Friday, 3 May 2024
พลังประชารัฐ

‘สันติ’ เผย ไม่ง้อ หาก ส.ส.ย้ายพรรค ลั่น!! พรรคมีตัวสำรองที่มีความตั้งใจเยอะ

วันนี้ (10 ม.ค. 66) เวลา 09.07 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงประเด็นการเช็กลิสต์ ส.ส.ย้ายไปยังพรรคอื่นว่า ส.ส.เมื่อเขาจะไป แล้วตนจะทําอย่างไรได้ ตนในฐานะเลขาพรรคก็ทําหน้าที่ หาดูคนดี ๆ มาสํารองเอาไว้ เพราะคนเหล่านี้เป็นคนดีมีความตั้งใจ เราจึงนำมาสํารองเอาไว้ นี่ก็เป็นตัวหนึ่งที่จะเป็นหลักประกัน ว่าส.ส. ที่คิดจะย้ายไปย้ายมา ก็ต้องคิดให้ดี

ด้านอนาคตทางการเมืองสองพรรคในระหว่างรวมไทยสร้างชาติกับพลังประชารัฐ จะจับมือกันได้ไหม สันติกล่าวว่า ให้ทุกคนดูว่าหัวหน้าพรรคนั้นคือพลเอกประวิตร เป็นคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ทุกพรรค ฉะนั้นเรื่องที่จะไปรังเกียจ พรรคนี้ รังเกียจ ส.ส.ของพรรคนี้ มันจะรังเกียจได้ยังไง ในเมื่อพี่น้องประชาชนเลือกมา

‘ชัยวุฒิ’ ยันอยู่ต่อกับ ‘บิ๊กป้อม’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ไม่เคยชวนย้ายค่าย

(10 ม.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมกรรมการบริหารพรรคพปชร.ว่า ประชุมกรรมการบริหารพรรคกับคนที่จะทำงานกับพรรคต่อ เพื่อขับเคลื่อนพรรคต่อไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชัยวุฒิ ยืนยันว่ายังอยู่กับพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังทำงานกันอยู่ และเตรียมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นอย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สนิทกับทุกคน เพราะทำงานทั้งกับนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค อยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชวนไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่มี

‘บิ๊กป้อม’ ยัน พร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 66) ที่งานเปิดตัวนโยบายแรก ‘เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 บาทต่อเดือน’ 
ของพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประวิตรว่า พร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ 

รอลุ้น ‘พปชร.’ ปรับบัตรประชารัฐเป็น 700 หากผลเลือกตั้ง ดันเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

หลังพรรคพลังประชารัฐได้ออกมาประกาศนโยบายสำหรับบัตรประชารัฐ ว่าจะเดินหน้าการจัดทำนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ก็เรียกเสียงฮือฮาให้กับประชาชนที่มีบัตรประชารัฐอย่างมาก ซึ่งบางคนอาจจะบอกว่า 700 บาทต่อเดือนมันไม่พอ บางคนก็อาจจะบอกว่าพอ

วันนี้ทีมข่าว THE STATES TIMES จึงลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ตลาดประชานิเวศน์ 3 เพื่อสอบถามประชาชนถึงประเด็นดังกล่าว ว่าการเพิ่มเงินเป็น 700 บาทต่อเดือน จะเพียงพอสำหรับประชาชนหรือไม่?

โดยแม่ค้าขายหมูปิ้งตลาดประชานิเวศน์ 3 นนทบุรี ที่มีบัตรประชารัฐอยู่ กล่าวว่า ในเดือนนี้มีการเพิ่มเงินในบัตรให้ 200 บาท จากเดิมที่ได้ 200 บาท ก็ได้เพิ่มเป็น 400 บาท ตนเองมองว่าการเพิ่มเงินในเดือนนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกวันนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แล้วค่าครองชีพก็ขึ้นสูงมาก ของแพงทุกอย่างการใช้จ่ายก็เลยไม่พอ แล้วที่ได้เงินเพิ่มมาเป็น 400 บาท ตนเองคิดว่าก็ยังไม่พออยู่ดี หากพรรคพลังประชารัฐให้เพิ่มเป็น 700 บาท ก็คงจะดีขึ้นกว่านี้

