Saturday, 18 May 2024
ภูมิใจไทย

‘มณีรัตน์’ ชี้!! สื่อนอกตีแผ่ ‘ต่างชาติ’ เที่ยวสงกรานต์ไทยหนาแน่น สะท้อน!! ความเชื่อมั่นด้านสาธารณสุขไทยที่เข้มแข็ง

เมื่อวานนี้ (14 เม.ย. 66) น.ส.มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 6 เขต พระโขนง-บางนา พรรคภูมิใจไทย อดีตคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

“วันนี้ได้อ่านข่าวจากสำนักข่าว Reuters ก็รู้สึกชื่นใจมาก ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลาย ๆ คนเลือกที่จะเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในช่วงมหาสงกรานต์ของบ้านเรา ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติด้านสาธารณสุขที่เข้มแข็ง หลังจากที่ประเทศไทยได้ผ่านวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ภายใต้การกำกับดูแลของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

‘มณีรัตน์’ ลั่น!! ‘ภูมิใจไทย’ พร้อมดันรถเมล์ EV แตะ 5,000 คัน  หลังปัจจุบัน ‘ศักดิ์สยาม’ ดันวิ่งทั่วกรุงฯ แล้ว 1,250 คัน

(17 เม.ย.66) น.ส.มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 6 เขต พระโขนง-บางนา พรรคภูมิใจไทย อดีตคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

“รู้หรือไม่ กรุงเทพฯ มีรถเมล์ EV วิ่งอยู่ 1,250 คันแล้ว?” 

ส่วนตัวแล้วเป็นคนหนึ่งที่เคยนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนตอนเด็กๆ ตอนนั้นแค่คิดว่าได้นั่งรถเมล์ติดแอร์ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว เพราะอย่างที่ทราบกัน สมัยก่อนในแต่ละสาย แต่ละเส้นทางมีรถเมล์ติดแอร์ไม่มากนัก แถมยังปล่อยควันดำตลอดเวลา

‘อนุทิน’ ลั่น!! หาก ภท.หวนคืน ‘รัฐบาล-คุมสาธารณสุข’ ขอดันเครื่องฉายรังสี เพื่อรักษาโรคมะเร็งทุกจังหวัด 

ไม่นานมานี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ได้เปิดเผยว่า ในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดให้มีการรักษาโรคมะเร็งได้ทุกที่ มีการเพิ่มเครื่องฉายรังสีให้มากขึ้น และหากเลือกตั้งเสร็จ แล้วพรรคภูมิใจไทยได้กลับเข้าไปเป็นรัฐบาลและดูแลสาธารณสุขเหมือนเดิม ก็จะจัดให้มีเครื่องฉายรังสีเพื่อรักษาโรคมะเร็งทุกจังหวัด ไม่ต้องรอคิวนาน ไม่ต้องเดินทางไกล

สำหรับนโยบายของภูมิใจไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประกอบไปด้วย...
1. เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ทุกจังหวัด
2. ผู้ป่วยมะเร็งรักษาได้ทุกที่ ที่มีคิวการรักษาเร็วที่สุด
3. ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ของผู้ป่วย และครอบครัว
4. รักษาฟรี ตามสิทธิบัตรทอง มีอยู่แล้ว แต่ ขยายสิทธิให้เพิ่มได้ ฟรี! ทุกจังหวัด 

ทั้งนี้หากย้อนหลังไปในยุคบัตรทอง 30 บาทของนายอนุทินนั้น จะพบสาระสำคัญที่เพิ่มสิทธิประโยชน์กว่า 30 รายการ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยมากขึ้นและครอบคลุมทุกการรักษาอย่างมาก ได้แก่...

