Saturday, 18 May 2024
ภูมิใจไทย

‘เสี่ยหนู’ นั่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 ‘ภูมิใจไทย’ เผย รายชื่อว่าที่ ส.ส.คืบ 90% พบคนเด่น-ดังเพียบ!!

(29 มี.ค. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงการจัดทำไพรมารีโหวตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในการเลือกตั้ง ทั้งส.ส.แบบระบบเขต และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ว่าในส่วนของรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ทั้ง 400 เขต ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 90% ขั้นตอนต่อจากนี้จะส่งให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณา แล้วสรุปส่งต่อเสนอไปยังคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่เกินวันที่ 31 มี.ค.นี้

ส่วนรายชื่อผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค ล่าสุดได้ครบ 100 คนแล้ว โดยลำดับที่ 1 คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ลำดับที่ 2 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ส่วนที่เหลืออีก 98 คน ใช้รูปแบบการเรียงลำดับตัวอักษร หลังจากนี้ก็จะเข้ากระบวนการส่งให้คณะกรรมการสรรหา และคณะกรรมการบริหารพรรคตามลำดับ เพื่อพิจารณาเรียงลำดับผู้สมัครตั้งแต่หมายเลข 3 -100 ต่อไป ซึ่งต้องเสร็จก่อนวันที่ 3 เม.ย.นี้

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า สำหรับวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย จะไปยื่นสมัครในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ส่วนวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะเป็นในวันที่ 4 เม.ย.นี้ ที่ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ซึ่งนายอนุทิน จะนำทีมไปสมัครด้วยตัวเอง และจับสลากหมายเลขผู้สมัคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้เสนอตัวเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย มีบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม, นายศุภชัย ใจสมุทร, นายทรงศักดิ์ ทองศรี, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม, นายสวาป เผ่าประทาน, นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร, นายสุพล ฟองงาม, นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์, น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ, นายอารี ไกรนรา, นายภิญโญ นิโรจน์, นายนัจมุดดีน อูมา, นางนันทนา สงฆ์ประภา, นายบุญดำรง ประเสริฐโสภา, น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล, นายสามารถ แก้วมีชัย, นายชลัฐ รัชกิจประการ, นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน, นายพิกิฎ ศรีชนะ, นายมารุต มัสยวาณิช, น.ส.เรวดี รัศมิทัต และนายวิรัช พันธุมะผล เป็นต้น

‘ศุภชัย ’ เผย ‘ภท.’ หนุน กม.กัญชาเพื่อการแพทย์ หลัง ‘ภาคประชาชน’ เตรียมล่ารายชื่อทั่วประเทศ

(29 มี.ค. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า จากที่ผลการเสวนาของพรรคภูมิใจไทย เรื่อง ‘ทิศทางกฎหมายกัญชาเพื่อสุขภาพ และการแพทย์หลังการเลือกตั้ง’ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนที่จะให้มีกฎหมายเฉพาะมาคุ้มครองเพื่อการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องมีการผลักดันกฎหมายต่อไป
.
โดยทางภาคประชาชนจะมีการรณรงค์พร้อมล่ารายชื่อในทุกภาค ทั้งจากในพื้นที่จริง และทางระบบออนไลน์ เพื่อแสดงจุดยืนดังกล่าว นอกจากนี้ ภาคประชาชนจะมีการจัดสัมมนาในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไป  อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ที่มีกลุ่มบุคคลออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านคัดค้านเรื่องกัญชา รวมถึงจะนำกลับไปเป็นยาเสพติด โดยขาดความรู้ และความเข้าใจ ทำให้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนที่ยังเห็นว่า กัญชาสามารถเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการรวมตัวของภาคประชาชนทุกภาคส่วน

#THESTATESTIMES
#ElectionTime
#NewsFeed
#ภูมิใจไทย
#ศุภชัยใจสมุทร
#กัญชา
#กัญการแพทย์