'ดร.นฤมล' เผย พปชร. เร่งจัดทัพ ส.ส. พร้อมรับศึกเลือกตั้ง ชู 'บิ๊กป้อม' มีภาวะผู้นำ-ไม่ขัดแย้งกับใคร เหมาะนั่งนายกฯ

(22 ม.ค.66) ศ.ดร.นฤมล ลั่น พปชร. พร้อมลุยศึกเลือกตั้งปี 2566 เร่งจัดและเสริมทัพส.ส.เข้มแข็งลงพื้นที่ ไร้ข้อกังวลใด ๆ ชู พล.อ.ประวิตร แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 ด้วยลักษณะที่เป็นผู้นำพิเศษ ไม่ข้ดแย้งใครสามารถนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมดได้จริง!! ผนวกกับนโยบาย พปชร. ครอบคลุมทุกมิติมุ่งกระจายรายได้ให้กับประชาชนทั่วถึงทุกพื้นที่  

 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐ ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2566 ว่า พปชร. อยู่ระหว่างการจัดทัพและเสริมทัพของว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในเขตที่ไม่เคยมี ส.ส. และเขตที่ ส.ส. มีแนวโน้มย้ายไปสังกัดพรรคใหม่และพรรคอื่น ๆ และได้ทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครมาตลอด โดยยืนยันว่าไม่ได้มีข้อกังวลใด ๆ เพราะเชื่อว่าทุกพรรคก็ดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกัน

“เราพอจะรับทราบถึงทิศทางของ ส.ส. มาได้สักพักแล้ว ท่านหัวหน้าและเลขาธิการพรรคก็ได้เตรียมผู้สมัครทั้งที่ในเขตที่มี ส.ส. อยู่แล้ว และเขตที่ไม่เคยมี ส.ส. รวมถึง ส.ส. ที่มีแนวโน้มจะย้ายออกไปอยู่พรรคใหม่และพรรคอื่น ๆ เราก็ได้เริ่มหาตัวผู้สมัครสำรองสำหรับเขตนั้น ๆ ล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว ซึ่งน้ำคงจะค่อย ๆ นิ่งและตกผลึกในที่สุด เพราะมีส่วนหนึ่งขยับออก ก็จะมีส่วนหนึ่งขยับเข้ามาก็จะมาเติมเต็มกัน” ศ.ดร.นฤมลกล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมา พปชร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายที่วางไว้มาต่อเนื่อง เพื่อสร้างประเทศไทยให้มั่นคง ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาความยากจน ประชาชนอยู่ดีกินดีทุกพื้นที่ ไม่ใช่กระจุกตัวเฉพาะหัวเมือง ต้องกระจายความเจริญออกไป อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรประชารัฐเป็นนโยบายหลักที่ต้องต่อยอด การพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 กลายเป็นโจทย์ใหญ่ก็มีนโยบายที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ภาคการเกษตร นโยบายเหล่านี้จะค่อย ๆ ทยอยเปิดให้ประชาชนเห็น 

‘บิ๊กป้อม’ ควงแกนนำ พปชร. เปิดปราศรัยแรก ปักหมุด ‘ป้อมปราบศัตรูพ่าย’ ข่มขวัญคู่ต่อสู้

(24 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์เหรัญญิกพรรค ร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. รวมทั้งสิ้น 71 คน แบ่งเป็นในต่างจังหวัด จำนวน 43 คน ได้แก่ 
จ.ระยอง คือ นายพายัพ ผ่องใส เขต 3
จ.ฉะเชิงเทรา ได้แก่ นายรัฐสภา นพเกตุ เขต 1, พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ เขต 4
จ.ชลบุรี คือ นายเพิ่มพงศ์ วงศ์ทรายทอง เขต 3
จ.ปราจีนบุรี คือ นายเกียรติกร พากเพียรศิล์ เขต 2
จ.ศรีสะเกษ ได้แก่ นายสุรณัฐ แนบเนียม เขต 3, นายอภิชา ระยับศรี เขต 7
จ.อุดรธานี คือ นายวิฑูรย์ นามคุณ เขต 6 
จ.สุรินทร์ ได้แก่ ว่าที่ ร.ต.ศักดินันท์ศุภนิมิตมนตรี เขต 1, นายพิเชษฐ์ สุทธิศิริวัฒนะ เขต 2, น.ส.ณชณฆ์ ตรงใจ เขต 3
จ.ชัยภูมิ คือ นายพีระพล ติ้วสุวรรณ เขต 6