ปี 2563

- รับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน ลดแออัดในโรงพยาบาล
- เพิ่มบริการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ จาก 12 รายการ เป็น 24 รายการ เพิ่มบริการผ่าตัดผ่านกล้อง (MIS) 3 รายการ
- ดูแลผู้ป่วยโรคหายาก 24 โรค
- เพิ่มการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ในผู้ป่วยธาลัสซีเมีย
- เพิ่มวัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงในเด็ก
- นำร่องคัดกรองภาวะดาวน์ชินโดรมในหญิงตั้งครรภ์อายุไม่เกิน 35 ปี
- เพิ่มทางเลือกคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV DNA Test ค้นหาความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกในระดับพันธุกรรม
- นำร่องยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (PrEP) ในกลุ่มเสี่ยงสูง
- นำร่องล้างโตผ่านเครื่องล้างไตอัตโนมัติ (APD)
- ดูแลผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงในชุมชน ทุกสิทธิการรักษาและทุกกลุ่มอายุ

‘อนุทิน’ จัดหนัก!! นโยบายสวัสดิการเอาใจ ‘อสม. – อสส.’ เหตุเป็นกลุ่มฟันเฟืองสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเรียบร้อย

‘อนุทิน’ เปิดนโยบายสวัสดิการเอาใจ ‘อสม. – อสส.’ จัดเต็มกองทุนเงินออมให้ยืม 1 แสนบาท ตั้งสถาบันอสม. เหน็บ ไม่ต้องตั้งสกุลเงินใหม่ แต่ใช้เงินหมุนเวียนในระบบอสม. หวัง ได้เสียงสนับสนุนกว่าล้านเสียง กลับเข้าไปสานต่องานกระทรวงสาธารณสุข

(17 เม.ย. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานการแถลงนโยบายการพัฒนา และสวัสดิการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร (อสส.) พร้อมด้วย น.ส.เรวดี รัศมิทัต และนายจำรัส คำรอด ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ร่วมแถลงด้วย โดยมี อสม.และ อสม.เข้าร่วมรับฟัง 

นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า สมัยที่ตนเป็นรมช.สาธารณสุข ตนไม่รู้จัก อสม. แต่พอได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกกระทรวง ได้พบเห็นได้รับการซึมซับ อสม.จนเข้าใจว่าคือ ฟันเฟืองสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเรียบร้อย หลังจากนั้นคำว่า ‘อสม.’ ก็อยู่ในความคิดของตนตลอด กระทั่งวันที่ได้กลับมาเป็นรมว.สาธารณสุข ก็ได้ออกปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ต่างจังหวัดอีกครั้ง ความรู้สึก และบรรยากาศ ทุกอย่างเหมือนเดิม และเมื่อโควิด - 19 เข้ามายิ่งทำให้มีความใกล้ชิดกับ อสม.มากขึ้น ทำให้เรากล้าแสดงให้คนทั้งประเทศได้เห็นความสำคัญของ อสม. ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด และส่วนตัวได้สมัครเป็นอสม.ด้วย ที่ ต.อิสาน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวที่เป็น อสม. 

ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่า อสม.คือบุคคลที่เป็นอาสาสมัคร ถ้าเราอยากหาเสียงแบบไม่ลืมหูลืมตัว เราคงแถมแหลกแจกสะบัด แต่ตนบอกเสมอว่า อสม.คืออาสาสมัครไม่มีใครบังคับให้มา พวกท่านมากันเอง ถ้ามาเรียกร้องค่าตอบแทนความเป็น อสม.จะหมดไปทันที ตนต้องรักษาศักดิ์ศรีของพวกท่านทุกคนที่เป็นอสม.ด้วย จึงต้องทำให้ทุกท่านยืนหยัดได้ด้วยความมีศักดิ์ศรี เราทำงานขนาดนี้ ก็คงต้องกลับไปดูและกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง

'พุทธิพงษ์' ชู!! นโยบาย 'ตั๋ววัน 40 บาท' ช่วยคนกรุงประหยัดค่าเดินทาง แถมลดฝุ่นพิษ PM2.5 - แก้จราจร กทม.ได้ไปในตัว

(20 เม.ย.66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โดยเสนอรถไฟฟ้า เป็นทางออกของคนกรุงเทพฯ ที่ทุกคนขึ้นได้ และค่าโดยสารต้องไม่เป็นอุปสรรคหรือเป็นปัญหาต่อคนทุกกลุ่ม รัฐบาลเข้ามาขยายโครงข่ายรถไฟฟ้า โดยที่รัฐบาลเป็นคนลงทุน ค่าโดยสารต้องสมเหตุสมผล จึงไม่ใช่เป็นทางเลือกอีกต่อไป แต่เพื่อเป็นทางออกให้คนกรุงเทพฯ ที่วันนี้กรุงเทพฯไม่ใช่แค่เมืองหลวงของคนกรุงเท่านั้น แต่เป็นมหานครสำหรับคนทั่วโลก จึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการใช้รถขนส่งสาธารณะ 

