Sunday, 19 May 2024
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566

วันที่ 26 ก.ย.66 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเชิดชูเกียรติข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการ และผู้ที่เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพล (Early Retire) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจเข้าร่วมพิธีฯ ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งมีรายละเอียดการจัดงาน ดังนี้

• เวลา 15.00 น. พิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจผู้ที่เกษียณอายุราชการ  
ณ ห้องประชุมเตมียะเวส ชั้น 1 อาคารกองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
• เวลา 17.00 น. พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจ, พิธีวางพานพุ่มสักการะ และ

พิธีถวายราชสักการะ
จุดที่ 1 หลวงพ่อนาค (ณ ห้องสามพราน)
จุดที่ 2 เจ้าพ่อสามพราน (ณ ศาลเจ้าพ่อสามพราน)
จุดที่ 3 พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 (ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5)
จุดที่ 4 พระบรมรูป รัชกาลที่ 9 (ณ ศาลาประดิษฐานพระบรมรูป รัชกาลที่ 9)

• เวลา 17.50 น. พิธีเปิดห้องเรียนคอมพิวเตอร์ อนุสรณ์ 122 ปี โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี 
• เวลา 18.15 น. พิธีสวนสนามและพิธีเชิญธงพิทักษ์สันติราษฎร์ลงจากยอดเสา ณ ลานฝึกศรียานนท์
•เวลา 21.00 น. พิธีส่งแถวผู้เกษียณอายุราชการ

เบื้องหลังมติ 9:1:2 ‘ผบ.ตร.14’ มาวิน!! ม้วนเดียวจบ ส่วนอนาคต ‘บิ๊กโจ๊ก’ ส่อแวววูบ!! หากใจไม่รู้จักเย็น

ใครจะว่าอย่างไรก็ว่าไป แต่สำหรับ 'เล็ก เลียบด่วน' ขอคารวะและปรบมือดังๆ ให้กับการลงจากตำแหน่ง ผบ.ตร.อย่างสมเกียรติของ 'บิ๊กเด่น' พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ แห่ง นรต.38 เตรียมทหารรุ่น 22 

หนึ่งในพิธีอำลาที่โรงเรียนนายร้อยสามพรานเมื่อเย็นวันที่ 26 ก.ย.คือ พิธีสวนสนามและเชิญธงพิทักษ์สันติราษฎร์ลงจากยอดเสา ณ ลานฝึกศรียานนท์ได้เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างหนักหน่วงรุนแรง แต่ทุกคนในพิธียืนหยัดจนพิธีเสร็จสิ้น...ไม่กลัวฝนไม่กลัวฟ้าผ่า...

เฮ่อ!! ชีวิต 'บิ๊กเด่น' ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ตร.ตั้งแต่ 1 ต.ค.2565 จนถึง 30 ก.ย.66 พูดได้เต็มปาก แทบจะไม่มีซักสัปดาห์เดียวเดือนเดียวที่มีความรื่นรมย์ในการทำงาน...โดยเฉพาะเดือนส่งท้าย...คดีกำนันนก...ที่บานปลายขยายวงมาเป็นคดีกำนันโจ๊ก...อุ๊ย!! 'บิ๊กโจ๊ก' กล่าวได้ว่า...บิ๊กเด่นคือ "สำลีระหว่างเหล็ก" เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง...

ใครจะว่าจะอย่างไรก็ว่าเถอะ..นายตำรวจที่มือสะอาดอย่าง 'บิ๊กเด่น' ฝากผลงานหลายด้านให้กับวงการตำรวจ โดยเฉพาะด้านไซเบอร์ ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หากรัฐบาลไม่รีบคว้าตัวไปใช้งานก็นับว่าน่าเสียดาย...

