Tuesday, 7 May 2024
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผบ.ตร.ทำงานเชิงรุก ตรวจเยี่ยมชุมชนยั่งยืนเชียงราย ปลื้มคืนคนดีสู่สังคม ด้านผู้บำบัด ยาหอมขอบคุณตำรวจ ที่ให้โอกาส สร้างอาชีพ เหมือนได้ชุบชีวิตใหม่

  เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2565 เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ,พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย  พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย เข้าตรวจเยี่ยมชุมชนยั่งยืน วัดราษฎร์ชุมพล ม.4 ต.บ้านด้าย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นชุมชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติของจังหวัดเชียงราย
    พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้เข้าไปพูดคุยสอบถามผู้ที่ผ่านการบำบัดของ โครงการชุมชนยั่งยืนวัดราษฎร์ชุมพล อ.เวียงชัย  โดยชื่นชมการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวของตำรวจที่บูรณาการร่วมภาคส่วนอื่นๆ จนประสบความสำเร็จ
     หนึ่งในผู้ที่เข้าเข้าร่วมโครงการ ได้กล่าวขอบคุณ ผบ.ตร.และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีโครงการดีๆแบบนี้ ไม่เช่นนั้น ไม่รู้ว่าจะเลิกยาเสพติดอย่างไร และปัจจุบันตำรวจยังจัดหาอุปกรณ์ตัดหญ้า ให้เป็นอาชีพ ทุกวันนี้มีรายได้พอเลี้ยงชีพตนเอง เหมือนได้ชีวิตใหม่ 
 

ผบ.ตร. ตั้งศูนย์ปราบปรามลักลอบเล่นทายผลฟุตบอล รับเทศกาลฟุตบอลโลก เตรียมส่งตำรวจนอกเครื่องแบบสอดส่องสถานประกอบการที่อาจลักลอบเล่นการพนัน

วันที่ 20 พ.ย 65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) กล่าวถึงมหกรรมฟุตบอลโลก 2022  ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งการแข่งขันนัดแรก เป็นการพบกัน ระหว่าง กาตาร์ กับ เอกวาดอร์ จะเริ่มต้นขึ้นวันนี้เวลา 23.00 น. ที่สนาม AL Bayt Stadium วันนี้ โดยระบุว่า เกมการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นที่ชื่นชอบของคอบอลทั่วโลก โลกสำหรับประเทศไทย แฟนบอลชาวไทยตั้งตารอคอยที่จะรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกมาอย่างยางนานถึง 4 ปี และใจจดใจจ่อว่าจะได้รับชมฟุตบอลโลกหรือไม่ เมื่อได้รับชมแล้ว ก็ขอให้ทุกคนชมกีฬาชนิดนี้อย่างสร้างสรรค์เพื่อความบันเทิงเท่านั้น 

ทั้งนี้ อย่าใช้เกมกีฬานี้ไปในทางที่ผิด อย่าเล่นพนันฟุตบอลในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทายผลฟุตบอลพนันออนไลน์ เจ้ามือโดยตรงหรือในบ่อนทุกช่องทาง 

ผบ.ตร. สรุปเหตุการณ์ APEC 2022 ขอบคุณประชาชน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทุกนายร่วมปฏิบัติ ร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพที่ดี พอใจประชุมเอเปคเรียบร้อย

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร แถลงภายหลังการประชุมสรุปการปฏิบัติงาน และปิดกอ.ร่วมฯ ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.กอ.ร่วมฯ มอบหมายให้ตน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ และแถลงปิด กองอำนวยการร่วมฯ ที่ร่วมกันปฏิบัติภารกิจ ตั้งแต่วันที่  14 – 20 พฤศจิกายน 2565 

“ผลการปฏิบัติในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์การประชุมฯ เกิดภาพลักษณ์ที่ดี ต่อประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยและการจราจร ถือเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการประชุมฯ ครั้งนี้ อย่างไรก็ดี ยังคงมีภารกิจที่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยยังคงเหลือเขตเศรษฐกิจเอเปค 4 เขตเศรษฐกิจพิเศษ ประกอบด้วย ปาปัวนิวกินี จีนไทเป สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง ที่จะเดินทางกลับประเทศตามกำหนดการทั้งหมดในวันนี้ โดยกองอำนวยการร่วมฯ ยังต้องคงความเข้มข้นในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น” ผบ.ตร. กล่าว 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า  ตามแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ในการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมฯ บูรณาการทุกภาคส่วน ปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ จนกว่าจะเสร็จสิ้นการประชุมฯ นั้น ภาพรวมการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจ ดังนี้ 

