Saturday, 18 May 2024
ภูมิใจไทย

'พุทธิพงษ์' รับปาก!! ขอแก้ปัญหาฝั่งธนฯ ครบทุกมิติ มั่นใจ!! แก้ทุกปัญหาตรงจุดแบบไม่กระทบเงินคงคลัง

(8 พ.ค. 66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคภูมิใจไทย ได้เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ฝั่งธนบุรี ว่า...

"ผมได้มีโอกาสไปพบปะและปราศรัยกับพี่น้องประชาชนที่วงเวียนใหญ่ หน้าพระบรมราชอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ฝั่งธนบุรี มีประชาชนมาฟังปราศรัยเป็นจำนวนมาก

"ประชาชนได้เล่าถึงปัญหาของคนฝั่งธนบุรีที่มีมานาน เช่น โรงพยาบาลของรัฐที่ครบวงจรยังมีไม่เพียงพอ ปัญหารถเมล์ที่มีจำนวนน้อยและไม่สะดวก รวมไปถึงปัญหาการทำมาค้าขายและค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างมาก 

‘มณีรัตน์’ หนุนขายของออนไลน์-ลดค่าขนส่งระหว่างประเทศ ติดปีกให้ e-Commerce ไทย ก้าวขึ้นแข่งขันได้ในระดับสากล

เมื่อวานนี้ (7 พ.ค. 66) มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 23 พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า…

ปัจจุบันการซื้อสินค้าจากประเทศจีนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ผู้ค้าจีนสามารถส่งส่งสินค้ามาถึงผู้ซื้อในไทย ค่าส่งเพียง 20 บาท !! เขาทำกันได้อย่างไร ?? 

ค่าส่งสินค้าที่สูงเป็นปัญหาใหญ่ที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คนไทยกำลังประสบกันอยู่ เพราะบางครั้งค่าส่งสินค้าภายในประเทศยังเสียค่าส่งแพงกว่านี้ !! 

รัฐบาลจีนให้ความสำคัญและผลักดันธุรกิจค้าปลีก e-commerce ของจีนจนสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้ผู้ค้าปลีกออนไลน์จีนสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ คือค่าขนส่งสินค้าไปต่างประเทศที่ถูกมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้ผู้ค้าจีนได้เปรียบผู้ค้าประเทศอื่น ๆ ด้านราคาเมื่อคิดรวมค่าขนส่งกับค่าสินค้าเข้าด้วยกัน โดยรัฐบาลจีนให้ความช่วยเหลือผู้ค้าในส่วนนี้ โดยการสนับสนุนค่าส่งสินค้าไปต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์ม, ผลักดันเรื่องการบริหารจัดการระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ, ควบคุมราคาค่าส่งสินค้าให้มีความเหมาะสม, ร่วมกับการเจรจาลดหย่อนภาษีนำเข้ากับประเทศคู่ค้า

ในทางกลับกันประเทศไทยมีสินค้าไทย ที่ได้รับความที่นิยมจากลูกค้าชาวจีนและประเทศอื่น ๆ จำนวนมาก แต่หากคนไทยขายของออนไลน์ส่งไปต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน กลับต้องเสียค่าขนส่งสูงกว่าจากจีนมาไทยหลายเท่า เป็นปัญหาที่ดับฝันโอกาสทางธุรกิจของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รายย่อยชาวไทยในการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มไปสู่ตลาดโลกอย่างสิ้นเชิง

ในครั้งนี้หากได้มีโอกาสได้เข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ประเด็นการค้าขายออนไลน์ เป็นประเด็นสำคัญที่อยากจะผลักดัน โดยหนึ่งในนั้นคือการปลดล็อก ลดค่าขนส่งสินค้ารายย่อยระหว่างประเทศ เพื่อติดปีก e-Commerce ไทย สนับสนุนให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไทยให้แข่งขันได้ในระดับสากล

โค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง ปราศรัยใหญ่ 12 พ.ค.นี้

โค้งสุดท้ายก่อนมีการเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ หลายพรรคปักธงสนาม ‘กรุงเทพฯ’ เป็นเวทีปราศรัยใหญ่ เวทีสุดท้าย THE STATES TIMES รวบรวมมาให้แล้วว่าพรรคไหน จัดที่ไหนกันบ้าง พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
 