กลับมาที่สถานการณ์แนวรบสีเลือดหมูในขณะนี้ดีกว่า...ในที่สุดคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมาก็มีมติแต่งตั้ง 'บิ๊กต่อ' พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร.ที่อาวุโสลำดับ 4 ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 ด้วยมติ 9:1:2  จาก ก.ตร.ทั้งหมด 16 คน ลาประชุม 2 คนคือ 'บิ๊กโจ๊ก' และ 'บิ๊กรอย' ส่วน 'บิ๊กต่อ' และ 'บิ๊กต่าย' แม้จะมา แต่โหวตไม่ได้เพราะเป็นแคนดิเดต...ต้องออกจากห้องประชุม

ขยายความมติสักนิด...9 เสียง คือ เห็นชอบตามที่นายกฯ เสนอชื่อ 'บิ๊กต่อ' เป็นผบ.ตร. ส่วน 1 เสียงไม่เห็นชอบ คือ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ทรงคุณวุฒิ ส่วน 2 เสียง คือ งดออกเสียง ประกอบด้วยตัว นายกฯ และ รศ.ประทิต สันติประภพ  ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ...

แหล่งข่าวที่นั่งอยู่ในห้องประชุม ก.ตร.เปิดเผยกับ 'เล็ก เลียบด่วน' ว่า...หากจะสรุปสั้นๆ ปฏิบัติการม้วนเดียวจบ ไม่ปล่อยให้เกมยืดเยื้อดังที่มีการปล่อยข่าวว่า จะให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร.ที่อาวุโสสูงสุดรักษาการไปพลางก่อน ค่อยมาเคาะกันปลายเดือน ต.ค. ก็พอจะสรุปได้ดังนี้...

1) เกมนี้มีการตั้งธงกันมานานแล้วว่า...ยังไงๆ หวยต้องออกที่ 'บิ๊กต่อ' ที่เหลืออายุราชการแค่ปีเดียว...แม้บิ๊กต่อจะอาวุโสน้อยกว่าทุกคน แต่กฎกติกาก็ไม่ได้ระบุว่าความอาวุโสมีน้ำหนักกี่เปอร์เซ็นต์เพียงแค่ระบุว่าให้ 'คำนึงถึง' เท่านั้น ขณะเดียวกันมีสัญญาณผู้นำทางจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทยว่า...ต้องจบในวันที่ 27 ก.ย.

2) ก่อนประชุม ก.ตร.นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธาน ก.ตร.ส่งสัญญาณให้ ก.ตร.รับทราบชัดเจนว่า...ต้องเป็น 'บิ๊กต่อ'

3) นาทีก่อนลงมติ 'บิ๊กเด่น' ได้ประเมินประสิทธิผลของงาน 4 รอง ผบ.ตร.ที่เป็นคนดิเดตให้ที่ประชุมรับทราบ โดยให้น้ำหนักไปที่ 'บิ๊กต่อ' ทั้งเนื้องานและความมีวุฒิภาวะผู้นำ

สรุปรวมความแล้ว...ดุลอำนาจใน สตช.ขณะนี้...ฝ่าย 'บิ๊กต่อ' ที่แม้จะอยู่ในอำนาจเพียงปีเดียว  แต่สามารถกระชับอำนาจไว้แทบหมดสิ้น ขณะที่ 'บิ๊กโจ๊ก' ที่ประกาศว่ามีข้อมูลในมือมากมาย เปิดเผยเมื่อไหร่จะตายกันทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น หลายฝ่ายประเมินดูแล้วว่า...อาการน่าเป็นห่วง แม้จะเหลือเวลาราชการถึงปี 2574 หรืออีก 8 ปี แต่ก็ไม่ใช่หลักประกันว่าจะต้องได้เป็น ผบ.ตร.แต่ประการใด...เพราะดาวรุ่งพุ่งแรงในวงการตำรวจก็มีมากมาย...

จะหาผู้ใหญ่ใจดีแบบ 'ลุงป้อม' คอยโอบอุ้ม...จนเป็นแมวเก้าชีวิตได้ อนาคตคงไม่ง่ายดายแล้ว…ใจเย็นลงสักนิดก็น่าจะดีนะครับบิ๊กโจ๊ก..!!

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีอำลาตำแหน่งแก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ตร.

