Tuesday, 18 February 2025
News

เปิดประวัติ 'ลิม กึมยา' อดีตสส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกยิงปริศนาในไทย ด้านตร.ออกหมายจับมือยิงแล้ว

(8 ม.ค. 68) ลิม กึมยา (Lim Kim Ya) อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชาจากพรรคสงเคราะห์ชาติ (Cambodia National Rescue Party หรือ CNRP) วัย 74 ปี ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณเกาะกลางถนนตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 18.00 น.  

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากลิม กึมยา วิพากษ์วิจารณ์ "รัฐบาลตระกูลฮุน" อย่างหนักในประเด็นที่เกี่ยวกับเกาะกูด โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลฮุน เซนกำลังวางแผนยกเกาะกูดให้ไทยเพื่อแลกกับผลประโยชน์ผ่านบันทึกความเข้าใจ MOU 44  

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นชายขับรถจักรยานยนต์สีแดงที่คาดว่าใช้ปืนยิงผู้เสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ  

รายงานจากคมชัดลึกระบุว่า ลิม กึมยา ถูกยิงเข้าบริเวณชายโครงขวาและหัวไหล่ขวาอย่างละนัด เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ชีพพยายามช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้  

ในขณะเดียวกัน สื่ออมรินทร์รายงานว่าผู้เสียชีวิตเดินทางมาจากเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา โดยรถบัสพร้อมภรรยาชาวฝรั่งเศสและญาติชาวกัมพูชา ก่อนจะถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต  

ลิม กึมยา เป็นสมาชิกคนสำคัญของพรรค CNRP ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2555 และเคยประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งปี 2556 ด้วยการคว้าที่นั่งในสภาได้ 55 จาก 123 ที่นั่ง พรรคนี้เป็นแกนนำในการวิพากษ์วิจารณ์สมเด็จฯ ฮุน เซน และรัฐบาลของเขา  

สมเด็จฯ ฮุน เซน เคยออกมาระบุว่าสมาชิกพรรค CNRP เป็น "ผู้ก่อการร้าย" และกล่าวหาว่าพรรคนี้สมคบคิดกับต่างชาติในการโค่นล้มรัฐบาล จนศาลกัมพูชาสั่งยุบพรรคในปี 2560 และห้ามสมาชิกพรรค 118 คนยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเวลา 5 ปี  

การโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่องทำให้พรรค CNRP ถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาก็เผชิญแรงกดดันจากประชาคมโลกในเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพทางการเมือง  

เหตุการณ์นี้ยังสร้างความสนใจในประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะกรณีเกาะกูด ซึ่งถูกหยิบยกมาเป็นข้อถกเถียงทั้งในฝั่งไทยและกัมพูชา โดยฝ่ายค้านกัมพูชาเชื่อว่ารัฐบาลฮุน เซน จะยกเกาะกูดให้ไทย  

สมเด็จฯ ฮุน เซน เรียกร้องให้มีกฎหมายใหม่เพื่อตราหน้าผู้พยายามล้มล้างรัฐบาลลูกชายของเขา ฮุน มาเนต ว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" ซึ่งสะท้อนถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่ยังคงสูงขึ้นในกัมพูชา  

ล่าสุด (8 ม.ค. 68) พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจชนะสงคราม เปิดเผยว่า สน.ชนะสงคราม ได้ออกหมายจับคนร้าย นายเอกลักษณ์ แพน้อย อายุ 41 ปี ที่ก่อเหตุยิง นายลิม กิมยา ชายสัญชาติฝรั่งเศส-กัมพูชา ที่ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.68) ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรยิงปืนฯ หลังก่อเหตุยิง นาย ลิม กิมยา เสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 เวลา 17.45 น.บริเวณวงเวียน 13 ห้าง ถนนสิบสามห้าง แขวงบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กทม

