Wednesday, 14 May 2025
Crimes

ตร.เตือน!! โดนโทรทวงหนี้ “อ้างว่าเป็นผู้ค้ำประกัน” ถ้าไม่เคยค้ำ อย่าหลงเชื่อ!!

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

สืบเนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากการโทรศัพท์มาทวงถามหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีถูกอ้างชื่อว่าเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ ถูกข่มขู่ว่าหากไม่ใช้หนี้แทนผู้กู้ จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ติดเครดิตบูโร ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินได้ ฯลฯ โดยที่ไม่เคยรู้เรื่องการค้ำประกันดังกล่าวมาก่อน ซึ่งสาเหตุที่เจ้าหนี้รู้ถึงข้อมูล ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ของเรานั้น ก็มักเกิดจากการที่บุคคลที่มีหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเราบันทึกไว้ในรายชื่อผู้ติดต่อ ไปโหลดแอปพลิเคชันเงินกู้ และอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อและหมายเลขโทรศัพท์นั่นเอง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน หากได้รับโทรศัพท์อ้างว่าท่านได้ไปค้ำประกันเงินกู้ โดยที่ท่านไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าว และไม่เคยลงลายมือชื่อค้ำประกันให้กับบุคคลตามที่ถูกกล่าวอ้าง ขอให้ท่านอย่าหลงเชื่อ ไม่ต้องชำระเงินค้ำประกันเงินกู้ตามที่มิจฉาชีพอ้างและไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับความเสียหายหรือถูกฟ้องร้อง หากท่านไม่เคยค้ำประกันให้บุคคลที่ถูกกล่าวอ้างจริง

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.)ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ

 

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ สนองนโยบายรัฐบาล กำชับการปฏิบัติ เพิ่มมาตรการคุมเข้ม! การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังแพร่ระบาด อยู่ในทุกพื้นที่ทั่วโลกในขณะนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ จึงกำชับให้หน่วยงานด้านความมั่นคง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว ทั้งนี้ ให้เพิ่มมาตรการคุมเข้มตามแนวชายแดนที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สนองตอบนโยบายของรัฐบาล ความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว จึงสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังพื้นที่ที่เป็นแนวติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งพื้นที่ทางบกและทางน้ำ  เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว โดยมีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจ รวมไปถึงการจัดกำลังตำรวจลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด

 

ปทุมธานี - ตำรวจปทุมธานี ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

ลานเดินห้างสรรพสินค้าโลตัสรังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้มาเป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยมีพล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี นำหัวหน้าสถานี.ทุกสภ.ที่สังกัดในจังปทุมธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครภาคประชาชน อาสาสมัครมูลนิธิ รวม 280 นาย เข้าร่วม

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ด้วยเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ 2565 ซึ่งพี่น้องประชาชนจะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดกันเป็นจำนวนมาก และจะมีกิจกรรมฉลองปีใหม่ซึ่งในระหว่างนั้นก็อาจจะมีการกระทำผิดกฎหมาย และขอขอบคุณทุกท่านที่เสียสละมาระดมปล่อยแถมกวาดล้างอาชญากรรมในวันนี้ โดยเฉพาะตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ที่ได้จัดการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในครั้งนี้ขึ้น

ซึ่งได้มีฝ่ายทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครภาคประชาชน อาสาสมัครมูลนิธิ ซึ่งอยากนำเรียนท่านผบช.ภ.1 ว่าในจังหวัดปทุมธานีของเราได้กำหนดการดูแลความมั่นคงของพี่น้องประชาชนไว้จำนวน 4 ข้อ

1. นโยบายของรัฐบาลและนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้สั่งการทางจังหวัดปทุมธานีจะทำตามอย่างเคร่งครัด

2. ปัญหายาเสพติดให้โทษที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อพี่น้องประชาชนซึ่งจังหวัดปทุมธานีเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่ยาเสพจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาพักและจำหน่าย และส่งต่อไปนั้น พื้นที่อื่นตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีก็มีการกวาดล้างกันอย่างต่อเนื่อง 

ตร.เตือน!! ‘การยิงปืนขึ้นฟ้า’ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน มีโทษตามกฎหมาย ตำรวจพร้อมดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด!!

