Wednesday, 26 June 2024
เพื่อไทย

‘สว.เสรี’ แนะ ‘เพื่อไทย’ รวมเสียงจัดตั้ง รบ. ให้ครบก่อน เชื่อ!! ‘สว.’ ยกมือให้ หากไม่มีนโยบายกระทบสถาบัน

(24 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จัดคณะพูดคุยกับสมาชิกวุฒิสภา เพื่อหาทางออกวิกฤตประเทศ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ว่า พรรคเพื่อไทย ไม่จำเป็นต้องมา เพราะจุดยืนของ สว. ชัดเจนแล้วว่า หากมีพรรคการเมืองใดที่จะแก้รัฐธรรมนูญในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 หรือแก้ไขกฎหมายใดที่จะไปกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ สว. ก็จะไม่สนับสนุน และหากมีการพูดคุยกับคณะเจรจาของพรรคเพื่อไทย ก็อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีบทบัญญัติถึงการทำหน้าที่ของ สว. ที่จะต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง ดังนั้นจึงเห็นว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ต้องเดินทางมาพูดคุยกับ สว. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา

เมื่อถามว่าหากการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่จะนำเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โดยพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน สว. จะสนับสนุนหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า กระบวนการพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก็จะต้องนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมตามปกติ ขอแนะนำให้พรรคเพื่อไทย รวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลให้เพียงพอ และมีนโยบายที่ไม่กระทบต่อสถาบันหลักของชาติ ก็เชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาพร้อมสนับสนุน เพราะมองว่ากระบวนการแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลนั้น เป็นข้ออ้างที่ใช้เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น

เมื่อถามว่า เห็นอย่างไรที่นายสมชาย แสวงการ สว. เสนอให้เลื่อนวันโหวตนายกฯ จากวันที่ 27 ก.ค. 66 ออกไปก่อน หลังกระบวนการเจรจาพูดคุยของพรรคเพื่อไทยยังไม่เสร็จสิ้น นายเสรี กล่าวว่า สว.ไม่มีความขัดข้องว่าจะมีการประชุมรัฐสภาให้เลือกนายกรัฐมนตรีในวันใด แต่ขอให้พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลไปพูดคุยตกลงกันให้ได้ข้อสรุปก่อน 

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เตรียมเปิดเผยข้อมูลลับของนายเศรษฐา ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ จะมีผลต่อการตัดสินใจลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่นั้น นายเสรี กล่าวว่า จะต้องไปพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ เพราะหากมีการฟังความข้างเดียวก็อาจไม่เป็นธรรม ดังนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน

‘เพื่อไทย’ รีบแจงเหตุ ยัน!! ไม่มีดีลลับ คุยกับทุกพรรคเปิดเผย มุ่งเดินหน้าหาเสียงเพิ่ม ชี้ หากไม่คุยกับใคร ก็อาจไม่มีคะแนน

(24 ก.ค. 66) พรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @PheuThaiParty ระบุว่า...

พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งรับภารกิจมาจากพรรคก้าวไกล และ 8 พรรคร่วม

เราไม่มีดีลลับ เราพูดคุยกับทุกพรรคอย่างเปิดเผย กับ สว.ก็มีคนไปคุย เพื่อบอก ‘เพื่อน 8 พรรค’

เราเดินหน้าทำงานหาเสียงเพิ่ม เติมเสียงใหม่ เพราะหากไม่คุยกับใคร ก็อาจไม่มีคะแนน

ข้อความดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาชนรุมกระหน่ำ ‘ทัวร์ลง’ พรรคเพื่อไทย ที่หันไปเจรจากับพรรคการเมืองซีกพรรคร่วมรัฐบาลเดิม

‘ชลน่าน’ ยัน!! ‘เพื่อไทย’ พยายามจัดตั้ง รบ. ให้สำเร็จ ชี้!! เลื่อนโหวตนายกฯ ขึ้นอยู่กับความเห็นวิป 3 ฝ่าย

