Wednesday, 26 June 2024
เพื่อไทย

‘ชลน่าน’ ไม่หนุน ‘กัญชาเสรี’ เว้นใช้เพื่อการแพทย์ แต่พร้อมผลักดัน ‘พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า’ เต็มสูบ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่ รร.อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่) พ.ศ. ... จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ว่า พรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนในการสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรีเพื่อสันทนาการ จึงมีความคาดหวังในกฎหมายนี้ว่าต้องเป็นกฎหมายควบคุมไม่ให้มีคำว่า ‘กัญชาเสรี’ แต่ในร่างกฎหมายหละหลวมมาก ไม่มีมาตรการควบคุมคำว่า ‘กัญชาเสรี’ 

‘ฝ่ายค้าน’ จัดเสวนา ‘ถอดบทเรียนเหตุการณ์หนองบัวลำภู’ ชี้!! สาเหตุหลักมาจาก ‘องค์กรสีกากี - ยาเสพติด - อาวุธ’

ฝ่ายค้าน จัดเวทีเสวนา ‘กราดยิงหนองบัวฯ’ ด้าน ‘ชลน่าน’ ฝากถอดบทเรียนแรงจูงใจ - สภาพจิต - ระบบคัดเลือกบุคคล แอบแซะ ‘บิ๊กป้อม’ ใจบันดาลแรง จากเด็กสมบูรณ์ในขวดซีอิ้ว โดดใส่กางเกงยีนส์มีแรงฮึกเหิม ‘สุทิน’ อัด รัฐบาลแก้ปัญหายาเสพติดล้มเหลว ยาเกลื่อน - คนเสียสติเยอะ ขณะที่การแก้กม.ยาเสพติดผิดพลาด กระบวนการบำบัดไม่เข้มแข็ง จี้ ทบทวนการครอบครองอาวุธปืน ด้าน ‘นภาพร’ ชี้ รัฐบาลแก้ปัญหาเหมือนเสือกระดาษ กระแสลด ยา - อาวุธ ยังอยู่เหมือนเดิม ขณะที่ ‘โรม’ เสนอ 7 ข้อแก้ปัญหาเกิดซ้ำ ยกงานวิจัยสหรัฐฯ ชี้ผู้ก่อเหตุพรากชีวิตผู้อื่นแก้แค้นความเจ็บปวด

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่โรงแรม อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม. โครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ 66 จัดเวทีเสวนา ‘ถอดบทเรียนเหตุการณ์หนองบัวลำภู’ โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ ปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่ง ว่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 65 เกิดเหตุโศกนาฎกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู ทำให้มีผู้เสียชีวิต 37 ราย เป็นเด็กถึง 24 ราย แบ่งเป็นเด็กเล็ก 23 ราย และเด็กประถมวัย 1 ราย วันนี้ฝ่ายค้ายไม่ได้ต้องการตอกย้ำการสูญเสีย หรือพูดเพื่อหาเสียง แต่เป็นการหาทางออกให้ประเทศ และเป็นการถอดบทเรียน จึงมีความจำเป็นต้องใช้เวทีในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากนั้นจะได้นำการถอดบทเรียนนี้ไปใช้ในการตรวจสอบถ่วงดุลในสภาฯ ซึ่งฝ่ายค้านจะได้ยื่นญัตติด่วน เรื่องเหตุการณ์หนองบัวลำภู ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เพื่อนำไปเป็นข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป  

ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวอีกว่า บทเรียนที่ได้รับเป็นการลงทุนที่เสียหายใหญ่หลวง และในภาพการลงทุนเหตุครั้งนี้ไม่มีกำไร ยิ่งถ้าไม่ได้พูดคุยกันอีกยิ่งขาดทุน ตอนนี้ทราบถึงสภาพปัญหาแล้ว แต่สิ่งที่อยากฝากให้ถอดบทเรียน คือ สาเหตุแรงจูงใจว่าเกิดเพราะอะไร เหตุใดตำรวจนอกราชการที่ถูกไล่ออก เพราะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจึงมีพฤติการณ์เช่นนี้ 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เรื่องการใช้อาวุธปืนไม่อาจปฏิเสธได้ มีคำพูดจากนักวิเคราะห์ ว่าสาเหตุมาจาก 2 เถื่อน คือ ปืนเถื่อนกับคนเถื่อน ถ้าปืนถูกกฎหมายแสดงว่าปืนไม่เถื่อน แต่คนกราดยิงคือคนเถื่อน ฉะนั้น สิ่งที่ไม่อาจละเลยได้คือปัญหาสภาพจิตในสังคมไทยปัจจุบัน เชื่อหรือไม่ลูกหลานของเรา 20 ปีที่ผ่านมามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก สังเกตหรือไม่ความอดทนหรือการตอบสนองต่อสิ่งบีบคั้นในคนรุ่นใหม่ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดจากในอดีต การยับยั้งชั่งใจไม่เกิดขึ้น เป็นปฏิกิริยาเกี่ยวเนื่องกับทางด้านจิต

“ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ถ้าใจคิดอย่างไรกายจะเป็นเช่นนั้น ปกติเราใช้แรงบันดาลใจ อ.ที่มาเป็นวิทยากรบรรยายอายุ 67 ปี แต่ผมบอกว่าเพิ่ง 57 ปี อ.เลยตอบกลับว่าใช้แรงบันดาลใจ ไม่ใช่ใช้ใจบันดาลแรง ปกติเราใช้แรงบันดาลใจ แต่กลับมีใครคนหนึ่งบอกว่าต้องใช้ใจบันดาลแรง และเขาก็พิสูจน์ชัดตอนขึ้นมาเป็นรักษาการนายกฯ ดูมีแรง มีกำลังใจฮึกเหิมมาก จากอยู่ในขวดซีอิ้วอยู่ดีๆ กลายเป็นแหนมป้าย่นได้ ใส่กางเกงยีนส์ เป็นเด็กสมบูรณ์อยู่ในขวดซีอิ้ว พอได้เป็นรักษาการนายกฯ ออกมาเป็นแหนมป้าย่น ใส่กางเกงยีนส์ มีแรงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่พอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าให้คนเดิมกลับมาทำหน้าที่ต่อทุกอย่างก็แผ่ว ฉะนั้น เรื่องจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ” ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุ 

นพ.ชลน่าน กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอฝากให้เวทีถอดบทเรียนเกี่ยวกับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ราชการในสังคมไทย สมัยยังเป็นหมอ มีข้าราชการตำรวจโดนเด้งจาก จ.นราธิวาส มายัง จ.น่าน สุดท้ายก่อเหตุเอาปืนจี้พนักงานปกครองและลงมือยิงจึงอยากให้มีการถอดบทเรียนประเด็นนี้ด้วยว่าควรจะมีการคัดเลือกเข้ามาอย่างไร

จากนั้น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหตุการณ์หนองบัวลำภู เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง และละเลยไปไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ปัจจุบันยังคงอยู่ ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากคนขาดสติสัมปชัญญะ แต่อะไรที่ทำให้เขาเสียสติ ซึ่งตนคิดว่าอันดับแรก คือ ยาเสพติด ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูก็เกิดจากยาเสพติด วันนี้รัฐบาลพยายามยืนยันตลอดว่าปราบปรามยาเสพติดแล้ว และปฏิเสธตลอดว่าไม่มียาเสพติดแล้ว ทั้งที่ทุกวันนี้ในหมู่บ้าน และชุมชน น่าเศร้าใจมาก ยาเยอะ เม็ดละ 10 บาท เป็นตัวชี้วัดว่ายามีเยอะเข้าถึงง่าย 

