Sunday, 19 May 2024
พรรคก้าวไกล

'ส.ส.ก้าวไกล' ข้องใจ เหตุใดงบซ่อมถนน จ.บุรีรัมย์นำโด่ง งงหนัก!! หลายจังหวัดถูกตัดงบ ทั้งที่ถนนก็พังเหมือนกัน

สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มาตรา 15 งบประมาณกระทรวงคมนาคม 1.8 แสนล้านบาท ขอแปรญัตติปรับลด 5.5 % โดยระบุว่า ปัญหาในการจัดงบยังคงเป็นรูปแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา ทั้งที่ในวาระแรกและในชั้นกรรมาธิการก็ได้มีการชี้ให้เห็นปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่อมาสู่วาระ 2 ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะ กมธ.เสียงข้างมากไม่ฟังเหตุผล ไม่นำไปปรับปรุงแก้ไข สิ่งที่เกิดขึ้นยังคงเป็นเหมือนวาระแรกคือ 'บุรีรัมย์นำโด่ง' ได้งบในการซ่อมถนน โดยกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท มากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 4.29 เท่า ตามมาด้วยสุรินทร์ 3.58 เท่า ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ กมธ.ต้องตอบ และไม่ต้องอ้างว่ารัฐมนตรีตอบแล้ว เพราะท่านรัฐมนตรีตอบไม่ตรงที่ถาม เพราะถามงบซ่อมปีนี้ กลับตอบงบสร้างย้อนหลัง 10 ปี แถมเลือกมาให้ดูโดยเทียบบุรีรัมย์กับจังหวัดใหญ่ๆ อย่าง เชียงใหม่ อุดรธานี ถามเรื่องงบซ่อมถนน ซึ่งทั่วประเทศก็พังคล้ายกันหมด แล้วทำไมไปลงอยู่แต่กับที่บุรีรัมย์

"สิ่งที่เรากำลังพิจารณากันอยู่นี้คืองบพื้นฐาน ซึ่งคิดเป็น 32% ของงบประมาณทั้งหมดที่กระทรวงคมนาคมจะได้รับในปีนี้ ตาม 'แผนงานพื้นฐานด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน' มูลค่า 58,065 ล้านบาท และงบก้อนนี้จากวาระที่ 1 มาถึงวันนี้ในวาระที่ 2 ปรับลดไปเพียงแค่ 89 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.15% เท่านั้น โดยกรมทางหลวงปรับลด 0.07% ขณะที่กรมทางหลวงชนบทลด 0.15% และเมื่อไปดูในส่วนที่เป็นประเด็นปัญหาคือ งบซ่อมถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ปรากฏว่าถูกปรับลดไปเพียง 0.05% แถมไปตัดผิดที่ด้วย คือ บุรีรัมย์นำโด่งแต่ไม่โดนตัด แต่กลับไปตัดที่นครราชสีมา, ชลบุรี, ชัยภูมิ, นนทบุรี, บึงกาฬ, ราชบุรี, เลย, สตูล และขอนแก่น แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย เพราะตัดไปเพียง 0.05% จาก 4.06 หมื่นล้าน สำหรับงบซ่อมถนน"

'วาโย' อัด สธ. จัดงบให้ รพ.ไม่เป็นธรรม 'บุรีรัมย์' ได้มากกว่าเพื่อน 156 เท่า

'วาโย' อภิปรายการจัดสรรงบประมาณพัฒนาระบบสุขภาพโดยกระทรวงสาธารณสุข ชี้เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำกระจุกตัว พบโรงพยาบาลกลุ่ม 'เฉลิมพระเกียรติ ได้มากกว่าเพื่อน 1.5 เท่า ในลิสต์พบบุรีรัมย์ตามคาด ได้มากกว่าเพื่อน 156 เท่า ถึง 598.5 ล้านบาท

วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการผู้สงวนความเห็น ในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วาระ 2 มาตรา 25 กระทรวงสาธารณสุข ได้อภิปรายขอตัดลดงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขลง 7.5%

