Thursday, 15 May 2025
Crimes

'ผอ.ศพดส.ตร.'​ สั่ง บช.น.สอบเคสปกครองบุกจับค้ากามพื้นที่ ลุมพินี กำชับให้ทุกหน่วย เชิงรุกจับกุมผู้มีพฤติกรรมเข้าข่ายค้ามนุษย์ฯ

(16 มี.ค.65)​ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.และผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง​ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษกรมการ ปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ทลายธุรกิจค้ามนุษย์กลางกรุง” เข้าช่วยเหลือเหยื่อและจับกุมขบวนการนายหน้า เสนอขายบริการทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายในสถานบริการไม่มีใบอนุญาต ย่านสุขุมวิท โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ มีที่มาจากศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้รับร้องเรียนจากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ โอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์เรลโรด (โอ.ยู.อาร์.) ขอให้กรมการปกครอง ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมาย กรณีพบบุคคลมีพฤติการณ์ในการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบจากเด็กหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่รับผิดชอบ ของ สน.ลุมพินี นั้น​ ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

‘ผอ.ศอ.ปส.ตร.’ ผนึก ‘ผบช.ปส.’ เปิดปฏิบัติการ สยบไพรี 65/8 ‘ทลายแก๊ง Gerøge Häper’ ยึดทรัพย์กว่า 64 ล้านบาท

(17 มี..65) บ้านเลขที่ 26/416 .ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล...รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล...สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล...พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการสยบไพรี 65/8 ทลายแก๊ง Gerøge Häper’ (จอร์จ ฮาร์เพอร์)

โดยร่วมกับหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด,กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 6, 8 และ 9 ทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 20 จุดทั่วประเทศ

เพื่อจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 16,800 เม็ด ยาอี 300 เม็ด เคตามีน 1.99 กรัม และตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านและที่ดินหลายรายการ, รถยนต์ 7 คัน, รถจักรยานยนต์ 6 คัน, เงินสด 900,000 บาท, บัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 64 ล้านบาท

พล...รอย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณช่วงปี 2562-2564 ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญที่ลักลอบจำหน่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ จำนวน 5 คดี จึงขยายผลต่อเนื่องเพื่อกวาดล้างผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ กระทั่งพบมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด 2 เครือข่าย โดยเครือข่ายหนึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือ บริเวณ เขตสายไหม รอยต่อติดกับพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงธนบุรี บริเวณ เขตบางมด และ เขตจอมทอง โดยทั้งสองกลุ่มจะทำการซุกซ่อนยาเสพติดตามบ้านพักที่เปิดขึ้นมาโดยเฉพาะ หรือ ซุกซ่อนในรถยนต์ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้น จากนั้นก็จะกระจายยาเสพติดไปทั่วประเทศ

พล...รอย ยังกล่าวอีกว่า อยากฝากเตือนถึงบริษัทขนส่งและไรเดอร์แอปพลิเคชันต่างๆ ให้ตรวจสอบสินค้าที่นำส่งว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ มิเช่นนั้นจะต้องถูกตรวจสอบด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่

ผู้ช่วยอู๊ด ลงพื้นที่โคราชเร่งสางคดีรับน้องโหดจนเสียชีวิต

วันนี้ (18 มี.ค.65) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 3)  พร้อมด้วย พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3  ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุคดี นายพัสยศ หรือน้องเปรม ชลภักดี นักศึกษา ปวส.ปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเสียชีวิตจากการรับน้อง โดยมี พ.ต.อ.พิษณุ  วัตถุ พ.ต.อ.คเชนทร์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผกก.สภ.มะเริง พ.ต.ท.สงกรานต์ ปัญญานาค รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.มะเริง และร้อยเวรเจ้าของคดี ร่วมตรวจที่เกิดเหตุบริเวณทุ่งนาทิศตะวันออกใต้บ้านโนนมะกอก ต.หนองระเวียง อ.เมือง นครราชสีมา จ.นครราชสีมา

จากนั้น เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้เดินทางไปยังห้องประชุมสารสิน บช.ภ.3 เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่แเร่งรัดติดตามความคืบหน้า และกำชับการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว เพื่อให้รัดกุมและรอบคอบ ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้มีการสอบสวนให้ครบทุกประเด็น โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. (สส) ให้รับผิดชอบกำกับการบริหารราชการหน่วยงาน รวมทั้งสั่งและปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ในงานสืบสวนสอบสวน ในพื้นที่ ภ.2 และ ภ.3 และ สพฐ.ตร. จึงได้เดินทางมาเร่งรัดคดี พร้อมย้ำให้ติดตามให้ผู้เสียหายได้รับการช่วยเหลือเยียวยาตามความเหมาะสม ตลอดจนกำชับแนวทางในการให้ข้อมูลกับประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง สร้างภาพลักษณ์การทำงานที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

