Monday, 19 May 2025
น้ำท่วม

'โด่ง-อรรถชัย' ลั่น!! เห็นข่าวนํ้าท่วมตอนนี้ คิดถึงได้แค่เรื่องเดียว ข่าว 'วิสุทธิ์ ไชยณรุณ' ร่ำไห้!! ถูกบางพรรคตัดงบฯ ฝายแกนซีเมนต์

(24 ส.ค. 67) ‘โด่ง อรรถชัย’ โพสต์คลิป โดยมีเนื้อหา ดังนี้ …

เมื่อประมาณต้นปีตอนที่เราผ่านงบประมาณ 2567 กัน มีภาพนี้เกิดขึ้นในสภาคือ ภาพของ ‘นายวิโรจน์’ ที่เต้นแร้งเต้นกา เยาะเย้ยฝ่ายรัฐบาล

เพราะว่าเค้าล้มงบประมาณโครงการหนึ่งไปได้ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลเสนอและเป็นโครงการที่พรรคเพื่อไทยยืนยันอย่างยิ่งนะครับว่า เป็นโครงการที่สําคัญนั่นก็คือเขื่อน โครงการเขื่อนซีเมนต์

เขื่อน แกนดิน ซีเมนต์ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดเล็กนะซึ่งสามารถอนุมัติงบประมาณทําให้อบจ. อบต. หน่วยงานการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถนําไปสร้างกันได้ง่ายง่ายกันได้เร็ว ใช้งบประมาณไม่เยอะ แต่มันจะเกิดฝ่ายทดน้ำ จํานวนมากเมื่อเกิดน้ำาท่วมขึ้นมาเนี่ยฝายเหล่านี้เนี่ยก็จะไปช่วยชะลอ กําลังน้ำ ที่ไหลมาตามแม่น้ำ ทําให้น้ำไม่สามารถจะไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่ต่างต่างได้อย่างรวดเร็ว

เพราะรักเวลาน้ำท่วมแบบนี้ ผมเห็นสภาพทางภาคเหนือ แล้วผมนึกถึงภาพนี้ทุกที นึกถึงบรรยากาศวันนั้นที่พวกเขาหัวเราะเยาะพรรคเพื่อไทยเขาดีใจที่ล้ม

ตัดงบประมาณเขื่อนแกนดินซีเมนต์ตัวนี้ไปได้ซึ่งรายการรู้ทันเอารายละเอียดของเรื่องนี้มาว่ากันแล้วพูดไปแล้วโครงการนี้เป็นโครงการที่ผมบอกว่าดีมากๆนะครับ

ดีมากๆ วันนั้นท่านวิสุทธิ์ไชยณรุณเนี่ยถึงกับหลั่งน้ำตาเลยนะ ครับคุณคิดว่าคุณทําลายเพื่อไทยหรอคุณคิดว่าคุณสกัดงบเพื่อไทยเสนอไปได้โดยไปบอกว่าในระดับเพื่อไทยก็จะเอาไปแล้วไปแบ่งเงินกินกับผู้รับเหมา

ระดับทั้งๆที่เรื่องเหล่านี้มันไม่มีมูลเลยแม้แต่นิดเดียวกล่าวหานะครับแล้วก็ล้มโครงการนี้ลง

วันนั้น คุณวิสุทธิ์ ร้องไห้เลยนะจําได้ไหมแล้วก็ที่เขาร้องไห้เขาเจ็บปวดแทนชาวบ้านเขารู้

แล้วเดี๋ยวหน้าฝนกําลังจะมานะครับ น้ำท่วมกําลังจะมา

ภัยพิบัติกําลังใจแล้วไม่ใช่แค่นี้นะนะครับเดี๋ยวจะมีอีกพายุจะมาอีกหลายลูกแล้วเวลาน้ำท่วมทีไร ท่านให้คิดเถอะว่าพรรคไหนนะครับเป็นพรรคที่สกัด

วันนี้ก็ผมเห็นอยู่ตามหน้าจอนะครับ มาเรียกร้องให้แก้ไข 
ให้รัฐบาลไปช่วยกันแก้ไขหาเรื่อง รัฐบาลทั้งๆที่เขาอยู่ในลักษณะรักษาการนะครับแต่ว่าอํานาจในการดูแลตรงนี้มีข้าราชการ

