เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. ภูเก็ต ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!
สำหรับ 3 เขตของจังหวัดภูเก็ต ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้
>> เขต 1 อำเภอเมืองภูเก็ต (เฉพาะตำบลตลาดใหญ่, ตำบลตลาดเหนือ, ตำบลรัษฎา และตำบลเกาะแก้ว)

สำหรับ 3 เขตของจังหวัดภูเก็ต ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้
>> เขต 1 อำเภอเมืองภูเก็ต (เฉพาะตำบลตลาดใหญ่, ตำบลตลาดเหนือ, ตำบลรัษฎา และตำบลเกาะแก้ว)
สำหรับ 3 เขตของจังหวัดสมุทรสาคร ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้
>> เขต 1 อำเภอเมืองสมุทรสาคร (เฉพาะตำบลมหาชัย, ตำบลท่าฉลอม, ตำบลโกรกกราก, ตำบลบางหญ้าแพรก, ตำบลท่าทราย, ตำบลโคกขาม, ตำบลพันท้ายนรสิงห์, ตำบลคอกกระบือ และตำบลบางน้ำจืด)
>> เขต 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร (เฉพาะตำบลนาดี) อำเภอกระทุ่มแบน (เฉพาะตำบลอ้อมน้อย, ตำบลสวนหลวง, ตำบลท่าไม้, ตำบลตลาดกระทุ่มแบน, ตำบลแคราย, ตำบลคลองมะเดื่อ และตำบลดอนไก่ดี)
(12 เม.ย. 66) นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ‘ฟิล์ม รัฐภูมิ’ ผู้สมัครเบอร์ 1 แขวงหนองบอน เขตสวนหลวง พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นรถแห่หาเสียง พร้อมเล่นน้ำกับประชาชนในพื้นที่เขตสวนหลวง ชูนโยบาย ‘สวนหลวง นัมเบอร์วัน’ ผลักดัน 9 พลังสวนหลวง สวนหลวง 9 แหล่งท่องเที่ยว ให้สวนหลวงกลับมาเป็นแหล่งเศรษฐกิจอีกครั้ง
โดยนายฟิล์ม รัฐภูมิ กล่าวว่า “ผมมีความมั่นใจว่าจะนำทุกปัญหาของพ่อแม่พี่น้องเขตสวนหลวง และหนองบอน มาแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว เพราะตัวผมเองและพรรค มีความพร้อมด้านบุคลากรและความรู้ ที่จะทำให้ปัญหาต่าง ๆ ถูกแก้ไขได้โดยเร็ว โดยปัญหาหลัก ๆ ที่ฟิล์มอยากจะ แก้ไขโดยเร็วที่สุด นั่นคือปัญหาด้านสาธารณสุขที่มีข้อจำกัดปริมาณสถานพยาบาล ที่ไม่สอดคล้องกับปริมาณของจำนวนประชากรในเขตพื้นที่สวนหลวง หนองบอน ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐาน แสงสว่างทางเท้า รวมถึงปัญหาด้านความปลอดภัย การเพิ่มจุดติดตั้งกล้องวงจรปิด ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยว การยกระดับผู้ประกอบการในเขตให้รองรับ การเดินทางมาของนักท่องเที่ยว”
(12 เม.ย. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคมีผู้สมัคร ส.ส.หญิงมาลงสมัครกันมากหน้าหลายตา และต่างลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างคึกคัก พรรค ชพก.มีผู้หญิง มาเป็นผู้สมัคร ส.ส.หลายคน ในทุกภาคของประทศ ซึ่งแต่ละคนโปรไฟล์ไม่ธรรมดา หลากหลายสาขาอาชีพ ทั้ง นักธุรกิจ, ลูกชาวนา, ลูกแม่ค้า, หมอลำ, นักแสดง ฯลฯ
นายกรณ์ กล่าวว่า เริ่มที่ จ.เชียงใหม่ แม้ไม่ใช่บ้านใหญ่แต่ใจสู้ พรรคชาติพัฒนากล้าส่งผู้สมัคร 2 คน คือ คนที่ 1 กุพชกา ยศปัน หรือ ‘นุ่มนิ่ม’ ผู้สมัครเขต 1 เบอร์ 6 เจ้าแม่เอสเอ็มอี นักธุรกิจด้านโรงแรม ร้านอาหารและสถานออกกำลังกาย เข้าสู่เส้นทางการเมืองเพราะต้องการแก้ไขเศรษฐกิจเพื่อปากท้องของคนเชียงใหม่ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ผลักดันแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในเขตภาคเหนือ เป็นปากเป็นปากเสียงให้พี่น้องคนเมืองเจียงใหม่ ขับเคลื่อนให้คนมีงานทำ สโลแกนประจำตัว ‘นุ่มนิ่ม แน่วแน่ แก้ไข’