1. การรับแจ้งเหตุ 1599 (22 สาย) และ 191 (34 สาย) รวมจำนวน 56 เรื่อง ตรวจสอบและดำเนินการเรียบร้อยทุกเรื่อง
2. การยื่นข้อเรียกร้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 เรื่อง
3. บุคคลทิ้งสิ่งของ (ถังดับเพลิง) ลงไปยังพื้นผิวการจราจรวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565
4. จับกุมอาวุธมีด 4 ราย ปืนพก 1 ราย (18 พฤศจิกายน 2565 ) และโดรนผิดกฎหมาย 1 ราย (17 พฤศจิกายน 2565)
5. ตรวจพบเหตุวัตถุต้องสงสัย 8 ราย (รถยนต์ 1 รถจักรยานยนต์ 1 สิ่งของต้องสงสัย 6)
6. ดำเนินคดีบุคคลบุกรุกเข้าไปในงานเลี้ยงรับรองฯ 4 ราย (หอประชุมกองทัพเรือ)
7. การชุมนุมสาธารณะในพื้นที่ กทม. จำนวน 13 กลุ่ม โดยมีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการชุมนุม 25 ราย ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ ประมาณ 10 กว่าราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 14 นาย (อยู่ระหว่างพักรักษาตัวโรงพยาบาล 1 ราย) และทรัพย์สินของทางราชการเสียหายหลายรายการ (รถกระบะ 4 คัน ฯลฯ)  อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนฯ นอกจากนี้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ 1 ราย ด้วยเหตุโรคประจำตัว ปฏิบัติหน้าที่จุดคัดกรอง ณ โรงแรมดิแอทธินี

ผบ.ตร.ตั้ง ผบช.น.สอบคดี รองผู้การ 6 ช่วย ‘ตู้ห่าว’ หลังพบเอี่ยวปล่อยรถหรู 4 คัน แลกเงิน 8 ล้าน

ผบ.ตร. ตั้ง ผบช.น.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีรองผู้การ 6 ช่วย ‘ตู้ห่าว’ ปล่อยรถหรู 4 คันแลกเงิน 8 ล้าน 

วันนี้ (24 พ.ย.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) เปิดเผย ถึง คดี ‘ตู้ห่าว’ นายทุนจีนสีเทา ว่า ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น) เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงโดยมี  พล.ต.อ.สุเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร กำกับดูแล กรณี (พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ) รอง ผบก. น. 6 เข้าไปเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา ปล่อยรถหรูจำนวน 4 คัน แลกกับเงิน 8 ล้านบาท โดยยืนยันว่าหากพยานหลักฐานไปถึงใครก็จะต้องมีการดำเนินคดีทั้งหมด หากไม่มีมูลก็แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากมีการแจ้งข้อกล่าวก็แสดงว่ามีมูลอยู่ ส่วนรายละเอียดไม่อยากก้าวล่วงให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน ส่วนจะมีระดับใหญ่กว่า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 หรือไม่ที่เรียกรับเงิน 8 ล้าน ก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน จะไปพูดถึงหรือพาดพิงใครไม่ได้ ตอนนี้พยานหลักฐานถึง ตู้ห่าว เราก็ดำเนินคดีขออนุมัติหมายจับ ไปแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ประชุมมอบนโยบาย ศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบฯ เน้นรับแจ้งเหตุให้ทั่วถึงและขยายผลจับกุมให้หมดสิ้น

