สรุปจำนวน สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ วัดพลังกัน 2 ฝั่ง
(15 มิ.ย. 68) สรุปจำนวน สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ วัดพลังกัน 2 ฝั่ง!!

(15 มิ.ย. 68) สรุปจำนวน สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ วัดพลังกัน 2 ฝั่ง!!
(15 มิ.ย. 68) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ...
หนีเรียน แล้วมาด่าครู
ตามที่นาย ศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา ได้โพสต์ข้อความใน fb แสดงข้อข้องใจในความล่าช้า ถึงการร่างกฎหมายเกี่ยวกับพลังงานของท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รวมทั้งตำหนินโยบายการทำงานของท่าน ว่าการลดราคาพลังงานที่เป็นอยู่ เป็นการอุดหนุนโดยใช้ภาษีประชาชน เวลาลงพื้นที่ไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้
ผมอยากจะนำเรียน ข้อมูลดังนี้นะครับ
1. เรื่องการลดราคาพลังงาน ในการลดราคาน้ำมันนั้น ท่านพีระพันธุ์ฯได้ประกาศลดเงินกองทุนน้ำมันลง และใช้วิธีให้บริษัทน้ำมันแจ้งต้นทุนราคาน้ำมัน ซึ่งท่านพีระพันธุ์ฯ ยังใช้วิธีขอข้อมูล จากกรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร มาประเมินร่วมกัน จากความขยันของท่าน ทำให้บริษัทน้ำมัน ให้ความร่วมมือ ในการควบคุมราคา ดังจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันนี้ ราคาน้ำมันไม่ได้ขึ้นลงตามอำเภอใจเหมือนในอดีต
2. ในเรื่องของ ค่าไฟฟ้า ตอนท่านพีระพันธุ์ฯ มารับตำแหน่ง ค่าไฟจะปรับไปที่ 4.70 ท่านตรึงราคาอยู่ที่ 4.18 และ 4.15 ตามลำดับ จนล่าสุดปรับลงมาที่ 3.98 โดยใช้เงินกองทุนดูแลผู้ใช้ไฟ ที่ต้องนำส่ง กกพ. ซึ่งเป็นกองทุนที่ไม่ควรมี เพราะเก็บจากค่าไฟของพวกเรา ซึ่งตั้งแต่ท่านรับตำแหน่งสามารถประหยัดเงินให้พวกเราถึงราว 275,000 ล้านบาท ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า จึงไม่ได้ใช้ภาษีของประชาชนมาอุดหนุนครับ
3.ในการร่างกฎหมายนั้น ในแต่ละฉบับมีเป็นร้อยมาตรา ท่านนั่งเขียนของท่านคนเดียวเพื่อให้งานออกมาเร็ว เสร็จแล้วให้ทีมงานช่วยกันตรวจทาน หลังจากนั้นต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกฎหมายแต่ละฉบับตรวจสอบให้ข้อคิดเห็น ซึ่งหน่วยงานแต่ละหน่วยอยู่นอกบังคับบัญชาของท่านเขาก็ตรวจอย่างละเอียดท่านไม่สามารถเร่งรัดได้ หลังจากนั้นยังต้องรับฟังความคิดเห็น แล้วนำมาแก้ไข เพราะกฎหมายใช้บังคับกับคนทั้งประเทศ จึงต้องละเอียดและรอบคอบ ซึ่งเป็นขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ ในตอนนี้กฎหมายปลดล็อคโซลาร์รูฟจากที่ต้องขออนุญาตติดตั้งจาก 5 หน่วยงานเป็นติดตั้งเสรี ก็ผ่านขั้นตอนต่างๆ น่าจะนำเสนอ ครม.ได้ภายใน ก.ค.นี้ เพื่อนำเข้าสภาฯต่อไป ต่อไปก็จะเป็น กฎหมายเกี่ยวกับน้ำมัน,ไฟฟ้า และก๊าซ ที่ท่านก็พยายามดำเนินการอยู่
ข้อมูลต่างๆเหล่านี้ ท่านพีระพันธุ์ฯก็ชี้แจงทุกครั้งที่มีการประชุม ซึ่งเมื่อมีผู้ซักถามท่านก็ตอบทุกครั้ง เหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกถึงตอนสมัยผมเรียนหนังสือ เพื่อนที่เกเรบางคน ไม่เข้าห้องเรียน แล้วพอสอบตก ก็โวยวายว่าเรื่องที่สอบครูยังไม่สอน เหนื่อยใจครับ
(15 มิ.ย. 68) นายสำราญ รอดเพชร สื่อมวลชนอาวุโส และผู้ดำเนินรายการ TOP HEADLINE ได้กล่าวในรายการ โดยมีใจความว่า ...
