Monday, 28 April 2025
ElectionTime

‘เศรษฐา’ ยกทีมลงพื้นที่ตลาดบางลำภู จ.ขอนแก่น บรรยากาศคึกคัก แม่ค้าโผกอดขอถ่ายรูป เชียร์เป็นนายกฯ

(19 เม.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคพท. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรคพท. พานายชัชวาล พรอมรธรรม ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทย เดินหาเสียงในพื้นที่ตลาดบางลำภู อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น สำหรับบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีแม่ค้าอาหารทะเลสดตะโกน “อยากกอดนายกฯ จังเลย” ก่อนเข้าโผกอดและขอเซลฟี่ โดยนายเศรษฐา กล่าวตอบรับว่า “ฝากเบอร์ 6 และเบอร์ 29 ด้วยนะครับ” ด้านแม่ค้าร้านขายปลา ทักทายนายพานทองแท้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า “ลูกทักษิณใช่หรือไม่”

‘พปชร.’ เผยโฉมหน้า ‘ดรีมทีมเศรษฐกิจ’ ลั่น!! รวมตัวกันได้จากชายชื่อ ‘บิ๊กป้อม’

(19 เม.ย.66) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเป็นอย่างมาก มุ่งหวังจะแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ โดยออกมาย้ำถึง ‘ดรีมทีมเศรษฐกิจ’ ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีทั้งที่เป็นรัฐมนตรีในปัจจุบัน อดีตรัฐมนตรี และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ประกอบด้วย...

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง

นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลังและอดีต รมว.อุตสาหกรรม

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์

นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตผู้ช่วย รมว.คลัง

ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน

และตนที่เป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง

'เพื่อไทย' ผวา 'แลนด์ไถล' หลัง 'คะแนนนิยมนิ่ง-คู่แข่งจ่อ' ต้องออกใบเตือนผู้สมัคร 'เสาไฟฟ้า' ให้ทำงาน-ลงพื้นที่

อาการของพรรคเพื่อไทยยามนี้ไม่สู้ดีนัก..ประมาณว่า 'พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก' ก็มิปาน

วันที่ 5 เม.ย.2566 จัดบิ๊กแคมเปญ เปิด 3 แคนดิเดทฝตนายกฯ ภายใต้ธีม 'ONE TEAM FOR ALL THAIS' และให้หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ 'เศรษฐา ทวีสิน'   ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท กะว่าจะเปรี้ยงปร้างระเบิดเถิดเทิงสมราคาคุย...คิดใหญ่ทำเป็น

แต่อนิจจา...ที่ไหนได้ นโยบายนี้กลายเป็นบั้งไฟที่ไปไม่สุด เกิดอาการแป๊ก...เสียฟอร์ม เสียรังวัดไม่น้อย...ว่ากันว่าถ้าเป็นโค้ง 7 วันสุดท้ายคงหวิดตายหมู่...แบบว่าคงแลนด์ไถลเหลืออย่างมากแค่ 170 ที่นั่งเหมือนที่โพลลับฝ่ายความมั่นคงเขาทำไว้เป็นแน่แท้...

ตอนนี้บรรดาเสนาธิการ และนักรบในห้องแอร์ทั้งหลายต้องช่วยกันแก้เกมเรื่องนโยบายหมื่นบาท ทั้งในส่วนคำชี้แจงต่อ กกต.และคำอธิบายต่อสาธารณชน ซึ่งอย่าว่าแต่ชนชั้นกลางเลยที่มีคำถามเลย ระดับรากหญ้าเองก็เริ่มมีคำถาม เพราะผู้บริหารพรรคบางคนพูดชัดเจนว่า...ใครที่มารับบริการเงินดิจิทัลหมื่นบาท ต้องสละสิทธิ์การรับสวัสดิการจากบัตรคนจน...

ร้อนจนวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 'ภูมิธรรม เวชชชัย' รองหัวหน้าพรรค และตัวนายเศรษฐาเอง ต้องรีบออกมาดับไฟเสียแต่ต้นลมว่า...นโยบายนี้จะเดินหน้าโดยไม่ยกเลิกบัตรคนจน...

