Wednesday, 1 May 2024
ทักษิณชินวัตร

26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 ครบรอบ 73 ปี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ นักธุรกิจ – อดีตนายกฯ และนักโทษหนีคดี

26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 หรือ วันนี้เมื่อ 73 ปีก่อน คือ วันเกิดของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย

ทักษิณ ชินวัตร หรือที่มีชื่อแฝงอีกชื่อหนึ่งว่า โทนี่ วู้ดซั่ม เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 23 ดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ. 2544–พ.ศ. 2549 พ้นจากตำแหน่งโดยการรัฐประหาร

ทักษิณ เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2492 ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรคนที่สอง ในจำนวน 10 คนของเลิศ และยินดี ชินวัตร ธิดาในเจ้าจันทร์ทิพย์ (ณ เชียงใหม่) ระมิงค์วงศ์ มีศักดิ์เป็นหลานทวดในเจ้าไชยสงครามสมพมิตร ณ เชียงใหม่ (ราชปนัดดาในพระเจ้าช้างเผือกธรรมลังกา เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 2) 

มีพี่น้อง 10 คน อาทิ เยาวเรศ ชินวัตร อดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และพายัพ ชินวัตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังเป็นพี่เขยของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านทางเยาวภาผู้เป็นน้องสาว 

พันตำรวจโท ทักษิณ สมรสกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ หลังลาออกจากราชการตำรวจ ในปี พ.ศ. 2523 และมีบุตรด้วยกันสามคน ได้แก่ พานทองแท้ ชินวัตร (โอ๊ค) พินทองทา ชินวัตร (เอม) และแพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง)

ทักษิณ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย และได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกที่ต้องใช้ชีวิตนอกแผ่นดินเกิดระหว่างการหลบหนีคดีความอาญา

ทักษิณ สร้างตัวจากการเป็นนักธุรกิจโทรคมนาคมและการสื่อสาร ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทโทรคมนาคมและการสื่อสารขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อนจะขายหุ้นให้กับกลุ่มเทมาเส็ก จากสิงคโปร์

ทักษิณ เดินทางสายการเมืองเต็มตัว โดยพลตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ชักนำ ในปี 2537 หลังจากลาออกจากตำแหน่ง ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น โดยได้โอนหุ้นในบริษัทของตนให้คุณหญิงพจมาน พานทองแท้ พินทองทา แพทองธาร และคนรับใช้ คนสนิทถือแทน

จากนั้นไม่นาน ก็เข้าดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัย รัฐบาลชวน หลีกภัย และในปีต่อมา เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังธรรมแทนพลตรีจำลอง และดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา ในปี พ.ศ. 2539 ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ

'ทักษิณ' เปิดใจอยากเป็นอมตะ สั่งเสียครอบครัว 'ตายแล้วไม่ต้องเผา'

(26 ก.ค. 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเนื่องในวันคล้ายวันเกิด 73 ปี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิด ส.ส. สมาชิกพรรคเพื่อไทย จะร่วมอวยพรวันเกิดนายทักษิณ ผ่านช่องทางต่างๆแล้ว โดยในปีนี้บรรดาลูกชาย ลูกสาว ทั้งนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา น.ส.แพทองธาร รวมทั้งลูกเขย ลูกสะใภ้ หลาน ๆ ในครอบครัว ต่างร่วมเดินทางบินไปร่วมฉลองวันเกิด ซึ่งบรรดาลูกๆร่วมกันจัดทำคลิปวิดีโอ “Long distance call” ความยาวประมาณ 14.40 น. ให้กับนายทักษิณ ด้วย โดยในคลิปเป็นลักษณะการถาม ชวนคุยให้นายทักษิณ เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีต และบอกเล่าถึงอนาคตวันข้างหน้า

