Friday, 3 May 2024
พลังประชารัฐ

‘สมศักดิ์’ เชื่อเสถียรภาพรบ. อาจจะดีขึ้น หลังขับ ‘ก๊วนธรรมนัส’ พ้นพรรค พปชร.

รัฐสภา 20 ม.ค. - “สมศักดิ์ เทพสุทิน” มอง พปชร. ขับ “ร.อ.ธรรมนัส และ 20 ส.ส.” ออกจากพรรค อาจทำให้น้ำนิ่งขึ้น ชี้ถ้าจัดระเบียบให้ดี รัฐบาลจะแข็งแกร่งมากขึ้น ปัดเป็น 1 ในแคนดิเดตเลขาฯ ใหม่ ควรเป็นคนที่สมัครใจ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพรรคมีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และ ส.ส. รวม 21 คนออกจากพรรคว่า วานนี้ (19 ม.ค.) ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่เห็นจากสื่อทราบว่าขับเลขาธิการพรรคออกด้วย ซึ่งทุกอย่างเป็นเรื่องของการเมือง

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีชื่อนายสมศักดิ์เป็นหนึ่งในแคนดิเดตเลขาธิการพรรคคนใหม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้ และส่วนตัวก็ไม่อยากเป็น

เกมบีบตู่!! ขับ ‘ธรรมนัส’ พ้นจากพรรค สถานะ ส.ส. ที่ยังอยู่ ต่อรองได้ยาวๆ 

เกมนี้ไม่มีผลประโยชน์ประเทศ หรือผลประโยชน์ของฟากฝั่งใด มีแต่ประโยชน์ส่วนตนล้วนๆ

รอยต่อการเมืองไทยต่อจากนี้น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพรรคพลังประชารัฐ มีการลงมติ ขับร้อยเอกธรรมนัส และ สส. อีก 20 คน รวมเป็น 21 คน ให้พ้นจากสมาชิกพรรค ด้วย 3 สาเหตุหลัก คือ ตัวบุคคลผิดวินัยร้ายแรง ผิดจรรยาบรรณร้ายแรง ทำให้พรรคบริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ และเพื่อแก้ไขความขัดแย้งภายในพรรค

โดยตลอดช่วงเย็นวาน (19 ม.ค. 65) มีกระแสข่าวลือสะพัดว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า จะนำทีม สส. ลาออกจากพรรค ขณะที่มีกระแสว่า ทางร้อยเอกธรรมนัสเอง จะใช้เรื่องนี้ต่อรองกับทางพรรค เพื่อต้องการให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี อีกทั้งยังขอตำแหน่งรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) เพื่อแลกกับจำนวน ส.ส. ในมือกว่า 20 คน ที่จะยอมยกมือเป็นองค์ประชุมในสภาให้

กระทั่งในช่วงเย็นวานนี้ มีการเรียกประชุมด่วน กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งมีรายงานว่า การประชุมครั้งนี้กินเวลาตั้งแต่ช่วง 17.00 น. ไปจนถึง 20.30 น. จึงเลิกประชุม ขณะที่ผู้สื่อข่าวก็ไปเกาะติดรอกันที่พรรคพลังประชารัฐ ว่าผลการประชุมจะเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายไม่มีการแถลงข่าว 

ทั้งนี้ยังมีรายงานข่าวว่า ในที่ประชุม พลเอกประวิตร ถึงขั้นแจ้งต่อที่ประชุมว่า “ยอม ๆ ไปเถอะ ถ้าอยากออกก็ให้ออกไป จะได้สงบ พรรคจะได้เดินต่อ”, “และเรื่องนี้ได้คุยกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว” 

ทั้งนี้ เงื่อนไขในการให้ขับออก เพราะร้อยเอกธรรมนัสขอโควตา รัฐมนตรีที่ว่างลง 2 ตำแหน่ง แต่คาดว่าจะไม่ใช่รัฐมนตรีช่วยฯ เพราะเล็งไปที่ตำแหน่งรัฐมนตรีเลย เนื่องจากมีเสียง ส.ส. ในมือถึง 21 คน ซึ่งเรื่องนี้ร้อยเอกธรรมนัสก็คงทราบดีว่า บิ๊กตู่ไม่น่าจะยอม จึงต่อรองหวังให้ทางพรรคมีมติขับออกจากพรรค เพราะถ้าลาออกเอง จะพ้นสถานะ ส.ส. ทันที และยังต้องไปเลือกตั้งซ่อมกันใหม่สิ้นเปลืองงบประมาณ 

