Saturday, 24 May 2025
พลังประชารัฐ

‘สกลธี’ จับมือ ‘นฤมล’ นำทัพ กทม. พปชร. 33 เขต สมัครเลือกตั้ง ลั่น!! กระแสดี ไม่กลัวพรรคอื่น ย้ำอย่างน้อยบวกลบไม่ต่ำกว่าเดิม

‘สกลธี-นฤมล’ นําทีม กทม. พปชร. 33 เขต สมัครเลือกตั้ง ลั่นกระแสดี ไม่กลัวพรรคไหน ยํ้าเป้าบวกลบไม่ตํ่ากว่าเดิม

(3 เม.ย.66) – เมื่อเวลา 06.45 น. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ กทม. และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. นํากลุ่มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรค พปชร. ทั้ง 33 เขต เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. โดยรวมตัวกันเพื่อรอเวลาที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเปิดให้รับสมัคร รวมถึงรอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เดินทางมาถึง

จากนั้น นายสกลธี ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งเป้า ส.ส.กทม.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า บวกลบให้ได้อย่างน้อยเท่าเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่อยากได้เท่าเดิม แต่ปัจจุบัน ส.ส. เก่าเหลือคนเดียว จะประสบความสำเร็จได้อย่างไร นายสกลธี กล่าวว่า ครั้งที่แล้วในสนาม กทม. ส.ส.ทั้ง 12 คนของ พปชร. เป็นคนใหม่ทั้งหมด ในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง คน กทม.จะกาคนใหม่เยอะ ไม่กังวลว่าจะเป็น ส.ส.เก่ากี่คน อยู่ที่ว่าพรรคเราจะทำตามแผนหาเสียงที่วางไว้ได้หรือไม่

เมื่อถามถึงกระแส พล.อ.ประวิตร ในพื้นที่ กทม. นายสกลธี กล่าวว่า ก็ดี เสียงตอบรับประชาชนก็ดี

เมื่อถามว่า เวลาไปลงพื้นที่กระแสตอบรับดีขึ้นหรือไม่ หรือเท่าเดิม นายสกลธี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน ได้ลงพื้นที่บางคอแหลม กระแสดีมาก ตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลายคนที่เลือกตนยังคงยึดมั่นในพรรค

เมื่อถามย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้กลัวพรรคเพื่อไทย (พท.) หรือพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสกลธี กล่าวว่า ไม่กลัวเลย ตอนนี้ทุกคนเท่ากัน ไปวัดกันช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง


ที่มา : https://www.thaipost.net/politics-news/353408/

‘บิ๊กตู่’ ย้ำ!! ไม่ได้มอง ‘บิ๊กป้อม’ เป็นคู่แข่ง ปัด!! รวมกันวันหน้า วันนี้แยกมาก็คือแยก

‘ประยุทธ์’ แจงปมไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ หวังส่งไม้ต่อให้ "พีระพันธุ์" หลังได้นั่งนายกฯ อีก 2 ปี ปัดมอง ‘บิ๊กป้อม’ เป็นคู่แข่ง แค่แยกมาอยู่คนละพรรค โอดบังคับใครไม่ได้ แค่พรรคตัวเองก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เตือนคนแซะต้นเหตุทำสภาล่ม เป็นผู้ใหญ่แล้วพูดจาให้ระวัง

(3 เม.ย.66) อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพ (ไทย-ญี่ปุ่น) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการลงสนามการเมืองอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก ว่า ก็ดี มาครั้งแรกก็เรียบร้อยดี ไม่มีใครทะเลาะกัน ไม่มีใครใช้ความรุนแรงต่อกัน แถมอยู่คนละพรรคก็มาทักทายกัน สวัสดีกัน ทุกคนก็คือคนไทยด้วยกัน บางคนก็คุ้นเคยกัน ก่อนหน้านี้ตนก็รู้จักกับแกนนำพรรคหลายคน คุ้นเคยกัน 