วันนี้ (24 พ.ค.65) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ได้เป็นประธานในการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติให้กับชุดปฏิบัติการ ศปน.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร. และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร. ณ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กำชับให้ชุดปฏิบัติการ ศปน.ตร. ให้ความสำคัญกับข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ซึ่งปัจจุบันเปิดรับ 2 ช่องทาง ได้แก่ สายด่วน 1599 หรือสามารถแจ้งความได้ตามสถานีตำรวจทุกท้องที่ทั่วประเทศ โดยได้สั่งการให้มีการประสานการปฏิบัติกันระหว่างฝ่ายรับแจ้งเหตุ ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสอบสวน ให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ และมีการรายงานผลการปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นระยะอย่างใกล้ชิด และยังได้สำรวจคดีที่เกี่ยวข้องกับหนี้นอกระบบทั้งหมด เพื่อเร่งรัดให้เสร็จสิ้นตามกรอบเวลา รวมทั้งได้กำหนดตัวชี้วัดและแนวทางการปฏิบัติเพื่อใช้วัดผลการปฏิบัติให้เห็นความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ประกอบไปด้วยมาตรการการรับแจ้งเหตุ การปราบปราม และการเพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมทางอาญา

‘ตร.’ เผย 2 เดือน จับยาเสพติดเฉียด 5 หมื่นคดี พร้อมทลาย ‘แก๊งต่างชาติ-ทุนจีน-พนันบอล’ เพียบ

ผบ.ตร.โชว์ผลงานรอบ 2 เดือน เน้นงานนโยบาย 5 ด้าน เร่งด่วน แก้ปัญหาผู้เสพกว่า 1.4 แสนราย จับกุมปืน 22,027 คดี กวาดล้างยาเสพติด 47,310 คดี พนันฟุตบอล 5,101 ราย ทลายเครือข่ายนายทุนจีน แก๊งต่างชาติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

วันนี้ (30 พ.ย.65) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านอาชญากรรม ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ด้านปัญหายาเสพติด อาวุธปืน สถานบริการ การพนัน คดีออนไลน์ และเครือข่ายคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมายในประเทศไทยอย่างเฉียบขาด จริงจัง และต่อเนื่อง โดยบังคับใช้ทุกมาตรการทางกฎหมาย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแถลงผลการดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 28 พ.ย. 65 จำนวน 5 ด้าน ดังนี้

1.) สถิติอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (1 ต.ค.- 28 พ.ย.65) รับคำร้องทุกข์ 142,740 คดี  จับกุมได้ 131,349 คดี คิดเป็น ร้อยละ 92

(1.1) จับกุม อาวุธปืนและวัตถุระเบิด 22,027 คดี 20,316 คน (ปืนสงคราม 220 คดี, ปืนไม่มีทะเบียน 6,466 คดี, ปืนมีทะเบียน 529 คดี )

(1.2) คดีเกี่ยวกับการพนัน 15,407 คดี ผู้ต้องหา 18,170 คน จับกุมกรณี บ่อนการพนัน (20 คนขึ้นไป) 4 คดี ผู้ต้องหา 108 คน

โดยศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลโลก (World Cup 2022) มีผลปฏิบัติ จับกุมเจ้ามือ จำนวน 104 ราย (เจ้ามือ 57 ราย เจ้ามือออนไลน์ 47 ราย) ผู้เล่น 4,975 ราย (ผู้เล่นทั่วไป 4,559 ราย ผู้เล่นออนไลน์ 416 ราย) เดินโพย 22 ราย รวม จำนวนทั้งสิ้น 5,101 ราย โดยยึดของกลางโพยบอล 7,064 ใบ เงินสด 98,140 บาท รวมมูลค่า 1,268,000 บาท
(1.3) จับกุมความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ 1,032 คดี ผู้ต้องหา 1,024 คน

2.) ด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด

(2.1) ค้นหาและนำผู้สมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดฯ จำนวน 72,716 ราย และผู้เสพที่มีอาการ ทางจิตประสาท จำนวน 21,143 ราย รวมทั้งสิ้น 93,859 ราย

(2.2) ผู้เสพไม่สมัครใจบำบัดหรือกระทำผิดซ้ำ จับกุม จำนวน 46,980 ราย (กลุ่มฐานความผิดร้ายแรง (ผู้จำหน่าย ครอบครองเพื่อการค้า ซึ่งทำให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน) จำนวน 9,329 ราย โดยสามารถนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย รวมทั้งสิ้น จำนวน 140,839 ราย ระยะเวลา ต.ค.-พ.ย.65 คิดเป็นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ.2565