นอกจากนี้ คนบ้าแล้วมีอาวุธในมือก็เป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะโอกาสที่จะเกิดอาชญากรรมมีสูง บ้านเราอาวุธที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายมีน้อยกว่าปืนเถื่อน 3 เท่า ดังนั้น ประเทศเราจึงมียาบ้าเยอะ อาวุธปืนเยอะ และคนที่อยู่ในกลุ่มที่มีอำนาจมากแต่มีสติน้อย ก็เป็นกลุ่มที่ก่อเหตุมากที่สุด เพราะหากมีอำนาจ มีอาวุธ แล้วเกิดมีความไม่เป็นธรรมไปกดทับเขาก็จะเกิดเหตุได้ง่าย 

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเราแก้กฎหมายปรายปรามยาเสพติดผิดพลาด ทำให้คนอย่างผู้ก่อเหตุที่หนองบัวลำภู ซึ่งอยู่ในระดับสติสุ่มเสี่ยงแบบนั้นมีอยู่ทุกหมู่บ้าน เพียงแต่ยังไม่ก่อเหตุเพราะไม่มีเรื่องที่เป็นชนวนเหตุ กฎหมายล่าสุดใครพกยาไม่เกิน 15 เม็ด ถือว่าไม่ใช่ผู้จำหน่าย จะต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติม ส่วนข้อหาผู้เสพมีการแก้ไขว่า ผู้เสพคือผู้ป่วย พอจับได้จะดำเนินคดีทันทีไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ต้องถามความสมัครใจว่ายินดีจะเข้าบำบัดหรือต่อสู้คดี 

ซึ่งส่วนใหญ่เลือกวิธีการบำบัด เหตุผลหนึ่งของการแก้กฎหมาย เพื่อต้องการลดจำนวนคนติดคุก แต่ปัญหาคือเมื่อส่งไปบำบัด กระบวนการบำบัดของบ้านเราไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่ให้เขาเลิกยาได้ เมื่อกลับบ้านไปก็เป็นระเบิดเวลาของครอบครัว มีการขู่ ทำร้ายคนในครอบครัว และเป็นอันตรายต่อคนในชุมชน 

ถามว่าวันนี้องค์การสีกากีกับองค์กรสีเขียว ได้ตื่นรู้ ปฏิรูป และแก้ปัญหาแล้วหรือไม่ องค์กรที่มีอำนาจ มีอาวุธ อย่างองค์กรตำรวจ และทหาร ต้องปฏิรูปตัวเองด่วน การจะขึ้นสู่ตำแหน่งได้ต้องจ้าง ทำให้เกิดระบบรีดเงิน บีบให้คนดีๆ ต้องหาเงิน เอาไปแลกเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่ง ยาบ้าก็เลยเต็มบ้านเมือง เลี้ยงยาไว้ขายหลายๆ รอบเอาเงินไปซื้อตำแหน่ง ถ้าไม่ปฏิรูปก็จะทำให้คนในองค์กรแบบนี้หาเงินด้วยวิธีแบบนี้ วันนี้โครงสร้างปัญหายังมีครบทั้งยาเสพติด อาวุธ และความไม่เป็นธรรม ประกอบกับจุดสปาร์กอย่างปัญหาเศรษฐกิจ ที่วันนี้รัฐบาลทำให้คนอดอยาก หนี้สินรุมเร้า อาชีพหดหาย ดังนั้น รัฐบาลต้องจัดการโครงสร้างปัญหาเหล่านี้ให้ครบ คือ ต้องจัดการยาเสพติด จัดระเบียบการซื้อ และครอบครองอาวุธปืนใหม่ วันนี้ถึงเวลาทบทวนหรือยัง ว่าการให้มีปืนทุกคนกับไม่ให้มีปืนสักคนแบบไหนจะดีที่สุด  

‘ฝ่ายค้าน’ จ่อยื่นญัตติอภิปรายม.152 กลางพ.ย. ปิดทางรัฐบาลยุบสภาฯ หนี หลังจบการประชุมเอเปก

