Thursday, 2 May 2024
พรรคเพื่อไทย

'นภดล'​ ชี้!! ท่าที 'อุ๊งอิ๊ง'​ เหมาะสม นิ่งต่อคำวิจารณ์ได้ดี วอน!! นักวิจารณ์​อย่าด่วนอคติ 'รถใหม่'​ ที่ไม่เคยขับ

อวยนายหญิง! “นภดล” ชี้ท่าที “อุ๊งอิ๊ง” เหมาะสม นิ่งต่อคำวิจารณ์ วอนนักวิจารณ์อย่าคาดการณ์ด้วยอคติ ขอเปิดพื้นที่ให้กับแนวทางที่สร้างสรรค์ของทุกฝ่าย เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวถึงหลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นต่อการเข้ามาทำงานการเมืองของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง และลามไปถึงบิดา และพรรคเพื่อไทยนั้น ตนมีความเห็นว่า

1.) นางสาวแพทองธาร จัดการกับการวิพากษ์วิจารณ์ได้ นิ่ง ไม่ตอบโต้ และเสียงของผู้นำการเมืองหลายคน หลายพรรคมีความเป็นผู้ใหญ่ มีเมตตาต่อกัน ซึ่งน่าชื่นชม

2.) อาจมีคำวิจารณ์ที่มีอคติ คาดการณ์ในทางร้าย บางคนกล่าวหาล่วงหน้า ซึ่งคนพูดมีทัศนคติทางการเมืองเช่นไร คนส่วนใหญ่ก็รู้ แม้คนพวกเดียวกันจะเชื่อ แต่คนจำนวนมากไม่เห็นด้วย ดังนั้นปริมาณและคุณภาพของความเห็นเป็นคนละเรื่องกัน

3.) ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง การที่จะมีพรรคการเมืองใหม่ๆ คนใหม่ๆ เข้ามาทำงานการเมือง และทำให้ประชาชนมีทางเลือกเป็นเรื่องที่ดี อย่าพึ่งทำตัวเหมือนเป็นนักขับรถที่วิจารณ์รถยนต์ที่พึ่งเปิดตัว ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขับ รอฟังนโยบาย รอดูการกระทำก่อน ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน

4.) ตนเห็นว่า คนทำงานการเมืองหน้าใหม่เช่นนางสาวแพทองธาร ใช้สิทธิเข้าสู่การเมืองตามรัฐธรรมนูญที่ตนไม่ได้ร่าง และต้องแข่งภายใต้กติกาที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อตน เราควรเปิดพื้นที่ ว่าพวกเขามีแนวทางแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์อย่างไร มีกึ๋นแค่ไหน ประชาชนจะให้คำตอบในวันเลือกตั้ง ไม่ใช่เป็นเรื่องเกมแห่งอำนาจ แต่เป็นการเข้าสู่อำนาจตามครรลอง ตามวิถีทางประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ การออกมาด้อยค่าและคำวิจารณ์ที่อบอวลด้วยอคตินั้นไม่มีใครได้ประโยชน์ 

‘อีโต้อีสาน’ จวก!! ‘ประยุทธ์’ ปล่อย ‘เสือหิว’ ‘หากินปลายอายุรัฐ - ใต้ความทุกข์ปชช.’

นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกพรรคเพื่อไทย เจ้าของฉายา ‘อีโต้อีสาน’ อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทยและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐบาลพรรคพลังประชาชน เตือนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ระมัดระวังในการเลือกนักการเมืองให้มาอยู่รอบกาย เพราะวันนี้ไม่เพียงรัฐบาลบริหารประเทศผิดพลาด แต่บุคคลใกล้ชิดรอบกายพลเอกประยุทธ์ ทั้งหลาย ยังออกอาละวาดอ้างความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนแสวงหาประโยชน์เข้าตัวเองกันอย่างโจ๋งครึ่ม ไม่เกรงใจพี่น้องประชาชน 

นายธีระชัย กล่าวว่า ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงปลายอายุขัยของรัฐบาลประยุทธ์ ขบวนการเสือหิวจึงออกอาละวาดหากินกันอย่างหนัก อาศัยอำนาจออกหาประโยชน์ใส่ตัวเสมือนกลัวว่าเมื่อต้องพ้นจากอำนาจไปแล้วจะอดอยากปากแห้ง จึงทำให้สังคมไทยได้เห็นความแปลกประหลาดของปฏิบัติการบางอย่างของคนบางคนที่กลับหัวกลับหางสวนทางกับปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของพี่น้องประชาชนอย่างหนัก 

