Wednesday, 26 June 2024
เพื่อไทย

'เพื่อไทย' ชี้!! ปัญหากดขี่-เอาเปรียบในกองทัพยังอยู่ จี้!! 'ประยุทธ์' จัดการปัญหา ให้สม 'ผู้นำชายชาติทหาร'

(21 ต.ค. 65) ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวกระบวนการหักหัวคิวเงินกู้ซื้อบ้านพักสวัสดิการทหาร โดยมีอดีตนายทหารชั้นผู้น้อยและบริษัทผู้ประกอบการสร้างบ้านเข้าให้ข้อมูลกับสื่อจนถูกข่มขู่ซ้ำอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกซุกไว้ใต้พรม แม้จะถูกเปิดโปงภายหลังเหตุโศกนาฏกรรมที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 แต่วงจรอุบาทว์นี้ยังคงวนเวียนกัดกร่อนสังคมไทยไม่ถูกแก้ไขมาจนทุกวันนี้จนเกิดการร้องเรียนขึ้นอีก 

ประชาชนคนไทยรู้สึกผิดหวังละอายใจที่ต้องรับฟัง ‘ชุดคำตอบ’ เดิม ๆ จากผู้รับผิดชอบว่า ‘เป็นการกระทำส่วนบุคคล’ ทั้งที่สาเหตุหลักของการเหตุสลดต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีที่มาจาก ‘ระบอบอำนาจนิยมภายในกองทัพ’ ที่ทหารชั้นผู้น้อยถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งในมิติของอำนาจ ค่าจ้าง และความเป็นมนุษย์ ใช่หรือไม่ การกดขี่ทางชนชั้นของกองทัพเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในสังคมไทย สะท้อนผ่านหลายกรณี เช่น ทหารรับใช้แรงงานฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย กำลังพลล่องหนใน กอ.รมน. หรือคลิปการใช้อำนาจของผู้นำหน่วยขณะสั่งสอนทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งในยุคสมัยนี้ไม่ควรต้องมีใครถูกกดทับด้วยอำนาจภายใต้เงินภาษีของประชาชนอีกแล้ว

'เพื่อไทย' งัด 8 ตราบาปตอกหน้า 'ประยุทธ์' ชี้!! ยิ่งอยู่นาน ประเทศยิ่งเสื่อม แนะควรสำนึกได้แล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ (25 ต.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่กระแสความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตกต่ำอย่างสุดขีด แทนที่พล.อ.ประยุทธ์จะรู้ตัวและแก้ไข กลับส่งคนออกมาโต้ ล่าสุดถึงขนาดให้คนของตัวเองออกมาอวยว่าทำได้ดี ทิ้งมรดกความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศ ซึ่งต่างกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงอยากให้ข้อมูลความจริงที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ทิ้งมรดกที่เหมือนกับตราบาปของคนไทยไว้ 8 เรื่องดังนี้ 

1.) ช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศ ไทยพัฒนาน้อยที่สุด จากตัวเลขการเจริญเติบโตที่ต่ำมาตลอด ไทยได้ฉายาเป็นคนป่วยของเอเชีย ถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงทุกด้าน เป็นมรดกความตกต่ำทางเศรษฐกิจ

2.) เป็นช่วงที่ประเทศก่อหนึ้มากสุดแต่ไม่พัฒนา มีหนี้สาธารณะทะลุ 10 ล้านล้าน กู้เงินมากที่สุด แต่เศรษฐกิจขยายต่ำสุด ลูกหลานต้องมาใช้หนี้กว่า 5 ล้านล้านบาท หรือกว่า 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงสุดด้วย ประชาชนก็มีหนี้ครัวเรือนสูงสุดประมาณ 15 ล้านล้านบาท หนี้เสียและหนี้นอกระบบสูงที่สุดด้วย เป็นมรดกหนี้ล้นทะลัก

นายพิชัย กล่าวต่อว่า 3.) ค่าครองชีพแพงสุด ทั้งราคาสินค้าและบริการ น้ำมัน ก๊าซ ไฟฟ้าแพงที่สุด เงินเฟ้อมากสุด แต่รายได้ของคนไทยไม่เพิ่มแถมลดลง เป็นมรดกสินค้าแพง

