Thursday, 2 May 2024
พรรคเพื่อไทย

'เพื่อไทย-เชียงใหม่' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 10 คนใน 11 เขตและลำพูนอีก 2 เขตเลือกตั้ง ประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.

(9 ก.ค.65) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงใหม่ เขต 1 ถ.ลอยเคราะห์ อ.เมืองเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยนำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต 5 อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและส.ส.เชียงใหม่เขต 6 และนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่เขต 3 ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งส.ส.ที่จะมีขึ้นในครั้งต่อไป

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ประกาศตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบนไปแล้วจำนวน 31 ที่นั่ง โดยได้ทำการคัดเลือกกลั่นกรองแล้ว 30 ที่นั่งซึ่งยังมีบางส่วนที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา โดยการเลือกตั้งส.ส.ในครั้งต่อไป พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครลงให้ครบทั้ง 400 เขต

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเป็นภาคแรกที่จุดประกายในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ซึ่งวันนี้เป็นการเปิดตัวของจังหวัดเชียงใหม่โดยมีผู้ที่จะลงสมัครครบตามที่ กกต.กำหนดแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเชียงใหม่จะมีส.ส.ได้ 11 ที่นั่ง และพรรคเพื่อไทยได้กำหนดตัวผู้ที่จะลงสมัครของเชียงใหม่แล้ว 10 ที่นั่ง อีก 1 ที่นั่งกำลังกลั่นกรองเนื่องจากมีผู้สมัครเข้ามาหลายคน และของจังหวัดลำพูนอีก 2 ที่นั่ง

“พรรคเพื่อไทยพิจารณาหลายขั้นตอน ดูทั้งการปฏิบัติตัวของผู้สมัครด้วย ซึ่งเราก็มั่นใจว่าจะไดรับการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่เพื่อสู่เป้าหมายที่ประกาศไว้ คือแลนด์สไลด์ ชนะถล่มทลาย ทุกสิ่งที่เพื่อไทยประกาศไว้จะต้องเกิดขึ้นจริง และเพื่อไทยเองไม่มีปัญหาไม่ว่าจะคำนวณสูตร 500 หรือ 100 หาร เพื่อไทยยอมรับได้แต่ก็จะต้องพิจารณาอีกครั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญ” นายสมพงษ์ กล่าว

ด้านนายวิทยา ทรงคำ ส.ส.เชียงใหม่เขต 4 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับรายชื่อ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่มีทั้งหน้าเก่าและคนรุ่นใหม่ โดย เขต 1 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่, เขต 2 นายณัฎฐ์พัฒน์ รัฐไผท, เขต 3 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์, เขต 4 นายวิทยา ทรงคำ, เขต 5 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, เขต 6 นายบรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ เลขานุการส่วนตัว นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์, เขต 7 นายนิธิกร วุฒินันชัย, เขต 8 นายสุรพล เกียรติไชยากร,เขต 9 น.ส.ศรีโสภา โกฎคำลือ, เขต 10 นายโกวิทย์ พิริยะอนันต์ อดีต ส.อบจ.เชียงใหม่ เขตอ.เมือง ซึ่งจะลงในเขตเลือกตั้ง อ.เมืองและสารภี ส่วนเขต 11 ยังรอการพิจารณา ประกาศรายชื่อ อีก 1 เขต ผู้สมัครจังหวัดลำพูน คือนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูนเขต 1 และนายรังสรรค์ มณีรัตน์ ลำพูนเขต 2

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ซึ่งกระบวนการคัดสรรผู้สมัครที่มีคนประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งมากกว่า 1 คนใน 1 เขตเลือกตั้งนั้นได้ผ่านการกลั่นกรองพอควร

พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจเต็ม 100 โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเพราะเราอยู่กันแบบครอบครัวและได้รับความเอ็นดูจากพี่น้องประชาชน และมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้จะได้รับการเลือกตั้งแบบยกจังหวัดอีกครั้ง ซึ่งวันนี้กระแสตอบรับและการแข่งขันจะรุนแรงของฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายสืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่เพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองหลักที่ต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ทำพรรคให้ทันสมัยมากขึ้น มีการปรับโครงสร้างรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม 

