Monday, 2 December 2024
Central

สระบุรี - ตำรวจสภ.มวกเหล็ก จับยาไอซ์ ได้ 450 กิโล ผู้ต้องหารับจ้างขนยาไอซ์ เพื่อนำส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯ

วันที่ 6 เม.ย.64ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ขณะออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณ ถ.สายบ้านหินลับ – บ้านแซลงพัน หมู่ที่13 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถกระบะ โตโยต้า แค๊ป สีบรอนทอง ติดฟิล์มทึบ ทะเบียน ขว8735 สกลนคร ได้วิ่งผ่านมาในพื้นที่ ลักษณะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกขอตรวจค้นรถคันดังกล่าว

ขณะนั้นรถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องเพื่อหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.แก่งคอย จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ไล่ติดตามเรียกรถคันดังกล่าวหยุดลง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นในรถ ด้านหลังกระบะ พบ ยาไอซ์ จำนวน 450 กิโล  บรรจุใส่กระสอบถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 9 กระสอบ โดยมี นาย ณรงค์ หรือหนู) ปัญจรี อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 50 หมู่ 6 ต.นาคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เป็นผู้ขับรถ จึงนำตัวส่ง สภ.มวกเหล็ก ดำเนินคดี

ทางด้าน นาย ณรงค์ (หรือหนู)  ปัญจรี ( ผู้ต้องหา ) ให้การว่า เป็นคนรับจ้างขนยาไอซ์ดังกล่าว มาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จ.สกลนคร  เพื่อนำส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯ ในระหว่างขับรถมาตาม ถ.มิตรภาพ ช่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รู้ว่ามีด่าน ตรวจตามพื้นที่ จึงได้ใช้เส้นทางรัด จากปากช่องสู่จังหวัดสระบุรี  ในขณะขับมาในพื้นที่เข้าสู่ อ.มวกเหล็ก จึงได้ถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกค้นและจับคุมดังกล่าว

ด้านนาย นาย ณรงค์ หรือหนู ปัญจรี ( ผู้ต้องหา ) เผยต่อว่า ตนรับจ้างจากเพื่อนเพื่อขนยาดังกล่าวไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยเพื่อนบอกว่าเป็นกัญชาอย่างเดียว ค่าจ้างขนจำนวน 40,000 บาท  จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคุมตัวในครั้งนี้  

ต่อมาที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี นำโดย พล.ต.ท. อำพล บัวรับพร  ผบทช.พ.1 และ พล.ต.ต. ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.สว.จ.สระบุรี  พ.ต.อ.เรืองยศ โสภาพล ผกก.สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี   ร่วมกันนำตัว นาย ณรงค์ หรือหนู ปัญจรี พร้อมของกลาง แถลงข่าวในครั้งนี้ต่อไป


ภาพ/ข่าว  ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ

 

ราชบุรี - เปิดเมนูสุดซิค ธรรมชาติเย็น ท่ามกลางบรรยากาศริมธาร ในอำเภอสวนผึ้ง

เปิดเมนูสุดซิค “ธรรมชาติเย็น” กับ “เลมอนชีท” ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติติดริมธาร จากร้าน ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe ที่อำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี จุดเช็คอินท่องเที่ยวของอำเภอสวนผึ้ง

(7 เม.ย.64) พาไปกันที่ร้าน ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe ตั้งอยู่ริมธารน้ำ ใน ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างตลาดโอ๊ะป่อย กับ เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม รีสอร์ท สวนผึ้ง แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเป็นจุดแลนมาร์คแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย

ร้าน ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe เป็นร้านกาแฟที่อยู่กลางธรรมชาติแบบสุด ๆ โดยเจ้าของร้าน “คุณเป้” สาวชาวราชบุรีนักเรียนนอก ที่บินกลับมาอยู่บ้านที่ประเทศไทยเนื่องจากสถานการณ์โควิด “ธรรมชาติ คาเฟ่” เกิดจากความตั้งใจที่อยากจะให้ลูกค้าได้ดื่มกาแฟรสชาติที่ดีได้สัมผัสบรรยากาศที่ดีอีกมุมของสวนผึ้ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของ อ.สวนผึ้ง คือ “ภูเขาและลำธาร”

โดยพื้นที่ของร้านทั้งหมด เป็นที่เซลฟี่ และ นั่งพักผ่อนเพื่อเป็นการผ่อนคลายหลังจากที่ต้องเดินทางมาไกลจากต่างจังหวัด จุดเด่นของที่ร้าน คือ ต้นสน 2 ต้นที่จะมีลำต้นเอนเอียงเพื่อรับแดด จากการที่ต้นสนอยู่รายล้อมไปด้วยต้นใหญ่ที่ขึ้นปกคลุม จึงได้นำมาเป็นโลโก้ ของ ร้านธรรมชาติ คาเฟ่ นอกจากนี้ที่บริเวณริมธาร ได้มีการตกแต่งด้วยไม้ไผ่ และ มีต้นกอไผ่ขึ้นสูงใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้เซลฟี่ และนั่งพักผ่อน ชิมอาหาร เมนูเด็ด พร้อมเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านที่มีให้เลือกกว่า 50 เมนู และมีที่นั่งหลายมุม หรือจะลองถ่อแพบนน้ำใส ๆ ไหลเย็นสบาย ๆ

