'เพื่อไทย' จี้ รัฐฯ ปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย-ค่าครองชีพให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย กรรการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เร่งลดภาระของประชาชน ลดต้นทุนภาคธุรกิจจากภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงปัญหาราคาน้ำมัน ไฟฟ้าและก๊าซ พลังงานแพงเป็นสาเหตุเงินเฟ้อสูง ต้องเร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ ล่าสุดผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันที่ต้องเสียภาษีตัวอาคารสถานีบริการน้ำมัน อาคารค้าปลีก ห้องน้ำและอื่น ๆ อยู่แล้ว และได้ขอให้ทบทวนการจัดเก็บภาษีบริเวณถนน ลาน รั้ว ซึ่งจะได้ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจได้บ้าง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากกรรมการภาษี และกระทรวงมหาดไทย จึงเป็นกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐเลือกที่จะจัดเก็บภาษีในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม สร้างภาระให้กับภาคธุรกิจ

นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจ เรื่องราคาน้ำมันโดยเฉพาะเรื่องราคาหน้าโรงกลั่นของไทย ที่มีราคาสูงกว่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ และสูงกว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่โรงกลั่นไทยส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการเอาเปรียบคนไทยที่ต้องซื้อราคาที่แพงกว่า ทั้งที่ต้นทุนการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางส่งมาไทยและส่งมาสิงคโปร์ก็เท่ากัน ประสิทธิภาพการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันของไทยกับสิงคโปร์ก็ใกล้เคียงกัน อีกทั้งโรงกลั่นไทยยังขยายการกลั่นเป็นแสน ๆ บาเรลต่อวันเพื่อส่งออก แสดงว่าราคาส่งออกก็ต้องกำไรมากแล้ว การคิดราคาหน้าโรงกลั่นไทยสูงกว่าราคาสิงคโปร์จึงเป็นการเอาเปรียบประชาชนไทยมากเกินไป 

นอกจากนี้ค่าการตลาดของน้ำมันยังมีราคาสูง ทั้งที่รัฐบาลบอกเองว่าไม่ควรเกินลิตรละ 1.40 บาท ก็ขอให้เร่งดำเนินการ ส่วนราคาไฟฟ้าล่าสุดขึ้นราคาจากหน่วยละ 4 บาท เป็นหน่วยละ 4.72 บาท และยังมีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาอีก เพราะ กฟผ. ยังมีค่าเชื้อเพลิงติดลบจากการบริหารค่าเชื้อเพลิงที่ผิดพลาดของรัฐบาลเป็นจำนวนกว่าแสนล้านบาท 

ดังนั้นการแก้ไขปัญหาต้นทุนเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็นในการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต ปัจจุบันราคาไฟฟ้าของไทยแพงกว่าราคาไฟฟ้าของเวียดนามอย่างมาก ทำให้ความสามารถแข่งขันของไทยและความน่าลงทุนของไทยลดลงมาก จึงอยากเรียกร้องให้เร่งแก้ไขทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว 

นายเลิศศักดิ์ กล่าวอีกว่า รวมถึงราคาก๊าซหุงต้มจาก 318 บาท / ถัง 15 กก. ในตอนต้นปีได้พุ่งขึ้นเป็น 408 บาท / ถัง 15 กก. หรือขึ้นกว่า 28% ซึ่งรัฐบาลสามารถลดราคาก๊าซได้โดยเรียกเก็บจากก๊าซที่ส่งเข้าธุรกิจปิโตรเคมี ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคยทำมาแล้ว แต่ถูกยกเลิกไปหลังปฏิวัติ 

ทั้งนี้ ราคาพลังงานเป็นต้นทุนของสินค้าทุกชนิด และเป็นต้นทุนค่าขนส่งของสินค้าด้วย เมื่อราคาพลังงานแพง สินค้าทุกชนิดจึงขึ้นราคาตาม ทำให้เกิดเงินเฟ้อสูงมากเหมือนในปัจจุบัน จึงอยากเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ปรับโครงสร้างราคาของพลังงานทั้งระบบ เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนที่กำลังลำบากกันอย่างมากในปัจจุบัน