‘ชลน่าน’ เผยอภิปรายทั่วไป ม.152 ต้องหลบเหตุกราดยิงหนองบัวฯ - น้ำท่วมซ้ำซาก คาดยื่นญัตติ 15-16 พ.ย.นี้ เริ่มถล่มกลางเดือนธ.ค. หวั่นเกิดอุบัติเหตุการเมืองยุบสภาฯ 24 ธ.ค. เย้ย ขนงบฯ ลดแลกแจกแถมเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลแล้ว

(29 ต.ค. 65) ที่รร.อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า จากเดิมที่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วนจะยื่นตั้งแต่เปิดสภาฯ แต่มีเหตุการณ์จำเป็นที่จะต้องนำเป็นเรื่องด่วนมากกว่า คือ ญัตติด่วนเรื่องโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภู และปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก จึงจำเป็นต้องเลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไปเป็นช่วงกลางเดือนพ.ย. คาดว่าเป็นช่วง วันที่ 15-16 พ.ย. 65 และคาดว่าจะได้อภิปรายในช่วงกลางเดือนธ.ค. โดยญัตติดังกล่าวจะเป็นการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน สอบถามปัญหาและเสนอแนะแนวทางให้ผู้บริหารนำไปปรับใช้ 

‘ชลน่าน’ ชี้!! ไม่เห็นด้วยยุบ ‘พปชร.’ ปมเงินบริจาค ย้ำ!! เหตุยุบพรรคได้ต้อง ‘ล้มล้างการปกครอง’ เท่านั้น

‘ชลน่าน’ ชี้ปม ‘หาวเจ๋อ ตู้’ บริจาคเงินให้พปชร. บอกก่อนรับบริจาคพรรคต้องรู้ให้ชัดถึงที่มา ย้ำ ไม่เห็นด้วยยุบพรรคกับเรื่องอื่นนอกจากล้มล้างการปกครอง

(29 ต.ค. 65) ที่ รร.อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กทม. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ‘หาวเจ๋อ ตู้’ ชายเชื้อชาติจีน ที่เพิ่งได้รับสัญชาติไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับผับฉาวย่านยานนาวา มีชื่อบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564 ว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นในเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

‘ชลน่าน’ ฟันธง ‘บิ๊กตู่’ ยุบสภาฯ ก่อนครบวาระ หลังออกมาตรการแจกของขวัญปีใหม่ซื้อใจปชช.

‘ชลน่าน’ ฟันธง 'บิ๊กตู่' ยุบสภาฯ ก่อนครบวาระ หลังออกมาตรการแจกของขวัญปีใหม่ให้ปชช. ฟาก ‘เพื่อไทย’ ลั่น พร้อมประกาศแคนดิเดตนายกฯ 3 คนทันที

(31 ต.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ออกมาระบุว่ารัฐบาลอาจยุบสภาฯ ในวันที่ 24 ธ.ค.ว่า เป็นระยะเวลา 90 วันก่อนรัฐบาลครบวาระ และส.ส.หลายคนอาจย้ายพรรคกันก่อนวันดังกล่าว อาจส่งผลกระทบถึงการตัดสินใจยุบสภาของนายกรัฐมนตรีได้ หากจัดการเรื่องการย้ายพรรคเสร็จ ถึงอย่างไรรัฐบาลจะยุบสภาฯ ก่อนครบวาระ เพราะผู้มีอำนาจจะได้ประโยชน์สูงสุด เช่น หากยังไม่มีกฎหมายเลือกตั้งก็จะรักษาการได้ยาว กรณีมีกฎหมายเลือกตั้ง เขาจะสามารถคุมจังหวะจัดการเรื่องการย้ายพรรคของ ส.ส. และเตรียมความพร้อมสำหรับพรรคการเมืองของตัวเองได้มากกว่าใคร อีกทั้งยังเป็นการลดแรงกดดันประชาชนที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า เวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล คิดว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาซื้อใจประชาชนก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ตอนนี้รัฐบาลทำแล้วโดยใช้งบประมาณแผ่นดินในการให้ของขวัญปีใหม่ สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เตรียมไว้ เช่น การขึ้นทะเบียนบัตรคนจน 23 ล้านใบ โครงการลดแลกแจกแถม การอนุมัติแผนงานไตรมาตรแรก ถ้าทำเสร็จถือว่าพร้อมยุบสภาฯ ได้”