น.ส.นฤมล ศรีสวัสดิ์ อายุ 20 หรือ น้องเวิร์ค บาริสต้าประจำร้าน ร้านจะมีจุดเด่นอยู่ที่ความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย และได้รับความร่มรื่นจากร่มไม้ กลิ่นอายความบริสุทธิ์ทั้งสายน้ำจากลำธาร และ เสียงไผ่กระทบกันเวลาที่มีลมพัดทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน “ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe”

เมนูเครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกหลากหลายเมนูทั้งเมนูร้อน และ เย็น อาทิ Espresso, Americano, Honey Americano, Orange Americano, Cappuccino หรือ Latte ราคาเริ่มต้นที่ 60 – 90 บาท ส่วนเมนู ปั่น 80 – 100 บาท

สำหรับ Special Menu หรือ เมนูซิกเนเจอร์ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า เมนูแรก “ Tham•ma•chart ” เป็นเครื่องดื่มเมนูกาแฟ ที่ใช้เยลลี่สตอเบอร์รี่ วางที่ก้นแก้ว เทด้วยนมสด จากนั้นเท กาแฟที่เชคด้วยความเย็น รสชาติของกาแฟจะกลมกล่อม ราคาแก้วละ 90 บาท

เมนูที่ 2 คือ “ Tham•ma•chart Smoothie ” เป็นเครื่องดื่มเมนู ที่นำ สตอเบอร์รี่ โกโก้ ช็อคชิพ ปั่นรวมกัน แต่งหน้าด้วยวิปครีม แกโนล่า ราคาแก้วละ 120 บาท

ส่วนเมนูที่ 3 คือ Choco Mint เป็นมนูนมชาเขียว ที่ผสมกับโกโก้แท้ 100% รสชาติจะหอมหวานโกโก้ แบบธรรมชาติลงตัว ราคาแก้วละ 80 บาท

นอกจากนี้ยังมี เมนูของหวาน อาธิ ขนม “คานาเล่” เป็นขนมฝรั่งเศสทานคู่กับกาแฟสด จุดเด่นคือสีของขนมจะเข้มทั้งชิ้น ด้านนอกกรอบด้านในนุ่ม ที่สำคัญจะมีส่วนผสมของเหล้าลังเพิ่มความหอมและรสชาติของ คานาเล่ ราคา 60 บาท

และอีก 1 เมนู คือ “เลมอนชีสพาย” ที่มีความกรอบของแครกเกอร์ นุ่มจากครีมชีส และเด้งด้วยเจลลีเลมอนด้านบนอีกชั้น แถมลาดด้วยน้ำผึ้ง ราคาชิ้นละ 80 บาท

สำหรับร้าน ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe ตั้งอยู่ริมธารน้ำ ใน ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างตลาดโอ๊ะป่อย กับ เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม รีสอร์ท สวนผึ้ง เปิดทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ ทั้งแตเวลา 08.30 – 17.00 น. โทรสอบถามเส้นทางหรือรายละเอียดได้ที่หมายเลข 061-495-5989 หรือ ติดตามข่าวสารต่าง ๆ  ได้ทาง เฟสบุ๊คแฟนเพจ ชื่อ กาแฟกุมภาพันธ์ ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Cafe


ภาพ/ข่าว  ตาเป้ จ.ราชบุรี

 

ราชบุรี – แห่ชื่นชมครูหนุ่มที่สละเงินเดือนและทำไร่หาเงินซื้อคอมให้นักเรียนมาตลอด 10 ปี

แห่ชื่นชม!! ครูหนุ่ม โรงเรียนวัดเขาวัง ราชบุรี ที่สละเงินเดือนซื้อ คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก ราคากว่าหมื่นบาท ให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ได้ใช้ประโยชน์ในการเรียน และ หารายได้ระหว่างเรียน มาตลอด 10 ปี โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนขอเพียงเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนและทำประโยชน์มีโอกาสช่วยเหลือน้อง ๆ ที่ด้อยโอกาส

(9 เมษายน 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลในจังหวัดราชบุรี ได้กล่าวชื่นชม ครูหนุ่มนายหนึ่งของโรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ช่วงสุวนิช) เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ที่ยอมสละเงินเดือนของตนเองเพื่อจัดซื้อ คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก ที่มีราคาชุดละ 15,000 – 19,000 บาท เพื่อให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน และ เพื่อเป็นอุปกรณ์ใช้ในการหารายได้ระหว่างเรียน