ทำไมเด็กจีนถึงครองเวทีโลก เมื่อวินัยเหล็กสร้างความสำเร็จระดับโลก

(8 ม.ค. 68) สมภพ พอดี แห่งเฟซบุ๊ก Sompob Pordi ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวพูดถึงความสำเร็จของระบบการศึกษาจีน ความว่า ปัจจุบันชาวโลกที่เป็นปกติต่างยอมรับว่า จีนเป็นหนึ่งในชาติที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก แม้ว่าจะมีคนบางส่วนเยาะเย้ยและวิพากษ์วิจารณ์ว่าการศึกษาของจีนเน้นการท่องจำ ไม่ได้ส่งเสริมพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์ และมุ่งปลูกฝังการเชื่อฟังคำสั่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่พบในสังคมเผด็จการ  

ตั้งแต่ปี 2015 นครเซี่ยงไฮ้ได้เข้าร่วมการสอบวัดผล PISA ที่จัดโดยกลุ่มประเทศ OECD แม้ว่าบางคนจะมองว่าไม่มีประโยชน์ คะแนนเฉลี่ยของเซี่ยงไฮ้ในสามวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน ครองอันดับ 1 ถึง 3 ติดต่อกันในช่วงสี่ปีแรก (จีนหยุดเข้าร่วมตั้งแต่ปี 2019 เนื่องจากโควิด)  

ค่านิยมแบบขงจื้อที่ให้ความสำคัญกับการศึกษามีบทบาทสำคัญต่อความทุ่มเทของนักเรียนและครอบครัวชาวจีน พวกเขามุ่งมั่นที่จะเรียนรู้เพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษา นอกจากนี้ ระบบการศึกษาของจีนยังเน้นสร้างพื้นฐานความรู้ที่แข็งแกร่งในทุกระดับชั้น โดยไม่เน้นการแสดงความคิดเห็นที่ขาดความรู้ เมื่อผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้ที่เพียงพอแล้ว พวกเขาสามารถนำไปประยุกต์ใช้และต่อยอดเพื่อสร้างความรู้ใหม่  

ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล เคยกล่าวว่า จีนดึงดูดบริษัทผู้ผลิตสินค้าไอทีเพราะมีช่างฝีมือและวิศวกรชั้นนำจำนวนมาก หากจัดประชุมวิศวกรด้านเครื่องมือในสหรัฐ ห้องประชุมห้องเดียวก็เพียงพอ แต่ถ้าทำในจีนต้องใช้สนามกีฬาขนาดใหญ่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่าและสเปซเอ็กซ์ ยืนยันว่าเป็นความจริง  

เมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซิริล รามาโฟซา เยี่ยมชมโรงงานของ BYD ซึ่งเป็นผู้นำด้านรถไฟฟ้าของจีน โดยมีวิศวกรมากถึงหนึ่งแสนคนทำงานอยู่ เขายิ่งประทับใจเมื่อทราบว่า BYD วางแผนเพิ่มจำนวนวิศวกรเป็นสองเท่าในสิบปีข้างหน้า  

จีนผลิตบัณฑิตระดับมหาวิทยาลัยกว่า 10 ล้านคนต่อปี โดยหนึ่งในสี่เป็นวิศวกรในหลากหลายสาขา การเข้ามหาวิทยาลัยในจีนต้องผ่านการสอบเกาเข่า ซึ่งเป็นการสอบที่เข้มข้นที่สุดในโลก จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยทุกสิ่งในจีนจะหยุดชั่วคราวเพื่อให้เด็กนักเรียนกว่า 10 ล้านคนสอบอย่างไม่มีสิ่งรบกวน  

หมายเหตุ:  โรงเรียนจีนมีเครื่องแบบนักเรียน,โรงเรียนจีนกำหนดทรงผมนักเรียน, โรงเรียนจีนมีการบ้าน, โรงเรียนจีนมีการสอบวัดผล หากสอบไม่ผ่านต้องเรียนซ้ำชั้น  และไม่เคยมีคนจีนที่ต้องทุรนทุรายเพราะเครื่องแบบนักเรียน ทรงผมนักเรียน การบ้าน หรือการสอบวัดผล  

บทความนี้แปลและเรียบเรียงจาก "What makes Chinese students so successful by international standards?" โดย **The Straits Times** ของสิงคโปร์ วันที่ 21 ตุลาคม 2024  