โดยวาโยระบุว่างบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข 1.2 แสนล้านบาท แม้จะดูเหมือนเยอะ แต่ก็เป็นงบประมาณบุคลากรไปแล้วราว 1 แสนล้านบาท อีก 2 หมื่นล้านบาทที่เหลือ เป็นงบประมาณที่ใช้ในโครงการพัฒนาระบบสุขภาพประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นงบผูกพัน

ซึ่งในส่วนของงบประมาณโครงการพัฒนาระบบสุขภาพราว 2 หมื่นล้านบาทนี้ ส่วนที่เยอะที่สุดคืองบประมาณค่าดำเนินการ แต่รองลงมาคือค่าก่อสร้าง ที่มีสัดส่วนถึง 32%, การจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 15% และที่เหลือ 14% เป็นงบประมาณอุดหนุนในส่วนต่างๆ เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นต้น

วาโยอภิปรายต่อไปว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสังเกต คือค่าก่อสร้างโรงพยาบาลที่อยู่ในกลุ่ม 'เฉลิมพระเกียรติ' ได้งบประมาณมากกว่าโรงพยาบาลที่ไม่มีชื่อต่อท้ายมากกว่ากันถึง 1.5 เท่า

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขมีโครงการพัฒนาระบบสุขภาพโดยแบ่งเป็น 3 ประเภทโครงการ คือ โครงการพัฒนาระบบการแพทย์ปฐมภูมิและเครือข่ายระบบสุขภาพระดับอำเภอ, โครงการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพสู่ความเป็นมืออาชีพ และโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ

พิธา ลงพื้นที่ ชูโมเดล “ภูเก็ต NEXT” กระจายอำนาจ สร้างการพัฒนาที่ตกถึงมือประชาชน เชื่อคนใต้พร้อมเปิดใจเลือกพรรคก้าวไกลไปสร้างประเทศไทยที่ก้าวหน้า

ทันทีที่สภาพักการประชุม ทีมพรรคก้าวไกล นำโดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, รังสิมันต์ โรม, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล พร้อมด้วยทีมงาน ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ต่อทันทีที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเรียนรู้และค้นหาโมเดลที่จะเป็นศักยภาพการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้า กระจายความเจริญในทุกจังหวัดอย่างเต็มศักยภาพ

พิธา กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตที่ผมมาในวันนี้ สถานการณ์ต่างจากภูเก็ตที่ผมเคยมาก่อนหน้าจะเข้ามาทำงานการเมืองโดยสิ้นเชิง ภาคท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจภูเก็ตนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80% ในช่วงโควิดที่ผ่านมา พี่น้องเกษตรกรต้องเผชิญกับวิกฤตราคาปาล์ม-ยาง ที่แย่ตลอดยุค คสช. เมื่อราคาเริ่มขยับตัวดีขึ้นกลับถูกซ้ำเติมจากวิกฤตราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่วนชาวประมงก็ยังได้รับผลกระทบเรื้อรังจากการจัดการด้วยกฎหมายที่ขาดการมีส่วนร่วมของ คสช. 

เราจำเป็นต้องกลับมาทบทวนว่าจากภูเก็ตที่เคยเติบโตมาจากดีบุก-ประมง ไปสู่ภูเก็ตที่เติบโตจากการท่องเที่ยว ในอนาคตการพัฒนาของภูเก็ตที่จะเป็น “ภูเก็ต NEXT” คืออะไร?

“คำตอบของผม อนาคตการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตอยู่ที่คน”

“ผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่ อบต.เชิงทะเล ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกับคณะก้าวหน้า เราเห็นโครงการพัฒนาที่เรียบง่ายแต่ก้าวหน้า พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้จริง 3 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น

1.โครงการอาคารซ่อมเรือ ตำบลเชิงทะเล ที่จะพัฒนาอาคารซ่อมเรือ ทำให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านกว่า 100 ครัวเรือน จากเดิมที่ใช้แรงคนในการยกเรือประมงขึ้นซ่อมเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร ที่จะทำให้ลดการใช้แรงงานคนในการยกเรือลำใหญ่ขึ้นชายหาดเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรแทน

2. โครงการปรับปรุงสถานีบำบัดน้ำเสีย หาดสุรินทร์ ที่ได้นายก อบต. มาโนช พันธ์ฉลาด ที่ร่วมงานกับคณะก้าวหน้าเข้ามาปรับปรุงโครงการจากเดิมที่แบบการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานใช้งานไม่ได้จริง ให้สามารถดำเนินการได้ สามารถบำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนประชาชนและโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยว คืนน้ำสะอาดสู่ชายหาดสุรินทร์เดือนละละ 43,000 ลูกบาศก์เมตร และในอนาคตมีแผนจะพัฒนาศักยภาพด้วยการใช้ระบบไฮโดรลิกอัดตะกอนแทนที่ระบบตาก
.
3. โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นของ อบต. เชิงทะเล คือโครงการน้ำประปาดื่มได้ ที่ร่วมมือกับคณะก้าวหน้าปรับปรุงระบบน้ำประปาท้องถิ่นให้ประชาชนในเกาะภูเก็ตเข้าถึงน้ำประปาที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อนจากสารเคมีที่หลงเหลือจากการทำเหมืองแร่ ซึ่งในตอนนี้สามารถหาแหล่งน้ำดิบได้แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพน้ำและพัฒนาโครงการจัดทำระบบน้ำประปา
.
“โครงการเหล่านี้ของ อบต. เชิงทะเล ใช้เครื่องมือเครื่องจักรและเทคโนโลยี แต่ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ซับซ้อน เป็นการลงทุนที่เรียบง่าย แต่ปรับใช้ให้เข้ากับบริบทด้วยการเข้าถึงพื้นที่จริงๆ คิดและทำจากท้องถิ่นจริงๆ ไม่ใช่โครงการลงทุนหว่านแหแบบโครงการ “ป๊อกแทงค์” แบบที่รัฐบาลทำ” พิธา กล่าว

'โรม' ชี้!! งบฯ กอ.รมน. เกินความจำเป็น - ตัดออกได้ ยกเคส 'ส.ต.ท.หญิง' มีชื่อช่วยราชการ แต่ตัวอยู่ราชบุรี

รังสิมันต์ โรม มั่นใจงบฯ กอ.รมน. ตามแผนบูรณาการขับเคลื่อน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถตัดได้อีก ยกกรณี 'ส.ต.ท.หญิง' สังกัด บช.ส. มีชื่อช่วยราชการ กอ.รมน. แต่ตัวไปอยู่ราชบุรี สะท้อนไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มากขนาดนั้นในการปฏิบัติภารกิจ

รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มาตรา 37 งบประมาณแผนบูรณาการ เสนอตัดงบประมาณในส่วนของ แผนงานบูรณาการขับเคลื่อน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในหน่วยงานของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งได้ยกกรณีของ ส.ต.ท.หญิง ที่ จ.ราชบุรี ที่ทำร้ายร่างกายลูกจ้างซึ่งเป็นทหารหญิงมาสนับสนุน ตอนหนึ่งว่า กอ.รมน.ได้รับงบฯ ตามแผนบูรณาการนี้ 1,448 ล้านบาท ขอชื่นชมคณะกรรมาธิการที่ได้ตัดงบการจัดทำชุดข้อมูลเผยแพร่และสร้างความเข้าใจทั้งหมด 43 ล้าน แต่ทว่าก็ยังมีงบประมาณที่สามารถจะตัดลดอีกได้ เพราะตลอด 10 กว่าปี ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าหน่วยงานนี้ไม่สามารถดับไฟใต้ได้ และดูเหมือนว่าบางครั้งไฟใต้จะยิ่งลุกโชนด้วยซ้ำ

