Tuesday, 30 April 2024
ประเทศไทย

'6 เดือนรัฐบาล' กระตุ้นเศรษฐกิจไม่เป็นตามหวัง ซ้ำ!! 'เงินดิจิทัลวอลเล็ต' ยังกระทบงบประมาณ 67

'เศรษฐกิจไทย' ยังคงทรงตัว และไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่จะส่งผลดี กระตุ้นให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้เพิ่มขึ้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ สต็อกบ้าน คอนโด เหลือขายเป็นจำนวนมาก โครงการเปิดขายใหม่ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เพิ่มขึ้น 10.80% แต่หน่วยขายได้ กลับลดลง -14.50% เตรียมเข็นมาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ จาก 2% เหลือ 1% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จาก 1% เหลือ 0.01% โดยขยายสำหรับที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายเกิน 3 ล้านบาท โดยให้สิทธิเฉพาะ 3 ล้านบาทแรก เท่านั้น

ด้านพลังงาน มาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม จะสิ้นสุด 31 มีนาคม 2567 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) คาดการว่า กองทุนน้ำมันฯ จะติดลบในระดับ 100,000 ล้านบาท จึงอาจไม่สามารถขยายเวลาในการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ได้ 

หากจำเป็นต้องตรึงราคาดีเซลต่อ ต้องอาศัยกลไกจากกระทรวงการคลัง โดยการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล มาช่วยตรึงราคาควบคู่กับกลไกกองทุนน้ำมัน 

ส่วนค่าไฟฟ้า มาตรการจะสิ้นสุด 30 เมษายน 2567 ซึ่ง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประชุมเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 มีแนวโน้มจะสามารถตรึงฐานค่าไฟได้ต่อ ถึงเดือนสิงหาคม 2567 

ด้านการท่องเที่ยว คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้เห็นชอบการเปิดให้การส่งเสริมการลงทุนใน 'กิจการจัดงานมหกรรมดนตรี กีฬา และเทศกาลนานาชาติ' ที่มีการลงทุนเกิน 100 ล้านบาทในไทย สามารถยื่นขอบีโอไอได้ ได้รับสิทธิ์เว้นอากรขาเข้า อุปกรณ์-เครื่องจักร พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกวีซ่า ใบอนุญาตทำงาน เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางในการจัดงานระดับโลก (World Class Events) และเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) 

มาตรการที่มีในปัจจุบัน ยังคงไม่ทำให้คะแนนนิยมทั้งของรัฐบาล และตัวนายกรัฐมนตรีกระเตื้องขึ้น กับการที่บริหารประเทศมากว่า 6 เดือน ซึ่งจำเป็นต้องเข็นมาตรการเงินดิจิตอลวอลเล็ต เพื่อช่วยให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในด้านเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น 

โดยวันที่ 10 เม.ย. 67 จะมีการประชุมคณะกรรมการโครงการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยวาระสำคัญคือการเคาะแหล่งที่มาของเงินในโครงการนี้ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 2 - 3 ทางเลือกระหว่างการใช้เงินกู้ และงบประมาณรายจ่ายประจำปี หลังจากที่ได้ข้อสรุปเรื่องแหล่งเงิน และไทม์ไลน์ในโครงการนี้แล้ว โครงการจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการยืนยันว่าโครงการนี้รัฐบาลจะเดินหน้าตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้สามารถแจกเงินได้ทันภายในไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนเทศกาลปีใหม่ 2568

ภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยที่ยังคงไม่กระเตื้อง อีกสาเหตุหนึ่ง คือ การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า แต่เมื่อการหาแหล่งเงินทุนในโครงการแจกเงินดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล อาจจะต้องไปใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีร่วมด้วย นั่นหมายความว่า งบประมาณประจำปี ที่คาดการณ์ว่าจะมีการเบิกจ่ายตามกรอบงบประมาณ ของหน่วยงานต่าง ๆ ต้องถูกตัดไปใส่ในโครงการดิจิตอลวอลเล็ต เท่ากับว่า เม็ดเงินที่จะออกมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้นไม่มากตามที่คาดการณ์ เพราะส่วนหนึ่งใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำ ที่จะต้องมีการเบิกจ่ายอยู่แล้ว 

