Tuesday, 21 May 2024
ประเทศไทย

‘เพจดัง’ ฟาด!! กลุ่มคนชังชาติ ทักหา ‘บ่าวนัท’ จ้างทำคลิปด่าไทย ชี้!! อคติบังตา มัวเมาในความเกลียดชังจนถึงกับด้อยค่าชาติตัวเอง

(13 ม.ค.67) จากกรณีที่มี ‘ยูทูบเบอร์ชาวลาว’ ชื่อ ‘บ่าวนัท’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านช่องยูทูบ ‘บ่าวผู้ไทขาเลาะ BaoPhutai on tour’ ของตน เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 67 โดยระบุว่า…

“ขออภัย FC บางท่านที่อยากให้บ่าวนัททำคลิปด้านลบของไทย หรือถ้าพูดตรงๆ ก็คือด่าไทย ด้อยค่าไทยบ้าง

บ่าวนัทจึงขอโอกาสใช้พื้นที่นี้ตอบให้ FC ได้รับทราบโดยทั่วกันนะครับ

1.) เป้าหมายหลักในการทำยูทูบของบ่าวนัทไม่ได้มาทำเพื่อเงินนะครับ แต่ทำเพื่อต้องการทำให้คนไทยรักประเทศไทย ในวันที่คนไทยมีหลากหลายความคิดและความเชื่อ บ่าวนัทจึงขอเป็นตัวกลางนำเสนอให้คนไทยและคนทั้งโลก ได้เห็นว่าเมืองไทยนี่ล่ะน่าอยู่ที่สุดแล้ว

2.) ก่อนทำยูทูบบ่าวนัทก็ได้ไปสาบาน (ขอพร) ต่อพระแก้วมรกต และพระธาตุพนม ว่าจะทำคลิปด้านดีของไทยเท่านั้น ไม่มีวันที่จะเนรคุณแผ่นดินไทยเป็นอันขาด

3.) รายได้จากค่าโฆษณาในยูทูบ ทุก 10,000 บาท บ่าวนัทจะขอถวายวัด 1,000 บาท จนกว่าจะเลิกทำยูทูบครับ

ดังนั้น ถ้าจะให้บ่าวนัททำคลิปด้านลบของไทย คงทำไม่ได้ครับ บางท่านอาจจะชอบดูคลิปที่ช่องอื่นทำคลิปด่าประเทศตนเอง แต่การทำแบบนั้นมันทำร้ายจิตใจของคนที่เขารักประเทศของเขาอย่างยิ่งครับ

ทั้งนี้ ไม่มีประเทศใดดีที่สุดหรอกครับ ทุกประเทศมีด้านลบทั้งนั้นครับ

จึงแจ้งมาเพื่อรับทราบนะครับ”

ล่าสุด เพจ ‘Jo Montanee’ ได้โพสต์ข้อความ ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า…

นี่คนไทยชังชาติบางคนไปรบกวน #บ่าวคนลาว ที่มุ่งมั่นนำเสนอสิ่งดีงามของประเทศไทย จนบ่าวเจ้าของช่องเขาต้องออกมาประกาศให้รู้แบบเป็นทางการ ผ่านช่องของเขาแล้วหรือนี่

‘บ่าวผู้ไทขาเลาะ’ คือ ‘คนลาวภูไท’ ที่ไม่เพียงมีใจรักประเทศไทย แต่ยังมุ่งมั่นปกป้องชื่อเสียงชาติไทยอย่างเข้มข้นตลอดมาค่ะ

‘บ่าวนัท’ ประกาศชัดว่า…

1.) ให้นำเสนอเรื่องไม่ดีของไทย บ่าวไม่ทำ เพราะบ่าวนัททำช่องนี้ขึ้นมาเพื่อสมานความแตกแยกของชาติไทยค่ะ

2.) รายได้ยูทูบทุก 1 หมื่นบาท บ่าวนัทแบ่งทำบุญทุกครั้ง 10%

พี่โจสะท้อนใจทุกครั้งที่มีคนไทยใจแคบบางจำพวก ด่าเหมารวมยูทูบคนลาวว่ามาหลอกเงินคนไทยบ้าง แสร้งอวยไทยเอายอดวิวบ้าง คนไทยโง่เชื่อบ้าง