โดยผู้ใช้บริการ Facebook ชื่อ นวพร ช่างพานิช หรือ ด.ญ.นวพร ช่างพานิช ได้ออกมาเผยเรื่องราวความประทับใจของครูหนุ่มนายดังกล่าวที่ให้โอกาสตนเองจนเรียนจบ ซึ่งได้ระบุใจความว่า “หนูขอขอบคุณคุณครูโอ้น สมไชย กระต่ายทอง ที่ได้ไห้ประสบการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยหนูเข้าเรียน ม.1 หนูไม่รู้จักครู ครูไม่รู้จักหนู แต่ครูก็ยังให้คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก เพื่อให้หนูใช้ในการเรียนเป็นแบบจอสัมผัสด้วย หนูได้พัฒนาทักษะทางด้านการเขียนโปรแกรมสร้างเกมอย่างสร้างสรรค์ อีกยังใช้ในการเรียนรู้ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น คุณครูสมไชย กระต่ายทอง มอบโอกาสกับหนูและเพื่อน ๆ ให้โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองโดยมีครูคอยแนะนำชี้แนะแนวทางต่าง ๆ เป็นผู้เพิ่มเติมในสิ่งที่หนูขาดให้สมบูรณ์และมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ตอนนั้นกลัวมาก ๆ ว่า จะสร้างเกมไม่ได้ ครูก็ให้กำลังใจและแนะนำจุดอ่อนจุดแข็งพัฒนาหนูจนผ่านไปได้ด้วยดี สุดท้ายนี้ หนูอยากจะบอกกับครูว่า ครูเป็นครูที่ดีที่สุดเลย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหนูจะจดจำทุก ๆ อย่างที่นี่ไว้เสมอ ขอบคุณคะครู #บันทึกไว้ในความทรงจำ #ขอบคุณตลอดระยะเวลา 3 ปี

ส่วน ผู้ใช้บริการ Facebook  ชื่อ  Pim Amporn หรือ ด.ญ.อัมพรพิมพ์ จันทร์ประทุม โพสต์ข้อความว่า “หนูขอบคุณสำหรับโอกาสดี ๆ ทุกอย่างที่คุณครูมอบให้ทั้งประสบการณ์ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน พอได้มีโอกาสมาเรียนรู้กับคุณครู ได้ลงมือทำอะไรเอง ได้รู้จักการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง และนอกจากครูจะเป็นผู้มอบโอกาสให้หนูแล้วครูยังเป็นผู้ให้ที่ดีเสมอมา “โน้ตบุ๊ก” ที่คุณครูได้ให้มาใช้ในการเรียน ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ตั้งแต่ ม.1 จนได้มีความรู้ ได้รับรางวัลมามากมาย สุดท้ายนี้หนูขอขอบคุณคุณครูที่เป็นผู้ให้ ทั้งความรู้และโอกาสในการพัฒนาตัวเอง รวมไปถึงคำแนะนำต่าง ๆ หนูขอขอบคุณคุณครูสำหรับทุกการสนับสนุนค่ะ สมไชย กระต่ายทอง ต่อไปนี้หนูจะไปศึกษาต่อที่อื่นแล้วแต่ก็จะแวะมาให้กำลังใจครูบ่อย ๆ นะคะ

ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียลในสังคมคนราชบุรี และมีการกล่าวชื่นชม ครูสมไชย กระต่ายทอง กันจำนวนมาก ซึ่งเป็นครูผู้เสียสละโดยการซื้อ คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก ให้นักเรียนจนได้ใช้จนจบการศึกษา

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าว คือ โรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ช่วงสุวนิช) เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ตั้งอยู่ที่เชิงเขาวัง ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี พบกับ เจ้าของโพสต์ดังกล่าว ด.ญ.นวพร ช่างพานิช นักเรียน ม.3/4 ชาว ต.คูบัว อ.เมือง, ด.ญ.อัมพรพิมพ์ จันทร์ประทุม นักเรียน ม.3/3 ชาว ต.หน้าเมือง อ.เมือง, ด.ญ.ภาศิณี หาโอกาส นักเรียน ม.3/2 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง และ นางสาวสุกัญญา ศรีคง ครูฝึกสอน ชาว ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งทั้ง 4 คน เป็นนักเรียนทีได้รับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก ที่ นายสมไชย กระต่ายทอง ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ช่วงสุวนิช)

โดยทั้ง 4 คนต่างเล่าถึงเรื่องราวที่ตนเองได้รับโอกาสจากครูสมไชย นายนี้ว่า เมื่อครั้งที่ตนเองได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยที่ครอบครัวมีฐานะปานกลางแต่ยังไม่มีกำลังที่จะซื้อ คอมพิวเตอร์ แต่ปรากฏว่า ได้รับอากาศจากคุณครูสมไชย ที่ทราบว่าพวกตนไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ ซึ่งคุณครูก็ได้ซื้อให้ไว้ใช้ โดยบอกกับพวกตนว่า “รักษาไว้ให้ดี ใช้ให้เกิดประโยชน์” ซึ่งหลังจากที่พวกตนได้ คอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊กมา ก็ได้นำมาใช้ประกอบการเรียน และ นำไปทำงานด้วยการรับจ้างพิมพ์รายงานต่าง ๆ และ ออกแบบเกมส์ประกอบการเรียนการสอน เพื่อหารายได้ระหว่างเรียน และที่สำคัญพวกตนไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสแบบนี้ เพราะไม่เห็นมีครูท่านไหนที่ใช้เงินส่วนตัวซื้อให้กับนักเรียนแบบนี้ พวกตนต้องกราบขอบพระคุณคุณครูสมไชย กระต่ายทอง เป็นอย่างมาก คุณครูที่เป็นผู้ให้ ทั้งความรู้และโอกาสในการพัฒนาตัวเอง รวมไปถึงคำแนะนำต่าง ๆ ต่อไปนี้หนูจะไปศึกษาต่อที่อื่นแล้วแต่ก็จะแวะมาให้กำลังใจครูบ่อย ๆ

ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อขอสัมภาษณ์กับครูนายดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายสมไชย  กระต่ายทอง หรือ ครูโอ้น เป็นคน ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ปัจจุบันเป็นครูผู้สอนคอมพิวเตอร์ชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนวัดเขาวัง (แสง ช่วงสุวนิช) เขตเทศบาลเมืองราชบุรี

ครูโอ้น เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า จากประสบการณ์สอนตนพบว่านักเรียนแต่ละคนต้องการการสนับสนุนด้านศักยภาพส่วนบุคคลที่ไม่เหมือนกัน และมีปัจจัยพื้นฐาน ต้นทุนทางครอบครัวที่ต่างกัน ตนจึงมีแนวคิดที่ว่า ถ้าเราพอมีพอใช้บ้างแล้วและสามารถที่จะร่วมกันช่วยแม้เพียงนิดหน่อย หรือเริ่มจากที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา จะเป็นการส่งเริมและเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็ก ๆ ได้ ด้วยแรงเราอาจจะไม่สามารถช่วยได้ทุกคน แต่ถ้าเราทุกคนร่วมช่วยกันคนละนิด ไม่คิดคาดหวังผลตอบแทน จะเกิดผลที่ดีกับนักเรียนหลายคน จะได้เติมเต็มความฝัน ประสบความสำเร็จ เติบโตขึ้นและมีความสุข จากการมอบให้และได้รับ เกิดการเติมเต็มให้สังคมของเรา

ครูโอ้น  กล่าวต่อว่า ในส่วนของตนเองพอที่จะช่วยได้และไม่ได้ทำให้เดือดร้อนมากก็ได้เริ่มช่วยนักเรียนตามสมควร โดยเริ่มจากเมื่อประมาณ 10 ปี ตอนสมัยอยู่ รร.วัดดอนตลุง อ.เมือง ได้พบนักเรียนที่สนใจด้านคอมพิวเตอร์มีความรู้ที่ครูได้มอบให้ แต่ขาดอุปกรณ์เพื่อเข้าไปเสริมไปพัฒนาขีดความสามารถและอาจจะต่อยอดเป็นอาชีพ ตอนนั้นตนเองรู้สึกว่าเราพอมีเงินเดือน ถ้าได้แบ่งไปให้นักเรียนคนที่มีขาดแคลนและควรได้ได้รับการสนับสนุน จึงได้เริ่มทำเงียบ ๆ อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันที่โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) โดยนำเงินเดือนส่วนหนึ่ง และปีไหนเงินไม่พอก็จะกลับไปทำไร่ที่บ้าน แล้วนำเงินที่ได้มารวบรวมซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก ให้กับนักเรียน ราคาเรื่องละประมาณ 15,000 บาท บางปีจะสูงถึง 19,000 บาท 1 ปี จะได้ประมาณ 3-4 เครื่อง ซึ่งทำมาตลอด 10 ปี หลังจากที่ซื้อและมอบให้นักเรียนไป พบว่าทุกคนสามารถใช้อย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์ต่อตัวเองและประสบความสำเร็จทางการศึกษา หลาย ๆ คนสามารถคว้าทุนการศึกษาหรือนำไปรับทำงานพิเศษด้านคอมพิวเตอร์สร้างรายได้เสริมช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง

ครูโอ้น กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ตนเองมอบให้นักเรียนไปตนไม่เคยขอคืน โดยให้ไปเลยฟรี ๆ ตนอยากให้นักเรียนได้รับโอกาสเหมือนเพื่อน บางคนไม่มีเงิน บ้านที่ตนเองไปเยี่ยม ส่วนใหญ่บ้านจะยากจน บางรายพ่อแม่หาเช้ากินค่ำ ไม่เงินให้ลูกซื้อคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊ก ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ที่ตนได้ใช้เงินส่วนตัวซื้อและมอบให้นักเรียนไป ได้เห็นนักเรียนประสบความสำเร็จ ตนก็ดีใจและภูมิใจที่สุด โดยที่ตนเองไม่หวังสิ่งตอบแทนขอเพียงเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนและทำประโยชน์มีโอกาสช่วยเหลือน้อง ๆ ที่ด้อยโอกาสแบบนี้บ้าง


ภาพ/ข่าว  ตาเป้ จ.ราชบุรี

นนทบุรี - แม่ค้าซื้อของเก่าพบลูกปืนคอ 82 ขณะกำแยกของ แจ้งชุดเก็บกู้ระเบิดตรวจสอบ

เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 9 เม.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด (อีโอดี) เข้าตรวจสอบที่บริเวณบ้านเช่าติดกัน 6 หลัง ประขานิเวศน์ 3 ซอย 10/1 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี พบลูกปืนคอจำนวน 1ลูกลักษณะเก่าสนิมจับวางอยู่ข้างเสาไฟฟ้าหน้าบ้านเช่าดังกล่าว 

