Wednesday, 19 March 2025
News

‘ศ.ดร.บังอร‘ อัดฉีด​ 15.2 ล้านบาท ให้นักกีฬาที่ร่วมสู้ศึก “กีฬาปัญญาชน 50” หลัง ม.กรุงเทพธนบุรีคว้าเจ้าเหรียญทอง 6 สมัยซ้อน

เมื่อวันที่ (20 ม.ค.68) ศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี (มกธ.) กล่าวแสดงความยินดีกับผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอน และทัพนักกีฬา พร้อมทั้งมอบเงินรางวัลอัดฉีดรวม 15,230,000 บาท แก่ทัพนักกีฬาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยมีเรืออากาศโท หญิง ภานิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทนนิส) แชมป์กีฬาเทควันโด เหรียญทองโอลิมปิก ปารีส 2024 หัวหน้าคณะนักกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี กล่าวรายงาน สรุปผลการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 50 ธรรมศาสตร์เกมส์” และนำทีมผู้ฝึกสอนและนักกีฬาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีเข้ารับมอบเงินรางวัลดังกล่าวในงาน 'เชียร์ให้ฉ่ำ ฉลองแชมป์สมัยที่ 6' จากการส่งทัพนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 50 'ธรรมศาสตร์เกมส์' เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีที่ได้รับเหรียญรางวัลจากทุกประเภทการแข่งขันกีฬา โดยมี รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ ผู้ฝึกสอน และนักศึกษาร่วมแสดงความยินดีกับทัพนักกีฬาที่ได้รับรางวัลดังกล่าวด้วย    

ทั้งนี้ ทัพนักกีฬาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 50 สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีสามารถขึ้นแท่นเป็นเจ้าเหรียญทอง 6 สมัยซ้อน โดยสามารถคว้า 124 เหรียญทอง 45 เหรียญเงิน และ 51 เหรียญทองแดง รวมเหรียญรางวัลทั้งหมดที่ทัพนักกีฬาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีได้รับจากการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬารายการดังกล่าว จำนวน  220 เหรียญ

จากการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 50 นักกีฬาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี สามารถคว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมหลายประเภทกีฬา ได้แก่ ว่ายน้ำ น.ส.กมนชนก ขวัญเมือง และนาย รัฐวิทย์ ธรรมนันทโชติ กรีฑา นายณัฐพงษ์ ศรีนนทา หมากกระดาน นายวิชญฤทธิ์ คฤหวาณิช นายภานุวัฒน์ เถาวัลย์ นายทัพฟ้า คำหน่อแก้ว น.ส.ทิพย์อักษร อินทะสร้อย และน.ส.กอบเงิน ฤกษ์วิรี เทควันโด น.ส.พรรณนภา หาญสุจินต์ แบดมินตัน นายพณิชพล ธีระรัตน์สกุล น.ส.นัทธมน ไล้สวน เทนนิส นายยุธนา เจริญผล น.ส.พัณณิน โควาพิทักษเทศ เปตอง นายรัชตะ คำดี น.ส.พรทิวา แก้วมูล เซปักตะกร้อ นายพงษ์ศักดา จันริสา คอร์สเวิร์ด น.ส.ณัฐชยา ศรีทะโร คาราเต้ น.ส.มณีวรรณ บุตรสุวรรณ ปันจักสีลัต นายพีระพล มิตธสาร เทเบิลเทนนิส ชัยเดช ม่วงหวาน และเอแม็ท น.ส.ธัญชนก จันทร์คล้าย

ในการนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้จัดงานเลี้ยงฉลองแชมป์แก่ทัพนักกีฬาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันกีฬารายการดังกล่าว และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีตั้งไว้ด้วย ซึ่งงานเลี้ยงฉลองแชมป์ดังกล่าวจัดขึ้น ณ อาคารปฏิบัติการ การโรงแรมและการท่องเที่ยว ชั้น 2 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี  

นักท่องเที่ยวต่างชาติ สุดปลื้มได้ร่วมรับเสด็จฯ ในหลวง – พระราชินี ทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ย่านเยาวราช

(27 ม.ค. 68) ผู้ใช้บัญชี Tiktok ชือว่า mai_natan.ch ได้โพสต์คลิป นักท่องเที่ยวต่างชาติสาวรายหนึ่ง ซึ่งได้นั่งรวมกลุ่มกับชาวไทย เพื่อรอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต 72 พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต ณ ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร และทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง 72 พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการ “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2568 