คนไทยประเภทนี้ก็ความคิดอคติ คิดลบ เป็นมนุษย์พิษไม่ต่างกันกับคนไทยที่มากดดันบ่าวนัทให้ด้อยค่าชาติตัวเอง (ดูประวัติกาคอมเมนต์พวกนี้แล้ว ไม่ใช่ลาวค่ะ ไทยแท้เลย)

ปกติพี่โจดูช่องบ่าวนัทตลอด เพราะเขาพาไปชมที่ดีๆ ทุกที่ทั่วไทย และอัปเดตไวแบบไปวันนี้ ลงวันนี้ แต่ไม่เคยกดติดตามเลย

เพราะโพสต์นี้ของเขาทำให้พี่โจกดติดตามโดยไม่ลังเลเลยค่ะ เขามีค่าคู่ควรอย่างมากจริงๆ ❤️🇹🇭🙏🙏

ไปให้กำลังใจบ่าวนัทที่ช่องเขาได้นะคะ >> https://youtube.com/@baophutai?si=awnu

ไทยเจ๋ง!! ติดท็อป 10 สถานที่ที่ควรไปเที่ยวในปี 2024

’ไทย‘ ติดอันดับ 6 ของโลก ‘สถานที่ที่ควรไปเที่ยวในปี 2024‘ แถมเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียที่ติด TOP 10 หลัง The Telegraph สื่อใหญ่จากอังกฤษได้จัดอันดับขึ้น!! 🇹🇭✨👏🏻👍🏻

‘นายกฯ’ เตรียมพร้อม!! ประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม จ่อคุยเอกชนยักษ์ใหญ่ของโลก กระตุ้นลงทุนในไทย

(15 ม.ค. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดพบหารือผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก ในห้วงระหว่างการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2567 เชื่อมั่นการหารือเหล่านี้จะนำมาซึ่งการค้าและลงทุน สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาลให้ไทย ในสาขาการค้าการลงทุนที่สำคัญ ซึ่งบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่จะพบหารือกับนายกรัฐมนตรี

อาทิ DKSH ผู้ให้บริการด้านการขยายตลาด ตั้งแต่การจัดหาแหล่งผลิต การวิจัยและวิเคราะห์ตลาด การตลาด การขาย การกระจายสินค้า โลจิสติกส์ และการบริการหลังการขาย ผลิตภัณฑ์และสินค้ามากมายหลายประเภท โดย DKSH ประเทศไทย เป็นหนึ่งในองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศในด้านยอดขาย และเป็นประเทศที่มีการดำเนินกิจการที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม DKSH

Dubai Port World ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้า การดำเนินงานท่าเรือ การขนส่งสินค้าทางทะเล และเขตการค้าเสรี ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ 70 ล้านตู้ โดยมีเรือนำเข้าประมาณ 70,000 ลำต่อปี ซึ่งเท่ากับประมาณถึง 10% ของปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลก และมีพื้นที่ให้บริการในท่าเรือกว่า 82 แห่งในกว่า 40 ประเทศ

Standard Chartered ธนาคารชั้นนำระดับสากลและมีเครือข่ายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความชำนาญที่ส่งเสริมธุรกิจที่มีศักยภาพให้เติบโต พร้อมเป้าหมายส่งเสริมความยั่งยืน 3 ด้านคือ การเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) การเป็นองค์กรที่รับผิดชอบ (Responsible Company) และการสร้างความเท่าเทียมในชุมชน (Inclusive Communities) สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

Telenor บริษัทโทรคมนาคมชั้นนำระดับโลก มีลูกค้าประมาณ 175 ล้านคนใน 8 ประเทศทั่วภูมิภาคนอร์ดิกและในเอเชีย

Coca Cola หนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเจ้าของหรือมีใบอนุญาตยี่ห้อเครื่องดื่มมากกว่า 200 ยี่ห้อ โดยก่อตั้งในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เพื่อจัดตั้งสำนักงานใหญ่ภูมิภาคในปี พ.ศ. 2553