นาง เมธาวี  ธาราธรรมรัตน์ กล่าว่าตนมีอาชีพรับซื้อของเก่าไปซื้อแถวแจ้งวัฒนะมากองหน้าบ้านที่ตนเช่าอยู่ระหว่างกำลังแยกของเมื่อช่วงเช้าพบระเบิดอยู่ในกล่องกระดาษตกใจมากจึงนำไปวางไว้ตรงเสาไฟฟ้าหน้าบ้านและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด(อีโอดี) มาถึงและตรวจสอบอย่างละเอียดจึงพบว่า วัตถุดังกล่าวเป็นเป็นลูกกระสุนปืนคอ 82 อานุภาพการทำลายล้างสูงหากใช้การได้  และจากการตรวจสอบพบว่าลูกปืนคอดังกล่าวยังอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ และไม่สามารถระเบิดขึ้นได้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถูระเบิด (EOD) ได้ทำการเก็บกู้เพื่อนำไปทำลายต่อ


ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน

พิจิตร - พบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นชายอายุ 31 ปี 1 ราย มีประวัติเที่ยวผับย่านทองหล่อ

วันที่ 9 เม.ย. 2564 นายรังสรรค์  ตันเจริญ  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ นายกมล กัญญาประสิทธิ์. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวว่าในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด19  มาเป็นเวลาถึง 93 วัน แต่วันนี้ได้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19  เป็นชายอายุ 31 ปี  1 ราย จากการสอบประวัติมีอาชีพเป็นพนักงานขายทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเผยไทม์ไลน์ 

ว่าเมื่อวันที่ 2 เม.ย 64 ไปหาเพื่อนที่คอนโด จากนั้นไปเที่ยวผับย่านทองหล่อกับเพื่อน  ออกจากผับก็ไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งเพียงคนเดียว  

วันที่ 4 เม.ย. 64  เดินทางกลับมาบ้านที่พิจิตรโดยรถยนต์ส่วนตัว  ซึ่งบ้านอยู่ ต.ในเมือง อ.เมืองพิจิตร นอนที่บ้านกับภรรยาและลูกสาว   

วันที่ 5 เม.ย. 64 อยู่บ้านกับภรรยาและลูก   พบกับญาติพี่น้องและลูกจ้างที่ร้านเสริมสวยของแม่ จำนวน 3 คน  จากนั้นเวลา 15.00 น. ลูกสาวไม่สบายจึงขับรถส่วนตัวพาลูกไปหาหมอที่ รพ.ชัยอรุณ     ตนเองจึงนอนพักกับแม่และลูกที่โรงพยาบาล

วันที่ 6 เม.ย. 64    ก็ขับรถไปพบลูกค้าที่อำเภอเขาค้อ และ ที่ภูทับเบิก ร่วมกับเพื่อนพนักงานในเครือบริษัท 9 คน และได้มีการสังสรรค์ร่วมกัน      

วันที่ 7 เม.ย. 64 เวลา 08.00 น. รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแต่ก็ยังพอขับรถไหว   จึงไปติดต่องานกับลูกค้าซึ่งเป็นไร่กระหล่ำปลีที่ภูทับเบิก  และแวะกินขนมจีนที่อำเภอหล่มสัก 

จนกระทั่งเวลา 15.00 น. ก็ทราบข่าวว่าเพื่อนป่วยและไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.เวชธานี  กทม.  ตนเองจึงเริ่มกังวลใจเมื่อกลับมาบ้านที่พิจิตรจึงจะไปตรวจที่ รพ.พิจิตร แต่ก็เปลี่ยนใจขอไปที่ รพ.ตะพานหิน   ซึ่งก่อนที่จะไป รพ.ตะพานหิน แวะรับประทานก๋วยจั๋บหน้า รพ.พิจิตร  ก็ได้รับทราบข่าวว่าเพื่อนที่ไปตรวจพบว่าผลเป็นบวก ติดเชื้อโควิด 19  ตนจึงรีบไปขอรับการตรวจที่ รพ.ตะพานหิน  พบบุคลากรทางการแพทย์ 3 คน และรู้ว่าผลตรวจพบเชื้อโควิด 19 เมื่อ เวลา 18.00 น. ของวันที่  8 เม.ย. 64 จึงรีบบอกกับแม่และคนในครอบครัว จำนวน 9 คน ทั้งหมดจึงได้ขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ รพ.พิจิตร  ก็ปรากฏว่า ทุกคนปลอดภัย ผลออกมาเป็นลบ นั่นหมายความถึงไม่มีเชื้อโควิด 19 ในร่างกายแต่อย่างใด ส่วนบุคคลอื่น ๆ ตามไทม์ไลน์ที่ปรากฏรวมแล้ว 36 คน ก็ต้องรอลุ้นผลตรวจว่าจะออกมาเป็นเช่นไร

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว นายรังสรรค์  ตันเจริญ  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ นายกมล กัญญาประสิทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ขอให้ชาวพิจิตรอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจ  ขอให้ใช้ชีวิตและทำมาค้าขายตามปกติ แต่ขอให้การ์ดอย่าตก  สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องพบกับผู้คนแปลกหน้าหรือไปในที่  ที่มีผู้คนเยอะ ๆ รวมถึงขอให้ปฏิบัติตามที่แพทย์และ อสม. แนะนำ ล่าสุดข้อมูลผู้ที่มาจากต่างจังหวัดลงทะเบียนแนแอพพลิเคชั่น “ปกป้องพิจิตร” มาจากพื้นที่ควบคุม  9 จังหวัด 1,553 คน พื้นที่เฝ้าระวังสูง 14 จังหวัด 226 คน พื้นที่เฝ้าระวังจาก 53 จังหวัด 180 คน รวม 1,999 คน  ซึ่งบุคคลทั้งหมดนี้อยู่ในการเฝ้าระวังของ อสม. ด้วยแล้ว