แต่ว่าประเด็นก็คือว่า เขาทํางานอยู่

ไม่ได้นิ่งนอนใจครับแต่เชื่อไหมครับว่าการแก้ไขเนี่ย  ยังไงก็ตามมันไม่ดีเท่าการป้องกันหรอก

วันที่เขาจะป้องกันสร้างเขื่อนแกนดินซีเมนต์เนี่ย

ของบประมาณพวกคุณขัดขวางพวกคุณตัดงบนี้ทิ้ง

ลไม่ให้มีแนวป้องกันให้กับประชาชน

วันนี้พอน้ำท่วมคุณก็หันมาด่ารัฐบาล ว่าทําไมไม่เร่งรีบแก้ไข พรรคนี้ครับ ‘ผมบอกว่า ผมจะไม่สนับสนุนตลอดกาล’

‘จิราพร’ ตั้งศูนย์ JIC ระดมข้อมูลน้ำท่วม ย้ำ!! เร่งช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤต

(25 ส.ค. 67) นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด โดยเฉพาะการติดตามและรับข้อมูลข่าวสารของพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแล ทำหน้าที่เป็นหน่วยเชื่อมประสานระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชน โดยยึดแนวทางการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤต (แผนพระอินทร์) ของกรมประชาสัมพันธ์

นางสาวจิราพร กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารร่วม (Joint Information Center : JIC) ซึ่งจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัย โดยมีสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก และบูรณาการการทำงาน ระดมผู้ปฏิบัติงานสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ที่มีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งรายงานข่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไป

นางสาวจิราพร กล่าวว่า นอกจากนี้ กรมประชาสัมพันธ์ยังได้ปรับรูปแบบการนำเสนอรายการข่าวและรายการต่างๆ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อรองรับการสื่อสารสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งสามารถติดตามได้จากช่องทางต่างๆ ดังนี้ 1. สถานีโทรทัศน์ : NBT2HD ซึ่งเปิดช่วงพิเศษ “สถานการณ์-ช่วยเหลือน้ำท่วม” ในรายการ Better Future เวลา 10.00 – 11.00 น. ทุกวัน และรายการ NBT มีคำตอบ เวลา 15.00-16.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ สรุปสถานการณ์น้ำ ในรายการข่าวภาคค่ำ เวลา 17.30 น. ของทุกวัน

นางสาวจิราพร กล่าวว่า 2. วิทยุ : FM 92.5 MHz 3. ช่องทาง Online : สามารถติดตามทาง X และ Facebook: NBT CONNEXT NBT2HD กรมประชาสัมพันธ์ เพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด Live : กรมประชาสัมพันธ์ Website : www.prd.go.th และ http://prdee.prd.go.th

“กรมประชาสัมพันธ์จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์อุทกภัย เพื่อสื่อสารกับประชาชนในช่องทางต่างๆ นำไปสู่การดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย สามารถประสานมายังช่องทางต่าง ๆ ที่กรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการ หรือโทรสายด่วน 1111 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล สายด่วน 1784 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สายด่วน 1567 ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1586 ทางหลวง และทุกช่องทางของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งทางรัฐบาลเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่“ นางสาวจิราพร กล่าวทิ้งท้าย

‘รมว.ปุ้ย’ สั่ง ‘SME D Bank’ ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ‘เอสเอ็มอี’ ที่เดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม เผย!! มีมาตรการ ‘พักชำระหนี้-สินเชื่อเติมทุนซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ’ ไว้รองรับแล้ว

(25 ส.ค. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากเหตุอุทกภัยในพื้นที่หลายจังหวัดภาคเหนือ ส่งผลให้ประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจประสบปัญหาต่อการใช้ชีวิต และการประกอบอาชีพ ตนจึงได้สั่งการให้ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ลงพื้นที่ และดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน 

ทั้งนี้ในเบื้องต้นผู้บริหารสาขาธนาคารในพื้นที่ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ทั้ง จ.น่าน และ จ.แพร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึง สำรวจความเสียหายและความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ สำหรับเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมด้วยมาตรการที่ธนาคารมีไว้รองรับอยู่แล้ว ทั้งมาตรการพักชำระหนี้ และมาตรการสินเชื่อเติมทุนสำหรับซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