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดจัดพิธีอำลาตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติ เนื่องในโอกาสที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566 

ในวันศุกร์ ที่ 29 ก.ย.66 เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีตรวจแถวกองเกียรติยศ และพิธีสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีฯ ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดให้จัดพิธีอำลาตำแหน่งแก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ๋ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ชินภัทร  สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.วิษณุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจเข้าร่วมพิธีฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน

สำหรับในช่วงท้ายของพิธีฯ ข้าราชการตำรวจจากหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งแถวร่วมแสดงมุฑิตาจิต ในการส่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี พ.ศ. 2566 ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กางตารางเก้าอี้ ผบ.ตร. ‘บิ๊กต่าย’ ต่อคิว ‘บิ๊กต่อ’ อนาคต ‘บิ๊กโจ๊ก’ พร่ามัว!! ส่วน ‘บิ๊กราญ’ โชติช่วง!!

แม้ว่าไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า...แนวรบสีกากี ณ ปทุมวัน จะจบลงด้วยแฮปปี้ เอ็นดิ้ง…แต่ดูจากบรรยากาศการนั่งล้อมวงกินข้าวหน้าไก่ ไข่ดาว ของ 6-7 บิ๊กตำรวจ โดย ผบ.ตร.คนใหม่ ‘บิ๊กต่อ’ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล คอยหยอดมธุรสวาจาด้วยแล้ว ก็น่าจะเอ็นจอยกันพอประมาณ…

รับตำแหน่งได้เพียงสองวัน ‘บิ๊กต่อ’ ออกคำสั่งทันควัน ตั้งให้ผู้ช่วย ผบ.ตร. 3 คนที่อาวุโสตามลำดับเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ และ รองผบ.ตร.ที่ตำแหน่งว่างลง อีกคำสั่งแบ่งงานกันใหม่ใน 6 คน คือ 3 คนเก่ากับ 3 คนใหม่...หวยออกมาดังนี้…

ในส่วนของ 3 รอง ผบ.ตร.เก่า
- พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เปลี่ยนจากคุมงานความมั่นคง เป็น กฎหมายและคดี
- พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล จากงานสืบสวนสอบสวน เป็น งานด้านความมั่นคง
- พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ‘บิ๊กต่าย’ จากงานบริหารเป็นงานป้องกันและปราบปราม

ส่วน 3 คนใหม่
- พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง ดูงานจเรตำรวจแห่งชาติ
- พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ดูงานบริหาร
- พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ดูงานสืบสวนสอบสวน

พินิจพิเคราะห์จากการแบ่งงาน บวกกับดูอายุราชการแล้ว…‘บิ๊กรอย’ พล.ต.ท.สราวุธ และ ไกรบุญ จะเกษียณปีหน้า พร้อม ‘บิ๊กต่อ’   

ต้องบอกว่าโอกาสของ ‘บิ๊กต่าย’ ซึ่งจะเกษียณปี 2569 จะขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร.มีสูง…สูงกว่า ‘บิ๊กโจ๊ก’ ที่จะเกษียณปี 2574 และปีนี้ส่งท้ายปลายปีด้วยความบอบช้ำ แผลลึก…

ดังนั้นโดยสรุปถ้า ‘บิ๊กโจ๊ก’ ยังมีวาสนาในอนาคต ก็ต้องรอต่อคิวเป็น ผบ.ตร.คนที่ 16 ต่อจากคนที่ 15ซึ่งน่าจะเป็น ‘บิ๊กต่าย’ …แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรมองข้าม พล.ท.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร.น้องเลิฟ ‘บิ๊กต่อ’ ที่ปีนี้ถูกวางตัวให้เป็นหัวหน้าสำนักงาน ผบ.ตร.และปีหน้า ก็จะขึ้น รองผบ.ตร.เพื่อรอคั่ว ผบ.ตร.ต่อจาก ‘บิ๊กต่าย’ เหมือนกัน...