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

 

ปมุทธานี - "บิ๊กแจ๊ส" ห่วงประชาชน ให้ อบจ.ปทุมฯ เปิดบริการตรวจโควิด ฟรี ไม่มีกำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันของวันที่ 9 เมษายน 2564 ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและควบคุมโรค หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มีประชาชนจำนวนมาก เดินทางเข้าตรวจคัดกรองเจาะเลือดแรปบิทเทส เพื่อแสกนหาเชื้อโควิด-19 หลังจาก กระทรวงสาธารณสุข ประกาศว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่โซนสีแดง โดย ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ผับ บาร์ จะเปิดขายบริการได้ไม่เกิน 21.00 น.ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น

ซึ่งศูนย์ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ที่หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี  มีการเปิดให้บริการตรวจคัดกรองฟรี เพื่อหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยในวันนี้ พบว่ามีชาวปทุมธานี และประชาชนที่มีสถานที่พักในเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เดินทางเข้ามาใช้บริการตรวจเช็คเชื้อโควิด เป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ ได้จัดสถานที่โดยมีแพทย์พยาบาลจาก รพ.ปทุมธานี มาทำการเจาะเลือด ซึ่งประชาชนทุกคนที่เดินทางมาจะต้องรับบัตรคิว ที่ทาง อบจ.ฯ มีการรับรองไว้จำนวน 1500 คน ต่อวัน ปรากฎว่าเพียงแค่เวลาผ่านไปไม่ถึง 16.00 น. บัตรคิวก็หมดแล้ว ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจ ต้องเดินทางกลับและจะมารับบริการในวันรุ่งขึ้น

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า หลังจากที่มีการประกาศออกมาจาก ส่วนกลางว่าจังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดพื้นที่สีแดง ที่เสี่ยงกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น ตนรู้สึกมีความเป็นห่วงพี่น้องชาวปทุมธานี และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ปทุมธานี ทุกคน ทั้งที่ในช่วงก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการป้องกันและคัดกรองเชิงรุกกันอย่างเต็มที่ แต่เมื่อมีการระบาดในรอบ3 ก็ทำให้ทุกคนมีความหนักใจ เพราะว่ามีการแพร่กระจายของโรคนี้เร็วมาก ดังนั้นสำหรับการให้บริการตรวจเช็คหาเชื้อโควิด-19 นั้น ทาง อบจ.ปทุมธานี ได้เปิดให้บริการในวันเวลาราชการ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 - 15.00 น. โดยขั้นตอนในการมารับบริการนั้น 1.ทุกคนต้องนำบัตรประชาชนมาแสดงเพื่อลงทะเบียน (รับบัตรคิว) 2.เจาะเลือด รอฟังผลภายใน 3 นาที 3.หลังทราบผลว่าเป็นบวกหรือลบ (ถ้าเป็นผลลบ ทาง อบจ.ฯ จะออกใบรับรองให้ แต่ถ้าเป็นผลบวก ผู้เข้ารับการตรวจจะตัองเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อทำการรักษา และทาง อบจ.ฯ จะ ให้บริการวันละประมาณ 1500 คนต่อวัน โดยจะเปิดให้บริการไปตลอดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือดีขึ้น


ภาพ/ข่าว  สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน

อยุธยา - “บิ๊กโจ๊ก”ร่วมวันเด็กย้อนหลังที่กรุงเก่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ.9 ร่วมมอบจักรยาน ในงานวันเด็กย้อนหลังที่วัดศาลาปูนฯ ให้แนวคิดยึดความสามัคคี กตัญญ รักสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

วันที่ 9 เม.ย. ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาลพระนครศรีอยุธยา วัดศาลาปูนวรวิหาร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร เป็นประธานในการจัดกิจกรรมงานวันเด็กย้อนหลัง โดยมี พระครูสมุห์ สุทัสน์ คนุธสาโร และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ.9 มาร่วมงานและมอบจักรยาน 50 คันร่วมกับทางโรงเรียน ให้กับนักเรียน มีนางขวัญชนก คงพิบูลย์ รักษาการผู้อำนวยการ ให้การต้อนรับ

พระครูอนุกูลศาสนกิจกล่าวให้โอวาทกับเด็ก ๆ ทุกคนให้รักพ่อแม่และเป็นคนดีของสังคม ยึดคำสอนของพ่อแม่และคุณครู ที่สำคัญต้องมีคุณธรรม จะได้เติบโตมีอนาคต ภายในงานมีการเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับนักเรียนที่มาร่วมงาน ซึ่งอาหารที่นำมาเลี้ยงในวันนี้ มีหลากหลายเช่นสเต๊ก ขนมจีนน้ำยา ขนม อาหารญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ของพระครูอนุกูลศาสนกิจ นำมาร่วมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นการทำบุญ ภายหลังจากการแจกของขวัญให้กับนักเรียนจำนวน 163 คนที่ส่วนใหญ่เป็นจักรยานและของขวัญมากมาย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ถือโอกาสนี้ให้แง่คิดกับเด็ก ๆ ยึดคำขวัญวันเด็กปีนี้ของนายกรัฐมนตรี “เด็กไทย วิถีใหม่ รวมไทย สร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม “นั่งคือการป้องกันตนเองจากโควิด การรักษาสุขภาพอนามัย แต่สิ่งที่สำคัญที่นายกรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ คือ การรวมไทย สร้างชาติ ด้วยภักดี มีคุณธรรม คือการรักในสถาบันชาติ และพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันหลักของไทย และต้องมีความกตัญญู มุ่งมั่นหาความรู้ เพื่อที่วันหนึ่งจะได้เป็นอนาคตของประเทศชาติต่อไป