พท.ย้อน “เทือก” มีดีอะไรให้จดจำนอกจากเป่านกหวีด กวักมือเรียกรัฐประหาร ต้นตอทำบ้านเมืองตกต่ำดำดิ่ง เป็นหนี้มหาศาล

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำม็อบ กปปส.วิพากษ์วิจารณ์การแสดงวิสัยทัศน์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พร้อมย้อนกลับไปถึงการบริหารประเทศในช่วงรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สร้างความเสียหายให้กับประเทศว่า อยากให้นายสุเทพย้อนกลับไปดูผลงานของตัวเองที่มองเห็นเป็นเชิงประจักษ์ ว่าได้สร้างคุณงามความดี สร้างประโยชน์อย่างไรให้กับประเทศบ้าง นับตั้งแต่การพาม็อบนกหวีดออกมาชัตดาวน์กรุงเทพฯ ปิดสถานที่ราชการ ขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อเดือนก.พ.57 นำไปสู่การรัฐประหาร และบริหารประเทศถอยหลังเข้าคลองมาถึงทุกวันนี้

นายสุเทพกับพวกถูกฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและทางอาญา ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกไปแล้ว พฤติการณ์ของนายสุเทพกับพวกปรากฏภาพออกสื่อทั่วโลกโดยเฉพาะการขัดขวางการเลือกตั้งในปี 57 ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งฟ้องร้องทางแพ่ง อาจต้องชดใช้ค่าเสียหาย 3,100 ล้านบาท นายสุเทพกวักมือเรียกคณะรัฐประหาร ทั้งหมดคือผลงานของนายสุเทพที่คนไทยจดจำ ในฐานะที่เป็นต้นตอแห่งการผลักประเทศให้ตกต่ำดำดิ่งสู่ความเสียหายจนถึงวันนี้

‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร’ หัวหน้าครอบครับเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดคลองลัดมะยม หาเสียงช่วยส.ก.พรรคเพื่อไทยเป็นครั้งแรก อ้อนคนกรุงขอโอกาสส.ก.ของพรรคเข้าไปผลักดันนโยบาย ปลื้มคนทัก “ไม่เจอพ่อ เจอลูกก็ยังดี”

เมื่อเวลา 14.05น. วันที่ 8 พ.ค. ที่ตลาดคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน และช่วยผู้สมัครหาเสียง สนามเลือกตั้ง กทม. โดยมีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนมาขอถ่ายรูปกับน.ส.แพทองธาร เป็นจำนวนมาก ขณะที่แม่ค้าพ่อค้าแม่ค้าบางคน ทักทายว่า “ไม่เจอพ่อ เจอลูกก็ยังดี” ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมาก ได้รับการต้อนรับอย่างดี ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคนของพรรคเพื่อไทยตั้งใจทำงาน เราพยายามที่จะถามทุกข์สุขของประชาชนให้มากที่สุด แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่ประชาชนจะให้โอกาสมากน้อยแค่ไหน ที่ตนมาพบประชาชนวันนี้ก็อยากขอโอกาสชาวกรุงเทพฯ ให้เลือกส.ก.ของพรรคเพื่อไทย เข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน เราจะได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เเละยืนยัน ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ทำงานได้กับทุกคนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. เพื่อไทยก็เคารพอยู่แล้ว ไม่ว่าใครจะมาเป็น แต่เราอยากได้ส.ก.จำนวนมาก เพราะจะได้ผลักดันนโยบายต่างๆของพรรคเพื่อไทยให้เป็นจริงตามที่จะเสนอออกมา

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะได้เห็นน.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่หาเสียงอีกหรือไม่ น.ส.แพรทองธาร กล่าวว่า ตนอยากลงพื้นที่ให้ได้เยอะที่สุด เพราะเมื่อไปแต่ละที่ก็มีความอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนที่ให้กำลังใจ และถ้ามีโอกาสก็อยากจะลงพื้นที่อีก