หากเป็นเช่นนี้ ก็คงต้องคิดเผื่อด้วยว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี ของแต่ละหน่วยงาน อาจจะต้องมีการเบิกจ่ายล่าช้าออกไปอีก เพราะทุกหน่วยงานต้องรอจัดสรรการใช้จ่ายในแต่ละโครงการอีกครั้ง ว่าโครงการใด ต้องชะลอเพื่อกันเงินไว้สำหรับโครงการดิจิตอลวอลเล็ต โครงการใดที่จะสามารถเบิกจ่ายได้จริง ส่งผลการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า ยิ่งต้องล่าช้าออกไปอีก 

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาในช่วงนี้ แทบจะไม่มีผลต่อเศรษฐกิจในประเทศเท่าใดนัก และกับการที่อาจต้องคาดการณ์ว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 จะล่าช้าออกไปอีก ... ความกดดันที่ก่อตัวเพิ่มขึ้น กำลังถาโถมต่อรัฐบาล และทีมเศรษฐกิจ

ตอนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 สถานการณ์หนักพอควรแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ ก็คงไม่ต่างกัน นโยบายที่ออกมาเพียงเพื่อหาเสียงเพื่อให้ได้เข้าไปนั่งในสภา ถึงเวลาที่ต้องทบทวนกฎกติกา หรือยัง ?

ผลส้มพรุน!! หลังใส่เกียร์เดินหน้า 'ล้มสถาบันฯ-ปั่นหัวเด็ก' เกมสุดเหลี่ยมจากชั้น 14 ที่หลอกให้จนมุมจนหมดทางไป

ขึ้นชื่อว่าเด็ก ความเก๋าก็คงไม่เท่าผู้ใหญ่ ยิ่งเป็นเด็กเกเร ถือดี หลงตัวเอง อยากมีที่ยืนเท่ ๆ ในสังคมทั้ง ๆ ที่ไร้คุณสมบัติ ทำแต่สิ่งที่น่าเอือมระอา และคงคิดว่ามวลชนคนรุ่นใหม่ที่มีมากถึงสิบกว่าล้านเสียงจะช่วยคุ้มกะลาหัวได้ 

แต่เมื่อมาเจอผู้ใหญ่มากประสบการณ์ระดับหัวหน้าโจรปล้นชาติทุกก๊กยังเรียกพี่ มีดีกรีขนาดที่ 'หนีคดีไปรอบโลก' ก็ยังไม่มีใครเคยจับเข้ากรงขังบนแผ่นดินไทยได้ กลับมามอบตัวก็ไม่ต้องนอนคุกเลยสักวันเดียว ไม่เจ๋งจริงทำไม่ได้…สรตะแล้วก๊วนส้มทั้งผองแทบหาอื่นใดมาเทียบได้กับนักโทษระดับไฮคลาสคนนี้ (ยกเว้นความชั่วที่ไม่ห่างชั้น)

แต่ 'กระดูกโจร' มันคนละเบอร์!!

ความมืดบอดและเบาปัญญา ที่ดึงดันดื้อด้านแต่จะ 'ล้มล้างการปกครอง' เดินหน้าชั่วชนิดไม่ฟังเสียงหมาในรั้วพรรคเดียวกันเตือน หลงคิดว่า 'เหลี่ยมมหาภัย' จะช่วยผลักดันในทิศทางเดิน ผสานศึกให้แผนล้มสถาบันบรรลุผลสำเร็จ และกินรวบประเทศไทยเปลี่ยนสีจาก 'ขวานทอง' ให้กลายเป็น 'ขวานสีส้ม' แทน โถ โถ โถ 

ไม่เรียกฉลาดน้อย ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรดี? 