Nestlé บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก มีสินค้าจำหน่ายอยู่ใน 190 ประเทศทั่วโลก โดยมีโรงงานผลิต 344 โรงงานใน 77 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ เนสท์เล่ ในประเทศไทย มีแนวทางที่เน้นการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค (Good for You) และการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่เน้นการดูแลสุขภาพของคนไทย และการดูแลสิ่งแวดล้อม

Grab ผู้ให้บริการจัดส่ง การเดินทาง พัสดุ การเงิน การบริหารจัดการธุรกิจและอื่นๆ ผ่าน Application เดียว ช่วยเชื่อมโยงผู้บริโภคจากทุกสาขาอาชีพกับผู้ประกอบการนับล้านใน 500 เมืองและ 8 ประเทศ

Robert Bosch บริษัทเทคโนโลยีด้านการขับเคลื่อนชั้นนำของโลก และเชี่ยวชาญด้าน อุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยีพลังงานและอาคาร ดำเนินงานในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และมีบริษัทในเครือมากกว่า 468 แห่ง โดยมีการลงทุนในประเทศไทย รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปี พ.ศ. 2557 บริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 24 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 6.3 พันล้านบาท (165 ล้านยูโร)

ฝรั่งทุกคนที่ดังในประเทศไทยเป็น ‘loser’ กันหมดจริงหรอ?

(16 ม.ค.67) จากเพจเฟซบุ๊ก ‘David William’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘ครูเดวิด วิลเลียม’ ซึ่งเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ที่รู้จักกันบนโลกโซเชียลมีเดียจากการที่เขาสามารถใช้สำเนียงการพูดได้หลากหลายเพื่อทำคอนเทนต์สนุก ๆ บนโลกโซเชียล จนยอดผู้ติดตามในเพจเฟซบุ๊กสูงถึง 1.5 ล้านคน 

โดยล่าสุดนั้น ‘ครูเดวิด วิลเลียม’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอหัวข้อ ‘ฝรั่งทุกคนที่ดังในประเทศไทยเป็น ‘loser’ กันหมดจริงหรอ?’ หลัง ‘เต๋า ทีวีพูล’ กล่าวว่า “ฝรั่งจะมีหลายเกรด ฝรั่งเนิร์ด ยูทูบเบอร์ไรนี้อยู่ในประเทศตัวเองก็ไม่มีวันดัง จึงมาหากินในเมืองไทย ซึ่งถ้าเกิดมองหน้าและเป็นพวกเนิร์ด ฝรั่งที่แบบว่าแจ่ม ๆ ที่เริ่ด ๆ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในอเมริกา ไม่ค่อยมาหรอก มันก็มาเที่ยวแปป ๆ แล้วก็กลับไป”

โดย ‘ครูเดวิด วิลเลียม’ ได้อธิบายเพิ่มเติมในคลิปว่า “อันนี้แรงมาก ขออนุญาต…ไม่เคยดูคลิปไหนตั้งแต่เกิดมาที่ทําให้รู้สึกโกรธขนาดนี้มาก่อน กับการที่คุณจะบอกว่าฝรั่งทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ฝรั่งทุกคนที่มาหากินที่นี่คือเขาเป็น ‘Loser’ กันหมดอย่างงี้เหรอ? สิ่งที่งงคือคุณรู้จักทุกคนเหรอ? ขออนุญาตอีกเรื่องหนึ่งเลยคือผมเป็นฝรั่งแล้วอยู่ในประเทศไทย ซึ่งผมเจ๋งมากมายอย่างแน่นอน 

คือข้อแรก…การที่คุณจะสําเร็จไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายทุกคน และนี่คือข้อแรกที่เราต้องเข้าใจกันก่อน ยิ่งเฉพาะในวันที่คุณย้ายไปอยู่ประเทศใหม่ มันต้องเรียนภาษาใหม่ตั้งแต่ต้น ต้องเข้าใจสังคมใหม่ วัฒนธรรมใหม่ ความคิดของคน ซึ่งแตกต่างจากที่คุณเจอมา แต่ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่าคุณจะดิ้นรนแค่ไหนก็ตาม คุณยังสามารถดังในประเทศนั้นได้ด้วยการพูดภาษาที่ไม่ใช่ภาษาตัวเอง 