‘มณีรัตน์-ภูมิใจไทย’ ชูนโยบาย ‘ส่งเสริมอาชีพคนรุ่นใหม่’  หนุนผู้ค้าธุรกิจออนไลน์ พร้อม 'ลดค่าขนส่ง-ลดภาษี' 

(11 พ.ค. 66) น.ส.มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ผู้สมัคร ส.ส. เขตพระโขนง บางนา หมายเลข 6 พรรคภูมิใจไทย พูดถึงประสบการณ์การทำงานตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ตอนนี้ตนอายุ 40 แล้ว พร้อมเสนอนโยบายส่งเสริมอาชีพคนรุ่นใหม่ และมุ่งเน้นนโยบายต่อเนื่อง โดยระบุว่า…

“อายุ 40 ล่ะ ผ่านมาครึ่งชีวิตแล้วค่ะ 20 ปีที่ผ่านมา เป็น 20 ปีที่มีคุณค่ามากๆ ถ้าเราก้าวข้ามเรื่องการทะเลาะกัน ทำทุกอย่างโดยใช้เวลา 20 ปีนี้ ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน”

ต่อข้อคำถาม “จุดยืน และแนวทางการทำงานการเมือง” น.ส.มณีรัตน์ กล่าวว่า “เราอยากทำการเมืองสร้างสรรค์ เราเรียกตัวเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่คือคนที่จะต้องทำงานได้กับทุกคน ผูกมิตร และก็ทำเพื่อประชาชน ให้มีผลลัพธ์ ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงผ่านนโยบายต่างๆ ส่งผลไปถึงคนในพื้นที่ของเรา โดยเฉพาะในเขตพระโขนง” 

“พรรคภูมิใจไทย มุ่งเน้นเรื่องนโยบายต่อเนื่องและสัญญาที่จะทำด้านสาธารณะสุข ต่อยอดนโยบายศูนย์ฟอกไตฟรี ซึ่งก่อนหน้านี้การฟอกไตของเราฟรีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะทำต่อจากนี้ก็คือให้มีศูนย์ฟอกไต ทุกเขต ทุกอำเภอ ล่นระยะเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนที่ต้องพาผู้ป่วยไป”

เข้าใจหัวอกคนวัยทำงาน…ในการที่จะออกไปทำงาน ค่าเดินทางเป็น Cost เป็นต้นทุนอย่างนึงของทุกคน เพราะฉะนั้นเนี่ย ถ้าได้มีโอกาสเข้าไปทำงาน ก็อยากจะผลักดันให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย ลดความทุกข์พี่น้องประชาชนคนเมือง

พรรคภูมิใจไทย มีนโยบายส่งเสริมอาชีพคนรุ่นใหม่ โดย น.ส.มณีรัตน์ กล่าวว่า “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำที่อยากจะมีอาชีพอิสระ หรือแม้กระทั่งแค่อยากจะมีรายได้เสริม แต่ก็มีอุปสรรคมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าขนส่ง หรือแม้กระทั่งช่องทางที่จะค้าขาย เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่อยากจะช่วยผลักดัน ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าขนส่งต่างๆ เจรจาเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางด้านภาษี เพื่อซัพพอร์ตพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้เดินต่อไปได้”

หากถามถึงกระแสการเลือกตั้งโค้งสุดท้าย “กระแสก็เป็นเรื่องของกระแส แต่ก็อยากจะให้มองที่คุณสมบัติและการตั้งใจจริงในการทำงาน ข้อดีอย่างนึงก็คือเป็นคนที่ทำงานผ่านมาหลายบทบาท 3 ส่วนหลักๆ คือ ภาคประชาชน ภาคเอกชน หรือฝั่งราชการ เราเคยทำงานกับเขา ร่วมมาทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเราสามารถที่จะเห็นภาพรวมต่างๆ และก็ทำงานขับเคลื่อนออกมาให้เป็นผลลัพทธ์แก่ประชาชน”