พล.ต.ท.สำราญนั้น จะเกษียณปี 2576 เป็นอดีต ผบช.น. เป็น นรต.รุ่น 50 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.จักรภพ  ภูริเดช ‘บิ๊กก้อง’ ผบช.สอบสวนกลาง ซึ่งจะเกษียณปี 2579

ในแวดวงสีกากีเขาขานชื่อกันล่วงหน้าว่า… ทั้ง พล.ต.ท.สำราญ และ พล.ต.ท.จิรภพ จะเป็น ผบ.ตร.ทั้งคู่ …บรรทัดนี้บอกได้คำเดียวว่าอนาคต ‘บิ๊กโจ๊ก’ ไม่สดใสกาววาวเหมือนอีกแล้ว…

ส่งท้ายการเมืองสั้น ๆ โดยในวันที่เขียน เลียบการเมือง 4 ต.ค.นี้ เป็นวันครบรอบ 66 ปี ของครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ ‘เล็ก เลียบด่วน’ ไม่ได้รู้จักมักจี่ แต่ขอแฮปปี้เบิร์ทเดย์มา ณ โอกาสนี้ ขอให้นักเตะ ‘ปราสาทสายฟ้า’ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ครูใหญ่กำลังนำไปตะลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ประสบความสำเร็จ…

ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะเป็นอย่างไรในสมัยหน้า รอฟัง ‘ลุงเน’ ประกาศหลังกลับจากญี่ปุ่นช่วงเสาร์อาทิตย์นี้… ‘มท.หนู อนุทิน’ จะได้เป็นนายกฯ เมื่อไหร่ คงจะได้รู้แนว…แต่ที่ ‘เล็ก เลียบด่วน’ พอจะรู้แล้ววันนี้ก็คือ…ภูมิใจไทยน่าจะเข็ดแล้วสนาม กทม. เจาะเท่าไหร่ไม่เข้า…สมัยหน้าคงจะต้องเท…

วันนี้เห็นอดีตผู้สมัครเมืองหลวงของพรรคหลายต่อหลายคนกำลัง หาสำนักใหม่กันให้วุ่น..!!

สวัสดี

‘บิ๊กต่อ’ ผุด ‘Quick Win’ มุ่งสร้าง ‘Police’s Home เราดูแลคุณ’ หนุนพัฒนางานตำรวจทุกมิติ ส่งเสริมตำรวจไทยใส่ใจดูแลประชาชน

(6 ต.ค. 66) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประชุมมอบแนวทางการบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ผ่านระบบประชุมทางไกลผ่านจอภาพให้กับทุกหน่วยทั่วประเทศ โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรปราบปรามอาชญากรรมและบังคับใช้กฎหมาย ในระดับมาตรฐานสากล ที่ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา” พร้อมกับกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการบริหารงานให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล 10 ข้อ และแนวทางเน้นหนัก 4 เรื่อง ที่ต้องทำทันที ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลนักท่องเที่ยว การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการดูแลสวัสดิการและขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจ

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดแผนปฏิบัติการเร่งรัด หรือ ‘Quick Win 5 ด้าน’ ทำสิ่งที่สามารถทำได้รวดเร็ว สร้างผลลัพธ์เป็นรูปธรรม ให้เห็นผลชัดเจนมากที่สุด ภายใต้แนวคิด Police’s Home ประกอบด้วย ด้านบุคลากร ระบบ สวัสดิการ ความสามัคคีความเป็นธรรมและช่องทางการสื่อสารในองค์กร และการสร้างภาพลักษณ์ตำรวจที่ดีให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา อาทิ

‘การคืนเวลาให้ตำรวจ’ แก้ไขคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 เพื่อลดภาระของพนักงานสอบสวน และลดเอกสารแบบฟอร์มที่ไม่มีความจำเป็น ให้สำเร็จภายใน 1 เดือน, ลดเวลาการประชุมให้ตำรวจมีเวลาไปดูแลประชาชน, การลดความซ้ำซ้อนของการรายงานเหตุกว่า 20 หน่วย ให้เหลือการรายงานเพียงครั้งเดียว

‘คืนตำรวจให้ประชาชน’ ยกเลิกการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการและให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่เดิม ให้ความสำคัญกับสถานีตำรวจ การสั่งช่วยราชการต้องมีความจำเป็นและเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ

‘สวัสดิการตำรวจ’ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับข้าราชการตำรวจจบใหม่และข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ให้ผู้กำกับการหรือหัวหน้าสถานีตำรวจ ตรวจสอบผู้หมดสิทธิพักอาศัยในอาคารบ้านพักอิสระ และยังไม่ย้ายออก และให้รายงานภายใน 30 วัน พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้าการติดตามเร่งรัดให้ย้ายออก รายงานความคืบหน้าต่อเนื่องทุกเดือน

‘ความเป็นธรรม ความสามัคคี และสร้างช่องทางการสื่อสารในองค์กร’ สร้างระบบการสื่อสาร 2 Ways Communication ทั้งแบบ Online และ Offline ให้ข้าราชการตำรวจซึ่งอาจได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียน แจ้งเบาะแส ข้อคิดเห็น ผ่านแอพพลิเคชันแทนใจ โดยจะมีทีมงานของ ผบ.ตร. รับเรื่องตรวจสอบดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง โดยเป็นความลับ นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้ส่งข้อมูลทาง ตู้ ปณ.191 รองเมือง 10330 สำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตน

‘การสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นศรัทธาแก่ประชาชน’ สานต่อโครงการ ‘ทำดี มีรางวัล’ ของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีต ผบ.ตร. สร้าง Police Hero ต้นกล้าแห่งความดี ให้กับองค์กร

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้สามารถดำเนินการได้ทันที เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม โดยตลอดปีงบประมาณ พ.ศ.2567 นี้ จะมี Quick Win ลักษณะนี้เป็นระยะ แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ แต่จะเป็นหนึ่งในการเดินทางอันยิ่งใหญ่สู่เป้าหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“ท้ายที่สุด ผมขอให้ความเชื่อมั่นว่า จะบริหารราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นที่ตั้ง จะมุ่งมั่นตั้งใจ ทุ่มเทในการดำเนินนโยบาย เพื่อให้สามารถดูแลความสงบเรียบร้อย บังคับใช้กฎหมาย อำนวยความยุติธรรม และช่วยเหลือการพัฒนาประเทศ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและสังคม”

ผบ.ตร.ห่วงใยความปลอดภัยเด็กและเยาวชนจมน้ำช่วงปิดเทอม ตำรวจน้ำสานต่อความห่วงใย จัดโครงการสอนน้องว่ายน้ำ หวังลดความสูญเสีย

วันนี้ (7 ตุลาคม 2566) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มีความห่วงใยเด็กๆ และเยาวชนที่เล่นน้ำในช่วงปิดภาคเรียนอาจเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้ และการจมน้ำเสียชีวิตนั้นนับเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่คร่าชีวิตเด็กและเยาวชนไทย โดยเป็นอุบัติภัยที่สามารถป้องกันด้วยการใช้ความระมัดระวัง

ในช่วงปิดเทอมนี้ กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดฝึกสอนการว่ายน้ำให้กับเด็ก และเยาวชน ในห้วงเดือนตุลาคมนี้ ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ล่าสุด ตำรวจน้ำสมุยได้จัดโครงการตำรวจน้ำสอนน้องว่ายน้ำ ระหว่างวันที่ 5 -7 ต.ค.66 เวลา 16.00 - 18.00 น. ณ โรงแรมราชพฤกษ์ สมุย รีสอร์ท อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี  โดยมีน้องๆ เด็กและเยาวชนเข้าร่วมโครงการจำนวน 15 คน 

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการจมน้ำของเด็ก และมีหัวข้อการสอนดังนี้ ฝึกการลอยตัว แนะนำอุปกรณ์ช่วยชีวิต การใช้งานอุปกรณ์ แนะนำสาธิตการเอาตัวรอดทางน้ำ เมื่อตกน้ำ สาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ/CPR การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ (ตะโกน โยน ยื่น) และอื่นๆ

