Wednesday, 21 May 2025
พรรคก้าวไกล

'สมเกียรติ' ส.ส.ก้าวไกลโอด!! ตั้งใจอยู่ต่อ แต่พรรคไม่เลือก และส่ง 'โตโต้' เข้าเสียบแทน

ส.ส.เป้-สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ พรรคก้าวไกลโอด พรรคเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.สมัยหน้าไม่มีตนอยู่ด้วย ลั่นจะอยู่พรรคก้าวไกลต่อ แต่พรรคไม่เลือกผม ไม่ได้ให้โอกาสผมไปต่อ หลังพบส่ง 'โตโต้' การ์ดวีโว่ม็อบสามนิ้วลงสมัครแทน

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 65 เพจเฟซบุ๊ก 'สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ - ส.ส.เป้ เขตบางนาและเขตพระโขนง' ของนายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ได้มีการโพสต์ข้อความหลังจากพรรคก้าวไกลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหลังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะหมดวาระในปี 2566 แล้วปรากฏว่าเขตพระโขนงส่ง นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ 'โตโต้' อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ และแกนนำกลุ่มการ์ดที่เรียกตัวเองว่า 'วีโว่' ในการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าม็อบราษฎร หรือม็อบสามนิ้ว

โดยนายสมเกียรติ ได้ระบุว่า...วันนี้พรรคก้าวไกลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่มีผมรวมอยู่ด้วยครับ

มีหลายๆ คนเคยบอกผมมานานแล้วว่าพรรคจะไม่ส่งผมลงในสมัยหน้า ทั้งคนในพรรคและต่างพรรค (ไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไง) ผมก็ฟังไว้แต่ไม่ได้เชื่อสักเท่าไหร่ ก็ทำงานของผมไปเรื่อยๆ

เพราะคิดว่าจะมีเหตุผลอะไรที่พรรคจะไม่ส่งผม คิดไม่ออกจริงๆ แล้วก็บอกเขาไปอย่างนั้นจริงๆ

ผมได้รับแจ้งจากผู้บริหารพรรคอย่างเป็นทางการเมื่อคืนวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาครับ ว่าทางกรรรมการบริหารพรรคได้มีมติแล้วว่าจะไม่ส่งผมลง ส่วนเหตุผล ขอให้สอบถามกับทางพรรคครับ เดี๋ยวผมสื่อสารผิดหรือคลาดเคลื่อนครับ

ส่วนว่าที่ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลที่จะลงในเขตบางนา-พระโขนง ผมก็เพิ่งจะรู้วันนี้ตอนเปิดตัวครับ

ยังไง ส.ก.โต้ง ฉัตรชัย หมอดี (เขตบางนา) และ ส.ก.หนุ่ม สราวุธ อนันต์ชล (เขตพระโขนง) ก็ยังสังกัดพรรคก้าวไกล ฝากสนับสนุนต่อไปด้วยครับ

ทางพรรคเองได้มาแจ้งกับ ส.ก.โต้ง และ ส.ก.หนุ่มแล้วเหมือนกัน ที่จะไม่ส่งผมลง ส.ส.เขตบางนา-พระโขนง หลังจากที่ได้แจ้งยืนยันกับผมแล้ว

ส่วนอนาคตทางการเมืองของผม ตอนนี้ก็ยังเป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร (เขตบางนา-พระโขนง) พรรคก้าวไกลอยู่ แค่พรรคไม่ได้ส่งลงต่อสมัยหน้า และก็จะทำงานต่อไปสม่ำเสมอเหมือนเดิม อาจจะขอลาพักผ่อนตอนปิดสมัยประชุมบ้าง ซึ่งหลังจากสัปดาห์หน้าก็ปิดสมัยประชุมแล้วครับ

ผมคิดว่าอยากใช้ประสบการณ์ที่ได้ทำงานเป็น ส.ส. 3 ปีกว่า ทำงานการเมืองต่อครับ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประชาชนในพื้นที่เขตบางนา-พระโขนง ว่าจะให้โอกาสหรือเปล่า

แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคไหน ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย เพราะรอพรรคก้าวไกลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางนา-พระโขนง จริงๆ ก่อน ว่ามีคนมาแทนผมแล้วจริงๆ

สรุปว่า ผมตั้งใจจะทำงานการเมืองต่อกับพรรคก้าวไกล แต่พรรคไม่เลือกผม ไม่ได้ให้โอกาสผมไปต่อกับพรรคครับ