การล้มล้างในสิ่งที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ว่า 'เหลี่ยมสวรรค์ชั้น 14' จะไม่เคยคิด แต่เพราะคิดแล้วชีวิตพัง ไปต่อไม่เป็น รู้ซึ้งแล้วว่าแตะอะไรก็แตะได้ แต่อย่าริไปแตะในสิ่งที่ประชาชนคนไทยเขารักและคิดปกป้อง ไม่เช่นนั้นก็ยากจะอยู่แบบ 'รอดมือรอดทีนคนไทยรักสถาบัน' บนแผ่นดินทองผืนนี้ไปได้ 

ฉะนั้น เมื่อเหลี่ยมรู้ซึ้งในรสความเจ็บ เหลี่ยมถึงปล่อยให้ส้มเน่าสัมผัสถึงความพังพินาศนี้บ้าง!!

ผู้ใหญ่ที่รักและหวังดีกับเด็กน้อยจริง ๆ เขาจะเตือน ห้าม ฉุด และรีบดึงมือกลับ แม้จะเอามือตบกะโหลกแรง ๆ จนเจ็บเพื่อให้มีสติ นั่นก็เพราะห่วง ด้วยรู้ความจริงแท้ที่ว่าการเป็นคนไทยที่ถูกตราหน้าว่า 'ล้มล้างสถาบัน' ก็ไม่ต่างจากคน 'เนรคุณชาติแผ่นดิน'

คนแบบนี้คบได้ที่ไหน? 

คนรักกันจะไม่สนับสนุนให้ทำในเรื่องชั่ว ๆ เช่นนี้ ถ้าจะมี ก็คงมีแต่คนที่คิดร้ายต่อกัน แอบถือมีดไว้ข้างหลัง หวังจะแทงทีเผลอ เพื่อกำจัดให้พ้นทาง 

ดังนั้น ด้วยแผนที่สูงกว่าชนิดมาเหนือเมฆ จึงปล่อยให้ 'โจรไก่อ่อน' หลับตาวิ่งไปด้วยความคึกคะนองจนต้องสะดุดทีนตัวเองล้มกองบนผืนแผ่นดินขวานเดิม

โดนเหลี่ยมร้ายทิ่มมาก็หลายแผลแล้ว ไม่รู้ถึงวันนี้ 'ผลส้มพรุน' จนเน่าหมดทั้งต้นหรือยัง? 

ดินที่มันไม่ดี น้ำที่มันไม่สะอาด ปุ๋ยที่มันเป็นพิษ 

ปลูกต้นส้มใหม่อีกกี่ครั้ง ก็ได้ผลส้มลูกเดิม ๆ

‘ชาวต่างชาติ’ ติดใจ!! ‘สายฉีดก้น’ ของไทย พร้อมยกให้เป็นที่หนึ่ง แถมกลับประเทศปุ๊บ รีบติดตั้งทันที ท่ามกลางชาวเน็ตแห่แนะนำวิธีใช้

(2 เม.ย.67) เรียกได้ว่าเป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมห้องน้ำ สำหรับ ‘สายฉีดชำระ’ ที่คนไทยนิยมใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งสำหรับชาวไทยแล้วอาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับชาวต่างชาตินั้นอาจจะไม่ใช่ เพราะคุ้นชินกับการใช้ทิชชูมากกว่า

ยกตัวอย่างจากผู้ใช้เรดดิทคนนี้ ที่ได้รีวิวสายฉีดชำระของไทย บอกเลยว่าเขาติดใจมาก ถึงขั้นกลับประเทศปุ๊บ ก็ติดตั้งสายฉีดชำระทันที นอกจากนี้ ยังเอ่ยชมไม่หยุดว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยสัมผัสในไทย

“พอกลับจากเมืองไทย ทิชชูมันก็เหมือนกับกระดาษทรายเลย มาอยู่ที่นี่ ฉันให้ความสำคัญกับการติดตั้งสายฉีด เพราะมันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันเคยสัมผัสตอนอยู่ไทย ฉันคิดถึงมันจริง ๆ ห้องน้ำ (ไทย) เกือบทุกที่มีสายฉีดนี้ พอเทียบกับที่นี่แล้วมันไม่มีเลย”

เรียกได้ว่ากระทู้เรดดิทครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก ชาวต่างชาติหลายคนต่างเห็นด้วยกับสิ่งนี้ พร้อมยกว่าสายฉีดชำระนั้นดีกว่ากระดาษทิชชูเป็นไหน ๆ