ส่วนพรรคเพื่อไทยกับความพร้อมเลือกตั้ง อีกทั้งเรื่องแคนดิเดตนายกฯ นโยบาย และทำงานในพื้นที่นั่น นะ ชลน่าน กล่าวว่า “หากรัฐบาลมีสัญญาณยุบสภาฯ เมื่อไหร่ เราจะประกาศแคนดิเดตนายกฯ ทันที 3 คน ตามหลักเกณฑ์ของพรรค รับรองเป็นที่ยอมรับของประชาชนแน่นอน”

‘ตรีชฎา’ เย้ย ‘ธนกร’ ไม่ประสาทางการเมือง ดีแต่ค่อนแคะ ชี้!! ฝ่ายค้านซักฟอกเพื่อถ่วงดุล ตามหลักการประชาธิปไตย

‘ตรีชฎา’ เย้ย ‘ธนกร’ อย่าเทียบชั้น ‘หมอชลน่าน’ ยันฝ่ายค้านซักฟอกหวังถ่วงดุล เป็นของขวัญปีใหม่ให้ รบ. ‘ประยุทธ์ 

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาระบุว่าการที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญเพื่อเรียกคะแนนนิยมให้ตัวเองหวังดิสเครดิตรัฐบาลนั้น ตนรู้สึกอนาถใจต่อทัศนคติของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ส.ส.อย่างนายธนกร ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในบทบาท และหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบและควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นหลักการโดยทั่วไปของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การตรวจสอบถ่วงดุลกันระหว่างคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และศาล ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ได้กำหนดให้รัฐสภาซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนประชาชนที่มี ส.ส.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ สามารถควบคุมตรวจสอบคณะรัฐมนตรีได้หลายวิธี ซึ่งหนึ่งในวิธีที่สามารถทำได้โดยทั่วไป คือการเปิดอภิปรายทั่วไป

‘สมคิด’ ชี้!! การเมืองวุ่นวาย ส.ส. ย้ายพรรคเยอะ มั่นใจ!! ยุบสภาฯ ช่วงปีใหม่ จัดเลือกตั้งก่อนสงกรานต์

(31 ต.ค. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวกรณีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เพื่ออภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รวมทั้งการเสนอแนะและให้คำแนะนำถึงความบกพร่องของรัฐบาล ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทั้งปัญหายาเสพติด อาชญากรรม รวมทั้งการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม สร้างปัญหาให้กับประชาชน การบริหารประเทศที่ส่งผลกระทบกับสังคมอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมหารือกันว่าจะอภิปรายและให้คำแนะนำกับรัฐบาลในเรื่องใดบ้าง 

“ส่วนที่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์เข้ามากู้ชาตินั้น อยากถามว่าเข้ามากู้ชาติหรือมากู้เงิน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวกู้เงินมหาศาล อย่าไปหลงกับตัวเลขที่รัฐบาลกู้มา หากบอกว่ารัฐบาลพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย ทำให้ล่มจมอยากให้ไปศึกษาดูดัชนีตัวเลขทางเศรษฐกิจ ดูว่าต่างจากรัฐบาลนี้อย่างไร จะเชียร์อะไรก็ไม่ว่าเพราะเป็นรัฐบาลด้วยกันก็ต้องอวยกันเป็นธรรมดา แต่มันมีความจริงอยู่พี่น้องประชาชนจะหัวเราะเยาะเอาได้” นายสมคิด กล่าว