สุดซอยสุดทาง พรรครวมไทยสร้างชาติ เหยื่อเกม ปรับคณะรัฐมนตรี เหยื่อของทุนใหญ่
หลังจากที่มีภาพการนัดพบกันของ 21 สส. ล่าสุดก็ได้มีหนังสือยื่นถึงท่านนายกรัฐมนตรี พร้อมลายเซ็นของ 21 สส. ในหนังสือ ได้ระบุให้ท่านนายกรัฐมนตรี ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ เนื่องจากรัฐมนตรี ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ก็ได้สวนกลับมาว่า ถ้ารัฐมนตรี ไม่มีประสิทธิภาพ ก็ต้องรวมถึง นายสุชาติ ชมกลิ่น ด้วย
ซึ่งในระหว่างนี้ ก็มีการปะทะคารมณ์ กันระหว่าง นายสุชาติ ชมกลิ่น และนายเอกนัฏพร้อมพันธุ์ โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ กล่าวว่า โทรไปหานายสุชาติแล้ว แต่นายสุชาติไม่รับสาย
ทางด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น ก็ได้กล่าวว่า ผมโทรถามเพื่อนผมว่า เลขาขิง โทรหาผมทำไม เพื่อน สส ที่อยู่ใกล้ตัว บอกว่าเขาโทรมาบอกให้รับสาย เลขาขิง ผมบอกว่าจะรับสายได้อย่างไร ความคิดที่เขาจะมาคุยกับผม เป็นความคิดที่ผมนั้นรับไม่ได้
เขาว่า ให้จับมือกัน แล้วขับ หัวหน้าพรรคออกไปดีกว่า เดี๋ยวเขาเป็นหัวหน้าพรรคเอง ซึ่งมันแรงไปนะ ผมจึงไม่รับสาย
ทางด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ จึงโต้กลับมาว่า ผมพูดความจริงก็ได้ เพื่อนเขา เพื่อนคุณสุชาติ มาชวนเอง ถามว่า เลขาขิง คุยกัน รู้เรื่อง ทำไมไม่ขึ้นเป็นหัวหน้าเลย ให้พี่เฮ้ง มาเป็นเลขาธิการพรรค เคยมาชวนผมแบบนี้ แต่ถูกผมปฏิเสธไปแล้ว และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่มีความพยายาม ทำให้ หัวหน้าพรรค กับเลขาธิการพรรคแตกแยกกัน
ซึ่งล่าสุด ทางด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ ก็ได้ออกมาพูดแล้ว โดยกล่าวว่า ครั้งแรกที่พวกเรามา อยู่ร่วมกันในพรรคการเมืองนี้ ก็เพราะ ‘ลุงตู่’ แต่ที่สุดแล้ว เราก็เหมือนไม่ใช่ผู้ก่อตั้งพรรค เราเป็นเหมือนผู้ที่มาขออาศัยเขาอยู่
ซึ่งสุดท้ายแล้ว การปรับคณะรัฐมนตรี ก็จะเป็นคำตอบสุดท้าย ว่าทั้ง 2 กลุ่มนี้จะอยู่กันอย่างไร ซึ่ง นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็กล่าวไว้แล้วว่า ถ้าเขาหักดิบ ยึดกระทรวงพลังงาน ก็เท่ากับว่าไม่เห็นด้วยกับเรา ไม่รักษาข้อตกลง เขาไม่เอาเรา ผมคิดว่า ท่านหัวหน้าพรรคก็คงไม่เล่นด้วย ถ้าเกมมันไหลไปถึงขั้นต้องเป็นฝ่ายค้านก็ว่ากันไป เราต้องรักษาหลักการ อุดมการณ์ และศักดิ์ศรี
ซึ่งเป็นไปได้สูงว่า การปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะเป็นการแบ่งกันคนละครึ่งระหว่างกลุ่มของนายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กับกลุ่มของนายสุชาติ ชมกลิ่น
ซึ่งในส่วนนี้ นายสำราญ รอดเพชร สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ดำเนินรายการ ได้ฟันธง ว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ยังได้นั่งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อยู่เหมือนเดิม แต่สุดท้ายนี้ จะอย่างไรก็แล้วแต่ ก็ต้องอยู่ในอำนาจของท่านนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาในการปรับคณะรัฐมนตรี
(20 มิ.ย.68) เพจเฟซบุ๊ก ‘กวีเหลวไหลแท้’ โพสต์ข้อความว่า เกมของพีระพันธุ์ รทสช.