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางส่วนได้แนะว่า การใช้สายฉีดชำระต้องระวังให้ดี เพราะบางครั้งน้ำก็พุ่งแรงเกินไป ยิ่งใช้ในหน้าร้อนแล้วนั้น จากประสบการณ์สุดฟิน อาจกลายเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดได้เช่นกัน

เปิดยอดพีคไฟฟ้าปี 2567 รอบ 3 ทะลุ 33,340 เมกะวัตต์ คาดอากาศร้อนระอุ ดันสถิติใช้ไฟรอบ 4 พุ่งเป็นประวัติการณ์

ประเทศไทยร้อนจัด หลังก้าวเข้าสู่เดือน เม.ย. 2567 ประชาชนใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงสุดรอบที่ 3 ของปี 2567 เกิดพีคไฟฟ้าขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 ช่วงกลางคืนเวลา 21.00 น. ยอดใช้ไฟฟ้าแตะ 33,340 เมกะวัตต์ จ่อทุบสถิติพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกิดในปี 2566 ที่ 34,827 เมกะวัตต์ ตามคาดการณ์ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ชี้พีคไฟฟ้าปี 2567 อาจทะลุ 35,000 เมกะวัตต์ได้หากไม่มีฝนมาช่วยคลายร้อน

(2 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center - ENC) รายงานว่า เมื่อก้าวเข้าสู่ฤดูร้อนเดือน เม.ย. 2567 ประเทศไทยก็เกิดยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ของปี 2567 ขึ้นทันที โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ได้เกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดของปี 2567 ขึ้น มียอดการใช้ไฟฟ้าถึง 33,340 เมกะวัตต์ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนสะสมมาหลายวันอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 35-43 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ประชาชนใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าคลายความร้อนมากขึ้น

โดยพีคไฟฟ้าดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เฉพาะปี 2567 ซึ่งในแต่ละครั้งเกิดพีคไฟฟ้าดังนี้…

- ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.24 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989 เมกะวัตต์
- ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. มียอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์
- ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,340 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาพีคไฟฟ้าโดยภาพรวมจะพบว่า ยอดพีคไฟฟ้าในปี 2567 ดังกล่าว เริ่มใกล้เคียงกับยอดพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของไทย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2566 เวลา 21.41 น. ที่มียอดพีคไฟฟ้าสูงสุดที่ 34,827 เมกะวัตต์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนเช่นเดียวกับพีคไฟฟ้าของปี 2567 เช่นกัน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้คาดการณ์พีคไฟฟ้าช่วงฤดูร้อนของปี 2567 ว่า อาจเกิดยอดพีคไฟฟ้าทำลายสถิติสูงสุดมากกว่า 35,000 เมกะวัตต์ หากมีสภาพอากาศร้อนสะสมยาวนาน และไม่มีฝนมาช่วย ทั้งนี้หากเกิดขึ้นจริงจะเป็นการใช้ไฟฟ้าที่ทำลายสถิติพีคของประเทศในปี 2566 ที่มียอดใช้ไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ประมาณ 34,827 เมกะวัตต์ และจะเป็นยอดพีคไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 15-16% จากพีคปี 2566 ด้ว

นอกจากนี้ ช่วงเวลาการเกิดพีคไฟฟ้าเริ่มไปเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน เนื่องจากช่วงกลางวันมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นและมาช่วยตัดยอดพีคไฟฟ้าช่วงกลางวันได้ แต่ตอนกลางคืนไม่สามารถผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ทำให้ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงอื่น ๆ เต็มที่ ดังนั้น สนพ.คาดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า กระทรวงพลังงานจะต้องบริหารจัดการกับการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับพีคไฟฟ้าใหม่ โดยต้องพิจารณาว่าในช่วงกลางคืนจะมีพลังงานทดแทนชนิดใดที่พึ่งพาได้มาช่วยเสริมระบบ เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานลม และไฟฟ้าส่วนเกิน เป็นต้น

สำหรับสถิติยอดใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน นับตั้งแต่ ม.ค.- เม.ย. 2567 มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนี้…

