Tuesday, 20 May 2025
เพื่อไทย

‘เผ่าภูมิ’ จวก!! รัฐชู ‘โมเดล BCG’ ผิดเวลา ซัด!! ทำโอกาสทองของคนไทยหลุดมือในเวทีเอเปก

วันนี้ (14 พ.ย. 65) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) และผอ.ศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทยกล่าวกรณีไทยชูโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นวาระหลักในการประชุม APEC ว่า โมเดลเศรษฐกิจ BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว: Bio-Circular-Green Economy) ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ถูกผลักดันให้เป็นวาระหลักของการประชุม APEC ซึ่งในเวทีการประชุมสำคัญระดับนี้ เป็น โอกาสทอง ที่เจ้าภาพสามารถผลักดันวาระการหารือเพื่อประโยชน์ต่อสมาชิกและต่อชาติของตน คำถาม คือการใช้โอกาสทองในการผลักดันโมเดล BCG นี้ โดยไทยได้ประโยชน์ ได้เปรียบและมีแต้มต่อหรือไม่ 

1.) พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยโมเดลการพัฒนาคู่ขนานนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสมดุล แต่รายละเอียดรวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในโมเดล BCG ของรัฐบาลนั้นล้มเหลว ขาดความพร้อมในการเป็นวาระหลักในการประชุมระดับ APEC

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า 2.) โมเดลเศรษฐกิจ BCG ยังกลวง ล่องลอย ย้อนแย้งและมีช่องโหว่สูง ข้อกล่าวหาเรื่องการเพิกเฉยต่ออุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากขยะ รวมถึงการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ และการฟอกเขียวของโมเดล BCG ยังถูกตั้งคำถามอย่างหนักในสังคม แต่รัฐบาลยังไร้ซึ่งคำตอบ

‘ธีรรัตน์’ ขอบคุณโพลเชียร์ ‘อุ๊งอิ๊ง-พท.’ เป็นรัฐบาล ขอประชาชนอดทนรอ อีกไม่นานจะได้ออกจากหลุมดำ

(14 พ.ย. 65) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นิด้าโพลเผยแพร่สำรวจประชาชนภาคกลางเมื่อวันที่ 13 พ.ย. และภาคเหนือเมื่อวันที่ 6 พ.ย. พบว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ และยังเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับหนึ่งในการเลือก ส.ส.แบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ไว้ใจเลือกพรรคเพื่อไทยให้เป็นพรรคในใจของพี่น้องประชาชน และขอขอบคุณแทน น.ส.แพทองธาร ซึ่งถึงแม้จะยังไม่ประกาศตัวเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ก็ยังได้รับเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนท่วมท้นมากขนาดนี้ เป็นการตอกย้ำว่าพี่น้องประชาชนให้การสนับสนุนแนวทาง นโยบาย และผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกับที่ได้รับความไว้วางใจเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งซ่อมนายกอบจ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 25 ก.ย. และการเลือกตั้งซ่อมนายก อบจ.กาฬสินธุ์วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา จนได้รับคะแนนเสียงชนะขาดแบบแลนด์สไลด์ 

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดถือเป็นกำลังใจให้กับพรรคเพื่อไทยเป็นเสมือนธงนำทางให้พรรคมุ่งมั่นทำงานต่อไป เราจะแปรเปลี่ยนเสียงสนับสนุนที่พี่น้องประชาชนมอบให้ เป็นภารกิจในการคิดค้นนโยบาย เพื่อสร้างรายได้ สร้างชีวิตใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน ปลดเปลื้องพันธนาการแห่งความทุกข์ระทมที่พี่น้องประชาชนต้องพบเจอมาตลอด 8 ปีให้กลายเป็นความหวัง เพื่อให้เป้าหมายในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ถือว่าเป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชน

‘ชลน่าน’ คุย ‘สมาคมประมง’ วาง 4 นโยบายแก้ปัญหา เพื่อฟื้นคืนอาชีพ-อุตสาหกรรมประมงไทย

‘ชลน่าน’ หารือ ‘สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย’ วาง 4 นโยบายแก้ไขปัญหาประมง เพื่อฟื้นอาชีพและอุตสาหกรรมประมงไทยอย่างต่อเนื่อง ทวงคืนอันดับโลกประมงไทย