นายพุทธพงษ์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยจึงมีนโยบายออกตั๋วรถไฟฟ้าเป็นตั๋ววัน วันละ 40 บาท ไปกี่เที่ยวก็ได้ และขั้นต่ำถ้าเดินทางสั้นๆ แค่สถานีเดียว 15 บาท ทำให้ค่าใช้จ่ายเมื่อเดินทางเป็นวันละ 40 บาท 5 วันก็อยู่ที่ 200 บาทต่อสัปดาห์ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานต่อเดือนต่อคน จะตกอยู่ที่ไม่เกิน 800-1,000 บาท สามารถให้มีการบริหารค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อคน ต่อครอบครัวได้ชัดเจน ราคาสมเหตุสมผล ทุกคนมีโอกาสได้ใช้รถไฟฟ้า 

'มณีรัตน์' ชี้!! ภท.ดันนโยบายติดตั้งหลังคาโซล่ารูฟฟรี หากใช้ไม่หมดส่งขายไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตแก่รัฐได้

(21 เม.ย.66) มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 6 เขต พระโขนง-บางนา พรรคภูมิใจไทย อดีตคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ค่าไฟแรง ค่า FT แพง เรามีทางออก

ประเด็นร้อนแรงที่วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะคือ ค่าไฟที่แพงขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลายคนตกใจเมื่อเห็นบิลค่าไฟพบว่าส่วนใหญ่แพงขึ้นไม่น้อยกว่า 30% ต่อครัวเรือน 

ประชาชนเหมือนถูกปล้นทั้งที่ตนเองไม่ได้ใช้ แต่ก็ต้องจ่ายค่าไฟที่แฝงมาในรูปแบบของค่า FT ซึ่งอยู่ในบิลค่าไฟของคนไทยทุกหลังคาเรือน ภาคอุตสาหกรรมก็ต้องแบกภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทำให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยลดลง

เหตุจากสัญญาการซื้อขายพลังงานระยะยาวระหว่างรัฐบาล กับผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนชนิดเกินความจำเป็น ทำให้มีไฟฟ้าล้นความต้องการถึง 50% เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องแบกรับในระยะยาว

‘อิทธิเดช’ ชี้!! ‘ลุงหนู’ ห่วงประชาชนรับภาระค่าไฟแพง ชูนโยบาย ‘กรีนดีอยู่ดี’ ใช้พลังงานสะอาดแทนเชื้อเพลิงนำเข้า

(21 เม.ย.66) นายอิทธิเดช สุพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 15 ในฐานะโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ห่วงใย และเข้าใจปัญหาค่าไฟฟ้าแพงกระทบต่อเงินในกระเป๋าของประชาชน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงที่สูง และปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลง ทำให้ต้องนำเข้า LNG ที่ราคาสูงมาทดแทน ขณะเดียวกันประเทศไทยยังมีข้อจำกัดเรื่องเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่ไม่สามารถใช้น้ำมันแทน LNG ได้ทันที

นายอิทธิเดช กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย จึงได้เสนอนโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน หรือ ‘กรีนดีอยู่ดี’ โดยจะติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ฟรีทั้งในบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม สถานประกอบการ และชุมชน โดยขนาดของแผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งจะช่วยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์คิดเป็นค่าไฟไม่น้อยกว่า 450 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ซึ่งเท่ากับว่าถ้าใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 450 บาท ก็ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ และยังสามารถส่งกระแสไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ ขายให้กับรัฐบาลผ่านระบบของการไฟฟ้า โดยประชาชนจะได้รับค่าตอบแทนในรูปของเครดิตพลังงาน เพื่อนำไปใช้จ่ายค่าไฟฟ้า ตลอดอายุโครงการ 25 ปี

ติ่งส้มทิ้งบอมบ์!! เลือก ‘เพื่อไทย’ ได้ป้อม ภท.มีเฮ!! โพลพรรคใหญ่ยกให้ 2 เขต กทม.