ในช่วงต้น ผู้จัดทำคลิปถามว่า วันที่หลาน น้อง ๆ โตขึ้นอีก 10-20 ปี ได้เห็นคลิป ได้อ่านประวัติศาสตร์อันนี้ จะอธิบายอย่างไร และวันนั้นอาจจะไม่ได้อยู่เล่าให้ฟัง แต่เมื่อได้บันทึกไว้แล้วอยากจะบอกอะไร นายทักษิณกล่าวว่า หลานผม ตอนเอมิ นานิ (ลูกแฝด น.ส.พินทองทา) 2 ขวบครึ่ง ไปเจอผมที่ลอนดอน วันที่เขากลับบ้าน

ถามว่า ทำไมคุณตาไม่กลับไปกับพวกเรา แม่เขาก็อธิบายเรื่องราวเป็นอย่างไร แล้วเขาก็ถามว่า ใครแกล้งคุณตา 2 ขวบครึ่ง พวกหลานผม attract พ่อแม่กับตายายแล้วก็จะรู้เรื่อง เด็กสมัยนี้ฉลาด จำได้หมด ผมถือว่า Happiness at home ความสุขอยู่ที่บ้าน เมื่อกลับบ้านไปแล้ว ทำให้กระชุ่มกระชวยมีกำลังใจในการต่อสู้ ในชีวิต ความโง่ มาก่อนความฉลาด

เมื่อถูกถามว่า รู้สึกว่าตัวเองโง่ที่สุด เรื่องอะไร นายทักษิณ กล่าวว่า ผมอาจจะโง่เรื่องคน ประสบการณ์เป็นคนบ้านนอก ชีวิตเราง่าย ๆ อยู่บ้านนอกโตบ้านนอก พอมาอยู่กรุงเทพฯ ชีวิตมันก้าวกระโดด มันผ่านสังคมกรุงเทพฯ น้อยไป สังคมของ Elite น้อยไป เราเลยไม่ได้อยู่ในสังคม Elite แม้ฐานะเราอยู่ใน Elite แต่แทนที่จะไปคบสังคม Elite กลับไปเข้าการเมือง เลยกลายเป็นคนซื่อบื้อคนหนึ่ง

ซึ่งอันนี้ต้อง blame(ตำหนิ) ตัวเองว่า เหมือนกับเรายังไม่รู้วิธีอยู่ในป่า เราไม่เข้าใจ เราถูกปล่อยเข้าไป บางทีเขาบอกว่า say yes อาจจะมี no ซึ่งเราไม่เข้าใจ เราแค่ yes คือ yes และ no คือ no พอเราเป็นเจอ yes but mean no เราตายแล้ว เพราะเราคิดว่าคนทุกคนคงเหมือนเรา เพราะชีวิตเราง่ายมาก แต่ชีวิตของคน elite ยิ่งเป็นนาน ๆ ยิ่ง complicate เร้นลับซับซ้อน อันนี้คือสิ่งที่ผมต้องเรียนรู้ แต่ไม่คิดจะเรียนรู้แล้ว แก่แล้ว เอาความรู้ที่เป็นวิชาการ สอนหนังสือไป อบรมลูกหลาน ไม่ได้ถึงกับ เฮิร์ต แต่เสียดายตัวเอง น่าจะเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองได้มากกว่านี้

“ผมไม่เคยกลัวตาย ถูกลอบสังหารมา 4 รอบ ผมเฉย ๆ ผมถือว่า ถ้าคนเรา มันจะตายมันก็ตาย มันยังไม่ตายก็คือยังไม่ตาย”

เมื่อถูกถามว่า ทั้ง 4 ครั้ง ให้อภัยหมดหรือไม่ นายทักษิณบอกว่า มันเป็นเรื่องที่ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะผมก็ไม่ค่อยเชื่อ ชาติที่แล้ว ชาติหน้า ก็ไม่รู้เป็นกรรมเป็นเวรอะไร ผมก็รู้ ใครเป็นคนทำ เรื่องนี้ ภายในครอบครัวเรารู้หมด เพราะไม่อยากให้เขาไปเจอคนไม่คิดดีกับเรา เมื่อเจอแล้วจะได้ระวังตัว แค่นั้นเอง