(2.3) จับกุมยาเสพติด 47,310 คดี ผู้ต้องหา 46,453 คน ปริมาณของกลางยาบ้า 34,827,953 เม็ด ไอซ์ 67.88 กิโลกรัม เฮโรอีน 125.9 กิโลกรัม เคตามีน 406.5 กิโลกรัม โคเคน 2.4 กิโลกรัม และยาอี 1,217 เม็ด ดำเนินการตามยึดทรัพย์ ตามมาตรการฟอกเงิน 3 ราย

(2.4) ดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรในพื้นที่ 1,483 หมู่บ้าน/ชุมชน จำนวนไม่น้อยกว่า 15,000 ราย โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในห้วง ม.ค.-เม.ย.2566

3.) ด้านการแจ้งความออนไลน์ และ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี
สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ตั้งแต่ 1 มี.ค. - 29 พ.ย.65 รับแจ้งความ 134,268 คดี พบว่า ข้อมูล 5 กลโกงที่พบการรับแจ้งมากที่สุด 
(1) คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 
(2) โอนเงินเพื่อหารายได้จากกิจกรรม 
(3) หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 
(4) หลอกให้ลงทุน 
(5) หลอกลวงทางโทรศัพท์แบบเป็นขบวนการ/Call Center)

ข้อมูล 5 กลโกงที่พบความเสียหายสูงสุด
1.หลอกให้ลงทุน (6.4 ลบ.) 
2.หลอกลวงทางโทรศัพท์แบบเป็นขบวนการ (2.1 ลบ.) 
3.โอนเงินเพื่อหารายได้จากกิจกรรม (2.0 ลบ.) 
4.หลอกให้รักแล้วลงทุน (0.99 ลบ.)
5.หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน (0.67 ลบ.)
สามารถติดตามอายัดบัญชี 49,765 บัญชี สามารถอายัดได้ทัน 385,759,583 บาท

4.) ด้านเครือข่ายคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย ผบ.ตร. สั่งการให้ ผบช.สตม. ดำเนินการเพิ่มความเข้มในการคัดกรอง กวาดล้างและจัดระเบียบ คนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย กระทำความผิดลักษณะเป็นเครือข่ายคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนี้
(4.1) คัดกรองคนต่างด้าวมีการปฏิเสธคนต่างด้าวเข้าเมือง จำนวน 3,395 ราย คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 2,005 ราย ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น 21 ราย และจัดระเบียบคนต่างด้าวในประเทศ ไม่รายงานตัวฯ 582 ราย (มาตรา 37) ไม่แจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าว 8,770 ราย (มาตรา 38) และจับกุมคนต่างด้าวอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) จำนวน 1,073 ราย

(4.2) ขยายจับกุมเครือข่ายนายทุนจีนผิดกฎหมาย จากกรณี ร้านผับจินหลิง คดีที่เมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 เข้าตรวจค้น พบผู้ใช้ยาเสพติดกว่า 104 ราย และพบยาเสพติดจำนวนมาก พร้อมตรวจยึดรถยนต์หรู จำนวน 35 คัน จากการขยายผลพบเพิ่มอีก 4 กรณี ได้แก่

(1) ร้านคลับวันพัทยา พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา หลังการตรวจค้น พบยาเสพติดจำนวนมาก ผู้ต้องหา 4 ราย
(2) ร้านท็อปวัน พื้นที่ สน.สุทธิสาร มีกลุ่มคนจีนเป็นเจ้าของ โดยใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินี จำนวน 2 ราย
(3) ร้านจินหลิง พื้นที่ สน.ยานนาวา จับกุมขยายผลผู้ต้อง 4 ราย ได้ของกลางเป็นยาเสพติดประเภท เฮโรอีน ยาอี และแฮปปี้วอเตอร์ ตรวจค้นจุดต้องสงสัยกว่า 38 จุด ยึดรถหรู 5 คัน เงินสด 19 ล้านบาท หลังจากนั้นได้ขออนุมัติออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย
(4) ร้านเบบี้เฟซ พื้นที่ สน.คลองตัน หลังตรวจค้นที่พัก พบสุราต่างประเทศ ไวน์ต่างประเทศ บุหรี่ต่างประเทศ บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ และอาวุธปืน หลังจากรวบรวมพยานหลักฐาน ได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เพิ่มจำนวน 4 ราย โดยคดีนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง

(4.3) จับกุม คนต่างด้าวลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 คนต่างด้าว 56 ราย ใช้ไทยเป็นฐานลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เห่อซิง โดยมีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท

(4.4) จับกุมแก๊งค์อุ้มเรียกค่าไถ่ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 ผู้ต้องหา 2 ราย เกี่ยวข้องกับแก๊งอุ้มตัดนิ้วเพื่อนร่วมแก๊งเรียกค่าไถ่ 37 ล้านบาท

(4.5) จับกุมคนต่างด้าวสวมบัตรประชาชน เมื่อวันที่ 9 พ.ย.65 จับกุมนายทุนรายใหญ่ สวมบัตรประชาชนไทย ตามหมายจับศาล จว.ปัตตานี จ.125/65 ยึดของกลางหลายรายการ เช่น ชุดเครื่องแบบฯ ติดป้ายชื่อ รถยนต์ 2 คัน (ติดธงจีนคล้ายรถสถานทูต) หนังสือเดินทาง 3 เล่ม

(4.6) จับกุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.65 รวบหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หนีซุกไทยเสวยสุข ตามหมายจับฯ ข้อหา เกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกง การลักทรัพย์ เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสาธารณะ หนังสือเดินทางปลอม ตรวจยึด รถยนต์ยี่ห้อ Ferrari 1 คัน มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท
(5.) โครงการ ‘ทำดี มีรางวัล’ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรตามโครงการ ‘ทำดี มีรางวัล’ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 8 เรื่อง โดยเป็นข้าราชการตำรวจ จำนวน 12 นาย และประชาชน 3 นาย เช่น การช่วยเหลือ ประชาชน นำส่งเด็กผลัดหลง การปฐมพยาบาล (ปั้มหัวใจ) ช่วยเหลือรถจักรยานยนต์ตกคลอง การจับกุมคนร้ายใช้อาวุธปืน ช่วยเหลือเด็กหญิง เจรจาคนพยามยามจะกระโดดสะพาน ใช้ไหวพริบในการจับกุมยาเสพติดกว่า 5 ล้านเม็ด

'บิ๊กตู่' นั่งประธานประชุมใหญ่คณะกรรมการนโยบายตำรวจ ย้ำ!! ทุกความเคลื่อนไหว สตช. ต้องทำให้ปชช.กระจ่าง

(7 ธ.ค. 65) ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และ ประชุม คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 2/2565 โดยมีพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้การต้อนรับ

หลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเดินตรงดิ่งไปขึ้นรถที่จอดเตรียมรอไว้ หลังจากนั้นไม่นาน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ถึงการประชุมที่ได้หารือถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) โดยได้สรรหาและคัดเลือกในด้านต่าง ๆ จำนวน 5 คน ดังนี้...

1. ด้านยุทธศาสตร์
2. ด้านกฎหมาย
3. ด้านพัฒนาองค์กร
4. ด้านสื่อสารมวลชนหรือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหรือการสื่อสาร
และ 5. ด้านภาคประชาชน

รองโฆษก ตร. เตือน ปชช. ระวังโจรออนไลน์ หลอกให้โหลดแอปควบคุมมือถือ ก่อนฉกเงินหนี

วันนี้ (5 ม.ค. 66) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณี มีผู้เสียหาย ถูกคนร้ายส่งข้อความ “ขอขอบคุณที่ใช้บริการ จะมอบคูปองฟรีให้ 1 ใบ” ตามลิงก์ที่คนร้ายส่งให้ ผู้เสียหายกดลิงก์แอดไลน์ คนร้ายขอให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน ไลอ้อนแอร์ แล้วพิมพ์ชื่อ นามสกุล ภาษาอังกฤษ และเบอร์โทรศัพท์ จากนั้น คนร้ายบอกว่าให้รอห้ามวางสาย ต่อมาปรากฎว่ามีเงินหายไปหมดบัญชี คนร้ายยังกดเงินจากบัตรเครดิตซึ่งผูกกับ แอปพลิเคชันธนาคารออนไลน์ สูญเงินทั้งสิ้นกว่า 2 แสนบาท