รังสิมันต์ กล่าวว่า อย่างกรณีของ ส.ต.ท.หญิง ที่เป็นข่าวทำร้ายร่างกายลูกจ้างซึ่งเป็นทหารหญิงนั้น เราได้พบว่าเป็น 'ตำรวจผี' หรืออยู่ใน 'บัญชีผี' ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยต้นสังกัดนั้นคือกองบังคับการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) และได้มีชื่อไปช่วยราชการอยู่ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แต่ทว่าตัวนั้นไปอยู่ที่ จ.ราชบุรี จนกระทั่งเป็นข่าวสังคมถึงได้รู้กัน กรณีอย่างนี้ ถ้าสองหน่วยงานไม่สมคบกันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ และในการจัดทำงบประมาณของ กมธ. ได้เคยรับรู้เรื่องนี้หรือไม่ และบัญชีผีแบบนี้มีรายอื่นอีกหรือไม่ นี่คือสิ่งยืนยันว่างบประมาณของ กอ.รมน สามารถที่จะตัดลดได้มากกว่านี้อีก

'พิธา' วอนศาล รธน. ชี้ขาดโดยเร็ว 'วาระ 8 ปีนายก' หวังลดสุญญากาศทางการบริหารในยุคปัญหารุม

'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำแถลง กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องตีความวาระ 8 ปีนายกฯ พร้อมมีคำสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ - หวังเร่งชี้ขาดโดยเร็วเพื่อลดสุญญากาศทางการบริหาร ชี้ควรมุ่งสู่การเลือกนายกฯ ตามบัญชีรายชื่อหรือยุบสภา ตามครรลองประชาธิปไตยคือทางออก

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงจุดยืนและข้อเสนอแนะกรณี ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องตีความวาระ 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ โดยระบุว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลกังวล คือ สุญญากาศทางการบริหาร เพราะในภาวะแบบนี้ที่มีทั้งปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ รวมถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ เราต้องการผู้นำประเทศที่มีความกระชับกระเฉง ฉับไว และทันสมัยต่อเหตุการณ์ เพราะถ้าปล่อยไปเนิ่นนานแบบนี้ก็จะเหมือนภายเรือวนอยู่ในอ่าง ไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหา

'ณัฐชา ก้าวไกล' ย้อนแสบ 'จุรินทร์' หลังบะหมี่กึ่งฯ ขึ้นเป็น 7 บาท ลั่น!! "แพงมากอีผี"

'ณัฐชา' ก้าวไกล เตือนความจำ 'จุรินทร์' รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ เคยโพสต์เฟซฯ "ผีอีแพง" ซัด ปัจจุบันกลายเป็น "แพงมากอีผี" หลังอนุมัติให้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขึ้นราคา จาก 6 เป็น 7 บาท เพิ่ม 16% ทำประชาชนเดือดร้อนรายวัน

วันที่ (25 ส.ค. 65) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์สินค้าปรับราคาสูงขึ้นในขณะนี้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่แน่ใจว่า รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่เคยโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อช่วงปี 2556 ว่า เจอแต่ผีอีแพง เวลาผ่านมา 10 ปี วันนี้ คุณจุรินทร์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ประชาชนฝากบอกมาว่า จากผีอีแพง สู่ปรากฏการณ์แพงมากอีผี ในยุคของรัฐมนตรีจุรินทร์

ล่าสุด ท่านรัฐมนตรี อนุมัติปรับขึ้นถึง 16% จากราคา 6 บาทเป็น 7 บาท จะให้พี่น้องประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรหากขึ้นราคาของแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ พวกเขาต้องแบกรับภาระเพราะไม่มีทางเลือก สินค้าอุปโภค บริโภคปรับราคาสูงขึ้นทุกอย่าง ผมว่าเหตุการณ์ปัจจุบันยิ่งกว่า ข้าวยากหมากแพงเสียอีก

'เท่าพิภพ' อึ้ง!! เจอต่างชาติถาม ไทยแบนบุหรี่ไฟฟ้า แต่ทำไมกัญชาเสรี

​ส.ส.เท่าพิภพ ชี้ชาวต่างชาติตั้งคำถามกับกฎหมายไทย เมื่อกัญชาถูกกฎหมาย ในขณะที่บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ด้านชาวเน็ตเข้ามาสนับสนุนอยากเห็นนโยบายที่ก้าวหน้า

​นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา เนื้อความเชิงตั้งคำถามถึงเหตุผลของการที่กฎหมายไทยกำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า นี่เป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติต่างก็สงสัย แต่เจ้าตัวไม่สามารถให้คำตอบหรือเหตุผลได้