"ตำรวจเตรียมความพร้อม ถอดบทเรียนรับมือเด็กแว๊น ป่วนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565"

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ศปข.ตร.) เรียกประชุมด่วน ผบช.น. ภ.1-9 เตรียมวางมาตรการป้องกันและปราบปรามเด็กแว๊นช่วงสงกรานต์ 2565 ที่จะถึงนี้ โดยการถอดบทเรียนจากเทศกาลฯ ปีที่ผ่านมา 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งเตรียมความพร้อมรับมือเด็กแว๊นแต่เนิ่นๆ ก่อนถึงเทศกาลฯ ซึ่งอาจมีการรวมตัวแข่งรถสร้างความเดือดร้อนแก่รถที่สัญจรไปมาและผู้ที่พักอาศัย จึงให้ทุกหน่วยระดมปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อเนื่องจนกว่าจะถึงห้วงเทศกาลฯ เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า  ศปข.ตร. ทำงานเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ทีมสืบสวนทางโซเชียลเฝ้าติดตามการนัดรวมตัวแข่งรถทุกช่องทาง ส่งผลให้สถิติการรวมตัวหรือการแข่งรถลดลงอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดี การปราบปรามก็ยังคงดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 28 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่และผู้สนับสนุนไปแล้ว 1,621 ราย ยึดรถยนต์ 936 คัน รถจักรยานยนต์ 18,936 คัน จัดทำประวัติผู้กระทำความผิดและผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทางอีก 8,049 ราย

ล่าสุดในเดือน มี.ค.65 จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 11 ราย ริบรถของกลางตามคำพิพากษา 10 คัน โดยมีที่น่าสนใจหลายคดีด้วยกัน รายแรก ที่ ภ.จว.อยุธยา ทีมสืบสวนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวการวมตัวแข่งรถ จนจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย ศาลมีคำพิพากษาริบรถของกลาง รายที่สอง บก.น.5 ทีมโซเชียลและฝ่ายสืบสวนติดตามสืบจับแอดมินเพจ "ประเทศคลองเตย" ที่โพสชักชวนแข่งรถในทางบริเวณห้าแยกระนอง ส่งฟ้องศาลดำเนินคดี 

รายต่อมา บก.น.6 ฝ่ายสืบสวนพิสูจน์ทราบแอดมินเพจดัง Three Brothers Channel ขับรถ จยย.ฮาเลย์ ประมาทหวาดเสียว ผิดปกติวิสัย ยืนขับขี่บนเบาะนั่ง กลางถนนเยาวราช ศาลสั่งริบรถ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และรายล่าสุด ภ.จว.ขอนแก่น พิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด ที่ปรากฏตัวอยู่ในคลิปหนุ่มนอนหมอบขับขี่ บนถนนมิตรภาพ นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในจังหวัดขอนแก่น ในข้อหาขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ขับขี่รถประมาทหวาดเสียว และข้อหาอื่นๆ รวม 5 ข้อหา ศาลพิพากษาริบรถ 

ตร. เตือน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปลี่ยนแนว พยายามหลอกเอาข้อมูลจากหน่วยงานรัฐและเอกชน

วันที่ 21 มี.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้มีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายในการหลอกลวง เป็นหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรเอกชนมากขึ้น โดยมักจะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เช่น อัยการ ศาล ปปช. ปปท. และหน่วยงานรัฐอื่น ๆ โทรศัพท์เข้ามายังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานด้านการปกครองส่วนท้องถิ่น  และภาคเอกชนต่าง ๆ โดยอ้างว่าต้องการประสานงาน หรือขอความร่วมมือ ในการติดตามบุคคลเพื่อขอหมายจับ หรือต้องการข้อมูลว่าบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้าน หรือทำงานในบริษัท มีใครบ้าง บางครั้งอาจพยายามหลอกให้เจ้าหน้าที่เข้าไปติดต่อกับเป้าหมายโดยตรง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในการหลอกลวงพี่น้องประชาชน

