'วิโรจน์' ชี้ แค่ขุดลอกคูคลองไม่เพียงพอแก้ปัญหาน้ำ แนะ!! ในปีงบฯ หน้าต้องเร่งปรับปรุง 'อุโมงค์ระบายน้ำ' 

(11 ก.ย. 65)​ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้

น้ำท่วม กทม. แก้แค่เส้นเลือดฝอยเอาไม่อยู่ ต้องทะลวงเส้นเลือดใหญ่ด้วย

ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ในปี 2565 นี้ นั้นเกิดจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำที่มีอยู่ ซึ่งแตกต่างจากปี 2554 ที่เกิดจากน้ำเหนือที่หลากลงมาจากการพายุที่เข้าประเทศไทยถึง 5 ลูก โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดปี 2565 น่าจะพอๆ กับ ปี 2564 (ปี 65 น้อยกว่าปี 64 อยู่เล็กน้อย) แต่น่าจะมากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 30 ปี

ที่ผ่านมา ส.ก.ก้าวไกล ได้ติดตาม และกำกับการตระเตรียมระบบระบายน้ำของ กทม. อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าฝ่ายบริหารก็พยายามเร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำอย่างเต็มที่ และในหลายพื้นที่ก็พบปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน เนื่องจากไม่ได้ลอกท่อมานาน

ผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังเป็นอย่างดี และยืนยันว่าประชาชนสมควรที่จะไม่พอใจ และติติงระบบระบายน้ำของ กทม. แต่ผมคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะกล่าวโทษผู้ว่าที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือน

สิ่งหนึ่งต้องยอมรับกันตรงๆ ก็คือ ศักยภาพในการระบายน้ำของ กทม. นั้นมีปัญหาจริงๆ และลำพังแค่การลอกท่อระบายน้ำ ที่เป็นเส้นเลือดฝอย นั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะในหลายพื้นที่แม้ว่า ส.ก.ก้าวไกล จะได้เร่งรัดการลอกท่อระบายน้ำไปแล้ว มีเครื่องสูบน้ำไปประจำการแล้ว แต่น้ำก็ยังระบายได้ช้า และท่วมขังอยู่

น้ำที่ท่วมขัง ณ วันนี้ เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า แค่เส้นเลือดฝอย เอาไม่อยู่แน่ครับ

ผมคิดว่าสิ่งที่ผู้ว่า กทม. ต้องเร่งทำในปีงบประมาณหน้า คือ การทะลวงเส้นเลือดใหญ่ ควบคู่กับการดูแลเส้นเลือดฝอย ซึ่งหมายถึง การขุดลอก และขยายคูคลอง การปรับปรุงระบบประตูน้ำ และระบบปั๊มน้ำ ของทั้ง 3 ทาง ได้แก่ ทางเหนือ สถานีสูบน้ำคลองเปรมใต้ลงคลองรังสิต ทางด้านตะวันตก สถานีสูบน้ำกรมชล ผ่านคลองบ้านใหม่ บางเขน บางชื่อ สามเสน ลงแม่น้ำเจ้าพระยา และทางด้านใต้ คลองผดุงกรุงเกษม เพื่อให้มวลน้ำสามารถถูกลำเลียงไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไหลออกทะเลอย่างเร็วที่สุด

ที่สำคัญคือต้องเร่งรัดการก่อสร้างเขื่อน เพราะการที่ไม่มีเขื่อนทำให้การขุดลอกคูคลองเป็นไปอย่างล่าช้า และพอคูคลองตื้นเขิน ก็ทำให้คลองมีปริมาตรในการเก็บกักน้ำที่จำกัด และระบบปั๊มน้ำก็ไม่สามารถเดินเครื่องได้อย่างเต็มที่

อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำนอกจากคูคลอง ก็คือ อุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งเป็นแนวคิดในการสร้างคลองใต้ดิน เพื่อเป็นทางลัดน้ำ จากการหารือกับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ผมได้รับการยืนยันว่าอุโมงค์ระบายน้ำนั้นเป็นระบบที่มีประโยชน์มาก เพียงแต่ กทม. ต้องเร่งปรับปรุงให้มันสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เท่านั้นเอง นี่จึงเป็นโจทย์สำคัญของผู้ว่า กทม. ในปีงบประมาณหน้า


ที่มา : https://www.facebook.com/photo?fbid=572977404618818&set=a.424755009441059
https://www.thaipost.net/x-cite-news/219409/