- เดือน ม.ค. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 11 ม.ค. 2567 เวลา 18.52 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 29,051 เมกะวัตต์
- เดือน ก.พ. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.29 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989 เมกะวัตต์
- เดือน มี.ค. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 7 มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์
- เดือน เม.ย. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 33,340 เมกะวัตต์

ส่วนการใช้ไฟฟ้าล่าสุด วันที่ 2 เม.ย. 2567 เวลา 14.22 น. มียอดการใช้ไฟฟ้าแตะ 31,476 เมกะวัตต์ ซึ่งหากสภาพอากาศยังคงร้อนสะสมต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เกิดพีคไฟฟ้าของปี 2567 รอบที่ 4 ขึ้นได้ และอาจทำลายสถิติพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศได้เช่นกัน

ส่อง 20 อันดับประเทศที่มียอดจำหน่ายรถบรรทุกไปต่างแดนมากที่สุด

‘รถบรรทุก’ ถือเป็นยานพาหนะขนส่งที่มีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการไหลเวียนของสินค้าระหว่างประเทศทั่วโลก 

ในปี 2022 ยอดขายรถบรรทุกส่งออกมีมูลค่าโดยรวม 153 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปี 2021 ที่มีมูลค่า 147 พันล้านเหรียญฯ โดย 5 ประเทศแรกที่มียอดขายส่งออกมากที่สุดในโลก ได้แก่ เม็กซิโก, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, จีน และ เยอรมนี

สำหรับ ‘ประเทศไทย’ มียอดขายส่งออกอยู่ลำดับที่ 7 ของโลก มีมูลค่ากว่า 7.40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และถือเป็นชาติเดียวจากประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ติด 1 ใน 10 ของโลกอีกด้วย

‘ดร.เสรี’ เฉลย!! 8 เม.ย.นี้ ‘ร้อนสุด’ ก่อนเล่นสงกรานต์ พร้อมชี้เป้า ‘สุโขทัย’ จะเป็นจังหวัดที่ร้อนที่สุดในประเทศ

(3 เม.ย.67) ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ประธานกรรมการบริหาร Futuretales LAB, MQDC ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานฯ ที่มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ระหว่างวันที่ 2-9 เมษายนนี้ อุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ และคาดว่า วันที่ 8 เมษายนนี้ จะเป็นวันที่ร้อนที่สุดก่อนสงกรานต์ปีนี้ อุณหภูมิช่วงสงกรานต์จะลดลงมาเล็กน้อย และอาจจะเพิ่มขึ้นหลังสงกรานต์ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป จะเห็นว่าพื้นที่จังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดในปัจจุบัน คือ จ.สุโขทัย และจะเป็นจังหวัดที่มีอุณหภูมิสูงสุดในอนาคตด้วย (ร้อนสุดขีดทั้งจังหวัด 49.01 องศาเซลเซียส อีก 60 ปีข้างหน้า) จากข้อมูลกรมอุตุฯ ในอดีต จ.สุโขทัย เคยมีอุณหภูมิสูงที่สุด (44.5 องศาเซลเซียส) เป็นลำดับที่ 3 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2559 และเป็นลำดับที่ 6 (44 องศาเซลเซียส) เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2559

สำหรับจังหวัดที่จะมีอุณหภูมิสูงสุดในอนาคตรองลงมาตามลำดับในภาคกลาง คือ จ.พิจิตร (48.74 องศาเซลเซียส) จ.ชัยนาท (48.48 องศาเซลเซียส) จ.นครสวรรค์ (48.08 องศาเซลเซียส)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ จ.มหาสารคาม (47.85 องศาเซลเซียส) จ.ขอนแก่น (47.58 องศาเซลเซียส) จ.ร้อยเอ็ด (47.56 องศาเซลเซียส) จ.นครราชสีมา (46.19 องศาเซลเซียส)

และในภาคเหนือ คือ จ.ลำปาง (47.19 องศาเซลเซียส) จ.ลำพูน (47.13 องศาเซลเซียส)