ประชุมเตรียมความพร้อมรายงานผลการดำเนินงานและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการแก้ไข ปัญหาการค้ามนุษย์ ระหว่างคณะผู้แทนจากสำนักงานต่อต้านการค้ามนุษย์ของกระทรวง การต่างประเทศสหรัฐอเมริกา (J/TIP) กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2566 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 7 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ ตร. โดยมี พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์
พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท. พร้อมคณะทำงาน
ศพดส.ตร. ได้รับการประสานจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าคณะผู้แทนจากสำนักงานต่อต้านการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา (J/TP) มีเดินทางมา
ประเทศไทย เพื่อประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการตรวจเรือและการตรวจคัดกรองผู้เสียหายที่ทำงานในเรือประมง ณ ประเทศไทย ในวันที่ 11-12 ต.ค. 66 เพื่อให้การเตรียมความพร้อมในการประชุมร่วมกับคณะทำงานจากสำนักงานต่อต้านการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา (J/TIP) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพจึงกำหนดจัดประชุมเตรียมความพร้อมในการประชุมร่วมกับ คณะทำงาน J/IP โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ผู้แทนสำนักงานคดีค้ามนุษย์, ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนกรมประมง, ผู้จัดการโครงการ Spring, ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พม., ผู้แทนกรมอเมริกาและแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศ, ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ, ผู้แทนสำนักงานประกันสังคม และผู้แทนจากกระทรวงแรงงาน
ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

‘มท.’ ร่วมมือ ‘สตช.-ดีอีเอส’ ปราบปืนเถื่อน ออกมาตรการคุมใช้ปืนเข้ม สั่งห้ามออกใบอนุญาต-พกปืนในจังหวัด พร้อมสกัดซื้อ-ขายออนไลน์

(10 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบ ตามที่กระทรวงมหาดไทย รายงานความคืบหน้า มาตรการควบคุมการพกพาอาวุธปืนและกระสุนปืน รวมถึงสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ดัดแปลงเป็นอาวุธ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย หลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิงในห้างดัง เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา

โดยกระทรวงมหาดไทย ชี้แจง ครม.ว่าได้ออกคำสั่งให้ดำเนินมาตรการ ดังนี้
1.) ให้เข้มงวดเรื่องการออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ระเบิดและดอกไม้ไฟ หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน โดยให้นายทะเบียนผู้มีอำนาจในการอนุญาตออกใบอนุญาต งดออกใบอนุญาต ในการสั่งนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดแบลงค์กันหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนอื่น ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธโดยง่าย

2.) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายทะเบียนในท้องที่ ให้แจ้งคนที่ครอบครองแบลงค์กันและสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ครอบครองอยู่ ให้มาลงทะเบียนลงบันทึกประจำวันในภูมิลำเนาที่อยู่

3.) การขอมีหรือใช้ซึ่งอาวุธปืน หรือการขอซื้อ สั่ง หรือนำเข้าเครื่องกระสุนปืนของสมาคมกีฬายิงปืน การอนุญาตออกใบ ป.3 หรือ ใบ ป.4 ให้แก่สมาคมกีฬายิงปืนให้อนุมัติเฉพาะที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมกีฬาเท่านั้น และเครื่องกระสุนปืนที่สั่งเข้ามาต้องตรงกับอาวุธปืนที่ครอบครอง ห้ามต่างชนิดกันเด็ดขาด

4.) การออกใบอนุญาตให้พกอาวุธปืนติดตัว ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการที่จะอนุญาตให้พกพาในจังหวัด จากนี้ให้งดห้ามออกใบอนุญาตพกพาภายในเขตจังหวัด

นอกจากนั้น ได้ขอความร่วมมือไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ร่วมมือกันปราบปรามการซื้อขายอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ผ่านช่องทางออนไลน์ และให้กรมศุลกากรตรวจสอบสิ่งเทียมอาวุธปืนที่นำเข้า ก่อนที่คำสั่งนี้จะประกาศใช้ ให้ตรวจเช็กว่าสิ่งเทียมอาวุธปืนดังกล่าวมีการดัดแปลงนำเข้ามาหรือไม่