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติคนดังกล่าว บอกว่า ตนเองชื่อโคลอี้ เดินทางจากลอนดอน มาเที่ยวประเทศไทย จากนั้นได้ไปเที่ยวชมวัดแห่งหนึ่ง และได้เจอกับผู้คนมากมายมานั่งรอ จึงคิดว่าเราน่าจะอยู่ดูว่ามันเกี่ยวกับอะไร และเพลิดเพลินกับค่ำคืน ตรุษจีนปีงู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความตื่นเต้นที่ได้อยู่ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อใช้เวลากับคนไทยมากมาย ที่ตั้งตารอร่วมเฉลิมฉลอง พร้อมกับมีส่วนร่วมในการรับเสด็จราชวงศ์

‘ดร.วรัชญ์’ ชี้ การจัดการจราจร มธ. รังสิต แย่กว่า รบ. จัดการฝุ่น หลังปล่อยรถติด 4-5 ชม. สะท้อนการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ (26 ม.ค. 68) ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warat Gap ว่า การจัดการจราจรของธรรมศาสตร์ รังสิต ในวันนี้ คือที่สุดของความไร้ประสิทธิภาพ ผู้รับผิดชอบควรพิจารณาตัวเอง

พร้อมทั้งย้ำในคอมเมนต์ ว่า ติดใน ม. กัน 4-5 ชม. เป็นไปได้ยังไง ขาออกห้าทุ่มวันอาทิตย์รถยังติดเป็นชั่วโมง แทนที่จะพยายามระบายรถออกไปในทุกประตูที่มี ให้ออกไปก่อน กลับไปกั้นถนน บังคับให้ออกทางเดียวที่เป็นคอขวด

“คณะวิศวะ ก็มี ทำไมไม่ออกแบบวางแผนล่วงหน้า อันนี้ยิ่งแย่กว่าการจัดการฝุ่นของรัฐบาลอีก”

สำหรับสาเหตุที่ทำให้รถติดหนักในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างหนัก เนื่องจากในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา มีการซ้อมใหญ่รับปริญญาบัตร ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2565-2566 และจะมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ณ อาคารกิติยาคาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์ นี้

'ดร.สันติธาร' ตั้ง 5 คำถาม 'DeepSeek' AI จีนตัวเปลี่ยนเกมท้าชนมหาอำนาจ

(28 ม.ค. 68) ดร.สันติธาร เสถียรไทย Future Economy Advisor สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า การผงาดขึ้นมาของ DeepSeek เอไอจากจีนที่อาจเปลี่ยนโลก 5 คำถามสำคัญที่ตามมา จากการผงาดขึ้นมาของ DeepSeek เอไอของจีนที่เป็นกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในตอนนี้ 

ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วนทั่วโลก แต่ยังมาจังหวะที่สหรัฐฯเปลี่ยนรัฐบาลพอดี เสมือนเป็นการ‘สะบัดหาง’ครั้งสำคัญของปีงูเล็กเลยกว่าว่าได้และอาจมีผลกระทบในวงกว้างอีกด้วย (ใครไม่ได้ตามข่าวนี้ผมแปะลิ้งค์ข้อมูลเกี่ยวกับเอไอตัวนี้ไว้ในคอมเมนท์ครับ)

ผมมองว่าปรากฏการณ์นี้น่าจะเปิดอย่างน้อย 5 ประเด็นสำคัญที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ จึงอยากลองแชร์ไว้เผื่อไปช่วยคิดและติดตามกันต่อครับ
1.จีน vs อเมริกา. การมาของ DeepSeek ตั้งคำถามว่าเทคโนโลยีเอไอของอเมริกายังนำโลกอยู่จริงไหม หรือจีนสามารถวิ่งไล่กวดได้แล้วแม้จะไม่ได้เข้าถึงชิปคุณภาพสูงสุดที่โดนกีดกันจากสหรัฐฯและพันธมิตร  และหากไล่กวดได้จริงตามตัวเลขการทดสอบความสามารถเอไอต่างๆที่ออกมา ต่อไปสหรัฐฯจะตอบโต้อย่างไร:

-จะเพิ่มความเข้มข้นของสงครามการค้า-เทคโนโลยีเพื่อให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้ได้ยากขึ้นไปอีกไหม หรือ/และ
-จะทุ่มทุนยิ่งกว่าเดิมสร้างกับโครงการเอไอขนาดยักษ์อย่าง Stargate ที่มูลค่าที่ประกาศเกือบเท่าเศรษฐกิจไทยทั้งประเทศ
แต่ในทางกลับกันก็มีคนบอกว่าเพราะไปจำกัดการเข้าถึงชิปของจีนนี่แหละเลยทำให้เขาต้องคิดค้นวิธีใหม่ที่สร้างเอไอได้ประหยัดกว่าเดิม ทำ‘กันดารกลายเป็นสินทรัพย์‘