หากไม่พอใจกับความสำเร็จของจีน อย่าบอกผม ติดต่อคนเขียนบทความนี้โดยตรงคือ **Peter Yongqi Gu** (ศาสตราจารย์ด้านภาษาที่มหาวิทยาลัยวิคตอเรีย นิวซีแลนด์) และ **Stephen Dobson** (ศาสตราจารย์และคณบดีคณะศิลปศาสตร์และการศึกษาที่มหาวิทยาลัย CQ ออสเตรเลีย) 

รวบสาวอินฟลูฯ ร่วมมือขบวนการจีนเทา ตระเวนเข้าออนเซ็นฉกบัตรเครดิตลูกค้าไปรูด

ตำรวจ สน.ทองหล่อจับกุมสาวอินฟลูเอนเซอร์เชียร์ร้านเหล้า ร่วมมือกับคนจีนปั้มแถบแม่เหล็กปลดล็อกเกอร์ ตระเวนเข้าออนเซ็นฉกบัตรเครดิตลูกค้าไปรูด

(8 ม.ค. 68) พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.อัครพล ธนธรรม รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ สั่งการให้ พ.ต.ต.พงษ์สันต์ วิยะรันดร์ สว.สส.สน.ทองหล่อ ร.ต.อ.สมยศ หมาดสง่า รองสว.สส.สน.ทองหล่อ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ร่วมกันจับกุม นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ธัญชนก อายุ 22 ปี ตามเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 28/2568 ลงวันที่ 7 ม.ค. 2568 ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยผ่านสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์นั้น ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสด

สืบเนื่องจากกรณีที่ผู้กล่าวหาเข้าไปใช้บริการออนเซ็นที่เกิดเหตุ ลงทะเบียนชำระค่าบริการแล้วได้รับริสแบน หมายเลข 47 สำหรับใช้สแกนผ่านประตูอัตโนมัติ จากนั้นได้มีคนร้ายแอบก่อเหตุปลดล็อกตู้เก็บบัตรเครดิตของเหยื่อ แล้วนำไปรูด 3 แสนบาท ซึ่งถูกรูดไปในช่วงที่ผู้เสียหายกำลังแช่ออนเซ็น โดยผู้กล่าวหาไม่ได้เป็นผู้ใช้งาน จึงโทรอายัดกับธนาคารและรอผลการตรวจสอบของธนาคาร ต่อมาผู้กล่าวหาไม่ได้รับความร่วมมือที่ดีจากธนาคาร จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ว่ามีผู้ต้องหาซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดลักเอาบัตรเครดิตของตนไปใช้ จนเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

พนักงานสอบสวนได้แจ้งฝ่ายสืบสวนทำการสืบหาตัวผู้ต้องหา สอบสวนปากคำผู้กล่าวหา สอบสวนปากคำพยานร้านสปา บันทึกภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุ หมายเรียกพยานไปยังธนาคารที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบข้อมูลรายการบัญชี ผู้ใช้เครื่อง EDC เครื่องอ่านบัตรเครดิต จนนำไปสู่การจับกุมในที่สุด

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทำงานเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ เชียร์คนเข้าร้านเหล้า ลักษณะทำเป็นขบวนการ โดยผู้ต้องหาจะทำทีเป็นไปใช้บริการออนเซนดังกล่าว แล้วแอบเก็บเอาริสแบนด์หรือสายรัดข้อมือที่ใช้สแกนเข้าออกและตู้ล็อกเกอร์ไปทำแถบแม่เหล็กเพิ่มโดยให้กลุ่มเพื่อนชาวจีนอีก 4 คน ช่วยทำอันใหม่ขึ้นมา แล้วตระเวนเปิดล็อกเกอร์ของผู้เสียหายแล้วรูดเงินจากการใช้บัตรดังกล่าว คาดว่าทำแล้วหลายรายเตรียมขยายผลจับกุมเพิ่มเติม เบื้องต้นนำตัวส่ง สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงรับทูลเกล้าฯ ถวาย ปริญญาอักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก ม. เเห่งชาติสิงคโปร์

ทรงพระเจริญ

มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาอักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่กรมสมเด็จพระเทพฯ  