ก็ขออนุญาตเลยนะผมไม่ได้บอกว่าใครดีกว่าใครเลย แต่อย่างน้อยเราต้องยอมรับกันก่อนว่านี่ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายอย่างแน่นอน แล้วอีกอย่างที่อยากจะพูดคือการที่คุณบอกว่ามีแต่ฝรั่ง ‘Loser’ มาที่นี่…ข้อแรกก่อนนั้นคือการเหยียดประเทศตัวเองนะ กับการที่คุณบอกว่าประเทศไทยมันไม่น่าอยู่ หรือมันเป็นอะไรที่ประหลาด จนกระทั่งมีแต่ ‘Loser’ มา ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ไม่โอเคมากทุกคน เพราะผมไม่ใช่ ‘Loser’ แล้วผมจะพูดอย่างเต็มปากเต็มคําว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่มากสําหรับตัวเอง แถมยังมีบริษัทระดับโลกอีกมากมายที่เลือกมาทําธุรกิจที่นี่ ถามว่าทําไม? เขาเป็น ‘Loser’ เหรอ? ซึ่งไม่ใช่ เพราะประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่น่าสนใจมากในการทําธุรกิจอย่างแน่นอน

ดังนั้นขออนุญาตสรุปคลิปนี้ ซึ่งพูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วในการที่คุณไม่ควรต่อว่าเขา ไม่ควรที่จะเหมารวมคนอื่น ไม่ควรที่จะดูถูกคนอื่น ยิ่งเฉพาะสําหรับผม คือผมเป็นคน ๆ หนึ่ง ที่ออกมาปกป้องคนไทยตลอด เมื่อเจอชาวต่างชาติมาดูถูก แต่เมื่อผมซึ่งเป็นชาวต่างชาติกลับเจอคนไทยมาเหมารวมใส่ เจอคนไทยมาพูดแบบนี้ใส่ผม จึงรู้สึกเฮิร์ทมาก…

ถ้าคุณอยากสําเร็จสิ่งที่คุณต้องเลิกทําคือการต่อว่าและดูถูกคนอื่นแบบนี้ และสิ่งที่คุณต้องเริ่มทําคือการลุกขึ้นมาสู้ ลุกขึ้นมาทํางาน เพราะนี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการสำเร็จอย่างแน่นอน”

'ดูไบเวิลด์' บิ๊กโลจิสติกส์-ท่าเรือ UAE เอาจริง!! จ่อลงทุน 'แลนด์บริดจ์' เช็กประวัติ!! เคยให้เปล่า 200 ล้าน วิจัยสร้างท่าเรือกับไทยมาแล้ว

เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.67) ระดับโลก ไม่ใช่จะมาหลอกกันง่ายๆ ล่าสุด Dubai World บริษัทโลจิสติกส์ขนาดยักษ์ จาก UAE สนใจโครงการแลนด์บริดจ์ และมีการประสานข้อมูลกับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. 

ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวได้หารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระหว่างการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2567 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 15-19 ม.ค.2567 ภายใต้กำหนดร่วมการประชุม 'Thailand Landbridge: Connecting ASEAN with the World'

สำหรับ Dubai World (ดูไบเวิลด์) เป็นบริษัทชั้นนำของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซึ่งเชี่ยวชาญโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า การดำเนินงานท่าเรือ การขนส่งสินค้าทางทะเลและเขตการค้าเสรี ก่อตั้งปี 2548 ให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ 70 ล้านตู้ โดยมีเรือนำเข้า 70,000 ลำต่อปี คิดเป็น 10% ของปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลก และมีพื้นที่ให้บริการในท่าเรือ 82 แห่งใน 40 ประเทศ

โดยที่ผ่านมา มีความสนใจ ที่จะลงทุนด้านโลจิสติกส์ในไทยมาช้านาน 

เคยร่วมมือและศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ร่วมกับรัฐบาลในช่วงปี 2550 ในการพัฒนาสะพานเศรษฐกิจภาคใต้ โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2551

