สัญญาณบวกชัด!! หลัง 'สัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ' แน่นแฟ้น!! ลุ้น!! ทุนซาอุฯ ขอเอี่ยวหลากอุตสาหกรรมไทย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายยาเซอร์ บิน อุสมาน อัล-รูมัยยาน (Yasir bin Othman Al-Rumayyan) ประธานกรรมการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund: PIF) ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าอันดับหนึ่งของโลก ก็ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวว่า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย มีคำสั่งให้มาพบนายกรัฐมนตรี เพื่อหาโอกาสเพิ่มความร่วมมือกับประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยซาอุดีอาระเบียประสงค์ที่จะมีความร่วมมือกับไทยทางการค้าการลงทุน และด้านพลังงานมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสำรวจพลังงานและแก๊ส ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เพื่อหาโอกาสสร้างความร่วมมือระหว่างกันในหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยว การกีฬา E-sports และ Soft power รวมทั้ง ซาอุดีอาระเบียหวังจะมี Business Dialogue ร่วมกับไทย เพื่อสร้างโอกาส และสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างกัน และใช้ไทยเป็นฐานลงทุนในภูมิภาคด้วย

ก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการผนึกกำลังด้านพลังงานครั้งสำคัญของบริษัท ซาอุดี อารัมโก (Saudi Aramco Oil Company) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย กับ บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน ร่วมลงนามผนึกความร่วมมือด้านพลังงานในหลายมิติ ทั้งธุรกิจต้นน้ำ ปลายน้ำ รวมถึงการสร้างความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ว่า นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ ปตท. ในการกระชับความร่วมมือกับ ซาอุดี อารัมโก ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่ความร่วมมือด้านพลังงานแห่งอนาคต ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างสมดุลระหว่างการดูแลความมั่นคงด้านพลังงาน และสร้างโอกาสให้กับประเทศสู่การใช้พลังงานสะอาดในภายภาคหน้า เพิ่มขีดความสามารถตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ตอบสนองความต้องการใช้พลังงานและเคมีภัณฑ์ทั่วโลก รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ของ ปตท.ที่จะขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตอีกด้วย
 

ในด้านความสัมพันธ์ภาคเอกชนก็คึกคักไม่แพ้กัน หอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดคณะภาคเอกชนเยือนประเทศซาอุดิอาระเบีย ระหว่างวันที่ 15-18 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เป็นผู้นำคณะ เยือนกรุงริยาด เมืองอัลอูร่าห์ และเมืองเจดดาห์ ซึ่งเป็นการเดินทางอย่างเป็นทางการของรัฐ และเอกชนครั้งแรกในรอบ 32 ปี ผลักดันความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียในทุกมิติ โดยภาคเอกชนที่เข้าร่วมคณะในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนในสาขาธุรกิจที่มีศักยภาพกว่า 38 บริษัท อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประกอบโครงสร้างพื้นฐาน เกษตรและอาหาร พลังงาน และเคมีภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง ยานยนต์ การบิน เทคโนโลยีและดิจิทัล อัญมณีและเครื่องประดับ ท่องเที่ยวและบริการ ธุรกิจสุขภาพ

ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเจดดาห์ ประเทศซาอุฯ แจ้งว่า ชาวซาอุฯทั้งระดับประชาชนและนักธุรกิจให้ความสนใจกับการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯอย่างมาก ทั้งนี้ นโยบายใหม่ของซาอุฯ ที่จะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโดยเน้นการท่องเที่ยว การบริการ และการร่วมลงทุนมากขึ้น จึงมีความต้องการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสของไทยในด้านการร่วมลงทุน ทางซาอุฯต้องการความเชี่ยวชาญจากไทยด้านการทำฟาร์มกุ้ง ปลา และไก่ ซึ่งเริ่มมีนักธุรกิจซาอุฯสอบถามข้อมูลและขอให้จัดคณะมาพบทำความรู้จักกัน โดยซาอุฯจะให้สิทธิพิเศษการลงทุนด้านฟาร์มปศุสัตว์โดยให้นักลงทุนถือหุ้นได้ 100% และให้เช่าที่ดินระยะยาว นอกจากนี้ ซาอุฯยังสนใจที่จะร่วมลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลโรงแรม และร้านอาหาร โดยมีเอกชนไทยสนใจเข้าไปลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 2-3 รายแล้ว

ขณะที่นักธุรกิจซาอุฯ สนใจที่เข้ามาลงทุนในไทยด้านพลังงาน เหมืองแร่และอื่นๆ รวมทั้งสนใจเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยจะจัดคณะมาเยี่ยมชมอีอีซีและหาช่องทางการลงทุนต่อไป


ที่มา: https://eecnews.co/home/archives/31962