และคนที่ 2 นฤมล วไลศรี หรือ ‘หน่อง’ ผู้สมัครเขต 4 เบอร์ 1 มีความมุ่งมั่นตั้งใจ อยากเห็นเศรษฐกิจปากท้องความเป็นอยู่ของคนเชียงใหม่ที่ดีกว่านี้ ต้องการสร้างอาชีพให้คนในชุมชน
นายกรณ์ กล่าวว่า ตามมาด้วย ภาคอีสานส่ง 3 สาวผู้สมัคร ส.ส. เปิดตัวได้ฮือฮา เริ่มจากคนที่ 1 หมอลำชื่อดัง ดนิตา มาบุญธรรม หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘เอม อภัสรา’ ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 เป็นลูกชาวบ้านที่อาสามาเป็นผู้แทน และมีเจตนารมณ์ ไม่ขายความขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่สะสมประโยชน์ส่วนตัว เน้นทำงานเพื่อแก้ปากท้องของพี่น้องประชาชน สร้างอนาคตให้ลูกหลาน ดูแลผู้สูงอายุ ผลักดันหมอลำโกอินเตอร์
คนที่ 2 กมลวรรณ มณีศรี หรือ ‘บุ๋มบิ๋ม’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 10 มหาสารคาม เจ้าของธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง เคยเป็นผู้ช่วย ส.ส.ให้นายกรณ์ ร่วมทำโครงการข้าวอิ่ม ที่นายกรณ์ บุกเบิกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จนประสบความสำเร็จ มีความมุ่งมั่นแก้ปัญหาปากท้องเพื่อพี่น้องประชาชน ให้พ้นจากความยากจน
คนที่ 3 นุจรีภรณ์ อินทะสร้อย หรือ ‘มี่’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 มหาสารคาม เบอร์ 5 ทายาทตัวจริงของชาวนาในโครงการข้าวอิ่ม ตัดสินใจเปลี่ยนวิธีทำนาตามคำแนะนำของนายกรณ์ พาชาวบ้านทำเกษตรอินทรีย์ จนปลดหนี้ปลดสิน มี่ตัดสินใจลงการเมือง เพราะต้องการแก้ปัญหาเรื้อรัง ที่ไม่เคยแก้ได้ตรงจุด อาสาขอเป็นปากเป็นเสียงให้ชาวบ้านแก้ปัญหาราพืชผลของชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน อยากเห็นเกษตรกรยิ้มได้
นายกรณ์ กล่าวว่า สำหรับกรุงเทพมหานคร มีผู้สมัครหญิงหลายคน เริ่มจากคนที่ 1 วิเวียน จุลมนต์ หรือ ‘อี๊ฟ’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 เบอร์ 10 คนรุ่นใหม่ไฟแรง มีพลังงานเหลือเฟือ เริ่มเข้าสู่วงการเมืองเพราะชื่นชอบนายกรณ์ จึงสมัครเข้าแคมเปญ ‘ผู้กล้า’ ของพรรคกล้า (ในขณะนั้น) และเป็นผู้กล้ารุ่น 1 จากนั้นก็ช่วยงานพรรคเรื่อยมา อี๊ฟเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว ทำงานได้สารพัด ตั้งแต่ แม่บ้าน แม่ค้า ขับ Grab Taxi ติวเตอร์ อะไรที่ไม่ผิดกฎหมายทำหมด จึงทำให้เห็นความเหลื่อมล้ำของการได้รับสวัสดิการสังคมของฟรีแลนซ์กับมนุษย์เงินเดือน เธอจึงขอเป็นตัวแทนฟรีแลนซ์ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ทั้งเรื่องรายได้ ค่าตอบแทน สวัสดิการสังคม สิทธิทางภาษี ฯลฯ นอกจากนี้ ยังเป็นคนที่ชื่นชอบ วัฒนธรรมไทย และยังเป็นคนที่เข้าใจเด็กรุ่นใหม่ ได้เห็น ได้สัมผัสวิธีคิด จนมีแนวคิดให้เด็กรุ่นใหม่ ออกแบบอาชีพด้วยตัวเอง
คนที่ 2 ดร.แวววรรณ ก้องไตรภพ หรือ ‘บี’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 เบอร์ 3 มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนหาเตียง ในช่วงวิกฤตโควิดระลอกแรก ในโครงการกล้าอาสา ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการเห็นประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขและความปลอดภัย คนสูงวัยและกลุ่มเปราะบางต้องไม่ถูกทอดทิ้ง ดร.บี บอกว่า เขตที่รับผิดชอบคือ บางเขน จตุจักร หลักสี่ ยังมีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยอีกมาก ตรอกซอยต่าง ๆ ยังเป็นถนนเอกชนที่มีปัญหาเรื่องการของบประมาณมาซ่อมแซม มีงานต้องประสานกับภาครัฐมากมาย ปัญหาของผู้สูงอายุและคนพิการก็สำคัญเช่นเดียวกัน ในขณะที่เรากำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ แต่ชาวบ้านกลับถูกละเลย เธอจึงอยากเข้ามาเป็นตัวแทนทำงานเพื่อประชาชน มีสโลแกนประจำตัวคือ ‘แวววรรณ เคลียร์ไว เข้าใจปัญหา’