‘ส.ส.เพื่อไทย’ ชี้ หลายชาติมหาอำนาจเมินเอเปก เหตุ!! ไม่เชื่อมั่นในศักยภาพผู้นำของไทย

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 65 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) หรือ เอเปก 2022 ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทุ่มงบประมาณมหาศาลในการจัดการประชุมในครั้งนี้ หวังสร้างผลงานให้ประทับใจผู้นำโลก เป็นที่น่าเสียดายหากในการประชุมที่กรุงเทพฯ นี้ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะผู้นำประเทศมหาอำนาจหลายประเทศไม่ให้ความสำคัญ ส่งเพียงผู้นำระดับรองมาร่วมประชุมแทน ไม่ว่าจะเป็นนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี สหรัฐฯ เลือกไปงานแต่งหลานสาวมากกว่ามาร่วมประชุมที่ประเทศไทย ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ผู้นำหลายประเทศไม่มาร่วมประชุม เพราะไม่มีความเชื่อถือในตัวผู้นำของประเทศไทย 

น.ส.ทัศนีย์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของนโยบายยกแผ่นดินไทยให้ชาวต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศไทยได้นั้น รัฐบาลควรชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ ว่าเป้าประสงค์ของรัฐบาลคืออะไร ที่ผ่านมารัฐบาลใช้มาตรการทางภาษี เพื่อดึงนักลงทุนต่างประเทศให้มาลงทุนในประเทศไทย นักลงทุนก็ไม่มาลงทุน เพราะเขาไม่มั่นใจในนโยบายเศรษฐกิจของไทย และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตานักลงทุนตกต่ำลงมาก 

'เพื่อไทย' ร่อนแถลง ผิดหวังกับผลโหวต 'สุราก้าวหน้า' ชี้!! จะเดินหน้าผลักดันต่อเนื่อง หวังหยุดการผูกขาด

วันที่ (3 พ.ย. 65) พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์กรณี สภาฯ โหวตไม่ผ่านร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ร่วมโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวแต่แพ้โหวตไป 2 คะแนนว่า...

พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่าพรรคผิดหวังกับผลโหวต แต่จะเดินหน้าผลักดันนโยบายสุราประชาชน โดยผ่านกฎหมายให้ประชาชนสามารถต้ม หรือผลิตสุราในท้องถิ่นเพื่อจำหน่ายได้ ซึ่งแนวนโยบายนี้เคยมีมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยแล้ว แต่มีการรัฐประหารในปี 2549 พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้านโยบายนี้เพื่อหยุดการผูกขาด ปลดปล่อยศักยภาพของชุมชน ธุรกิจเอส เอ็ม อี ร้านค้าทั่วประเทศในการสร้างรายได้ ขยายโอกาสนำรายได้เข้าประเทศ

'สุทิน' ถามสด ต่างชาติซื้อที่ดิน 1 ไร่แลก 40 ลบ. คุ้มหรือ? ชี้!! นโยบายนี้เอื้อนายทุน - ซ้ำเติมประชาชนในชาติ

(3 พ.ย. 65) สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน ตั้ง #กระทู้สดด้วยวาจา กรณีมติคณะรัฐมนตรีแก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการได้มาที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ 

กระทู้สดด้วยวาจานี้ถามต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รองนายกรัฐมนตรีมาเป็นผู้ตอบกระทู้ 

สาระสำคัญคือ ชี้ชวนจูงใจให้ต่างชาตินำเงินมาลงทุนไม่ต่ำกว่าคนละ 40 ล้านบาท เพื่อแลกกับการถือครองที่ดินได้คนละ 1 ไร่ โดยอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กรณีดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และวิตกกังวลสำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยโดยทั่ว

การส่งเสริมให้คนต่างชาติถือครองที่ดิน คือการเปิดช่องให้ต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของที่ดินในขณะที่คนไทยกำลังอ่อนแอ เพราะคนไทยกว่าร้อยละ 80 ยังไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง ความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินสูงมากไปกระจุกอยู่กับนายทุนคนละหลายแสนไร่ และยังจะซ้ำเติมด้วยต่างชาติเข้ามาถือครองอีก เรื่องนี้ชาวบ้านวิตกกันถึงขั้นว่าเป็นการ ‘ขายชาติ’ 