2.ความสิ้นเปลืองทรัพยากร. การที่ Deepseek ใช้เงินในการพัฒนาเอไอน้อยกว่า พวกบริษัทเทคโนโลยีดังๆของอเมริกาประมาณ 20-30x และ ใช้ชิปที่ไม่ได้ ’ทรงพลัง‘ เท่า (มีคนบอกว่าชิปที่พวกเขาใช้ แค่นักเรียนปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยในอเมริกายังมีใช้เลย) ทำให้เกิดคำถามสำคัญในหมู่นักลงทุนและบริษัทเทคฯว่า “เอ้ะ ที่เราลงทุนไปหลายพันล้านเพื่อให้ได้ชิปที่ทรงพลังที่สุดนี่จริงๆแล้วมันจำเป็นหรือเปล่า” สรุปเราจ่ายไปเพื่อซื้อ ’เนื้อ’ หรือ ’ไขมัน’ กันแน่? หรือว่า: เงินอาจจะไม่ใช้มากขนาดนั้น ชิพอาจจะไม่ต้องทรงพลังขนาดนั้น พลังงานก็อาจจะไม่ต้องใช้หนักขนาดนั้น นี่จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หุ้นวงการเทคฯและอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องตื่นตระหนกตกใจพานิคร่วงกันเป็นแถวเมื่อวานนี้

3.โมเดลแบบเปิด vs ปิด. คนส่วนใหญ่อาจมองสงครามเอไอเป็นระหว่างสหรัฐฯ vs จีน แต่สำหรับคนในวงการเทคโนโลยีอีกศึกที่คุกรุ่นมานานคือระหว่าง โมเดลแบบเปิด (Open source) ที่เสมือนเปิด ‘สูตรลับ‘ หรือ โค๊ดให้คนอื่นสามารถเอาไปศึกษา ใช้พัฒนาต่อยอดได้ กับ โมเดลแบบปิดที่ไม่ได้เปิดข้อมูลเหล่านี้ เช่น ChatGPT Deepseek คือเป็นแบบเปิด จึงทำให้เกิดคำถามว่าโมเดลแบบเปิดนี้มันเจ๋งจนไล่กวดโมเดลแบบปิดที่ซ่อนสูตรลับของตัวเองแล้วหรือ? นึกภาพหากร้านอาหารอร่อยมากๆเปิดสูตรให้คนเอาไปทำที่บ้านแล้วทำออกมามันอร่อยไม่แพ้ร้านแพงๆที่เก็บสูตรเป็นความลับ ต่อไปใครจะอยากไปจ่ายแพงเพื่อกินที่ร้าน 
แต่ก็มีคำถามต่อไปอีกว่าแล้วต่อไป Deepseek จะยังเปิดสูตรตัวเองไปเรื่อยๆแบบนี้ไหม หรือวันดีคืนดีก็จะปิดมันและเก็บตังค์ค่าใช้แพงๆ และ/หรือ จะมีการเอาข้อมูลของ User ไปใช้อย่างไรเพราะบางคนก็ห่วงเรื่อง data governance

4.ผู้นำ-ผู้ตาม. Deepseek ใช้เวลาแค่ 2 เดือนกว่าๆเท่านั้นในการพัฒนาเอไอที่มี ความสามารถใกล้เคียงกับโมเดลรุ่นใหม่ ของ OpenAI โดยใช้โมเดลของ OpenAI ช่วยเทรนสอนโมเดลของตนเองด้วย เสมือนOpenAI เป็นจอมยุทธ์ที่ฝึกแทบตายกว่าจะบรรลุเคล็ดวิชาใหม่ แต่พอนักเรียนมาเลียน/เรียนต่อแป๊บเดียวสามารถได้วิชาระดับเดียวกันมาได้  (ภาษานักลงทุนคือ Moat หรือคูเมืองป้องกันปราสาทเรา มันไม่ได้ข้ามยากเท่าที่คิด) จึงทำให้เกิดคำถามว่าวงการเอไอนี่ผู้นำได้เปรียบมากจริงไหม หากผู้ตามสามารถตามได้เร็วขนาดนี้และยังทำได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก แบบนี้มันยังคุ้มที่จะลงทุนพัฒนาเพื่อเป็นผู้นำ ‘บรรลุเคล็ดวิชาใหม่ๆ‘ ไหม เพราะผู้นำด้านเอไออาจถูกดิสรัปง่ายกว่าที่คิด