เมื่อวันที่ (8 ม.ค. 68) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายทาร์มัน ชันมูการัตนัม (Tharman Shanmugaratnam) ประธานาธิบดีสิงคโปร์ และนาย Tan Eng Chye อธิการบดีมหาวิทยาลัยเเห่งชาติสิงคโปร์ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาอักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ณ ทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐสิงคโปร์

จุฬาฯ เติมหลักสูตร Non-Degree จบได้ใน 6 เดือนรับตลาดแรงงานอนาคตโลก

(9 ม.ค. 68) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมมือกับ World Economic Forum เผยรายงาน Future of Jobs 2025 ชี้ให้เห็นว่าอีก 5 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีจะเปลี่ยนโฉมตลาดแรงงานอย่างมหาศาล โดยอาชีพเก่าอาจหายไปถึง 92 ล้านตำแหน่ง ขณะเดียวกัน อาชีพใหม่ที่อาศัยทักษะด้าน AI และ Big Data จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด มหาวิทยาลัยต้องเร่งปรับตัว โดยการออกแบบหลักสูตรระยะสั้น เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะเหนือกว่า AI  

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า รายงานนี้อ้างอิงจากการสำรวจบริษัทกว่า 1,000 แห่ง ครอบคลุมพนักงาน 14 ล้านคนใน 22 อุตสาหกรรม และ 55 ประเทศทั่วโลก โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้  ตำแหน่งงานใหม่ 170 ล้านตำแหน่ง จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม,  92 ล้านตำแหน่งงานจะหายไป เนื่องจากระบบอัตโนมัติและการปรับตัวของเศรษฐกิจ, การเติบโตสุทธิของการจ้างงานทั่วโลก จะอยู่ที่ 7% หรือประมาณ 78 ล้านตำแหน่ง  

อย่างไรก็ตาม งานบางส่วนที่ถูกดิสรัปไม่ได้หายไปโดยสิ้นเชิง แต่เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นดิจิทัล โดยต้องการแรงงานที่มีทักษะรอบด้านและสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ  

ปัจจัยสำคัญเปลี่ยนโฉมตลาดแรงงานในปี 2573  รายงานยังชี้ถึง 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน ได้แก่:  
1. การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เช่น AI หุ่นยนต์ และนวัตกรรมด้านพลังงาน  
2. สิ่งแวดล้อม การรับมือกับสภาพภูมิอากาศสร้างความต้องการแรงงานด้านพลังงานหมุนเวียน  
3. ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ  
4. การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร เช่น ประชากรสูงอายุในประเทศพัฒนาแล้ว  
5. ภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก การค้าระหว่างประเทศและข้อจำกัดทางการค้า  

ขณะที่ 10 ทักษะในอนาคตของประเทศไทยและประเทศต่างๆทั่วโลกภายในปี  2573 ประกอบด้วย

ทักษะด้าน AI และ Big Data
Analytical thinking ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์
Creative thinking ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์
Networks and cybersecurity ทักษะด้านเครือข่าย และความปลอดภัยทางข้อมูล
Leadership and social influence มีความเป็นผู้นำ และสร้างอิทธิพลต่อสังคมได้
Resilience, flexibility and agility ปรับตัวไว ทำงานอย่างยืดหยุ่น และคล่องตัว
Empathy and active listening มีความเห็นอกเห็นใจ และมีทักษะในการรับฟัง
Motivation and self-awareness มีความเข้าใจตนเอง และมีแรงจูงใจในการทำงาน
Talent management ทักษะด้านการบริหารจัดการคนเก่งในองค์กร
Curiosity and lifelong learning มีความช่างสงสัย ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต

ในปี 2573 ทักษะในอนาคตของประเทศไทยและประเทศต่างๆทั่วโลก โดยในไทย ทักษะที่โดดเด่น คือ ทักษะด้าน AI และ Big Data ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ ทักษะด้านเครือข่ายและความปลอดภัยทางข้อมูล ในขณะที่ระดับโลกเน้นทักษะด้าน AI และ Big Data ทักษะด้านเครือข่ายและความปลอดภัยทางข้อมูล ความฉลาดในการใช้งานเทคโนโลยี และทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์