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวคนร้ายแอบอ้างบริษัทเอกชน ที่มีชื่อเสียงต่างๆส่ง sms แจ้งเหยื่อว่าจะได้รับของรางวัล หากหลงเชื่อจะหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุมมือถือระยะไกล โดยปกติจะมีขั้นตอนของมันเล็กน้อย คนร้ายอาจจะบอกให้เรากรอก ตัวเลข หรือ ตัวอักษรสักชุด หรือไม่ คนร้ายก็หลอกถามเอาตัวเลขชุดนั้นจากเรา เมื่อคนร้ายได้รหัสหรือตัวเลขบางอย่างจากเครื่องของเรา คนร้ายจะนำรหัสไปใช้ในการควบคุมเครื่องของเราได้ทันที สามารถใช้งานบังคับ ทุกอย่างได้ เปรียบเสมือนเป็นเจ้าของเครื่อง ขณะหลอกให้รอห้ามวางสาย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงดูดข้อมูล จากนั้นคนร้ายจะขอเปลี่ยนรหัสเข้าบัญชีเอง เพราะมีเลข OTP ส่งจากธนาคารมาที่โทรศัพท์ผู้เสียหาย แต่คนร้ายสามารถเห็นได้ที่หน้าจอคนร้ายเอง และจะทำการโอนเงินไปสู่บัญชีเป้าหมายด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องให้เหยื่อโอนเงินให้เหมือนวิธีเดิมๆ ทำให้เหยื่อสูญเงินออกจากบัญชี

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ วิธีป้องกันตนเองต่อภัยโจรออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบ ในกรณีนี้ สามารถป้องกันได้โดย

1. มีสติ ตรวจสอบข้อความที่ได้รับอย่างระมัดระวัง หากมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานใดติดต่อหรือแสดงตัว ไม่ว่าเรื่องใด ๆ ให้โทรสอบถามจากเบอร์กลางของหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงนั้น ๆ ทุกครั้ง

2. ห้ามกดลิงก์หรือติดตั้งแอปที่ไม่ทราบที่มาที่ไป รวมถึงไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ เมื่อรับสายจากต้นทางที่ไม่ทราบที่มาที่ไปชัดเจน

'รอง ผบ.ตร.' เผย ปีใหม่ 2566 อุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตลดลงตามเป้าหมาย บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลักกว่า 500,000 ราย จับกุมเมาแล้วขับ 22,439 คดี พร้อมปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ

วันนี้ (5 ม.ค. 65) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์  รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ ตร. , พล.ต.ท.ธนา  ชูวงศ์  ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช. แถลงผลการดำเนินการในการอำนวยการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุ และการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน เทศกาลปีใหม่ 2566 พร้อมปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ตร. 

พล.ต.อ.รอยฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชน และเน้นบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ผ่านมานั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.65 เป็นต้นมาจนถึงวันสุดท้ายคือ  5 ม.ค.66 ซึ่งทุกวันจะมีการติดตามสถานการณ์การจราจร และการปฏิบัติของแต่ละหน่วย ผ่านระบบ VDO Conference  โดยมี  พล.ต.อ.รอยฯ รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานจราจร เป็นผู้กำกับดูแลในแต่ละวัน และให้หน่วยระดับ บช., ภ.จว. และทุกสถานีตำรวจเฝ้าฟัง ทั้งนี้เพื่อลดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด โดยผลการดำเนินการในแต่ละด้าน มีดังนี้ 

1.) การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร จัดกำลังตำรวจกว่า 50,000 นาย ดูแลการจราจรตลอด  7 วัน มีปริมาณรถ เข้า-ออกจาก กทม. รวมจำนวน 7,199,251 คัน ออกจาก กทม. จำนวน 3,428,939 คัน และเข้า กทม. จำนวน 3,770,312 คัน วันที่ประชาชนเดินทางออกจาก กทม. มากที่สุด คือวันที่ 29 ธ.ค.65 วันที่ประชาชนเดินทางเข้า กทม. มากที่สุด คือวันที่ 3 ม.ค.66 มีการเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) จำนวนทั้งสิ้น 117 ครั้ง (ระบายรถขาออก 51 ครั้ง /  ขาเข้า 66 ครั้ง) รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ที่ขออนุญาตเดินรถในช่วงเวลาห้าม ผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 23,587 คัน อนุญาตให้เดินรถได้ 23,007 คัน  (รถที่ได้รับอนุญาตมากที่สุด คือ รถบรรทุกน้ำมันหรือแก๊ส (ร้อยละ 47.43) รองลงมา คือ รถบรรทุกอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค (ร้อยละ 44.80) ) ไม่อนุญาตจำนวน 580 คัน  และพบผู้ฝ่าฝืนเดินรถในเวลาห้าม จำนวน 228 ราย เนื่องจากเป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัด       