คนที่ 3 ริณดา คงตาลนันท์ หรือ ‘เพิร์ท’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 18 เบอร์ 2 มีอาชีพฟรีแลนซ์ด้านกราฟิกดีไซน์ ประกาศขอสู้เพื่อสุนัขและแมว เธอมองว่า ปัจจุบันมีสุนัขแลแมวจรในกรุงเทพมหานคร ยังไม่ได้รับความสนใจในการสนับสนุนการแก้ไขเท่าที่ควร กทม.ควรเริ่มด้วยการช่วยเก็บข้อมูล เพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ พรรคชาติพัฒนากล้าให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของสัตว์ เพราะเขาสื่อสารกับเราไม่ได้
คนที่ 4 ภัทรานิษฐ์ กิตินิรันดร์กูล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 19 เบอร์ 15 เจ้าของธุรกิจด้านขนส่ง มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองมากมายที่ต้องการผลักดันให้สำเร็จ โดยเฉพาะส่งเสริมภาคตะวันออกของกรุงเทพให้เป็น Halal Town พัฒนามีนบุรีให้ทัดเทียมกับเขตอื่น เสริมเศรษฐกิจชุมชนเขตมีนบุรี รถไฟฟ้า 2 สายของมีนบุรีต้องสำเร็จ ร่วมผลักดันนโยบายค่าตอบแทนครูสอนศาสนาผู้นำชุมชน ล็อตโต้กองทุนมุสลิมไปพิธีฮัจญ์
คนที่ 5 ยศยา ชิยาปภารักษ์ หรือ ‘นุ่น’ เจ้าของธุรกิจสายมู ผู้สมัคร ส.ส.เขต 23 เบอร์ 2 นุ่นมีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่าแรงกล้า ที่จะสร้างโอกาส และ สร้างแหล่งรายได้ของคนไทยทั่วประเทศ จากนโยบายเศรษฐกิจเฉดสีขาว หรือเศรษฐกิจสายมู ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคชาติพัฒนากล้ายืนหนึ่งสนับสนุนมาโดยตลอด โดยมีนโยบายสร้างแลนด์มาร์คศักดิ์สิทธิ์ 77 จังหวัด ๆ ละ 1,000 ล้านบาท เพื่อดึงนักท่องเที่ยวและรายได้เข้าประเทศ
(12 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันนี้ (12 เม.ย. 66) เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘FC ลุงป้อม’ ได้โพสต์คลิปของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่วิดีโอคอลให้กำลังใจผู้ประกอบการรถแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยหนึ่งในกลุ่มแท็กซี่ที่มาร่วมวิดีโอคอลกับพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือ นายพัลลภ ฉายินธุ นายกสมาคมผู้ประสานงานรถรับจ้างสนามบินสุวรรณภูมิและกลุ่มที่ปรึกษาสมาคมชมรมรถแท็กซี่ อาทิ เช่น นายอำนาจ เผือกบาง และผู้ขับแท็กซี่หลายคนได้ร่วมวิดีโอคอลกับพลเอกประวิตร
โดยนายกสมาคมผู้ให้บริการแท็กชี่และรถรับจ้างกล่าวว่า สวัสดีพลเอกประวิตร ขอให้สู้ ๆ และก้าวข้ามความขัดแย้งให้ได้ ขอเป็นกำลังใจให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และขอให้ช่วยดูแลราคาค่าแก๊สและน้ำมันของรถแท็กซี่ด้วย