ส่วนพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จะมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 44.90 องศาเซลเซียส ผลกระทบที่จะตามมาคือภัยคุกคามที่ไม่สามารถย้อนเวลากลับได้ คลื่นความร้อน-ภัยแล้ง-ฝนตกหนัก-น้ำท่วม-น้ำทะเลหนุนสูง ทุกภาคส่วนธุรกิจ สังคมเมือง และชนบทจะได้รับผลกระทบมากน้อย ในช่วงเวลาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมโดยไม่ประมาท 

เมื่อไทยกำลังกลายเป็นประเทศ NATO เต็มตัว หากยังไม่หยุดตามรอย ‘ฮิตเลอร์-เซเลนสกี’

จริงหรือที่ไทยเรากำลังจะกลายเป็นประเทศ NATO 

อันที่จริงประเทศไทยของเรามีสถานะเป็น ‘ชาติพันธมิตรหลักนอกกลุ่มนาโต’ (Major Non-NATO Ally: MNNA) ตั้งแต่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) โดยในระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ George W. Bush ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น ได้ประกาศให้ไทยมีสถานะดังกล่าว 

แต่การได้รับสถานะดังกล่าวนี้ ไม่ได้หมายถึงการมีหลักประกันด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศร่วมกันเช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ มีกับประเทศสมาชิก NATO แต่อย่างใด เป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงความสําคัญที่สหรัฐฯ ให้ความสัมพันธ์ในลักษณะพันธมิตรกับประเทศไทยในช่วงศตวรรษที่ 21 อันมาจากการที่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตรได้ส่งทหารไทยไปร่วมปฏิบัติการทั้งในอัฟกานิสถาน (กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ 975 ไทย/อัฟกานิสถาน) และอิรัก (กองกำลังเฉพาะกิจปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม 976 ไทย/อิรัก)

สำหรับ NATO เป็นชื่อย่อที่เรียกกันโดยทั่วไปของ ‘องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ’ (North Atlantic Treaty Organization: NATO) ซี่งก่อตั้งเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) โดย สหรัฐฯ และประเทศต่าง ๆ ในยุโรปรวม 12 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, เบลเยียม, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, ไอซ์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์ และโปรตุเกส ที่ได้ร่วมกันลงนามในสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (The North Atlantic Treaty) ก่อตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือ ‘นาโต’ ขึ้นในช่วงหลังสงครามโลก ครั้งที่สอง โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมในปีเดียวกัน 

วัตถุประสงค์เริ่มแรกก่อตั้ง คือ เพื่อจัดตั้งระบบพันธมิตรทางทหารในการถ่วงดุลอำนาจกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ (อดีตสหภาพโซเวียต) และให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกในกรณีที่ประเทศสมาชิกถูกคุกคามจากภายนอก ตลอดจนส่งเสริมความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ 

ปัจจุบัน NATO ประกอบด้วย 34 ชาติสมาชิก โดยได้ปฏิบัติการออกนอกเขตพื้นที่ของชาติสมาชิกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอัฟกานิสถาน, ลิเบีย และมีแผนที่จะเปิดสำนักงานติดต่อของ NATO ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นภายในปีนี้

ย้อนกลับมาที่ไทย ความหมายของ NATO ที่ไทยกำลังเป็นอยู่ในที่นี้นั้น มิได้หมายถึง NATO หรือ องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือแต่อย่างใด หากแต่ความหมายของ NATO ที่ประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่หมุดหมายดังกล่าวก็คือ NATO ที่ย่อมาจากคำว่า No Action, Talk Only ซึ่งแปลเป็นไทยว่า ‘ไม่ทำอะไรสักอย่าง เอาแต่พูดอย่างเดียว’ 