Dubai World สนับสนุนแบบให้เปล่า เพื่อศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาท่าเรือระหว่างประเทศ 2 แห่ง บนชายฝั่งทะเลอันดามันและบนชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย วงเงิน 200 ล้านบาท ก่อนที่ประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งกระทบกับแผนการลงทุนของ Dubai World

กระทั่งรัฐบาลปัจจุบัน มีท่าทีสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์ ทาง Dubai World จึงกลับมาให้ความสนใจในโครงการนี้ 

ด้าน สนข.รายงานด้วยว่า “Dubai World เป็นบริษัทแรกๆ ที่เข้ามาช่วยไทยในการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งขณะนั้นมีบริษัทจากจีนและอีกหลายแห่งที่มาช่วยศึกษา Dubai World จึงถือเป็นอีกหนึ่งเอกชนที่เข้าใจและรู้เรื่องแลนด์บริดจ์เป็นอย่างดี”

'อ.พงษ์ภาณุ' ซัด!! แบงก์ชาติไม่ลดดอกเบี้ย เหมือนตบหน้ารัฐบาล-คนไทยทั้งประเทศ

(17 ม.ค. 67) อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ได้เผยถึงกรณีแบงก์ชาติไม่ลดดอกเบี้ย ถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลและคนไทยทั้งประเทศผ่าน THE STATES TIMES ว่า...

การปฏิเสธไม่ลดดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มีการระบุเหตุผลที่น่าเชื่อถือ เพียงแต่กล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเหมาะสมแล้ว ถือเป็นการไม่ให้เกียรติคนไทยและรัฐบาล ทั้ง ๆ ที่ขณะนี้เครื่องชี้ทางเศรษฐกิจหลายตัวบ่งบอกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังดิ่งลงสู่ภาวะเงินฝืด (Deflation) และถดถอย (Recession) ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อติดลบ 3 เดือนติดต่อกัน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Innterest Rate) สูงสุดเป็นประวัติการณ์และอาจจะสูงที่สุดในโลก อัตราเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ติดลบต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี

"เราไม่สามารถหาคำอธิบายอื่นที่เหมาะสมกว่าที่จะกล่าวว่าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบ และบกพร่องต่อหน้าที่อย่างร้ายแรง การที่แบงก์ชาติกล่าวอ้างปัญหาโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย เป็นเพียงความพยายามที่จะบิดเบือนประเด็นเพื่อโยนความผิดให้กับคนอื่น ทั้ง ๆ ที่เป็นที่ยอมรับในทางวิชาการว่าเสถียรภาพของราคาเป็นเรื่องของนโยบายการเงิน ภายใต้กรอบ Inflation Targeting โดยตรง และผลการทำงานที่ผ่านมา 2 ปีพิสูจน์แล้วว่าธนาคารแห่งประเทศไทยล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการดูแลเสถียรภาพราคา จากเงินเฟ้อสูงสุดในโลกในปี 2565 มาเป็นเงินฝืดในปี 2566 การปัดความรับผิดชอบออกไปจากนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงตามกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย จึงเป็นการแสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย"

อ.พงษ์ภาณุ กล่าวอีกว่า สถานการณ์เช่นนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความขัดแย้งระหว่างนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศเลย และควรถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องอ้างความบกพร่องต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงตามกฎหมาย เพื่อเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบนโยบายการเงิน ก่อนที่จะสายเกินไป จนบ้านเมืองเสียหายไปกว่านี้

'แลนด์บริดจ์' ต้องทำ!! เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขัน แต่ถ้ามองแค่ 'คุ้มเงิน-ไม่คุ้มเงิน' แบบนั้นมันผิดแล้ว

(17 ม.ค.67) จากเฟซบุ๊ก 'KUL' โดย กุลวิชญ์ สำแดงเดช ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ก้าวถอยหลัง
#แลนด์บริดจ์