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้เดินตาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหาเสียง วันนี้ต้องมาเดินหาเสียงเองรู้สึกอย่างไร น.ส.แพรทองธาร กล่าวว่า เป็นความคุ้นเคย คุ้นชิน ตนเคยทำมาบ่อยมากๆช่วงหนึ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดโดยคุณพ่อพาไป ตนจำบรรยากาศเดิมๆได้ แต่รอบนี้เราคนเป็นเดินเอง

เมื่อถามถึงกรณีเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้รับคำแนะนำอะไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “คุณพ่อให้คำปรึกษามาตลอด ตอนแรกก็แนะนำเรื่องเรียน แต่ตอนนี้แนะนำให้เรามั่นใจกับสิ่งที่เราทำไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าเราคิดดีทำดีก็ขอให้เราประสบความสำเร็จ โดยคุณพ่อจะให้กำลังใจและบอกแนวทางว่าให้เราเข้มแข็งในจุดยืนของเรา ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรเราก็จะไม่เสียหลักของเรา”

เมื่อถามว่าช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทยจะมีไม้เด็ดอะไรออกมา น.ส.แพทองธาร ตอบว่า มีมุขอีกเยอะที่เก็บไว้โชว์ แต่สิ่งที่แน่นอนและจริงจังที่เราตั้งใจคิดและทำเป็นนโยบายขึ้นมาก็เพื่อพี่น้องประชาชน เป็นสิ่งที่แน่นอนและมั่นคง

‘เพื่อไทย’ โว!! ผลคะแนนกทม.เชื่อมต่อสนามใหญ่ ชี้!! ปัญหาปากท้องไม่สิ้นสุด เร่งประชาชนไม่ทน

พรรคเพื่อไทย ขอบคุณพี่น้องประชาชน ไว้วางใจเลือก ‘ส.ก.เพื่อไทย’ มารับใช้คนกรุงเทพฯ มุ่งหน้าผลักดันนโยบายให้เป็นจริง คืนความมั่งคั่งและชีวิตที่ดีกว่าให้คนกรุงเทพฯ ชี้ผลเลือกตั้งสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของพี่น้องประชาชน 

พรรคเพื่อไทย นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ( ส.ก.), นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่ลงคะแนนเสียงเลือก ส.ก. พรรคเพื่อไทย 

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ที่ได้ลงคะแนนเสียงเลือกผู้ว่าฯ กทม. และเลือก ส.ก.ด้วยเสียงของประชาชน พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะรับใช้พี่น้องคนกรุงเทพฯ ทุกคน และขอขอบคุณที่พี่น้องที่ร่วมกันลงคะแนนเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ ด้วยความหวังร่วมกันที่จะพาประเทศออกจากวิกฤตที่บอบช้ำ และขอแสดงความยินดีกับ ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะสนับสนุนการทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ กทม. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน เพื่ออนาคตบ้านเมืองอนาคตลูกหลาน และขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กับพรรคเพื่อไทยอีกครั้งในวันนี้

‘ส.ก.เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ผนึกกำลังทำงานในสภากทม. เพื่อไทยนั่งประธานสภาฯ ก้าวไกลนั่งตรวจหาทุจริต

‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ จับมือแถลงข่าวความร่วมมือ พร้อมผลักดันนโยบายร่วมกันในสภา กทม. เบื้องต้นเห็นร่วมนโยบายก้าวไกล ตั้งกรรมการ ป.ป.ช. ประจำสภา กทม. พร้อมให้มีการถ่ายทอดสดประชุมสภา กทม. ด้าน 'วิโรจน์' พร้อมหนุน ส.ก. ก้าวไกลผลักดันทุกนโยบายต่อเนื่อง

แกนนำพรรคก้าวไกล นำโดยชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จากพรรคก้าวไกล ร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย และ ส.ก. พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวความร่วมมือในการทำงานร่วมกันของ ส.ก. จากทั้งสองพรรคในอนาคต

จากการหารือ ส.ก. จากทั้งสองพรรคมีข้อตกลงในการทำงานร่วมกันในประเด็นต่างๆ กล่าวคือ ส.ก. จากทั้งสองพรรคจะร่วมกันทำงานยกระดับประสิทธิภาพและความโปร่งใสของสภา กทม., ร่วมกันเห็นชอบลงมติเลือกประธานสภา และรองประธานสภา กทม. ให้การทำงานมีเอกภาพ โดยในหลักการให้ประธานสภา กทม. มาจากพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคที่ได้ ส.ก. มากที่สุด ตามมาด้วยตำแหน่งรองประธานจากพรรคก้าวไกล และพรรคอื่นๆ ที่ได้จำนวน ส.ก. ลดหลั่นไปตามลำดับ

