Thursday, 2 May 2024
พรรคสร้างอนาคตไทย

สร้างอนาคตไทย สนับสนุน!! การกีฬาเพื่อเยาวชน

(27 สิงหาคม 2565) ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคกรุงเทพฯ ได้ร่วมเปิดงานการแข่งขันฟุตบอลเขตพญาไท ซึ่งจัดที่สนามฟุตบอล ในร่ม พหลโยธิน ซอย 8 โดย ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณากร เป็นผู้ประสานงานการจัด

ดร.อุตตม ได้กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย เห็นความสำคัญกีฬาทุกประเภท และต้องการสนับสนุนเยาวชนไทยให้เล่นกีฬา เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง, รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และให้อภัย ทั้งยังเป็นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านยาเสพติดและอบายมุขต่างๆ เยาวชนไทยจะได้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป

'สุรนันทน์' พบปะพ่อค้าแม่ค้าตลาดวังหลัง เน้นนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กับทุกคน

วันนี้ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และหัวหน้าทีมกรุงเทพ พร้อมด้วยนายพัลลภ ปิยะตระกูล ผู้ประสานงานพื้นทีเขตบางกอกน้อย ได้ลงพื้นที่ตลาดวังหลัง เพื่อสำรวจภาวะเศรษฐกิจและนับฟังปัญหาของพ่อค้าแม่ค้า และผู้ประกอบการต่างๆ

จำนวนนักท่องเทียวที่ยังไม่กระเตื้อง และภาวะเศรษฐกิจที่ฟืดเคือง ยังมีผลกระทบที่รุนแรงต่อการค้าขาย และปัญหาปากท้องของประชาชน

'สมคิด' ลาออกจากประธานกลุ่มสหพัฒน์ เตรียมเปิดตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคสร้างสอท.

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และผู้อำนวยการพรรค ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อเตรียมพร้อมเปิดตัวเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคสอท. ในช่วงเดือนก.ย.นี้ ใช่หรือไม่ ว่า ใช่ เพราะพรรคสอท. เตรียมความพร้อมให้นายสมคิด มาอย่างต่อเนื่อง และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนก.ย.นี้แน่นอน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคสอท. เตรียมพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเต็มตัว ใช่หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยจะส่งส.ส.ครบทั้ง 400 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน เมื่อเราเสนอผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกฯ ก็ต้องพร้อมส่งผู้สมัคร 

เมื่อถามว่าจะเปิดตัวนโยบายหลักของพรรค พร้อมกับการเปิดตัวนายสมคิด ด้วยหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า พรรคจะทยอยเปิดตัวนโยบาย เพื่อรณรงค์หาเสียงเป็นช่วงเวลา ตามสถานการณ์ทางการเมือง ควบคู่ไปกับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค หากเปิดตัวนายสมคิด แล้ว คาดว่าประชาชนจะให้ความสนใจมากขึ้น 

เมื่อถามว่าพรรคสอท. จะไม่ไปควบรวมกับพรรคการเมืองอื่น เพื่อลดผลกระทบจากการใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 100 หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า หลักการที่พรรคสอท. เสนอบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกฯ และมีเป้าหมายว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต ดังนั้นจะไปผสมรวมกับใครเพื่อให้ตัวใหญ่ขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องคิด ตอนนี้เป็นเรื่องการเตรียมความพร้อมของเราโดยนำเสนอว่าปัญหาของประเทศ คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ต้องการผู้ที่มีประสบการณ์ และมีความสามารถเข้าไปดูแลเรื่องนี้ 

'สุรนันทน์' นำทีมพรรคสร้่างอนาคตไทย พบปะพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดริมคลองเจริญกรุง 103

(4 ก.ย.65) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย หัวหน้าทีมกรุงเทพ และนายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ ผู้ประสานงานพรรคเขตบางคอแหลม ยานนาวา นำทีมพรรคสร้่างอนาคตไทย พบปะพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดริมคลองเจริญกรุง 103

นายพงศพัศ กล่าวว่า ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดพื้นบ้านของพี่น้องชาวมุสลิมในเขตบางคอแหลม จะจัดเพียงเดือนละครั้งในเสาร์อาทิตย์แรกของเดือนเท่านั้น ซึ่งในวันนี้เป็นการเข้าสู่ปีที่ 10 ของตลาดแห่งนี้ ผู้มาเดินในตลาดแห่งนี้จะเป็นพี่น้องชาวไทยเชื้อสายมุสลิมและชาวไทยพุทธโดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยเชื้อสายมุสลิมจะมาจากหลายๆ พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ชุมชนที่นี่จะเป็นโมเดลที่หลายๆ ชุมชนควรจะพัฒนาตาม เพราะปัจจุบัน ชุมชนเก่าแก่ริมคลองจะถูกละเลยไป ผมคิดว่าทุกฝ่ายทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นควรที่จะร่วมมือกัน พัฒนาให้คลองสะอาด และสามารถพัฒนาวิถีชุมชนริมคลองให้กลับมาสวยงามได้

นายสุรนันทน์ ยังกล่าวว่า พรรคพร้อมที่จะส่งผู้สมัครครบ 400 เขต เราจะเป็นทางเลือกใหม่ มีความสัมพันธ์อันดีกับทุกฝ่าย ไม่จับมือกับใคร แต่ขอความเชื่อมั่นและสนับสนุนจากประชาชน เราจะไม่เข้าไปในกลุ่มขัดแย้งเดิม 

สุรนันทน์ แนะภาครัฐพัฒนาตลาดรัฐให้เทียบเท่าตลาดเอกชน

เมื่อช่วงเย็น วันที่ 4 กันยายน 2565 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะหัวหน้าทีมกรุงเทพ พรรคสร้างอนาคตไทย, นายอัศวิน คูร์พิพัฒน์ ผู้ประสานงานพรรค เขตบึงกุ่ม คันนายาว, นายพันธุ์ปิติ โพธิ์วิจิตร ผู้ประสานงานพรรค เขตมีนบุรี พร้อมทีมงานพรรคสร้างอนาคตไทย ได้พบปะพ่อค้าแม่ค้าในตลาดปัฐวิกรณ์ 

นายสุรนันทน์ กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแล้วก็ได้รับการตอบรับที่ดี และได้รับรู้ถึงปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจที่ยังถดถอยไม่ฟื้นตัวในขณะนี้ ส่งผลให้ผู้มาจับจ่ายใช้สอยลดน้อยลง ถึงแม้สินค้าที่ขายจะเป็นสินค้ามือสองที่ราคาค่อนข้างถูกกว่าสินค้าใหม่ทั่วๆ ไปก็ตาม

'สร้างอนาคตไทย' แถลงตั้ง 'ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' เป็นประธานพรรค เตรียมเปิดตัว 8 ก.ย.นี้

วันนี้ (7 ก.ย. 65) ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต พรรคสร้างอนาคตไทย จัดประชุมใหญ่เตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง โดยมีผู้บริหารพรรค อาทิ ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคใต้ นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคอีสาน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค และประธานกรุงเทพฯ ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และประธานฝ่ายนโยบาย นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค นายกำพล ปัญญาโกเมศ รองหัวหน้าพรรค และประธานฝ่ายวิชาการ นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และโฆษกพรรค และนายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และประธานภาคกลาง พร้อมด้วยว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคทั่วประเทศกว่า 300 คน เข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ ยังได้จัดประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรควาระพิเศษ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในการแต่งตั้ง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นั่งเป็นประธานพรรคสร้างอนาคตไทย

ดร.อุตตม กล่าวว่า ที่ประชุม กก.บห.ครั้งที่ 11/2565 ได้รับทราบเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทยของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิกเลขที่ 10021971 ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2565  และที่ประชุมมีมติเอกฉันท์แต่งตั้ง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อเป็นผู้นำอุดมการณ์และร่วมกับสมาชิกพรรคขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.65) ทาง ดร.สมคิด จะเดินทางเข้ามาร่วมประชุมกับผู้บริหารพรรค และว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคทั่วประเทศ 

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ ถือเป็นการประชุมใหญ่ระหว่างผู้บริหารพรรค และว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคทั่วประเทศครั้งแรกของพรรค เพื่อเตรียมพร้อมต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจถึงอุดมการณ์ และเจตจำนงการทำงานของพรรคที่ทุกคนต้องขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งเป็นการประกาศตัวให้ประชาชนทั้งประเทศมั่นใจว่าพรรคมีความพร้อมที่จะเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ และปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่าพรรคมีนโยบาย และชุดความคิดที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาได้อย่างแน่นอน และขอยืนยันว่าตอนนี้ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด จะวันนี้หรือพรุ่งนี้พรรคสร้างอนาคตไทยก็พร้อมลงสู่สนามเลือกตั้งในทันที