จะเป็นเพราะนโยบายแจกเงินหมื่นบาทด้วยหรือเปล่าก็มิทราบได้...ผลปรากฏว่าการทำโพลของค่ายต่างๆ ระบุว่า แม้คะแนนของแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง และพรรคเพิ่อไทยจะยังคงนำ แต่เป็นการนำในลักษณะหยุดนิ่ง ในขณะที่คู่แข่งดีวันดีคืน โดยเฉพาะคู่ต่อสู้อย่างพรรคก้าวไกลเริ่มหายใจรดต้นคอ...

ไม่แต่เท่านั้น โพลของค่ายมติชน-เดลินิวส์ ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 8-14 เม.ย.ระบุชัดว่าคะแนนตำแหน่งว่าที่นายกฯ นั้น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แห่งก้าวไกล แซงอุ๊งอิ๊ง ห่างในระดับ 29 ต่อ 23 เปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว...

ขณะเดียวกันบรรดา FC ของพรรคได้ร้องเรียนไปยังพรรคว่า มีผู้สมัครจำนวนไม่น้อยที่ไม่ลงพื้นที่ หวังโหนกระแสพรรคเป็นหลัก...ทำให้เมื่อวันที่ 16 เม.ย. กองอำนวยการเลือกตั้งต้อง ทำจดหมายน้อยกระตุกเตือนบรรดาผู้สมัคร ทั้งที่เป็นอดีตส.ส.และผู้สมัครหน้าใหม่ที่ทำตัวเป็นพวก 'เสาไฟฟ้า' แบบประชาธิปัตย์ภาคใต้เมื่อหลายปีก่อนโน้น คือไม่หาเสียง โหนกระแสพรรค อาศัยยี่ห้อพรรคเข้าสภา...

“...ถ้าพวกท่านยังขยันไม่พอและไม่เข้าหาประชาชน..เราคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการแลนด์สไลด์ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยวดยิ่ง...” ตอนหนึ่งของจดหมายเตือนระบุ

‘จุรินทร์’ ปัดหนุนจับขั้วการเมืองทั้งที่ยังไม่ลงคะแนน  ยัน!! ประชาธิปัตย์ ขอให้เกียรติคะแนนเสียงคนไทย 

‘จุรินทร์’ นำประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ลุยหาเสียงราชบุรี ชาวบ้านตะโกน ปาฏิหาริย์มีจริง! ช่วยเลือกธนากร เบอร์ 4 เป็นผู้แทนบ้านโป่ง

(19 เม.ย.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค และคณะเดินทางไปขอคะแนนเสียงสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 นายธนากร เลี้ยงฤทัย เบอร์ 4 ที่บริเวณหอนาฬิกาบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 

โดยนายจุรินทร์ ได้แนะนำผู้สมัคร ส.ส. ที่ตนมาช่วยหาเสียงในวันนี้ว่า จังหวัดราชบุรี เป็นจังหวัดที่มีสมาชิกพรรคจำนวนมาก และมีฐานเสียงที่ดีมาทุกยุคทุกสมัยกระจายอยู่ทุกอำเภอ จากการเลือกตั้งหลายครั้งทำให้คะแนนพรรคมาเป็นที่ 1 เสมอ สำหรับการเลือกตั้งเที่ยวนี้ตนก็หวังว่าพี่น้องชาวราชบุรีก็จะไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะสมาชิกพรรคยังมีความหนักแน่น มั่นคงกับพรรค ซึ่งสิ่งนี้เป็นแต้มต่อสำคัญสำหรับผู้สมัครของพรรค รวมทั้งบัตรใบที่ 2 ที่ใช้เลือกบัญชีรายชื่อของพรรคด้วย หากทุกอย่างเป็นไปตามนี้ ตนก็เชื่อว่าคะแนนที่จังหวัดราชบุรีเราจะได้ดีมาก และเราสู้ทุกเขตทั้ง 5 เขต ซึ่งผู้สมัครทุกคนล้วนมีคุณสมบัติที่ดี มีศักยภาพสูง สู้กับคู่แข่งของพรรคการเมืองอื่นได้ 

“ขอฝากทั้งคนทั้งพรรค และขอฝากสมาชิกพรรคทุกคนที่เป็นฐานกำลังสำคัญที่จังหวัดราชบุรี ช่วยกันหนักแน่นมั่นคง ยืนหยัดอยู่กับพรรค แล้วช่วยกันหาเสียงพาคนใหม่ๆ มาช่วยกันลงคะแนนให้กับพรรคด้วย ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมประชาธิปัตย์ก็ชนะ แต่เสียดายที่คนของเราจากไป ย้ายไปอยู่พรรคอื่น แต่พรรคก็ไม่ท้อแท้ ท้อถอย ไม่เป็นไร เรามีคนรุ่นใหม่ สิ่งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญให้ ซึ่งเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสของประชาธิปัตย์ และของพี่น้องชาวบ้านโป่ง ที่จะได้ผู้แทนคนใหม่ที่มีศักยภาพไม่แพ้ใคร” นายจุรินทร์กล่าว 