นายทักษิณบอกอีกว่า ในภาพอนาคต 20-30 ปี ตัวเองอาจไม่ได้อยู่ทันเห็น แต่ระหว่างที่เราอยู่ ไม่รู้ พระเจ้าจะเอาเราไปเมื่อไหร่ แต่ระหว่างที่อยู่ ก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับคนที่เรารักและที่เขารักเรา คนที่ไม่รักเรา ทำให้เขารักเรามันยาก คนที่รักเราอยู่แล้วก็อย่าให้เขาผิดหวัง คนที่อยู่ตรงกลาง รักบ้าง ไม่ได้รัก ไม่ได้เกลียดอะไร ก็ให้เขาเข้าใจ ทุกวันนี้ไม่ได้มีอะไรเลย เป็นบุคคลอยู่เมืองนอก กลับประเทศก็ไม่ได้ แต่ยังมีคนที่รัก เวลาเรารักลูกก็อยากให้เขาไม่ต้องลำบากเหมือนเรา ตอนที่สร้างตัวเองมา เน้นเรื่องงาน เพราะว่าทุกอย่างบีบคั้น โดยเฉพาะการเงิน

แต่ผมก็เป็นคนที่ขอกำลังใจจากการอยู่กับครอบครัวตลอดเหมือนกัน ตั้งแต่ลำบาก ผมเวลาเครียดเก็บไว้กับตัวเอง เมื่อคิดจนตกผลึกแล้วก็มาคุยกับคุณหญิง บางทีคิด คุณหญิงยังดุเลยว่า ทำไมเธอไม่พูดออกมา ก็พยายามคิด เอาเงินตรงไหนอย่างไร พอพูดออกมาปุ๊บ

'โทนี่' เดือด!! โยนเผือกร้อนให้ 'ลูกสาว' กลับไทยปีไหน กลับอย่างไร ไปถามดู

'ทักษิณ' ยังเพ้อไม่หยุด โยนเผือกร้อนให้ลูกสาวเป็นคนพูดว่าจะกลับไทยปีไหน กลับอย่างไร ลั่นไม่ให้ความสำคัญกับคนที่ท้าทาย ชีวิตจะเป็นคนกำหนดเอง

(3 ส.ค. 65) เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวใน CARE ClubHouse หัวข้อ 'คุยสุดตาซ วาดอนาคตคน Gen Z .' เมื่อค่ำวันอังคาร ตอนหนึ่งว่า...

“กลับแน่นอน อยากรู้รายละเอียดให้ไปถามลูกสาวผม”

มีคนถามว่า 'พี่โทนี่จะกลับไทยเมื่อไหร่เพราะมีคนท้าในสภา'

‘อุ๊งอิ๊ง’ หาเสียงกับชาวเชียงราย ‘ทักษิณ’ กลับไทย โวลั่น!! หากได้เป็นรัฐบาล ขอแค่ 1 ปี ปัญหาใหญ่จะถูกแก้

7 ส.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะแกนนำพรรคเพื่อไทย และครอบครัวเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยคณะแกนนำ คณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส.เชียงราย และส.ส.ภาคเหนือ หลายจังหวัด เดินทางมาจังหวัดเชียงราย เพื่อจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย "ระดมพลคนเจียงฮาย เพื่อไทยมาเหนือสุด" พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต และระบบบัญชีรายชื่อ บางส่วน

ประกอบไปด้วยร.ต.อ. ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน นายอิทธิเดช แก้วหลวง และ น.ส.ละออง ติยะไพรัช

นางสาวแพทองธาร ปราศรัยช่วงหนึ่งว่า พี่น้องชาวเชียงรายสบายดีหรือไม่ ไม่ค่อยสบายใช่หรือไม่ ทำมาหากินลำบาก หนี้สินท่วมท้นใช่หรือไม่ ไม่เป็นอะไร ขอให้พี่น้องอดทนอีกนิด ถ้าวันนี้ทุกข์ยาก พรุ่งนี้ต้องดีขึ้นแน่นอน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมาดูแลประชาชนอีกครั้ง รู้สึกเป็นเกียรติที่มาเยี่ยมชาวเชียงราย ชาวเชียงรายไม่เคยลืมพรรคเพื่อไทย เหมือนที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยลืมชาวเชียงราย

หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า คุณพ่อกับคุณอาฝากความคิดถึงมาให้พี่น้อง เพิ่งกลับจากการไปเยี่ยม ทั้ง 2 คน ดีใจที่ตนได้มาเชียงราย ทุกท่านทราบดีว่า นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนเชียงใหม่ แต่คนในครอบครัวทั้งพี่เขย และพี่สะใภ้ เป็นคนเชียงรายแท้ๆ

"คุณพ่อตั้งใจว่า ถ้าได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทย อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน มีอะไรร่วมมือกันไม่ขัดแย้งกัน เพราะพี่น้องกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ สิ่งที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นคือ ให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ให้พี่น้องพ้นจากความทุกข์ยาก"

'ทักษิณ' อ้างเป็นคนบุกเบิกใส่เสื้อเหลือง ลั่น เป็นทั้งเหลือง – แดง พร้อมอโหสิทุกคน

'ทักษิณ' อ้างเป็นคนบุกเบิกใส่เสื้อเหลือง เป็นทั้ง เหลือง-แดง อยากเห็นบ้านเมืองมีความสามัคคี ลั่นถ้า ส.ส.พรรคอื่นย้ายกลับมาเพื่อไทย ถ้าเขาสำนึกผิด ก็ควรให้เขาเข้ามา ถ้าไม่สำนึกก็อย่ารับ

14 ก.ย. 2565 - เพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ นโยบายเกษตร-Soft Power ของเพื่อไทย ทำอย่างไรให้ปังเหมือนไทยรักไทย เมื่อวันอังคาร ที่ 13 กันยายน 2565 เวลา 20.00 น. ตอนหนึ่งว่า

Q : คิดยังไงกับ ส.ส.พรรคอื่นย้ายกลับมาเพื่อไทย

‘ทักษิณ’ โพสต์รำลึก 16 ปี ถูกรัฐประหาร โอด ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร

‘ทักษิณ ชินวัตร’ โพสต์ข้อความย้อน 16 ปี ถูกยึดอำนาจ ย้ำ ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร ซัดทหารเหมือนหัวหน้ายามที่ใช้เฝ้าทรัพย์สิน หาเงินไม่เป็น ทำประเทศเสียโอกาสหลายด้าน

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้องความเฟซบุ๊ก ในโอกาสครบรอบ 16 ปี ของการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ว่า 

ครบรอบ 16 ปี ของการรัฐประหาร

19 กันยายน 2549 ขณะที่ผมเดินทางไปประชุมสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาผมถูกการรัฐประหารลับหลัง (ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร) ผมเสียดายสิ่งดี ๆ ที่ควรจะเกิดแต่วันนี้กลายเป็นความเลวร้าย

1. ผมเสียดายความเป็นประชาธิปไตยของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนแต่วันนี้เรากลับต้องมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเผด็จการ

2. ผมเสียดายความสง่างามและความไว้เนื้อเชื่อใจของประเทศไทยบนเวทีโลก

3. ผมเสียดายโอกาสประเทศในการพัฒนาไม่ว่าจะเป็น การศึกษา เทคโนโลยี การเกษตร และอุตสาหกรรม

4. ผมเสียดายโอกาสในการแก้ปัญหาความยากจนซึ่งคนไทยควรจะหายจนไปแล้ว

5. ผมเสียดายโอกาสของคนไทยที่ทุกวันนี้มองไม่เห็นอนาคตตนเอง เพียงแค่หางานทำให้ได้เพื่ออยู่ไปวัน ๆ ทั้ง ๆ ที่รายได้ต่ำกว่าประเทศอื่นในระดับการพัฒนาเดียวกัน