ต่อข้อคำถาม ‘คนรุ่นใหม่กับการเมืองใหม่’ ในมุมมองของน.ส.มณีรัตน์ เปิดเผยว่า “แน่นอนคนรุ่นใหม่ไม่ได้ตัดสินที่อายุ มันอยู่ที่แนวคิด อยู่ที่ความเข้าใจเขามากกว่า ว่าเขาอยากจะได้อะไร คนรุ่นใหม่เหล่านี้เขามีความฝัน  มีแพชชัน มีความที่อยากจะทำนู้นอยากจะทำนี้ หน้าที่ของเราคืออยากจะเป็นคนที่จะผลักดัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสาธารณะสุข ที่เขาจะห่วงใยพ่อแม่เขา แต่ตัวเขาเนี่ยแหละเอฟเฟกโดยตรงในการที่จะต้องดูแลพ่อแม่เรื่องการหาหมอ หายา หรือแม้กระทั่งเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพ โดยเฉพาะค่าเดินทาง ในการที่จะไปทำงาน หรือสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เป็นดิจิทัลครีเอเตอร์ เป็นเชฟ หรือเป็นอาชีพต่างๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะผลักดันทั้งเชิงนโยบาย ทั้งเชิงปฏิบัติต่างๆ ก็คืออยากจะให้เขาไปสู่ฝันให้ได้”

ต่อข้อคำถามสุดท้าย ถึงความตั้งใจที่ทำให้มานั่งอยู่ตรงนี้ คืออะไร… “ก็อยากจะทำจริงๆ อยากจะทำให้กับทุกคนในพื้นที่ มีความตั้งใจจริงๆ ที่อยากจะมา มาเป็นทั้งตัวเชื่อม มาเป็นทั้งตัวคนทำงาน ให้ผลประโยชน์ตกกับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตพระโขนง-บางนา อย่างแท้จริง” น.ส.มณีรัตน์ ผู้สมัครส.ส. ภูมิใจไทย กล่าวทิ้งท้าย

‘พุทธิพงษ์’ เขียนจดหมายอ้อน ปชช. เทคะแนนให้ ‘ภูมิใจไทย’ ชู ‘อนุทิน’ เป็น ‘ผู้นำ ผู้ทำ’ พร้อมพาประเทศก้าวพ้นความขัดแย้ง

(12 พ.ค. 66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกทม. พรรคภูมิใจไทย เขียนจดหมายจากใจพุทธิพงษ์ ส่งตรงถึงพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ ใจความว่า “กราบเรียน พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ที่เคารพรักทุกท่าน ประเทศไทยที่รักของเรากำลังจะเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้นำ และพรรคการเมืองที่มีความพร้อมเพื่อจะเป็นรัฐบาลของทุกคน นำพาประเทศออกจากความขัดแย้งที่ยาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ และวิกฤตเศรษฐกิจที่ยาวนาน พรรคการเมืองต้องเร่งทำงานให้ประชาชนทุกคน เพื่อเสริมสร้างบ้านนี้ให้อบอุ่นกว่าเดิม และอยู่ร่วมกันได้ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

รัฐบาลของวันพรุ่งนี้ จะต้องมีความเข้าใจ เข้าถึงประชาชน ทุกรุ่น ทุกวัย ทุกสถานะ ทุกความเชื่อ และอุดมการณ์ทางการเมือง มาจากพรรคการเมืองที่มีความพร้อมทั้งวิสัยทัศน์ ความคิด ปัญญา เครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ต่างประเทศ และประสบการณ์ทางการเมือง ที่สำคัญต้องยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และสถาบันหลักของชาติ มีความเป็นเอกภาพ ไม่สร้างความขัดแย้งใด ๆ มีวิสัยทัศน์ผ่านการกำหนดนโยบายที่พูดแล้วทำ