‘อนุทิน’ ไร้กังวล ปม ‘ชูวิทย์’ ต้านกัญชาต่อเนื่อง ชี้!! มีประโยชน์ด้านการแพทย์-สุขภาพ-เศรษฐกิจ

(29 มี.ค.66) ที่หอประชุมโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาต่อต้านนโยบายกัญชาของพรรค ว่า ไม่กังวลเพราะกัญชามีประโยชน์ต่อการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ

‘อนุทิน’ เมินหลากโพล ชี้ คะแนนพรรค ภท.ไม่กระเตื้อง เชื่อ ‘โพลอนุทิน’ ไม่เคยพลาด 2-3 ครั้งที่ผ่านมา

(29 มี.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า การจัดลำดับรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคภูมิไทย ว่า เบอร์ 1 เบอร์  2 เสร็จแล้ว ส่วนตำแหน่งอื่นมีอยู่ในใจแล้ว รอให้ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พิจารณาก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายพรรคมีปัญหาผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ ไม่พอใจการจัดลำดับจนขอลาออก จะเกิดเหตุแบบนี้กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ยืนยันในพรรค ภท.ไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้ เพราะเตรียมตัวมาเป็นปีและพูดคุยกับสมาชิกแล้ว ไม่เคยทะเลาะกัน และทะเลาะกันไม่ได้”

เมื่อถามว่า บัญชีรายชื่อลำดับ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ภท.เป็นคนเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “คนเดียวกัน แคนดิเดตนายกฯ มีคนเดียว ที่ผ่านมาก็เสนอคนเดียวมาตลอด ไม่จำเป็นต้องมีสำรอง คนเดียวเอาอยู่”

ผู้สื่อข่าวถามถึง การลาราชการได้ยื่นใบลากับนายกฯ แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า “จะยื่นลาเป็นวัน ๆ ไป วันไหนที่ต้องใช้เวลาราชการ จะลาตามช่วงที่ได้ใช้ไปจะได้ไม่มีปัญหา เพราะบางครั้งช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน และขณะนี้กำลังจัดเวลาอยู่ ใครขอคิวมาให้ ขอให้เสร็จในช่วงเวลา 16.00 น.”

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้ลาติดต่อกันตลอดทั้งเดือนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “อุ๊ย!! ลาไม่ได้หรอก ลาเป็นเดือนก็ไม่กล้าเขียน เขียนไปถูกดุตายเลย”

เมื่อถามว่า จำนวน ส.ส.ที่พรรค ภท.ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้ จะเพิ่มขึ้นหรือยัง เพราะพรรคพลังประชารัฐ ตั้งเป้าไว้ที่ 100 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า “ความจริงกระแสของพรรค ภท.ดีขึ้นเรื่อย ๆ อุปสรรคที่เกิดขึ้นมา ไม่ได้มีผลกระทบอะไรที่ทำให้คะแนนนิยมของพรรคลดลง เราประเมินผลในทุกพื้นที่มาตลอด”

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค ภท.หวังว่าจะได้ ส.ส.เขต และปาร์ลิสต์เท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เก็บไว้ในใจ บอกไปไม่ได้”

‘พุทธิพงษ์’ ลุยแก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่ รองรับการขยายตัวของเมือง ดันแผนพัฒนาตามความต้องการให้ครอบคลุม-ตอบโจทย์ ปชช.

(31 มี.ค. 66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า…

“พร้อมแล้ว แก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่ อย่างตรงจุด!
จากที่ตัวผมและทีมงาน ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทยได้ลงพื้นที่ครบทุกโซน ทั่วทั้งกรุงเทพฯ วันนี้จึงขอยกประเด็นปัญหาของพื้นที่ ‘กรุงเทพฯ ฝั่งธนฯ’ พร้อมทั้งวิธีรับมือ แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เพื่อช่วยตอบโจทย์ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเฉพาะเจาะจง

เนื่องจากพื้นที่นี้ มีหลายเขตที่รวมกันอยู่ค่อนข้างที่จะเยอะมาก ๆ ได้แก่ เขตพื้นที่ธนบุรี, คลองสาน, บางกอกใหญ่, บางกอกน้อย, บางพลัด, ตลิ่งชัน, ทวีวัฒนา, ภาษีเจริญ, บางแค, หนองแขม, บางขุนเทียน, จอมทอง, บางบอน, ราษฎร์บูรณะ และทุ่งครุ ทำให้จำนวนประชากรกว่า 1,707,430 คน กับทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีจำนวนจำกัด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับความสะดวกสบายมากเพียงพอ เช่น โรงพยาบาลรัฐมีเพียง 4 แห่ง ศูนย์กีฬา หรือรถสาธารณะมีไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร ผมและทีมงานตระหนักถึงปัญหานี้ดีครับ เราจึงได้คิดนโยบายที่จะช่วยปรับปรุงพื้นที่ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีมากเพียงพอกับจำนวนประชากร

‘ภูมิใจไทย’ ส่งนักการเมืองรุ่นใหม่ สู้ศึกดีเบต ‘New gen’ ชูแนวคิด เยาวชนไทย กล้าคิด-กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

(31 มี.ค. 66) ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือมติชน ประกอบด้วย มติชน, ข่าวสด, ประชาชาติธุรกิจ, มติชนทีวี และมติชนสุดสัปดาห์ จับมืออีก 5 พันธมิตร ได้แก่ ทีดีอาร์ไอ, สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย, วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์, MFEC และศูนย์ข้อมูลมติชน เปิด ‘5 เวที 10 ยุทธศาสตร์ 2 กลยุทธ์’

โดยในเวทีที่ 3 ‘ฟังเสียง New gen บทใหม่ประเทศไทย’ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีตัวแทนนักการเมืองรุ่นใหม่ จาก 9 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชัน

ในรอบที่สอง ช่วงแบทเทิล คำถามที่ 5 นักการเมืองรุ่นใหม่มีแนวทางการปฏิบัติที่จะจัดการอย่างไรกับเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ประชาชนทั่วไป การคอมเมนต์บนโซเชียลฯ หรือแม้กระทั่งการทำภาพยนตร์ ซีรีย์ ที่ถูกจำกัด จะแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง

น.ส.อิสราพร บูรณอรรจน์ (อุ้ม) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เสรีภาพในการพูด คือ การทำศิลปะในการทำภาพยนตร์ ดนตรี อย่างมีอิสระเสรี เห็นด้วยเรื่องของความเหมาะสมในเมื่อความเหมาะสม ไม่ได้มีคำจำกัดความว่าอะไรดีอะไรไม่ดี บางอย่างก็เทา ๆ เราไม่มีสิทธิไปกำหนด ตนคิดว่า สื่อบันเทิง หรือการพูดที่ไม่เหมาะสมควรเป็นแค่การกำหนดว่าสื่อประเภทนี้เหมากับอายุเท่าไหร่ก็พอ

‘ภูมิใจไทย’ ชู พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ หนุนการศึกษาตลอดชีวิต เล็งจัดตั้ง ‘ครูหมู่บ้าน’ 8 แสนคน ให้ความรู้-สอนทักษะแก่ชุมชน

‘ภูมิใจไทย’ ดัน พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ สำเร็จ หนุนจัดการศึกษาตลอดชีวิต-เพื่ออาชีพ-ตามอัธยาศัย เพิ่มบทบาทกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผู้สนับสนุน เปิดทางองค์กรอื่นเป็นผู้จัดการศึกษาเอง เพื่อสร้างคนตามความต้องการ พร้อมตั้งธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) เพื่อเทียบโอน-พักเรียน เล็งจัดตั้ง ‘ครูหมู่บ้าน’ จำนวน 800,000 คนทั่วประเทศ เป็นอาสาสมัครให้ความรู้กับชุมชน