กลยุทธ์สำคัญ 4 ประการสำหรับประเทศไทย

1. สร้างการเปลี่ยนแปลง แบบ Holistic Skill Change:ยกเครื่องการ upskill ของบุคลากรในมิติไม่ใช่ทักษะใดทักษะหนึ่งเท่านั้น
2. สร้างองค์กร ให้เป็น Future-Ready Organization: มีระบบการพัฒนาทักษะอนาคตของบุคลากร
3. Human Replacement: งานที่ซ้ำชากควรเลิกใช้คนและทดแทนด้วยระบบ Automation 
4. Enhancing Dynamic Work Role: มีการส่งเสริมให้ไม่ยึดติดกับบทบาทการทำงานในแบบเดิมๆ แต่มีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมุ่งสู่การเป็น The University of AI โดยมีเป้าหมายในการสร้าง คนพันธุ์ใหม่ หรือ ‘Future Human’ ที่ไม่เพียงแค่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) แต่ยังต้องมีทักษะพิเศษอย่าง II (Instinctual Intelligence) หรือ ‘ปัญญาสัญชาตญาณ’ ที่สามารถสร้างสรรค์ความรู้ที่ไม่สามารถประดิษฐ์ขึ้นได้ การเป็น ‘คนพันธุ์ใหม่’ ไม่ใช่แค่การมีสมองที่เฉลียวฉลาด แต่ยังต้องมีหัวใจที่ดีงาม เพื่อใช้พลังของเทคโนโลยีในการสร้างคุณค่าทั้งต่อตนเองและสังคม”

ประเทศไทยยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นในการเรียนรู้และพัฒนา AI โดยให้ความสำคัญกับการ Reskill และ Upskill เพื่อเตรียมแรงงานให้พร้อมสำหรับ "งานแห่งอนาคต" ซึ่งบุคลากรต้องมีทักษะที่หลากหลายและสามารถนำไปใช้ได้จริง

“สิ่งที่สามารถเอาชนะปัญญาประดิษฐ์ได้คือปัญญาสัญชาตญาณ ความเข้าใจโลก และการฝึกฝนจนชำนาญ” ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ กล่าว

ดร.วิเลิศเน้นย้ำว่า มหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนบทบาทจากการสอนปริญญา 2-4 ปี มาเป็นหลักสูตรระยะสั้นที่ใช้เวลาเพียง 6 เดือน และมุ่งเน้นสร้าง “skill incubator” เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นในอนาคต โดยเน้นการสอนที่สามารถปรับตัวตามเทคโนโลยีและตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน

“มหาวิทยาลัยต้องสร้างบุคลากรที่ไม่เพียงแค่มีความรู้ แต่ต้องมีความฉลาดที่ไม่ล้าสมัย” ดร.วิเลิศ กล่าวเพิ่มเติม

ดร.วิเลิศระบุว่า ปัจจุบันหลักสูตรการศึกษาที่เน้นปริญญาและใช้เวลา 2-4 ปีไม่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานในอนาคตอีกต่อไป มหาวิทยาลัยต้องจัดให้มีหลักสูตร Non-degree ที่เน้นการศึกษาระยะสั้น 6 เดือน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยการถ่ายทอดความรู้ผ่านเทคโนโลยี AI และเข้าใจศักยภาพของผู้เรียน การเปลี่ยนสถาบันให้เป็น “skill incubator” จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องมุ่งบ่มเพาะพรสวรรค์และพัฒนาทักษะแห่งอนาคตให้แก่บุคลากร เพื่อให้พวกเขาเข้าใจศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ มหาวิทยาลัยต้องเป็นสถาบันที่ไม่เพียงแต่สอนความรู้ แต่ต้องเน้นการพัฒนาความฉลาดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างยั่งยืน

“วันนี้หากประเทศไทยต้องการคนที่มีทักษะใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากปริญญาตรี แต่อาจนำคนที่จบปริญญาตรีแล้วมาพัฒนาทักษะเพิ่มในเวลา 6 เดือน การศึกษาของมหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่การถ่ายทอดความรู้ แต่ต้องนำความรู้เหล่านั้นไปสู่สังคม ทั้งในหลักสูตร Degree และ Non-degree”