โดยผู้สมัครส.ส.ของพรรคจะเป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น แต่คนเก่าก็ยังเป็นส่วนสำคัญเพื่อให้เกิดดุลยภาค จึงมีทั้งว่าที่ผู้สมัครหน้าเก่าและหน้าใหม่ โดยหน้าใหม่ก็จะเป็นทายาทที่ทำงานการเมืองกับรุ่นพ่อมาตลอด ส่วนเรื่องบัตรเลือกตั้งแม้พรรคเพื่อไทยจะต่อสู้ให้มีการเลือกตั้งแบบบัตรเดียว เบอร์เดียวแต่ก็พ่ายเสียงของรัฐสภาที่ส.ว.ซึ่งสนับสนุนให้เลือกแบบ 2 ใบ แม้จะทำให้ประชาชนสับสนแต่สำหรับเพื่อไทยไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใดมั่นใจว่าเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง เพราะผู้สมัครทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พรรคเพื่อไทย ได้เปิดตัวส.ส.ภาคเหนือบน ไปแล้ว ที่พรรคเพื่อไทย วันนี้เราต้องการแสดงความพร้อมว่าของภาคเหนือบนของเรา มีความพร้อมอย่างยิ่งเรามีการทำงานในส่วนของนโยบายเฉพาะพื้นที่ เฉพาะจังหวัด เฉพาะเขตอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในส่วนของภาคอื่นๆ ที่กำลังจะตามมา

‘เพื่อไทย’ เขี่ย ‘เก่ง’ พ้นผู้สมัครส.ส.ดอนเมือง ชี้!! พฤติกรรมเป็นเหตุ มีหลักฐานพิสูจน์ 

‘เลขาเพื่อไทย’ แจง เหตุประกาศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ดอนเมืองแทน ‘เก่ง การุณ’ ย้ำ พิจารณาจากพฤติกรรมเจ้าตัวประกอบหลักฐาน ยัน ทำตามหลักการสามารถชี้แจงประชาชนได้

(12 ก.ค. 65) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการประกาศว่าที่ตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมืองของพรรคเพื่อไทย แทนนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ว่า... 

การเตรียมผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมืองของพรรคเพื่อไทยรอบนี้ พรรคเพื่อไทยพิจารณาจากหลายปัจจัย โดย…

1.) พฤติกรรมนายการุณ ซึ่งเป็น ส.ส.เดิมของพรรคกว่าครึ่งปีที่ผ่านมาไม่ได้เข้าร่วมประชุม หรือร่วมกิจกรรมใดของพรรคเพื่อไทยเลย 

และ 2.) มีพฤติกรรมเป็นที่ประจักษ์ว่าไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองพรรคอื่น โดยมีหลักฐานพิสูจน์ พรรคเพื่อไทยจึงมีความจำเป็นต้องสรรหาตัวแทนประจำเขตดังกล่าวแทนนายการุณ 

‘ปชป.’ ยันทำงานในฐานะพรรคร่วมตามภาระหน้าที่ ไม่เหมือนเห็บเหาที่สูบเลือดประเทศหมดแล้วโดดหนี

โฆษก ปชป. แย้ง ‘ธรรมนัส’ อย่าเหมารวมพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมลำปาง เพราะรัฐบาลเสียงตก ชี้ต้องมองให้หลายมิติ พร้อมซัดกลับ ‘สุทิน’ เห็บเหาที่สูบเลือดประเทศหมดแล้วโดดหนีก็มี

(15 ก.ค. 65) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ออกมาระบุ ที่พรรคเศรษฐกิจไทย แพ้การเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เพราะประชาชนภาคเหนือตอนบนไม่เอารัฐบาลว่าเป็นการวิเคราะห์การเมืองในแนวของ ร.อ.ธรรมนัส ที่อาจจะเหมารวมผลการเลือกตั้งว่าพี่น้องประชาชนในภาคเหนือไม่เอารัฐบาล ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วมีหลายมิติที่ควรจะพูดถึงให้รอบด้าน แต่หากการวิเคราะห์ดังกล่าวเพียงเพื่อเป็นเหตุผลในการถอนตัวทิ้งรัฐบาลดูแล้วก็จะไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล เชื่อว่านักการเมืองมืออาชีพมองสถานการณ์การเมืองออกในช่วงสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องเดินหน้าทำงานให้กับประชาชน หากประเทศมีปัญหาใด ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องร่วมมือกันหาทางแก้ไขฟันฝ่าให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น การร่วมรัฐบาลเราตระหนักในหน้าที่ที่เราต้องทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและส่วนรวมให้ได้มากที่สุดตามเงื่อนไขที่ได้มีข้อตกลงไว้เมื่อครั้งร่วมรัฐบาล ไม่ได้มีความคิดจะไปแก่งแย่งหรือแทงข้างหลังใครเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ส่วนตน