นายชัย กล่าวว่า และให้สนามยิงปืนเข้มงวด ตรวจจำนวนผู้มาใช้บริการ โดยจดบันทึกรายละเอียดผู้เข้ามาใช้ทุกคน และอาวุธปืนที่นำมาใช้ต้องได้รับอนุญาต ส่วนกระสุนที่ใช้ในการซ้อมยิงห้ามนำออกจากสนามและต้องตรวจนับให้ชัดเจน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566

เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. 66 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สำหรับในปี 2566 หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพสกนิกรชาวไทย ร่วมกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมกันทั่วประเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรรัชกาลที่ 9 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค. 66 ทั้งนี้ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป  

ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจพร้อมคณะ และข้าราชการตำรวจเข้าร่วมพิธี โดยมีกำหนดการ ดังนี้

• เวลา 07.00 น. พิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล 
ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
• เวลา 08.45 น. พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล
ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
• เวลา 09.15 น. พิธีวางพวงมาลา และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ห้องโถง 
ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดจัดพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ ตร. เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล เนื่องในโอกาส “วันตำรวจ” ประจำปี 2566

วันที่ 17 ต.ค.66 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดจัดงานวันตำรวจ ประจำปี 2566 เนื่องในโอกาสวันครบรอบวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคุณ นิภาพรรณ  สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และ
คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพิธีสงฆ์ เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีรายละเอียดการจัดงาน  ดังนี้

• เวลา 07.00 น. พิธีบูชาพระภูมิ พระพุทธโสธร พระนิรันตราย และพระนารายณ์ ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
• เวลา 08.00 น. พิธีสักการะรูปจำลอง พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ณ ชั้น 3 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
• เวลา 08.20 น. พิธีสักการะพระบรมรูปหล่อ รัชกาลที่ 9 ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 
• เวลา 08.35 น. พิธีวางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ 
รัชกาลที่ 4 ณ ด้านหน้าอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
• เวลา 09.00 น. พิธีสงฆ์ (บำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานและเจริญพระพุทธมนต์ ณ ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
• เวลา 10.15 น. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะสมาคมแม่บ้าน คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 149 ราย ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดได้แบ่งประเภทของผู้ที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ ดังนี้

1. ผู้บริจาคเงินและสิ่งของ จำนวน 9 ราย
2. พลเมืองดีที่ช่วยเหลืองานตำรวจ จำนวน 9 ราย
3. หน่วยงานและข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรม 
และจรรยาบรรณของตำรวจ จำนวน 6 ราย
4. ศูนยรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ดีเด่น จำนวน 11 ราย
5. โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบล (Strong Together) จำนวน 6 ราย
6. การแข่งขันการประชาสัมพันธ์คลิปวิดีโอผ่านทางโซเซียล TikTok ในหัวข้อ 
“รู้ทัน 18 กลโกง อาชญากรรมทางเทคโนโลยี” จำนวน 10 ราย

7. สถานีตำรวจที่มีชุดปฏิบัติการ RTP Cyber Village ดีเด่น จำนวน 10 ราย
8. สถานีตำรวจที่ชนะเลิศการฝึก จำนวน 12 ราย
9. ข้าราชการตำรวจที่ทำหน้าที่พนักงานสอบสวนดีเด่น จำนวน 15 ราย
10. ข้าราชการตำรวจที่ทำหน้าที่จราจรดีเด่น จำนวน 9 ราย
11. ข้าราชการตำรวจที่ทำหน้าที่ป้องกันยาเสพติดดีเด่น จำนวน 14 ราย
12. ข้าราชการตำรวจที่ทำหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดดีเด่น จำนวน 13 ราย
13. ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในสายป้องกันปราบปรามดีเด่น จำนวน 11 ราย
14. ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในสายงานสืบสวนดีเด่น จำนวน 14 ราย

หลังจาก เมื่อเสร็จสิ้นพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางเพื่อไปตรวจเยี่ยมและมอบขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการตตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ณ หอผู้ป่วยข้าราชการตำรวจ ชั้น 11 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ จำนวน 4 ราย 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top