Friday, 13 December 2024
Central

ลพบุรี – ทหารปืนใหญ่ค่ายภูมิพล บริจาคโลหิตสำรองให้โรงพยาบาล ในสถานการณ์โควิด-19

ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล นำกำลังพล ร่วม บริจาคโลหิต ตามโครงการ กองทัพบกบริจาคโลหิต เพื่อชาติ เพื่อเป็นโลหิตสำรองให้กับโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิตในการดูแลผู้ป่วย จากวิกฤต COVID 19 ระลอกใหม่

พลตรี ทวนชัย นัดนะรา ผู้บัญชาการศูนย์การทหารปืนใหญ่ นำกำลังพล จากหน่วยขึ้นตรงในพื้นที่ ค่ายภูมิพล ฯ ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เข้าข่ายที่เป็นผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID19 ประกอบด้วย กองพันทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 25 นาย  กองพันบริการ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 50 นาย  โรงเรียนทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จำนวน 25 นาย รวม 100 นาย เข้าร่วมบริจาคโลหิต ตามโครงการ   ทบ.บริจาคโลหิต เพื่อชาติ  ซึ่งอยู่ในภาวะขาดแคลนโลหิตสำรองไม่เพียงพอต่อการนำที่ใช่ในการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วย ในห้วงสถานการณ์การระบาด Covid 19 ระลอกใหม่ เมษายน 2564 ณ สโมสรนายทหารปืนใหญ่ ค่ายภูมิพล ต.เขาพระงาม อ.เมือง จ.ลพบุรี

โดยมีเจ้าหน้าที่ ทีมแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี และ ทีมแพทย์หมอทหาร จากหน่วยตรวจโรคศูนย์การทหารปืนใหญ่ มาคอยอำนวยความสะดวกในการตรวจคักกรองกำลังพล ที่เดินทางมาบริจาคโลหิตในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการคัดกรองและเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส COVID 19 ในสถานที่รับบริจาคอย่างเคร่งคัด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีการตรวจคัดกรองซักประวัติผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิต มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกำหนดการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่มารอบริจาคโลหิต “Social Distancing” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริจาคโลหิตทุกคน ตลอดจนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการถ่ายทอดโรคติดเชื้อ COVID19 ทางโลหิต

โดยได้โลหิตรวมทั้งสิ้น 49 ยูนิต รวม 19,600 ซีซี โดยโลหิตที่ได้จะถูกนำไปใช้เป็นโลหิตสำรอง สำหรับใช้ดูแลรักษาผู้ป่วย ในโรงพยาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ในพื้นที่รับผิดชอบ รวม 8 จังหวัด ของสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ที่ 2 ในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมแก้ปัญหาภาวะโลหิต ขาดแคลน จากสถานการณ์ การแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 รอบใหม่ เมษายน 2564 ตามนโยบายของกองทัพบก


ภาพ/ข่าว  กฤษณ์ สนใจ

ปทุมธานี - องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม จัดหน่วยตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 เวลา 09.00 น. ณ ตึกนวัตกรรม องค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานี จัดหน่วยตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม โดยมีนายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง พร้อมด้วย ผศ.(พิเศษ)ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม และ ทีมผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสามได้ลงตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่วนภายในงาน ผศ.(พิเศษ)ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสามได้ให้ความรู้ในการป้องกันตัวเองในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แก่พนักงานบริษัทและประชาชนที่มารอคิวรับการตรวจคัดกรอง

สำหรับการตรวจในครั้งนี้จะใช้การตรวจแบบเจาะเลือดแรปบิทเทสจะทราบผลภายใน 2-3 นาที เมื่อผลบวกก็ส่งไปตรวจแบบสวอปต่อ แล้วระหว่างที่รอผลสวอปภายใน 24 ชั่วโมง ก็จะมีเจ้าหน้าที่ชุดฉีดพ่นเข้าไปพ่นฆ่าเชื้อที่บ้านท่าน และขอให้ท่านกักตัวอยู่บ้าน เพื่อรอผลในวันพรุ่งนี้ หากผลสวอปเป็นลบคุณก็ปลอดภัย แต่หากผลเป็นบวกก็ต้องได้รับการรักษาตัวที่ทางภาครัฐจัดเตรียมไว้ต่อไป