ผมก็เข้าใจครับ การเมืองก็เป็นแบบนี้ อย่างที่เขาพูดกัน อนาคตจะเป็นอย่างไรผมก็ยังไม่ทราบ ยอมรับว่าผิดหวัง แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไปครับ

สำหรับนายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ เกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2522 ปัจจุบันอายุ 43 ปี จบการศึกษาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 กระแสพรรคอนาคตใหม่ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังฟีเวอร์ ส่งผลทำให้ นายสมเกียรติชนะ น.ส.จักรีรัตน์ แสงวารี จากพรรคพลังประชารัฐ เกือบ 6,000 คะแนน ส่วนนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนมาเป็นอันดับสาม

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2565 นายสมเกียรติถูกโจมตีกล่าวหาว่าเป็นงูเห่าสีส้ม เพราะมีเพจเฟซบุ๊กหนึ่งโพสต์ข้อความ “หนูเปล่านะ เขามาเอง” พร้อมแนบรูปกลุ่มอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ทำให้นายสมเกียรติออกมาปฏิเสธ โดยระบุว่าเมื่อสองปีก่อนมีข่าวว่าตนอยู่ในกลุ่มที่จะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย เคยออกมาปฏิเสธแล้ว ตั้งแต่นั้นมาตนได้รับผลกระทบความเสียหาย ชาวบ้านในพื้นที่ยังเข้าใจผิดว่าตนย้ายพรรคไปแล้ว

'วิโรจน์' ชี้ แค่ขุดลอกคูคลองไม่เพียงพอแก้ปัญหาน้ำ แนะ!! ในปีงบฯ หน้าต้องเร่งปรับปรุง 'อุโมงค์ระบายน้ำ' 

(11 ก.ย. 65)​ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้

น้ำท่วม กทม. แก้แค่เส้นเลือดฝอยเอาไม่อยู่ ต้องทะลวงเส้นเลือดใหญ่ด้วย

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ในปี 2565 นี้ นั้นเกิดจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำที่มีอยู่ ซึ่งแตกต่างจากปี 2554 ที่เกิดจากน้ำเหนือที่หลากลงมาจากการพายุที่เข้าประเทศไทยถึง 5 ลูก โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดปี 2565 น่าจะพอๆ กับ ปี 2564 (ปี 65 น้อยกว่าปี 64 อยู่เล็กน้อย) แต่น่าจะมากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 30 ปี

ที่ผ่านมา ส.ก.ก้าวไกล ได้ติดตาม และกำกับการตระเตรียมระบบระบายน้ำของ กทม. อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าฝ่ายบริหารก็พยายามเร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำอย่างเต็มที่ และในหลายพื้นที่ก็พบปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน เนื่องจากไม่ได้ลอกท่อมานาน

ผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังเป็นอย่างดี และยืนยันว่าประชาชนสมควรที่จะไม่พอใจ และติติงระบบระบายน้ำของ กทม. แต่ผมคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะกล่าวโทษผู้ว่าที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือน

สิ่งหนึ่งต้องยอมรับกันตรงๆ ก็คือ ศักยภาพในการระบายน้ำของ กทม. นั้นมีปัญหาจริงๆ และลำพังแค่การลอกท่อระบายน้ำ ที่เป็นเส้นเลือดฝอย นั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะในหลายพื้นที่แม้ว่า ส.ก.ก้าวไกล จะได้เร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำไปแล้ว มีเครื่องสูบน้ำไปประจำการแล้ว แต่น้ำก็ยังระบายได้ช้า และท่วมขังอยู่

น้ำที่ท่วมขัง ณ วันนี้ เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า แค่เส้นเลือดฝอย เอาไม่อยู่แน่ครับ

'พิธา' เปิดตัว 'ทนายเคน' ว่าที่ผู้สมัครส.ส. จ.แพร่ ลั่น!! พร้อมผลักดัน 'สุราก้าวหน้า-ทวงคืนผืนป่า' ให้ปชช.