เรื่องนี้หากมองดูผิวเผิน เหมือนเป็นเกมเขี่ยอดีตรัฐมนตรีแป้ง แต่ไม่ว่าผลจะเป็นลาออกยกทีมของธรรมนัส หรือถูกขับออกจากพรรคในช่วงเวลานี้ ก็ไม่อาจเป็นผลดีต่อรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายก็คงรู้ เพราะอย่างที่บอก ไหนจะสิ้นเปลืองงบประมาณเลือกตั้ง ไหนจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อมทีเดียวร่วม 20 เขต ซึ่งเป็นไปได้ยาก 

‘ไพบูลย์’ แถลงเหตุขับ ‘ธรรมนัส’ พ้นพรรค รับไม่ได้ ข้อเรียกร้องปรับโครงสร้างพรรค

พปชร. แถลงชัด มติให้ “ธรรมนัส” พร้อม 20 ส.ส. พ้นสมาชิกพรรค อ้างเหตุร้ายแรง เผย “บิ๊กป้อม” รับไม่ได้ ข้อเรียกร้องปรับโครงสร้างใหญ่ “ไพบูลย์” ยันร่วมงานกันอีกไม่ได้

วันนี้ (20 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงถึงการประชุมร่วมของกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.พปชร. เมื่อคืนวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า การประชุมเกิดขึ้นเนื่องจากมี ส.ส.นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีการเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค เรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ ซึ่งหัวหน้าพรรคเห็นว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวสร้างปัญหามาก เกรงจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ หัวหน้าพรรคจึงนัดประชุม กก.บห. และสมาชิกพรรค

นายไพบูลย์ กล่าวว่า กก.บห.หารือเรื่องที่ ร.อ.ธรรมนัส เรียกร้อง โดยเห็นว่า เป็นเรื่องที่พรรคไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะถ้าทำตาม จะเกิดความเสียหายของพรรคทั้งระบบ ดังนั้น เพื่อรักษาหลักการของพปชร. ทั้งเอกภาพและเสถียรภาพ อุดมการณ์ของพรรค กก.บห.เห็นว่ารับไม่ได้ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าถ้าไม่รับข้อเสนอจะมีปัญหาแน่ในการบริหารพรรค จึงทำให้พรรคเห็นว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงที่กระทบกับเสถียรภาพและเอกภาพของ พปชร. กก.บห.จึงเห็นว่าเข้ากับข้อบังคับข้อที่ 54 (5) มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น พรรคจำเป็นต้องมีมติให้กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส รวม 21 คน น่าจะต้องพ้นจากพรรค เพื่อรักษาส่วนใหญ่ขับเคลื่อนตามอุดมการณ์ของพรรค

เมื่อ 17 กก.บห.มีมติเช่นนั้น จึงประชุมร่วมกับ ส.ส. 61 คน รวมทั้งสิ้น 78 คน ในที่ประชุม พล.อ.ประวิตร ร่วมอยู่ด้วย ตนได้ชี้แจงว่าเป็นเหตุร้ายแรง ให้มีมติตามข้อบังคับข้อที่ 54 (5) ประกอบวรรคท้าย ให้สมาชิกภาพสมาชิกสิ้นสุดลงเนื่องจากมีเหตุร้ายแรง เป็นเรื่องความมั่นคง เอกภาพ เสถียรภาพของพรรค

หากสมาชิกนั้นเป็น ส.ส. ต้องมีมติ 3 ใน 4 ของที่ประชุมร่วม กก.บห.และ ส.ส. ซึ่งที่ประชุมร่วมมีมติเห็นชอบให้ ส.ส. 21 คน ที่เป็นกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยมีคะแนนเสียงเห็นด้วย 63 เสียง เกิน 3 ใน 4 ของผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งก็คือ 59 คน จึงถือว่าได้รับเสียงจากที่ประชุมร่วม ดังนั้น ทั้ง 21 คน พ้นจากสมาชิกพรรค

ขั้นตอนต่อไป พรรคจะจัดเตรียมเอกสารและนำเสนอ กกต. ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับและมีผลในวันที่มีมติ ทั้งนี้ ทั้ง 21 คนต้องหาพรรคใหม่สังกัดตาม รธน.มาตรา 101 (9) ขณะนี้สมาชิกภาพ ส.ส. ยังคงอยู่ เว้นแต่พ้น 30 วันแล้วหาพรรคสังกัดไม่ได้