(14 พ.ย. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะนโยบายเกษตรพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรคและคณะ พูดคุยหารือและรับมอบข้อเสนอจากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยในการแก้ปัญหาประมงอย่างครบวงจร โดยมีนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนชาวประมงทั่วประเทศเข้ามอบหนังสือดังกล่าว นพ.ชลน่าน กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นไปที่รับฟังปัญหาของสมาคมประมงฯ ที่สำนักงาน และทีมเพื่อไทยไปฟังปัญหาจากชาวประมง ทั้งในเขตจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และหลายจังหวัดในภาคใต้ก่อนหน้านี้แล้วส่วนหนึ่ง รวมถึงในวันนี้สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ก็ได้มาพูดคุยและนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันอย่างจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาประมงของประเทศที่ค้างคามานานหลายปี 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า แม้ปัจจุบัน สหภาพยุโรปจะได้ปลดใบเหลืองแก่ประมงไทยไปแล้ว แต่นโยบายมาตรการและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่บริหารจัดการภาคประมงก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือผ่อนคลายลงไป แม้พรรคเพื่อไทยจะเคยนำเสนอประเด็นนี้ไปยังรัฐบาลแต่รัฐบาลก็ยังไม่ได้ผลักดันมาตรการแก้ไขปัญหาใดๆ ที่เป็นรูปธรรมออกมาอย่างจริงจัง ความเดือดร้อนของพี่น้องประมงก็ยังคงอยู่ วันนี้จึงเป็นโอกาสดี ที่ได้พูดคุยและตกผลึกแนวนโยบายและมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้พรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมผลิตเป็นพิมพ์เขียวนโยบายแก้ไขปัญหาของพี่น้องประมงในการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง

“ปัญหา IUU Fishing ของภาครัฐ ที่เร่งรัดแก้ไขดำเนินการอย่างเร่งรีบตั้งแต่ปี 2558 สร้างปมปัญหาต่อเนื่องให้พี่น้องประมง เพราะในวันที่แก้ไขปัญหานั้นพลเอกประยุทธ์ ไม่เคยฟังคำทักท้วงและคำแนะนำของพี่น้องประมงและผู้มีส่วนได้เสีย ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสบริหารประเทศ เราจะพลิกฟื้นอาชีพประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ด้วยการรื้อกฎหมายที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ แก้ไขหลักเกณฑ์ให้บังคับใช้อย่างเหมาะสม ยุติธรรม และหากอุปสรรคถูกทำลายและการส่งเสริมถูกต้องเหมาะสมก็เชื่อว่า ประเทศไทยจะกลับมาทวงตำแหน่งประมงลำดับต้นๆ ของโลก สร้างรายได้ให้ชาวประมงอย่างที่เคยเป็นอีกครั้ง” นพ.ชลน่าน กล่าว

‘เพื่อไทย’ จี้ ศธ. สอบปมครูทำร้ายนร. จ.หนองคาย ชี้!! โรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน

(15 พ.ย. 65) นายนพดล ปัทมะ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเผยแพร่คลิปครูลงโทษนักเรียนด้วยความรุนแรงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.หนองคายเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ถ้าเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นจริง ฐานะของคนเป็นพ่อซึ่งมีลูกในวัยเรียนรู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก สถาบันการศึกษาควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับนักเรียน ครูต้องไม่ใช้ความรุนแรงภายในโรงเรียนอย่างเด็ดขาด ต้องดูแลนักเรียนให้เหมือนกับดูแลบุตรหลานของตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็ก อาจจะกลายเป็นความทรงจำอันเลวร้ายที่จะติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต เราต้องไม่ให้การกระทำของบางคนกระทบครูท่านอื่นที่เป็นครูดีรักลูกศิษย์ กระทรวงศึกษาธิการในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบจะต้องตื่นตัว เอาจริงเอาจังกับปัญหาความรุนแรงและการละเมิดสิทธิผู้เรียนในสถาบันการศึกษาเสียที  

นายนพดล กล่าวต่อว่า กระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งดำเนินการสอบสวนรายละเอียดในคลิปดังกล่าว ให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ถ้าจริงควรหาทางเยียวยานักเรียน รัฐบาลที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ต้องกล้าประกาศว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงในสถาบันการศึกษาทุกรูปแบบ ตนเคยเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการสร้างความชัดเจนในมาตรการการขนส่งนักเรียน จากกรณีลืมเด็กไว้ในรถตู้ ขณะนี้ความคืบหน้าเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อมีมาตรการเชิงระบบป้องกันไม่ให้พ่อแม่คนใดสูญเสียอีก

‘อุ๊งอิ๊ง’ เทียบฟอร์ม APEC 19 ปีก่อนยุคไทยรักไทย ไม่ใช่แค่เชิญใครมาหรือจัดงานได้ยิ่งใหญ่แค่ไหน

(16 พ.ย. 65) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ เฟซบุ๊ก เรื่อง APEC ระบุว่า...