จ.นครราชสีมา ได้แก่ น.ส.กาญจนา เปรมภิรักษา, นายสุกฤษณ์ วัชรมาลีกุล, พ.ต.อ.ปริวัฒน์ นาคำ
จ.เลย คือ นายชูศักดิ์ บัวระภาสิริ
จ.สกลนคร คือ นายอภิวัฒน์ มีชัย เขต 1
จ.กาฬสินธุ์ ได้แก่ น.ส.พาวิไล พิมพะสาลี เขต 1, นายสิทธิศักดิ์ พัฒนชัย เขต 4
จ.ร้อยเอ็ด คือ นายพงศกรณ์ ตั้งกิตติ์ตระกูล
จ.ขอนแก่น ได้แก่นายอัษฎางค์ แสวงการ เขต 1, นายพัฒนา นุศรีอัน เขต 2, นายปัญญา ศรีปัญญา เขต 3, นายณรงค์เลิศ สุรพล เขต 4, นายสมใจ ชาญจระเข้ เขต 5, นายเลอพงศ์ ลิ้มรัตน์ เขต 8 นายไพฑูรย์ ผิวผาง เขต 9, นพ.กันณพงศ์ อัครไชยพงศ์ เขต 11

จ.แพร่ ได้แก่ น.ส.อาทิตยา อินนะไชย เขต 1, นายสุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงษ์ เขต 2, นางปอรวัลย์ มุดเจริญ เขต 3 
จ.ตาก ได้แก่ นายเชิงชัย ก่อประกิจ เขต 3
จ.พิษณุโลก ได้แก่ นายเอกพงษ์ กุลเจริญ เขต 5
จ.นครสวรรค์ ได้แก่ นายธนริชต์ วิเชียรรัตนี เขต 1, นายนัยศาลิน ถนอมมิตรวัฒนา เขต 2
จ.นครปฐม ได้แก่ นายศิรวริศสวนแก้ว เขต 2, นายณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม เขต 3, นายมนตรี บุญประคอง เขต 5
จ.กาญจนบุรี ได้แก่ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์, นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์, พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์, นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ
จ.นครศรีธรรมราช คือ นพ.พิชาญศักดิ์ บุญมาศ เขต 8

จากนั้น พล.อ.ประวิตร และผู้บริหารพรรคได้ร่วมกันเปิดตัว นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ที่จะรับผิดชอบเป็นหัวหน้าทีมดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. พร้อม ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. ล็อตแรก จำนวน 28 คน ได้แก่ นายธิชดล สกุลำ ผู้สมัคร ส.ส.เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ และดุสิต, นายภูมิพิชัย ธํารดํารงค์ เขตปทุมวัน สาทร บางรัก, น.ส.ชญาภา ปรีดาพากย์ เขตบางคอแหลม ยานนาวา, ร.อ.รชฎ พิสิษฐบรรณกร เขตดินแดง พญาไท, นายพณิชย์ วิทยาภัทร์ เขตราชเทวี, นายสฤษดิ์ ไพรทอง เขตดุสิต, นายภักดีหาญส์ หิมะทองคํา เขตลาดพร้าว 

นายปราโมทย์ เพ็ชรฤทธิ์ เขตจตุจักร, นายศิววงศ์ วงศ์พิชญา เขตดอนเมือง, น.ส.นํ้าฝน ไพรทอง เขตสายไหม, ภ.ญ.นพวรรณ หัวใจมั่น เขตบางเขน, นางนฤมล รัตนาภิบาล เขตบางกะปิ, นายรังสรรค์ กียปัจจ์เขตหลักสี่ ดอนเมือง, นายกานต์ กิตติอําพน เขตวังทองหลาง ห้วยขวาง, น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง เขตบึงกุ่มคันนายาว, นายกิตติภูมิ นีละไพจิตร์ เขตคลองสามวา, นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม. เขตหนองจอก, นายพีระพงษ์ รัสมี เขตลาดกระบัง นางนาถยา แดงบุหงา เขตสะพานสูง แขวงประเวศ, นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ เขตพระโขนง บางนา, นายศันสนะ สุริยะโยธิน เขตคลองสาน ธนบุรี