เมื่อถามว่าเหตุความผิดร้ายแรงคืออะไร นายไพบูลย์ กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้เรียกร้องในเรื่องที่ทางพรรคไม่สามารถดำเนินการให้ได้ คือปรับโครงสร้างพรรคใหม่ ส่วนเรื่องต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีนั้นไม่สำคัญเท่ากับการเรียกร้องปรับโครงสร้าง โดยบอกหากไม่ปรับจะเคลื่อนไหวให้เสียหาย เกิดแรงกระเพื่อมร้ายแรง ถือว่าร้ายแรงทั้งระบบ ทั้งส่วน กก.บห.และตำแหน่งต่างๆ จะกระทบทั้งหมดเลย ประเด็นนี้จึงถือว่าร้ายแรง และบอกว่าถ้าไม่ได้ก็จะไม่ยอม จะเคลื่อนไหวด้วยมาตรการต่างๆ ถือเป็นความขัดแย้งก่อให้เกิดความเสียหาย ความมั่นคงของ พปชร.

สรุปว่า มติร่วมของ กก.บห.กับ ส.ส. มีความเห็นตามข้อบังคับพรรคทุกประการ ก่อนหน้านี้มีเรื่องแต่ไม่ขับเพราะยังไม่ถึงกับพีก แต่ตอนนี้เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจ

เมื่อถามว่าร้ายแรงถึงสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องในพรรค และไม่มีพูดถึงเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ แค่พูดว่าจะเป็นปัญหาในพรรค และจะไม่มีผลต่อสภาล่ม เพราะทั้งหมดเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เราพยายามแก้ไขแล้ว แต่เมื่อแก้ไม่ได้ เรามีมติตามกฎหมาย เพื่อรักษาส่วนใหญ่ มั่นใจจะไม่ส่งผลให้สภาล่ม เรามั่นใจในสปิริตของ ส.ส.พปชร. ทุกคน

เมื่อถามว่า ยังสนับสนุนรัฐบาลอยู่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เอาไว้ถามอุดมการณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันเป็นเหตุร้ายแรง แตกแยกขนาดใหญ่ จึงทำงานร่วมกับพปชร. อีกไม่ได้ แต่ทำงานในสภาได้

‘เทพไท’ ชี้ พปชร.ขับ ‘ธรรมนัส’ พ้นพรรค เหมือนปล่อยเสือจากกรง ระวังถูกแว้งกัด

วันที่ 21 ม.ค. 65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า เมื่อที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กับ ส.ส.ของพรรค มีมติขับ ส.ส.กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส จำนวน 21 คนออกจากพรรค ตามความสมัครใจของกลุ่มร้อยเอกธรรมนัสแล้ว ทำให้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ และมีการคาดการณ์ไปต่างๆ นานา แม้แต่แกนนำของพรรคพลังประชารัฐ อย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็บอกว่า หลังจากขับกลุ่มร้อยเอกธรรมนัส ออกจากพรรคไปแล้ว จะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลแข็งแกร่งขึ้น หรือนายไพบูลย์ นิติตะวัน บอกว่า การขับ ส.ส.กลุ่มนี้ออกจากพรรค จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ มีเอกภาพ จบปัญหาความขัดแย้งภายในอย่างสิ้นเชิง รวมถึงนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล ได้แสดงความมั่นใจว่า สภายังเดินหน้าต่อ แม้เสียงปริ่มน้ำ

ซึ่งผมจะขอวิเคราะห์ และคาดการณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ไป ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ว่าจะพบกับปัญหาอะไรบ้าง

1.) เสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอนอย่างแน่นอน เพราะคะแนนเดิม ที่สนับสนุนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จำนวน 267 คน ตัดออกไป 21 เสียง เพื่อไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย มีอิสระทางการเมืองมากยิ่งขึ้น

2.) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็สุ่มเสี่ยงกับสภาล่มบ่อยครั้งมากขึ้น เพราะจำนวน ส.ส. 21 คน ถ้าหากไม่เข้าร่วมประชุม ก็จะทำให้สภาล่มได้อย่างง่ายดาย เพราะโดยปกติ ส.ส. ของพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลขาดหายเป็นประจำ

3.) กฎหมายสำคัญของรัฐบาล ที่จะเข้าสู่การพิจารณา ของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถ้าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส. กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส โอกาสจะไม่ผ่านมติสูงมาก เมื่อกฎหมายสำคัญของรัฐบาลถูกตีตก รัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง คือ ไม่ยุบสภา ก็ลาออก