‘สมคิด’ ลั่น ไม่ได้หวังขึ้นแท่นนายกฯ อยู่ที่ฟ้าดินลิขิต แต่พร้อมเป็นผู้นำให้ประเทศ

‘สมคิด’ นั่งปธ.พรรคสร้างอนาคตไทย ลั่น ไม่ได้หวังขึ้นแท่นนายกฯ ชี้อยู่ที่ฟ้าลิขิต ยัน ต้องการเปลี่ยนประเทศ ซัด การเมืองเละเทะเหมือนคอกม้า ซื้อขายโจ่งครึ่ม ย้อนอดีต ทิ้งรัฐบาลตู่ เหตุ พิษบุพเฟต์คาบิเนต พร้อมสั่ง ‘อุตตม’ ตะเพิดลูกพรรคออกนอกลู่ 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 ก.ย. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต พรรคสร้างอนาคตไทย จัดกิจกรรม #คิดสร้างอนาคตไทย เปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในตำแหน่งประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.)โดยมีสมาชิกจากทุกภาค เข้าร่วม พร้อมทำป้ายเชียร์ #ทีมสมคิด #จอมยุทธ์กวง #สุดยอดวิสัยทัศน์ #มือเศรษฐกิจขั้นเทพ โดยนายสมคิด เดินทางมาพร้อมกับนายณฉัตร จาตุศรีพิทักษ์ หรือ น้องคลัง บุตรชายคนเล็ก ขณะที่บรรยากาศในงานมีนายปองพล อดิเรกสารนายปรพล อดิเรกสาร นายนวกิจ พลวิเศษ บุตรชายนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และนพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ และอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรียุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร่วมงาน

นายสมคิด กล่าวเปิดใจว่า ตนไม่ได้มาคนเดียว มาพร้อมกับลูกชายคนเล็ก ชื่อนายณฉัตร จาตุศรีพิทักษ์ ชื่อเล่น คลัง เป็นลูกที่สวรรค์ส่งมาให้ตนในขณะที่ตนเป็น รมว.คลัง คลังเป็นลูกคนเล็ก อายุ 20 ปี เรียนวิศวกรรมปี 2 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และไม่ได้พามาเที่ยว แต่พามาเพื่อให้เป็นประจักษ์พยาน ได้เห็นและรู้ว่าการสร้างพรรคการเมืองที่ดีมีจริง ต้องการให้เรียนรู้ว่าการทำพรรคการเมืองไม่ใช่ของง่าย ต้องการให้เข้าใจในตัวพ่อว่าต้องกลับมาช่วยเหลือน้อง ๆ ทั้งหมดล้วนเป็นภารกิจหน้าที่ ไม่ใช่เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะตำแหน่งนายกฯไม่มีความหมาย แต่ที่มีความหมายคือ การเป็นผู้นำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย ที่ผ่านมาประเทศ มีนายกฯมาทุกสมัย ดีบ้าง อ่อนบ้าง แต่ยากที่จะหาผู้นำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาบ้านเมือง ไม่ใช่เพราะไม่กล้า แต่พลังไม่ถึง บางคนพลังถึงแต่ไม่คิดที่จะทำ เพราะวาระซ่อนเร้น จึงต้องการให้ลูกได้เห็นสิ่งที่พ่อเขาพยายาม ไม่ว่าจะได้มากได้น้อย มันเป็นเรื่องของชะตาบ้านเมือง