ชื่นชม ‘อิน - เอม ทองแตง’ เยาวชนดีเด่นประจำปี 68 สองพี่น้องหัวใจอนุรักษ์ ผู้ก่อตั้ง ‘Below the Tides’

ชื่นชม น้องอิน-น้องเอม อริณชย์ - อริสา ทองแตง สองเยาวชนคนเก่ง นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ ผู้ก่อตั้ง Below the Tides รับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568

เมื่อวันที่ (8 ม.ค. 68) สองเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568 นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ ที่มีผลงานด้านสิ่งแวดล้อม และได้รับรางวัลมากมายทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ น้องอิน อริณชย์ ทองแตง อายุ 17 ปี น้องเอม อริสา ทองแตง อายุ 15 ปี จากโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ผู้ก่อตั้ง Below the Tides เข้ารับรางวัลพร้อมรับฟังโอวาทจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ มอบโอวาท เด็กและเยาวชนดีเด่น และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ มีสติ และรู้คุณค่าในตัวเอง รัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษา และอาชีพ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบโอวาทให้กับเด็กและเยาวชนดีเด่น , เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติที่มีผลงานโดดเด่น จำนวน 1,292 คน จากทั่วประเทศ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2568 โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมเด็ก และเยาวชน ทุกคนที่ได้รางวัลในสาขาต่าง ๆ ขอให้ทุกคนมีความภูมิใจในตัวเอง ถ้าทุกคนรวมกลุ่มกันคิดในเรื่องที่ดี ทำในเรื่องที่ดี จะเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศชาติอย่างแน่นอน และอยากให้รู้ว่าทุกคนมีคุณค่ากับประเทศชาติ เมื่อโตขึ้นไปจะเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่ไม่ได้วางแผนไว้ ดังนั้น ขอให้ทุกคนมีความยืดหยุ่นในตัวเอง และพร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่วนตนเองที่มาอยู่ตรงนี้ก็ผ่านการเป็นเยาวชนมาแล้ว และเมื่อรู้คุณค่าของตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเรียนเก่งที่สุด สวยที่สุด รวยที่สุด และอย่าลืมขอบคุณตัวเอง ซึ่งการที่ย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่ามีคุณค่า จะโตขึ้นไปด้วยใจที่แข็งแรง ไม่มีใครเข้ามาเปลี่ยนความคิดตรงนี้ได้ ทำให้รู้สึกด้อยค่า หรือไม่มีค่า จึงอยากให้ทุกคนมีต้นทุนตรงนี้ไว้ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่จะดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง 

ขณะเดียวกัน สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีสติ เพราะเป็นกฎในการดำเนินชีวิตที่ถ้ามีสติก็จะเข้าใจปัญหานั้น และรับมือได้ดี ขอให้เติบโตขึ้นไปอย่างมีสติ รู้คุณค่าของตัวเอง และพร้อมที่จะพัฒนาประเทศชาติต่อไป มั่นใจว่า ทุกคนเป็นความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว ขอให้นำความภาคภูมิใจนี้ไปต่อยอดขึ้นไปอีกในชีวิต พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะสนับสนุนทุกคนในเรื่องของการศึกษา การประกอบอาชีพ หรือหางานทำใหม่ ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามสนับสนุนอย่างรอบด้าน และปีใหม่นี้ขอให้ประสบความสำเร็จ อะไรที่ตั้งใจไว้ก็ขอให้สำเร็จ ขอให้มีความภาคภูมิใจในตนเองในทุกวัน ขณะที่ เด็กและเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกรางวัลดีเด่นด้านกีฬา และนันทนาการ และด้านวิชาการ กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มดีใจ ภาคภูมิใจ ที่ได้รับรางวัล เพราะก่อนหน้านี้จะต้องพยายามฝึกฝนอย่างหนัก ลงแข่งในหลายสนาม เพื่อที่จะให้ผลการแข่งขันนั้นประสบผลสำเร็จ และอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากเล่นกีฬา อยากทำความดี ให้มีความกล้า มีความพยายาม และทำให้เต็มที่