เมื่อ 19 ปีที่แล้ว รัฐบาลไทยรักไทย ใช้ APEC เป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศไทยที่กำลังฟื้นฟูหลังวิกฤตต้มยำกุ้งและโรคระบาดซาร์ส

เวที APEC ครั้งนั้น คือโอกาสสำคัญที่จะใช้การทูตเชิงเศรษฐกิจ เพื่อสร้างผลประโยชน์แก่ประชาชนให้ได้มากที่สุด รัฐบาลตอนนั้นมีความตั้งใจจะสร้างความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก APEC หรือ 21 เขตเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างและความหลากหลายสูง 

เพราะถ้าประเทศไทยเราทำข้อตกลงต่าง ๆ ได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ก็จะเกิดการจ้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ เกษตรกรมีรายได้ ผู้ส่งออกได้ส่งออกสินค้า มีเงินตราไหลเข้าประเทศ และพลิกฟื้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว 

ดังนั้น เราในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง จึงคาดหวังค่ะว่าจะได้รับผลประโยชน์อะไรจากการประชุม APEC ครั้งนี้ เหมือนครั้งเมื่อ 19 ปีที่แล้วที่รัฐบาลยึดถือและมีหัวใจคือประชาชนเป็นสำคัญ 

ดิฉันเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพและมีเสน่ห์มากพอที่จะดึงดูดให้ใครหลาย ๆ คน หลาย ๆ ประเทศ ให้ความสนใจในระดับเวทีโลก 19 ปีที่แล้ว เรายังทำได้ เป็นทั้งหนึ่งในผู้นำสำคัญของอาเซียนและยังถูกพูดถึงว่าเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย ในปีนี้ ก็ต้องทำได้เช่นกัน

‘ตรีชฎา’ ซัด ‘ทิพานัน’ ใช้ตำแหน่งสาดโคลนเพื่อไทย ถาม!! หนุนคนทำรัฐประหาร ไม่ละอายใจบ้างหรือ?

‘ตรีชฎา’ สมเพช ‘ทิพานัน’ ใช้ตำแหน่งโทรโข่ง รบ.สาดโคลนใส่ร้ายพท. โวมีแต่นายกฯ จากการเลือกตั้ง ถามกลับยืนข้างคนทำรัฐประหารไม่อายบ้างหรือ

(16 พ.ย. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวหาพรรคพท.ว่าด้อยค่าการจัดประชุมเอเปค 2022 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พร้อมใส่ร้ายความเท็จผู้อื่น เอาดีเข้า พล.อ.ประยุทธ์ว่าไม่ใช้เวทีประชุมเอเปคเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตนเอง หรือ ตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่เคยโกงชาติไปว่า เป็นอีกครั้งที่น.ส.ทิพานันใช้ตำแหน่งทีมโฆษกรัฐบาลสาดโคลนโจมตีทางการเมือง น่าสมเพช หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่แต่งตั้งโฆษกแบบนี้เพื่อมาทำงานลักษณะนี้ ความจริงเรื่องการทำหน้าที่ประธานในการจัดการประชุมเอแปค 2022 ภาคประชาสังคมและพรรคเพื่อไทยชี้แนะให้รัฐบาลใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพให้ประชาชนได้ประโยชน์ เช่น วิธีการและเป้าหมายในการบรรลุข้อตกลงร่วมแบบทวิภาคีกับกลุ่มประเทศสมาชิกเอเปคเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ตกต่ำ เป็นหนึ่งในวิธีดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากประเทศสมาชิก เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินลงทุนที่ประเทศต้องสูญเสียจากการจัดงาน เป็นต้น 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า แต่ความคิดที่ฝังแน่นและท่องจำจนเป็นนิสัยติดตัว ที่พยายามใส่ร้ายและพาดพิงถึงอดีตนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นการใส่ร้ายที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง จึงขอฉายภาพให้น.ส.ทิพานันได้เห็นการทำหน้าที่ประธานในการจัดการประชุมเอเปคเมื่อปี 2545 ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และรัฐบาลในขณะนั้นทำหน้าที่จัดงาน ผู้นำแต่ละประเทศเห็นความสำคัญกับวาระการจัดงานของประเทศไทย ตอนนั้นผู้นำเขตเศรษฐกิจมาครบครัน ทั้งผู้นำสหรัฐฯ ผู้นำรัสเซีย รวมทั้งผู้นำของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจมากมาย มีการจัดการประชุมอย่างสมบูรณ์แบบทุกด้าน เกิดผลการเจรจาจนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมากมาย จากนั้นยังใช้โอกาสฟื้นฟูหลังโรคซาร์ส คนไทยรู้ดีว่าเขตการค้าเสรีทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ มีแต่ น.ส.ทิพานันที่ไม่ว่าจะก้มหน้าหรือเงยหน้า ก็ท่องจำแต่เรื่องการทำเพื่อประโยชน์ของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ด้อยค่าการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย แต่สั่งสอนให้รู้ว่ามืออาชีพเขาทำอย่างไรมากกว่า และยังกังวลว่ารัฐบาลนี้จะสามารถเป็นเจ้าภาพได้ดี และคุ้มค่ากับสิ่งที่คนไทยไดัรับในการจัดการประชุมหรือไม่