“ภูมิธรรม”สั่งการด่วน ดูแลสินค้าที่จำเป็นในพื้นที่น้ำท่วม อย่าให้ประชาชนได้รับผลกระทบ พร้อมให้พาณิชย์จัดธงฟ้าราคาประหยัดประสานห้าง ลดราคาวัสดุก่อสร้าง สินค้าทำความสะอาด ดูแลค่าครองชีพหลังน้ำลด

เมื่อวานนี้ วันที่ 25 สิงหาคม 2567 ที่วัดอัมพวัน(ม่วงใต้) ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยว่า ได้สั่งการให้นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือเกษตรกร ประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ และให้เข้าไปดูแลในเรื่องราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ โดยสั่งการให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดและเกาะติด อย่าให้มีผลกระทบต่อประชาชน

โดยในด้านการดูแลสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ และสินค้าซ่อมแซมบ้าน ได้รับรายงานว่ากรมการค้าภายใน ได้ประชุมหารือกับห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง อาทิ โฮมโปร ไทวัสดุ ดูโฮม โกลบอลเฮ้าส์ เมกาโฮม แม็คโคร บิ๊กซี โลตัส โกโฮลเซลล์ 7-Eleven ชมรมทายาทห้างค้าปลีก-ค้าส่งไทย บริษัท นิ่มซี่เส็ง จำกัด และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อป้อนสินค้าเข้าพื้นที่ ดูแลเรื่องการขนส่ง ซึ่งได้รับการยืนยันสินค้ามีเพียงพอ การขนส่งไม่มีปัญหา และพร้อมจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้วย โดยเฉพาะของใช้จำเป็น รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมและทำความสะอาด

ทั้งนี้ ยังได้กำชับให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด กำกับดูแลให้มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า และเข้มงวดไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และหากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และกรณีจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 ทางแอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด

อย่างไรก็ตาม หลังน้ำลด กระทรวงพาณิชย์ จะเข้าไปดูแลและลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ประสานร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จัดสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด นำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทำความสะอาด สินค้าซ่อมแซมบ้าน ไปจัดจำหน่ายราคาพิเศษ  เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยด่วนด้วย

เจ้าหน้าที่รุดช่วย 'โกลเด้น' ตกฝายน้ำล้น ฮึด!! ลอยคอสู้กระแสน้ำเชี่ยวนานหลายชั่วโมง

(26 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ช่วงนี้ฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้น้ำไหลทะลักออกจากหนองบึงนาคำ เขตเทศบาลตำบลบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยนายสุรเชศฐ์ ภูมิศรีแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีสุนัขตกน้ำบริเวณฝายน้ำล้นนานหลายชั่วโมง กำลังลอยคอพยายามตะเกียกตะกายหนีตาย ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว จึงพร้อมด้วยฝ่ายป้องกันฯ เทศบาลตำบลบ้านเชียง รุดเข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน 

แม้การช่วยเหลือครั้งนี้จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว แต่แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยเหลือสุนัขตัวดังกล่าวขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย พบเป็นสุนัขเพศผู้ สายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ทราบชื่อ เจ้าผักหวาน ขณะนั้นอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง เจ้าของจึงรีบนำส่งคลินิกรักษาสัตว์อบอุ่น ที่ อ.หนองหาน ทันที ล่าสุด ทราบว่าเจ้าผักหวานอาการปลอดภัยแล้ว 

‘ช่อง Cullen Hateberry’ แจ้งเลื่อนลงคลิปเที่ยว จ.น่าน พร้อมส่งความห่วงใย-กำลังใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

(26 ส.ค. 67) สถานการณ์น้ำท่วม จ.น่าน ที่ได้รับผลกระทบถึง 11 อำเภอ 65 ตำบล 435 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อน 50,000 ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ในหลายพื้นที่น้ำได้ลดลงเริ่มเข้าสู่ภาวะเกือบปกติแล้ว แต่ยังมีบางส่วนในพื้นที่ อ.เมืองน่าน และ อ.เวียงสา ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำและเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังคงมีน้ำขังอยู่ โดยทุกภาคส่วนได้เร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือคนในพื้นที่ หากไม่มีฝนตกซ้ำคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้

ต่อมา ยูทูบเบอร์ชื่อดัง 'คัลแลน' จากช่อง '컬렌 Cullen HateBerry' ประกาศจากทีมงานเลื่อนการอัปโหลดวิดีโออีพีที่ถ่ายใน จ.น่าน ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะดีขึ้น โดยระบุข้อความว่า.. 

"ทางทีมขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงการอัปโหลด Ep.น่าน ที่มีกําหนดการอัปโหลดในวันนี้ โดยจะทำการอัปโหลดหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นครับ เนื่องจากตอนนี้หลาย ๆ พื้นที่ในหลายจังหวัดที่ประสบอุทกภัย กำลังเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ความรัก และความใส่ใจอย่างมากครับ ทางทีม Cullen Hateberry หวังว่าทุก ๆ คนจะปลอดภัย เราขอส่งความรักความห่วงใยพร้อมกับกําลังใจมาให้อีกครั้งนะครับ"

"ทีมช่องยูทูป Cullen Hateberry ขอส่งความห่วงใย และขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ประสบและได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั่วภูมิภาค ขอให้ทุก ๆ คนผ่านพ้นวิกฤตนี้โดยเร็วครับ"

'หมอเหรียญทอง' แจง 10 ขั้นตอน รับมือได้ทันที หากเกิดภัยน้ำท่วม มั่นใจ!! ดูแลผู้ป่วย 'รพ.มงกุฎวัฒนะ' ทุกคนได้อย่างปลอดภัย

(26 ส.ค. 67) หมอเหรียญทอง แน่นหนา ได้ออกมาโพสต์ ประกาศความพร้อมปฏิบัติการสาธารณภัย ของ รพ.มงกุฎวัฒนะ หากเกิดสถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง และ กรุงเทพฯ เหนือ เพื่อทราบดังต่อไปนี้

1. ระบบไฟฟ้ากำลัง (ภาพที่ 1) ของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้ย้ายจากชั้นใต้ดิน อาคารเก่า (อาคาร 1) ย้ายไปยังชั้นที่ 2 อาคารใหม่ (อาคาร 3) ที่มีความสูงจากระดับ ถ.แจ้งวัฒนะมากถึง 5 เมตร หรือสูงจากระดับน้ำทะเล 6 เมตร เปิดใช้งานระบบไฟฟ้ากำลังในชั้นที่ 2 อาคารใหม่ (อาคาร 3) มาตั้งแต่ 9 ม.ค.67 แล้ว

2. ระบบไฟฟ้าสำรอง (ภาพที่ 2-3) ของ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นระบบเครื่องปั่นไฟสำรองคู่ [Dual Synchronizing Generator] ขนาด 820 KVA จำนวน 2 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องปั่นไฟจ่ายไฟฟ้าสำรองให้แก่แผนกที่มีผู้ป่วยอาการหนัก เช่น ไอ ซี ยู, ห้องผ่าตัด, ห้องสวนหัวใจ, ห้องฉุกเฉิน ฯลฯ ระบบเครื่องปั่นไฟสำรองคู่สามารถเดินเครื่องพร้อมกัน หรือเดินเครื่องสลับสับเปลี่ยนกันเพื่อให้เครื่องปั่นไฟฟ้าสำรองได้พักผ่อนเครื่องได้ทำให้มีขีดความสามารถจ่ายไฟฟ้าสำรองในการรักษาผู้ป่วยอาการหนักได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา รพ.มงกุฎวัฒนะสามารถพึ่งตนเองได้ หากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้ระบบไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวงขัดข้องอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายวันหรือหลายสัปดาห์

3. ระบบการส่งต่อผู้ป่วยทางอากาศ [Aeromedevac] (ภาพที่ 4) คือ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ตามมาตรฐาน ICAO หรือองค์การการบินระหว่างประเทศ ขนาด 21.0 เมตร x 21.0 เมตร หรือ 441 ตารางเมตร พร้อมลานจอดพักเครื่อง (PARK) อีก 47.0 เมตร x 8.0 เมตร หรือ 376 ตารางเมตร รองรับน้ำหนักเฮลิคอปเตอร์ขณะทำการบินขึ้นสูงสุด หรือ MTOW [Maximum Take Off Weight] สูงสุด 2 เท่าของเฮลิคอปเตอร์ที่มีน้ำหนักรวมสัมภาระบรรทุก 3,750 กรัม ซึ่งหมายความว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ รุ่น EC145 แล AW 149 สามารถบินขนส่งลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะได้