5.อนาคตของเอไอ. ในมุมผู้พัฒนาและลงทุนกับเอไอ คำถามเหล่านี้อาจทำให้ขนหัวลุก แต่ในมุมของผู้ใช้ พัฒนาการนี้ก็อาจมองในมุมบวกได้เช่นกัน
- ต้นทุนพัฒนาเอไอถูกลงทำให้ค่าบริการถูกลง คนเข้าถึงได้มากขึ้น
-เอไออาจสามารถใช้ทรัพยากรและพลังงานน้อยลง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขึ้น
-โมเดลแบบเปิดอาจทำให้คนเก่งๆทั่วโลก สามารถศึกษาและเอาไปพัฒนาต่อยอดได้ สร้างเอไอที่ตอบโจทย์และเหมาะกับบริบทของสังคมตนเอง 
- การพัฒนาเอไออาจมีการแข่งขันมากขึ้น Generative AI กลายเป็น‘เทคโนโลยีโหลๆ’ขึ้น ผลักดันให้หลายเจ้าอาจต้องหามุมการพัฒนาผลิตภัณฑ์แนวอื่นมากขึ้น คิดเรื่องแอพพลิเคชันมากขึ้น ไม่ใช่ทุ่มเงินสร้างมันสมองที่ฉลาดอย่างเดียว จึงอาจทำให้เกิดนวัตกรรมที่หลากหลายขึ้น 
ในทางกลับกันการที่แต่ละประเทศต่างแข่งกันสร้างสุดยอดเอไออาจทำให้ต่างลดความสำคัญด้านการกำกับดูแลความเสี่ยง ทำให้ยิ่งมีโอกาสเกิดเอไอแบบอันตรายต่อสังคมขึ้นหรือไม่ 

แน่นอนว่าเรายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ Deepseek อีกมากและก็เป็นไปได้ว่าต่อไปอาจมีการหักมุมจากผู้เล่นอื่นอีกที่ไม่ใช่ DeepSeek เลยก็เป็นได้ แต่อย่างน้อยก็คิดว่า 5 ประเด็นนี้คือคำถามที่เราควรตั้งและช่วยกันติดตามอย่างใกล้ชิดกับเทคโนโลยีที่มีโอกาสเปลี่ยนโลกและกระทบเราทุกคนในอนาคตครับ

ศาลเลสเตอร์ ตัดสินปมเฮลิคอปเตอร์ ‘เจ้าสัววิชัย’ ตก ชี้ ตลับลูกปืนที่ใบพัดแตก บริษัทรู้เรื่องแต่ไม่แก้ไข

(29 ม.ค. 68) ศาลเมืองเลสเตอร์มีคำตัดสินกรณีไต่สวนสาธารณะอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่สนามคิงเพาเวอร์ ปรากฎว่ามีสาเหตุมาจากตลับลูกปืนที่ใบพัดหางของเครื่องเฮลิคอปเตอร์แตก โดยทางบริษัทผู้รับผิดชอบนั้นรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ไม่ยอมแก้ไขก่อนขึ้นบิน

เมื่อเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหราชอาณาจักร วันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ศาลเมืองเลสเตอร์มีคำตัดสินกรณีไต่สวนสาธารณะอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่สนามคิงเพาเวอร์ โดยคณะลูกขุนมีคำตัดสินกรณีโศกนาฏกรรมเฮลิคอปเตอร์ เลโอนาร์โอ AW169 ตกที่สนามคิงเพาเวอร์เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เป็นเหตุให้วิชัย ศรีวัฒนประภา, เอริก สวอฟเฟอร์, อิสซาเบลลา เลโควิช, นุสรา สุขหน้าไม้ และกวีพร พรรณแพร เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดและไม่ควรจะเกิดขึ้น

พยานหลักฐานที่นำเสนอระหว่างการไต่สวนบ่งชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในกระบวนการทางวิศวกรรมขั้นพื้นฐานของบริษัท เลโอนาร์โด โดยมีสาเหตุมาจากตลับลูกปืนที่ใบพัดหางของเครื่องเฮลิคอปเตอร์แตก ซึ่งนำไปสู่การล้มเหลวของระบบใบพัดหาง ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมและเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมในครั้งนี้

ความบกพร่องดังกล่าวมีมาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเครื่องเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้แล้ว และไม่เคยได้รับการปรับปรุงแก้ไขแต่อย่างใด

หลังการไต่สวนซึ่งใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ คณะลูกขุนรับฟังว่าเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ประสบอุบัติเหตุทั้ง ๆ ที่เป็นเครื่องใหม่ และได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ได้รับรองมาตรฐาน และไม่พบความผิดพลาดใด ๆ ของนักบินระหว่างทำการบิน

กัปตันเอริก เป็นนักบินที่มีความสามารถ มีประสบการณ์สูง และได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อควบคุมเครื่องเฮลิคอปเตอร์หลังจากใบพัดหางทำงานล้มเหลว เพียงไม่นานหลังนำเครื่องขึ้นบินจากสนามคิงเพาเวอร์

หลักฐานจากการไต่สวนบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นเพียงอุบัติเหตุที่รอวันเกิดขึ้นเท่านั้น และด้วยการออกแบบเครื่องเฮลิคอปเตอร์ในลักษณะนี้ ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำไปสู่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ในที่สุดอย่างแน่นอน