'พิธา' นำทีมเยือนแพร่สร้างการเมืองแห่งความหวังอีกครั้ง ส่ง 'ทนายเคน ติรานนท์' ทนายอาสา ฉายา 'ทนายคนจน' ที่ทำงานช่วยเหลือประชาชนมายาวนานเป็นว่าที่ผู้สมัครจังหวัดแพร่ มอบหมายดันแพร่เป็น 'เมืองหลวงสุราก้าวหน้า - ทวงคืนผืนป่าให้ประชาชน - ภาษีสำหรับดูแลป่า'

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เดินทางมาที่แพร่ครั้งนี้มีความฝังใจ ไม่ใช่เพราะลาบอร่อย เหล้ามีรสชาติดี หรือพี่น้องประชาชนกว่า 127,711 คน หรือครึ่งจังหวัด ให้ความไว้วางใจเลือกเราในสมัยที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ แต่สิ่งที่ฝังใจมากสุดนั้นคือ จ.แพร่ คือที่สุดท้ายที่เรามาก่อนที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เพราะตอนนั้นเราอยากทำ 3 เรื่องสำคัญให้เกิดขึ้นในจังหวัดแพร่ คือ ทำให้ จ.แพร่เป็นเมืองหลวงของสุราก้าวหน้า การมีเบี้ยดูแลป่าสำหรับชาวแพร่ในฐานะเป็นผู้ดูแลทำให้มีพื้นที่ป่าไม้เป็นอันดับสองของประเทศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของคนแพร่ 

“เราเชื่อว่าถ้าสิ่งเหล่านี้สามารถปลดล็อกได้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพี่น้องชาวแพร่ได้อย่างมหาศาล และถึงวันนั้น ลูกหลานคนแพร่ไม่ต้องไปหางานในกรุงเทพฯ หรือต่างประเทศ แต่ทุกคนจะกลับมาทำงานอยู่ที่บ้านเกิดอย่างภาคภูมิใจเพราะมีสินค้าที่ดีที่สุดที่ส่งขายไปทั่วโลก”

"สิ่งที่เราอยากมุ่งมั่นอยากทำให้เกิดขึ้นใน จ.แพร่ นั้นยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุราก้าวหน้า เบี้ยดูแลป่า และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นี่ยังคงเป็นสิ่งที่เรามุ่งมั่นจะทำให้กับชาวแพร่ รวมถึงปัญหาเรื่องผลกระทบจากเหมืองแร่ที่พี่น้องชาวแพร่ประสบอยู่ก็ต้องเป็นสิ่งที่ต้องเดินหน้าให้ได้รับการแก้ไข เรายังคงมุ่งมั่นที่จะทลายทุนผูกขาด ปรับโครงสร้างประเทศ ซึ่งไม่ใช่เพียงนโยบายแบบปะผุ แต่เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง แม้ทั้งหมดนี้จะยังไม่เกิดขึ้น แต่เราก็ยังมีความหวังว่าทำได้ นี่คือการเมืองแห่งความหวัง การเมืองที่เป็นเรื่องของทุกคน และเราหวังว่าพี่น้องชาวแพร่จะลุกขึ้นมาทีละคน บอกกันว่าพอกันทีเผด็จการ พอกันทีการเมืองแบบเดิมๆ และให้ความไว้วางใจเราเหมือนที่เคยไว้วางใจพรรคอนาคตใหม่ โดยมี ‘ทนายเคน’ ติรานนท์ เวียงธรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.แพร่ ที่จะมาตั้งคำถามว่าสุราเถื่อนหรือว่ากฎหมายเถื่อน คนนี้ที่จะมาร่วมต่อสู้กับพี่น้องเรื่องเหมืองแร่ และถ้าเขาได้เข้าไปในสภา ถ้าอยากให้แพร่ก้าวหน้า ต้องกาก้าวไกล" พิธา กล่าว

ด้าน อภิชาติ ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ในฐานะประธานกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เดินทางมาที่ จ.แพร่ ในวันนี้ นอกจากเพื่อร่วมกิจกรรมของพรรคแล้ว ยังมาในนามของ กมธ.การที่ดินฯ เพื่อติดตามปัญหาเรื่องผลกระทบจากเหมืองแรไบท์ ที่พี่น้อง จ.แพร่ ประสบอยู่ และได้เคยเดินทางไปยื่นหนังสือต่อพรรคก้าวไกล มี ส.ส.ของพรรคตั้งกระทู้ถาม จนในที่สุดก็ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ กมธ.ที่ดินฯ เพื่อให้มาช่วยแก้ไขปัญหานั้น วันนี้จึงเดินทางมาดูในพื้นที่จริง และมีเวทีสอบถามจากพี่น้องประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อสรุปว่า จะมีการส่งเรื่องไปถึงกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่ต่อไป โดยจะมีการตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดที่ประชาชนมีส่วนร่วมดำเนินการสำหรับในส่วนของพื้นที่สัมปทานแปลงแรก ขณะที่เรื่องของแปลงใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการขอสัมปทานของนายทุนนั้น เราจะมีหนังสือถึงกระทรวงอุตสาหกรรมให้ทบทวนยกเลิก เพราะว่าผู้รับสัมปทานนั้นทำผิดเงื่อนไข พร้อมกันนี้ก็จะชี้ให้เห็นถึงปัญหาของเดิมที่ยังแก้ไม่จบ ซึ่งถ้าของใหม่เกิดขึ้นอีกปัญหาของประชาชนก็จะยิ่งหนักขึ้นอีกอย่างแน่นอน