ภาพ/ข่าว วะจะนะชัย วาจาพารวย

นครสวรรค์ – แมลงกระเบื้องปีกแข็ งบุกบ้านเรือนชาวบ้าน ตำบลหนองพิกุล อ.ตากฟ้า

วันที่ 29 เมษายน 2564 อบต.หนองพิกุล ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน หมู่ 1 ต.หนองพิกุล ว่ามีแมลงกระเบื้องปีกแข็ง มาก่อกวนสร้างความรำคาญ และมีจำนวนมากขึ้นตามผนังบ้านและภายในบ้าน จึงแจ้งมายัง อบต.หนองพิกุล ให้เจ้าหน้าที่ช่วยไปกำจัดแมลงกระเบื้องปีกแข็งให้ด้วย ดังนั้น นางสุวรรณา แจ้งมณี นายก อบต.หนองพิกุล มอบหมายให้ นายบุญมั่น มั่นนวล เลขานายกฯ รองปลัดฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.หนองพิกุล และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เข้าช่วยเหลือชาวบ้านและทำการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงกระเบื้องภายในที่พักอาศัยของชาวบ้าน หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์  2 หลัง คือ บ้าน นางเล็กอิ่มแย้ม บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล และบ้าน นางสาวลัดดา พันทะท้าว บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 บ้านหนองพิกุล

เนื่องจากแมลงกระเบื้องจะออกมาในช่วงฤดูฝน จึงได้นำเครื่องพ่นฝอยละออง ฉีดพ่นบริเวณโดยรอบที่อยู่อาศัย ฉีดให้โดนตัวแมลงจะตกมาตาย และสารเคมีที่ฉีดพ่นจะตกค้างอยู่ที่พื้นบริเวณบ้านประมาณ 6 เดือน ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง  หากบ้านเรือนประชาชนท่านใดมีแมลงกระเบื้องปีกแข็ง เข้ามาที่อยู่อาศัยจำนวนมากไม่สามารถกำจัดด้วยตนเองได้ โปรดแจ้งหรือมายื่นคำร้องขอความช่วยเหลือได้ที่ อบต.หนองพิกุล ได้ในเวลาราชการ ถ้าไม่ติดภารกิจก็จะออกปฏิบัติในทันที ทันต่อเหตุการณ์ในการกำจัดแมงกระเบื้องปีกแข็ง ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านทันที 


ภาพ/ข่าว สมเกียรติ วงษ์อยู่น้อย ตาคลีรายงาน

ปทุมธานี – นายกแจ๊ส เดินหน้าพัฒนาสระเก็บน้ำพระรามเก้า ควบคู่ท้องฟ้าจำลองรังสิตเป็นแลนด์มาร์คแหล่งใหม่

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 เวลา 15:00 น. ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เพื่อร่วมประชุมวางแผน ขับเคลื่อนและบูรณาการการมีส่วนร่วมดำเนินการภายใต้โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมเพิ่มต้นทุนทางธรรมชาติให้แก่เมืองพื้นที่โครงการขยายผลสระเก็บน้ำพระรามเก้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บนเนื้อที่ 1,700 ไร่ ให้เป็นแหล่งพักผ่อนออกกำลังกายของชาวปทุมธานี

โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี และ ดร.ปรีชา ชื่นชนกพิบูล เลขานุการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อม ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม , ผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.ปทุมธานี ได้เยี่ยมสำรวจ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เพื่อวางแผนพัฒนาให้ควบคู่ไปกับโครงการพัฒนาสระเก็บน้ำพระราม 9 ซึ่งอยู่ระหว่างขอใช้พื้นที่จาก มูลนิธิชัยพัฒนา ให้เป็นแหล่งพักผ่อนออกกำลังกายของชาวปทุมธานี โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิตอยู่ติดกับสระเก็บน้ำพระรามเก้า ได้ให้บริการการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ภายในศูนย์ฯ มีกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านนิทรรศการ ค่ายวิทยาศาสตร์ ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ กิจกรรมเสริมทักษะ วิทยาศาสตร์เคลื่อนที่ การบริการวิชาการ การประกวดแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ และท้องฟ้าจำลอง