ภาพ/ข่าว  เดชา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

ปทุมธานี - บิ๊กแจ๊ส ลงพื้นที่เยี่ยมปปช.หลังพายุกระหน่ำซัดหลังคาบ้านเสียหายหลายสิบหลัง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 เมษายน 2564 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านพรธิสาร7 ต.ลำผักกูด  อ.ธัญบุรี  จ.ปทุมธานี  เนื่องด้วยประชาชนในพื้นที่ได้ประสบภัยจากพายุฤดูร้อนและลมกระโชกแรงจนทำให้บ้านที่พักอาศัยได้พังเสียหายหลายสิบหลัง

จาการสอบถาม  ดร.จักพรรดิ์  ทีฆนทัศน์ ประธานชุมชนพรธิสาร7 กล่าวว่า  เมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. ได้มีพายุฝนลมแรงจนทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน มีหลังคาบ้านและเพดานฝ้าเสียหายหลายสิบหลังและช่วงเวลานี้ด้วยภาวะเศรษฐกิจและภัยจากโควิด-19 ก็ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไม่มีรายได้ที่จะมาใช้จ่ายอยู่แล้ว ตนจึงประสานไปยัง  พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ท่านได้ลงพื้นที่มาดูประชาชนในพื้นที่ทันทีและสั่งการไปยัง ผอ.กองช่าง เพื่อมาช่วยประชาชนผู้ประสบภัยโดยด่วน ต้องขอขอบคุณท่านนายก อบจ.ที่ลงพื้นที่มาดูผู้ประสบภัยด้วยตัวเอง

ทางด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง  กล่าวว่า ตนพึ่งได้ทราบข่าวจากประธานชุมชนแห่งนี้ จึงได้ลงพื้นที่ทันที เพื่อมาดูผู้ประสบภัยเบื้องต้นก่อน ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะให้ทาง  ผอ.กองช่าง อบจ.ปทุมธานี ลงพื้นที่โดยด่วนว่าจะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไรบ้างและจะเร่งดำเนินการโดยทันที

อยุธยา - จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ททท.พระนครศรีอยุธยา จัดกิจกรรม ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ 13-15 เมษายน นี้

วันที่ 10 เมษายน 64 ที่หน้าสำนักงานการท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นางสรัลพัชร  ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายพัฒน์พงษ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ประชาสัมพันธ์จังหวัด พร้อมด้วย ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง สาธารณสุขอำเภอพระนครศรีอยุธยา ร่วมตรวจสถานที่การจัดกิจกรรม พร้อมให้คำแนะนำการจัดงานให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข

นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สงกรานต์กรุงเก่า ดูช้างเล่นน้ำ ประจำปี 2564 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2564 ภายในงานจัดให้มีการแสดงส่งเสริมสืบสานประเพณีสงกรานต์ แบบ New Normal มีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป ถ่ายรูปกับเจดีย์ทราย สรงน้ำรูปหล่อพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจาก 9 วัด เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่าง หลวงพ่อรวย วัดตะโกภาชี หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูนวัดบ้านแพน เป็นต้น โดยจะเป็นการจัดกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไรรัสโควิด-19 โดยจะจัดอุปกรณ์ที่จะสรงน้ำพระพุทธรูปไว้ให้ ผู้ที่เข้าร่วมงาน จะลดการสัมผัสอุปกรณ์ ที่จะใช้ร่วมกัน เว้นระยะห่าง การเล่นน้ำของช้างปกติ

นักท่องเที่ยวจะเล่นสาดน้ำกับช้าง เปลี่ยนเป็นการแสดงโชว์เล่นน้ำของช้าง ช้างจะเล่นสาดน้ำกันเอง แล้วให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ ความน่ารักความแสนรู้ของช้าง กิจกรรมการแต่งชุดไทยเสื้อผ้าลายดอก ถ่ายภาพกับบรรยากาศแบบไทยย้อนยุคกับมุมตัวอาคารทรงไทยของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พระนครศรีอยุธยา

ด้าน นายพัฒน์พงษ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่ากิจกรรมทั้งหมด จะแบ่งเป็นรอบ แต่ละรอบจะจำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกิน 300 คน โดยนักท่องเที่ยวต้องผ่านจุดคัดกรอง การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่รับาดโรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการปรับลดกิจกรรมที่ต้องมีการสัมผัส เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คงไว้เฉพาะการสืบสานประเพณีสงกรานต์ เท่านั้น