สมุทรปราการ - สุดปัง!! ‘ดร.ยงยุทธ’ สส.พลังประชารัฐ ประธานตัดริบบิ้น เปิด ตรอ.สาขา 8 ร่วมแสดงความยินดีกับครอบครัวจิตต์สงวน

ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานตัดริบบิ้นร่วมแสดงความยินดีกับทางด้าน พ.ต.อ.สาโรช จิตต์สงวน ร.ต.ต.หญิงพวงผกา จิตต์สงวน และครอบครัวจิตต์สงวน เนื่องในโอกาสทำบุญเปิดร้านตรวจสภาพรถ มังกร-หนามแดง (สาขา 8) ตั้งอยู่ติดริมถนนเทพารักษ์ เยื้องกับ รพ.สินแพทย์  อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยพิธีเปิดในครั้งนี้มีเพื่อนข้าราชการ รวมทั้งผู้ประกอบการร่วมในพิธีและร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก แบบ New Normal

โดย พิธีในช่วงเช้าวันนี้ทางครอบครัว พ.ต.อ.สาโรช จิตต์สงวน พร้อมด้วย ร.ต.ต.หญิงพวงผกา จิตต์สงวน ถือฤกษ์ดีประกอบพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป จากวัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม. โดยมี ดร.ยงยุทธสุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทั้ง แขกผู้มีเกียรติร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ พระสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับทางร้านและทางครอบครัวจิตต์สงวน อีกด้วย

'กนก' ลั่น!! พี่ใหญ่ต้องรู้สึก ครึ่งเดือนพ่าย 3 หน ชี้!! ทุกหนลงไปช่วยหาเสียง แต่ไร้พลัง!! 

วันที่ 31 มกราคม 2565 นายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page ระบุว่า... 

พี่ใหญ่ต้องรู้สึก! ครึ่งเดือนพ่าย 3 หน ทุกหนลงไปช่วยหาเสียง แต่ไร้พลังด้วยแป้งเอฟเฟกต์ ไปร่วมเล่นละครกับหอกข้างแคร่ แฟนคลับลงโทษ ถูกต้อนเข้ามุมอับแล้วลุง


ที่มา : https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=493796862115165&id=100044545655669
https://www.naewna.com/politic/632204
 

'บิ๊กป้อม' ย้ำ!! ไม่ทิ้งพรรคพลังประชารัฐ การันตีชู 'บิ๊กตู่' แคนดิเดตนายกฯ

"บิ๊กป้อม" ย้ำไม่ทิ้ง พปชร. การันตีชู "บิ๊กตู่" แคนดิเดตนายกฯ ไม่ไปไหน ยันไม่แย่งเก้าอี้ "มท.1" จาก "บิ๊กป๊อก" น้องตัวเอง เลี่ยงตอบ "เศรษฐกิจไทย-รวมไทยสร้างชาติ" เป็นพรรคพันธมิตรกัน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างอารมณ์ดี ถึงสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่า ไม่มีอะไร ก็บอกแล้วทุกครั้ง มีแต่สื่อไปเขียนกันเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้สบายใจขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สบายใจทุกที เมื่อถามว่า ที่ระบุจะมีคนมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเพิ่มขึ้น ตอนนี้มีใครบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่บอก เอาไว้ใกล้ๆ เวลาก่อน เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจจะได้ ส.ส. 150 เสียง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปตามที่ประกาศไว้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็คิดไว้อย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงการขอร้อง ส.ส. ในที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐให้เข้าร่วมประชุมสภาฯ จะทำให้ทิศทางการประชุมสภาฯ หลังจากนี้ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรียบร้อย ความจริง ส.ส. พรรคพลังประชารัฐก็เข้าประชุมกว่า 80 คนทุกครั้ง แต่ก็ขอร้องพรรคอื่นๆ ด้วยให้เข้าร่วมประชุม

เมื่อถามว่า ยืนยันจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐไม่ไปไหนใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า "ไม่ไปไหน ไม่ไปไหน มีแต่พวกสื่อจะไล่ผมให้ไป และขอยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ"

