ทันทีที่สภาพักการประชุม ทีมพรรคก้าวไกล นำโดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, รังสิมันต์ โรม, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล พร้อมด้วยทีมงาน ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ต่อทันทีที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเรียนรู้และค้นหาโมเดลที่จะเป็นศักยภาพการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้า กระจายความเจริญในทุกจังหวัดอย่างเต็มศักยภาพ

พิธา กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตที่ผมมาในวันนี้ สถานการณ์ต่างจากภูเก็ตที่ผมเคยมาก่อนหน้าจะเข้ามาทำงานการเมืองโดยสิ้นเชิง ภาคท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจภูเก็ตนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80% ในช่วงโควิดที่ผ่านมา พี่น้องเกษตรกรต้องเผชิญกับวิกฤตราคาปาล์ม-ยาง ที่แย่ตลอดยุค คสช. เมื่อราคาเริ่มขยับตัวดีขึ้นกลับถูกซ้ำเติมจากวิกฤตราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่วนชาวประมงก็ยังได้รับผลกระทบเรื้อรังจากการจัดการด้วยกฎหมายที่ขาดการมีส่วนร่วมของ คสช. 

เราจำเป็นต้องกลับมาทบทวนว่าจากภูเก็ตที่เคยเติบโตมาจากดีบุก-ประมง ไปสู่ภูเก็ตที่เติบโตจากการท่องเที่ยว ในอนาคตการพัฒนาของภูเก็ตที่จะเป็น “ภูเก็ต NEXT” คืออะไร?

“คำตอบของผม อนาคตการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตอยู่ที่คน”

“ผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่ อบต.เชิงทะเล ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกับคณะก้าวหน้า เราเห็นโครงการพัฒนาที่เรียบง่ายแต่ก้าวหน้า พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้จริง 3 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น

1.โครงการอาคารซ่อมเรือ ตำบลเชิงทะเล ที่จะพัฒนาอาคารซ่อมเรือ ทำให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านกว่า 100 ครัวเรือน จากเดิมที่ใช้แรงคนในการยกเรือประมงขึ้นซ่อมเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร ที่จะทำให้ลดการใช้แรงงานคนในการยกเรือลำใหญ่ขึ้นชายหาดเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรแทน

2. โครงการปรับปรุงสถานีบำบัดน้ำเสีย หาดสุรินทร์ ที่ได้นายก อบต. มาโนช พันธ์ฉลาด ที่ร่วมงานกับคณะก้าวหน้าเข้ามาปรับปรุงโครงการจากเดิมที่แบบการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานใช้งานไม่ได้จริง ให้สามารถดำเนินการได้ สามารถบำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนประชาชนและโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยว คืนน้ำสะอาดสู่ชายหาดสุรินทร์เดือนละละ 43,000 ลูกบาศก์เมตร และในอนาคตมีแผนจะพัฒนาศักยภาพด้วยการใช้ระบบไฮโดรลิกอัดตะกอนแทนที่ระบบตาก
.
3. โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นของ อบต. เชิงทะเล คือโครงการน้ำประปาดื่มได้ ที่ร่วมมือกับคณะก้าวหน้าปรับปรุงระบบน้ำประปาท้องถิ่นให้ประชาชนในเกาะภูเก็ตเข้าถึงน้ำประปาที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อนจากสารเคมีที่หลงเหลือจากการทำเหมืองแร่ ซึ่งในตอนนี้สามารถหาแหล่งน้ำดิบได้แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพน้ำและพัฒนาโครงการจัดทำระบบน้ำประปา
.
“โครงการเหล่านี้ของ อบต. เชิงทะเล ใช้เครื่องมือเครื่องจักรและเทคโนโลยี แต่ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ซับซ้อน เป็นการลงทุนที่เรียบง่าย แต่ปรับใช้ให้เข้ากับบริบทด้วยการเข้าถึงพื้นที่จริงๆ คิดและทำจากท้องถิ่นจริงๆ ไม่ใช่โครงการลงทุนหว่านแหแบบโครงการ “ป๊อกแทงค์” แบบที่รัฐบาลทำ” พิธา กล่าว

นอกจากนี้ พิธาและทีมงานพรรคก้าวไกลยังได้เดินทางไปที่ชุมชนท่าศักดิ์พบปะประชาชนและเยาวชน เล่นวอลเลย์บอลกับเด็กในชุมชน นั่งเรือสำรวจระบบนิเวศอ่าวกุ้งและรับฟังเสียงของประชาชนที่มีความกังวลกับการฉ้อฉลกฎหมาย ระบบนิเวศ และแหล่งสัตว์น้ำที่กำลังจะถูกทำลายจากการสร้างท่าเรือมารีน่า และรับฟังปัญหาจากเครือข่ายคนไร้บ้านในตัวเมืองภูเก็ต ก่อนที่จะร่วมทำกิจกรรมสร้างพรรคก้าวไกล “ก้าวไกล NEXT”

“ความสวยงามของทรัพยากร คือ อัญมณีที่สร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจให้เกาะภูเก็ตเป็นเพชรแห่งอันดามัน แต่โจทย์ของการพัฒนาภูเก็ตในอนาคต เราจะรักษาสมดุลระหว่างการรักษาความสวยงามที่เป็นจุดแข็งกับการใช้ศักยภาพของสิ่งเหล่านี้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ผลประโยชน์ตกถึงมือประชาชนได้อย่างไร แต่สิ่งที่เราพบที่อ่าวกุ้งคือนายทุนร่วมกับหน่วยงานรัฐ ร่วมกันสร้างร่องน้ำเทียม เพื่อที่จะใช้เงินงบประมาณของรัฐขยายร่องน้ำ ขุดทำลายชายหาด ป่าชายเลน และแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์เพื่อที่จะเอื้อให้เรือเฟอร์รี่เข้า-ออก ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีการสัญจรของเรือเฟอร์รี่ พื้นที่ทำประมงพื้นบ้านของชาวบ้านก็จะหายไป นี่คือความขัดแย้งระหว่างเศรษฐกิจที่ประโยชน์ตกกับนายทุน กับเศรษฐกิจและระบบนิเวศที่คนใช้ประโยชน์คือชาวบ้าน ความจริงปัญหาความขัดแย้งนี้จะเบาบางลงถ้าเรามีกฎหมายและรัฐบาลที่บังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา มันน่าเศร้าที่เมื่อเรามาที่ภูเก็ต เราเห็นโรงแรมริมชายหาด ในขณะที่ข้างกัน สนามกีฬาที่เด็กในหมู่บ้านชาวประมงเล่นกันยังเป็นสนามหินคลุกที่ไม่มีอุปกรณ์ที่ดี” พิธา กล่าว

“การกระจายอำนาจเพิ่มงบประมาณให้ท้องถิ่น การพัฒนาคน และพัฒนาอย่างยั่งยืนคือคำตอบของการพัฒนาภูเก็ตไปสู่ ‘ภูเก็ต NEXT’ ผมรู้ว่าพรรคก้าวไกลเรายังมีความท้าทายในภาคใต้ แต่ผมเชื่อว่าคนใต้ยังพร้อมเปิดใจฟังว่าผมและพรรคก้าวไกลเสนออะไรและพร้อมเปิดใจเลือกอนาคตที่ก้าวหน้าให้กับประเทศไทยของเรา” พิธากล่าวทิ้งท้าย