'พิธา' มาเหนือ!! เปิดตัว 4 ผู้สมัครลำปางใต้นิยามดินน้ำลมไฟ พร้อมชูวิสัยทัศน์ เปลี่ยน ศก.สีเทา ให้เป็น ศก.สีขาว

'พิธา' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง 4 เขต ชูวิสัยทัศน์ เปลี่ยนลำปางจากเศรษฐกิจสีเทาของโรงไฟฟ้าเป็นเศรษฐกิจสีขาว สร้างอุตสาหกรรมดูแลผู้สูงวัย-ผู้ป่วยติดเตียง-เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมาในนามพรรคอนาคตใหม่ เราจะไม่มี ส.ส.เขต จ.ลำปาง ทว่าคะแนนเสียงในจังหวัดลำปางเราได้ความไว้วางใจจากประชาชนกว่า 25% ของคะแนนเสียงทั้งจังหวัด ซึ่งทุกคนอยู่ในใจเราตลอดเวลา และอยากที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับที่นี่ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชื่อ 'เศรษฐกิจสีขาว' คือเปลี่ยนเศรษฐกิจสีเทาที่เป็นควันพิษจากโรงไฟฟ้า ซึ่งทำลายสุขภาพของพี่น้อง ให้เป็นเศรษฐกิจสีขาวเรื่องการเป็นเมืองที่ดูแลสังคมผู้สูงวัยของประเทศไทยและของโลกนี้ เพราะ จ.ลำปาง มีผู้สูงอายุสูงที่สุดในประเทศไทย สังคม ไม่มีจังหวัดไหนที่เหมาะสมที่จะทุ่มงบประมาณ ทุ่มทรัพยากรมาดูแลพ่อแก่แม่เฒ่าเท่าที่ลำปาง สร้างอุตสาหกรรมดูแลผู้สูงอายุ ทำให้จังหวัดลำปางเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงวัย และเมื่อเราดูแลผู้สูงวัยที่ลำปางได้ ก็จะดูแลผู้สูงวัยในประเทศไทยได้ ดูแลผู้สูงวัยในเอเชียได้ และดูแลผู้สูงวัยในโลกนี้ได้ เราจะเปลี่ยนสิ่งที่คนคิดว่าเป็นวิกฤตให้เป็นโอกาสคือบำนาญผู้สูงอายุ 3,000 บาทที่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลหน้าของพรรคก้าวไกล

"อีกอย่างที่อยู่ในใจของผมและพรรคตลอดเวลาคือเรื่องของผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่ได้รับการดูแล พรรคก้าวไกลเสนองบประมาณสำหรับผู้ป่วยติดเตียง 9,000 บาทต่อเดือน และยังรวมถึงลูกหลานที่ทำงานไม่ได้เพราะต้องดูแลผู้ป่วย รัฐต้องมีเงินเดือนสำหรับผู้ดูแลด้วย นี่คือวิสัยทัศน์ของเราที่จะเปลี่ยนเศรษฐกิจสีเทาให้เป็นเศรษฐกิจสีขาว และถ้าเราสามารถทำที่ลำปางสำเร็จ ก็จะขยายไปสู่ระดับโลก ให้คนสูงวัยที่มีเงินมากมายมหาศาลในโลกใบนี้มาอยู่ที่ จ.ลำปาง สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดแห่งนี้ และเมื่อรวมกับเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การนำศิลปวัฒนธรรมของพื้นที่มีมาใช้ ก็จะทำให้ก้าวไปได้อีกไกลมาก ๆ" พิธา กล่าว 

พิธา กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์นี้ไม่สามารถเป็นไปได้ถ้าเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานยังไม่ดีพอ วันนี้จึงมาเพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 4 เขตของพรรคก้าวไกล จ.ลำปาง ที่ขอให้นิยามว่าเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ ของลำปาง ได้แก่...