จากนั้น พลเอกประวิตร กล่าวทักทายให้กำลังใจผู้ขับขี่แท๊กซี่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นว่า ขอบคุณที่ให้กำลังใจตน ดังนั้นตนขอให้กำลังใจทุกคน และขอฝากให้ดูแลผู้โดยสารด้วย หากตนได้เป็นนายกฯ รัฐบาลจะลดราคาน้ำมันและแก๊สช่วยรถแท็กซี่ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดนั้น กลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าวจึงร้องเรียนมายังรัฐบาลขอความช่วยเหลือ 4 ประเด็น ได้แก่ ขอให้ผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อยได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท นำอาชีพแท็กซี่เข้าเป็นแรงงานนอกระบบ เพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกอบการแท็กซี่รายย่อย เข้าไปอยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 39 รวมทั้งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
(12 เม.ย. 66) พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย เซีย จำปาทอง, สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ, กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี และ วรรณวิภา ไม้สน ร่วมสวัสดีปีใหม่พี่น้องประชาชนที่เดินทางมายังบริเวณสถานีขนส่งกรุงเทพ หรือ ‘หมอชิต 2’ พร้อมเชิญชวนประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ ร่วมแคมเปญ ‘ภารกิจแห่งจักรวาล : ชวนทั้งบ้านกาก้าวไกล’ ด้วยการเชิญชวนคนในครอบครัวหรือคนที่บ้านให้กาพรรคก้าวไกล
พริษฐ์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญของแคมเปญนี้ คือการชวนทั้งบ้านกาก้าวไกล เนื่องจากการลงพื้นที่หาเสียงในช่วงที่ผ่านมา ได้เห็นแนวร่วมพรรคก้าวไกลอยู่ในทุก ๆ บ้าน เป็นคนที่มีความคิดความฝันตรงกับพรรค อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง อยากเห็นนโยบายของพรรคเกิดขึ้น จึงอยากให้แนวร่วมพรรคก้าวไกลได้ชวนคนทั้งบ้านหันมาเลือกพรรคก้าวไกลยกบ้าน เพื่อให้ความต้องการนั้นเป็นจริง
สำหรับแคมเปญชวนทั้งบ้านกาก้าวไกล ประกอบด้วย 5 ภารกิจ ได้แก่
1.) ส่งต่อข้อมูลนโยบายพรรคให้เพื่อนและญาติในรูปแบบแผ่นพับออนไลน์
2.) เปลี่ยนเฟรมรูปโปรไฟล์ในโซเชียลมีเดียให้เป็นเฟรม กา x ก้าวไกล
3.) สร้างป้ายหาเสียงผ่านเว็บไซต์และแชร์ให้ทั้งโลกได้รู้
4.) ท้าประลองกับที่บ้านว่าใครรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับนโยบายพรรคก้าวไกล
5.) ใช้โซเชียลมีเดียปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ ช่วยกันแชร์และเชียร์พรรคก้าวไกล
นอกจากนี้ ยังมีการทำกิจกรรมของปีกแรงงาน พรรคก้าวไกล นำโดย เซีย จำปาทอง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 4 ในฐานะตัวแทนผู้ใช้แรงงาน ที่ร่วมพูดคุยกับประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน เพื่อนำเสนอนโยบายของปีกแรงงานจากพรรคก้าวไกลด้วย
ส.ส.ภูมิใจไทย ขอบคุณศาลปกครอง ที่ตัดสินให้ชนะคดี รถไฟฟ้าสายสีเขียว กรณี ผู้ว่า กทม. ประกาศกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 65 บาทตลอดสาย ชี้เป็นเครื่องพิสูจน์ การทำงานของพรรคภูมิใจไทย รักษาประโยชน์ประชาชน และเป็นบรรทัดฐานในคดีอื่นๆ