นอกจากนี้ ส.ก. จากทั้งสองพรรคจะร่วมเห็นชอบให้มีการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภา เพิ่มคณะกรรมการป้องกันและปราบการการทุจริต และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และจะร่วมเห็นชอบให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภา กทม. สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและความโปร่งใส ให้ประชาชนตรวจสอบการทำงานได้

‘ชลน่าน’ ติง รัฐบาล จัดงบปี 66 วางยารบ.ใหม่ ลั่น!! โหวตคว่ำ ประชาชนเดือดร้อนน้อยกว่า

(31 พ.ค.65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญและเตรียมพร้อมอย่างดียิ่ง การอภิปรายในแต่ละวันจะมีการแบ่งคนรับผิดชอบตามโจทย์ที่เราได้ตั้งไว้ และจะเจาะไปในประเด็นที่มีความผิดพลาดล้มเหลว โดยจะใช้คำว่ารัฐบาลหมดสภาพ หรือสิ้นสภาพต่อด้วยงบสิ้นหวัง ดังนั้นการอภิปรายวันแรก 7 ชั่วโมงกว่า ส่วนวันที่สองพรรคเพื่อไทยได้เตรียมความพร้อมผู้อภิปรายเกี่ยวกับการจัดงบประมาณโดยเฉพาะทางตันของงบประมาณปี 2566 และตามด้วยงบสิ้นหวังต่อ เนื่องจากมีรายการที่จะต้องพิจารณาเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้อภิปรายประมาณ 30 คน 

ส่วนการอภิปรายวันที่สาม จะมุ่งเน้นไปที่งบส่อโกงและเติมด้วยงบสิ้นหวัง โดยผู้อภิปรายจะทำงานในลักษณะต่อเนื่อง แม้การอภิปรายจะมีการสลับกับฝ่ายรัฐบาลก็ตาม โดยให้ผู้อภิปรายในประเด็นเดียวกันอภิปรายติดต่อกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นเหตุและผลที่พรรคฝ่ายค้านมีมติร่วมกันว่าเราไม่รับร่างงบประมาณฉบับนี้ โดยตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้เริ่มอภิปรายคนแรกเพื่อให้เห็นภาพรวมว่าเหตุใดจึงไม่รับร่างดังกล่าว และพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติเรียบร้อยแล้วว่าไม่รับร่างฉบับนี้ ซึ่งไม่รวมกับ ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย เพราะเขาไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมฝ่ายค้าน 
 

‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ยกคณะบุก ‘สุรินทร์’ 5 มิ.ย. จับเข่าคุย ‘ชาวนา’ รับฟังปัญหา ก่อนลุยทำนโยบายเพื่อแก้ปัญหาประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทย กำหนดจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ครั้งต่อไปที่จังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ซึ่งจะเป็นการลงพื้นที่ของแกนนำพรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาจากตัวแทนพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ ผู้เลี้ยงปศุสัตว์ หม่อนไหม และกลุ่มนวัตกรรมต่างๆ เพื่อนำปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชนมาประมวลผลและประกอบใช้ในการจัดทำนโยบายของพรรค เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ตรงจุดที่สุด

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม จังหวัดสุรินทร์ครั้งนี้ จะมีขึ้นที่มหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ซึ่งจะมีการเปิดเวทีครอบครัวเพื่อไทย โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคและนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ที่มีหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง จากพรรคไทยรักไทย สู่พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อคืนประชาธิปไตย คืนความหวัง คืนความฝัน คืนอนาคตและโอกาสให้พี่น้องประชาชนกลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง เราจึงถือโอกาสในการเดินสายเพื่อพบปะสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ในการพบปะกับพี่น้องเกษตรเพื่อรับปัญหาอุปสรรคพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากพี่น้องประชาชน เพื่อนำมาสู่การจัดทำนโยบายที่แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน และนำพาประเทศหลุดพ้นจากวิกฤตและหลุมดำที่เกิดจากความบกพร่องผิดพลาดของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เราจึงจะต้องไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องชนะให้ขาด พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ ด้วยการได้ ส.ส.ในสภาที่มากกว่า 250 ที่นั่ง