นายสมคิด กล่าวว่า ต้องการให้คนรุ่นใหม่ รู้ว่าการเมืองไม่ได้เลวร้าย การเมืองดี การเมืองที่มุ่งทำงานให้ชาติก็มี คนที่มุ่งทำงานก็มี อย่าคิดว่าการกลับมานั้นหวังแค่นายกฯ ให้คิดใหม่ รู้จักชื่อสมคิดน้อยไป วันนี้มาด้วย 2 วัตถุประสงค์ คือ มาเพื่อให้กำลังใจพรรค ขอบคุณทางพรรคที่มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเมืองเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อเป็นหลักยึดแก้ไข เป็นอนาคตให้กับคนรุ่นหลาน ถ้าไม่คิดถึงอนาคต คิดถึงแต่ปัจจุบัน บ้านเมืองไปไม่ได้ จึงขอบคุณความเด็ดเดี่ยวที่กล้าประกาศว่าเป็นพรรคสายกลาง ไม่คิดสุดโต่ง สุดขั้ว เพราะความคิดแบบนั้น แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสีแบ่งกลุ่มมีแต่ทำลายตัวเอง ทำลายบ้านเมือง สิ่งสำคัญต้องเป็นกลาง เพื่อเป็นตัวยึดโยงให้พลังในชาติสามารถเป็นพลังแห่งชาติ คิดในสิ่งที่มีประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อชาติบ้านเมืองเป็นใหญ่ 

นายสมคิด กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด มีความกล้าหาญเพียงพอที่กล้าตั้งพรรคการเมืองในขณะนี้ทั้งที่สถานการณ์ทางการเมืองค่อนข้างเละเทะ มีสถานการณ์ที่เงินตราเริ่มเข้ามามีบทบาทสูงมาก การแข่งขันทางการเมืองเริ่มมีลักษณะเหมือนการแข่งขันในสนามม้า มีม้าแข่งที่ต้องซื้อ มีคอกที่ต้องมีเจ้าของ และคอกก็ต้องหาเงินมาเลี้ยงม้า สิ่งเหล่านี้ที่ผ่านมาแม้มีมาตลอด แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่โจ่งครึ่มเกินไป และเป็นตัวอย่างไม่ดีให้คนรุ่นหลังจะหันหลังให้การเมืองไทย คนรุ่นใหม่จะไม่อยากเข้ามา ฉะนั้นความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ที่จะรวบรวมความคิดอ่านเพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชน คือความกล้าหาญที่แท้จริง ไม่ต้องไปคำนึง ไปกลัวว่าจะได้กี่เสียง จำนวนเสียงไม่ได้บอกอะไร แต่ศรัทธาของประชาชน คือหัวใจ อย่าคิดว่าเงินตราซื้อคอกม้าใหญ่ได้แล้วจะมีพลังในการบริหารประเทศ ถ้าเล่นการเมือง สร้างพรรคการเมือง คิดแต่สร้างผลทางอำนาจ แต่ไม่มีโครงสร้างทางปัญญา ไม่สั่งสมคนมีความสามารถ สุดท้ายจะไปไม่รอด จะพาบ้านเมืองไปไม่รอดด้วย

“มีคนเคยบอกว่าสมคิด ไม่มาแน่นอน เพราะต้นทุนทางสังคมเยอะพอสมควร จะมาอยู่กับพรรคเล็กทำไม ผมมาที่นี่ไม่ใช่เพราะตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ แต่ต้องการช่วยพรรคครั้งนี้ เป็นตัวอย่าง เป็นตัวขับเคลื่อน สร้างความเปลี่ยนแปลงกับประเทศไทยในทางที่ถูกต้อง”นายสมคิด ระบุ

นายสมคิด กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยสถานการณ์หนักกว่าที่คิด และอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ตนจำได้ว่ารัฐบาลที่แล้วเมื่อปี 2557 ก่อนที่ตนจะส่งทีม 4 กุมารเข้าไป จีดีพีเหลือเพียง 1% เพราะมีการรัฐประหาร ทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องช่วยกันทำงานจนลากจีดีพีขึ้นมาถึง 3-4% แต่ต่อมาต้องมาเจอพิษโควิด-19 และพิษการเมืองที่แสวงหาอำนาจ แต่ไม่แสวงปัญญา เป็นรัฐบาลผสม หรือบุฟเฟ่ต์คาบิเนต มีที่ไหนที่นโยบายประเทศแบ่งกันตามกระทรวง ทางใครทางมัน ตนจึงวอล์กเอาท์ นี่คือความเป็นจริงของประเทศไทย ทำให้จีดีพีหดตัว วันนั้นเรายังไม่มีปัญหาเรื่องการส่งออก และพลังงาน มาวันนี้การส่งออกเริ่มชะลอตัว เมื่อมองไปข้างหน้า เราจะพบมรสุมลูกใหญ่ แล้วเราจะถึงฝั่งได้อย่างไร 