‘อนุสรณ์’ แซะ ‘บิ๊กตู่’ เตรียมย้ายไปค่ายใหม่ เย้ย!! ไปต่อกับ ‘พลังประชารัฐ’ มีแต่จะลำบาก

‘เพื่อไทย’ ชี้นโยบายพรรคการเมืองแค่พูดแล้วทำไม่พอ แต่ต้องทำอย่างถูกต้องด้วย แซะขนาด ‘ประยุทธ์’ ยังเตรียมขนก๊วนย้ายค่ายใหม่ เย้ยไปต่อพลังประชารัฐลำบาก

(17 พ.ย. 65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ช่วงหลังการประชุมเอเปคว่า ก่อนที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะมาโทษฝ่ายค้าน ควรหันกลับไปดูการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จนถึงขณะนี้ยังมีความเห็นต่างกันอย่างมากในหลายประเด็น และไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ เชื่อว่ายิ่งใกล้วันยุบสภาจะยิ่งเกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งกำลังประสบกับปัญหาเผชิญกับสภาวะวิกฤติศรัทธาจากประชาชน หลายนโยบายที่หาเสียงไว้แล้ว ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้าย จะหันกลับมาร่วมวงไพบูลย์ถล่มพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง เพราะอาจจะเหลือแนวทางที่เป็นทางเลือก และทางรอดสุดท้ายที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

‘จิราพร’ ชี้ ‘ประยุทธ์’ เป็นได้แค่ผู้จัดเอเปก แต่ไม่ได้เป็น ‘ผู้นำ’ ที่เชิดหน้าชูตาให้ประเทศ

‘จิราพร’ ชี้ ภาพลักษณ์เผด็จการประยุทธ์เป็นอุปสรรคในเวทีโลก เย้ยเป็นได้แค่ผู้จัดประชุมเอเปค แต่ไม่เป็นผู้นำที่เชิดหน้าชูตา ยกนโยบายเศรษฐกิจสองทางสมัยทักษิณทำให้จัดเอเปคแล้วปัง

นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 นี้ว่า ในอดีตประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด คือการจัดการประชุมเมื่อปี 2546 ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่นอกจากจะโดดเด่นในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศเชิงรุก สามารถแสดงบทบาทนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ทั่วโลกต้องจับตามองไทย และพาผู้นำประเทศมหาอำนาจ และเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่มาร่วมเวทีเดียวกันได้สำเร็จแล้ว

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากเวทีการประชุมเอเปคในครั้งนั้น คือ รัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจสองแนวทาง หรือ Dual Track Policy ที่เน้นให้ไทยแสวงหาประโยชน์จากการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างกลไกภายในประเทศให้แข็งแกร่ง จึงเกิดการผลักดันนโยบายอย่างเป็นระบบเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในประเทศให้เข้มแข็ง เช่น นโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การพักชำระหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน รวมถึงนโยบายการเตรียมความพร้อมประเทศสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ฯลฯ โดยดำเนินการไปพร้อมกับการดำเนินนโยบายการทูตเชิงเศรษฐกิจ ใช้เวทีการประชุมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะโอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ประสานประโยชน์เพื่อยกระดับนโยบายในประเทศเชื่อมโยงไปยังต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจไทยที่เคยประสบปัญหาจากวิกฤตต้มยำกุ้งและการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส สามารถกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดด จนเกือบเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าการพัฒนากลับต้องสะดุดหยุดลงเพราะการทำรัฐประหาร