ว่าที่ ร.อ.อาศิส เชยกลิ่น ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต กล่าวว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ภายในสังกัดปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีพื้นที่ 60 ไร่ ในส่วนของตัวอาคารมี 4 ชั้น ที่ให้บริการชมนิทรรศการ 20 นิทรรศการ ที่รองรับน้อง ๆ นักเรียนเข้ามาเยี่ยมชมแล้วได้ความรู้กลับไป ซึ่งภายในนิทรรศการจะมีสิ่งที่น่าสนใจทั้งวิชาการและความสนุก นอกจากนี้ยังมีท้องฟ้าจำลอง ขนาด 160 ที่นั่ง ขนาดใหญ่ที่สุดรองจากทองฟ้าจำลองเอกมัย ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงที่เอากล้องตัวใหม่จากต่างประเทศเข้ามา คาดว่าเดือนตุลาคม 2564 จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ แต่ในส่วนที่ให้บริการด้านนิทรรศการยังคงให้บริการปกติ เรามีค่ายเยาวชนราคาประหยัด มีกิจกรรมเสริมสมองให้กับเด็ก ๆ  หน่วยงานไหนไม่มีงบประมาณ เราก็มีงบในการสนับสนุนเพื่อการศึกษาได้

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี  กล่าวว่า เนื่องจากผมได้มีนโยบายในการพัฒนาสระเก็บน้ำพระรามเก้า เมื่อมาดูในมุมสูงจะเห็นว่าสระเก็บน้ำพระรามเก้ามีขนาดใหญ่มาก เฉพาะฉะนั้นเมื่อสระเก็บน้ำพระรามเก้าและศูนย์วิทย์ฯ ต้องมีการพัฒนาไปด้วยกัน บริเวณนี้จะเป็นแลนด์มาร์คที่ดี อาจจะพัฒนามีหอสูงเพื่อชมวิวบริเวณนี้ซึ่งจะสวยงามมาก ในส่วนของสระเก็บน้ำพระรามเก้าเราทำแน่นอนที่จะทำเป็นสถานที่ออกกำลังกาย พี่น้องชาวปทุมธานีมาปั่นจักรยานรอบสระน้ำพระรามเก้า รวมถึงมีกิจกรรมทางน้ำ มีการแสดงขนบธรรมเนียมประเพณีทางน้ำ ประเพณีมอญ มีศูนย์อาหาร สินค้าโอทอปของจังหวัดปทุมธานี ทุกอย่างจะควบคู่กันไปหมด เพื่อจุงใจให้พี่น้องชาวจังหวัดอื่น ๆ มาท่องเที่ยวจังหวัดปทุมธานี และทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดปทุมธานีดีขึ้น สระเก็บน้ำพระรามเก้าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นปอดของคนปทุมธานี จากที่ตนเองได้ไปดูงานที่ต่างประเทศมาแล้วหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาทางการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่ง เศรษฐกิจนำเงินเข้าประเทศมากมายเราตื่นตาตื่นใจกับเขา แต่ในบ้านเรามีดีกว่าเขาเยอะขาดเเต่การพัฒนา ซึ่งสระเก็บน้ำพระรามเก้ามีพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ ตนเองสามารถนำความรู้ที่ไปดูงานมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และพัฒนาเด็กไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นเด็กประถมศึกษาในจังหวัดปทุมธานีต้องมาดูท้องฟ้าจำลองที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ศึกษาดาราศาสตร์ที่จังหวัดปทุมธานี และเด็กที่อื่นต้องมาดูที่จังหวัดปทุมธานี นอกจากนี้ยังจะสร้างห้องสมุด อบจ.ปทุมธานี เพื่อคนปทุมธานีที่นี่ด้วย


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ  

ปทุมธานี – รองผู้ว่าฯ จ.ปทุมธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัด ครั้งที่ 7/2564 ผ่านระบบ Video Conference

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมบัวหลวง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี อำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี นายสุพจน์  รอดเรือง ณ หนองคาย รอง ผวจ.ปทุมธานี  เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัด ครั้งที่7/2564 ผ่านระบบ Video Conference โดยมี นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช , นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าฯ พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.อ.ชิตพล กึนสี รองผอ.รมน.จ.ปทุมธานี และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัด จังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมประชุม 

โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ร่วมประชุมผ่านระบบ Video Conference ในครั้งนี้เช่นกัน ในที่ประชุมได้มีพิธีมอบโล่ให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ที่ไม่มีสถิติผู้เสียชีวิตในพื้นที่ ได้แก่ อ.ลาดหลุมแก้ว และ อ.สามโคก หลังจากนั้นได้มีการมอบเข็มเชิดชูเกียรติ (ครุฑทองคำ) และประกาศเกียรติบัตรให้แก่ พล.ต.ต.ชยุตฯ กับพวก รวม 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ท่ีได้รับการคัดเลือกจากคณะอนุกรรม การคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ระดับประเทศ ให้เป็นข้าราชการพลเรือน ดีเด่น จ.ปทุมธานี ประจำปี 2563 และมอบเกียรติบัตรข้าราชการพลเรือน ดีเด่น จ.ปทุมธานี อีกจำนวน 11 ราย


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

สุโขทัย - Sukhothai Crafts and Folk Art “ลวดลายจากสังคโลกสู่ผืนผ้า”ที่ "บ้านปรีดาภิรมย์"

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ในเขตชุมชนเมืองเก่า จ.สุโขทัย มีบ้านไม้หลังหนึ่ง รอให้ทุกคนได้มาสร้างสรรค์ลวดลายสังคโลกลงบนผืนผ้าที่ “บ้านปรีดาภิรมย์” ที่นี่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบและความหมายของลวดลายสังคโลกซึ่งถือเป็นงานหัตถกรรมที่สำคัญของสุโขทัยมาช้านาน โดยปกติแล้วเรามักจะเห็นลวดลายสังคโลกอยู่บนเซรามิก

แต่เมื่อ คุณธารารัตน์ ปรีดาภิรมย์ หรือฝน และชาวบ้านชุมชนเมืองเก่าต้องการที่จะอนุรักษ์ สืบสานลวดลายบนเครื่องสังคโลกเอาไว้ไม่ ให้หายไปตามกาลเวลา จึงเกิดเป็นกิจกรรมเวิร์คช้อปดีๆ ให้นักท่องเที่ยว และบุคคลทั่วไปที่สนใจได้เข้ามามีส่วนร่วมในการหัดเขียนลวดลายสังคโลก

การลงมือวาดลวดลายต่าง ๆ ลงบนผืนผ้า เสื้อยืด กระเป๋าหรือโคมไฟ ไม่ว่าจะเป็น ลวดลายสัตว์ (ลายปลา ลายนกคุ้ม) ลวดลายพืชพรรณ (ลายดอกบัว ต้นไม้) และลวดลายเรขาคณิตแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กับวิถีชีวิต สังคม ความเชื่อและรูปแบบศิลปะเฉพาะของสุโขทัย จะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้เกิดความเข้าใจในคุณค่าของ “จิตวิญญาณของวัฒนธรรม” เมืองสุโขทัย และเข้าใจอัตลักษณ์ของความเป็นสุโขทัยมากขึ้น


ภาพ/ข่าว  เสนิศชนันต์ สุขกสิกร

สุโขทัย – ไม้กวาดทางมะพร้าว ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และรักษาสิ่งแวดล้อม

ไม้กวาดถือว่าเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทุกครัวเรือนจะต้องมีไว้ใช้ จะขาดไม่ได้ สำหรับไม้กวาดยังแบ่งออกเป็นหลายชนิดแตกต่างการใช้งานกันไป ที่สวรรคโลกคนรุ่นเก่าที่ยังรักอาชีพทำไม้กวาดขายจากภูมิปัญญา ไม้กวาดที่ทำจากทางมะพร้าว ไม้ไผ่ เพื่อใช้สำหรับกวาดพื้นทำความสะอาด ที่ยังมีให้พบเห็นกันอยู่บ้าง