4. ระบบการส่งต่อผู้ป่วยทางน้ำ คือ ‘ทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะด้าน ซอยแจ้งวัฒนะ 14’ , ‘ทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะด้าน ซอยแจ้งวัฒนะ 12’ ที่มีระดับความสูงเหนือถนนแจ้งวัฒนะ 1.20 เมตร ตลอดจน ‘เกาะกลางถนนแจ้งวัฒนะ’ ซึ่งเคยใช้ปฏิบัติการเป็น ‘ท่าเรือ รพ.มงกุฎวัฒนะ’ มาแล้วเมื่อมหาอุทกภัย พ.ศ.2554

5. ระบบก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์ (ภาพที่ 5) ที่มีขนาดบรรจุออกซิเจนเหลว (Liquid Oxygen) ขนาดใหญ่รองรับผู้ป่วยจำนวนสูงสุดมากถึง 600 เตียง พร้อมระบบการผลิตก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์สำรอง ในกรณีที่โรงงานผู้ผลิตออกซิเจนเหลวไม่สามารถขนส่งลำเลียงออกซิเจนเหลวมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะได้ เราก็ยังสามารถประคับประคองด้วยการผลิตอ๊ออกซิเจนสำรองบรรจุถังเพื่อพึ่งตนเองในการรักษาผู้ป่วยได้ยามจำเป็นหน้าสิ่วหน้าขวาน

6. ระบบ ไอ ซี ยู ที่มีขีดความสามารถรับผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมากถึง 90 เตียง และสามารถเพิ่มกำลังสูงสุดอีก 36 เตียงรวมขีดความสามารถสูงสุดในสถานการณ์จำเป็นมากถึง 126 เตียง ไอ ซี ยู …ไม่ได้โม้นะครับ ปฏิบัติการสำเร็จจนเป็นที่ประจักษ์มาแล้วในสถานการณ์โควิด-19 ระหว่างเดือน เม.ย.- ก.ย.64

7. ระบบหอผู้ป่วยใน ทั้งห้องพิเศษเดี่ยว และหอผู้ป่วยสามัญที่พร้อมปฏิบัติการรับการส่งต่อผู้ป่วยจำนวนมากจากพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยสามารถรับผู้ป่วยสูงสุด 600 เตียง หากสถานการณ์เลวร้ายก็พร้อม ‘ปฏิบัติการ รพ.สนามขั้นสมบูรณ์อีก 400 เตียง’ รวมสูงสุด 1,000 เตียง ภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน…โม้ฉิบหายแต่ทำมาแล้วโว้ย!

8. ระบบอาหารของ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็น ระบบ ‘Cook & Chill’ ดังนั้นเราจึงพร้อมผลิตอาหารจำนวนมาก ๆ แล้วกักตุนไว้ให้เย็น [Cold room] ให้สามารถเผชิญปัญหาการขาดวัตถุดิบในการทำอาหารได้นาน 30 วัน

9. ระบบระดมพล รพ.มงกุฎวัฒนะรวมบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาเข้าพักอาศัยใน รพ.มงกุฎวัฒนะทันทีที่มวลน้ำเข้าถึงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี-นนทบุรี ทั้งนี้เพื่อให้ รพ.มงกุฎวัฒนะมีความพร้อมด้านกำลังพลเต็มอัตรา ตลอดจนการรระดมพลจิตอาสา ดังเช่นปฏิบัติการ รพ.สนามพลังแผ่นดินในสถานการณ์โควิด-19 ที่เราประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดมาแล้ว

10. อื่น ๆ ขอเว้น เพราะโม้มากไปแล้วครับ

รพ.มงกุฎวัฒนะจะเป็น ‘ศูนย์รับการส่งต่อผู้ป่วยจากสถานการณ์มหาอุทกภัยในทันทีที่มวลน้ำคุกคามประชาชน’ ดังนั้น รพ.มงกุฎวัฒนะขอประกาศว่า “พสกนิกรภายใต้ร่มพระบารมีแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้าจะได้รับการรักษาชีวิตอย่างสุดกำลังจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ โปรดอย่าตื่นตระหนกในทุกสถานการณ์ภัยพิบัติ เราคืออดีตทหารของพระราชาจอมทัพภูมิพลมหาราชที่ยังคงเป็นทหารพระราชาแห่งองค์จอมทัพมหาวชิราลงกรณ์พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ทหารเก่าแก่ที่ไม่มีวันตายไปจากพระเจ้าแผ่นดิน

ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
26 ส.ค.67 เวลา 9.35 น.