6. ผมเสียดายความเป็นศูนย์กลางการบินของสุวรรณภูมิ ทั้ง ๆ ที่ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เราควรจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

'ทักษิณ' ได้ทีซัดรัฐบาลไม่ปราบยาเสพติด หากินกับตำรวจ กรรมตกอยู่กับประชาชน สร้างวาทะกรรมฆ่าตัดตอนเพราะจะรัฐประหารตนเอง ตั้งกก.สอบแล้วไม่พบสักราย ตาย 80 คน เพราะต่อสู้กับตำรวจ

(12 ต.ค.65) เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ CareTalk x CareClubHouse หัวข้อ ปราบยาบ้า - คุมอาวุธ คืนความสุขที่แท้จริงให้คนไทย โดยระบุว่า

“...เคยเห็นรัฐบาลทำลายยาเสพติดไหม ไม่รู้เวียนเทียนกลับมาหรือเปล่า ผมไม่ด่าตำรวจนะ แต่ผมด่ารัฐบาลที่หาแดกกับตำรวจมากกว่า...”

เรื่องยาเสพติด วันนี้เนี่ยค้ายากันเยอะมาก จับยากันแต่เคยเห็นรัฐบาลทำลายยาเสพติดไหม ตอนสมัยผมอยู่ จับได้ทีเป็น 20-30 ตัน แล้วผมสั่งให้เผาทีเดียว ขอเตาที่นวนครเผาเกลี้ยงหมดไม่ให้เหลือ แล้วตำรวจที่จับยาได้แล้วนำส่งของกลาง ผมให้เม็ดละ 50 สตางค์เป็นรางวัลนำจับแล้วเผาทำลาย

ไม่รู้วันนี้เวียนเทียนกลับมาหรือเปล่า ผมไม่ด่าตำรวจนะ แต่ผมด่ารัฐบาลที่หาแดกกับตำรวจ หากินกับการเลื่อนตำแหน่งของตำรวจ บาปกรรมมาก เพราะกรรมนี้มันมาตกอยู่กับประชาชน

“เขาสร้างวาทกรรมฆ่าตัดตอนเพราะจะรัฐประหารผม แต่พอตั้งกรรมการสอบกลับไม่พบว่าผมสั่งฆ่าตัดตอนแม้แต่รายเดียว”

พลิกปมการเมือง ครั้ง 'ทักษิณ' หักหลัง 'สมัคร สุนทรเวช' จุดจบทางการเมืองที่น่าเวทนาของชายร่างใหญ่วัย 73

จะว่าไป 'ทักษิณ ชินวัตร' นี่ เป็นคนที่ใช้นอมินีเปลืองที่สุดเลยก็ว่าได้ 

แล้วก็ต้องบอกเลยว่า เมื่อพลิกย้อนประวัติศาสตร์การเมืองไทย สภาพนอมินีแต่ละคนของทักษิณ มีจุดจบที่ไม่สวยเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่คนสุดท้ายอย่าง 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ด้วย

ล่าสุดส่งอุ๊งอิ๊งมาเป็นนอมินีพ่อ ก็รอดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร จะแลนสไลด์อย่างที่ฝันไว้หรือไม่?

พูดถึงเรื่องนอมินีแล้ว ก็อดยกกรณีที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนอมินีทักษิณ ชินวัตรกรณีหนึ่ง อย่างกรณีสมัคร สุนทรเวช ไม่ได้ หลังจากกลายมาเป็นนอมินีทักษิณ แล้วถูกหักหลังจนจบชีวิตทางการเมืองอย่างน่าเวทนา

ภาพจำที่บรรดาคอการเมืองจดจำขึ้นใจคือ ผู้ชายร่างสูงใหญ่ วัย 73 ปี เดินเดียวดายสีหน้าเศร้าสร้อยขึ้นรถกลับบ้าน ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายที่คนไทยได้เห็นสมัครปรากฎตัวต่อที่สาธารณะ ก่อนจะล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งตับ 

นั่นคือวันที่สมัคร สุนทรเวช คงสุดชอกช้ำ หลังถูกคนที่ตนเคยอวยยศ ว่าเหมือน 'นมตราหมี เพราะดีที่สุด'  อย่างทักษิณหักหลังหลอกให้แต่งชุดเต็มยศไปรอเก้อ แต่สุดท้ายก็ต้องเดียวดายกลับบ้าน!! 