ขณะที่ผู้แทนเด็กและเยาวชน ได้มอบของขวัญที่ระลึกให้กับนายกรัฐมนตรี เช่น สร้อยคอลูกปัดโนรา ภาพวาด ภาพถ่าย การ์ดอวยพร ตุ๊กตาลาบูบู้ที่สวมชุดแบรนด์เนม พร้อมข้อความว่า “น้ำอุ่นรักนายก” ขนมและผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น โดยนายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทายเด็กและเยาวชน และร่วมเซลฟี่ รวมถึงได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นกันเอง

ทั้งนี้ น้องอิน-น้องเอม อริณชย์ - อริสา ทองแตง สองเยาวชนคนเก่ง นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ ผู้ก่อตั้ง Below the Tides กล่าวว่า มีความยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568 พร้อมยืนยันจะมุ่งมั่นเดินหน้าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการทำสาธารณประโยชน์ในมิติต่างๆ ต่อไป

ผุดไทยทาวน์ที่จางเจียเจี้ย สอนมวยไทย-ศูนย์วัฒนธรรม-ตลาดน้ำ 4 ภาค

(9 ม.ค. 68) สำนักงานส่งเสริมการลงทุนของเมืองจางเจียเจี้ย เขตหวู่เหลิงหยวน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีการจัดประชุมร่วมกับ นายศุภดล โฉมมงคล ประธานบริษัท พัทยาชาแนล จำกัด นายศักดา เจริญบุญมา ประธานบริษัท เจ บี เอ็ม เอ จำกัด และนางนุชนารถ เจริญบุญมา

เพื่อร่วมหารือในข้อตกลงการทำสัญญาสิทธิในการใช้พื้นที่ของเมืองจางเจียเจี้ย ขนาด 800,000 ตารางเมตร เพื่อทำโครงการไทยทาวน์ งบประมาณลงทุน จำนวน 21,000 ล้านบาท ที่เมืองจางเจียเจี้ย เขตหวู่เหลิงหยวน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเร็วๆนี้

โดยนางได๋ เซียวเฝิน ผอ.ส่งเสริมการลงทุนและรองเลขาธิการสภาประชาชนเมืองจางเจียเจี้ย กล่าวในที่ประชุมว่า ยินดีต้อนรับคณะจากบริษัทพัทยา ชาแนล จำกัด และบริษัท เจ บี เอ็ม เอ ดิวิล็อปเมนท์ (ประเทศไทย)จำกัด ซึ่งมีนายศุภดล และนายศักดา พร้อมคณะ มาประชุมหารือเพื่อร่างเงื่อนไขสัญญาในการลงทุนทำโครงการไทยทาวน์ ณ เมืองจางเจียเจี้ย ซึ่งเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยเดือนละประมาณ 7,000,000 คน

มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีการพัฒนาพื้นที่ของเมืองจางเจียเจี้ยไทยทาวน์ขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องด้วยจีนและไทยมีความสัมพันธ์และมิตรกันมายาวนาน

ด้านนายศุภดล กล่าวอธิบายโครงสร้างของโครงการเมืองจางเจียเจี้ยไทยทาวน์ว่า จะมี สวนสัตว์ และสวนสนุก, เวทีแข่งขันกีฬามวยไทยมาตรฐาน, โรงเรียนสอนศิลปะมวยไทย, ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมมวยไทย, ตลาดน้ำ 4 ภาค, สวนอาหารไทย, บูธสินค้าไทย 500 บูธ และลานแสดงคอนเสิร์ต

นายศักดา กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ โดยหลัก 5 F ทางบริษัท เจ บี เอ็ม เอ ดำเนินกิจการด้านกีฬามวยไทยร่วมกับศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก มวยไทยลุมพินี สังกัดกองทัพบก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านกีฬามวยไทย จึงคิดว่าจะใช้ศิลปวัฒนธรรมมวยไทยเป็นสื่อนำ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กับเมืองจางเจียเจี้ยได้มากขึ้น

อีกทั้งเป็นการเผยแพร่กีฬามวยไทยให้แพร่หลายมากขึ้นในประเทศจีน ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือจากรัฐบาลเมืองจางเจียเจี้ยเพื่อให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