ด้วยเพราะผู้คนในสังคมไทยยุคนี้ส่วนหนึ่งมีความเชื่อถือศรัทธาในบรรดานักพูด นักแซะ ซึ่งมาแต่มีเพียงประสบการณ์เป็นนักคิด (ผิด ๆ ถูก ๆ) นักพูด (เอามัน เอาฮา เอาสนุก) แต่ไม่เคยทำงานอะไรในภาคปฏิบัติให้เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นชิ้นเป็นอันเลย เรื่องราวเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วมากมายหลายครั้งบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็น Adolf Hitler ที่สามารถยุยงปลุกปั่นพลเมืองชาวเยอรมันที่มีคุณภาพในลำดับต้น ๆ ของโลกให้ต้องหลงใหล คลั่งไคล้ ชนิดที่โงหัวไม่ขึ้น ตั้งแต่การสร้างพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน (พรรค NAZI) ทั้งการปลูกฝังเด็ก ๆ เยอรมันในยุคนั้นให้เป็น ‘ยุวชนฮิตเลอร์’ (Hitler Youth หรือ Hitlerjugend) และพาเยอรมันเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 กระทั่งพ่ายแพ้ เยอรมันเสียหายย่อยยับและต้องถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศคือ เยอรมันตะวันตกและเยอรมันตะวันออก ต้องใช้เวลารอคอยยาวนานกว่า 40 ปี (ค.ศ. 1949-1990) ก่อนที่จะสามารถกลับมาร่วมเป็นชาติเดียวได้อีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ. 1990 

แม้แต่ ยูเครน ในปัจจุบันที่ถูกชาติตะวันตกหลอก ด้วยการเอา ‘โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี’ (Volodymyr Zelenskyy) ผู้มีอาชีพนักแสดงตลกและเจ้าของบริษัทโปรดักชัน Kvartal 95 ซึ่งผลิตภาพยนตร์ การ์ตูน และรายการทีวี รวมถึงซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง Servant of the People ซึ่ง Zelenskyy เองรับบทเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ระดับมัธยมปลาย และในบทตัวเขาก็ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนด้วย 

ซีรีส์ดังกล่าวซึ่งได้ออกอากาศตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2019 ได้รับความนิยมอย่างมาก จนกระทั่ง Servant of the People พรรคการเมืองชื่อเดียวกับซีรีส์นี้ ก็ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 2018 โดยพนักงานของ Kvartal 95 

ความนิยมในตัวเขาจากบทบาท รวมถึงซีรีส์โทรทัศน์เรื่องนี้ ทำให้ชาติมหาอำนาจตะวันตก นำเขามาเป็นหุ่นเชิดและเครื่องมือกระทั่งกลายเป็นประธานาธิบดียูเครนจริง ๆ หากแต่ประธานาธิบดีในภาพยนตร์โทรทัศน์กับโลกแห่งความเป็นจริงแตกต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว เมื่อเขาดึงดันที่จะท้าทายกับรัสเซียจนเกิดสงครามยื้อเยื้อ และกำลังทำให้ยูเครนต้องพินาศย่อยยับ จนไม่อาจที่จะฟื้นคืนสภาพของบ้านเมืองที่เสียหายอย่างหนักภายใน 10-20 ปีนี้ได้ อีกทั้งต้องกลายเป็นลูกหนี้ต่างชาติจนไม่น่าจะใช้คืนได้ในอีกไม่ต่ำกว่า 50 ปีข้างหน้า

เหล่านี้คือ ตัวอย่างของนักการเมืองที่นำพาประเทศชาติไปสู่ความเป็นประเทศ NATO: No Action, Talk Only ของแท้ที่มีให้เห็น 

ดังนั้นพอหันมามองสังคมไทยในยุคนี้ ยุคที่ไทยเต็มไปด้วยกลุ่มชนที่มีความรู้ มีตรรกะ มีเหตุผล มีความสามารถในการพินิจพิจารณาใคร่ครวญในข้อเท็จจริงของเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หากแต่กลับมาตกหลุมในกับดักของเหล่าบรรดานักสังคมศาสตร์ ซึ่งถนัดแต่การปั้นแต่งคำ สร้างวาทกรรมที่บ่มเพาะความแตกแยก เกิดเป็นบรรทัดฐานความเชื่อในเรื่องผิด ๆ ว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และทำให้สังคมเชื่อว่า สิ่งที่ถูกต้องดีงามกลายเป็นเรื่องผิด ๆ ล้าสมัย ฯลฯ 