นายราเมศ กล่าวต่อว่า สำหรับอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยืนยันมาตลอดว่าเป็นกระบวนการตรวจสอบตามระบบประชาธิปไตย ซึ่งมีการเปิดอภิปรายกันทุกปี ไม่มีความกังวลใจใดๆ พร้อมชี้แจงทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา และถ้าหากรัฐมนตรีของพรรคมีการทุจริต ก็ยินดีให้มีการตรวจสอบอย่างเต็มที่ เชื่อว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะชี้แจง ในส่วนของพรรค ทั้งในบทบาทฝ่ายบริหารที่ได้ร่วมรัฐบาลรัฐมนตรีของพรรคก็จะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส.ทุกคนก็เช่นกันที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องประชาชนทำงานเพื่อส่วนรวมให้เต็มที่

‘เพื่อไทย’ เชือด ‘จุรินทร์’ ตามจิกทุจริตถุงมือยางภาคสอง

‘เพื่อไทย’ เชือด ‘จุรินทร์’ ตามจิกทุจริตถุงมือยางภาคสอง ทอดเวลาเปิดทางให้โยกย้าย- ฟอกเงิน เปิดเอกสารเส้นทางเงิน2 พันล้าน คาดเงินวกกลับกระทรวงริมแม่น้ำเจ้าพระยา อัด ‘บิ๊กตู่ง เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ กลัวเก้าอี้นายกฯสะเทือน จ่อนำข้อมูลใหม่ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ

(20 ก.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายฯ ถึงนายจุรินทร์ในข้อหาการทุจริตถุงมือยางภาคสอง โดยพล.อ.ประยุทธ์รู้ถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นอย่างดีในวงเงิน 2,000 ล้านบาท แต่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ จนความเสียหายเกิดขึ้นและปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามเงินกลับคืนมาได้ พล.อ.ประยุทธ์กลับทำตัวกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ปากว่าตาขยิบ รู้ว่านายจุรินทร์มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เกรงใจไม่กล้าปลดออกจากตำแหน่ง เพราะเกรงว่าสถานะนายกฯอาจไม่มั่นคง เพราะเกรงว่านายจุรินทร์จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จึงปล่อยปละละเลยการทุจริตที่เกิดขึ้น นายจุรินทร์มีพฤติกรรมฉ้อฉล ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น สาเหตุเนื่องจากกลุ่มบุคคลทุจริตนั้นเป็นบุคคลใกล้ชิด เป็นบุคคลที่ตนเองแต่งตั้งขึ้นมาโดยไม่อายัดเงินให้ทันต่อเหตุการณ์

อีกทั้งยังมีเจตนาทอดเวลาจนในที่สุดกลุ่มผู้กระทำการทุจริตได้นำเงินที่ได้นั้นไปทำการฟอกเงิน กระจายเงินไปตามบัญชีต่าง ๆ จนไม่สามารถติดตามได้ ซึ่งการอภิปรายฯครั้งนี้มีข้อมูลใหม่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์การฟอกเงิน โดยมีเส้นทางการเงินของบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัดว่ามีการโอนเงินไปให้ใคร องค์การคลังสินค้าได้ทำสัญญาขายถุงมือยาง จำนวน 7 สัญญามูลค่า 186,100 ล้านบาท สร้างข้อมูลอันเป็นเท็จว่ามีการสั่งซื้อจากบริษัท 7 แห่งจำนวนมาก เพื่อต้องการอ้างเหตุว่ามีออเดอร์ โดยจัดซื้อจากบริษัทการ์เดียน โกลฟส์ จำกัดจำนวน 500 ล้านกล่อง กล่องละ 225 บาทมูลค่า 112,500 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับเงินมัดจำไปแล้ว 2,000 ล้านบาทจากองค์การคลังสินค้า แต่องค์การคลังสินค้า ยังไม่ได้รับมอบถุงมือยางแต่อย่างใด และปัจจุบันได้ยกเลิกสัญญาแล้ว