‘ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์’ เศร้า! บ้านหรูถูกไฟไหม้เหลือแต่ซาก จากเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ในลอสแองเจิลลิส สหรัฐฯ

(10 ม.ค.68) เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในลอสแองเจิลลิส สหรัฐอเมริกา สำหรับ 'ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน' เจ้าของตำแหน่งนางสาวไทย พ.ศ. 2531 และนางงามจักรวาล หรือมิสยูนิเวิร์ส ปี 1988

หลังบ้านหรูที่เธอกับครอบครัวอาศัยต้องถูกไฟป่าเผาวอดเหลือไว้แต่เพียงความทรงจำโดยเธอได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า... "เราสูญเสียบ้านอันเป็นที่รักในมาลิบูเมื่อวานนี้"

"ความทรงจำอันล้ำค่ามากมายในบ้านพิเศษหลังนั้น... ที่ซึ่งลูก ๆ ของฉันเกิดและเติบโต บ้านหลังแรกและรังศักดิ์สิทธิ์ของฉันในรอบ 25 ปีตอนนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน… ทุกอย่างถูกลบไปหมด ทั้งข้าวของ รูปถ่าย และของที่ระลึกทั้งหมดในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา"

"ในช่วงเวลาที่น่าตกใจเหล่านี้ ฉันได้รับการเตือนอย่างสุดซึ้งว่าชีวิตมีค่าแค่ไหน ทั้งเพื่อนและคนที่เรารักคือสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างแท้จริง"

"ขอบคุณสำหรับข้อกังวลที่รอบคอบของคุณ เราทุกคนปลอดภัย ขอให้คิดหาวิธีช่วยเหลือกันต่อไป ขอส่งความรักและคำอธิษฐานถึงทุกคน"

อย่างไรก็ตามแม้จะต้องเสียทรัพย์สินไปมากมายจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยประสบมาในชีวิต ทว่าเจ้าตัวก็ยังส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการทำงานครั้งนี้และยังช่วยแชร์มูลนิธิที่จะช่วยเหลือคนสำหรับคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย

กรมอุตุฯ เผย ไทยเผชิญอากาศหนาวจัดอีกระลอก ย้อนอดีตปี 2498 กทม. เคยหนาวสุดขั้วอุณหภูมิต่ำสุด 9.9 องศา

(13 ม.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ฉบับ 11 อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย อันดามัน “ลมเย็นอีกระลอก” จากจีนแผ่ปกคลุม ทำให้มีอากาศหนาวจัดมีลมแรง สุดทึ่ง!! ในอดีตกรุงเทพมหานคร เคยหนาวสุดขั้วอุณหภูมิต่ำสุด 9.9 องศา เมื่อปี 2498

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 11 (11/2568)
เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวและหนาวจัดในบางพื้นที่กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร 

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 13 ม.ค. 68

สำหรับในปีนี้ พื้นที่กรุงเทพมหานคร นับว่ามีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องยาวนาน โดยอุณหภูมิต่ำสุดจะอยูที่ประมาณ 16 องศาเซลเซียส แต่ทว่า เมื่อย้อนไปดูบันทึกสภาพอากาศในอดีต พบว่า เมื่อปี 2498 กรุงเทพมหานคร เคยหนาวสุดขั้ว โดยมีอุณภูมิต่ำสุดถึง 9.9 องศาเซลเซียส

‘เจือ ราชสีห์’ ชวนท่องเที่ยว หาดสมิหลา ร่วมสัมผัสน้ำทะเลที่คุณภาพดีที่สุดของไทย

(13 ม.ค. 68) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวสงขลา วันนี้ชายหาดของเรา “หาดสมิหลา” คว้าอันดับ 1 น้ำทะเลที่มีคุณภาพดีที่สุด จาก 210 แห่งทั่วประเทศไทย ของกรมควบคุมมลพิษ

“ผมขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ได้มาลองสัมผัสกับน้ำทะเลที่คุณภาพดีที่สุดของไทย ที่หาดสมิหลาจังหวัดสงขลา ครับ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top