'เสียงคนพื้นที่' ผู้รับกรรมจากการตัดงบเขื่อนแกนซีเมนต์ชะลอน้ำโดย 'ก้าวไกล' ความคึกคะนองในสภาฯ วันนั้น สร้างความเสียหายแก่ 'หลายจังหวัด' ในวันนี้

(26 ส.ค. 67) จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'นฤเทพ กาละดี' ได้โพสต์ข้อความในฐานะคนที่อยู่ในพื้นที่ จ.น่าน ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ระบุว่า...

เล่าให้เพื่อนฟัง...

เมื่อวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567
ผมยังคงเข้าสวน ที่บ้านวังผา อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ไม่ได้
ทั้งที่เดิม ตั้งใจจะเข้าไปเพื่อล้างทำความสะอาด 
ฟื้นฟูสวนและกระท่อม เพราะยังคงมีฝนตกหนัก 
ระดับน้ำของแม่น้ำน่านที่ผ่านสะพานทุ่งช้างพัฒนา 
ยังมีขึ้น มีลง สลับกับไม่มีความแน่นอน...

"เพราะ #ไม่มีเขื่อนแกนซีเมนต์ชะลอน้ำ หรือ #ฝายแม้ว"

ฝายที่คอยปรับสมดุล การไหลหลากของน้ำฝนที่ตกสะสม
ถ้าเป็นไปได้ ผมและชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง
เราอยากได้งบประมาณก้อนนี้ เพื่อสร้างเขื่อน
เขื่อนแกนซีเมนต์ชะลอน้ำ...

#ที่พรรคก้าวไกล อภิปราย #ตัดงบประมาณส่วนนี้ทิ้ง 

พวกเราอยากได้มันคืนกลับมา...

หลายวันแล้วที่ผมกลับไปดูคลิป 
ที่คุณ #วิโรจน์_ลักขณาอดิสร อภิปรายเสร็จ 
แล้วทำท่าโบกไม้โบกมือสะใจ #ยักไหล่เต้นออกสภาฯ  

ดูคลิปแล้ว #มันเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน 
เจ็บจนผมต้องหลั่งน้ำตา ด้วยความคับแค้นใจ

คุณวิโรจน์ จะรู้ไหมนะ...
ว่า สิ่งที่เขาทำอย่างคึกคะนองในสภาฯ วันนั้น
จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล
ให้กับ คนน่าน แพร่ เชียงราย พะเยา 
และสุโขทัย ในวันนี้ 

แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว ขอได้แค่บันทึกไว้ 
เพื่อให้พรรคการเมือง ในระบบรัฐสภาไทย ทุกพรรค
ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ได้มองเห็นถึงโทษและประโยชน์ 
ของสิ่งที่จะเกิดกับประชาชนเป็นที่ตั้ง 

ไม่ใช่แค่เอาชนะคะคานกัน ด้วยความเชื่อส่วนตัว 

ตอนนี้ผมใคร่ขอความกรุณาต่อรัฐบาลและผู้มีอำนาจ
ช่วยหาหนทาง หาช่องทาง เจียดงบประมาณที่เหลือจ่าย
มาดำเนินการโครงการนี้ ให้จงได้ครับ 

จะว่าไป วงเงินก็ไม่ได้มากมายอะไรเลยครับ 
ไม่ถึง 100 ล้านบาท เท่าที่ผมจำได้แค่ 66 ล้านบาท 

แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นในวันนี้...
มูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท ไปแล้ว

'นฤเทพ กาละดี'
คนพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ

‘อ.เฉลิมชัย’ ชวนนักวาดทั่วไทยขายภาพผ่าน ‘สมาคมขัวศิลปะ’ ระดมเงินทุนบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.เชียงราย

วันนี้ (26 ส.ค. 67) อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ได้เผยแพร่คลิปเชิญชวนให้ผู้ชื่นชอบในผลงานทางศิลปะได้หาซื้อผลงานทางเพจสมาคมขัวศิลปะชื่อ ‘ขัวศิลปะ’ เพื่อนำไปสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตามโครงการ ‘จำหน่ายภาพเพื่อช่วยพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม’