(1 เม.ย.66) ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘พรรคภูมิใจไทย’ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอในหัวข้อ ‘พลิกโฉมการศึกษาไทย ด้วย พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้’ โดย ดร.กมล รอดคล้าย คณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวให้ข้อมูลเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ ไว้ว่า…

“โดยทั่วไปแล้ว การจัดการศึกษามีกรอบแนวทาง ซึ่งจะมีแผนการศึกษาแห่งชาติกำหนดทิศทางเนื้อหา สาระ และสิ่งที่เด็กจะต้องเรียนรู้ไว้ แต่มันจะต้องมีกฎหมายหลักอีกตัวหนึ่ง ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนการจัดการศึกษา เรียกว่า ‘พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ’ แต่เนื่องจากว่า นับตั้งแต่นี้ต่อไป โลกของการเรียนรู้ได้ออกไปนอกห้องเรียนมากขึ้น ทุกคนสามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้ และยังมีวิธีการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต นับตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายของชีวิต เพราะฉะนั้น จึงมีพระราชบัญญัติอีกฉบับหนึ่งเกิดขึ้น เรียกว่า ‘พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้’ ”

ดร.กมล ได้กล่าวต่อว่า “แม้ว่าพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ จะยังไม่ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภา แต่พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคหลักในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ เราได้ขับเคลื่อน พ.ร.บ ฉบับนี้จนประสบผลสำเร็จ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ประมาณ 3-4 เรื่อง ที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น

เรื่องที่ 1 รูปแบบการจัดการศึกษา ซึ่งเดิมทีใช้ระบบการจัดการศึกษาแบบตามคุณวุฒิ คือ เรียนประถมฯ มัธยมฯ ซึ่งการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เราเรียกว่า ‘การศึกษาเพื่ออาชีพ’ สำหรับนำความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพต่าง ๆ และการจัดการการศึกษาเพื่อส่งเสริมความรู้ตามอัธยาศัย ตามความสนใจ รูปแบบการจัดการศึกษาในอนาคต จึงเปลี่ยนไปจากเดิม และไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เราสามารถเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ เข้าถึงการศึกษาหลักสูตรระยะสั้น รวมถึงสามารถที่จะไปเรียนต่อในต่างประเทศ ตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้

ประการต่อไป คือ ผู้จัดการศึกษา ต้องไม่ใช่กระทรวงศึกษาธิการอย่างเดียว กระทรวงศึกษาธิการอาจทำหน้าที่ในการจัดการศึกษาตามคุณวุฒิ แต่เราสามารถสนับสนุนให้ผู้อื่นจัดการศึกษาเพิ่มเติมได้ เช่น โรงงาน บริษัทใหญ่ ๆ หรือภาคธุรกิจเอกชนที่ต้องการผู้ที่มีความชำนาญในอาชีพเฉพาะทาง เราสามารถที่จะให้งบในการซัพพอร์ตบางส่วน เพื่อให้หน่วงงานเหล่านั้นไปเป็นคนจัดการศึกษา และจากนั้น เด็กจึงนำวิชาที่เรียนมาเทียบโอนกับการศึกษาในระบบได้ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บไว้ในระบบที่เรียกว่า ‘ธนาคารหน่วยกิต’ หรือ ‘เครดิตแบงก์’ (Credit Bank) ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเตรียมพร้อมที่จะจัดตั้ง ‘สถาบันพัฒนาระบบธนาคารหน่วยกิต’ ขึ้นในโอกาสต่อไป หากพรรคภูมิใจไทยได้เข้าไปเป็นรัฐบาล เราจะต้องพัฒนาส่งเสริมให้หน่วยงานมีพิพิธภัณฑ์ มีศูนย์วิทยาศาสตร์ มีศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มีห้องสมุด ทั้งหมดนี้ เป็นกระบวนการที่เราจะจัดการศึกษาให้กับทุกคน และเป็นการศึกษาตลอดชีวิต สามารถที่จะหยุดพักการเรียนเพื่อไปทำงานแล้วเก็บหน่วยกิตไว้ในธนาคารหน่วยกิต เพื่อให้สามารถกลับมาเรียนในโอกาสต่อไปได้”