เมื่อวันที่ (12 เม.ย.66) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง กรณีที่ศาลปกครองให้เพิกถอน ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดค่าโดยสาร โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 65 บาทตลอดสาย ที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย ตน และน.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ผู้สมัครฯ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายมณฑล โพธิ์คาย ผู้สมัคร ส.ส.กทม., นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ผู้สมัคร ส.ส.กทม., นายพิษณุ พลธี ผู้สมัครฯ ส.ส.ปทุมธานี, และนายอนาวิล รัตนสถาพร ผู้สมัครฯ ส.ส.ปทุมธานี ไปยื่นร้องเรียนว่า ขอขอบพระคุณศาล ที่ให้ความเมตตากับประชาชน โดยเฉพาะคนที่เดินทางโดยสารผ่านรถไฟฟ้า วันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ ให้สังคมเห็นว่า พรรคภูมิใจไทย ต่อสู้มา ไม่สูญเปล่า
“พรรคภูมิใจไทย ของเราในอดีตที่ผ่านมา แม้จะไม่มีส.ส.ใน กทม. เลย แต่เรื่องใดก็ตาม เป็นประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เราพยายามสู้อย่างเต็มที่ เพื่อนำประโยชน์สูงสุดมาให้กับประชาชนทุกคน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อยากให้ประชาชนใช้ดุลยพินิจ ในการตัดสินอนาคตของท่านด้วย” นายสิริพงศ์ กล่าว
‘บิ๊กป้อม’ อวยพรสงกรานต์ ให้ปชช. มีความสุข-พ้นทุกข์ รับปีใหม่ไทย เดินทางปลอดภัย ชู นโยบายพปชร.เอาใจผู้สูงอายุ – วันครอบครัว”
(13 เม.ย.66) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวอวยพรเนื่องในวันสงกรานต์ 2566 ว่า ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทย เทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ขอส่งความปรารถนาดีไปยังพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ให้มีความสุข พ้นทุกข์ รับปีใหม่ไทย ขอให้ร่วมกันทำสิ่งดีๆ เพื่อเป็นมงคลต่อชีวิต และเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ดูแลรักษาสุขภาพ และเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ดลบันดาลให้ประชาชนชาวไทยประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีกำลังใจและกำลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งในชีวิต หน้าที่การงานและในครอบครัว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนประสบความสำเร็จตามความปรารถนาทุกประการตลอดไป
(13 เม.ย.66) พรรคก้าวไกลได้จัดแคมเปญ ‘ชวนทั้งบ้านกาก้าวไกล’ เพื่อเชิญชวนประชาชนที่เห็นด้วยกับแนวทางการทำงานและนโยบายของพรรคก้าวไกล ช่วยเชิญชวนบอกต่อให้คนในครอบครัวและคนที่บ้านลงคะแนนให้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยแคมเปญนี้กระจายการประชาสัมพันธ์ไปในหลายพื้นที่ เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา
สำหรับจังหวัดปทุมธานี ได้รณรงค์แคมเปญด้วยการปราศรัยบนรถแห่ เริ่มที่หน้าศูนย์ประสานงานของเชตวัน เตือประโคน ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เขต 6 (เบอร์ 4) ไปจนถึงป้ายรถเมล์หน้าห้างเซียร์รังสิต ป้ายรถเมล์หน้าห้างโบ๊เบ๊ทาวเวอร์รังสิต ก่อนที่ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะนำแจกแผ่นพับใบปลิวแคมเปญให้แก่ประชาชนที่กำลังจะเดินทางกลับบ้าน ที่ท่ารถตู้ต่างจังหวัดตรงข้ามห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
ศิริกัญญากล่าวว่า เนื้อหาในแผ่นพับระบุ 5 กิจกรรมที่ชวนให้ประชาชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้เริ่มเชิญชวนเพื่อนพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ในภูมิลำเนา ให้หันมากาพรรคก้าวไกล โดยกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย...