(24 ก.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงการประสานพูดคุยกับ สว. อย่างไรบ้างว่า พรรคเพื่อไทยมีคณะทำงานไปพูดคุยกับ สว.รายบุคคล ไม่มีการเชิญมาลักษณะองค์กรหรือตัวแทน สว. เช่นตนก็ไปประสาน สว. ที่รู้จักแล้วเอาสิ่งที่ได้รับมาสรุปกัน โดยการพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมวันที่ 25 ก.ค.นั้น วาระสำคัญคือนำการบ้านที่ 8 พรรคร่วมมอบให้เพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำไปดำเนินการ สิ่งที่เราจะเสนอคือคำตอบของสว.และสส.ว่าตอบอย่างไร มีความเห็น เงื่อนไขอย่-างไร เมื่อถามว่ามีคำแนะนำจากสว.บางส่วนออกมาบอกว่าหากไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เขาพร้อมโหวตให้ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นคำตอบของ สว. แต่ละท่าน เป็นข้อมูลนำเข้าที่จะไปพูดคุยในที่ประชุม 

เมื่อถามว่าในส่วนที่ นพ.ชลน่าน ได้พูดคุยกับ สว. ได้รับเสียงสะท้อนมาอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลายคนที่ตนได้พูดคุยก็ได้ยืนยันว่าไม่ยึดติด ว่าใครได้เป็นรัฐบาล แต่เจตนารมณ์คือยึดหลักการเดิมเหมือนที่ได้เสนอไปในรัฐสภาวันที่ 13 ก.ค. เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะสรุปเนื้อหาที่ได้พูดคุยกับ สว.วันไหน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราพยายามทำให้เสร็จก่อนหารือกับ 8 พรรควันที่ 25 ก.ค. 

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้เลื่อนโหวตออกไป 10 เดือนจนกว่า สว .จะหมดอำนาจ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร สิ่งที่เราต้องมาดูในรายละเอียดคือผลสัมฤทธิ์จะเป็นตามที่เราคาดหวังหรือไม่ แต่ระบบรัฐสภาเป็นระบบเสียงข้างมาก หนึ่งเสียงชนะสองเสียงไม่ได้ แม้เราอยากจับมือกันไป 10 เดือน ถ้าเสียงข้างมากเขาไม่ยอม แทนที่จะได้สิ่งที่เราต้องการเหมือนไปส่งเสริมสิ่งที่ทุกคนไม่อยากทำ ข้อแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ตลอด นี่คือผลกระทบทางการเมือง สิ่งที่คาดการณ์กันไว้อาจเกิดขึ้นได้ เพราะ สส. หนึ่งคนมีสิทธิ์เท่ากันแต่ใครจะมีเสียงมากกว่ากันในระบบเสียงข้างมาก เป็นสิ่งที่พึงระวัง เราคิดแบบโลกสวยไม่ได้ ในทางการเมืองมันมีหลายมิติ ก็ต้องมาคิดกันว่าถ้าเราไม่ทำ แพ็กกันแน่นอยู่แบบนี้ แล้วคนอื่นไม่มีวิธีคิดหรือ เขาก็มีวิธีคิด และเขาก็สามารถรวบรวมเสียงได้ในที่ประชุมรัฐสภา ถามว่าเราทำอะไรได้ เราก็ต้องยอมรับ แม้แต่การโหวตข้อบังคับว่าการเลือกนายกฯ เป็นญัตติทั้งที่เราบอกว่าไม่ใช่ เมื่อแพ้เราก็ต้องยอมรับ เมื่อถามว่าในทางการเมืองสามารถรอ 10 เดือนให้ สว. หมดอำนาจได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่ตนตอบไปคือมิติทางการเมืองที่เรากลัว อีกทั้งยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เราต้องไปดูในรายละเอียด 

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะพิจารณากรณีที่นายสมชาย แสวงการ สว. ที่ออกมาเสนอให้เลื่อนการโหวตนายกฯ จากวันที่ 27 ก.ค. ออกไปก่อนหากยังไม่พร้อม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การเลื่อนประชุมเป็นอำนาจประธานรัฐสภา และขึ้นอยู่กับความเห็นวิปทั้ง 3 ฝ่าย อย่าง 8 พรรคร่วมเป็นเพียงความเห็นของหนึ่งใน 3 ที่จะเสนอ ถ้าเราพร้อมแต่อีกสองฝ่ายไม่พร้อม ประธานรัฐสภาก็สามารถเลื่อนได้จึงต้องฟังความเห็นของทั้ง 3 ฝ่าย 