พร้อมกับระบุว่า วันนี้ทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ มีการแถลงนโยบายพลังงานจากที่ทำการพรรค และยืนยันว่าประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานเป็นพิเศษ รวมถึงการมีนโยบายเกี่ยวกับการปรับลดค่าไฟฟ้า แก๊ส น้ำมัน และพลังงานทดแทน นอกเหนือจากการดูแลเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน สตาร์ตอัป เอสเอ็มอี และพี่น้องประชาชน

ส่วนการที่มีหลายพรรคการเมืองพยายามพูดถึงการจับขั้วตั้งรัฐบาลในช่วงนี้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ขอให้ประชาชนตอบก่อน เพราะประชาธิปัตย์ให้เกียรติประชาชน และเคารพเสียงประชาชน เราไม่สนับสนุนการไปจับขั้วกันตั้งรัฐบาล เพราะประชาชนยังไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้ ไม่อย่างนั้นเราจะมีเลือกตั้งไปทำไม 

“การเลือกตั้งมีไว้ก็เพื่อนับหนึ่งให้กับพรรคการเมืองต่างๆ ว่าประชาชนจะเลือกให้ไปทำหน้าที่อะไร เขาให้มากี่เสียง เพราะหลักของระบบนี้คือ ใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล การไปรวมเสียงก่อนการเลือกตั้ง มันไม่มีหลักประกันอะไรว่าจะเป็นจริงได้หรือเป็นจริงไม่ได้ แต่ประชาธิปัตย์ถือหลักว่าขอให้มีการเลือกตั้งก่อน และเป็นหลักสำคัญที่ผมได้ประกาศมาตลอด พรรคไหนจะไปประกาศรวมกับพรรคไหนก็รวมได้ แต่ประชาธิปัตย์ยังไม่ได้คุยกับใครว่าจะไปรวมกับใครไม่รวมกับใคร” นายจุรินทร์กล่าว 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางเกี่ยวกับมาตรา 112 ของพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ตอบว่า เรื่องนี้ประชาธิปัตย์มีความชัดเจนว่า เราไม่สนับสนุนให้ยกเลิก เพราะมาตรา 112 นั้น ว่าด้วยบทของการคุ้มครองประมุขของประเทศ ที่หลายประเทศในโลกก็มีกันทั้งนั้น เราจึงเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องมีไว้ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายก็ไปแก้ไขที่การบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้องเหมาะสม เป็นธรรม แต่ไม่ใช่การยกเลิกตัวบทกฎหมาย 

‘ชัยวุฒิ’ ชี้ ‘ลุงป้อม’ เป็น Soft Power ที่จะทำให้ทุกคนสามัคคีกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อก้าวข้ามความยากจน 

“ทุกวันนี้สังคมไทยมีการขัดแย้งทางการเมืองกันแบบสุดโต่ง ทั้งซ้ายจัด ขวาจัด บางคนอยากเปลี่ยนประเทศ คนไทยก็รับไม่ได้ และอาจทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในอนาคต และบางคนก็คิดแต่เรื่องที่เป็นเรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัวมากเกินไป ทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งก็รับไม่ได้เช่นเดียวกัน 

ผมคิดว่าความขัดแย้งต่างๆ มีโอกาสเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นหลังเลือกตั้ง ผมว่าจะส่งผลต่อการบริหารราชการแผ่นดินนะครับ และทำให้บ้านเมืองมีปัญหาได้ในอนาคต 

ลุงป้อมจะเป็น Soft Power ที่ทำให้ทุกคนทำงานร่วมกัน รักกัน สามัคคีกันได้ สิ่งนี้คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติเราเดินหน้าไปได้ ประชาชนก็จะอยู่ดีกินดี ก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อก้าวข้ามความยากจน 

‘จุรินทร์’ พร้อมคณะ บุก ‘บ้านโป่ง’ ขอคะแนนเสียงกา ปชป. เผย เสียดายคนเก่าออกไป แต่ไม่ท้อ ยังมีคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง

(19 เม.ย.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค พร้อมคณะ เดินทางไปขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้นายธนากร เลี้ยงฤทัย ผู้สมัครส.ส. เขต 4 หมายเลข 4 ที่บริเวณหอนาฬิกาบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่าเชื่อว่าคะแนนที่จังหวัดราชบุรีเราจะได้ดีมาก และเราสู้ทุกเขตทั้ง 5 เขต ซึ่งผู้สมัครทุกคนล้วนมีคุณสมบัติที่ดี มีศักยภาพสูง สู้กับคู่แข่งของพรรคการเมืองอื่นได้ ขอฝากทั้งคนทั้งพรรค และขอฝากสมาชิกพรรคทุกคนที่เป็นฐานกำลังสำคัญที่จังหวัดราชบุรี ช่วยกันหนักแน่นมั่นคง ยืนหยัดอยู่กับพรรค แล้วช่วยกันหาเสียงพาคนใหม่ๆ มาช่วยกันลงคะแนนให้กับพรรคด้วย

“ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมประชาธิปัตย์ก็ชนะ แต่เสียดายที่คนของเราจากไป ย้ายไปอยู่พรรคอื่น แต่พรรคก็ไม่ท้อแท้ ท้อถอย ไม่เป็นไร เรามีคนรุ่นใหม่ สิ่งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญให้ ซึ่งเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสของประชาธิปัตย์ และของพี่น้องชาวบ้านโป่ง ที่จะได้ผู้แทนคนใหม่ที่มีศักยภาพไม่แพ้ใคร” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

จุดยืน 7 แคนดิเดตนายกฯ ต่อประเด็นสังคมไทยที่ต้องชัด ใครชัดเจน - ลังเล - ไม่เทใจ มาชม!!

หลากประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงในสังคมไทย ถูกฟันธงผ่าน 7 แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคต่างๆ ที่ประกาศชัดว่า 'เอาด้วย' หรือ 'ไม่เอาด้วย' มีอะไรบ้าง? เชิญชม

‘องอาจ-มาดามเดียร์’ ลุยช่วย ‘ชยิน’ เขตราษฎร์บูรณะ-​ทุ่งครุ  พบปะเกษตรกร ชู นโยบายด้านชุมชน-แก้ปัญหาน้ำท่วมเบ็ดเสร็จ

(19 เม.ย.66) ที่ตลาดใหม่ทุ่งครุ นายองอาจ​ คล้ามไพบูลย์​ รองหัวหน้า​พรรค​ประชาธิปัต​ย์ (ปชป.) ดูแลกทม. พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค​ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง​ ลงพื้นที่หาเสียงสนับสนุนให้​ นายชยิน​ พึ่งสาย ผู้สมัคร ส.ส. ​กทม​ เขตราษฎร์บูรณะ ​-​ ทุ่งครุ หมายเลข 7 โดยบรรยากาศขณะลงพื้นที่ตลาดใหม่ทุ่งครุ​ เป็นไปอย่างคึกคักมีบรรดาแฟนคลับขอถ่ายภาพ​ร่วมกันอย่างเป็นกันเอง​ ก่อนขึ้นขบวนรถแห่ ไปตามถนนพุทธบูชา ไปยังวัดพุทธบูชา​ เพื่อนั่งเรือจากวัดพุทธบูชาตามคลองบางมด​​ เพื่อมาพบปะกับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอม​ ซึ่งแต่เดิมปลูกส้ม​ บางมด ​แต่ได้รับผลกระทบจากการหนุนของน้ำเค็ม​ จึงต้องเปลี่ยนเป็นการปลูกมะพร้าวแทน​ รวมถึงได้ล่องเรือไปเยี่ยมชมการรวมกลุ่มของชุมชนกลุ่มกำปงในดงปรือ​ และดารุลอิบาดะห์​ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของคนในชุมชน​ แปรรูป​ผลิตภัณฑ์​จากนมแพะ​

'ทีมศก.ปชป.' ประกาศยกระดับนโยบายด้านพลังงาน ลั่น!! ดันเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