ท้ายสุดก็หนักถึงขั้นพยายามอย่างหนัก เพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของบ้านเมือง โดยเฉพาะสถาบันหลักที่สำคัญของชาติ ซึ่งหากวันนี้คนไทยยังคงเป็น ‘ไทยเฉย’ ไม่พูด ไม่ทำ เป็นพวก NTNA : No Talk, No Action ในที่สุดแล้วประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ซึ่งเหล่าชาติมหาอำนาจตะวันตกกำลังจ้องเล็งที่จะเข้ามามีบทบาทในการชี้นำและครอบงำรัฐบาลบ้านเรา ให้ตั้งอยู่ในตำแหน่งทางภูมิรัฐศาสตร์ตามที่พวกเขาต้องการในหมุดภูมิภาคนี้ ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราก็จะกลายเป็นประเทศ NATO: No Action, Talk Only ไปจริง ๆ 

ถึงเวลานั้นแล้วก็คงยากเกินกว่าที่จะแก้ไขอะไรได้อีก 

ส่อง 10 เมืองยอดฮิต นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก ปี 2023

‘กรุงเทพฯ’ เมืองหลวงของไทย กลายเป็นเมืองที่ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมเยือนมากที่สุดในโลก ประจำปี 2023 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีประมาณ 22.78 ล้านคน ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ อยู่ในลำดับที่ 5 

‘จุรินทร์’ อัด!! ‘นายกฯ’ หลังเปรียบฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ ซัด!! ทำตัวเป็นรัฐบาลเทวดา ไม่สนใจเสียงของประชาชน

(4 เม.ย. 67) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันแรก ว่า ตนว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ดีทุกพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย ตนถือว่าตั้งใจทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายคาดหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะอภิปรายเรื่องกระบวนการยุติธรรมและนักโทษเทวดามากกว่านี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้จะมีการอภิปรายอีกวัน ต้องรอฟังว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า คิดว่าฟอร์มของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ มี สส.ใหม่หลายคนที่อภิปราย ตนถือว่าทำหน้าที่ได้ดี

เมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปรียบฝ่ายค้านบางพรรคเป็นแมลงหวี่ บางวันเป็นฝ่ายค้าน บางวันขอร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความจริงเรื่องแมลงหวี่มันสะท้อนจิตใต้สำนึกรัฐบาลเทวดาเหมือนกันว่ารำคาญเสียงประชาชน คิดว่าถ้าตนเป็นนายกฯ จะไม่เทียบกับแมลงหวี่ มันไม่ได้บวก มันเข้าตัวรัฐบาล 

เมื่อถามย้ำว่า สิ่งที่นายกฯ พูดเข้าตัวเองใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ใช่ เพราะแปลว่ารำคาญเสียงสะท้อนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล อันนี้ประชาธิปไตยเทวดา ไม่ใช่ประชาธิปไตยตัวจริง 

เมื่อถามว่า นายเศรษฐายังเหน็บฝ่ายค้านว่าอย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงง หลังมีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อสักครู่มีคนให้สัมภาษณ์แล้วไม่ใช่หรือว่าเสียงพอแล้ว ก็จะเป็นรัฐบาลเท่านี้ จำคำพูดของตัวเองไว้ด้วย 

เมื่อถามอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เสียสมาธิกับกระแสข่าวร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับตนการทำหน้าที่ในสภามันเป็นคำตอบอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนวันนี้หากมีการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลจะไม่ร่วมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของตนเป็นคำตอบอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร นายกฯ ต้องจำคำพูดตัวเองไว้ด้วยในสิ่งที่พูดไป 

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการวางยาอะไรหรือไม่ ที่มีการปล่อยข่าวจะเข้าร่วมรัฐบาลก่อนการอภิปราย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่สิ่งที่นายกฯ พูดมันเผยให้เห็นตัวไอ้โม่งว่ามันมาจากไหน อย่างไร

เมื่อถามว่า ทำไมถึงต้องย้ำให้นายกฯ จำคำพูดตัวเอง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ก็ธรรมดา พูดอะไรไปก็ต้องจำ 

ต่อข้อถามว่า เพราะวันหนึ่งอาจจำเป็นต้องใช้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขออธิบายต่อ ตนก็ทำหน้าที่ของตน มีหน้าที่อะไรก็ทำเต็มที่ ตนถือหลักอันนี้ 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top