เมื่อถามว่าขณะนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีการหยิบยกเรื่องเลื่อนการโหวตนายกฯ มาพูดคุยบ้างหรือยัง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังครับ เราดำเนินการตามกระบวนการที่กำลังดำเนินการอยู่ สิ่งที่พอจะตอบได้คือทิศทางที่จะได้พูดคุยกันวันที่ 25 ก.ค. ผลเป็นอย่างไร ตรงนั้นจะนำมาประกอบการพิจารณา 

เมื่อถามว่าเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยขณะนี้คือการโหวตนายกฯ วันที่ 27 ก.ค. ให้ได้เสียงเกิน 375 เสียงใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราเดินตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ 

เมื่อถามอีกว่าพรรคเพื่อไทยอยากเลื่อนโหวตหรือไม่เพราะจะได้พูดคุยกับ สส. และ สว. ให้ละเอียดก่อน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หน้าที่เราเอาวันที่ 27 ก.ค.เป็นตัวตั้ง เรารับโจทย์มาอย่างนั้นและพยายามทำให้ถึงที่สุด เมื่อผลการประชุมวันที่ 25 ก.ค. ออกมาก็เป็นองค์ประกอบของฝ่ายเรา แต่เข้าใจว่าการประชุมวิป 3 ฝ่ายของประธานรัฐสภาน่าจะประชุมก่อนที่เรามีความเห็น 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้หากพรรคเพื่อไทยตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด อยากจะบอกอะไรกับประชาชน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องรอดูการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นเพราะยังไม่เกิด 

เมื่อถามว่าผลการหารือกับพรรคการเมืองส่วนใหญ่มีเสียงตรงกันว่าไม่เอาพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อไปพูดกับพรรคก้าวไกลเราต้องการคำตอบอะไรจากก้าวไกล นพ.ชลน่าน กล่าวว่า โจทย์เรามีหน้าที่นำข้อมูลที่ได้รับมาเข้าสู่การประชุม 8 พรรคแล้วร่วมพิจารณา ทางเลือกทั้งหมดจะออกมาอย่างไรอยู่ที่การพูดคุย ตนยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นมุมไหน 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพูดถึงการสลาย 8 พรรค ร่วม พรรคเพื่อไทยได้นำมาคิดบ้างหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เพื่อไทยคิดหรือไม่คิดไม่มีประเด็นเพราะสิ่งสำคัญคือการตัดสินใจของ 8 พรรค 

เมื่อถามว่าขอให้ขยายความที่ได้ให้ไปสัมภาษณ์สื่อว่าหาก 2 พรรคหมดปัญญาจะมอบให้พรรคอันดับ 3 นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่อยากขยายความเดี๋ยวตีความผิดอีก ความหมายของตนคือทางเลือกมีคนเสนอเยอะ ตนเพียงจะบอกว่าทางเลือกอื่นมีคนเสนอมาทำนองนี้ว่าเราหมดปัญญาแล้ว การมอบให้พรรคที่ 3 เป็นไปได้หรือไม่ ตนจึงบอกไปว่ามันเป็นทางเลือกจะเกิดขึ้นหรือไม่เราไม่รู้ และตนยังพูดไปชัดว่าเป็นการมอบอำนาจให้เสียงข้างน้อย เมื่อถามย้ำว่าให้จบที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราจะพยายาม

'พรรคเพื่อไทย' หารือ 'สมาคมพลังงานลม' ร่วมผลักดันนโยบายพลังงานสะอาด

(24 ก.ค. 66) พรรคเพื่อไทย นำโดย จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าคณะทำงานด้านนโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย จักรพล ตั้งสุทธิธรรม อดีต สส.เชียงใหม่, กฤชนนท์ อัยยปัญญา, วิกรม เตชะธีราวัฒน์, รัฐพงศ์ ระหงษ์, สิริพัชรระ จึงธีรพานิช, พงศภัค นครศรี และศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ให้การต้อนรับตัวแทนสมาคมพลังงานลม (ประเทศไทย) ประกอบด้วย อิศเรศร์ ภมรนิยม ประธานสมาคม, วรวิทย์ วิสูตรชัย กรรมการ, โทมัส ลีโอนาร์ด กรรมการ และคณะ ร่วมหารือผลักดันนโยบายพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ที่มีแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่มีวันหมดไป

ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ได้มีการใช้ประโยชน์จากการใช้พลังงานลมเพื่อการผลิตพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น แต่ยังอยู่ในอัตราส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับในต่างประเทศ ดังนั้น หากประเทศไทยจะมีการผลักดันให้ใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้จัดทำเป็นนโยบายและเกิดขึ้นได้จริง รวมถึงพรรคเพื่อไทยก็เล็งเห็นประโยชน์ของการใช้พลังงานดังกล่าวเพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนด้วยเช่นกัน

‘เสรีพิศุทธ์’ เตือน ‘ก้าวไกล’ อย่าก้าวก่าย ‘เพื่อไทย’ จัดตั้งรัฐบาล

(24 ก.ค. 66) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวเตือน พรรคก้าวไกล และอีก 6 พรรคร่วมฯ ไม่ควรไปยุ่ง หลังมอบหมายให้ 'เพื่อไทย' หาคะแนนเสียงโหวตนายกฯ เหตุ ยังไม่ใช่การรวมเสียงเพื่อร่วมรัฐบาล ขออย่าหลงประเด็น ตอนนี้เป็นช่วงของการหาเสียงโหวตนายกฯ ให้สำเร็จเท่านั้น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันสิ่งที่เคยเสนอให้ก้าวไกลเสียสละ หมายถึงให้ถอยไปอยู่ข้างๆ ไม่ใช่ให้ถอยไปเป็นฝ่ายค้าน ให้เสียสละให้เพื่อนขึ้นฝั่งให้ได้ก่อน ในเมื่อคุณไม่ช่วยเพื่อนแล้วจะเป็นตัวถ่วงเพื่อนทำไม ถอยเพื่อให้เพื่อไทยโหวตนายกฯ ให้สำเร็จก่อน จะไปยุ่งอะไรกับเขา เมื่อเรามอบให้เป็นสิทธิ์ในการบริหารของแต่ละพรรค ถ้าเขาจัดไม่ดีเขาก็ต้องรับผิดชอบเอง พรรคก้าวไกล ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับเขา ไปก้าวก่ายเขาทำไม ตอนคุณจัดไม่ได้ก็เพราะคุณไม่มีเพื่อนเอง สำหรับประชาชนถ้าคิดว่า พรรคเพื่อไทย ทำไม่ดี คราวหน้าก็ไม่ต้องเลือก ไม่ใช่ไม่ได้ไปก็ก่อม็อบ แบบนี้ทำเกินกว่าเหตุ

‘จาตุรนต์’ โวย!! คลิปเสียงที่กำลังไวรัล เป็นของปลอม ยัน!! ตนไม่เคยพูด คนทำมุ่งเสี้ยมให้ 8 พรรคแตกแยก

(25 ก.ค. 66) นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีคลิปเสียงที่เป็นไวรัลในขณะนี้ ระบุว่า...

“มีการเผยแพร่คลิปปลอมหน้าตาแบบนี้ คงต้องการทำลายพรรคเพื่อไทยและเสี้ยมให้ 8 พรรคแตกกัน ผมไม่มีวันพูดอะไรแบบนี้

เมื่อวานให้สัมภาษณ์ไป 5 รายการก็พูดเพื่อให้ 8 พรรคจับมือกันไว้ พูดตามจุดยืนพรรคเพื่อไทยและยังได้ย้ำเกียรติประวัติของพรรคในการต้านเผด็จการตลอดมาอย่างไม่น้อยหน้าพรรคการเมืองใด

ใครที่ต้องการทำลายเพื่อไทยและเสี้ยมพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้แตกกัน อย่ามาใช้วิธีตื้น ๆ ต่ำ ๆ แบบนี้เลยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเข้าไปคอมเมนต์และเรียกร้องให้ถอดคลิปปลอมนี้ครับ”

‘เพื่อไทย’ หารือ ‘สมาคมการค้ามันสำปะหลัง’ มุ่งแก้ปัญหาโรคระบาดใบด่างในมันสำปะหลัง

(25 ก.ค. 66) นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับปัญหาไวรัสใบด่างระบาดในมันสำปะหลัง ที่ฉุดให้ผลผลิตตกต่ำลง ระบุว่า..