แลนด์บริดจ์ ถ้ามองแค่คุ้มเงิน ไม่คุ้มเงิน แบบนั้นมันผิดแล้ว 

เมื่อมันเป็น Infrastructure ที่ รบ.จัดให้ มันออกได้หลายหน้า แต่มันต้องทำ เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขัน 

ประเทศที่รายล้อมเรา ล้วนมีท่าเรือขนาดใหญ่ ไปจนถึงอภิเขตอุตสาหกรรมชายฝั่งทั้งสิ้น 

ท่าเรือพอร์ตลัง มาเลเซีย
ท่าเรือปริโอห์ อินโดนีเซีย
ท่าเรือไฮฟอง เวียดนาม

แล้วเรา จะอยู่แบบนี้หรอ ??

ปากบอกว่าก้าวหน้า 

แต่การกระทำถอยหลัง

เปิด 5 อันดับ นักท่องเที่ยวเข้าไทยสูงสุด (วันที่ 8-14 มกราคม 2567)

กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เผยข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ช่วง 8-14 ม.ค. 67 นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวสูงกว่าที่คาดการณ์เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค 

โดยมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางเข้าไทยมากที่สุดจำนวน 104,570 คน (เพิ่มขึ้น 27.75) รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย 81,315 คน (เพิ่มขึ้น 26.95), เกาหลีใต้ 54,023 คน (เพิ่มขึ้น 23.08), รัสเซีย 50,705 คน (ลดลง 1.48) และอินเดีย 35,237 คน (เพิ่มขึ้น 16.67)

นอกจากนี้ยังพบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1-14 ม.ค.2567 ทั้งสิ้น 1,300,363 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 63,205 ล้านบาท

วิเคราะห์!! ไทยค้นพบแร่ลิเทียม 14.8 ล้านตัน โอกาสทำไทยรวยทางลัดกว่า 14 ล้านล้านบาท

(19 ม.ค.67) เป็นที่ฮือฮาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้เผยข่าวการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมในประเทศไทย 2 แหล่ง ได้แก่ แหล่งเรืองเกียรติ และแหล่งบางอีตุ้ม จ.พังงา มากกว่า 14,800,000 ตัน อีกทั้งยังค้นพบแหล่งแร่โซเดียมในพื้นที่ภาคอีสานปริมาณสำรองอีกจำนวนมาก

โดยปัจจุบัน ประเทศที่มีแร่ลิเทียมมากที่สุด 5 อันแรก ได้แก่...

- โบลิเวีย 21.0 ล้านตัน
- อาร์เจนตินา 19.0 ล้านตัน
- ชิลี 9.8 ล้านตัน
- สหรัฐฯ 9.1 ล้านตัน
- ออสเตรเลีย 7.3 ล้านตัน

นั่นหมายความว่า การค้นพบแร่ลิเทียมในไทยตามปริมาณที่กล่าวมานั้น จะทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีแร่ลิเทียมมากเป็นอันดับ 3 ของโลกทันที

ยิ่งไปกว่านั้น หากประมาณการมูลค่าดูแล้ว น่าจะอยู่ที่ 14-15 ล้านล้านบาท หากคิดจากราคาแร่ลิเทียมในปัจจุบันที่ขายกันอยู่เฉลี่ยตันละ 30,000 ดอลลาร์ หรือ 1 ล้านบาท

ถ้าให้เปรียบว่ามากขนาดไหน ก็เทียบกับมูลค่าการแจกเงินผ่าน Digital Wallet ที่ใช้งบประมาณ 5 แสนล้านบาท แล้วการค้นพบของไทยหนนี้ สามารถเอามาแจกเงินดิจิทัลได้เกือบ 30 รอบได้เลยทีเดียว

สำหรับแร่ทั้งสองชนิดนี้ ถือเป็นแร่หลักหรือวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) 100% ซึ่งแน่นอนว่าการค้นพบครั้งนี้จะเสริมศักยภาพความพร้อมของไทยในการเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลาง และฐานการผลิตแบตเตอรี่ EV ในภูมิภาคได้อย่างมาก