นายสมคิด กล่าวว่า วันนี้เรามีนายกฯ แต่คนไหนตัวจริงยังไม่รู้เลย ที่น่ากังวลเพราะว่าเราต้องการนายกฯจริงๆ อย่างไรก็แล้วแต่ต้องมีจริงๆ เพื่อให้โฟกัสที่ไปตัวผู้นำ ไม่อย่างนั้นใครนำเรือลำนี้ หรือจะให้ข้าราชการนำ ข้าราชการนำไม่ได้ สมัยก่อนนำได้ แต่สิบกว่าปีมานี้ให้หลังไม่ได้ เพราะการเมืองไม่ไหว ทำมากผิดมาก ไม่ทำเลยไม่ผิด คนดีมีความสามารถนิ่งเสียตำลึงทอง ฉะนั้น ทั้งหมดอยู่ที่ผู้นำที่ต้องทุบโต๊ะ ถ้าไม่ช่วยเหลือให้ยุบสภาเลย เก็บไว้ทำไม เมืองไทยจะไปไม่ไหว ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่ใช่ว่าทำไม่เป็น ไม่ใช่ว่าคนไทยไม่ดี คนไทยมีความอดทนสูงมาก ตนอายุขนาดนี้ คนไทยไม่เคยบ่น ลำบากก็ไม่บ่น เขามองหาความหวังว่าใครจะมาช่วยเขา ที่น่าเป็นห่วงคือ ถ้าเขามองแล้วความหวังไม่มี พรุ่งนี้ไปตายเอาดาบหน้า อันนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ยิ่งวันยิ่งจน เมื่อจนไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ การจะเป็นเหยื่อของการปลุกปั่นเกลียดชังจะเกิดขึ้น เพราะจะมีคนปลุกปั่นอยู่ การปลุกปั่นยุยงให้แตกแยกกันไม่มีใครได้ประโยชน์นอกจากคนปลุกปั่น การเป็นปฏิปักษ์กันเองของคนในชาติเป็นสิ่งที่พรรคนี้อย่าให้เกิดขึ้น ต้องมุ่งมั่น เอาคนดีมาร่วมมือกันทั้งในพรรคและนอกพรรค

'สรุนันทน์' ย้ำเปิดศูนย์ประสานงานพรรค เพื่อเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างภาครัฐกับประชาชน

วันที่ 9 กันยายน 2565 นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคกรุงเทพฯ เปิดศูนย์ประสานงานพรรคเขตสวนหลวง - ประเวศ ซึ่งมีนายอภิชาติ จรัสโภคา เป็นผู้ประสานงานพรรคในพื้นที่ ก่อนทำพิธิเปิดศูนย์ นายสุรนันทน์ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนสอนศาสนา ศาสนูปถัมภ์ พบปะพูดคุยกับอาจารย์ไฟโรส อยู่เป็นสุข ผู้จัดการโรงเรียนฯ โดยอาจารย์ไฟโรส ได้มีข้อเสนอและต้องการให้มีการสนับสนุนโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับโรงเรียนในประเทศมุสลิมต่างๆ ทั่วโลกที่สนใจโครงการนี้ เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ให้เด็กๆ ได้มีการเรียนรู้ที่กว้างไกลขึ้น โดยมีโรงเรียนฯ เป็นศูนย์กลางในการประสานงานเรื่องนี้ ซึ่งนายสุรนันทน์ ได้รับข้อเสนอและจะนำไปหารือกับคณะทำงานของพรรค เพื่อร่วมสนับสนุนข้อเสนอแนะเท่าที่จะทำได้ต่อไป

จากนั้นเดินทางกลับมาที่ศูนย์ฯ โดยนายสุรนันทน์ กล่าวว่า การเปิดศูนย์ประสานงานในแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นศูนย์รวมสำหรับประชาชน ที่มีปัญหาเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบในวงกว้างขณะนี้ รวมไปถึงบางพื้นที่ที่ขาดแคลนไฟฟ้า, ปัญหาลำรางสาธารณะ, ปัญหาถนนขาดตอนขาดช่วง หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้เข้ามาดูแล พรรคพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที

'วัชระ' สวนเจ็บ 'วัชระ-ชัยชนะ' ช่วยส่องผลงานรมต.ในโควต้าปชป.หน่อย บอกเห็นใจ ต้องออกมาโต้แม้ฝืนความรู้สึก แต่ต้องยอมรับ เพราะความจริงมันเจ็บปวด ฝากไว้อย่ากลัว

'สมคิด' ไม่ใช่นักการตลาดลวงโลก แต่เป็น แคนดิเดตนายกฯ ที่ตรงสเปค เหมือนดาวฤกษ์การเมืองดวงใหญ่ที่สุด 

นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้ประเด็นปาฐกถาพิเศษของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ตนเข้าใจและเห็นใจทั้ง 2 คน ในฐานะลูกพรรคประชาธิปัตย์ ที่จำเป็นต้องออกมาปกป้องพรรคของตน แม้ว่าจะต้องฝืนความรู้สึกและความจริงก็ตาม เพราะนี่คือสไตล์ของคนพรรคนี้ที่ทำมาโดยตลอด

“ผมเข้าใจและเห็นใจ ส.ส ชัยชนะ และนายวัชระ เป็นอย่างมาก เพราะความเป็นจริงมันเจ็บปวดเสมอ มันก็มีแค่ 2 ทางเลือกเท่านั้น คือยอมรับความเป็นจริงแล้วแก้ไข หรือจะดันทุรังต่อไป ผมอยากจะบอกความจริงง่ายๆ แบบนี้ครับ ถ้าคนของพรรคประชาธิปัตย์ดีจริง วันนี้ ส.ส.กรุงเทพ ของพรรคคงไม่สูญพันธุ์ และจำนวน ส.ส. ภาคใต้คงไม่หายไปกว่าครึ่ง และอีกหนึ่งคำถามที่ผมอยากจะถามนายวัชระ ก็คือ เกือบ 4 ปี ที่ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลชุดนี้ นายวัชระช่วยไปส่องหาผลงานสำคัญของรัฐมนตรีในโควต้าของพรรค ว่ามีอะไรที่เป็นเนื้อเป็นหนังบ้าง ซึ่งไม่น่าจะมีมากพอจนนายวัชระต้องไปอ้างผลงานของนายชวน หลีกภัย ซึ่งไม่ใช่รัฐมนตรีเอามาหากิน ถ้ามีผมจะได้ช่วยพูดให้อีกทางหนึ่ง” นายวัชระกล่าว

'โฆษก สอท.' ชี้ ความเห็นต่างทางการเมือง สร้างประโยชน์ให้ปชช. แนะ ทุกฝ่ายปรับปรุงการทำงาน-สร้างนโยบายให้ดีขึ้น

(17 ก.ย. 2565) นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวถึงโอกาส และทางรอดของประชาชนบนความขัดแย้งของนักการเมืองในปัจจุบัน ว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้เห็นวาทกรรมจากนักการเมืองหลายคน จากหลายพรรคการเมือง โดยบางส่วนอาจมีจุดเริ่มต้นมาจากการปาฐกถา ของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์  ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ที่งาน “อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง” ที่จัดขึ้นที่จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา มีการเสนอแนวความคิดและนโยบายที่จะปลุกความหวังให้ภาคใต้เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมภาคอื่น หรือจะทำให้อันดามันกลับมารุ่งเรืองกว่าในอดีต จนทำให้เกิดกระแสตอบโต้จากหัวหน้าพรรค และ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์หลายคน    

นายนริศ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทย อันมาจากจุดยืนทางการเมืองของพรรคที่แตกต่างกัน  อย่างกรณีของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง ของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่ได้รับการเห็นชอบจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการมุ่งเน้นเฉพาะกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น หรืออย่างกรณี ร่างพ.ร.บ.เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ภูมิใจไทยเสนอให้ไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งล้วนแล้วแต่ดูเหมือนจะสร้างความขัดแย้ง ทำให้มีการสร้างวาทกรรมที่ต่างฝ่ายต่างตอบโต้กันไปมา เราจะเห็นได้ว่าแต่ละพรรคแต่ละคนล้วนใช้เหตุผลเอ่ยอ้างถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักแทบทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเห็นต่างทางความคิด เป็นความเห็นขัดแย้งกันในทางการเมือง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top