เลโอนาร์โดเองก็ทราบถึงความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากการออกแบบเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และตระหนักว่าการออกแบบดังกล่าวมีปัญหาที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวได้

การแก้ไขการออกแบบเครื่องเฮลิคอปเตอร์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเคยดำเนินการกับเฮลิคอปเตอร์รุ่นก่อนหน้าของเลโอนาร์โด สามารถป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่เครื่องหมุนคว้างในอากาศในกรณีที่ลูกปืนเกิดความเสียหายได้ แต่ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจอธิบายได้ เลโอนาร์โดกลับตัดสินใจไม่แก้ไขข้อบกพร่องกับเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้

ระหว่างขั้นตอนการออกแบบเครื่องเฮลิคอปเตอร์ เลโอนาร์โดมีโอกาสมากมายที่จะระบุ และแก้ไขความเสี่ยงเหล่านี้ได้ แต่ทั้งหมดกลับถูกละเลยไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกที่ทีมวิศวกรของเลโอนาร์โดประเมินและวิเคราะห์เบื้องต้นว่า หากเกิดกรณีลูกปืนแตก เพลาเหล็กควบคุมใบพัดหางจะฉีกขาด แต่ไม่หลุดออกมา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เพลาดังกล่าวได้หลุดออกมาจากน๊อตที่ยึดอยู่

ด้วยเหตุผลบางประการ เลโอนาร์โดไม่ได้ส่งผลการทดสอบการบินให้แก่ผู้ผลิตชื้นส่วนเครื่องเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งผลการทดสอบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ามีแรงบีบอัดมหาศาลที่มีผลต่อระบบใบพัดหางมากกว่าการคำนวณตามแบบจำลองทางทฤษฎีของเลโอนาร์โด

ข้อสันนิษฐานทางสถิติของเลโอนาร์โดก็มีความคลาดเคลื่อนมากเช่นเดียวกัน ตลับลูกปืนซึ่งมีอายุการใช้งาน 2,400 ชั่วโมง กลับล้มเหลวหลังจากการใช้งานเพียง 330 ชั่วโมง

การตรวจสอบเพิ่มเติมจากสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษ (AAIB) พบว่ามีตลับลูกปืนอีกสามชิ้นอยู่ในสภาพที่คล้ายกัน ซึ่งกำลังจะเสียหาย และหมดอายุการใช้งานซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดมาก

ท้ายที่สุด เหตุการณ์อันน่าเศร้าครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงข้อบกพร่องที่ร้ายแรงในกระบวนการออกแบบ การทดสอบ และการประเมินความเสี่ยงของบริษัทเลโอนาร์โด ผู้ผลิตจากประเทศอิตาลี ครอบครัวของวิชัยยังคงแสวงหาความยุติธรรมและความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้อยู่

ครอบครัวของวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่ได้รับความทุกข์ทรมาน และเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนี้และทุกครั้งที่มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกชายของวิชัย กล่าวว่า

“พ่อของผมมีความเชื่อมั่นในเครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ โดยถือเป็นความรับผิดชอบของเลโอนาร์โดที่จะต้องทำให้มั่นใจว่าเครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้มีความปลอดภัย แต่ในความเป็นจริง มันกลับไม่ปลอดภัย และกลายเป็นดั่งกับดักแห่งโศกนาฏกรรมอย่างแท้จริง”

“ครอบครัวของเราขอขอบคุณศาสตราจารย์ เมสัน ที่ได้ทำการไต่สวนครั้งนี้ ซึ่งทำให้ผู้คนกลับมาสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2561 อีกครั้ง”

“ท่านเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัว เป็นสามีที่เปี่ยมด้วยความใส่ใจและความทุ่มเท เป็นทั้งพ่อ และเป็นปู่ ที่เรารักยิ่ง เรายังรู้สึกถึงความสูญเสียอยู่ทุกวัน”

“ท่านเป็นผู้นำที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์และความเชื่อมั่น และเป็นแบบอย่างของความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นและการลงมือทำด้วยตัวเองอย่างแท้จริง ซึ่งคำพูดใด ๆ ก็มิอาจถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของท่านได้อย่างสมบูรณ์”

เราขอขอบคุณเมืองเลสเตอร์ สำหรับการสนับสนุนอันอบอุ่นและล้นหลาม เราจะคิดถึงท่านเสมอ และการจากไปของท่านจะคงอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป” อัยยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

‘จอนนี่มือปราบ’ ประกาศทั้งน้ำตา นับถอยหลังโบกมือลาอาชีพตำรวจ

แห่เสียดาย 'จอนนี่มือปราบ' ประกาศทั้งน้ำตา ตัดสินใจลาออกจากอาชีพตำรวจ พร้อมเหตุผลในใจ ลั่นยังรักอาชีพนี้เสมอ

(29 ม.ค.68) ทำเอาหลายคนเสียดาย เมื่อ 'ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์' หรือ 'จอนนี่ มือปราบ' นายตำรวจชื่อดัง ได้ออกมาประกาศผ่านเพจ จอนนี่ มือปราบ หลังตัดสินใจลาออกจากข้าราชการตำรวจ โดย จอนนี่ ระบุว่า...