พรรคเพื่อไทยเดินหน้าแก้ปัญหาโรคไวรัสมันสำปะหลังระบาดให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติร้อนแล้งซ้ำเติม คาดฉุดผลผลิตลดฮวบ รายได้เกษตรหาย ปากท้องรายได้ ปัญหาเร่งด่วนที่เพื่อไทยรอไม่ได้

ทีมวิชาการการเกษตรเพื่อไทย นำโดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายสรวงศ์ เทียนทอง นายพรหมมิน สีตบุตร นายคมเดช ไชยศิวมงคล พบนายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช ผู้แทนสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย และคณะ แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์และการดำเนินการด้านการป้องกันรักษาโรคไวรัสใบด่างระบาดในมันสำปะหลัง และแนวทางเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำแล้ง จากภาวะเอลนีโญ ที่จะส่งผลโดยตรงต่อการผลิตภาคเกษตรที่อาจรุนแรง และส่งผลต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปีจากนี้

นายบุญศรี ให้ข้อมูลว่า เรื่องโรคระบาดในมันสำปะหลังขณะนี้ ยังอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถบรรเทาความรุนแรงของการระบาดลงได้ หากได้รับการดูแลอย่างจริงจัง แต่หากยังล่าช้าละเลย สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ อาจสร้างความเสียหายลุกลาม แก่อุตสาหกรรมแปรรูปและส่งออกมันสำปะหลังของประเทศไทยมูลค่ารวมกว่าแสนล้านบาท 

ผู้แทนสมาคมมันสำปะหลังไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการศึกษาสถานการณ์แพร่ระบาดโรคไวรัสใบด่างในมันสำปะหลังของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประมาณการความเสียหายกินพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังขณะนี้กว่า 3 ล้านไร่ ขณะที่รายงานของกรมส่งเสริมการเกษตร ระบุว่าสามารถควบคุมพื้นที่การระบาดได้อยู่ที่ 4 แสนไร่เท่านั้น โดยผลกระทบโรคไวรัสใบด่างในมันสำปะหลัง อาจทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังหายไปอย่างน้อย 50% จากผลผลิตปีละ 40 ล้านตัน อาจเหลือเพียง 20 ล้านตันเท่านั้น

โดยมาตรการการของหน่วยงานรัฐ ที่ใช้เพื่อการควบคุมโรคระบาดไวรัสใบด่างที่ใช้อยู่ในขณะนี้ คือการตัดเผาทำลายหากตรวจพบในรัศมี 1 ตารางกิโลเมตร และควบคุมการขนย้ายท่อนพันธุ์ ต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อเกษตรกรในทางปฏิบัติด้วยกรอบกฎระเบียบราชการ

ในส่วนการทำงานของทีมวิชาการเกษตรพรรคเพื่อไทย รับทราบและติดตามปัญหามันสำปะหลังมาโดยตลอด โดยทีมทำงานได้ทำแปลงทดลองแก้ไขปัญหาไวรัสใบด่างในมันสำปะหลังด้วยวิธีการหลากหลาย และเก็บผลเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ 

แปลงที่ 1 ใช้จุลินทรีย์กรีนพลัส ฉีดลงดินเพื่อขจัดเชื้อรา และใช้ชีวพันธุ์โอซิล ตระกูลไคโตซานที่เป็นนาโน ร่วมกับซิลเวอร์นาโน ฉีดพ่นที่ใบและลำต้น เพื่อฆ่าเชื้อและบำรุงท่อน้ำเลี้ยง ร่วมกับน้ำหมักจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นการผสมรวมน้ำหมักจุลินทรีย์ และจีพลัส ฮอโมนพืช ควบคุมแปลงโดยนายคมเดช ไชยศิวมงคล ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าสามารถระงับการแพร่ระบาดได้และต้นมันที่ติดโรคก็สามารถแข็งแรงผลิใบใหม่ได้ 