ตามที่ปรากฏข่าวผ่านสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ กรณีการสูญเสียชีวิตจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ชอบยิงปืนขึ้นฟ้าเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ด้วยความคึกคะนอง ซึ่งในบางเหตุการณ์ก่อให้เกิดการสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สิน นั้น

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์  ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงของเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2565 ที่ทุกครอบครัวต่างพากันเฉลิมฉลองเพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มักจะมีเหตุการณ์การยิงปืนขึ้นฟ้า อาจจะเป็นเพราะความเชื่อส่วนบุคคลที่คิดว่าเป็นการขับไล่สิ่งที่ไม่ดี หรือเคราะห์กรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการเปิดรับโชคลาภเงินทอง

เป็นการกระทำที่ขาดการยั้งคิดยั้งทำ เพราะกระสุนปืนที่ยิงออกไปนั้นจะไปหล่นใส่บุคคลให้ได้รับอันตรายบางรายถึงขั้นเสียชีวิต หรือหล่นใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชนจนได้รับความเสียหายซึ่งถือว่าเป็นความผิด และมีโทษตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

 

ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยม “ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปป.ตร.)” สุดทันสมัย เทคโนโลยี 5G - เชื่อมโยงข้อมูล Real Time – บริหารเหตุวิกฤต!!

วันที่ 25 ธันวาคม 2564 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ไปตรวจเยี่ยม “ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปป.ตร.)” ซึ่งตั้งอยู่ที่ ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติหน้าที่และการนำเทคโนโลยีส่วนขยายมาใช้ในการปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อันจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ลดปริมาณคดีอาชญากรรม โดยมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ผู้อำนวยการ ศปป.ตร.

“ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปป.ตร.)” จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ "ควบคุมและบริหารงาน" ป้องกันปราบปรามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ "ทันกับสถานการณ์" มีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติ เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนางานป้องกันปราบปราม ตลอดจนเป็นศูนย์กลางในการ "เฝ้าติดตาม" การปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันปราบปราม สามารถ "เชื่อมต่อสัญญาณภาพสด" ในขณะปฏิบัติหน้าที่ จาก "กล้องประจำตัวเจ้าหน้าที่สายตรวจ" / "กล้องติดรถยนต์สายตรวจ" จากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ รวมถึง "กล้อง CCTV" 

ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ติดตั้งไว้ใน "หัวเมืองสำคัญ" พื้นที่แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงจุดล่อแหลมต่าง ๆ ทั่วประเทศ มายัง ศปป.ตร. สามารถเฝ้าระวังเหตุและ "บริหาร จุดตรวจ จุดสกัด ไม่ให้ซ้ำซ้อน" และปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากเกิด "เหตุวิกฤต" ด้านอาชญากรรม ศปป.ตร. สามารถ "ยกระดับ" การปฏิบัติเพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารสถานการณ์ให้กับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถ "บริหารจัดการแก้ไขเหตุวิกฤต" นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มาสังเกตการณ์ พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติมเรื่องการปฏิบัติและ "นำเทคโนโลยีส่วนขยาย" มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและยังได้รับชมการสาธิตการปฏิบัติระหว่าง ศปป.ตร. กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ปฏิบัติการจริง โดยใช้ยุทธวิธีตำรวจสายป้องกันปราบปรามที่ได้รับการฝึกมาแล้ว

 

"10 แก๊งร้าย อันตรายช่วงปีใหม่" สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ห่วงใยเตือนภัยให้ประชาชนระวัง!!

26 ธ.ค. 64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ในห้วงเวลาปัจจุบันใกล้จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ซึ่งพี่น้องประชาชนหลาย ๆ ท่านจะได้เดินทางไปอวยพรปีใหม่ผู้ใหญ่ที่เคารพรัก ออกไปซื้อของขวัญ ไปทำบุญ หรือไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แต่อาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพ แฝงตัวเข้ามา หลอกลวงทำให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนได้

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่ใกล้จะถึงนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยกับพี่น้องประชาชน จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะดูแลรับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม จัดเตรียมมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2565 และได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในวันหยุดปีใหม่ ให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพ “10 แก๊งร้าย อันตรายช่วงปีใหม่” ประกอบไปด้วย

1. แก๊งส่งของขวัญปีใหม่

2. แก๊งเรี่ยไรทำบุญ

3. แก๊งขายสินค้าราคาถูก

4. แก๊งชุบทองล้างทองรูปพรรณ

5. แก๊งสารพัดช่าง

6. แก๊งชวนเล่นการพนัน

7. แก๊งล้วงและกรีดกระเป๋า

8. แก๊งจัดงานเลี้ยง

 