นายสุวัฒน์ ม่วงศิริ เขตจอมทอง ธนบุรี เฉพาะแขวงดาวคะนอง, นายระพีพัฒน์ สุเมธโชติเมธา เขตทุ่งครุราษฎร์บูรณะ, น.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน เขตทวีวัฒนา หนองแขม เฉพาะแขวงหนองค้างพลู, พ.ต.ท.วันชัย ฟักเอี้ยง เขตตลิ่งชัน บางกอกน้อย เฉพาะแขวงบางขุนศรี, น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ เขตบางกอกน้อย, ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อํานรรฆสรเดช เขตบางซื่อ และนายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล เขตบางพลัด นายเอกชัย ผ่องจิตร์ เขตบางแค

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้เราเปิดผู้สมัครทั้งหมด 71 คน และเปิดไปแล้ว 350 คน และจะทยอยเปิดให้ต่อเนื่องให้ครบทุกเขตเลือกตั้ง พยายามจะส่งให้ครบทุกจังหวัดทั้ง 400 คน อยากฝากให้ผู้สมัครทั้งหลายลงพื้นที่ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ให้มากที่สุด อยู่ที่ทุกท่านจะทำต้องทำงานอย่างหนัก หลังจากอบรมผู้สมัครแล้วควรรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ฝากทุกคนด้วย ทางพรรคไม่มีอะไร

'สกลธี' กลับ พปชร. ขอบคุณ 'บิ๊กป้อม' ไฟเขียวทำงาน รับ!! สนามเมืองกรุงไม่หมู แต่มีกลยุทธ์ทำกระแสขยับ

(24 ม.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะหัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังกลับเข้าพรรคพปชร.อีกครั้ง ว่า ตื่นเต้น วันนี้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ต้องขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ที่ให้โอกาสตนในการดูแลนโยบาย ตัวผู้สมัคร ส.ส.และรายละเอียดต่างๆ ของทีม กทม. ทั้งนี้ตนตอบรับเข้ามาดูแลในภาพรวม ส่วนจะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือบริหารพรรคด้านไหน แล้วแต่หัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคจะเห็นสมควร

เมื่อถามถึงนโยบายที่จะเอาชนะใจประชาชน นายสกลธี กล่าวว่า ได้พูดตรงๆ กับหัวหน้าพรรค พปชร.ว่าการเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้ไม่ง่าย เพราะหลายพรรคมีตัวผู้สมัครดี ๆ และส่งผู้สมัครกันเยอะ โอกาสมีกันทุกพรรค อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ตนลาออกจาก พปชร.ไปก่อนหน้านี้ เพราะต้องการลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ แต่การกลับมาครั้งนี้หัวหน้าพรรคได้ให้โอกาสและอิสระตนเต็มที่ในการหาเสียง ซึ่งความอิสระที่หัวหน้าพรรคมอบให้ทำให้ตนดึงคนที่ช่วยตอนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.มาได้ ส่วนสนามเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้คงเป็นการสู้กันด้วยนโยบายและกระแส แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวผู้สมัครก็สำคัญ เพราะเป็นบัตรเลือกตั้งสองใบ แต่สนาม กทม.คาดเดายากเสมอ ในเรื่องกระแสและนโยบายจึงมีส่วนสำคัญอย่างสูง 

เมื่อถามว่าในสนามกทม.มีแต่พรรคที่คุ้นเคย เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายสกลธี กล่าวว่า ส่วนใหญ่ฐานเสียงขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัครส.ส. ฉะนั้นจะใช้ประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทั้งการเป็นอดีตส.ส.กทม. และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ต่อยอดนโยบายตอนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. นโยบายสำคัญของแกนนำพรรค มาระดมสมองให้ตอบโจทย์พี่น้อง กทม.