แปลงที่ 2 ใช้แคลเซียมเซียมคาร์บอเนตเข้มข้น ฉีดพ่นต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรค ในแปลงทดสอบ ที่นครราชสีมา พบว่าผนังเซลล์ของมันสำปะหลังแข็งแรงขึ้นสามารถต้านทานโรคได้ดี และฟื้นตัวจากโรคไวรัสใบด่างได้

และแปลงที่ 3 ทดสอบรวมผลการใช้ผลิตภัณฑ์จากแปลงที่ 1 และแปลงที่ 2 ควบคู่กัน สู่ผลลัพธ์ การควบคุมป้องกันโรค และสมมุติฐานความสามารถเพิ่มปริมาณผลผลิตต่อไร่ขึ้นได้ด้วยหรือไม่

พรรคเพื่อไทยลงมือทำงานและศึกษาเรื่องมันสำปะหลังในฐานะพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานสมาคม และทีม สส. พรรคเพื่อไทย มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทราบข้อเท็จจริงและเข้าใจวิธีการแก้ปัญหาความเดือดร้อน อุปสรรคการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ตรงประเด็นที่สุด รวดเร็วที่สุด เพราะปัญหาปากท้องคือความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่เรารอไม่ได้ โรคระบาดแก้ได้ต้องรีบจัดการ ส่วนภัยแล้งยังแก้ไม่ได้ต้องหาทางบรรเทาบนพื้นฐานการจัดการที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ

‘ไอซ์ รักชนก’ แท็กเฟซถาม ‘วัน อยู่บำรุง’ หลังถูกคนสนิทโพสต์เหน็บเรื่องท่านั่งในสภาฯ

บางบอนเดือด! 'ไอซ์ รักชนก' แท็กเฟซบุ๊กเรียก 'วัน อยู่บำรุง' ถามตรงๆ ลูกน้องพี่เป็นอะไรกับหนูมากไหม? โพสต์เหน็บเรื่องท่านั่งในสภาฯ ลั่น! นั่งนานก็เมื่อยบ้าง เรื่องแค่นี้ต้องเอามาโจมตีกัน ทีตน เวลาพี่ทำอะไรดีๆ ยังช่วยแชร์เลย ว่าแต่ว่าภาพนี้พี่ได้มาจากไหน จากมุมภาพเหมือนถ่ายมาจากฝั่งที่นั่ง สส.พลังประชารัฐ สนิทกันหรอ?

(25 ก.ค. 66) น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ รักชนก สส.กทม. เขตบางบอน จอมทอง หนองแขม พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ระบุว่า ลูกน้องพี่วัน Wan ubumrung ทำไมชอบมีปัญหากับไอซ์จัง ทั้ง ๆ ที่เวลาพี่วันทำอะไรดี ๆ ไอซ์ช่วยแชร์ให้ตลอด นี่หลายทีละนะ ตั้งแต่เสี่ยปอดีเคตอนยังเป็นผู้สมัคร ก็เอารูปมาโจมตี มาเมนต์ด่า

ในรูปนี่กำลังหาอ่านไฟล์ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาอยู่ แล้วเท่า ๆ ที่อ่านดู เค้าก็ไม่ได้บอกนะว่าท่านี้ห้ามนั่งท่านี้นะ พี่วันเคยอยู่ในสภา ช่วยบอกลูกน้องหน่อยค่ะว่า นั่งนานๆ มันก็ต้องมีเมื่อยกันบ้าง

ไอซ์ทำงานทุกวัน 7 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ได้ตำแหน่ง ยังไม่ได้หยุดเลย นี่คือการให้เกียรติพ่อแม่พี่น้องประชาชนในแบบของไอซ์