อย่างไรก็ตาม หลายอย่างเปลี่ยนไป เพราะอยู่กันคนละพรรคแต่ความผูกพันส่วนตัวไม่มีปัญหา ความเป็นเพื่อน ความคุ้นเคย การทำงานร่วมกัน แต่การที่เขาจะเลือกพรรคไหนก็เป็นเรื่องของเขา ก็เพียงแต่ขอว่าให้ทุกคนช่วยกันทำเพื่อบ้านเมือง ถ้าหวังแต่เพียงหาเสียง สมมติว่าได้จากนโยบายที่หาเสียง แล้วทำไม่ได้จะตอบประชาชนว่ายังไง บางอย่างที่ตนกลัวว่ามันอันตรายพอสมควร เช่น การใช้จ่ายงบประมาณ ถ้าทำตรงนี้ต้องบอกว่ารายได้จะเอามาจากไหน บางนโยบายล่อไป 9 แสนล้านบาท จะเอามาจากไหนนี่คือสิ่งที่อันตรายและต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ต้องดูว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร 

เมื่อถามว่า ตอนที่นั่งติดกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดคุยกันไป สนุกสนานกันไป เมื่อถามย้ำว่า วันนี้มาในฐานะคู่แข่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นแข่งอะไรกับใครเลย เมื่อกี้นั่งคุยกัน ก็แหย่กันไปแหย่กันมา ท่านก็ทำของท่านตนก็ทำของตน แต่ให้รู้ว่าวันนี้เราอยู่คนละพรรคแล้ว ส่วนจะคิดว่าจะรวมกันวันหน้าหรือเปล่า ตนก็แจ้งแล้วว่าตนแยกมา แยกก็คือแยก ไม่อย่างนั้นตนจะมานั่งสัมภาษณ์ตรงนี้ทำไม ก็ให้ พล.อ.ประวิตรสัมภาษณ์ไปแล้ว พรรคตนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว

‘ชัยวุฒิ’ เผย เสียงตอบรับ ‘พปชร.’ ดีเยี่ยม ประชาชนคุ้นเคยกันดี - ฐานแฟนคลับแน่น

(3 เม.ย.66) ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ใน กทม. ว่าเท่าที่ไปช่วยผู้สมัคร เสียงตอบรับดีมาก ซึ่งพรรค พปชร. เป็นภาพที่เคยได้รับการเลือกตั้งใน กทม. มาแล้วรอบหนึ่ง ประชาชนรู้จักคุ้นเคยอยู่แล้ว จึงเชื่อว่ายังมีแฟนคลับอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.เท่าเดิมใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นเป้าหมาย เราไม่อยากให้น้อยกว่าเดิม จะพยายามทำให้ดีที่สุด 

เมื่อถามว่า วันนี้มีกลุ่มทะลุวังมาเคลื่อนไหวทางการเมือง นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คิดว่ากลุ่มนี้พยายามเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ตนเคยบอกแล้วว่าการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 สุ่มเสี่ยงที่จะขัดรัฐธรรมนูญ และผิดกฎหมายได้ จึงอยากให้ระมัดระวัง 

เมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าจะเกิดความวุ่นวาย เหมือนกรณีเวทีปราศรัยที่สะพานพระราม 8 หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่วุ่นวายหรอก คนไม่กี่คน ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ คนในประเทศส่วนใหญ่เขาไม่เดือดร้อนเรื่องนี้หรอก ส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหากับมาตรา 112 เขาไม่อยากแก้กันหรอก เป็นแค่ความต้องการของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งตนเชื่อว่ามีการยุยงปลุกปั่น

‘คิง ณภัทร’ เผย ตั้งใจยื่นสมัคร ส.ส. 5 เม.ย. นี้ หลังหลายคนกังวลไม่มีชื่อสมัคร ส.ส. วันแรก

(3 เม.ย.66) นายณภัทร ชุ่มจิตตรี ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขต 1 ประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกมาโพสต์คลิปชี้แจงประเด็นที่ไม่มีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ในวันที่ 3 เมษายน 2566 โดยระบุว่า…

“สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ผมนายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือ คิง ก่อนบ่าย วันนี้จะมาชี้แจงประเด็นที่พี่น้องประชาชนหลายคนสงสัยว่า ทำไมผมไม่มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งวันนี้เป็นวันเปิดรับสมัครเป็นวันแรก เนื่องด้วยผมตั้งใจไว้ว่าจะไปสมัครในวันพุธ ที่ 5 เมษายน 2566

'กูรูใหญ่' ฟันธง!! พปชร. หัวหอกขั้วที่ 3 ตั้งรัฐบาล ได้เวลาการเมืองยุคใหม่ที่เปิดเผยตรงไปตรงมา

(3 เม.ย.66) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองยุคใหม่ที่เปิดเผยตรงไปตรงมา สง่างาม!!!

1.ในวาระวันสมัครรับเลือกตั้ง2566 วันแรก ลุงป้อม ไสช้างออกมากลางสมรภูมิแล้ว ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดย “จะเป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน” จึงสวม 3 บท คือ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบปาร์ตี้ลิสต์ และเป็นแคนดิเดตนายกลำดับ 1 ของ พปชร.

2.ในขณะเดียวกันก็เป็นแกนพรรคขั้วที่สาม ซึ่งขณะนี้มี 5 พรรค เตรียมการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งไปพร้อมกัน และจัดขบวน 6 สาย ประสาน ส.ว. ประกันให้ได้เสียงเกิน 376 ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

3.ในการฟอร์มรัฐบาลจะให้มีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเกิน 300 เสียง ซึ่งอาจมี 3 พรรคเป็นฝ่ายค้าน 150 เสียง เพื่อความงดงามในระบอบประชาธิปไตย ใช้ยุทธศาสตร์ก้าวข้ามความขัดแย้งเริ่มต้นใหม่ประเทศไทย และสามัคคีประชาชาติไทย ทำสงครามกับความยากจน

‘บิ๊กป้อม’ นำทัพลูกทีม จับเบอร์ปาร์ตี้ลิสต์ ลั่น!! ขอสัก 20 เก้าอี้ พร้อมกำหมัดข้างขวา สู้ๆ

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมแกนนำพรรค เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดย พล.อ.ประวิตร ชูมือสองข้างทักทายกองเชียร์และสื่อมวลชล จากนั้นได้เดินขึ้นบันไดมายังหน้าอาคารไอราวัตพัฒนา พร้อมกำหมัดข้างขวาขึ้น เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าสู้ๆ

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อครั้งแรกเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่วันนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นนักการเมืองก็ต้องเข้มแข็ง เราต้องทำตามหน้าที่

‘บิ๊กป้อม’ พอใจเบอร์ 37 ชี้ เป็นเลขมงคล สอดคล้อง 3 นโยบายพรรค-บัตรประชารัฐ 700 บ.

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์หลังจับสลากหมายเลขพรรค ได้เลข 37 ว่า 37 ถือเป็นเลขดี บวกกันแล้วได้ 10 และไม่กังวลว่าจะเป็นเลขที่อยู่ลึกแต่ก็จำง่าย และตนพอใจ ขอให้ประชาชนเลือกหมายเลข 37 เพราะ 37 เป็นเลขดี หมายถึง 3 นโยบายหลัก และบัตรประชารัฐ 700 บาท

ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจะได้ ส.ส. 20 ที่นั่ง ตามเป้าหมายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เหมือนเดิม 

เมื่อถามว่า จะไปถึง 37 ที่นั่งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า “เอาให้ได้เท่าเดิมก่อน”

'พปชร.' เด้งรับ นโยบาย 5 ด้านจาก ‘P-Move’ ยัน!! พร้อมสานต่อให้เป็นนโยบายพรรค 

(5 เม.ย.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P- MOVE) เดินทางมายื่นหนังสือเสนอนโยบายต่อพรรคการเมือง 5 ด้าน ได้แก่ 1.ที่ดินและที่อยู่อาศัย 2.เสรีภาพ กระบวนการยุติธรรม 3.สิทธิ สถานะ และชาติพันธุ์ 4.รัฐสวัสดิการ และการกระจายอำนาจ และ 5.โครงการพัฒนาของรัฐ และสาธารณูปโภค เพื่อให้ พปชร. นำไปพิจารณากำหนดเป็นนโยบายพรรค