2.) การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก มีการตั้งจุดตรวจทุกวันเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืน ทั่วประเทศ มีจำนวนจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 2,142 จุดตรวจ จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,629 จุดตรวจ พบผู้ที่ฝ่าฝืนทั้งสิ้น 518,367 ราย เป็น ข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา 22,439 ราย (มากกว่าค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง คิดเป็น 21.31 %) ขับรถเร็วเกินกำหนด 199,640  ราย/ไม่สวมหมวกนิรภัย 102,864 ราย/ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 28,747 ราย โดย 10 ข้อหาหลักนี้ จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการดำเนินคดีเมาแล้วขับ เป็นการนำผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ซึ่งมีโอกาสก่ออุบัติเหตุออกจากท้องถนนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุได้จำนวน 22,439 คน  

3.) การป้องกันและลดอุบัติเหตุ รัฐบาลกำหนดค่าเป้าหมายให้ จำนวนครั้ง การเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ (admit) ต้องลดลงไม่น้อยกว่า 5 % เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลปีใหม่ เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง (พ.ศ.2563-2565) ซึ่งจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้สถิติอุบัติเหตุลดลงตามเป้าในทุกด้าน 
- การเกิดอุบัติเหตุ 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2566 เกิดจำนวน 2,440 ครั้ง  ลดลงจากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (3,153 ครั้ง) เป็นจำนวน -713 ครั้ง  (ลดลง -22.61 %) 
- จำนวนผู้เสียชีวิต 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2566 มีจำนวน 317 ราย  ลดลงจากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง (366 ราย) เป็นจำนวน -49  ราย (ลดลง -13.39 %) 
- จำนวนผู้บาดเจ็บ 7 วันของเทศกาลปีใหม่ 2566 มีจำนวน 2,437 คน  ลดลงจากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง(3,165 คน) เป็นจำนวน -728 คน (ลดลง 23.00 %) 
ทั้ง 3 สถิติถือว่าลดลงมากกว่า 5% สำเร็จตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด

ตำรวจพร้อม 3 มาตรการ ดูแลความปลอดภัย 'วันเด็กแห่งชาติ 2566'

​สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดแผนและมาตรการดูแลความปลอดภัยในห้วงวันเด็กแห่งชาติ พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือในการดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด

วันนี้ 11 มกราคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงมาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยในห้วงวันเด็กแห่งชาติ เป็นมาตรการใน 3 ส่วนที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนาน และมีความปลอดภัย
1.) สร้างความปลอดภัยการจัดกิจกรรม โดยขอความร่วมมือผู้จัดงานทั้งในส่วนของหน่วยงานราชการ และเอกชน ซึ่งมีกิจกรรมที่มีเด็ก เยาวชน และผู้ร่วมงานจำนวนมาก ให้ระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยการทำกิจกรรม อันตรายจากอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ควรให้มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ ดูแล  โดยเฉพาะสถานที่จัดงานที่อยู่ใกล้แม่น้ำลำคลอง หรือมีสระน้ำ บ่อน้ำ อยู่บริเวณใกล้เคียง
2.) สร้างการรับรู้ให้กับ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ในการดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กไปเที่ยวลำพัง และควรจัดทำบัตรที่ระบุชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ติดไว้กับตัวเด็ก
3.) สร้างความไม่ประมาทในการเดินทาง การใช้รถโรงเรียนหรือรถยนต์โดยสารรับจ้าง เป็นพาหนะในการเดินทางพานักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นหมู่คณะ ให้ผู้ขับขี่ ปฏิบัติตามกฎจราจร และให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ สอดส่องดูแลอย่าให้เด็กห้อยโหน รวมทั้ง ระมัดระวังการขึ้นรถลงรถของเด็ก และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top