ผมตัดสินใจทุกอย่างดีแล้ว ถึงแม้ลูกจะยังไม่โอเคด้วยก็ตาม 1 กุมภา 2569 อีก 1 ปี ผมขอลาออกจากอาชีพรับราชการตำรวจ ด้วยเหตุผลในใจที่มีมากมาย จะทิ้งชื่อเสียงตนเองไว้ ว่าครั้งหนึ่ง เคยเป็นอดีตตำรวจที่มีผลงานรวมทั้งประชาชนรักและศรัทธา

โดยจอนนี่ ยังได้เผยอีกว่า..." ทุกครั้งที่คิดเรื่องนี้ ผมน้ำตาไหลตลอดเลย ผมยังรักอาชีพตำรวจของผม และลูกผม เขาก็ภูมิใจในตัวผม ในเมื่ออุดมการณ์ของผม มันขัดกับระบบ ผมจึงจำเป็นต้องยุติลง อีก 1 ปี ครบราชการบำนาญ ผมจึงต้องขออำลาแต่ก็เสียดาย ประสบการณ์ความรู้ความสามารถของนักสืบ ที่ตนเองมี"

ทั้งนี้ ภายหลังจากจอห์นนี่ ได้ประกาศออกไป ปรากฏมีชาวเน็ตจำนวนมาก ออกมาโพสต์คอมเมนต์ ขอบคุณที่ได้ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ และรู้สึกเสียดาย ที่กำลังจะต้องเสียตำรวจน้ำดีไปอีกคน

‘บอสชาตรี’ พูดชัดเหตุ ‘ซุปเปอร์บอน’ พลาดทำแพ้ ‘ตะวันฉาย’ ศึก ONE วอนแฟนมวยอยากให้เข้าใจอย่าด่านักมวย

(29 ม.ค. 68) ควันหลงมวยคู่เอกในศึกใหญ่ ONE 170 ระหว่าง ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย กับ ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา

โดยผลการแข่งขันอย่างที่รู้กันไปแล้วว่า "ซ้ายดารา" เป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอไปได้ในยกที่ 2 ป้องกันเข็มขัดแชมป์ ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต เอาไว้ได้เป็นสมัยที่ 4

ภายหลังจบไฟต์ ชาตรี ศิษย์ยอดธง บอสใหญ่แห่งศึก ONE ที่ก็นั่งชมไฟต์นี้แบบติดขอบเวที ได้ออกมาเผยถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในการชกครั้งนี้ได้อยางน่าสนใจ

"ในมุมมองของผมเกมในยกแรก ซุปเปอร์บอน เหมือนมารอให้ ตะวันฉาย เตะก่อนเพื่อที่จะรอดักสวนด้วยหมัด นั้นทำให้เขาเป็นฝ่ายต้องตามคู่ชก"

"แต่พอยกสอง ทีมงานของตะวันฉายน่าจะจับทางได้ จึงเปลี่ยนแผนให้ ตะวันฉาย มาออกหมัดก่อนที่จะเตะทำให้ ซุปเปอร์บอน ต้องตกใจ และไม่พร้อมที่จะรับมือ ที่สำคัญอาวุธของ ตะวันฉาย หนักมากคมมากทุกอย่างเลย"

พร้อมกันนี้ บอสชาตรี ได้กล่าวต่อถึงประเด็นที่มีแฟนมวยบางรายไปต่อว่า ซุปเปอร์บอน ผู้แพ้ "ผมไม่เข้าใจนะทำไมแฟนมวยไทยถึงด่านักมวย มันไม่ใช่ทุกไฟต์ที่จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นี่คือการแข่งขันระหว่างนักมวยที่สุดยอดกับสุดยอดมาเจอกัน"

"เขาทำเพื่อประเทศไทย เขาสู้เพื่อให้มีศักดิ์ศรีมากขึ้น แต่ทำไมถึงต้องด่าเขา ผมเข้าใจนี่คืออาชีพของเขา และอยากให้คนไทยเข้าใจนักมวยไทยของเรา" บอสชาตรี กล่าว

‘PMAC 2025’ ทั่วโลกร่วมถก ‘AI’ ในระบบสุขภาพ กับเป้าหมายช่วยให้ผู้คนในโลกมีสุขภาพที่ดีขึ้น