'เพื่อไทย' จี้ รัฐฯ ปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย-ค่าครองชีพให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย กรรการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เร่งลดภาระของประชาชน ลดต้นทุนภาคธุรกิจจากภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงปัญหาราคาน้ำมัน ไฟฟ้าและก๊าซ พลังงานแพงเป็นสาเหตุเงินเฟ้อสูง ต้องเร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ ล่าสุดผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันที่ต้องเสียภาษีตัวอาคารสถานีบริการน้ำมัน อาคารค้าปลีก ห้องน้ำและอื่น ๆ อยู่แล้ว และได้ขอให้ทบทวนการจัดเก็บภาษีบริเวณถนน ลาน รั้ว ซึ่งจะได้ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจได้บ้าง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากกรรมการภาษี และกระทรวงมหาดไทย จึงเป็นกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐเลือกที่จะจัดเก็บภาษีในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม สร้างภาระให้กับภาคธุรกิจ

นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจ เรื่องราคาน้ำมันโดยเฉพาะเรื่องราคาหน้าโรงกลั่นของไทย ที่มีราคาสูงกว่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ และสูงกว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่โรงกลั่นไทยส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการเอาเปรียบคนไทยที่ต้องซื้อราคาที่แพงกว่า ทั้งที่ต้นทุนการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางส่งมาไทยและส่งมาสิงคโปร์ก็เท่ากัน ประสิทธิภาพการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันของไทยกับสิงคโปร์ก็ใกล้เคียงกัน อีกทั้งโรงกลั่นไทยยังขยายการกลั่นเป็นแสน ๆ บาเรลต่อวันเพื่อส่งออก แสดงว่าราคาส่งออกก็ต้องกำไรมากแล้ว การคิดราคาหน้าโรงกลั่นไทยสูงกว่าราคาสิงคโปร์จึงเป็นการเอาเปรียบประชาชนไทยมากเกินไป 

‘เพื่อไทย’ จวก!! รัฐบาลทำความปลอดภัยปชช. ตกต่ำ เหตุปราบยาเสพติดไม่ได้ - คุมการใช้อาวุธไม่อยู่

(26 ต.ค. 65) ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชนตกต่ำลงเพราะผู้มีอำนาจล้มเหลวในการปราบปรามยาเสพติด และควบคุมอาวุธปืน และเสนอแนะให้ใช้กฎหมายปราบปรามยาเสพติดเข้มงวด ควบคุมอาวุธปืน และต้องมีมาตรการดูแลตรวจสุขภาพจิตผู้ถืออาวุธปืนอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการก่อเหตุร้าย

จากรายงานข่าวทางสื่อมวลชน ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอิทธิพล ไปเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจในทางที่ผิดล้วนเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่แสดงให้เห็นว่า ทุกวันนี้มาตรฐานของความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตประชาชนลดต่ำ ภายใต้รัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอด 8 ปี การ ‘ปฎิรูปประเทศ’ ล้มเหลว การ ‘ปฎิรูปตำรวจ’ ไม่ได้ถึงไหน

‘ตรีชฎา’ โต้กลับ!! คนปชป.ใส่ร้าย ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ ถาม!! ตอนนี้ร่วมกับรัฐบาล แก้ปัญหาประเทศได้บ้างหรือยัง

เมื่อวันที่ (27 ต.ค. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการประธานสภาฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หัวหน้าพรรคเพื่อไทยถึงคะแนนเสียงจากคนภาคใต้ต่อพรรคเพื่อไทยโดยระบุว่าในช่วงที่พรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมีการใช้นโยบายเลือกปฏิบัติ รวมถึงพาดพิงเหตุการณ์ที่ตากใบ กรือเซะออกมาโจมตีว่า เป็นการหยิบยกเรื่องในอดีตซึ่งไม่เป็นความจริงมากล่าวอ้าง หวังทำให้ตัวเองดูดีขึ้นด้วยการทับถมคนอื่น ถือเป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ เมื่อครั้งนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ได้ออกนโยบายสำคัญ ๆ ที่นำไปสู่ปฏิบัติทั่วทั้งประเทศ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้ประโยชน์จากนโยบายอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ได้รับการยอมรับกล่าวขวัญจากนานาประเทศ และยังเป็นนโยบายหลักที่ยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน และไม่เคยเลือกปฏิบัติโดยเฉพาะการพัฒนาภาคใต้