​“คนมาเล งง ว่าที่ไทยกัญชาถูกกฎหมาย แต่ vape กับบุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมาย ร้องถามว่า Why? กันหมด ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงอะครับ”

​ข้อความดังกล่าวมีการรีทวิตต่อกันไปกว่า 1.8 พันครั้ง ด้านผู้ใช้งานทวิตเตอร์จำนวนมากต่างก็เข้ามาสนับสนุนและตั้งคำถามถึงเรื่องผลประโยชน์ของรัฐบาลที่ยังทำให้บุหรี่ไฟฟ้ายังไม่สามารถขายได้ รวมถึงมีการเชื่อมโยงไปถึงกรณี พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และ sex toy และหวังให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกรอบความคิดเดิม ๆ และก้าวไปข้างหน้า รวมถึงอ้างอิงถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ที่เพิ่งออกกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพและป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชนอีกด้วย

'ก้าวไกล' ซัด!! สิ่งแวดล้อมพังทลายครั้งใหญ่ ผลงาน 8 ปี ของรัฐบาล 'ประยุทธ์' ที่ทิ้งไว้

นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว แต่ต้องบอกว่า 8 ปีที่ผ่านมาได้ทิ้งมรดกความชั่วร้ายไว้มากมายซึ่งยังคงยากจะฟื้นได้ นอกจากจะมีรัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยแท้จริงมาบริหารเท่านั้น ไม่ใช่ลูกครึ่งแต่งตั้งมาช่วยเลือกรัฐบาลอย่างทุกวันนี้

สำหรับในด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งตนติดตามมาตลอด ต้องถือว่าเป็น 8 ปีแห่งความพังทลายเช่นกัน ในขณะที่ปัญหาโลกร้อนและความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงมากขึ้นทุกที แต่รัฐบาลนี้กลับมีแต่การสร้างเศรษฐกิจสีเขียวแบบลวงหลอก ปากอ้างปกป้อง แต่แท้จริงทำลายและหาประโยชน์ครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น นโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ อย่าง EEC ที่มีแต่ขายฝัน กระจุกผลประโยชน์เพื่อนายทุนใหญ่และกองทัพเท่านั้น ส่วนพี่น้องประชาชนถูกไล่ที่ มีการเปลี่ยนสีผังเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์จากราคาที่พุ่งสูงในที่ดินพวกพ้อง ซ้ำยังจะมีโครงการถมทะเลมาบตาพุด 1000 ไร่ ที่ส่งผลกระทบกับวีถีชีวิตผู้คน แย่งชิงฐานทรัพยากรทางทะเล ทำให้ต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติมากมายมหาศาล โดยไม่มีการจัดสรรงบ เพื่อเยียวยาและชดเชยให้ประชาชน และดีไม่ดี หากแลกกับทรัพยากรที่ถูกทำลาย การฟื้นฟูกลับมาอาจยากและต้องเสียเงินในการดูแลผลกระทบมากกว่าเศษกำไรที่ตกลงมาเสียอีก

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายนโยบายที่ทำให้กลไกการกำกับดูแลสิ่งแวดล้อมอ่อนแอลงด้วย เช่น คำสั่ง คสช.4/2559 และ 9/2559 ที่ยกเลิกการบังคับใช้กฎหมายผังเมือง และการทำ EIA นำไปสู่การปล่อยผีโรงงานสร้างมลพิษ สะสมสารเคมีอันตรายใกล้ชุมชนได้ ดังที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้จนต้องมีการอพยพประชาชน รวมถึงการหาประโยชน์จากการสร้างโรงงานขยะจนทำให้ไทยกำลังกลายเป็นบ่อขยะโลก เป็นต้น

"ยังมีอีกหลายกรณีที่นโยบายของรัฐบาลนี้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่กลับปัดตกหรือดองเค็มกฎหมายที่มีประโยชน์ที่จะมาช่วยสร้างเครื่องมือและกลไกดูแลประชาชนให้เข้มแข็งขึ้น เช่น กฎหมาย PRTR ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล

'เจี๊ยบ ก้าวไกล' ลั่น!! ไม่ลงส.ส. สมัยหน้า ขอทำงานขับเคลื่อนพรรคอยู่เบื้องหลังแทน

(27 ส.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวหลายครั้งว่า จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งสมัยหน้าอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบบัญชีรายชื่อ หรือส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยมีรายงานว่า น.ส.อมรรัตน์จะไปทำงานขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังแทน เพราะยังมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล พร้อมปฏิเสธว่าเธอไม่ได้มีความขัดแย้งกับพรรคแต่อย่างใด อีกทั้งที่ผ่านมาก็ตั้งใจที่จะลงสมัครเป๋็น ส.ส.เพียงแค่สมัยเดียวเท่านั้น

พรรคก้าวไกล จัดประชุมสมาชิก “ก้าวไกล NEXT” รายงานผลรับฟังความเห็นทั่วประเทศ พร้อมผลักดันพรรคเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลง

พรรคก้าวไกล จัดกิจกรรม “ก้าวไกล NEXT” ซึ่งเป็นแคมเปญรับฟังความเห็นจากประชาชน สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนของพรรค ที่ได้มีการเดินสายจัดเวทีขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมทั้งช่องทางออนไลน์มาตลอดช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนมาถึงวันนี้ ซึ่งเป็นรอบการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

โดยกิจกรรมหลักของวันนี้ เริ่มต้นขึ้นด้วยการรายงานผลการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่ผ่านมาในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ ขึ้นมานำเสนอ โดยมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ขึ้นมานำเสนอภาพรวมของผลการรับฟังความคิดเห็นที่ผ่านมา

พิธา ระบุว่าตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา พรรคได้รับข้อเสนอในช่องทางออนไลน์มามากกว่า 400 ข้อเสนอ, ได้สร้างบทสนทนามากกว่า 5,700 ครั้ง, มีผู้มีส่วนร่วมในการโหวตกว่า 6,000 ครั้ง และมีการเข้าถึงเว็บไซต์กว่า 10,000 ครั้ง และยังมีการเปิดเวทีในพื้นที่กว่า 27 เวที ในทุกภาคทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากโจทย์เรื่องการสื่อสาร การทำงานพื้นที่ และตัวผู้สมัครแล้ว สิ่งที่ได้รับการเสนอเข้ามามากที่สุดคือเรื่องของนโยบาย มากกว่าเรื่องอื่นเป็นเท่าตัวถึง 204 เรื่อง ตามมาด้วยข้อเสนอแนะเรื่องการสื่อสาร และการทำงานพื้นที่ ตามลำดับ

ข้อเสนอเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนที่พร้อมจะสร้างสรรค์ประเทศที่มีอนาคต มีความหวัง ที่คนไทยเท่าเทียมกันและประเทศไทยเท่าทันโลก พรรคก้าวไกลยังมีโจทย์ที่ต้องช่วยกันปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผู้แทนราษฎรที่มีอุดมการณ์เพื่อความเปลี่ยนแปลง และสามารถทำงานพื้นที่ได้อย่างสมดุล, การสื่อสารท่ามกลางพฤติกรรมการรับสื่อที่เปลี่ยนไป, การทำนโยบายที่ไม่ใช่เพียงแค่การเสนอให้ประชาชนเลือก แต่เป็นการเปิดพื้นที่ให้ทุกคนเข้ามาเสนอและลงมือทำ ภายใต้อุดมการณ์พรรคและความเป็นจริงทางวิชาการ

“เราจะทำให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ไม่ใช่แค่ของ ส.ส. หรือแกนนำพรรคที่เป็น ส.ส. แต่เป็นพรรคที่ประชาชนทุกคนร่วมกันสร้าง เราทำงานเพื่อหวังสร้างการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพื่อลาภ ยศ ตำแหน่ง แต่เพื่อขับเคลื่อนสังคมเราก้าวไปข้างหน้า นี่คือ DNA ของพรรคก้าวไกล เราเชื่อว่าประเทศไทยจะดีขึ้นกว่านี้ได้ และความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นจริงได้ ถ้าเราทุกคนมาร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยกัน” พิธา กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top