วันนี้พรรคภูมิใจไทยเสนอตัวเป็นทั้ง ผู้นำ และผู้ทำ ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่า ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ เป็นผู้ที่มีความพร้อมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และประสบการณ์ เข้าใจงานทั้งภาครัฐ และเอกชน เป็นผู้นำที่พาองค์กรฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจกลับมาเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศ เป็นนักการเมืองที่พาประเทศพ้นวิกฤตจนได้รับการยกย่องจากประชาคมโลก มีความเป็นสากล และสามารถเป็นตัวแทนการค้าขายให้กับประเทศเรา เพื่อเปิดตลาดการค้าการลงทุนให้กลับมาเข้มแข็ง และยังเป็นผู้นำที่เชื่อมโยงกับคนได้ทุกระดับ เป็นผู้นำของคนทั้งประเทศ ที่ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายหรือพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง

นโยบายที่พรรคภูมิใจไทยเสนอ เน้นการตั้งหลัก ฟื้นฟู และพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน เป็นนโยบายที่ผ่านการคิดด้วยความรับผิดชอบ สามารถทำได้จริง ไม่ขายฝัน และไม่สร้างภาระหรือความเสี่ยงให้กับสถานะการเงินการคลังของประเทศ ไม่ทิ้งมรดกบาปไว้ให้ลูกหลาน

ผมได้รับความไว้วางจากจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ ได้เป็น ส.ส. เป็นตัวแทนพี่น้อง และทำงานให้ชาวกรุงเทพฯ มากว่า 20 ปี ผมได้ชวนเพื่อนนักการเมืองที่มากประสบการณ์ และคัดสรรคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ เต็มเปี่ยมด้วยพลังที่พร้อมทำงานการเมือง มาเสนอตัวเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ การเลือกของท่านจะเป็นการกำหนดทิศทางของประเทศ จบความขัดแย้งกว่า 2 ทศวรรษ จบวิกฤตเศรษฐกิจ ร่วมสร้างประเทศที่มั่นคงไปด้วยกัน วันที่ 14 พ.ค.นี้ กราบขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนกรุงเทพฯ โปรดเลือก พรรคภูมิใจไทย บัตรสีเขียวเบอร์ 7 และผู้สมัครจาก พรรคภูมิใจไทย ใน 33 เขต กรุงเทพฯ ด้วย”  

‘มณีรัตน์’ ย้ำชัด!! อยากทำงานเพื่อพี่น้องพระโขนง-บางนา หวังผลักดันนโยบายรอบด้านให้ 'ปชช.-คนรุ่นใหม่' ก้าวไปถึงฝัน

เมื่อไม่นานมานี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจของ น.ส.มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตพระโขนง-บางนา พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 6 โพสต์ข้อความระบุว่า “จากใจถึงใจ” อยากให้พิจารณาจากคุณสมบัติของผู้สมัคร ความตั้งใจจริงในการทำงาน ความสามารถในการที่ผลักดันนโยบายต่างให้เกิดเป็นผลลัพธ์ และประโยชน์สูงสุดให้กับทุกคนชาวพระโขนง-บางนาค่ะ 14 พฤษภาคม เข้าคูหาบัตรสีม่วง 🟪 กาเบอร์ 6️ ค่ะ

พูดแล้วทำ #บางนา #ภูมิใจกรุงเทพ #ภูมิใจไทย #พระโขนง #ทีมแม่มณี #กาเบอร์6่

โดยวิดีโอดังกล่าวนั้นได้ตอบคำถามมากมาย โดยคำถามแรกนั้นถามว่าทำไมชาวพระโขนง-บางนา ต้องเลือกคุณมณีรัตน์ เบอร์ 6 ว่า ตอนนี้อายุ 40 ปี ผ่านมาครึ่งชีวิต ใน 20 ปีที่ผ่านมานั้น เป็น 20 ปี ที่มีคุณค่ามากๆเลย ถ้าเราก้าวข้ามเรื่องการทะเลาะกัน ทำทุกอย่าง โดยใช้เวลา 20 ปีนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน

ส่วนจุดยืนและแนวทางการทำงานการเมือง ตนอยากจะทำการเมืองที่สร้างสรรค์ และเรียกตนเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่คือคนที่ต้องทำงานได้กับทุกคน ผูกมิตร แล้วก็ทำเพื่อประชาชน ให้มีผลลัพธ์ ให้กับพี่้น้องประชาชนอย่างแท้จริง ผ่านนโยบายต่างๆ ส่งผลไปถึงคนในพื้นที่ของเรา โดยเฉพาะในเขตพระโขนงบางนา

พรรคภูมิใจไทยนั้นมุ่งเน้นนโยบายต่อเนื่อง และสัญญาที่จะทำด้านสาธารณะสุข เช่น เรื่องศูนย์ฟอกไตฟรี ซึ่งก่อนหน้านี้นโยบายของภูมิใจไทยก็ทำขึ้นฟรีอยู่แล้ว แต่ที่จะทำต่อจากนี้ก็คือให้มีศูนย์ฟอกไตฟรีทุกเขต ทุกอำเภอ ย่นระยะเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนที่จะพาผู้ป่วยไป

ตนมีความเข้าใจหัวอกคนทำงาน ในการที่คนจะออกไปทำงานค่าเดินทางนั้นเป็นต้นทุนของทุกคน ถ้าตนได้มีโอกาสเข้าไปทำงานก็อยากจะผลักดันให้เป็นรูปธรรมให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะเป็นการลดค่าใช้จ่าย ลดความทุกข์ของพี่น้องประชาชนคนเมือง

นอกจากนี้ยังมีนโยบายส่งเสริมคนรุ่นใหม่ เช่น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือไม่ว่าจะเป็นคนทำงานประจำที่อยากมีอาชีพอิสระ หรือแม้กระทั่งที่อยากมีรายได้เสริม แต่ก็มีอุปสรรค์มากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าขนส่ง หรือแม้กระทั่งช่องทางที่จะค้าขาย เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะช่วยผลักดันเป็นการลดค่าขนส่งต่างๆ ผลประโยยชน์เกี่ยวกับทางด้านภาษี เพื่อที่ซัพพอร์ตให้พ่อค้าเหล่านี้เดินต่อไปได้

ส่วนกระแสการเลือกตั้งในโค้งสุดท้ายนั้น กระแสก็เป็นเรื่องของกระแส แต่อยากให้มองถึงความตั้งใจจริงและคุณสมบัติ ข้อดีของตนอย่างหนึ่งก็คือเป็นคนที่ทำงานผ่านมาหลาบบทบาท สามส่วนหลักๆเลยก็คือ ภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาคราชการ ตนเคยทำงานร่วมมาแล้วทั้งหมด ตนจึงสามารถที่จะเห็นภาพรวมต่างๆ และทำงานขับเคลื่อนออกมาให้เป็นผลลัพธ์แก่ประชาชน

คนรุ่นใหม่กับการเมืองใหม่ในมุมมองของตนนั้น มองว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้ตัดสินที่อายุ แต่อยู่ที่แนวคิด อยู่ที่ความเข้าใจมากกว่า ว่าคนรุ่นใหม่เหล่านี้อยากได้อะไร คนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้มีความฝัน มีแรงบันดาลใจ มีความต้องการอยากจะทำนู่นอยากจะทำนี่ หน้าที่ของตนก็คืออยากที่จะผลักดันไม่ว่าจะเรื่องสาธารณะสุข ที่คนรุ่นใหม่ต้องมีความห่วงใยพ่อแม่ ครอบครัว แต่ตัวเขาเองนั้นต้องรับเอฟเฟคต่างๆโดยตรง ได้การที่ต้องดูแล อาทิ หาหมอ หายา หรือแม้กระทั่งค่าครองชีพ โดยเฉพาะค่าเดินทางที่จะไปทำงาน หรือสุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ดิจิทัลครีเอทีป เชฟ หรืออาชีพต่างๆ ถ้าตนมีโอกาสก็อยากจะผลักดันทั้งเชิงนโยบาย ทั้งเชิงปฏิบัติ อยากจะให้ไปสู่ฝันให้ได้