นายประเสริฐ อภิปรายต่อว่า จากการอภิปรายฯ ครั้งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ (18 ก.พ. 64) เห็นได้ชัดว่าการทุจริตเกิดขึ้นจริง เงิน 2,000 ล้านบาทยังติดตามคืนไม่ได้ ผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตยังใช้ชีวิตหรูหรา ใช้นาฬิกายี่ห้อริชาร์ดมิลล์ ซื้อรถแลมโบกินี่ รถบีเอ็มดับบลิว และบ้านใหม่หลายล้านบาท ลอยนวลในสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยตนได้ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 64 ต่อมาป.ป.ช.ได้ทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 64 จำนวน 22 ราย มีการไต่สวนเบื้องต้นเห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวหาว่ามีมูลความผิดจริงจนป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา โดยเฉพาะประธานบอร์ดองค์การคลังสินค้า แต่นายจุรินทร์ไม่สนใจปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อไปจนหมดวาระ และไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวน พฤติกรรมของ นายจุรินทร์ อ้างผอ.องค์การคลังสินค้าว่ามีรายงานให้ตน 4 ครั้ง เพราะกลัวภัยจะมาถึงตัวและเคยตอบในสภาฯว่าตนเองเป็นเพียงบุรุษไปรษณีย์ ตนคิดว่าถ้าเป็นแค่นั้นอย่ามาเป็นรัฐมนตรีเลย แต่กลับปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งที่กฎหมายให้อำนาจ วันนี้ตนมาทวงถามให้นายจุรินทร์ได้ตอบว่าเคยมีหนังสือไปบอร์ดองค์การคลังสินค้าหรือไม่ในเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตที่เกิดขึ้น

'หมอชลน่าน' ชม ฝ่ายค้านทำผลงานได้ดี ฉะ!! รมต. ตอบคำถามแทบไม่ได้เลย

“เมื่อวานนายศักดิ์สยาม ไม่ตอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกๆ ไม่ใช้โอกาสทองในการตอบ ภาพจำขึ้นทุกแพลตฟอร์ม เป็นภาพจำที่ซุกหุ้น ทำนิติกรรมอำพราง ผมว่ารอฟังในศาลได้เลย” 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว 
ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) 
กล่าวเมื่อ 20 ก.ค. 65

(20 ก.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรก ว่าพวกเราฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ดีมาก โดยเฉพาะการจัดอันดับการอภิปรายเมื่อวาน เราเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายและตามยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน นั่นไม่ใช้มวย 5 ยก แต่เป็นไทยไฟต์ชก 3 ยก ดังนั้นยกแรกเราจึงจัดเต็ม ซึ่งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเมื่อวานนี้เป็นของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถือเป็นนั่งร้านที่สำคัญ และเป็นการเรียงลำดับอภิปรายของฝ่ายค้านสอดประสานกัน เหมือนเป็นซีรีส์โดยเฉพาะเรื่องกัญชา หากติดตาม พรรค พท. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคประชาชาติ เห็นว่าทำงานแบบสอดประสานกัน โดยนำแต่ละประเด็น และจุดเด่นของแต่ละคนมานำเสนอได้อย่างดียิ่ง

‘เด็กเพื่อไทย’ ยำ 'บิ๊กตู่' ทำหน้าทะเล้น ประหนึ่งว่าภูมิใจกับการรัฐประหาร

รองโฆษกเพื่อไทยซัดประยุทธ์ภูมิใจที่ทำรัฐประหาร ไม่รู้จักละอาย ไม่แปลกใจทำไมชอบโยงนายเหนือ ทั้งที่เทียบกันไม่ติด แนะเลิกใช้วาทกรรม ควรอยู่ให้คนรักจากไปให้คนคิดถึงดีกว่า

(21 ก.ค. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบกลางสภาผู้แทนราษฎรว่าไม่ได้เป็นคนปฏิวัติ และระบุว่าคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้คือนายกรัฐมนตรีคนเดียว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมก็ยกมือรับในสภา ซ้ำยังทำหน้าทะเล้น ลอยหน้าลอยตา ประหนึ่งว่าภูมิใจกับการรัฐประหารยึดอำนาจมาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ว่าบ่งบอกถึงความไร้ยางอายและไร้วุฒิภาวะ เพราะการรัฐประหารเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั่วโลกไม่ยอมรับ เป็นเรื่องที่น่าอับอายมากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกฯ

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 20 ก.ค. ที่คนในสภาออกมายอมรับว่าเป็นผู้ทำการรัฐประหารและทำการยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว เป็นสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำที่เลวร้ายของประชาชน และเช่นเดียวกับผู้ที่สนับสนุนและออกหน้าแทน พล.องประยุทธ์ คือผู้ที่เห็นดีเห็นงามต่อผู้ที่ทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศนี้”

‘สุทิน’ ซัด พปชร.ไร้จุดยืนสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ หวั่น หากรบ.แพ้เลือกตั้ง อาจใช้กลไกทำให้โมฆะ