'มิสเตอร์เอทานอล' ลุยเต็มสูบตั้งเป้าลดรายจ่ายครัวเรือนเพิ่มรายได้ชุมชน หนุนยานยนต์ไฟฟ้าเดินหน้าพลังงานไฮโดรเจน-เอทานอล-ไบโอดีเซล ปูพรมโรงผลิตก๊าซชีวภาพทุกหมู่บ้านพลังงานแสงอาทิตย์ทุกครัวเรือนโซล่าฟาร์มทุกแปลงเกษตร ดันกัญชงเข้าอุตสาหกรรมยานยนต์และก่อสร้าง เล็งพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานส่งออกสร้างเงินเข้าประเทศ

(19 เม.ย.66) ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว วาระประเทศไทย ครั้งที่ 2 'ปชป. ชูรื้อโครงสร้างราคาพลังงาน ลดรายจ่ายคนไทย' นำโดย ดร.พิสิฐ  ลี้อาธรรม อดีตรมช.กระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทยประธานคณะกรรมการต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ และนายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ ณ ห้องประชุมชั้น 3 พรรคประชาธิปัตย์ อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ อดีตรมช.พาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน และอดีตรมต.เงาพลังงาน เจ้าของฉายา 'มิสเตอร์เอทานอล' ในฐานะทีมเศรษฐกิจแถลงนโยบายพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานของพรรคประชาธิปัตย์ ชูแนวทาง 'ก้าวสู่พลังงานสีเขียวพลังงานสะอาดสู่สังคมคาร์บอนต่ำ' (Go Green Go Clean Go Low Carbon) โดยกล่าวว่า...

วิสัยทัศน์เชิงรุกพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความสำคัญสูงสุดสำหรับนโยบายพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานโดยยกระดับเป็นเป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วน (National Urgent Agenda) เพื่อ...

1.ลดค่าใช้จ่ายพลังงานในภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาครัฐ
2.ลดภาระต้นทุนของประเทศโดยชะลอการลงทุนด้านการจัดหาพลังงานของประเทศ
3.ยืนบนขาตัวเองตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
4.เพิ่มโอกาสส่งออกพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงาน 

เหล่านี้ เป็นการแปรวิกฤติพลังงานเป็นโอกาสสามารถสร้างเงินสร้างคนสร้างชาติโดยมีเป้าหมายยกระดับประเทศไทยเป็นผู้นำพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานในภูมิภาคเอเชียภายในปี 2030 ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ยังได้ตัวอย่างนโยบายสำคัญ ๆ เป็นไฮไลท์ เช่น นโยบายส่งเสริมการวิจัยพัฒนานวัตกรรมโครงการ พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Energy ) โครงการ เอทานอล100 (E100) ไบโอดีเซล (B 100), โครงการ โซลาร์รูฟ ทุกบ้าน ทุกอาคาร ด้วยระบบหักกลบไฟฟ้าที่ผลิตได้เองกับที่ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและนครหลวง (Net Metering) และ การส่งเสริมอุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ไฟฟ้า (Energy storage), โครงการโซล่าฟาร์มและเกษตรอัจฉริยะประหยัดพลังงานสำหรับฟาร์มพืช ประมงและปศุสัตว์

นายอลงกรณ์ยังแถลงต่อไปว่า นโยบายอนุรักษ์พลังงานของประชาธิปัตย์เป็นนโยบายปฏิรูปเชิงโครงสร้างพลังงานทดแทน เช่น นโยบายโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 โรงแก๊สชีวภาพ 1 โรงปุ๋ยชีวภาพชุมชน, โครงการ 1 ตำบล 1 โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน, โครงการ 1 อำเภอ 1 ศูนย์ยานยนต์เครื่องจักรกลไฟฟ้าและการปรับเปลี่ยนยานยนต์เครื่องจักรกลเก่าเป็นระบบไฟฟ้า (Ev Conversion Center) (รถเก่ากว่า 40 ล้านคัน), โครงการ 1 จังหวัด 1 โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน

เช็กจุดยืน 10 พรรคการเมืองในเรื่อง มาตรา 112 ใครกั๊ก-ใครชัด มาดูกัน!!

“มาตรา 112 ไม่ใช่คดีการเมือง ไม่มีปัญหา คนในประเทศส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน” 
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ 

“ผมมองมาตรา 112 ว่าไม่มีปัญหา”
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย 

“มาตรา 112 ไม่มีปัญหา ที่มีปัญหา เพราะคนเข้าไปมีปัญหาเอง”
จุติ ไกรฤกษ์ ตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top