ทุกปลายสัปดาห์...เลียบการเมืองก็จะเลาะขอบสนาม และล้วงลึกศึกเลือกตั้งด้วยข่าวสารสีสันประเภทลึกแต่ไม่ลับ...จับประเด็นจับกระแส..มาบอกกล่าวกัน...

ยื่นชี้แจงกกต. เรียบร้อยโรงเรียนเพื่อไทยไปแล้วเมื่อต้นสัปดาห์ หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคบอกว่าไม่เพียงเรื่องนโยบายแจกเงิน 1 หมื่นบาทเท่านั้น แต่ยังชี้แจงนโยบายเรื่องอื่นๆ ไปด้วยรวมทั้งสิ้น 169 นโยบายเลยทีเดียว เรียกว่านาทีนี้ พรรคเพื่อไทย ก็คงผ่อนคลายได้นิดหน่อยที่กระแสถล่มนโยบายแจกหมื่นบาทเบาบางไปบ้างแล้ว…

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ระเบิดลูกสำคัญที่พรรคเพื่อไทยยังปลดชนวนไม่ได้...แม้ว่าระยะหลังคุณหนูอุ๊งอิ๊งจะพัฒนาการพูดเก่งขึ้นแค่ไหนก็ตาม...นั่นคือระเบิดเรื่องดีลลับจับมือกับพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาล...ซึ่งเรื่องนี้พอจะอ่านทางกันออกว่าพรรคเพื่อไทยโคตรลำบากใจ...ไม่อาจจะเล่นบทผีไม่เผาเงาไม่เหยียบแบบพรรคก้าวไกลได้...

อันว่าพรรคก้าวไกลนั้นหัวหน้าพรรคประกาศชัดว่าร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยนั้นเป็นไปได้ แต่ต้องไม่มีพรรค 2ป. ร่วมด้วย กล่าวคือ… ‘มีลุงต้องไม่มีเรา’ ...ดังนั้นพอเพื่อไทยพูดไม่ชัดในเรื่องนี้ ยามนี้บรรดา ‘ติ่งส้ม’ ก็ทยอยปั่นแคมเปญด้อยค่า เพื่อไทยว่า…’เลือกเพื่อไทยได้ป้อม’ ประโยคเดียววลีเดียวเสียวทั้ง 400 เขต...

ปลายเดือนนี้สองลุงจะล่องใต้เดินตามรอยกันไป...ลุงป้อมนั้นปราศรัยใหญ่ที่นครศรีธรรมราช วันที่ 29 เม.ย.66 ส่วนลุงตู่จัดคิว 29-30 เม.ย.66 ลุยหาเสียงจังหวัดตรัง, พัทลุง, สงขลา และสตูล...แว่วว่าคืน 29 เม.ย.66 จะปักหลักพักค้างที่ อ.หาดใหญ่กันเลยทีเดียว....ทิ้งช่วงสักพักจะเลี้ยวกลับไป สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช...สมรภูมิสำคัญของภาคใต้อีกครั้ง

‘ประเดิมชัย’ ลงพื้นที่สุเหร่าดอนสะแก เนื่องในวันอีฎิ้ลฟิตริ นโยบายเพียบ!! สร้างรพ.ใกล้บ้าน-ปัญหาระบายน้ำ-จราจร-จัดระเบียบที่อยู่อาศัย

(22 เม.ย.66) ที่มัสยิดฮี่ดาย่าตุ้ลอิสลาม (ดอนสะแก) นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย(ภท.) หมายเลข 8 เขต 5 ห้วยขวาง วังทองหลาง (ยกเว้นแขวคลองเจ้าคุณสิงห์) ลงพื้นที่หาเสียงพบปะพี่น้องประชาชนคนไทยมุสลิม ที่มัสยิดฮี่ดาย่าตุ้ลอิสลาม (ดอนสะแก)เขตวังทองหลาง ได้รับความสนใจและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายประเดิมชัย กล่าวว่า วันนี้ได้มาลงพื้นที่สุเหร่าดอนสะแก เนื่องในวันอีฎิ้ลฟิตริ หรืออีดิลฟิตรี พร้อมกันนี้ได้แนะนำตัวและนำเสนอนโยบายกับพี่น้องชาวมุสลิม ในการอาสามาผลักดันสร้างโรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน ชุมชน ซึ่งได้รับการร้องเรียนและเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งการผลักดันให้เกิดโรงพยาบาลรัฐแห่งใหม่จะเป็นการช่วยรองรับผู้ป่วยและการดูแลรักษาประชาชนในพื้นที่ทั้งเขตวังทองหลาง และห้วยขวาง รวมทั้ง 3 เขตใกล้กัน ได้แก่ เขตจตุจักร ลาดพร้าว บางกะปิ ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ต้องเดินทางไกล ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นอกจากนี้ยังได้นำเสนอการแก้ไขปัญหาการระบายน้ำคู คลอง และหมู่บ้าน ให้เกิดประสิทธิภาพ และการแก้ไขปัญหาจุดอ่อนน้ำท่วมทั้งเขตวังทองหลางและห้วยขวาง รวมถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ ทั้งการจัดระบบจัดหาที่จอดรถ ในตรอก ซอก ซอย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจอดรถกีดขวางทางสาธารณะ ซึ่งหลายจุดไม่มีที่จอดรถทำให้เกิดปัญหากระทบการจราจรในปัจจุบัน

นายประเดิมชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องการจัดระเบียบที่อยู่อาศัย ประเภทคอนโดต่างๆ ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีภาคเอกชนและนายทุนมากวาดซื้อ และก่อสร้าง และเปิดให้เช่าอยู่อาศัยแบบรายวันในปัจจุบัน ซึ่งพบว่าลูกค้าคอนโดส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งพฤติกรรมการอยู่อาศัย และวัฒนธรรมการดำรงชีวิตก็จะไม่เหมือนคนไทยทำให้เกิดความเดือดร้อน ส่งเสียงดัง เข้าออกสร้างเหตุรำคาญใจ พบว่าก็มีปัญหากระทบกระทั่งกับเพื่อนบ้านและคนไทยบ่อยครั้ง ซึ่งตรงนี้ตนมองว่าควรหากได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชน จะนำปัญหาดังกล่าวไปผลักดันและประชุมร่วมกับหน่วยงานเพื่อจัดระเบียบ กำกับดูแลการพักอาศัยและบังคับใช้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับโรงแรมและที่พักอาศัยเชิงพาณิชย์ให้เข้มงวด จริงจัง


ที่มา : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3938188

‘ลุงหนู’ ลุยหาเสียง อ้อนขอคะแนนชาวภูเก็ต ชูนโยบายยกระดับภูเก็ตสู่เมืองสุขภาพระดับโลก 

(24 เม.ย.66) ที่ยิมเนเซียม บริเวณสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วยผู้บริหาร และแกนนำพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค และผู้สมัครบัญชีรายชื่อ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค และผู้สมัครบัญชีรายชื่อ นางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรค และน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายนิพนธ์ เอกวานิช เบอร์ 3 เขตเลือกตั้งที่ 2 นายวงศกร ชนะกิจ เบอร์ 5 และเขตเลือกตั้งที่ 3 นายวิวัฒน์ จินดาพล เบอร์ 9

โดย นายอนุทิน กล่าวว่า การเลือกตั้งปี 62 ไม่มีใครคิดว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีส.ส. จากภาคใต้ได้กว่า 10 ที่นั่ง แต่ที่สุดแล้วมันก็เกิดขึ้น เพราะความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ตรงส่วนนี้ตระหนักอยู่ในหัวคิดของพรรคภูมิใจไทยตลอดเวลาว่าจะต้องตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจที่ประชาชนมอบให้ ที่ผ่านมา เราพัฒนาถนนหนทางให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ไปจนถึงขยายบริการด้านสาธารณสุข ล่าสุดเราประสบความสำเร็จในการผลักดันสะพานเชื่อมพัทลุง-สงขลา และสะพานข้ามเกาะลันตา จ.กระบี่ อนาคต เราจะเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมต่ออ่าวไทยกับทะเลอันดามัน ผ่านจังหวัดชุมพร-ระนอง 

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับ จ.ภูเก็ต ท่านพิสูจน์ศักยภาพของท่านมาแล้ว จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่เราจะเพิ่มโอกาสให้พวกท่านมากขึ้นด้วยการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical Hub หลายชาติกำลังเข้าสังคมผู้สูงวัย เขาต้องมองภูเก็ตในฐานะเป้าหมายของเขา 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top