ภาพ/ข่าว  เดชา  อุ่นขาว  รายงานจากอยุธยา

สุโขทัย - Sukhothai Crafts and Folk Art เรียนรู้ประวัติศาสตร์ "บ้านพระพิมพ์" มรดกการพิมพ์พระเครื่อง สืบทอดจากบรรพชนสู่คนรุ่นหลัง

ศูนย์เรียนรู้บ้านพระพิมพ์ หรือบ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์ เป็นแหล่งเรียนรู้หนึ่งที่มีชื่อเสียงในเมืองเก่าสุโขทัย ตั้งอยู่ที่ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ผู้ก่อตั้งได้รวบรวมพระพิมพ์ ของเมืองสุโขทัยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น พระพิมพ์ที่ถูกค้นพบจากเมืองศรีสัชนาลัย และเมืองเก่าสุโขทัย พร้อมทั้งได้รวบรวมประวัติของวัด ผู้สร้างวัด รวมไปถึงชื่อของพิมพ์พระ ให้ถูกต้องตามความเป็นมา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ และประวัติศาสตร์ศิลปะของเมืองสุโขทัย รวมไปถึงเมืองที่มีประวัติศาสตร์ร่วมสมัยเดียวกัน เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และมรดกของบรรพชนให้แก่เยาวชน นักท่องเที่ยว และผู้สนใจทั่วไปที่มาเยือน และมาเรียนรู้ อยากรู้ อยากทราบความเป็นมาที่แน่ชัด

คุณกบ ณรงค์ชัย โตอินทร์ ผู้ก่อตั้ง ศูนย์เรียนรู้บ้านพระพิมพ์ หรือบ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์ เป็นคนรุ่นใหม่ที่ลงมือทำงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสุโขทัย เป็นนักเล่าเรื่องทางประวัติศาสตร์ที่ศึกษาค้นคว้ามาอย่างลึกซึ้ง คุณกบสืบเชื้อสายตระกูลช่างแกะสลักไม้ทำพระพุทธรูป แต่เขามีความสนใจในเรื่องงานดินมากกว่า จึงเริ่มศึกษาการทำพระพิมพ์ดินเผาสุโขทัยจริงจังและเรียนรู้มามาอย่างมากกมาย ก่อนจะมาทำด้วยตนเอง เรียนผิด เรียนถูกมาตลอดตั้งแต่เป็นเด็ก มีความสนใจมากในเรื่องโบราณ เรื่องความเชื่อ เรื่องทำพระพิมพ์

บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์ นอกจากจะเป็นที่เรียนรู้ของนักท่องเที่ยว ที่จะได้เรียนรู้รูปแบบของพุทธศิลป์สุโขทัยในแบบต่าง ๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้เรียนรู้การ “พิมพ์พระ” และ “การเผา” เพื่อให้ได้พระพิมพ์จากดินเผาเนื้อแกร่งเป็นพระเครื่องสักองค์ ที่มาที่ไปแบบไหน ถึงจะมาได้ชื่อว่า พระเครื่องที่เราบูชา และเก็บสะสมเป็นที่นิยมกันมายาวนานของคนไทยนักสะสมพระเครื่อง และชาวต่างชาติ คุณณรงค์ และคุณญาณภัทร์ โตอินทร์ (พี่กบและพี่แก้ม) ทั้ง 2 ท่านซึ่งสามารถให้ความรู้ทั้งในด้านประวัติของพระพิมพ์เมืองสุโขทัยและในด้านเทคนิคของการพิมพ์พระ และการร่วมทำกิจกรรม “พิมพ์พระ” ไม่ใช่เพียงการเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้มรดกวัฒนธรรมของพื้นที่ผ่านการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวจะได้มีส่วนร่วมในการ “สืบต่อพระพุทธศาสนา” สืบต่อไปนั้นเอง

ที่เรียกกันว่าพระพิมพ์ หรือพระเครื่องจากดินและผงจากแร่ธาตุ จากพืช คือการสร้างรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยการนำวัสดุ เช่น ดินเหนียว โลหะ ผงว่านมงคล แร่ธาตุต่าง ๆ คลุกเคล้าจนได้ที่ของส่วนผสม นำไปกดลงไปในพิมพ์ โดยแม่พิมพ์หรือตัวพิมพ์มักจะสร้างด้วยหิน โลหะ ดินเผา ไม้ หรือกระดูกสัตว์ พระพิมพ์ในเมืองสุโขทัยถูกสร้างขึ้นตามอิริยาบถต่าง ๆ ของพระพุทธองค์ คือ นั่ง นอน ยืน และเดิน หรือสร้างตามเหตุการณ์สำคัญในพระพุทธประวัติ พระพิมพ์ถูกสร้างแพร่หลายในเมืองสุโขทัย โดยมีคติและความเชื่อที่ว่าเป็นการสั่งสมบุญบารมีให้กับผู้สร้าง และยังเป็นการสืบต่ออายุของพุทธศาสนา เพื่อให้คนเหล่านั้นสืบหาความหมายในพระธรรมของพระพุทธเจ้าจากพระพิมพ์ที่คนโบราณได้สร้างไว้ให้เรียนรู้แบบอย่าง และสืบทอดกันต่อ ๆ ไป


ภาพ/ข่าว  เสนิศชนันต์ สุขกสิกร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top