'ภูมิธรรม' เปิดรายชื่อ 7 ส.ส.เพื่อไทย โหวตสวนมติพรรค รับร่างงบฯ 66

(3 มิ.ย. 65) จากกรณี สภาผู้แทนราษฎร ลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ด้วยเสียงข้างมาก 278 เสียง ต่อไม่เห็นด้วย 194 เสีย งดออกเสียง 2 เสียง นั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า...

“ฟลุ๊ค เดอะสตาร์” เตือน “ประยุทธ์” อย่าทำตัวเป็น “ตู่ เดอะเสร่อ” คิดแต่จำนำข้าวทั้งที่ผ่านมา 8 ปีแล้ว แถมมั่วเสียหายเกินจริง แนะ ต้องเปลี่ยนผู้นำก่อนอดตายกันหมด

นายพชร ธรรมมล หรือ ฟลุ๊ค เดอะสตาร์ ว่าที่ผู้สมัคร. สส กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการติดตามการอภิปรายงบประมาณในสภาผู้แทนราษฎร ที่พลเอกประยุทธ์จัดงบประมาณมา 8 ปีแล้ว แต่ประเทศไทยกลับย่ำแย่ทรุดลงมาตลอด แต่ประยุทธ์กลับยังจะจัดงบประมาณแบบเดิม แล้วประเทศไทยจะฟื้นจากสลบได้ไง ไอน์สไดน์ บอกว่ามีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดแบบเดิม ทำแบบเดิม แต่หวังผลแตกต่าง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่พอฝ่ายค้านถล่มมากๆ พลเอกประยุทธ์เถียงไม่ออก เลยแปลงร่างเป็น “ตู่ เดอะเสร่อ” โทษจำนำข้าวแบบเดิมๆ ทั้งที่ผ่านมาแล้ว 8 ปี ตอนมีจำนำข้าว มีรถคันแรก บ้านหลังแรก ลดภาษีนิติบุคคล ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สมัยพรรคเพื่อไทยนำโดยนายกยิ่งลักษณ์ เศรษฐกิจไทยพุ่งกระฉูดโดกว่า 7% ซึ่งพลเอกประยุทธ์ไม่เคยทำได้ และสมัยนั้นหนี้สาธารณะของประเทศแค่ 40% กว่า หรือ ประมาณ 5 ล้านล้านบาทเศษเท่านั้น แต่ปัจจุบันหนี้สาธารณะพุ่งถึง 10 ล้านล้านบาท ทะลุเกิน 60% ไปแล้ว ซึ่งพลเอกประยุทธห์กลับไม่ยอมพูดถึง แบบนี้ไม่เรียกว่าเสร่อแล้วจะเรียกว่าอะไร 

นอกจากนี้ที่ประยุทธ์หรือ “ตู่ เดอะเสร่อ” ยังปล่อยไก่เพิ่มเติมความเสร่อบอกจำนำข้าวขาดทุน 9 แสนล้านบาท ทั้งที่ความจริงตามเอกสารราชการชี้แจงชัดเจนว่า ขาดทุนเพียง 5 แสนล้านบาทเท่านั้นและเป็นตามที่สื่อรัฐเองยืนยัน หรือขาดทุนเพียงครึ่งนึงของที่ประยุทธ์พูดไว้เองในสภา นี่ถือเป็นการโกหกพูดปดมดเท็จในสภาหรือไม่ ซึ่งถ้านำมาหาร 3 ฤดูกาลก็จะตกเพียงปีละแสนกว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งใกล้เคียงกับที่รัฐบาลประยุทธ์ใช้ในการสนับสนุนประกันรายได้ แต่ชาวนามีความสุขมากกว่า มีเงินในกระเป๋ามากกว่า จีดีพีโตกว่ามาก ขนาด 8 ปีแล้วยังก้าวไม่พ้น พูดซ้ำๆเรื่องเดิม แถมยังมาบิดเบือนอีก แบบนี้ไม่เสร่อจะเรียกว่าอะไร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top