ขณะเดียวกัน ก็เชื่อว่าจะช่วยดึงดูดนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติที่มีศักยภาพเข้ามาตั้งโรงงาน ท่ามกลางการแข่งขันของนานาประเทศ เพื่อให้ไทยมุ่งสู่การเป็นฐานผลิตหลักของภูมิภาค ภายใต้การคาดการณ์ว่า ความต้องการลิเทียมทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าภายในปี พ.ศ. 2568 และจะต้องการมากกว่า 2 ล้านตันภายในปี พ.ศ. 2573

ฉะนั้น หากจะพูดว่าประเทศไทยเหมือนตกถังข้าวสารขนาดยักษ์ ก็คงไม่ผิด เพราะปัจจุบันนี้ 70% ของลิเทียมที่ผลิตทั่วโลก ได้ถูกใช้ไปกับแบตเตอรี่ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้านั่นแล

เห็นภาพแบบนี้แล้ว เศรษฐกิจไทย คงพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงกันเลยทีเดียว...

‘อ.ลอย’ เตือนอย่าเพิ่งดีใจไทยมีลิเทียม 14.8 ล้านตัน ชี้!! ส่วนใหญ่คือ ‘หิน-สินแร่’ อาจเป็นลิเทียมแค่ 3 หมื่นตัน

เมื่อไม่นานมานี้ประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ว่าค้นพบแหล่งแร่ลิเทียม-โซเดียมที่คาดการณ์ว่ามีปริมาณมากถึง 14.8 ล้านตัน จากแหล่งแร่คุณภาพดี 2 แห่ง ได้แก่ แหล่งเรืองเกียรติ และแหล่งบางอีตุ้ม จ.พังงา

ล่าสุด (19 ม.ค. 67) อาจารย์ลอย ชุนพงษ์ทอง นักคณิตศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญดาราศาสตร์คำนวณ และยูทูบเบอร์ ผู้ก่อตั้ง ‘Loy Academy’ ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า…

หยุดแหกตา โกหกประชาชน!! เรื่องแหล่งแร่ #ลิเทียม ที่พังงา แร่ Lepidolite ที่ตะกั่วทุ่งมี % Lithium Oxide ราว 0.35-0.45%

1. สินแร่ (หิน) Lepidolite 25 ล้านตัน ไม่ใช่ลิเทียมออกไซด์ 25 ล้านตัน ตามที่ตีข่าวใหญ่โต มีลิเทียมออกไซด์ ไม่เกิน 0.45% ของหินชนิดนี้ ที่แหล่งนี้

2. แหล่งเล็กมาก ต่อให้เอา 2 แหล่ง และต่อให้มีหินแร่รวมกัน 25 ล้านตัน ก็คาดว่าขุดหินแร่มาใช้ได้อย่างเก่งแค่ 10 ล้านตัน ถ้าแยกแร่ได้ดีเยี่ยม ก็เหลือลิเทียมออกไซด์ไม่เกิน 3 หมื่นตัน

3. ที่สำคัญสุดคือเกรดห่วย ต่อให้นำสินแร่ขึ้นมาได้ ยกสินแร่ให้ผมฟรี ๆ ผมก็ไม่เอาครับ เพราะเกรดต่ำมาก 0.45% ปรกติเกรดที่คุ้มค่าการลงทุนแต่งแร่ คือ 0.9% ค่าสกัดให้เป็นลิเทียมออกไซด์ ต่อตันอาจแพงกว่าราคานำเข้าเสียอีก ประมาณว่า แหล่งนี้ต้องใช้หินแร่ (สินแร่) ถึง 300 ตัน จึงจะสกัดลิเทียมออกไซด์ได้ 1 ตัน

อย่างไรก็ตามนั่นหมายความว่าประเทศไทยไม่ได้มีแร่ลิเทียม 14.8 ล้านตันอย่างที่เป็นข่าว แต่เป็นสินแร่ (หินที่มีแร่) จำนวน 14.8 ล้านตันเท่านั้น ซึ่งหากสกัดออกมาเป็นลิเทียมออกไซด์เรียบร้อยแล้วจะมีเพียง 3 หมื่นตันเท่านั้น และประเทศไทยอาจไม่ได้เป็นอันดับที่ 3 เหมือนที่คาดการณ์ไว้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top