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า เมื่อครั้งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ได้เดินทางไปประชุม ครม.สัญจรที่จ.ภูเก็ตเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 55 มีมติเห็นชอบกรอบแผนงาน/โครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และระนอง จำนวน 117 โครงการ วงเงินงบประมาณ 84,064 ล้านบาท เช่น โครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นต้น นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังมีการพัฒนาอื่น ๆ อีกมากที่ยังไม่ได้กล่าวถึง จึงเป็นไปไม่ได้และไม่เป็นความจริงที่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย จะเลือกปฏิบัติดังที่นายสมบูรณ์วิพากษ์วิจารณ์ให้ได้รับความเสียหาย และสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เป็นที่น่าเสียดายที่เกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2549 พรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรคอย่างไม่เป็นธรรม กรรมการบริหารพรรคถูกเพิกสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี เมื่อมีการเลือกตั้งพรรคพลังประชาชน ได้เป็นรัฐบาลก็ชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมาก แต่ก็ถูกกลไกทางอำนาจทำลายให้ต้องพ้นตำแหน่งจนมาถึงการยุบพรรค

‘ชลน่าน’ ไม่เห็นด้วยปมควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’ จ่อตั้งกระทู้ถามสด - เสนอญัตติด่วนหลังสภาเปิด

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่มีการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคนั้น ตนกังวลและไม่เห็นด้วยกับการควบรวมกิจการที่อาจนำไปสู่การผูกขาดในธุรกิจใดๆ โดยมีความเห็นดังนี้ 

1.) ตนไม่เห็นด้วยกับการควบรวมที่เป็นการผูกขาดการประกอบธุรกิจ ซึ่งจะกระทบการแข่งขันของผู้ประกอบการ สภาวะการทำธุรกิจและระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม และจะกระทบผู้บริโภคในท้ายที่สุด 

2.) ตนเห็นว่าการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทค น่าจะมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นกิจการประเภทเดียวกัน และมีส่วนแบ่งการตลาดสูงมาก 

3.) มีหลายฝ่ายตั้งคำถามว่ามติ กสทช.ในการรับทราบการควบรวมนั้น ชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ และ กสทช.ได้ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่า กสทช.ต้องตอบคำถามนี้ 

4.) ตนกังวลและเห็นว่าการผูกขาดการประกอบธุรกิจ จะมีผลกระทบต่อสิทธิ์และประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างแน่นอน ซึ่งภาครัฐมีหน้าที่ต้องดูแลและปกป้องคุ้มครองอย่างมากที่สุด

5.) พรรคเพื่อไทยยึดมั่นในหลักนิติธรรมและระบบกฎหมาย และคัดค้านการผูกขาดไม่ว่าในธุรกิจใด 

“ดังนั้นพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการที่ผู้มีส่วนได้เสีย ที่จะดำเนินการตามกฏหมาย และยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการควบรวมกิจการดังกล่าว ในเบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การตรวจสอบในสภาฯ โดยการตั้งกระทู้ถามสดในสัปดาห์แรกของการประชุมสภาฯ และเสนอพิจารณาญัตติด่วนเพื่อให้สภามีมติในเรื่องนี้ต่อไป” นพ.ชลน่าน กล่าว

'เพื่อไทย' จี้ กกต. สอบ 'พลังประชารัฐ' ปมรับเงินบริจาคนักธุรกิจสีเทา

(28 ต.ค. 65) น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง วิกฤตปัญหายาเสพติดที่กำลังทวีความรุนแรงจนกระทบความปลอดภัยในชีวิตพี่น้องประชาชน ข่าว พ่อฆ่าลูก แม่ฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อแม่ คนเมายาคลุ้มคลั่งไล่ทำร้ายผู้คน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้ตระหนักในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างแท้จริง 

และยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเมื่อเกิดกรณี เจ้าของผับดังย่านยานนาวา นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ หาวเจ๋อ ตู้ ถูกตำรวจบุกทลายปาร์ตี้ยาเสพติด เมื่อตรวจสอบพบว่า มีชื่อบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐจำนวน 3 ล้านบาทเมื่อปี 2564 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ออกมายอมรับว่าได้รับเงินบริจาคจริง และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กกต.กำหนด พรรคพลังประชารัฐไม่มีความเชื่อมโยงใด ๆ กับผู้บริจาคและไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า การปฎิเสธความเชื่อมโยงเงินบริจาค 3 ล้านบาท ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ดูเป็นคำตอบที่ปฏิเสธความรับผิดชอบใช่หรือไม่ ในฐานะพรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นพรรคการเมืองที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการบริหารประเทศ การตรวจสอบที่มาของเงินรายได้จากการบริจาค โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด กลุ่มธุรกิจสีเทา เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการใช้อำนาจรัฐในการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้บริจาค จนประชาชนเกิดคำถามหรือข้อสงสัยได้ ขอตั้งข้อสังเกตว่าพรรคพลังประชารัฐปล่อยให้บุคคลที่ทำธุรกิจสีเทามาบริจาคเงินสนับสนุนพรรคได้อย่างไร