1. ส่งต่อข้อมูลนโยบายพรรค ให้เพื่อนและญาติ ในรูปแบบแผ่นพับออนไลน์
2. เปลี่ยนกรอบรูปประจำตัวบนโซเชียลมีเดียของเราให้เป็นกรอบ 'กา x ก้าวไกล'
3. สร้างป้ายหาเสียงของคุณผ่านเว็บไซต์และแชร์ให้ทุกคนได้รู้
4. ท้าประลองกับคนที่บ้านว่าใครรู้ลึกรู้จริงนโยบายก้าวไกล
5. ใช้โซเชียลมีเดียปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ ช่วยกันแชร์และเชียร์พรรคก้าวไกลผ่านแฮชแท็ก #ชวนทั้งบ้านกาก้าวไกล #กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม #พิธา และ #พรรคก้าวไกล
"เนื่องจากในช่วงสงกรานต์ ประชาชนจะเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยว จึงเป็นที่มาของแคมเปญนี้ วันนี้ได้ร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี ทั้ง 7 เขต ในการพูดคุย แนะนำนโยบายพรรค และแนะนำแคมเปญให้ประชาชนที่จะเดินทางกลับบ้าน หลายคนที่รู้จักนโยบายพรรคอยู่แล้ว ก็ได้ให้กำลังใจ โดยหลังจากผ่านช่วงสงกรานต์ไป จะเป็นโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ตอนนี้ทุกคนทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเพิ่มคะแนนเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลและผู้สมัครของเราให้มากที่สุด” ศิริกัญญากล่าว
นอกจากแนะนำแคมเปญ ศิริกัญญาได้แนะนำนโยบายของพรรคก้าวไกล เช่น ขึ้นค่าแรงทันที 450 บาทต่อวัน มีระบบเพิ่มขึ้นทุกปี, กระจายอำนาจให้ทุกจังหวัดมีผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง, เบี้ยเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน, เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน มีระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียง
‘นิติพงษ์ ห่อนาค’ นักแต่งเพลงชื่อดังโพสต์เฟซบุ๊ก จะเลือกพรรคภูมิใจไทย เบอร์ 7 ชี้มีผลงานชัดตอนร่วมรัฐบาลเอาชนะโควิด คนในพรรคไม่มอมแมมโฉ่งฉ่าง หนุนใช้ประโยชน์จากกัญชา โดยมีมาตรการควบคุม
เมื่อวันที่ (12 เม.ย.66) นายนิติพงษ์ ห่อนาค หรือ ดี้ หัวหน้าวงเฉลียงและนักประพันธ์เพลงชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Nitipong Honark’ โดยระบุว่า
“หลายวันมานี่…ฉันขับรถไปมาหลายแห่ง ทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลหลายจังหวัด…ได้เห็นโดยไม่ต้องสังเกต ว่าไม่มีต้นไม้หรือเสาไฟใดริมถนน ที่เหงาเดียวดาย…