ดิน คือ ชลธานี เชื้อน้อย ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 ผู้คอยเกาะติดปัญหาของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ไม่ว่าจะเรื่องการอพยพคนออกจากพื้นที่ การที่ประชาชนเอาโฉนดที่รัฐออกให้เอาไปค้ำประกันธนาคารไม่ได้ รวมถึงการประชาชนโดนมติคณะรัฐมนตรีหลอกเช่าที่ที่หมดอายุแล้วเป็นต้น 

ขณะที่ น้ำ คือ รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ว่าที่ผู้สมัครเขต 4 เป็นคนที่ติดตามปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง และมีความมุ่งมั่นตั้งใจแก้ปัญหาเรื่องน้ำประปา ผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.น้ำประปาสะอาด 

ต่อมา ลม คือ ทิพา ปวีณาเสถียร ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 นี่คือลมแห่งการเปลี่ยนแปลง คือคนที่ไว้ใจได้ เพราะสู้มาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ แพ้เพียง 2,000 คะแนนเท่านั้น และครั้งนี้จะเป็นสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลงของลำปาง 

และสุดท้าย ไฟ คือ กฤตภพ สติดีนิติวงศ์ ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 คนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งจัดกิจกรรมวิ่งเปลี่ยนงาว บนถนนที่สภาพผุพังเพราะมีปัญหาเรื่องป่าทับที่ นี่คือคนที่จะมาพัฒนาเรื่องการเกษตร เรื่องป่าชุมชน เพราะเป็นลูกหลานของเกษตรกร 

ทั้ง 4 คนนี้คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่จะทำให้ลำปางก้าวหน้า และการจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องกาพรรคก้าวไกล 

ชลธานี เชื้อน้อย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เปิดเผยว่า ความตั้งใจของตนเองที่เป็นมาตลอดคืออยากกลับมาอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน และเมื่อมาก็ได้พบว่าคนที่บ้านเราไม่มีทุนในการประกอบอาชีพ มองว่าเรื่องที่ดิน เรื่องเอกสารสิทธิ์ จะเป็นการสร้างทุนต่อยอดให้ได้ ทำให้พ่อแก่แม่เฒ่าได้พบกับลูกหลานที่กลับมาทำมาหากินที่บ้านเกิด โดยตั้งใจที่จะทำให้แม่เมาะเป็นต้นแบบพัฒนาทั้งจังหวัด เพราะถ้าสามารถออกเอกสารสิทธิ์ที่แม่เมาะได้ ทั้งจังหวัดลำปางต้องออกเอกสารสิทธิ์ได้  ขณะที่ รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 กล่าวถึง ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาที่ไม่สะอาดว่าเป็นปัญหาแทบจะทุกพื้นที่ใน จ.ลำปาง จึงอยากเข้าไปผลักดัน พ.ร.บ.น้ำประปาสะอาด ให้มีการจัดสรรงบสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทำประปาหมู่บ้านที่ดีขึ้นได้

'พิธา' พูดคุยกลุ่ม 'ข้าราชการบำนาญ' ย้ำ!! ไม่มีอคติ - ไม่เคยเสนอตัดสวัสดิการ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวพร้อมสหพันธ์ข้าราชการบำนาญแห่งประเทศไทยที่ได้เข้ามาแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอแนวทางสวัสดิการมั่นคงที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ห่วงการบริหารงบรัฐบาลที่ผ่านมาทำประเทศไม่มีเงินจ่ายบำนาญในอนาคต

โดยพิธากล่าวว่าที่ผ่านมามีการบิดเบือนว่าพรรคก้าวไกลต้องการตัดเงินบำนาญข้าราชการ ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาในช่วงการพิจารณางบประมาณในวาระ 1 และได้มีการส่งข้อความกันทางไลน์ในวงกว้างว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่จะลดเงินบำนาญหรือไม่ และได้มีคำถามจากเครือข่ายข้าราชการบำนาญจากทั่วประเทศถามมายังพรรคก้าวไกลว่าพรรคก้าวไกลจะปรับลดเงินบำนาญตามที่มีการปั่นกระแสกันในไลน์หรือไม่? ซึ่งในครั้งนั้นผมก็ได้ส่งจดหมายชี้แจงใน 3 ประเด็นด้วยกัน คือ