ในขณะที่ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำที่มาจากการทำรัฐประหารสืบทอดอำนาจ มีสถานะที่อ่อนด้อยไม่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก และยังไม่มีนโยบายภายในประเทศที่ช่วยวางรากฐานให้โครงสร้างเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตในระดับนานาชาติได้ เน้นเพียงมาตรการระยะสั้น และการแจกเงิน ซึ่งไม่ใช่นโยบายที่สามารถช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน นับวันยิ่งทำให้คนจนในประเทศเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทะลุ 22 ล้านคน ท่ามกลางหนี้สาธารณะประเทศทะลุ 10 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนสูงเกือบ 15 ล้านล้านบาท 

'อนุสรณ์' ชี้ นโยบายพรรคการเมือง แค่พูดแล้วทำไม่พอ แต่ต้องทำอย่างถูกต้องด้วย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ช่วงหลังการประชุมเอเปก ว่า ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะมาโทษฝ่ายค้าน ควรหันกลับไปดูการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จนถึงขณะนี้ยังมีความเห็นต่างกันอย่างมากในหลายประเด็น และไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เชื่อว่ายิ่งใกล้วันยุบสภาจะยิ่งเกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐซึ่งกำลังประสบกับปัญหาเผชิญกับสภาวะวิกฤติศรัทธาจากประชาชน หลายนโยบายที่หาเสียงไว้แล้ว ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้าย จะหันกลับมาร่วมวงไพบูลย์ถล่มพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองเพราะอาจจะเหลือแนวทางที่เป็นทางเลือกและทางรอดสุดท้ายที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขนาดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ยังมีแนวโน้มจะโบกมือลา ขนลูกพรรคในกลุ่มก๊วนของตัวเองไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ แสดงว่าชื่อชั้นของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลขายไม่ได้และไปต่อลำบาก ซึ่งจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกพรรคการเมืองที่จะนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แค่พูดแล้วทำแต่ต้องทำอย่างถูกต้องไม่ใช่ทำผิดทิศผิดทางและไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน

‘ตรีชฎา’ แนะ ‘ทิพานัน’ เลิกชม ‘ชายใช้รถถังยึดอำนาจ’ พร้อมชู ‘ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์’ ผู้นำที่คนไทยยกย่องจดจำ

(18 พ.ย. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่าพรรคเพื่อไทยหวั่นไหวและหวาดกลัวกับความสำเร็จของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในการจัดการประชุมเอเปคว่า อยากให้น.ส.ทิพานันนำพาตัวเองออกมาจากฝัน และรับความจริงให้ได้ว่าหลังเป็นนายกฯ มา 8 ปี ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร จากผลโพลหลายสำนักพบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แม้เพิ่งเข้าสู่การเมืองไม่นาน ยังเอาชนะใจประชาชนได้ทุกภูมิภาคของประเทศ คะแนนความเป็นผู้นำแซงพล.อ.ประยุทธ์แบบไม่เห็นฝุ่น เพราะพี่น้องประชาชนสิ้นหวังแล้ว อยากได้ผู้นำคนใหม่ที่นำพาความหวังมาสู่ประเทศไทย อยากหลุดพ้นจากวงจรแห่งความตกต่ำนี้เต็มที่แล้ว 

ส่วนที่น.ส.ทิพานันระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากเผด็จการ แต่มาจากการเลือกตั้งที่มีกติกาเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2562 นั้น ในคราวนั้นน.ส.ทิพานันลงสมัคร ส.ส.แต่สุดท้ายประชาชนไม่ได้เลือกเข้ามา คงยังไม่เข้าใจว่าการมีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างสง่างามนั้นเป็นอย่างไร อาจจะยังไม่รู้ชัดแจ้งว่าแท้จริงแล้วพล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในปี 2557 ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์มาจากการเลือกของพี่น้องประชาชนเช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า การเข้ามาเป็นผู้นำประเทศจากเสียงบริสุทธิ์ของประชาชน กับผู้นำซึ่งมีที่มาจากปลายกระบอกปืน แบบไหนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสง่างามมากกว่ากัน และในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นรัฐบาล แต่ภายใต้กติกาที่บิดเบี้ยว ให้อำนาจ ส.ว.ที่มาจากการสรรหาโดยหัวหน้าคณะรัฐประหาร สามารถเลือกนายกฯ ได้ แม้แต่สมาชิกของพรรคพลังประชารัฐที่น.ส.ทิพานันสังกัดอยู่ยังออกมายอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับดีไซน์มาเพื่อพวกเรา การเข้าสู่อำนาจจากกติกาที่ไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องที่ไร้ศักดิ์ศรี น่าละอายและขายหน้าไปทั่วโลกใช่หรือไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top