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. - ผอ.ศปน.ตร. ปรับกลยุทธ์เด็ด!! ‘ทลายแก๊งเจ้าหนี้นอกระบบ’ สนองนโยบายรัฐบาล

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศปน.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รอง ผอ.ศปน.ตร.นำกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ของ ศปน.ตร. กระจายกำลังบุกทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบ 3 จังหวัด ได้แก่ เลย อุดรธานี และหนองคาย รวม 5 เครือข่าย 9 จุดตรวจค้น เพื่อดำเนินการกับเจ้าหนี้นอกระบบตาม พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560  โดยทำการจับกุม นายอลงกร ผนามอญ อายุ 34 ปี และ นายโชคสวัสดิ์ ลีเพ็ญ อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเลย เลขที่ 184/2564 และ 185/2564 พร้อมตรวจยึดรถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 31 คัน มูลค่า 7.2 ล้านบาท ตรวจยคดโฉนดที่ดิน 10 ฉบับ เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ราคาประเมิน 50 ล้านบาท รวมมูลค่า 57,200,000 บาท

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า เมื่อ 2 ธ.ค.64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งมอบหมายให้เป็น ผอ.ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ หรือ ศปน.ตร.เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน  ดังนั้นในฐานะ ผอ.ศูนย์ จึงได้กำหนดกลยุทธ์ให้ชุดปฏิบัติการต่าง ๆ วางแผนเพื่อตัดวงจรกลโกงให้ได้และวันนี้ชุดป้องกันและปราบปรามหนี้นอกระบบ ได้เปิดยุทธการปราบปรามจับกุม กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบผิดกฎหมาย พร้อมกัน 3 จังหวัด 9 จุด เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ ที่ถูกฉ้อฉลหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ จากเจ้าหนี้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะดำเนินการปราบปรามในเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อเนื่องเพื่อนำความสงบสุขส่งมอบเป็นของขวัญให้พี่น้องประชาชนในปี พ.ศ 2565 จะมาถึงนี้

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ศปน.ตร.ได้ทำการปราบปรามจับกุม เจ้าหนี้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบและฉ้อฉล ลูกหนี้นอกระบบโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาแล้ว จำนวน 310 ราย ช่วยเหลือลูกหนี้มาแล้วมากกว่า 514 ราย รวมมูลค่าทรัพย์สิน จำนวน 91,763,429 บาท และมุ่งมั่นจะช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ อย่างเต็มความสามารถ ขอให้บรรดาลูกหนี้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ดังต่อไปนี้

     1. ถูกเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

     2. มีการทำสัญญาเงินกู้เกินกว่าที่กู้จริง

     3. ถูกเป็นทาส หาเงินมาชำระหนี้โดยไม่รู้จักจบสิ้น

     4. ถูกประจานติดตามทวงหนี้

     5. ถูกข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายในการทวงหนี้

     6. ถูกเจ้าหนี้ใช้กลฉ้อฉลยึดทรัพย์ หรือเอาทรัพย์ไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจ "สารวัตรสืบสวน สภ.ฝาง พลีชีพ" ปะทะขบวนการค้ายาเสพติด พื้นที่ จ.เชียงใหม่ เตรียมปูนบำเหน็จความชอบ พร้อมสั่งล่าตัวผู้กระทำผิด!!

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา มีเรื่องน่าสลดใจเกิดขึ้น เมื่อข้าราชการตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชน ด้วยความตั้งใจ เสียสละ จนถึงขั้นเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 21.30 น. ชุดสืบสวน สภ.ฝาง และ สภ.แม่อายภ.จว.เชียงใหม่ ได้ออกสืบสวนติดตามขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดน เข้ามาในพื้นที่ อ.ฝางจว.เชียงใหม่ พบรถยนต์ต้องสงสัยขับมาจากเส้นทาง บ.โป่งไฮ - ถ.โชตนา จึงทำการติดตามไป เพื่อทำการจับกุมก่อนที่จะถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่ ส่งผลให้ "พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ สุขุมานนท์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรฝาง ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่" ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอสดุดีวีรกรรมของ พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ สุขุมานนท์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรฝาง ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ เสียสละ จนวาระสุดท้ายของชีวิต จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้เร่งติดตามล่าตัวผู้กระทำผิด มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังได้กำชับไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ของ พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ฯ ให้ดูแลสวัสดิการของครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะ "พิจารณาการปูนบำเหน็จความชอบ และดูแลในเรื่องของเงินสวัสดิการ" ช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละ เพื่อเป็นการรักษา เยียวยา และให้กำลังใจผู้ที่ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวนี้ ซึ่ง กรณี เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จะได้รับเงินสวัสดิการ250,000 – 500,000 บาท โดยในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แอปพลิเคชันแทนใจ และผู้ได้รับเงินเยียวยาจะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิชันแทนใจ อีกทางหนึ่งด้วย