สภาฯ มีเกียรติได้ไม่ใช่คนที่อยู่ แต่เพราะมันเป็นที่ซึ่งเอาไว้บำบัดทุกข์ของคนทั้งประเทศ แก้ไขปัญหาให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน แล้วไอซ์ก็คิดว่าเป็นคนนึงที่ทำงานคุ้มภาษีทุกบาทแน่นอน ทำไมไม่เห็นเคยพูดถึงบ้าง ปวดหลังนิดเดียวเลยเปลี่ยนท่านั่ง เล่นใหญ่เลยน้า

ปล. ผังการนั่งประชุมสภาฯ ในวันนั้น ถ้าดูจริง ๆ มุมกล้องนี้คือที่นั่ง สส.ของพลังประชารัฐ ไม่ทราบว่าไปเอารูปนี้มาจากไหนคะ สนิทกันหรอ

จับตา!! ‘แกนนำก้าวไกล’ ดอดพบ ‘ทักษิณ’ ที่ฮ่องกง ยื่นเงื่อนไข ‘ไม่แตะ ม.112’ แลกได้ร่วมรัฐบาล

(26 ก.ค. 66) แหล่งข่าวแจ้งว่า แกนนำคนสำคัญของพรรคก้าวไกล ที่เคยมีบาทบาทช่วยหาเสียง กับพรรคก้าวไกล เตรียมเดินทางบินไปเขตบริหารพิเศษ ฮ่องกง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

มีรายงานข่าวถึงเรื่องที่จะเข้าพบเพื่อหารือในครั้งนี้ ‘พรรคก้าวไกล’ จะปิดสวิตช์การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในช่วง 4 ปีข้างหน้า โดยจะร่วมเป็นรัฐบาลภายใต้แกนนำของพรรคเพื่อไทย ซึ่งคาดว่า วิธีนี้จะทำให้ ‘สมาชิกวุฒิสภา’ ยอมรับ และลงคะแนนเสียงให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยได้

ทั้งนี้ มีรายงานว่า แกนนำ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อเข้าพบนายทักษิณ เป็นจำนวนมากอีกด้วย

‘พี่วัน’ สวนกลับ ‘ไอซ์ รักชนก’  ลั่น!! ไม่ทำอะไรโง่ๆ ไร้สาระแบบนี้

หลังจากเมื่อวานนี้ (25 ก.ค. 66) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล ได้แท็กชื่อนายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย พร้อมโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า… “ลูกน้องพี่วัน Wan ubumrung ทำไมชอบมีปัญหากับไอซ์จัง ทั้งๆ ที่เวลาพี่วันทำอะไรดีดีไอซ์ช่วยแชร์ให้ตลอด นี่หลายทีละนะ ตั้งแต่เสี่ยปอดีเคตอนยังเป็นผู้สมัคร ก็เอารูปมาโจมตี มาเม้นด่า” พร้อมทั้งชี้แจงอีกด้วยว่า… “ในรูปนี่กำลังหาอ่านไฟล์ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาอยู่ แล้วเท่าๆ ที่อ่านดูเค้าก็ไม่ได้บอกนะ ว่าท่านี้ห้ามนั่งท่านี้นะ พี่วันเคยอยู่ในสภา ช่วยบอกลูกน้องหน่อยค่ะ ว่านั่งนานๆ มันก็ต้องมีเมื่อยกันบ้าง”

ล่าสุด (26 ก.ค.66) นายวัน อยู่บำรุง อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...

“ผมก็ขอฟ้องประชาชนเหมือนกันว่าผมไม่ทำอะไร โง่ๆ บ้าๆ บอๆ ไร้สาระแบบนี้หรอกครับ! คนที่โพสต์เรื่องท่านั่งกับคนที่แชตไปขู่ คนละคนกันนะ ถ้าใครทำผิดก็ว่าไปตามผิดครับ แจ้งตำรวจเลย อย่าเที่ยวกล่าวหาคนอื่นแบบเหมารวมแบบนี้เพื่อให้คนอื่นเข้าใจผิดในตัวผม ผมเป็นห่วง กลัวคนจะมองคุณรักนกผิด ว่าหมิ่นประมาทครับ”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top