(29 ม.ค. 68) นับเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปี ที่นานาชาติรู้จักและยอมรับ ‘การประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล’ (Prince Mahidol Award Conference: PMAC) ซึ่งจัดขึ้นโดย ‘มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์’ ในฐานะเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนโยบายด้านสุขภาพ ที่มุ่งไปที่ผลกระทบในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสุขภาพระดับโลกอย่างแท้จริง

มากไปกว่าการระดมแนวคิดและหาแนวทางสร้างโลกที่อุดมไปด้วยคนสุขภาพดี วัตถุประสงค์หลักของการประชุมก็เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับสากล และเพื่อให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งหนึ่งของโลก

โดยในปีนี้ การประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล หรือ PMAC 2025 จะเปิดฉากขึ้นในระหว่างวันที่ 28 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 ในหัวข้อ ‘Harnessing Technologies in an Age of AI to Build A Healthier World’ การใช้เทคโนโลยีในยุค AI เพื่อสร้างโลกที่สุขภาพดีขึ้น

นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และประธานอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ เขต 13 กรุงเทพมหานคร (อปสข.) และยังเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนการจัดงาน PMAC ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน มาบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของงานประชุม PMAC และผลสัมฤทธิ์ที่สร้างความสำเร็จให้กับวงการแพทย์และสาธารณสุขทั่วโลก ได้กล่าวถึงกิจกรรมเวที Side Event  ของงาน "การประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล 2025" ว่า ปีนี้  ผู้จัดเชิญ ผู้แทนสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ไปเป็นผู้ขึ้นกล่าวในนามภาคประชาสังคม ในปัญหา "มลพิษทางอากาศ PM 2.5 Trader : Accountability and Technological Innovations for Air Quality and Health " ที่ Centara Grand &  Bangkok Convention Center ที่ Central World โดยมองว่า ‘ปัญหาสุขภาพระดับโลก’ ต้องรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญจากทุกมุมโลก

“ทางมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ ตั้งใจให้ PMAC เป็นการประชุมปิด เพราะต้องการจัดสรรสัดส่วนผู้เข้าร่วมงาน อีกทั้งนโยบายของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ คือต้องการจัดประชุมเพื่อชาวโลก จึงจำกัดจำนวนคนไทยที่เข้าร่วมประชุมไม่ให้เกิน 25% รวมถึงวิทยากร แต่ละปีจะมีวิทยากรราว 100 คน เราจำกัดให้มีคนไทยไม่เกิน 5 คนขึ้นพูด เพราะนี่คือเวทีโลก เราต้องฟังว่าโลกกำลังขับเคลื่อนไปทิศทางใด วิสัยทัศน์จากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายประเทศคืออะไร ยกเว้นบางทีที่มีองค์การในประเทศไทยเป็นเจ้าภาพรวมมากหน่อย ก็เพิ่มสัดส่วนเป็น 30-40% อย่างปีนี้ก็มีคนไทยเข้าร่วมเยอะ เพราะหัวข้องานประชุมเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสุขภาพ บรรดาองค์การที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและองค์การด้านเทคโนโลยีจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก” 

สำหรับวิทยากรในแต่ละปี จะคัดเลือกโดย Co-host และ Co-sponsor “องค์การส่วนใหญ่ที่มาเป็น Co-host และ Co-sponsor เขามีเครือข่ายและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อยู่แล้ว อย่างองค์การอนามัยโลกหรือธนาคารโลกที่ร่วมเป็นเจ้าภาพรวมกับเราทุกปี จะรู้ว่าใครเก่งเรื่องไหนและใครที่เป็นคนสำคัญที่ควรเข้าร่วมประชุมที่จะนำองค์ความรู้ในประเด็นนั้นๆ ไปต่อยอดได้

ทั้งนี้ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลเป็นรางวัลที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชานุสรณ์แด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในฐานะองค์บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย

‘พล.อ.ประยุทธ์’ ตรวจเยี่ยม โรงเรียนบ้านหลวง จ.น่าน ใต้ร่ม ‘กองทุนการศึกษา’ ที่ในหลวง ร.9 วางเป็นต้นแบบสร้างคนดี