‘สุทิน’ ซัด ‘นายกฯ’ มองเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก จวก พปชร.โลเลไร้ จุดยืนสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ หวั่นแค่ป่วนล้มเลือกตั้ง ออกตัวไม่อยากชงตีความปม 8 ปี ‘บิ๊กตู่’ กลัวเป็นตราประทับ

เมื่อเวลา 09.10 น.วันที่ (22 ก.ค. 2565) ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 22 ก.ค.ว่า หากไม่มีอะไรเป็นอุบัติเหตุทางอารมณ์ในสภา จะสามารถอภิปรายปิดได้ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. และเชื่อว่าคงเร็วกว่าทุกครั้ง ไม่ได้อภิปรายไปถึง 23.00 น.เหมือนทุกครั้ง แต่ทุกอย่างสามารถคลาดเคลื่อนได้ ส่วนภาพรวมการอภิปรายเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ถือว่าภาพรวมเป็นไปด้วยดี เราพอใจ เพราะมีเนื้อหาที่เข้มข้น มีการทำงานเป็นทีมที่ชัดเจน มีประเด็นใหม่ ๆ ขึ้นมา เช่น เรื่องการบรรจุลูกคนใกล้ชิดให้ได้เป็นข้าราชการตำรวจ ซึ่งเราคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่และมาจากคนที่อยู่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรานำเสนอว่าฝ่ายการเมืองตอบแทนบุญคุณกันโดยไม่เกรงใจประชาชน ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกชาวบ้าน แต่เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมถึงคนอื่น ๆ ไม่ชี้แจงเลย ถือเป็นประเด็นที่ค้างคาใจประชาชน นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเด็น อย่างเรื่องการใช้งบกลางไม่สอดคล้องวัตถุประสงค์ เรื่องเหมืองอัครา เรื่องเครื่องบินรุกล้ำน่านฟ้าประเทศ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่มาก แต่นายกฯกลับตอบให้เป็นเรื่องเล็ก ตนจะอภิปรายสรุปอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลเรื่องงูเห่าจะปรากฎตัวเพิ่มเติมในการโหวตอีกหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่กังวล คิดว่าคงมีประมาณเดิมที่รู้กันอยู่ ซึ่งมีทั้งขาออกขาเข้า ตนไม่อยากให้ความสนใจมือในสภา แต่อยากให้คำนึงถึงศรัทธาและความรู้สึกของคนข้างนอก และประชาชนได้ประโยชน์จากการอภิปรายหรือไม่

‘ทิพานัน’ แนะเพื่อไทย ‘มูฟออน’ ได้แล้ว อย่าทำตัวเป็น ‘วัสสการพราหมณ์ยุยง’

‘ทิพานัน’ ย้อนแสบเพื่อไทย ‘มูฟออน’ จากศึกซักฟอกได้แล้ว อย่าทำตัวเป็น ‘วัสสการพราหมณ์ยุยง’ ยุให้พรรคพลังประชารัฐแตกแยก ยันสภาฯ ไว้วางใจ ‘บิ๊กป๊อก’ ทำงานต่อ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนพ.ชลน่าน ศรีแห้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความเห็นกรณีส.ส.พรรคประชารัฐโหวตคะแนนไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 6 เสียงเป็นการส่งสัญญาณเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า... 

การอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านพ้นไปแล้ว โดยที่ไม่สามารถล้มรัฐบาลและไม่ได้มีประเด็นใดที่หวือหวาอย่างที่โฆษณาชวนเชื่อ ในขณะที่รัฐบาลยังมีเสถียรภาพมั่นคง เดินหน้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนต่อไป จึงไม่ควรมโน หรือสร้างประเด็นยุยงให้เกิดแรงกระเพื่อมในรัฐบาล และในพรรคพลังประชารัฐ เพราะผลคะแนนโหวตไว้วางใจของ พล.อ.อนุพงษ์ เกินกึ่งหนึ่ง ถือว่าสอบผ่าน ได้รับฉันทามติจากสภาฯ ถือว่าได้รับความไว้วางใจจากตัวแทนพี่น้องประชาชนให้ทำงานต่อ