หนึ่ง พรรคก้าวไกลไม่มีอคติกับข้าราชการบำนาญ กลับกัน เราเข้าใจและเห็นใจ มีหลายคนที่เป็นข้าราชการบำนาญมาในวันนี้ด้วย

สอง เรายืนยันว่า บำนาญไม่ได้เป็นปัญหา แต่การหารายได้ของประเทศที่น้อยลง และไขมันในงบที่ตัดไม่ลงเป็นปัญหา ซึ่งถ้าเราไม่ชี้ให้เห็นตอนนี้ อีก 8 ปีจะมีปัญหาจริง ๆ เราเตือนตั้งแต่ ยังไม่สายเกินไป

'ก้าวไกล' แถลงโต้!! กกพ. ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ยันค่าไฟต่ำกว่า 4 บาท/หน่วย ได้ ถ้าหยุดเอื้อกลุ่มทุน

จากกรณีที่ข่าวหลายสำนักได้ลงข่าวที่ กระทรวงพลังงาน หรือ สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้พูดว่า “ค่าไฟ 4 บาท/หน่วย ในประเทศไทยจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว” 

วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาตอบโต้ว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องขอแถลงข่าวเพื่อให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารกับประชาชน และยืนยันว่าค่าไฟฟ้าสำหรับประชาชนต่ำกว่า 4 บาท/หน่วย เป็นไปได้ ถ้ารัฐบาลเปลี่ยนแนวนโยบาย จากการบริหารของรัฐบาลที่เห็นถึงผลประโยชน์ของประชาชน มากกว่า กลุ่มทุนพลังงาน

วรภพกล่าวว่า ตามข่าวนั้น ทางกกพ. ให้ข้อมูลที่ถูกต้องอยู่เรื่องนึง ที่ว่า ราคาต้นทุนก๊าซจากอ่าวไทยนั้นมีราคาที่ถูกอยู่ที่ 2-3 บาท/หน่วย และราคาก๊าซนำเข้า หรือ LNG นั้นมีแนวโน้มที่จะมีราคาแพงต่อเนื่องอยู่ที่ 10 บาท/หน่วย นั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเพียงแต่ว่า ปริมาณก๊าซจากอ่าวไทยนั้น ที่จริงแล้วมีปริมาณที่เพียงพอสำหรับการผลิตไฟฟ้า ข้อมูลครึ่งปีแรกของ 2565

"จากกระทรวงพลังงานเองก็ยืนยันข้อมูลที่ว่า ปริมาณความต้องการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 2,600 ล้านลบ.ฟุต ต่อวัน ซึ่งข้อมูลการผลิตก๊าซจากอ่าวไทย นั้นมีการผลิตได้ถึง 2,756 ล้านลบ.ฟุต ต่อวัน ซึ่งแสดงว่าก๊าซจากอ่าวไทยที่มีราคาถูก 2 บาท/หน่วยนั้นเพียงพอกับการผลิตไฟฟ้าใช้ในประเทศ" วรภพกล่าว

วรภพกล่าวขยายความต่อว่า เป็นเพราะนโยบายรัฐที่ปล่อยให้กลุ่มทุนพลังงานของไทย สามารถนำก๊าซจากอ่าวไทยที่มีราคาถูกนั้น ไปสร้างผลกำไร ด้วยการนำก๊าซจากอ่าวไทยที่มีราคาถูกไปขายเป็นเชื้อเพลิงราคาแพงให้กับอุตสาหกรรมได้ก่อนถึง 811 ล้านลบ.ฟุต ต่อวัน และ นำไปขายเป็นวัตถุดิบปิโตรเคมีในเครือ อีก 804 ล้านลบ.ฟุต ต่อวัน หรือ รวมแล้ว 1,615 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน 

'เท่าพิภพ' เฮ!! ฉลุยร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าวาระแรก หวังวาระต่อไปทุกคนช่วยโหวตผ่าน

เท่าพิภพ ขอบคุณทุกฝ่าย ปิดฉากสมัยประชุม พร้อมกับร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับเสร็จสมบูรณ์ หวังวาระต่อไปทุกคนโหวตผ่านฉลุย

เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พร้อมด้วย คริส โปตระนันทน์ โฆษกกรรมาธิการ ได้เเถลงข่าวเนื่องในโอกาสที่ร่างพ.ร.บ. ได้พิจารณาเสร็จสิ้นว่า "ผมยอมรับว่ามันเป็นสามเดือนที่เหนื่อยมาก เเละเป็นวันที่เหลือเชื่ออย่างยิ่งที่ร่างพรบ.ผ่านมาได้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ก้าวใกล้ความฝันได้อีกก้าวหนึ่ง และผลงานของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นผลงานของทุกพรรคการเมืองเเละสภาเเห่งนี้ที่ช่วยผลักดันในชั้นกรรมาธิการให้ร่างกฎหมายออกมามีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นเเละคิดว่ารอบโจทย์ข้อกังวลในหลายๆเรื่องของสมาชิกสภาที่ได้อภิปรายไว้ในวาระที่ 1" เท่าพิภพกล่าว

"ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ช่วยส่งเสียงรณรงค์เเละสนับสนุน ประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการทุกท่าน ที่เเม้จะมีข้อถกเถียงกันในหลายประเด็นเเต่สุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นกระบวนการกรรมาธิการของสภาคือที่ที่เปิดกว้างให้ได้ถกเถียงเเต่สุดท้ายก็หาจุดร่วมกันได้" 

ก่อนเท่าพิภพจะกล่าวต่อไปว่าในอนาคตตนมั่นใจและไม่ห่วง และมั่นใจมากกว่าวาระแรก "โดยพรบ.จะเข้าพิจารณาในวาระที่ 2 และวาระ 3ในอนาคต ผมเองไม่ได้ห่วง เเต่กลับมั่นใจมากขึ้นกว่าตอนวาระที่ 1 เพราะเชื่อว่ากรรมาธิการจากทุกพรรคจะไปอธิบายถึงเนื้อที่ได้พิจารณามาอย่างรอบคอบเเละเป็นประโยชน์ที่สุดกับประชาชนคนตัวเล็ก ที่พวกเขาจะได้รับโอกาสทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากการปลดล็อคสุราก้าวหน้าครั้งนี้ แต่ก็ยังต้องจับดูหากผ่านสภาผู้แทนฯ ไปเเล้ว ขั้นตอนต่อไป วุฒิสภาจะต้องลงมติเห็นชอบต่อไป ซึ่งผมขอวิงวอนให้ประชาชนจับตาว่าฝั่งจะมีสมาชิกวุฒิสภาหรือผู้ใดจะล้มร่างกฎหมายของประชาชนหรือไม่" เท่าพิภพกล่าวถึงความสำคัญของก้าวต่อไปของกฎหมายฉบับดังกล่าว

'พิธา - ศิริกัญญา' เข้าพบกลุ่มไฟฟ้าฯ สอท. ร่วมหาแนวทางยกระดับเทคโนโลยีประเทศไทย

ในวันที่ 20 กันยายน 2565 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลในฐานะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจของสภาผู้แทนราษฎรได้เข้าพบ ดร.ขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยกระดับเทคโนโลยีของประเทศ

พิธากล่าวว่า หลังจากปิดสมัยประชุมสภาตนก็ได้นั่งรถไฟไปพบกับมุขมนตรีและสภาอุตสาหกรรมของปีนัง เพื่อถอดบทเรียนความสำเร็จของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ต่อเนื่องกันในวันนี้จึงได้ขอเข้าพบประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ฯ ซึ่งภาคอิเล็กทรอนิกส์เป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญกับประเทศ เนื่องจากมีมูลค่าการส่งออกกว่า 2.2 ล้านล้านบาท และจ้างงานถึง 750,000 คน ในวันนี้จึงได้มาหารือถอดบทเรียนการพัฒนาอุตสาหกรรมตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา และทำให้ได้เข้าใจถึงสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมในไทยต้องสู้มาตลอดหลายสิบปี ในเรื่องเช่น

‘ศิริกัญญา’ ชี้ ปิดประตู ควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’ ย้ำชัด ด่านสุดท้าย เหลือแค่กสทช. ‘กล้า’ ฟันธง

"ศิริกัญญา" ส.ส.ก้าวไกล ชี้ แม้ความเห็นกฤษฎีกาจะคลุมเครือ แต่ยังตีความได้ว่าอำนาจพิจารณาอนุญาตควบรวมทรู-ดีแทค อยู่ในมือ กสทช. เต็มร้อย พบพิรุธที่ปรึกษาอิสระ ทำรายงานศึกษามิชอบด้วยกฎหมาย ขาดความเป็นกลาง