(30 ม.ค.68) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านหลวง โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ณ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านหลวง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทำให้โรงเรียนเป็นต้นแบบในการสร้างคนดีให้บ้านเมือง ส่งเสริม สนับสนุนและปลูกฝัง ค่านิยม การยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นพลเมืองที่มั่นคงอยู่ในคุณงามความดี และสนับสนุนเด็กที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษา โดยมีนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยศาล ทหาร ตำรวจ ศึกษาธิการจังหวัดน่าน ผู้บริหาร สพม.น่าน นายอำเภอบ้านหลวง หัวหน้าส่วนราชการ และคณะครู นักเรียนให้การต้อนรับ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา พร้อมคณะ ได้รับฟังการรายงานผลการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านหลวง โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ในหัวข้อเรื่อง การพัฒนาและการจัดการตามแนวทาง 3 เสาหลัก 5 กลยุทธ์ โดยมีจุดเน้น ดังนี้ 1.การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน โดยขอให้ระบุถึงอัตลักษณ์ คุณธรรมและจริยธรรมที่โรงเรียนได้เลือก รวมถึงกิจกรรมโครงงานของนักเรียน เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์คุณธรรมและจริยธรรมดังกล่าว ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคที่ประสบ 2. บทบาทของครูในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียน 3. การพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะอาชีพของนักเรียน โดยโรงเรียนบ้านหลวง โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ได้รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินงานตามจุดเน้นและรายงานปัญหาอุปสรรคที่พบให้กับทางองคมนตรีและคณะได้รับทราบ 

โอกาสนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษาได้กล่าวสรุปผลการตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา และให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทำให้โรงเรียนเป็นต้นแบบในการสร้างคนดีให้บ้านเมือง ส่งเสริม สนับสนุนและปลูกฝัง ค่านิยม การยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นพลเมืองที่มั่นคงอยู่ในคุณงามความดี และสนับสนุนเด็กที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษา

‘หนูนา - กัญจนา’ ผลักดันสร้าง รพ. ช้างในพื้นที่ อ.แม่แตง พร้อมหนุนงบ 50 ล้านบาท สร้างให้แล้วเสร็จตามเจตนารมณ์

‘หนูนา – กัญจนา’ เดินหน้าผลักดันสร้างโรงพยาบาลช้างในพื้นที่ อ.แม่แตง ต่อ แม้งบประมาณจะพุ่งถึง 50 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในหนึ่งปี หวังฝากสิ่งที่เป็นประโยชน์ไว้ในแผ่นดิน

เมื่อวันที่ (30 ม.ค. 68) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ หนูนา ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงพยาบาลช้างในพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า โรงพยาบาลช้างที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตามที่ดิฉันได้เคยโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า…ดิฉันจะสร้างโรงพยาบาลช้างให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นที่ดูแลรักษาช้าง และเป็นที่ฝึกนักศึกษาสัตวแพทย์ เมื่อวานได้มีการประชุมทาง Zoom กับคุณหมอบิ๊ก (ฉัตรโชติ) คุณหมอนิน และ ผู้เกี่ยวข้องของทางมช.

ได้ข้อสรุปดังนี้
1. โรงพยาบาลแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่บนพื้นที่ของสปก.ที่ขออนุญาตใช้แล้วประมาณ 26 ไร่เศษ

2. ทั้งโครงการจะประกอบด้วยโรงดูแลรักษาช้างได้คราวละ 4 เชือก (หรือ 6 โดยอีก 2 ต้องผูกอยู่ด้านนอก)
โรงเก็บอาหาร เก็บเวชภัณฑ์ ที่พักนักศึกษา ที่พักควาญ อาคารดำเนินงานธุรการต่างๆ ระบบไฟฟ้า น้ำประปา

3. งบประมาณที่ใช้ ที่เคยคุยกันที่ 40 ล้านบาทปรากฏว่าไม่พอต้องขึ้นไปถึงเกือบ 50 ล้าน…(คือ 49 ล้านกว่า)

4. ใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จเพื่อใช้งานได้น่าจะประมาณหนึ่งปีนับจากนี้

เอาเถอะค่ะ แม้งบจะเพิ่มอีกเป็นเกือบ 50 ล้าน ดิฉันก็จะทำให้โดยดิฉันจะมอบเงินให้กับทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั้งก้อนให้เขาไปบริหารกันเองแต่ดิฉัน ..ในฐานะผู้บริจาค ขอมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ส่วนทางมหาวิทยาลัยจะเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคในอุปกรณ์ปลีกย่อยอื่น ก็เป็นเรื่องของทางมหาวิทยาลัย

นางสาวกัญจนา ย้ำว่า ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ จะก่อคุณูปการกับช้างทั้งหลายในภาคเหนือ ซึ่งมีนับ 1,000 เชือก ไม่ใช่เฉพาะแค่ในเชียงใหม่ แต่ในจังหวัดอื่นด้วย และจะเป็นที่ผลิตนักศึกษาที่จะมาเป็นหมอช้างในวันหน้า ดิฉันคิดอย่างที่เคยบอกเสมอว่า ตายไป ดิฉันก็เอาอะไรไปไม่ได้…แต่สมบัติที่ดิฉันมีในวันนี้ จะสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ยาวนาน แม้เมื่อดิฉันจากโลกนี้ไปแล้ว สิ่งนั้นก็ยังคงอยู่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top