ล้วนมีคู่รักเป็นป้ายโฆษณาหาเสียงเสียทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า คู่รักเสาไฟกับป้ายหาเสียง จะมีเวลาอันสั้นนัก…จากนี้เดือนเศษ ๆ เสาไฟฟ้าก็ต้องยืนเดียวดาย…ป้ายหาเสียงก็จะจากไปเป็นอะไรสักอย่างตามแต่จะมีประโยชน์
ยกเว้นเป็นเสาไฟฟ้าที่เซ็กซี่เป็นพิเศษ ก็จะมีป้ายโฆษณาคอนโด หมู่บ้าน กลับมาเป็นคู่รักใหม่…
ช่วงนี้ฉันเลยค่อนข้างถือว่าเพลิดเพลินกับป้ายหาเสียงทั่วเมือง แม้ว่าจะเวียนหัว เพราะว่ามันลายตาไปหมด แต่ก็ยินดี..ที่ทุกคนทุกพรรค เล่นในเกมเดียวกัน สนามเดียวกัน กติกาเดียวกันหมด…
เลิกเพ้อเจ้อเรื่องเผด็จการ ประชาธิปไตย อะไรนั่นได้แล้ว…
นึกขึ้นได้ ว่า เมื่อครั้งที่แล้วตอบคำถามแรกของเพื่อน…ที่ถามว่าสนใจอยากได้เป็นนายกฯ คนที่ 30
ถึงเวลานั้นและเวลานี้ ฉันตอบว่า
ฉันจับตาไปที่คุณพี่หนู อนุทิน ด้วยเหตุผลและความรู้สึกที่อธิบายไปแล้ว…เมื่อสถานะสักเดือนก่อน
รักหนูเสียดายตู่…. เป็นนายกสองคนเลยได้ไหมวะจ๊ะ แบ่งกัน จะได้ไม่เหนื่อย….ฮ่าๆๆๆ
คราวนี้จะตอบคำถามว่า ชอบพรรคไหน…
ก็แหง…เหตุผลหนึ่งที่จับตาอนุทินก็คือพรรคภูมิใจไทย
ในบรรดาพรรคการเมืองในเมืองไทยหรือทั่วโลกนั้น จะหาที่เนื้อผ้าขาวสะอาดเหมือนเสื้อนักเรียนที่แขวนอยู่ในร้านสมใจนึกบางลำภูนั้นมิได้…
การเมืองมันมีโคลนเป็นวัตถุดิบหลักเสมอ…จึงทุกพรรคการเมืองนักการเมือง ต้องเป็นสีขาวสีเทาสีหม่นแตกต่างกันไปถึงเกือบดำ ทั้งมอมแมมเพราะถูกเข้าขว้างโคลนใส่ และเพราะขว้างเขาแล้วกระเด็นใส่ตัวเอง
พรรคการเมืองใหม่ ๆ หลายพรรค ขนาดยังไม่เปิดแถลงข่าว ก็สีเทาหนักมาตั้งแต่ต้น…
ทำไมภูมิใจไทย…
ฉันรู้สึกว่า เออ คนพรรคนี้ ไม่ค่อยเสียกริยา เป็นฝ่ายบริหารมา ก็เห็นผลงานชัด โดยเฉพาะสาธารณสุข ซึ่งได้รับชัยชนะจากการสู้โควิด สถานการณ์นี้มาส่งคะแนนให้ภูมิใจไทยมาก
พูดแล้วทำ….เป็นสโลแกนที่ไม่ได้อวดเกินจริง
แล้วเรื่องราวผู้คนภายในพรรคก็ไม่มอมแมมหรือโฉ่งฉ่างเหมือนพรรคอื่น ๆ เอาว่าพอคบได้
เรื่องกัญชา เป็นเหรียญสองด้าน เลือกหน้าไหนก็มีคนชอบคนชัง แต่วิธีที่จะทำให้ได้ประโยชน์แต่ควบคุมได้นั้นมีอยู่…และควรจะช่วยกันหาวิธีควบคุมให้ชัดเจนมากกว่า
คล้ายกับเรื่องว่า…พ่อแม่ควรจะยื่นถุงยางอนามัยให้ลูกชายพกไปเที่ยวลอยกระทง หรือจะตะคอกห้ามมัน จนกระทั่งมันไปทำผู้หญิงท้อง
ในขณะที่ข่าวคราวการเมืองเริ่มเข้มข้น