‘เพื่อไทย’ สยบข่าวผสมพันธุ์ พปชร. ตั้งรัฐบาล ยันหากปชช.ไว้ใจ ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้

‘สมคิด’ ปัดเพื่อไทยจับมือ พปชร. ดัน ‘บิ๊กป้อม’ แจงแค่กระแสข่าว ฟุ้งแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ต้องง้อใคร

(28 ต.ค. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ หลังการเลือกตั้งแล้วสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนนรี ว่า มันเป็นแค่กระแสข่าว พรรคเพื่อไทยไม่คิดจับมือใครทั้งนั้น พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับประชาชน ทำงานมากขึ้น เสนอแนวนโยบายที่ทำงานให้ประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประชาชน ผลการเลือกตั้ง หากประชาชนไว้วางใจเราเป็นจำนวนมาก สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องจับมือใคร ขอให้รอฟังคำตอบจากประชาชนว่าจะมอบอำนาจให้เราบริหารประเทศหรือไม่เท่านั้น

‘ตรีชฎา’ เตือนคนปชป. ห่วงพรรคตัวเองก่อน ระวังซ้ำรอยปี 62 ไม่ได้ส.ส.กทม. สักที่เดียว

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากที่ได้ชี้แจงกรณีที่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เลขานุการประธานสภาฯ ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าในช่วงที่พรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีการใช้นโยบายเลือกปฏิบัติ รวมถึงพาดพิงเหตุการณ์ที่ตากใบ กรือเซะนั้น ขอย้ำว่าที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจและขอโทษพี่น้องชาวมุสลิมแล้ว แม้ไม่ได้สั่งการแต่ในตอนนั้นเป็นนายกฯ ก็ได้ขอโทษพี่น้องชาวมุสลิมอย่างจริงใจ ถือว่าเป็นการผิดพลาดในเรื่องของการลำเลียงผู้ต้องหา ซึ่งต้องแยกกันระหว่างการกำกับนโยบายและการปฏิบัติ ส่วนเรื่องการชดเชยญาติผู้สูญเสียนั้น นายทักษิณเห็นว่าควรได้รับการเยียวยา ซึ่งขณะนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ทบ.เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งต้องเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิต

‘เพื่อไทย’ ออกแถลงการณ์ค้านรัฐบาล หลังออกกฎกระทรวงปล่อยต่างด้าวซื้อที่ดิน

(29 ต.ค. 65) พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงเรื่อง การซื้อที่ดินของคนต่างด้าวที่รัฐบาลผลักดัน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยวิตกกังวลและไม่เห็นด้วยกับร่างกฎกระทรวงที่รัฐบาลจะออกตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้คนต่างด้าวถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ เนื่องจากการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว จะมีผลกระทบต่อชีวิตของคนไทยอย่างกว้างขวาง แทนที่จะคำนึงถึงการช่วยเหลือคนไทยจำนวนมากที่ยังไม่มีบ้านและที่ดินเป็นของตัวเองทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตที่ลูกหลานเติบโตขึ้นมาจะต้องซื้อบ้านและที่ดินในราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นจากกลไกการตลาดเช่นนี้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่า เนื้อหาของกฎกระทรวงปี 2545 ในเรื่องเดียวกันนั้น มีเนื้อหาที่เข้มงวดและกำหนดเงื่อนไขที่คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ยากกว่า โดยพรรคมีความเห็นดังนี้...

1.) การออกกฎกระทรวงในปี 2545 นั้นมีบริบทที่แตกต่างกับปี 2565 เนื่องจากรัฐบาลในปี 2545 ภายใต้การนำของพรรคไทยรักไทยนั้น เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศในปี 2544 ภายหลังวิกฤตต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น และประเทศไทยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ตามข้อตกลงที่มีกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยเฉพาะเงื่อนไขที่ต้องแก้ไขกฎหมายในบางเรื่อง และชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ แต่การจะออกกฎกระทรวงของรัฐบาลขณะนี้ เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลตนเอง ถือว่าเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลนี้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top