลือไม่มาก ต้องรอปีงบประมาณ 2566 จะสามารถดำเนินงานตามนโยบายที่ใช้หาเสียงไว้ได้อย่างเต็มที่

1 มิ.ย.2565- ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรือง ส่องงบ กทม. ปี 65 เหลือให้ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ใช้เท่าไหร่ ? มีเนื้อหาดังนี้

งบรายจ่ายของ กทม. ประจำปีงบประมาณ 2565 จะเหลือไว้ให้ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ใช้ทำงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้มากน้อยแค่ไหน ? ถ้าเหลือน้อย จะทำอย่างไร ?

1. งบ กทม. ปี 2565 มีเท่าไหร่ ? งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของ กทม. มีทั้งหมด 78,979,446,500 บาท ประกอบด้วยงบ 11 ประเภท เช่น  งบบุคลากร ซึ่งเป็นรายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคล งบดําเนินงาน ซึ่งเป็นรายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจํา ได้แก่รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุและค่าสาธารณูปโภคงบลงทุน ซึ่งเป็นรายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเพื่อการลงทุน ได้แก่รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าครุภัณฑ์ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง งบเงินอุดหนุน ซึ่งเป็นรายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเป็นค่าบํารุงหรือเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนการดําเนินงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรอื่นใดที่ขอรับเงินอุดหนุน และ งบกลาง ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้เป็นรายจ่ายของส่วนกลางมิได้กําหนดให้เป็นของหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใดโดยเฉพาะ เป็นต้น

2. งบประเภทไหนมากที่สุด ? จากงบทั้ง 11 ประเภท พบว่างบบุคลากรสูงที่สุดคือ 21,071,439,960 บาท คิดเป็น 26.68% ตามด้วยงบโครงการต่อเนื่อง 14,997,130,849 บาท คิดเป็น 18.99% และงบกลาง 14,417,767,187 บาท คิดเป็น 18.26%

3. งบลงทุนมีเท่าไหร่ ? จากงบประมาณรายจ่ายปี 2565 ทั้ง 11 ประเภท พบว่ามีงบที่สามารถใช้ในการลงทุนได้รวมทั้งหมด 14,222,239,849 บาท คิดเป็น 18.01% โดยรวมมาจากงบ 4 ประเภท ดังนี้ ค่าครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง (รายการปีเดียว) 1,392,845,085 บาทโครงการต่อเนื่อง (เฉพาะงบลงทุน) ประกอบด้วย งบ กทม. 8,815,786,377 บาท และเงินอุดหนุนรัฐบาล 989,667,000 บาท งบกลาง (เฉพาะที่ใช้ลงทุน) 2,760,113,387 บาท นโยบายผู้บริหาร + โครงการใหม่ (เฉพาะที่ใช้ลงทุน) 263,828,000 บาท

ตุรกี ยัน สวีเดน-ฟินแลนด์ เบื้องหลังกลุ่มก่อการร้ายพีเคเค ย้ำ!! หากนาโตรับเข้าพวก ยิ่งเสี่ยงต่อความมั่นคงของตุรกี

ประธานาธิบดีเรเวป เทย์ยิป เออร์โดวาน ของตุรกี ยืนยัน ตุรกีจะไม่ยอมให้ประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายเข้าเป็นสมาชิกนาโต แม้ว่าสวีเดนและฟินแลนด์ได้ออกมาประณามการก่อการรายก่อนหน้านี้ แต่เออร์โดวานเชื่อว่า พวกเขาไม่จริงใจหรือซื่อสัตย์เพียงพอ 

เออร์โดวาน ผู้นำตุรกี ได้เขียนบทความที่เผยแพร่โดยนิตยสาร Economist เน้นย้ำให้เห็นถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มติดอาวุธพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน หรือ พีเคเค ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่ตุรกีต่อต้านสวีเดนและฟินแลนด์ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และกล่าวว่า ทั้งสองประเทศที่กำลังทำเช่นนั้น จะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงสำหรับตุรกี

ทั้งนี้ กลุ่มพีเคเค ต่อสู้กับรัฐบาลตุรกีมานาน 38 ปี มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน ถูกขึ้นบัญชีให้เป็นองค์กรก่อการร้ายโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งรวมทั้งสวีเดนและฟินแลนด์ด้วย 

อย่างไรก็ตาม ทัศนคติของชาติตะวันตกที่มีต่อกลุ่มติดอาวุธที่ชื่อว่า 'หน่วยพิทักษ์ประชาชน' หรือวายพีจี ในซีเรีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพีเคเค เป็นสาเหตุให้เกิดความบาดหมางระหว่างตุรกีและสมาชิกนาโตชาติอื่น ๆ เนื่องจากกลุ่มวายพีจี เป็นกองกำลังสำคัญของกองทัพที่นำโดยสหรัฐฯ ในการกวาดล้างกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม หรือไอเอส 

แบงก์ชาติรัสเซียฟันธง! ดอลลาร์และยูโรจะเสื่อมค่า หมดราคาฐานะสกุลเงินโลก หลังอายัดทรัพย์มอสโก

ธนาคารกลางรัสเซียระบุในวันอังคาร(31พ.ค.) ว่าบทบาทของดอลลาร์และยูโรในฐานะสกุลเงินระหว่างประเทศ จะลดน้อยถอยลง เนื่องจากธนาคารกลางของชาติต่างๆจะต้องทบทวนยุทธศาสตร์ หลังตะวันตกอายัดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย พร้อมกันนั้นยังบ่งชี้ด้วยว่าพวกเขาอาจพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยติดลบสำหรับเงินฝากที่เป็นดอลลาร์และยูโร

ในมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย หนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตะวันตกได้ทำการอายัดทองคำและทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ราวครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดเกือบๆ 640,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงก่อนหน้าที่มอสโกจะเริ่มปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ธนาคารกลางรัสเซียระบุว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าว ตามด้วยการพูดคุยกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะยึดทรัพยสินที่อายัดไว้ กระตุ้นให้ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในเอเชียและตะวันออกกลาง ให้ต้องทบทวนยุทธศาสตร์ทุนสำรองของพวกเขา

"หนึ่งสิ่งที่คาดหมายได้ก็คืออุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับทองคำ และบทบาทที่ลดลงของดอลลาร์และยูโร ในฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศ" ธนาคารกลางรัสเซียระบุในรายงานด้านเสถียรภาพทางการเงิน

ถกสนั่นโซเชียล!! เปิดรับพนักงาน ‘คาเฟ่หมา’ ต้องจบป.ตรี พูดได้ 2 ภาษา รายได้ 12,000

เป็นอีกประเด็นให้ถกเถียงในโลกออนไลน์ หลังจากที่ เฟซบุ๊ก ‘หางาน Part Time งานพิเศษ งานประจำ ปี 2565’ ได้โพสต์ภาพและข้อความของ ‘คาเฟ่หมา’ แห่งหนึ่งที่ประกาศรับสมัครตำแหน่งพนักงานดูแลน้องหมา โดยระบุว่า ต้องผ่านทดลองงานก่อน จึงจะรับเข้าทำงาน ซึ่งวันทดลองงานไม่มีค่าแรง แต่มีบริการอาหารเครื่องดื่มให้

อีกทั้งประกาศรับสมัครงานของ ‘คาเฟ่หมา’ ยังระบุรายได้โดยได้เงินเดือน 12,000 บาท และประกันสังคม สวัสดิการฟรีอาหาร เครื่องดื่ม 3 มื้อ มีการปรับเงินเดือนพร้อมเข้าประกันสังคมเมื่อผ่านโปร 3 เดือน

โดยผู้ที่จะสมัครจะต้องมีงานที่ ‘คาเฟ่หมา’ ต้องคุณสมบัติมีดังนี้...
- อายุ 20-35 ปี
- รักสุนัขและสามารถดูแลสุนัขได้
- จบการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
- สื่อสารภาษาอังกฤษหรือจีนได้ จะพิจารณาเป็นพิเศษ
- ทำงาน 6 วัน/สัปดาห์ (full time)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top