ตร. เตือน จ้างวานทำเอกสารราชการปลอม เสี่ยงติดคุก แถมอาจถูกต้มตุ๋นเสียเงินฟรี

(23 มี.ค.65) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

จากกรณี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้สืบสวนจนสามารถออกหมายจับและนำไปสู่การจับกุม แก๊งขายใบตรวจโควิด วุฒิการศึกษา บัตรข้าราชการ ใบขับขี่ บัตรประจําตัว ประชาชน บัตรข้าราชการ โฉนดที่ดิน และทะเบียนรถ ปลอม ซึ่งวิธีการของแก๊งคนร้ายจะโพสต์ประกาศผ่านเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าผู้ซื้อสามารถนำเอกสารไปใช้ติดต่อราชการหรือนำไปใช้ได้เสมือนเอกสารจริง โดยมีพี่น้องประชาชนใช้บริการที่ผิดกฎหมายดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และผู้ต้องหาได้รับเงินจากปลอมแปลงเอกสาร รวมเป็นเงินกว่า 5,000,000 บาท 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนที่คิดจะซื้อและนำเอกสารราชการปลอมไปใช้ จะมีความผิดและต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐาน ใช้เอกสารราชการปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพ ได้ทำการโพสต์ข้อความชักชวนให้ใช้บริการปลอมแปลงเอกสารในลักษณะเดียวกัน โดยคิดค่าบริการในการทำเอกสารปลอมเป็นเงินจำนวนมาก และหลังจากที่มีผู้หลงเชื่อ ติดต่อไปใช้บริการ ก็จะให้โอนเงินค่าบริการล่วงหน้า จากนั้นก็จะตัดการติดต่อไป ทำให้มีประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย  ดังนั้นขอให้อย่าหลงเชื่อบุคคลที่อ้างว่าสามารถทำเอกสารราชการปลอมเป็นอันขาด เพราะเป็นความผิดตามกฎหมาย และอาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสมาหลอกลวงพี่น้องประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยการกู้เงินนอกระบบ การทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย การปล่อยกู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต มีโทษหนักถึงจำคุก

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนภัยการกู้เงินนอกระบบ โดยปัจจุบันยังคงอยู่ในห้วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนบางส่วน จึงมีความจำเป็นต้องไปกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากขึ้น ซึ่งก็มีเหล่ามิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสนี้แฝงตัวมาในรูปแบบของแหล่งเงินกู้นอกระบบและได้กระทำความผิดรูปแบบต่างๆ โดยการกระทำความผิดที่พบคือการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราและการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น

ดังเช่นกรณีที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 มี.ค. 65 เกิดเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย บริเวณซอยสุริโยทัย 2 เยื้องการประปาลพบุรี ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จว.ลพบุรี ทั้งคู่เป็นพนักงานขับรถส่งน้ำแข็งของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังขับรถกระบะจำนวน 2 คันเพื่อออกไปส่งน้ำดื่มและน้ำแข็ง โดยบนถนนมีปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 3 ปลอก ที่เสาไฟฟ้าหน้าห้องเช่าเลขที่ 11 ซ.สุริโยทัย 2 และที่กำแพงรั้วใกล้กันพบร่องรอยถูกยิงเป็นรูอยู่ 2 จุด ที่พื้นพบคราบเลือดกระเซ็น รวมทั้งที่ประตูรถด้านขวารถกระบะส่งน้ำดื่ม เบื้องต้นตำรวจได้สอบสวนนายจ้างให้การว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาย อายุ 50 ปี และอีกคนเป็นหญิง อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งฝ่ายหญิงอ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทไฟแนนซ์ได้ติดตามรถคันดังกล่าวมาขับปาดหน้ารถตู้ทึบตรงจุดเกิดเหตุ โดยบอกกับผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายว่า จะมายึดรถกระบะคันตู้ทึบส่งน้ำแข็ง เนื่องจากค้างค่างวด โดยที่ไม่ได้มีบัตรประจำตัว หรือใบมอบอำนาจมาแสดงผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายจึงไม่ยอม เพราะไม่แน่ใจ รวมทั้งไม่สามารถตัดสินใจแทนเจ้าของรถได้ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็พยายามที่จะดึงกุญแจรถไป แต่ผู้บาดเจ็บไม่ให้ และยังให้หญิงสาวขึ้นไปนั่งรอบนรถกระบะคันที่จะยึดต่อมาไม่นานนายจ้างก็มาถึงจุดเกิดเหตุ พยายามพูดคุย เจรจาต่อรองและขอส่งน้ำแข็งให้ลูกค้าที่บรรทุกมาเต็มคันรถก่อน แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอม พยายามจะแย่งกุญแจรถคืนให้ได้ นายจ้างพยายามขอร้อง ต่อรองอีกครั้งแต่ไม่เป็นผล จึงได้เข้าไปดึงตัวหญิงเพื่อให้ออกมาจากรถ ผู้ก่อเหตุเห็นจึงเดินไปหยิบปืนจากในรถแล้วเล็งยิงมาที่กลุ่มนายจ้างจึงพากันวิ่งหนี ทำให้ถูกทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังก่อเหตุผู้ก่อเหตุ็ได้ขับรถหลบหนีไป กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 26 มี.ค. 65 ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป  