‘จิราพร’ ห่วง ครม. ดันไทยเข้า CPTPP ทั้งที่ไม่มีความพร้อม ไร้ข้อสรุปกับทุกฝ่าย

นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรุ่งนี้ (27 ก.ค. 65) คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เตรียมชงให้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ไทยเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ว่า นับแต่วันที่ กนศ. ซึ่งได้รับมอบหมายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้คำมั่นสัญญากับภาคประชาสังคมว่า จะทำการศึกษาที่ชัดเจนครอบคลุมถึงมาตรการรองรับผลกระทบอย่างรอบครอบ และหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันก่อนตัดสินใจ จนวันนี้ผ่านมาเกือบ 1 ปี ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เป็นรูปธรรม แต่กลับมีกระแสข่าวว่าเตรียมจะให้ไทยเข้าร่วม CPTPP ทั้งที่ยังขาดความพร้อมในหลายเรื่อง


 
นางสาวจิราพร กล่าวต่อว่า หากจะอ้างว่า เตรียมดันให้ไทยเข้าร่วมความตกลง CPTPP เพื่อขยายการค้าการลงทุน อาจเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะข้อเท็จจริงคือ ไทยมีความตกลงเสรีทางการค้า (FTA) กับสมาชิก CPTPP แล้วเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียงเม็กซิโก ส่วนแคนาดา ขณะนี้กำลังจัดทำ FTA อาเซียน-แคนาดา 

ดังนั้น ด้วยเหตุผลนี้การเข้าร่วมความตกลง CPTPP จึงไม่เกิดประโยชน์ต่อการขยายการค้าการลงทุนของไทยอย่างมีนัยะสำคัญแต่อย่างใด ซึ่งมีข้อสังเกตว่า หากไทยต้องการขยายการค้าการลงทุนกับประเทศใหม่ๆจริง ควรเร่งการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งจะทำให้ไทยได้ตลาดเพิ่มอีก 27 ประเทศ และ FTA กับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ซึ่งจะทำให้ไทยได้ตลาดใหม่เพิ่มขึ้นมา 5 ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยมีแผนจะทำ FTA ด้วยแต่กลับล่าช้าเป็นอย่างมาก

'เพื่อไทย' เตือน 'กัญชาเสรี' ทำเยาวชนแห่ลอง จี้ 'ประยุทธ์ - อนุทิน' ควรยกเลิกไปก่อน

'เพื่อไทย' จวก นโยบายกัญชาเสรี สร้างภัยมหันต์ให้กับการศึกษาไทย เอาเด็กและเยาวชนเป็นตัวประกันต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง ธุรกิจขายกัญชาผุดเป็นดอกเห็ด ห่วง เด็ก เยาวชนแห่ลอง เข้าถึงง่ายกว่าบุหรี่ จี้ 'ประยุทธ์ - อนุทิน' ยกเลิกไปก่อน คงไว้ใช้เพื่อการแพทย์ หวั่นอนาคตของชาติพังทลาย

(27 ก.ค. 65) น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้วหลังกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศยาเสพติดให้โทษประเภท 5 หรือ กัญชา-กัญชง เสรี ได้สร้างภัยมหันต์ให้กับระบบการศึกษาไทยที่อยู่ในภาวะร่อแร่อยู่แล้วให้ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากมากขึ้น นับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2565 ได้เกิดสภาวะกัญชาระบาดในเด็ก มีเด็กป่วยจากการใช้กัญชาทั้งที่โดยตั้งใจและไม่ตั้งใจจำนวนมาก อายุน้อยสุดเพียง 4 ขวบครึ่ง มีนักเรียน จ.ลำปาง ลักลอบเสพและขายกัญชาในโรงเรียน เกิดอาการเมามายหวิดทะเลาะวิวาทกับครู และยังได้สร้างปัญหาทางสังคม สร้างความเห็นแก่ตัวให้กับผู้ประกอบการบางกลุ่มที่แอบผสมกัญชาในอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่ละอายใจ โดยหวังผลให้ผู้บริโภคเสพติด

"ทั้งหมดล้วนเกิดจากความคิดน้อย ไม่รอบคอบ ครอบคลุมของรัฐบาล ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา คิดเพียงแค่ปล่อยผ่านให้พรรคร่วมรัฐบาลเจ้าของนโยบายนี้ได้ทำนโยบายที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามที่พูดไว้ เพียงเพื่อให้ยังคงเสียงสนับสนุนในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น หากเป็นเช่นนั้นจริงเท่ากับว่ารัฐบาลนี้กำลังเอาเด็กและเยาวชนเป็นตัวประกันต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งที่ต้องตระหนักให้ได้ว่า กัญชาเสรีที่ไร้กฎหมายควบคุม กำลังจะกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อเด็กและเยาวชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ในระยะยาว"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top