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการยื่นหนังสือ บริเวณด้านหน้าพรรค พปชร. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธินมาคอยดูแลความปลอดภัย เนื่องจากจำนวนผู้ยื่นหนังสือมากถึง 50 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความกังวลว่าจะเกิดความชุลมุน ทําให้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ขณะที่ประชาชนกลุ่ม P - Move ได้โบกธงสัญลักษณ์ของกลุ่มเครือข่าย พร้อมชูป้ายข้อความ อาทิ ลบล้างและปฏิรูประบบบริหารจัดการนโยบาย กฎหมาย เกี่ยวกับฐานทรัพยากร, คนไทย ไม่ไร้ สิทธิ สถานะ, ที่ดิน เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความเป็นธรรม เป็นต้น และยังมีป้ายข้อความที่ระบุข้อเรียกร้อง และนโยบายที่ต้องการเสนอต่อพรรคการเมือง

ต่อมา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่ม P - MOVE ตามเวลานัดหมาย โดยนายไพบูลย์กล่าวว่า ได้อ่านข้อเสนอนโยบายทั้ง 5 ด้านครบถ้วนแล้ว ทาง พปชร.มีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอของกลุ่ม P- MOVE และจะนำข้อเสนอนโยบายทั้ง 5 ด้านที่เสนอมา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของ พปชร.ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบขณะนี้ เป็นปัญหาในเรื่องที่ดิน ทำกิน และปัญหาสิทธิ สถานะของชาติพันธุ์

‘วิรัช’ เชื่อ!! เลขพรรคเบอร์ 37 คนจำได้ เตรียมเดินสายหาเสียงทุกภาค ขอคะแนนเสียงจาก ปชช.

(5 เม.ย.66) นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจกรรมและปราศรัยหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลังจากพรรคได้หมายเลขพรรค 37 สำหรับหาเสียงของส.ส.บัญชีรายชื่อ แม้จะเลขสองหลักแต่เชื่อว่าประชาชนจะจำได้ จากนี้จะเริ่มเดินสายหาเสียงในแต่ละภาค โดยจะมีทั้งหัวหน้าพรรค และหัวหน้าภาค ที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ ลงไปช่วยกันเดินสายปราศรัยหาเสียงเพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน

‘กูรูศาสตร์เขมร’ เผย!! เลข 37 ถูกโฉลก ‘บิ๊กป้อม’ ชี้!! รบแบบไม่เหนื่อย ชนะอุปสรรคทุกสิ่ง

(5 เม.ย.66) อาจารย์เอ๋ รดา ทิพยเนตร ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ พยากรณ์เขมร หรือที่รู้จักกันในนามกูรูตารางสีเสื้อเเละตัวเลข เปิดเผยว่า การจับฉลากบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง วันนี้น่าสนใจ แต่ขอไม่พูดถึงพรรคอื่น ตนขอพูดถึงคนที่ได้เลขที่ปังเเละถูกโฉลกกับดวงของตนเองแบบที่เรียกว่า เซอร์ไพรส์หนักมาก ก็คือ ดวงของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะท่านเป็นคนเดียวในวันนี้ที่จับได้โฉลกเลขศาสตร์ตรงตามดวงดาวประจำวันเกิดของตัวเอง คือ วันเสาร์ ที่ 11 สิงหาคม พศ. 2488 ปีระกา ซึ่งคนเกิดดาวเสาร์ ดวงดาววันเดือนปีเกิด เป็นเลขโชคดี ของพลเอก ประวิตร คือ เลข 7 และ เลข 7 คือดาวเสาร์ เเละวันจับฉลากคืออังคารเป็นกำลัง 3 เป็นวันดี ของลุงป้อมการจับได้ 3 เเละ 7 บวกกัน เป็น 10 ก็คือกำลังของพระเสาร์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top