ความคืบหน้าในทางคดีขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยาน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป  โดยขณะนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนอีกรายอาการยังสาหัส และจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ก่อเหตุอ้างว่าไม่ได้เป็นพนักงานไฟแนนซ์ มีเพียงหญิงอายุ 40 ปี ที่เป็นพนักงาน ส่วนมูลเหตุในคดีเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากกรณีที่เพื่อนสาวผู้ก่อเหตุถูกกลุ่มผู้ตายและผู้บาดเจ็บลากตัวออกมาจากรถ จึงทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบไปคว้าปืนในรถออกมายิงก่อเหตุ

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิด ตาม ป.อ. มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี และความผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ  มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นฯ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี  หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท รวมถึงหากมีการทวงหนี้โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ฯ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการข่มขู่ การใช้ความรุนแรง การใช้วาจาดูหมิ่นหรือการเปิดเผยข้อมูลการเป็นหนี้ของลูกหนี้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนผู้ที่กระกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000-500,000 บาทและการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และหากมีการตรวจสอบพบทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด ก็อาจมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ​ (บก.ปอศ.) ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ (ศปน.ตร.) และหน่วยงานอื่นๆ ในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ รวมถึงนายทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างจริงจังต่อเนื่องเด็ดขาด เพื่อให้ได้ผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถิติของ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทาความผิด เกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สานักงานตารวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) พบว่าในช่วงระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 64 – ก.พ.65 มีการแจ้งการกระทำความผิดซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินกู้นอกระบบกว่า 1,048 เรื่อง ซึ่งการกระทำความผิดที่ได้รับแจ้งมากที่สุด 3 อันดับ คือ การปล่อยกู้ออนไลน์ ,การเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา, และการทวงหนี้ผิดกฎหมาย ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดําเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทําความผิดต่อไป

ตำรวจร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลลุยแก้ไขปัญหาขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา แก้ไขความเดือดร้อนและคืนความสุขให้ประชาชน

จากกรณีที่ในปัจจุบัน ประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด    เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมโดยมี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล และได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รองประธานคณะทำงานฯ เป็น หัวหน้าชุดปฏิบัติการ เพื่อบังคับใช้กฎหมายและประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว

ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. /รองประธานคณะทำงานเฉพาะกิจฯ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการคณะทำงานดังกล่าว ดำเนินการตรวจสอบ  และปราบปรามกรณีการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด โดย พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., ผบก.สส.บช.น.และ ภ.1 - 9 และ ผบก.ปคม./คณะทำงานเฉพาะกิจฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบการแจกจ่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้แก่ผู้ได้รับจัดสรรโควตา ณ ที่ทำการไปรษณีย์เป้าหมาย ที่มีการลงทะเบียนของผู้มีสิทธิ์รับสลากเป็นจำนวนมาก 95 แห่ง ทั่วประเทศ และลงพื้นที่ตรวจสอบแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วประเทศ 

พร้อมทั้งดำเนินการสืบสวน ตรวจสอบเป้าหมายผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติกรรมในการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่า ที่กำหนด จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า ได้มีแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของกองสลากพลัส ซึ่งเชื่อว่า ดำเนินการโดย บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ประกอบกิจการโดยนำสลากกินแบ่งรัฐบาล มาสแกนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และมีการเปิดรับตัวแทนผู้ค้ารายย่อย ทั้งผู้ที่มีโควตาสลากอยู่แล้ว นำสลากมาสแกนเข้าระบบ และผู้ที่ไม่มีโควตาสลาก มาซื้อสลากเพื่อขายต่อให้กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าจะต้องลงทะเบียนในระบบด้วยเช่นกัน เมื่อกดซื้อสลาก ระบบจะนำไปที่หน้าร้านของตัวแทน ซึ่งจะมีการเสนอขายสลากเกินราคา โดยเริ่มต้นที่ใบละ 95 บาท ซึ่งสลากที่มีการเสนอขายในระบบนั้น จะมีการปิดบังบาร์โค้ดของสลาก ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลของจริงหรือไม่ อีกทั้งรูปแบบการเสนอขายสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว ไม่ใช่การจำหน่ายแบบปลีกโดยตรงให้กับประชาชน จึงไม่ตรงตามเงื่อนไขในการจำหน่ายสลาก ทำให้สลากมีราคาสูงกว่าที่กำหนด สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน

ทั้งนี้ ได้มีการปฏิบัติการเข้าตรวจค้นตามหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 27 มีนาคม 2565 ณ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด เลขที่ 555/57 อาคารเอสเอสพีทาวเวอร์ 1 ซอยสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานครโดยการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ ได้เข้าทำการตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการเก็บรักษาไว้ในสำนักงาน ว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลของจริงหรือไม่ อยู่ในโควตาการจัดสรรให้กับผู้ค้ารายย่อย โดยถูกต้องหรือไม่ และเป็นของผู้ได้รับจัดสรรโควตารายใด และตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้สแกนเก็บไว้ในฐานข้อมูล ว่ามีการเสนอขายสลากเกินราคาหรือไม่ สลากที่สแกนนั้นมีสลากกินแบ่งตัวจริงรองรับไว้ด้วยหรือไม่ ตลอดจนมีการนำสลากฉบับเดียวกันมาวนขายซ้ำหรือไม่ เพื่อพิสูจน์ทราบความผิดเพิ่มเติมตามกฎหมายต่อไปพล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลในตลาด ณ ปัจจุบัน มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนที่ต้องซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เกินราคาที่กำหนด ซึ่งตามนโยบายของท่านนายก

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงการดำเนินคดีและทางวินัยเพิ่มเติม กรณีหญิงถูกกลุ่มชายอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ข่มขู่เอาทรัพย์สิน

...กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนชี้แจงความคืบหน้าเพิ่มเติมกรณีมีผู้เสียหาย ถูกกลุ่มคนอ้างว่าเป็นตำรวจไซเบอร์เข้าตรวจค้นและข่มขู่เพื่อเรียกเอาทรัพย์สิน

จากที่ปรากฎบนสื่อสังคมออนไลน์ ในกรณีที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ เข้ามาตรวจค้นตัวและข่มขู่ผู้เสียหายเพื่อเรียกเอาทรัพย์สินนั้น ต่อมาในวันที่ 2 เม..65 พนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้แจ้งข้อกล่าวหาข้าราชการตำรวจสังกัด บช.สอท. จำนวน 2 ราย ในฐานความผิด ร่วมกันทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันกรรโชกทรัพย์

จากนั้นในวันเดียวกันนี้ (2เม..65) พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาจำนวน 1 รายไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอฝากขังไว้ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดพร้อมยื่นเรื่องขอคัดค้านการประกันตัว โดยศาลได้อนุมัติตามคำร้องและไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันตัวในชั้นศาล เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาให้กับประชาชน โดยผู้ต้องหาอีก 1 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนและดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย จากนั้นพนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันที่ 4 เม..65 ในส่วนของผู้ต้องหารายอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเจ้าหน้าที่จะเร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ตร.เตือน ‘แอปมือถือ’ ฝังมัลแวร์ เสี่ยงถูกแฮก เช็คให้ดีก่อนดาวน์โหลด

(4 เม..65) ...ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล...สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

ด้วยปัจจุบัน พี่น้องประชาชนประสบปัญหา ถูกหลอกเอาชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านของเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก โดยคนร้ายมักจะทำเว็บไซต์ปลอมในรูปแบบที่เรียกว่า Phishing ในการหลอกเอารหัสผ่านเป็นหลัก แต่ล่าสุด นักวิจัยจาก บริษัท Pradeo ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในโทรศัพท์มือถือ ได้ตรวจสอบพบแอปพลิเคชันใน Google Play Store ชื่อ Craftsart Cartoon Photo Tools ที่ได้แอบฝังมัลแวร์ชื่อ Facestealer ซึ่งจะแอบสร้างหน้าต่างสำหรับลงชื่อเข้าใช้งาน คล้ายกับของเฟซบุ๊ก เพื่อหลอกให้ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นหน้าต่างของเฟซบุ๊กจริง ทำให้ถูกหลอกเอาข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชีเฟซบุ๊ก จากนั้นจะส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของคนร้ายที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งอาจนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในทางมิชอบและสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top