‘พุทธิพงษ์’ นำทีมภูมิใจไทย กทม. สมัครเลือกตั้ง ส.ส. ลั่น!! พรรคพร้อมทุกด้าน ขอมัดใจคนกรุงด้วยนโยบาย

(3 เม.ย.66) ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถ.พหลโยธิน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีมกทม. พรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้สมัครส.ส.กทม. ของพรรค ทั้ง 33 เขต ได้รวมตัวกันเพื่อขึ้นรถเมล์ไฟฟ้า EV เดินทางไปยังอาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) ดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของ กทม. ทั้ง 33 เขต

จากนั้น เวลา 07.15 น. นายพุทธิพงษ์ และคณะผู้สมัครส.ส.กทม. 33 เขตพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาถึงบริเวณสถานที่รับสมัคร โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก บรรดาพี่น้องประชาชนแต่ละพื้นที่ในเขต กทม. ที่สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ได้มารอรับ ชูป้ายพร้อมตะโกนส่งเสียงเชียร์ผู้สมัครของตัวเองอย่างคึกคัก 

โดย นายพุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า วันนี้มาด้วยความมั่นใจ เพราะทุกนโยบายตกผลึกจากการร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ขอให้มั่นใจว่าเป็นนโยบายที่ทำได้จริง แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่เคยมีส.ส.กทม.มาก่อน แต่จากยุทธศาสตร์ และบุคลากรของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้เราพร้อมมาก

ขณะที่ นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตห้วยขวาง - วังทองหลาง เปิดเผยก่อนการรับสมัครว่า ส่วนตัวอยากได้เบอร์ 9 ทั้งนี้ เมื่อเวลา 06.09 น. ก่อนเดินทางมาสถานที่รับสมัคร ตนได้ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำนักงานเขตห้วยขวาง ซึ่งส่วนตัวทำเป็นประจำทุกครั้งที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง วันนี้มาด้วยความมั่นใจรายการเข้ามาอาสาทำหน้าที่ส.ส. ในนามพรรคภูมิใจไทย เพื่อคนกทม. และประชาชนคนไทย

นครพนมเดือด!! 'ครูแก้ว' ประกาศล้มแลนด์สไลด์ มั่นใจ!! พา 'ภูมิใจไทย' ชนะยกจังหวัดทั้ง 4 เขต

(3 เม.ย.66) วันแรกในการเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ โดยตั้งแต่เช้าที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนคพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีบรรดาผู้สมัคร ส.ส. พรรคการเมืองต่างๆ เดินทางมารอคิวอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งมีกองเชียร์ของแต่ละพรรคแห่มาให้กำลังใจอย่างคับคั่ง แต่เข้มงวดตามระเบียบกฎหมายเลือกตั้ง ห้ามจัดการรื่นเริงทั้งแตรวงหรือกลองยาว ต่างจากการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา คงมีเพียงการเดินทางมาให้กำลังใจ คล้องมาลัยและมัดผ้าขาวม้าแบบที่เคยปฏิบัติมา เพื่อเป็นสิริมงคลตามวัฒนธรรมทางการเมือง

โดยการเปิดรับสมัคร ส.ส.นครพนมทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองใหญ่ที่สำคัญน่าจับตามอง เพียงแค่ไม่กี่พรรค ที่มีฐานคะแนนนิยม รวมถึงตัวผู้สมัครคนสำคัญ อาทิ เจ้าถิ่นที่ผูกขาดเก้าอี้ ส.ส.มาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคความหวังใหม่ ถึงพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ตามด้วยพรรคภูมิใจไทย พรรคนี้ถือเป็นผู้ท้าชิงที่น่ากลัวมาก และพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเสรีรวมไทย เป็นต้น