การต้องรับมือกับศึกในศึกนอก และความคาดหวังของมวลชน เป็นอะไรที่หนักมากของลุงพี ขณะที่ความต้องการจะทำงานในกระทรวงพลังงานยังคงเป็นเรื่องยากที่จะลุกจากเก้าอี้ เพราะพันธสัญญาที่จะปรับปรุงโครงสร้างราคาพลังงานยังไม่แล้วเสร็จ
เมื่อเกิดคลิปเสียงอัปยศขึ้น พรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ ประชุมกันอย่างเร่งด่วน แต่รทสช. เลือกที่จะประชุมหลังสุด
การประกาศลาออกของภูมิใจไทย ทำให้เสียงของรัฐบาลปริ่มน้ำ รทสช. จึงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะตัดสินว่า ภาพนี้จะสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์
หากวางลงภาพจะสมบูรณ์ใส่กรอบได้ หากไม่วาง ภาพนี้ก็ไร้ค่าโดยสิ้นเชิง
ในเมื่อการเมืองเป็นเรื่องการต่อรอง ลุงพีซึ่งเข้าใจความสำคัญของตนเองดี จึงถือเอาโอกาสแสนดีนี้กำหนดบทบาทของพรรคตนเอง
ถ้าอุ้งอิ้งลาออก หานายกรัฐมนตรีคนใหม่ รทสช.จะเข้าร่วมต่อ เผลอๆ อาจได้เป็นถึงตำแหน่งนายก ซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่งอยู่อีกพอสมควร
ถ้าอุ้งอิ้งไม่ลาออก รทสช.จะไขก๊อกออกเองอย่างไม่รู้สึกผิดต่อพรรคร่วมในข้อครหาไม่ร่วมหัวจมท้ายในยามวิกฤติ
ลุงพีจะร่วมกับรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีมีใจฝักใฝ่อริราชศัตรูได้อย่างไร ความผิดนี้เป็นความผิดของปัจเจกบุคคล ตัวไหนเน่าก็ควรกำจัดออกไป ทำไมต้องหน้าด้านแบกนายกเน่า ๆ อยู่ด้วย หากพรรคร่วมโดยเฉพาะพรรคแกนนำเห็นแก่ผลประโยชน์ชาติจริง ควรจัดการเปลี่ยนตัวนายกเสีย ประเทศจะได้ไปต่อ
เรื่องแค่นี้ถ้าไม่ทำ ก็ป่วยการที่จะร่วมลงเรือลำเดียวกันต่อไป
ซึ่งคำขาดของลุงพี นับว่าทรงพลังมาก แม้จะคาดการณ์ได้ไม่ยากว่า อุ้งอิ้งไม่ลาออกแน่ แต่ก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว
อย่างน้อยลุงพีก็ได้ปฏิบัติตามการยื่นข้อเสนอของลุงตู่ขณะประเทศเป็น failure state ตอนยิ่งลักษณ์ลาออก แล้วมีรักษาการนายกอีกคนอยู่ว่า
“ถ้าตกลงกันไม่ได้ ผมยึดอำนาจ!”
ซึ่งลุงพีสามารถกล่าวเสียงดังด้วยสีหน้าจริงจังได้ว่า
“ถ้านายกไม่ลาออก ผมขอถอนตัว!”
เนื่องจากคงไม่มีการถ่ายทอดสด ดังนั้นแอบอัดคลิปไว้หน่อยนะครับ เราได้ฟังคงฟินน่าดู 555555555
“รักลุงพีครับ”
(28 มิ.ย. 68) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าพรรค รทสช. ขู่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. ไม่พอใจที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค รทสช. ได้โควตา รมช.มหาดไทย
นายอัครเดช ยืนยันว่า ไม่มีการเคลื่อนไหวจากบุคลากรและส.ส.ของพรรคในเรื่องดังกล่าวแน่นอน ทราบจากข่าวว่าโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) นำขึ้นทูลเกล้าฯ ไปแล้ว ซึ่งตามหลักการ ทุกฝ่ายต้องนิ่งและไม่มีการเคลื่อนไหว ดังนั้นไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาจากที่ไหน แต่ในส่วนพรรค รทสช. ไม่มีการเคลื่อนไหวแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนของพรรค รทสช. ยังคงสนับสนุนรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต่อไปใช่หรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า เป็นไปตามที่นายพีระพันธุ์สื่อสารไปก่อนหน้านี้ และ ยังคงเป็นจุดยืนเดิมของพรรค ในการสนับสนุนรัฐบาลต่อไป
ค่ำนี้ เฝ้าหน้าจอรอกันเลย!! LIVE!! Behind the Bill
ถ้าคุณอยากรู้ว่า ทำไมคุณจ่ายค่าไฟแพง... ทั้งที่ใช้ไฟเท่าเดิม คุณต้องไม่พลาด LIVE นี้
ถ้าคุณเคยสงสัยว่าทำไมค่าไฟถึงแพงขึ้นทุกปี…LIVE นี้คือคำตอบที่คุณไม่เคยได้ยินจากใคร
มาร่วมไขทุกข้อสงสัยค่าไฟแพง กับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน
2 กรกฎาคม 2568
⏰ เวลา 19:30 - 21.00 น.
📌 รับชมที่ Facebook Page: โอกาส Chance