นายจำลอง คัมภีรพจน์ อายุ 71 ปี หรือลุงแจ้ ผู้ประกอบอาชีพรายได้เสริมจากการทำไม้กวาดทางมะพร้าวชายส่งตามร้านต่าง ๆ และขายให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงในราคากันเอง โดยโรงงานที่ผลิตงานที่เขารักนั้นไม่ได้ลงทุนสร้างโรงงานใหญ่โตอะไร ใช้บ้านที่พักอาศัยที่ตั้งอยู่เลขที่ 25 ถนนพิชัยตัดใหม่ ชาวชุมชนเด่นพิชัย ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ตั้งเป็นโรงงานขนาดนิมิอยากทำตรงไหนนั่งตรงนั้น นอกจากจะทำไม้กวาดทางมะพร้าวจำหน่ายภายในชุมชนและร้านต่างๆแล้ว ยังเป็นผู้ที่ถ่ายทอดการทำไม้ทางมะพร้าวให้กับชาวบ้านในชุมชนหรือคนว่างงาน อยากมรอาชีพเสริม ก็ยินดีสอนให้กับคนที่สนใจ  ขั้นตอนในการทำนั้นไม้กวาดทางมะพร้าว1อัน จะประกอบด้วยตัวด้ามที่ทำจากไม้ไผ่ ก้านมะพร้าวที่เหลาเอาใบออก และเชือกสำหรับถักก้านมะพร้าวก่อนที่จะนำมาเข้ากับตัวด้าม 

ลุงแจ้เล้าให้ฟังว่าสมัยเด็กเวลาเดินไปโรงเรียนจะเห็นชาวบ้านนั่งทำไม้กวาดทางมะพร้าวไว้ใช้กวาดใบไม้หน้าบ้าน ด้วยความสนใจจึงได้ไปฝึกหัดทำจนได้สืบทอกการทำไม้กวาดทางมะพร้าวมาจนถึงทุกวันนี้ และยังมีโอกาสได้ถ่ายทอดการทำไม้กวาดทางมะพร้าวให้กับคนในชุมชนอีกด้วยเพื่อส่งขายเป็นรายได้เสริมให้กับกลุ่มชุมชน สำหรับราคาขายจะอยู่ที่ด้ามละ 35 บาท  3 ด้าน 100 บาทเท่านั้น

ประโยชน์ของไม้กวาดทางมะพร้าวนี้ ใช้ในการกวาดพื้น  ปัดหยากไย่  หรือใช้ในการทำความสะอาดครัวเรือน กวาดนำขังพื้น ข้อดีคือคนในชุมชนสามารถผลิตใช้กันเองได้ และจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว  มีความทนทาน ใช้งานได้ดี ขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน คุณภาพคงทน ใช้ได้นานไม่หลุดขณะกวาด ทำให้ไม่สิ้นเปลื้องเวลาและพลังงานในการใช้งาน การมีเอกลักษณ์ ลวดลายจากการมัด ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นชุมชนนั้น ๆ ก็มี เพราะจะขึ้นลายมัดเชือกเข้ากับตัวไม้กวาดจะเป็นไปในแบบเดียวกัน  สื่อถึงการเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม และคนในชุมชนนั้นได้ดี 

วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น ไม้ไผ่  เอาไว้สำหรับทำด้ามไม้กวาด  ส่วนใบจากมะพร้าว หรือทางมะพร้าวก็หาได้ตามแหล่งต่าง ๆ จากธรรมชาติ จากแหล่งปลูก จัดหาก้านใบย่อยของทางมะพร้าว โดยตัดก้านใบย่อยตรงโคนก้านออกจากทางมะพร้าว นาใบมะพร้าวมากรีดแยกแผ่นใบทั้งสองข้างออก ก่อนนาไปตากแดดให้แห้ง จากนั้น ตัดโคนก้านให้เสมอกัน ก่อนนามามัดติดเป็นแผงกับด้ามไม้ไผ่ 