วันที่ (21 ก.ย. 65) กรณีที่มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับการตีความอำนาจ กสทช. โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ในการอนุญาตหรือไม่อนุญาตควบรวมทรู-ดีแทค ซึ่งหลายสำนักข่าวได้ให้ข่าวไปในทิศทางว่า กสทช. คกก.กฤษฎีกา ปลดล็อกให้การควบรวมทรู-ดีแทค ทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตนั้น ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นไปในทิศทางตรงข้ามว่า ความเห็นของกฤษฎีกาครั้งนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า อำนาจในการอนุญาตควบรวมกิจการนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ กสทช. อย่างเต็มที่

“เอกสารความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาครั้งนี้ ตีความแบบที่ต้องตีความอีก และเต็มไปด้วยความคลุมเครือ ทำให้คนอ่านสับสนและต้องมานั่งตีความกันหลายชั้นว่าตกลง กสทช. มีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้เกิดการควบรวมหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่คำถามของกสทช.นั้นตรงไปตรงมา”

ถึงจะกล่าวได้คลุมเครือ แต่เอกสารฉบับนี้มีสาระสำคัญที่ต้องพิจารณา 2 เรื่อง

หนึ่ง คือคณะกรรมการกฤษฎีกาบอกอย่างชัดเจนว่า เรื่องส่วนใหญ่ที่ กสทช. ถามไปนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดุลยพินิจตามกฎหมาย กสทช. คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่อาจให้ความเห็นในส่วนอำนาจหน้าที่ กสทช. อันเป็นองค์กรอิสระได้

สอง คณะกรรมการกฤษฎีกายังเขียนอย่างชัดเจนว่าเพื่อกำกับดูแลมิให้การรวมธุรกิจมีผลเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันจึงให้อำนาจ กสทช. กำหนดเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะตามประกาศ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้อ้างถึง ข้อ 8 ของประกาศปี 2549 และข้อ 9 ของประกาศปี 2561 ส่วนหนึ่งของการให้ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่า

“...เพราะในกรณีที่เข้าข่ายตามข้อ 8 ของประกาศฉบับปี 2549 กสทช.ก็มีอำนาจอนุญาตตามข้อ 8 นั้นได้อยู่แล้ว”

เนื้อความในข้อ 8 ตามประกาศปี 2549 พูดถึงการถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกัน โดยการเข้าซื้อหุ้นเกินกว่าร้อยละสิบ ของผู้รับใบอนุญาตรายอื่น หรือการเข้าซื้อสินทรัพย์ ไม่ว่าจะกระทำโดยทางตรงหรือทางอ้อมผ่านตัวแทนจะกระทำไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก กสทช.

‘ส.ส.สมเกียรติ-ก้าวไกล’ ตอกกลับ 'ธนาธร' เคยคุยกันแค่ครั้งเดียว และไม่เคยหยามน้ำใจใคร

จากกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส.บางนา-พระโขนง ของพรรคก้าวไกลเมื่อไม่นานมานี้นั้น

ล่าสุด (21 ก.ย. 65) นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ก็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงต่อกรณีที่นายธนาธรกล่าวถึงหลายประเด็น ว่า…

จากที่คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวถึงประเด็นผม และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางนา-พระโขนง จากพรรคก้าวไกลในสมัยหน้านั้น 

ผมขอชี้แจงว่า ทางคุณธนาธร ได้โทรมาสอบถามผมในช่วงตอนพรรคอนาคตใหม่ จะถูกยุบหรือถูกยุบแล้ว (จำไม่ได้ ไม่แน่ใจแต่อยู่ในช่วงนั้น) เพียง 1 ครั้ง ว่าจะไปต่อ กับพรรคไหม

ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมขอดูก่อนว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ในพรรคใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมควรรู้ถึงอนาคตของตัวเองและความเป็นไปของพรรคใหม่ที่จะไปอยู่ต่อด้วย

ส่วนที่คุณธนาธร ระบุว่า เรามีการพูดคุยกันหลายครั้ง ขอชี้แจงว่าในช่วงนั้น ผมและคุณธนาธร ได้พูดคุยกันแค่ครั้งเดียวครั้งนั้นเท่านั้น

และหลังจากนั้นผมก็เข้าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล พร้อมกับเพื่อน ๆ อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top