พปชร. จัดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือน! | THE STATES TIMES Y WORLD EP.57

ปักธงนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มเงิน-เพิ่มสวัสดิการ 700 บาทต่อเดือน ถือเป็นเกมปาดหน้าจาก 'พปชร.' ที่พี่ใหญ่แห่ง 3 ป.เขาจัดให้!! มีรายละเอียดอย่างไร ไปชมกัน!

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World x ELECTION TIME
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PLvNTQ_fOAFugvfiWfiUXJ8JJYho1ADnG8
 

พปชร.ออกซิงเกิลใหม่ ก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างสรรค์การเมืองใหม่ ปรองดองด้วยหัวใจ

ไม่นานมานี้ พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกเพลงใหม่ มีเนื้อหาดังนี้...

พลังประชารัฐ

A1: มาเรามาด้วยกัน ร่วมสร้างสรรค์การเมือง

     เพื่อความรุ่งเรือง ต้องมาด้วยกัน

     อะไรที่มีที่ไม่เข้าใจ ก็แก้กันไปคนไทยช่วยกัน

B: หยุดความหวาดระแวง และมาปรองดองหัวใจ

    ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้ รักกัน

Hook: พลังประชารัฐ จะก้าวข้ามความขัดแย้ง

          รวบรวมทุกแรง ไม่แบ่งความรักศรัทธา

          พลังประชารัฐ จะขอรวมใจประชา

          ให้ไปข้างหน้า เพื่อวันแห่งความสดใส

          ด้วย...พลังประชารัฐ

A2: เราเคยมีผลงาน ผ่านให้เห็นกันมา

      ได้พัฒนา ดูแลบ้านเมือง

      และพร้อมอาสาดูแลต่อไป จะทุ่มสุดใจให้ไทยรุ่งเรือง

‘นิด้าโพล’ เผยผลสำรวจ ‘พปชร.’ VS ‘รทสช.’ ปชช. มอง ‘ป้อม-ตู่’ ไม่แตกกัน พร้อมจับมือตั้งรัฐบาล

‘นิด้าโพล’ เผยผลสำรวจ การแข่งขันระหว่าง ‘พี่ป้อม’ พลังประชารัฐ ปะทะ ‘น้องตู่’ รวมไทยสร้างชาติ พบส่วนใหญ่เชื่อ ‘บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม’ ไม่ได้แตกกัน มอง ทั้ง 2 พรรคได้ ส.ส. เท่า ๆ กัน และพร้อมจับมือตั้งรัฐบาล

(29 ม.ค.66) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปะทะ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)’ ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 23-25 มกราคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการแข่งขัน ทางการเมืองระหว่าง รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชนต่อการแข่งขันทางการเมืองระหว่าง รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ กับนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ พบว่า 

- กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 46.56 ระบุว่า พลเอกประวิตร กับ พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้แตกกัน เป็นเพียงแค่การแข่งขันทางการเมือง 
- รองลงมา ร้อยละ 28.93 ระบุว่า การเมืองไม่มีมิตรแท้และศรัตรูที่ถาวร 
- ร้อยละ 20.53 ระบุว่า เป็นสีสันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย 
- ร้อยละ 12.52 ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นอิสระมากขึ้นในการตัดสินใจทางการเมืองและการบริหารประเทศ 
- ร้อยละ 10.76 ระบุว่า การแข่งขันกันจะทำให้ทั้งสองพรรคได้ ส.ส. รวมกันแล้วน้อยกว่าจำนวน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 2562 
- ร้อยละ 9.01 ระบุว่า พลเอกประวิตร กับ พลเอกประยุทธ์ แตกกันอย่างแน่นอน 
- ร้อยละ 8.78 ระบุว่า พลเอกประวิตร และ พรรคพลังประชารัฐ เป็นอิสระมากขึ้น สามารถร่วมรัฐบาลกับฝั่งไหนก็ได้หลังการเลือกตั้ง
- ร้อยละ 6.56 ระบุว่า การแข่งขันกันจะทำให้ทั้งสองพรรคได้ ส.ส. รวมกันแล้วมากกว่าจำนวน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 2562 
- ร้อยละ 6.34 ระบุว่า ผู้ที่เคยสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ แต่ไม่ชอบ พรรคพลังประชารัฐ จะกลับมาสนับสนุน พลเอกประยุทธ์มากขึ้น 
- และร้อยละ 3.05 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top