(19 เม.ย.66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ออกเดินสายช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล อย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้เดินทางไปที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครหลายคน ทั้ง ชวาล พลเมืองดี ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 3 (เบอร์ 3), นภัสวรรณ มณีรัตน์โรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 4 (เบอร์ 8), กฤช ศิลปชัย ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 2 (เบอร์ 5) และ ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 4 (เบอร์ 2)
โดยช่วงบ่ายมีการเปิดวงพบปะพูดคุยกับประชาชน ที่ท่าเทียบเรือสหกรณ์กลุ่มประมงบ้านเพ ต.บ้านเพ อ.เมือง จ.ระยอง ร่วมกับ กฤช ศิลปชัย ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง เขต 2 เพื่ออัปเดตความคืบหน้าร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง 2558 และสิ่งที่พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าทำต่อในสภาฯ สมัยหน้า เพื่อแก้ปัญหาชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก. ดังกล่าว
ในวงดังกล่าว ตัวแทนชาวประมงหลายคนได้สะท้อนปัญหาในทิศทางเดียวกัน ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากปัญหา พ.ร.ก.การประมง ไม่ได้ดีขึ้นและยังย่ำแย่ลงในบางเรื่อง โดยเฉพาะยังคงมีการออกกฎระเบียบมาควบคุมชาวประมงเพิ่มเติมอีกหลายเรื่อง แม้ช่วงหลังชาวประมงจะออกไปเรียกร้องกันบ่อยขึ้น แต่ก็มีแต่การรับฟังโดยไม่มีการแก้ไขปัญหา
ในส่วนของธนาธร ได้สรุปความเป็นไปล่าสุดของการแก้ไข พ.ร.ก.ประมง โดยระบุว่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่มาจนเป็นพรรคก้าวไกล ตนและเพื่อนร่วมงานได้พูดคุยและรับฟังปัญหาจากชาวประมงทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง จนได้ประเด็นในการแก้ไข พ.ร.ก.การประมง และทำการยื่นร่างกฎหมายไปฉบับหนึ่งในเดือนตุลาคม 2564 และอีกฉบับในเดือนกันยายน 2565
แต่เสียดายที่อำนาจในการดึงร่างกฎหมายที่มีการยื่นเข้าสภาฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือหลัง อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ประธานสภาฯ และเสียงข้างมากในสภาฯ พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลมีเสียงไม่มากพอ ร่างกฎหมายประมงจึงไม่ได้รับการผลักดันเข้าสู่การพิจารณาเสียที จนใกล้เลือกตั้งทุกพรรคต่างยื่นร่างเข้ามาประกบรวมกันเป็น 7 ร่าง แต่ก็ยังต้องผ่านอุปสรรคปัญหาสภาล่มบ่อยครั้ง แม้จะผ่านวาระ 1 ไปได้พอดี แต่ก็ยังจบไม่ได้ในสภาฯ ชุด 2562 ต้องยกยอดไปสู่การพิจารณาต่อในสภาฯ ชุด 2566 ต่อไป
ธนาธรยังกล่าวต่อไป ว่าหลังจากการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมสิ้นสุดลง การเปิดสมัยประชุมสภาฯ ครั้งแรกน่าจะเริ่มต้นในราวต้นเดือนกรกฎาคม หากสภาฯ นำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาต่อเลย ร่างแก้ไขกฎหมายประมงก็น่าจะผ่านสภาฯ ได้ในช่วงปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประธานสภาฯ จะเป็นใคร ทิศทางของฝ่ายบริหาร และเสียงข้างมากของสภาฯ เป็นอย่างไร แต่จากที่ตนติดตามพรรคก้าวไกล ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อไรก็ตามที่ พ.ร.บ.ประมงเข้าสู่วาระ 2 และ 3 เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นหนึ่งในพรรคที่ผ่านให้แน่นอน
ทั้งนี้ ในรายละเอียดของร่างกฎหมาย ชาวประมงทุกคนที่เฝ้าติดตาม แสดงความเห็น และขับเคลื่อนเรียกร้องน่าจะเข้าใจดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พรรคก้าวไกลมองว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษ นอกจากเรื่องการปรับลดโทษให้เหมาะสมได้สัดส่วนแล้ว ก็คือการให้มีตัวแทนชาวประมง ทั้งพาณิชย์และพื้นบ้าน รวมทั้งตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าไปอยู่ในกรรมการประมงจังหวัดให้มากขึ้น