รอง ผบ.ตร.สั่งการ!! รับมือประชาชนเดินทางกลับทำงานหลังเทศกาลปีใหม่ วันหยุดสุดท้าย...พอใจ!! ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุและเสียชีวิตรวม 5 วันยอดลดลง 

3 ม.ค.65 ที่ศูนย์บริหารงานจราจร​(ผอ.ศจร.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงวันหยุดสุดท้ายเทศกาลปีใหม่ 2565 ประชาชนจะเริ่มเดินทางกลับเข้า กทม. คาดว่าจะมีปริมาณการจราจรหนาแน่น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ผอ.ศจร.ตร.) ได้กำชับให้ทุกหน่วยเน้นอำนวยการจราจร ให้ประชาชนเดินทางโดยสะดวกและปลอดภัย

1.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เน้นการยืนปรากฏกายบนถนนในจุดสำคัญ  เช่น จุดตัดถนน ทางแยก ทางข้าม สถานีบริการน้ำมัน สถานที่สำคัญต่างๆ โดยการปฏิบัติให้มีการใช้นกหวีด และมีอุปกรณ์ประจำกายให้ครบถ้วน ในเวลากลางคืนให้ใส่เสื้อสะท้อนแสง ใช้กระบองไฟ เพื่อให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจน  การกดไฟสัญญาณในแยกต่างๆ ให้ควบคุมกดไฟสัญญาณด้วยมือ

2.เตรียมความพร้อมชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเข้าไปแก้ไขกรณีเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้สามารถแยกรถ เคลื่อนย้ายรถได้ทันที รวมถึงเข้าไปอำนวยการจราจรและแก้ไขปัญหาจุดที่รถติดสะสม หรือการจราจรคับคั่ง โดยเฉพาะในเส้นทางที่มีปริมาณรถจำนวนมาก เช่น ถนนมิตรภาพ ถนนพหลโยธิน ถนน 304 (เขาหินซ้อน) ถนนสายเอเชีย รวมถึงเส้นทางพิเศษ ทั้งด่านบางปะอิน มอเตอร์เวย์ กาญจนาภิเษก

3.ให้ทุกหน่วยที่เป็นพื้นที่รอยต่อ โดยเฉพาะ บช.น. ภ.1 ,2 ,3 และ บก.ทล.บูรณาการและประสานการปฏิบัติในการอำนวยการจราจรเพื่อรับรถกลับเข้า กทม. อย่างต่อเนื่อง และ

4.ให้ รอง ผบช.​/รอง ผบก. ทุกหน่วยและผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น กำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด

เทศกาลปีใหม่ สนุกอย่างสร้างสรรค์ “ไม่พกอาวุธปืน ไม่ยิงขึ้นฟ้า!!” ตำรวจพร้อม! จัดเต็มกำลัง ดูแลทั่วประเทศ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ พี่น้องประชาชนหลาย ๆ ท่านออกเดินทางไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพักผ่อนในห้วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ โดยขอให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ทำสิ่งใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น 

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆแม้ว่าจะสนุกสนานสักเพียงใด แต่ก็ไม่ควรเลยเถิด จนกลายเป็นความคึกคะนอง "พาอาวุธปืน" ไปในสถานที่ต่าง ๆรวมถึงการ "ยิงปืนขึ้นฟ้า" เพราะการกระทำดังที่กล่าวมานั้น มีความผิดตาม "พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490"

>> มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจําเป็น และเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ 

ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด 

>> มาตรา 72 ทวิ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรค 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรค 2 ด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท

นอกจากนี้กระสุนปืนที่ยิงออกจากกระบอกปืน มีโอกาสที่จะไปตกลงไปโดนหลังคาบ้าน "ทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย" หรือแม้กระทั่งกระสุนปืนถูกผู้อื่นจนเป็นอันตราย "ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต" จะมีความผิดตาม"ประมวลกฎหมายอาญา"

>> มาตรา 291  ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

>> มาตรา 300  ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top