ส่วนพรรคการเมืองที่น่าจับตามอง และเชื่อว่าจะต้องมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น คือ พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย โดยในวันนี้ ทางพรรคเพื่อไทย มีแม่ทัพคนสำคัญ คือ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต ผวจ.นครพนม คนที่ 29 (2537-2540) อดีตเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร และ รมช.ศึกษาธิการ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำทีมผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทั้ง 4 เขตเดินทางมาสมัคร นอกจากนี้ ยังมีนายสมนาม เหล่าเกียรติ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และ นายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ รวมถึงมีแกนนำครอบครัวเพื่อไทยทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง มาร่วมให้กำลังใจด้วย

ในเบื้องต้นก่อนจะมีการจับสลากเลือกลำดับว่า ใครจะเป็นผู้หยิบเบอร์ประจำตัวในการหาเสียงครั้งนี้นั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้ขอหารือร่วมกับ ดร.มนพร เจริญศรี แกนนำพรรคเพื่อไทย และ ดร.สมชอบ นิติพจน์ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อทำข้อตกลงกันว่า ให้มีการจับเลือกเบอร์เพียงพรรคละคน สมมติแกนนำพรรคคนใดคนหนึ่งล้วงได้เบอร์ 1 ส่วนที่เหลืออีก 3 เขต ก็ได้เบอร์ 1 เหมือนกันหมด หลังตกลงเป็นที่เข้าใจแล้ว ก็ไปสอบถามนายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ซึ่งได้รับคำตอบว่าทาง กกต.ไม่มีกฎหมายรองรับ จึงต้องกลับมาจับสลากเลือกเบอร์ของตัวเองในแต่ละเขตตามเดิม

ผลการจับสลากเลือกเบอร์ประจำตัวผู้สมัคร เฉพาะ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เริ่มจากพรรคเพื่อไทยเขตเลือกตั้งที่ 1 ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ได้เบอร์ 6 เขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.มนพร เจริญศรี เบอร์ 2 เขตเลือกตั้งที่ 3 ดร.ไพจิต ศรีวรขาน เบอร์ 2 และเขตเลือกตั้งที่ 4 นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ได้เบอร์ 1 ภายหลังการสมัครทางทีมงานพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นสิริมงคลทั้งศาลหลักเมืองนครพนม องค์พญาศรีสัตตนาคราช และ องค์พระธาตุพนม พร้อมพบปะปราศรัยกับประชาชน แกนนำครอบครัวเพื่อไทย

‘อนุทิน’ โพสท่าชูเบอร์ 7 เผย ถูกโฉลกมาก!! ลั่น!! ติดเบอร์ตามป้ายหาเสียงเพื่อเอาเคล็ดแล้ว 

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์หลังจากจับฉลากหมายเลขพรรคได้เบอร์ 7 ว่า เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับตน  ส่วนเรื่องเอกสารที่บางพรรคอาจยื่นไม่ถูกต้อง และอาจทำให้เลขถูกเลื่อนขึ้น กลายเป็นเลขไม่ถูกโฉลกนั้น ก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าดีทุกเบอร์ แต่ตอนนี้เราได้เลขตัวเดียว พรรคอื่นหากมีปัญหาเรื่องเอกสารเลื่อนขึ้นมาก็ยังเป็นเลขตัวเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ติดเบอร์ตามป้ายหาเสียงเพื่อเอาเคล็ดแล้ว จากนั้นนายอนุทิน ได้โชว์สัญลักษณ์เลข 7

เมื่อถามว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ต่อหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เดินหน้าแน่นอน เพราะร่างกฎหมายที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เห็นชอบแล้ว มีมติเสียงข้างมากแล้ว เมื่อเรากลับเข้าสภาก็จะเสนอร่างนี้อีก ซึ่งบางคนไม่รู้ว่ากัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ ประเทศชาติ และประชาชน การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่พรรคภูมิใจไทยเข้ามาได้ส่วนหนึ่งก็เพราะนโยบายกัญชา ฉะนั้น สำหรับคนที่ไม่เข้าใจเราก็จะเดินหน้าสร้างความเข้าใจ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top