หากรู้วิธีการใช้ให้ถูกต้อง ก็จะใช้งานไม้กวาดทางมะพร้าวได้ยาวนาน ลุงแจ้บอกวิธีการใช้ว่า ไม้กวาดทางมะพร้าวสาหรับกวาดบนปูนซีเมนต์ จะต้องใช้ก้านใบมะพร้าวที่มีลักษณะอ่อน โค้งตัวได้ดี ได้จากทางมะพร้าวที่ไม่แก่มาก แผ่นใบ และก้านใบยังมีสีเขียวสด ไม้กวาดทางมะพร้าวสำหรับกวาดบนพื้นดิน จะต้องใช้ก้านใบมะพร้าวที่มีลักษณะแข็ง ได้จากทางมะพร้าวที่แก่เต็มที่แล้ว แผ่นใบมีสีเขียวเข้มหรือสีเหลือง และก้านใบมีสีน้าตาล มีลักษณะแข็ง การเลือกใช้ด้ามไม้กวาด ด้ามไม้กวาดทางมะพร้าว ทำได้จากไม้หลายชนิด ได้แก่ ไม่ไผ่ ไม้ข่อย ไม้กระถิน เป็นต้น แต่ที่นิยมมาก คือ ด้ามไม้กวาดจากไม้ไผ่ตันนั้นเอง เพราะขนาดลาไม้เหมาะแก่การจับ มีน้าหนักเบา มีความแข็งแรง ทนทาน ซึ่งจะได้ด้ามไม้ไผ่ พร้อมมัดหรือตอกติดกับก้านใบมะพร้าวได้อย่างดีทำให้ไม่กวาดแข็งแรง ใช้งานได้นานนั้นเอง

สระบุรี – ชาวบ้านตำบลไผ่ขวาง แห่เก็บแมงเม่าทำอาหารรสเด็ด 1 ปีจะมีแค่ครั้งเดียว

วันที่ 3 พ.ค. 64 ชาวบ้าน หมู่ 4 ตำบลไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี  แห่ออกหาแมลงเม่า บริเวณศาลาพักผู้โดยสาร และข้างถนนโพธิ์พระยา- ท่าเรือ ซึ่งมีแมลงเม่าเป็นจำนวนมากเกาะอยู่ตามพื้นศาลาพักผู้โดยสาร และเกาะอยู่ริมถนน แมลงเม่าลักษณะจะมีปีกและจะออกมาเล่นแสงไฟตามบ้านเรือนประชาชน ตลอดจนไฟส่องสว่างตามถนน ซึ่งส่วนใหญ่แมลงเม่าจะมีออกมาให้เห็นช่วงฤดูฝนเท่านั้น ปีนึ่งจะมีให้เห็นเพียงครั้งเดียว เป็นที่ต้องการของนักเปิบอาหารแปลกรสชาติอร่อย นำไปแช่น้ำเพื่อให้ปีกของแมลงเม่าหลุดออก แล้วนำตัวไปใส่กระทะคั่ว ใส่น้ำปลาเล็กน้อย อร่อยอย่าบอกใคร

ด้านนายพงศักดิ์  โพธิ์ทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่4 ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี วันนี้ตนได้มากับแม่เพื่อออกหาเก็บแมลงเม่า ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในวันนี้ได้พบแมลงเม่าเป็นจำนวนมากที่บริเวณศาลาพักผู้โดยสารริมทาง เล่าว่าปีนึ่งจะมีแมลงเม่าสักครั้ง มีเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น  แมลงเม่าที่ได้ไปจะนำไปคั่วใส่น้ำปลานิดหน่อย รสชาติจะออกมันๆ กินเล่นก็ได้หรือกินกับข้าวสวยร้อนก็อร่อย วันนี้ตนได้แมลงเม่าจำนวนมากหนักประมาณ 3 กิโลกรัมได้  ซึ่งแมลงเม่าจะหาได้ยากมากและเป็นที่ต้องการของชาวบ้านตำบลไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ 

(สัมภาษณ์ นายพงศักดิ์  โพธิ์ทอง)


ภาพ/ข่าว  ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ

นนทบุรี – กรมพลาธิการทหารบก ส่งมอบโรงพยาบาลสนามให้แก่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 2 อาคาร 200 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว

วันนี้ ( 5 พ.ค.64)เวลา 10.00 น. ที่ กองยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบก อำเภอเมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พลโท กิตติชัย วงศ์หาญ  เจ้ากรมพลาธิการทหารบก พร้อมคณะนายทหาร ส่งมอบมอบโรงพยาบาลสนามให้แก่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจำนวน 2 อาคาร 200 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว โดยมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ พร้อมคณะแพทย์และพยาบาลร่วมรับมอบโรงพยาบาลสนามดังกล่าว 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา กองทัพบกได้ตระหนักถึงความสำคัญและเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการเตรียมพื้นที่ในการช่วยเหลือประชาชนสนับสนุนหน่วยงานราชการต่าง ๆ และกระทรวงสาธารณสุข จึงมอบหมายให้กรมพลาธิการทหารบก จัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 (COVID -19) กรณีเกินขีดความสามารถในการรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลหลัก และได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารกองคลังยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบกเป็น โรงพยาบาลสนาม ประกอบด้วยอาคาร 2 อาคาร การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 200 เตียง ณ กองยกกระบัตร กรมพลาธิการทหารบก ในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและ รองรับผู้ป่วยกรณีโรงพยาบาลหลักเกินขีดความสามารถที่จะดูแลผู้ป่วยได้ทั้งหมด โดยรับผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาและสังเกตอาการจากโรงพยาบาล กรณีอาการไม่รุนแรง(กลุ่มสีเขียว) ให้มาพักรักษาและติดตามอาการต่อเนื่อง จนกว่าผลตรวจจะเป็นลบหรือไม่พบเชื้อแล้ว แต่หากพบว่ามีอาการหนักขึ้น ก็จะถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลหลักทันที

นอกจากนี้ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สนับสนุนนำเทคโนโลยี 5G และนวัตกรรมต่าง ๆ เข้าไปสนับสนุนการทำงาน การเว้นระยะห่างของการทำงานของแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ฯ ( Social distancing ) เพื่อช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกระดับให้การทำงานของทีมแพทย์ และบุคลากรต่าง ๆ ไร้อุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ด้วย

ลพบุรี – ทหารกองพันจู่โจม บริจาคโลหิตเพื่อชาติในวันฉัตรมงคล

กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ ค่ายเอราวัณ นำกำลังพลจิตอาสา กว่า 100 นาย บริจาคโลหิต ตามโครงการ “ กองทัพบก บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ ” เพื่อเป็นโลหิตสำรอง ซึ่งอยู่ใน ภาวะขาดแคลนโลหิต เนื่องในวัน “ ฉัตรมงคล ” ประจำปี 2564

พันโท มงคล ปุริสา ผู้บังคับกองพันจู่โจมรักษาพระองค์  กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ นำกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน “ เราทำความดี ด้วยหัวใจ ” และกำลังพลของหน่วย ซึ่งได้ผ่านคัดกรองจากหน่วยแล้วว่าเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างการแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เป็นผู้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด-19 จำนวน 103 นาย เข้าร่วมบริจาคโลหิต ตามโครงการ  “ กองทัพบก บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ ” ณ อาคารเอนกประสงค์ประภูชะเนย์ กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ ค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี  เพื่อส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัย ตามมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้กับสภากาชาดไทย สำหรับใช้เป็นโลหิตสำรองให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งอยู่ใน ภาวะขาดแคลนโลหิต ตลอดจน เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความรู้รักสามัคคี และความเสียสละ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย เนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2564

โดยมี ทีมแพทย์ พยาบาล จากสำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี มาคอยอำนวยความสะดวกในการตรวจคักกรอง และให้บริการรับบริจาคโลหิตจากกำลังพล โดยมีการตรวจคัดกรองซักประวัติผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิต มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกำหนดการเว้นระยะห่างระหว่างกำลังพลที่มารอบริจาคโลหิต “Social Distancing” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริจาคโลหิตทุกคน และเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยที่ต้องรับโลหิตจากการรักษาพยาบาล       

ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมแก้ปัญหาภาวะโลหิตขาดแคลน จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID -19 ระลอกใหม่ ตามนโยบายของกองทัพบก โดยมีโลหิตที่ได้ จำนวน 91 ยูนิต รวม 36,400 ซีซี โดยโลหิตที่ได้จะถูกนำไปใช้เป็นโลหิตสำรองให้กับธนาคารเลือด สำหรับใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และจังหวัดใกล้เคียงในโอกาสต่อไป


ภาพ/ข่าว  กฤษณ์  สนใจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top