\ส่วนคำถามสุดท้ายที่ถามว่า ความตั้งใจที่ทำให้มานั่งอยู่ตรงนี้ คืออะไร นางสาวมณีรัตน์ตอบอย่างมั่นใจว่า “ก็อยากจะทำจริงๆ อยากจะทำให้กับทุกคนในพื้นที่ มีความตั้งใจจริงๆ อยากจะมาเป็นทั้งตัวเชื่อม เป็นทั้งตัวคนทำงาน ให้ผลประโยชน์ตกกับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในเขตพระโขนง-บางนา อย่างแท้จริง”

‘อนุทิน’ นำทีมผู้สมัคร กทม. 33 เขต ขึ้นรถแห่รอบกรุง แนะนโยบาย–ขอบคุณปชช. หวังตอกเสาเข็มกรุงเทพฯ สำเร็จ

(13 พ.ค. 66) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกรุงเทพมหานครพรรคภูมิใจไทย, นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 

นายอนุทิน ได้นำทีมผู้สมัครเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้ง 33 เขต ขึ้นรถแห่ แนะนำนโยบาย ขอคะแนนเสียงและขอบคุณประชาชน ที่มาฟังการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย ไปจนถึงให้กำลังใจ เป็นแรงสนับสนุนพรรค ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 

สำหรับเส้นทางการเดินทางนั้น เริ่มต้นจากพรรคภูมิใจไทย ขบวนได้วิ่งตามถนนพหลโยธิน ไปตามเส้นทางรถไฟฟ้า ผ่านแยกรัชโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว และสะพานควาย สนามเป้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พญาไท และราชเทวี โดยหลังจากนี้ขบวนจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่ห้วยขวาง เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชน 

ทั้งนี้ ตลอดเส้นทาง นายอนุทิน และนายพุทธิพงษ์ พร้อมทั้งทีมผู้สมัคร ได้กล่าวขอบคุณประชาชน ที่ให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยอย่างดีเสมอมา นายอนุทิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงระบุว่า นี่เป็นการทิ้งไพ่ที่สำคัญสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เราใช้ทุกวินาที ให้คุ้มค่าที่สุด เมื่อเอาความมุ่งมั่น มาบวกกับผลงานที่ผ่านมา เชื่อว่าชาวกรุงเทพ จะแบ่งใจให้พรรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมา เราไม่เคยปักธง ตอกเสาเข็ม ในพื้นที่กรุงเทพได้เลย แต่คราวนี้ทุกอย่างน่าจะเปลี่ยนไปแล้ว เพราะเราได้พิสูจน์ผลงานจากการเป็นรัฐบาล จะเห็นว่า เราเป็นพรรคที่พูดแล้วทำ นโยบายที่นำมาเสนอ เราทำได้จริงและทำได้เร็ว ครั้งนี้ภูมิใจไทยส่งผู้สมัคร กทม. ครบ 33 เขต และมีแชมป์เก่าถึง 8 คน  วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการหาเสียง เราได้ส่งการบ้านให้ประชาชนครบทุกข้อ อะไรที่เป็นสัญญาใจ เราให้ท่านคืนไปหมด อยากจะตื๊อคนกรุงเทพฯ ขอให้เปิดใจรับภูมิใจไทย เราอาจจะถูกมองว่าเป็นพรรคบ้านนอก แต่ที่ผ่านมา เราก็รับใช้คนกรุงเทพฯ เช่นกัน สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ หวังว่าจะตอกเสาเข็มในพื้นที่กรุงเทพมหานครสำเร็จ เพราะเราได้คนเก่งมาเสริมทัพในหลายตำแหน่ง และเราก็มีผลงานไปขายประชาชน 