โดยศิลปินทั่วประเทศจะร่วมกันสร้างผลงานและส่งไปจำหน่ายที่สมาคม เมื่อได้เงินทุนจากการจำหน่ายจะส่งไปมอบให้กับ จ.เชียงราย เพื่อนำไปช่วยผู้ประสบภัยที่ อ.เทิง อ.ขุนตาล และ อ.เวียงแก่น อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย และนำไปใช้ภายหลังสถานการณ์กลับสู่ปกติต่อไป เช่น เยียวยา ซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน ฯลฯ ผ่านหน่วยงานทางราชการที่รับผิดชอบภายในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ผู้สนใจสอบถามและส่งผลงานทาง inbox ของเพจ,ไลน์ https://line.me/ti/p/OkrXpvf14A ,หรือโทร : 088-418-5431

อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่าเกิดน้ำท่วมเชียงรายมากมายซึ่งตนได้ไปดูและช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้ว ขณะนี้บรรดาศิลปินยังได้นำผลงานออกมาจำหน่ายในราคาถูก 5,000 บาท ตนจึงขอเชิญชวนศิลปินที่อยากจะร่วมบุญนำผลงานส่งไปทางสมาคมขัวศิลปะได้ ส่วนตัวเองก็นำเงินสดไปบริจาคโดยตรงเลย

โดยจะนำรายได้ทั้งหมดส่งให้กับ จ.เชียงราย เพราะน่าเห็นใจพี่น้องประชาชนอย่างมาก เพราะทุกข์ยากลำบากจากน้ำท่วม ผู้สนใจขอเชิญเข้าไปดูในเพจ "ขัวศิลปะ" ได้และเมื่อเลือกซื้อแล้วนอกจากจะได้ทำบุญยังได้ภาพวาดที่งดงามไปอีกด้วย

ด้านอาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ กล่าวว่าจะมีการตัดยอดเงินซื้อผลงานทางศิลปะเพื่อนำไปช่วยเหลือน้ำท่วมภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้ ในเวลา 18.00 น.จากนั้นจึงจะนำไปส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในวันที่ 29 ส.ค.นี้ต่อไป

‘พีระพันธุ์’ ส่งมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง จัดตั้งโรงครัว-แจกน้ำดื่ม-ส่งทีมงานติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

(26 ส.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความห่วงใยกับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือ โดยได้ส่งมอบถุงยังชีพไปในพื้นที่ประสบภัยตั้งแต่วันแรก และมอบหมายให้นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งศูนย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนตั้งแต่วันแรก โดยได้จัดพื้นที่จอดรถ จัดตั้งโรงครัวแจกจ่ายอาหาร และน้ำดื่ม แก่ผู้ประสบภัย พร้อมจัดส่งถุงยังชีพไปยังชุมชนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง 

นายอัครเดช กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดในวันนี้ ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มอบหมายให้นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.แพร่ อย่างใกล้ชิด

ด้าน นายเอกนัฏ เปิดเผยว่า วันนี้ลงพื้นที่เข้าไปในชุมชนต่าง ๆ ได้พบเห็น บ้านเรือนอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านขาดที่พักพิง ผู้ป่วยที่ติดเตียง ผู้สูงอายุที่ไม่ยอมออกจากบ้าน ซึ่งน่าเป็นห่วงในเรื่อง ความปลอดภัย ความสะอาด สุขอนามัย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ต้องการการดูแล อยากวอนขอให้ทุกภาคส่วน ได้มาร่วมมือกันบรรเทาความทุกข์ของพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วม

"ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหัวหน้าพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มีความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่วันแรก กำชับให้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน ในวันนี้ได้ส่งให้ผมลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เมื่อได้เห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน และเห็นการร่วมแรงร่วมใจของทีมงาน และอาสาสมัครทุกท่าน ขอให้เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ประสบภัยในครั้งนี้ ขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด และเมื่อสู่ภาวะปกติน้ำลดลงแล้ว ยังมีเรื่องความเสียหายของบ้านเรือน ชีวิต ทรัพย์สิน ที่จะต้องช่วยกันดูแลและเยียวยาให้พี่น้องประชาชนกันต่อไป" นายเอกนัฏ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top