แม้รัฐบาลในอดีตเคยทำ แต่ทำบนข้อจำกัดและความจำเป็น คือเมื่อปี 2542 และปี 2545 รัฐบาลไปกู้เงินกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ไอเอ็มเอฟกำหนด แต่ก็ออกกฎกระทรวงหรือมีมาตรการที่ระมัดระวัง รอบคอบและรัดกุม จนในที่สุดแล้วมีต่างชาติมาซื้อที่ดินเพียงแค่ประมาณ 7-8 ราย ก็ถือว่าเราไม่ได้เกิดการสูญเสียที่ดิน

แต่รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา อ้างว่าเพื่อความจำเป็นด้านเศรษฐกิจ อันมาจากวิกฤต เสมือนรัฐบาลยอมรับว่า วันนี้รัฐบาลได้จนมุมทางเศรษฐกิจ และจำเป็นแล้วที่ต้องใช้มาตรการนี้ หมายความว่าการเงินการคลังเรากำลังลำบาก ต้องรอแต่เงินต่างชาติอย่างเดียวแล้วหรือ? 

และที่รัฐบาลอ้างว่ามีมาตรการนั้น มาตรการดังกล่าวก็หละหลวมมาก คือที่อ้างว่าเปิดการลงทุนเพื่อให้ได้ผู้เชี่ยวชาญ ได้เงินลงทุน ได้เทคโนโลยี แต่ดูไปดูมา รัฐบาลนี้แค่อยากได้เงินเขาเท่านั้น เพราะแต่ละกลุ่มที่รัฐบาลเลือกมาคือ เศรษฐี ผู้เกษียณอายุ ซึ่งนี่ตรงกันข้ามกันกับที่บอกว่าอยากได้ผู้เชี่ยวชาญ ได้เทคโนโลยีได้การลงทุนสร้างงาน และมากกว่านั้น 

สุทินย้ำว่า เงินลงทุนแค่ 40 ล้านบาทคือ โอนเงินข้ามประเทศมาก็ได้ที่ดินเลย คนไม่ต้องมา โรงงานไม่ต้องมา เทคโนโลยีไม่ต้องมา นี่คือไม่ได้เกิดงานที่แท้จริง ไม่ได้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่เอาเงินมา 40 ล้าน ครบ 3 ปีได้ดอกก็ถอนออกไป ตรงนี้อันตราย 

จึงเกิดข้อสงสัยถัดมาว่า จริงๆ แล้ว รัฐบาลเจตนาช่วยเหลือกลุ่มทุนที่วันที่ถือที่ดินไว้เต็มมือหรือไม่? บางรายมีที่ดินหลายแสนไร่ บางรายมีคอนโดมิเนียมนับหมื่นห้อง ซึ่งวันนี้ขายไม่ออก ตรงนี้เป็นแรงจูงใจหรือแรงผลักดันจากกลุ่มทุนหรือไม่ว่าให้ต่างชาติมาช่วยซื้อที่ดินซื้อบ้าน ดังนั้นจึงมีข้อสงสัยว่า รัฐบาลมีเจตนาหรือไม่เจตนาที่จะเอื้อกฎหมายนี้ให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มนายทุนใหญ่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คนได้ประโยชน์คือทุนใหญ่ คนเสียประโยชน์คือชาวบ้าน 

วันนี้ พรรคเพื่อไทย จึงตั้งกระทู้ เพื่อถามนายกรัฐมนตรีว่า

1.) คณะรัฐมนตรีมีความจำเป็นหรือมีเหตุผลอะไรที่หนักหนาสาหัส ถึงขนาดต้องมีมติคณะรัฐมนตรีแบบนี้ออกมา


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top