“ที่สุดแล้ว ผมต้องขอบคุณพี่น้องประชาชน ทุกเวทีปราศรัยในกรุงเทพมหานคร มีคนมาฟังเราแน่นขนัด เราถือว่าเราทำเต็มที่แล้วทั้ง กทม. และพื้นที่อื่นๆ เราเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งมาเป็นปีก่อนหน้านี้ คิดว่าทำในสิ่งที่ต้องทำอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด กระแสของพรรค ดีขึ้นอยู่ทุกวัน แน่นอนว่าเรามีเป้าหมาย และเราวิ่งเข้าหาเป้าหมาย เราพยายามนำเสนอนโยบายให้พี่น้องพิจารณา คะแนนที่พี่น้องประชาชนมอบให้ ถือเป็นสิ่งมงคล ขอให้มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยได้ทำทุกอย่างที่ให้สัญญาไว้ตั้งแต่ปี 2562 ไว้หมดแล้ว เราทำเต็มที่ การทำงานเพื่อประชาชน ถือเป็นเกียรติ ของเราทุกคน” 

‘ชมรมแพทย์ชนบท’ ขุดแผนปลุกผี itv โยง ‘ภูมิใจไทย’ ระบุ เป็นการดิ้นรนของขั้วอำนาจเก่า

วันที่ 13 มิ.ย. 2566 – ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า หรือนี่คือการดิ้นรนของขั้วอำนาจเก่า

ข้อเท็จจริงชัด ๆ คือ

1.ความเกี่ยวโยงของนิกม์กับภูมิใจไทยหลีกกันไม่พ้น
2.ความเกี่ยวโยงของชิโนไทยกับกัลฟ์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อินทัชที่ถือหุ้นใหญ่ไอทีวีอีกต่อก็เป็นข้อเท็จจริง
3.ทั้งภูมิใจไทยและชิโนไทยมี อนุทิน ชาญวีรกูล ในสมการ
4.หากก้าวไกลสะดุดเรื่องหุ้นไอทีวี พรรคภูมิใจไทยที่ความหวังเหือดแห้งริบหรี่ ก็จะมีโอกาสขึ้นมาในทันที
สังคมคลางแคลงใจ ทฤษฎีสมคบคิดหรือเปล่า? ต้องติดตาม

‘ชาดา’ สำนึกบุญคุณแผ่นดินไทย บรรพบุรุษหนีสงครามมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร

เมื่อวานนี้ (14 ก.ค. 66) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า "บรรพบุรุษผมมาจากพม่า หนีสงครามมา คนจีนยังดี มีเสื่อผืน หมอนใบ แต่บรรพบุรุษผม มีเเต่โสร่ง เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จนทุกวันนี้ มีกินมีใช้ อยู่ดีกินดีกว่าเจ้าของประเทศ แล้วจะไม่ให้ผมสำนึกบุญคุณเเผ่นดินไทย และพระมหากษัตริย์ไทยได้อย่างไร ถ้าผมไม่สำนึกบุญคุณ ผมก็ไม่ใช่คนแล้ว"

เปิดเซฟ 'จักรกฤษณ์ ทองศรี' ส.ส.ภูมิใจไทย พบข้อมูลถือครองหุ้นไอทีวี 4 หมื่นหุ้น

(18 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน อดีต ส.ส.หลายราย หลังพ้นจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุดพบข้อมูลว่า นายจักรกฤษณ์ ทองศรี อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ปัจจุบันได้รับเลือกตั้ง ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566

ซึ่งนายจักรกฤษณ์ พร้อมด้วย น.ส.ศุภจิรา ทองศรี คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 84,427,312 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยแบ่งเป็นทรัพย์สินนายจักรกฤษณ์ 80,031,205 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝาก 32,211,174 บาท เงินลงทุน 16,632,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 12,500,000 บาท ที่ดิน 7,600,000 บาท เป็นต้น ส่วนทรัพย์สินคู่สมรส 4,178,135 บาท และทรัพย์สินบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 217,9714 บาท

ทั้งนี้ ที่น่าสนใจคือ ทรัพย์สินในส่วนของเงินลงทุน นายจักรกฤษณ์ แจ้งว่ามีเงินลงทุน 2 รายการ คือ หุ้นไอทีวี จำนวน 40,000 หน่วย แจ้งมูลค่า 0.00 บาท และหุ้น PF จำนวน 41,580,000 หน่วย มูลค่า 16,632,000 บาท

อย่างไรก็ตาม นายจักรกฤษณ์ ทองศรี มีศักดิ์เป็นหลานของนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top