เมื่อถามว่า คนนอกเริ่มมองว่าพรรคพลังประชารัฐกำลังจะแตกแล้ว พล.อ.ประวิตร ยิ้ม พร้อมกับกล่าวว่า จะแตกอะไรเล่า จะแตกได้อย่างไรก็ตนยังอยู่ ทุกคนก็อยู่กันหลายคน ทั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คลัง ในฐานะรักษาการเลขาฯ พรรค, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ก็ยังอยู่กันทั้งนั้น ยืนยันพรรคยังรักกันเหมือนเดิมไม่มีอะไร

“ลุงป้อม” ไม่สน คนพปชร.ย้ายซบพรรคอื่น ลั่น ช่วยค้ำรัฐบาลพอ ปัด เลือดไหลจากพรรค โว คนแห่เข้าพปชร.ครึ่งร้อยไม่พูด 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ว่า ก็ดี ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาอยากจะไปอยู่ที่ไหนก็เรื่องของเขา ทำงานให้ประชาชนอยู่ที่ไหนก็ได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้สอบถามเหตุผลของทั้งสองคนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะต้องถามด้วยหรือ เขาไปอยู่พรรคร่วมรัฐบาล จะไปอยู่ไหนก็ได้ ไม่มีอะไรหรอก เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพรรคเศรษฐกิจไทย ถึงจุดยืนทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาสนับสนุนรัฐบาล ก่อนหน้านี้ที่โหวตสวน ก็มีแค่เรื่องเดียวคือเรื่องสุรา เพราะเขาต้องการช่วยประชาชน จึงให้นำกฎหมายกลับมาที่รัฐบาลก่อน 

‘ไพศาล’ ฟันฉับ! พปชร. หนุน ‘สกลธี’ ลงสู้ศึกเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. เต็มร้อย

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า พปชร. สนับสนุนคุณสกลธี ในการสมัครผู้ว่ากทม. เต็มร้อย อัศวินขาลอย

สกลธี นี่แหละลูกเลิฟตัวจริงของลุงป้อม เป็นบุตรชายของพลเอกวินัย อดีตเลขาธิการสมช. ทีมงานความมั่นคงคู่ใจของลุงจิ๋ว ซึ่งคุณโทนี่พยายามจะปลดจากตำแหน่งถึง 3 ครั้ง แต่ได้ลุงจิ๋วขวางไว้ จึงดำรงตำแหน่งได้ตลอดรอดฝั่ง และ พลเอกวินัยก็คือ ผู้เป็นกาวใจ ระหว่างลุงป้อมกับบิ๊กบัง และทำให้บิ๊กบังใส่ชื่อ ทั้งลุงป้อม และ ท่านพัชรวาทเป็นสนช.

คนรุ่นใหม่ มุ่งมั่นทำงาน! ‘พลังประชารัฐ’ เปิดตัว ‘3 ผู้ท้าชิง’ ‘เก้าอี้ ส.ก.’ ย่านฝั่งธนบุรี!

(19 มี.ค. 65) นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กรุงเทพ ในฐานะหัวหน้าภาค กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. โซนกรุงธนเหนือ "คนรุ่นใหม่ มุ่งมั่นทำงาน" ประกอบด้วย นายพีรพัทธ์ ศรีสิงห์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตธนบุรี นายอาชวิน สีตบุตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตคลองสาน และน.ส.ภัณฑ์ธิรา ณิชยสุรีย์กุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่

นายจักรพันธ์ กล่าวว่า ซึ่งทั้ง 3 คน มีความพร้อมที่จะทำงานให้กับประชาชนในพื้นที่ ด้วยผลงานที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ผ่านงานทางด้านภาคเอกชนและภาคสังคม มีความพร้อมเข้ามาพัฒนาพื้นที่ฝั่งธนบุรี โดยมีนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กรุงเทพ ของพรรค พร้อมแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบด้วย นายชลพฤกษ วงศ์อรุณนิยม เขตทวีวัฒนา นายผาด นิสัยชล เขตบางกอกน้อย นายชูชาติ ยิ้มงาม เขตภาษีเจริญ นายสิทธิโชค คล้อยแสงอาทิตย์ เขตตลิ่งชัน นายเริง ม่วงชุ่ม เขตบางแค 

ทั้งนี้ ทางพรรคได้เปิดให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาททางการเมือง โดยผู้สมัครล้วนเป็นคนหนุ่ม คนสาว คนรุ่นใหม่ โปรไฟล์ดี เต็มไปด้วยความรู้ ความสามารถ และที่สำคัญพวกเขามีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะเข้ามาทำงาน เพื่อพัฒนากรุงเทพมหานคร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top