ย้อนรอยปูมประวัติศาสตร์การเมืองยุคนั้น : วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไปครั้งแรกภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และเป็นครั้งแรกภายหลังการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยครั้งนั้นกำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 480 คน เป็นส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน และปาร์ตี้ลิสต์ 80 คน

ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคพลังประชาชน ซึ่งมี สมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรค ได้จำนวนส.ส.มาเป็นอันดับ 1 รวม 256 คน ตามมาด้วยพรรคประชาธิปัตย์ 162 คน และ พรรคชาติไทย 29 คน

จากนั้นเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2551 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ ให้สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมียงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาถูกกล่าวหาจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถึงการดำรงตำแหน่งของสมัครว่าเป็นนอมินี ของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

แต่ในปีเดียวกันนั้นเอง เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของสมัคร สุนทรเวชสิ้นสุดลง เนื่องจากรับเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ ของรายการ 'ชิมไปบ่นไป' และ 'ยกโขยง 6 โมงเช้า'

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง เห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 267 เรื่องคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของสมัครสิ้นสุดลง

‘ทักษิณ’ แฉ!! นายทุนการเมือง ซื้อตัวส.ส.หัวละ 80 ล้าน แนะ!! ประชาชนเอาตังค์ แต่อย่าไปเลือก

(9 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย โพสต์ข้อความของ โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาในประเด็น 'ที่ดิน สุรา กัญชา…มั่วเต็มคาราเบล : ทำนโยบายสาธารณะไม่เป็น หรือเห็นแก่เงินของใคร' มีเนื้อหาช่วงหนึ่งว่า...

ก่อนอื่นเลย ต้องขอให้พี่น้องคนไทย เอาความทุกข์ความโศกลอยไปกับกระทง แต่คิดว่าลอยกระทงปีนี้ คนไทยคงลอยทุกข์ลอบโศกไปได้ไม่หมด เพราะรัฐบาลสร้างทุกข์สร้างโศกเพิ่มให้คนไทยตลอด แต่ยังไงซะ ก็ขอให้คนไทยมีความสุขในวันลอยกระทงปีนี้ครับ

จากนั้นได้กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองว่า วันนี้พวกธนกิจการเมืองพังแน่ คนมีเงินเยอะเขากว้านซื้อ ส.ส.แล้ว ตอนนี้ราคาพุ่งถึงหัวละ 80 ล้านแล้ว ซึ่งค่าหัว 80 ล้านบาทเนี่ย เหมาะมากสำหรับพวกอยากเกษียณอายุทางการเมือง เพราะอะไร รับเงินมา 80 ล้าน เอาไปใช้ขึ้นป้ายซัก 5 ล้าน อีก 75 ล้านเก็บเข้ากระเป๋ากลับบ้านรอเลี้ยงหลาน นักการเมืองรู้ตัวว่า ตัวเองเหมือนไก่ชน ถ้าตีชนะสอบได้ราคาจะขึ้นตัวละ 3 แสน แต่ถ้าแพ้ก็ขายชิ้นละ 30 บาท

‘ตรีชฎา’ แนะ ‘ทิพานัน’ เลิกชม ‘ชายใช้รถถังยึดอำนาจ’ พร้อมชู ‘ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์’ ผู้นำที่คนไทยยกย่องจดจำ

(18 พ.ย. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุว่าพรรคเพื่อไทยหวั่นไหวและหวาดกลัวกับความสำเร็จของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในการจัดการประชุมเอเปคว่า อยากให้น.ส.ทิพานันนำพาตัวเองออกมาจากฝัน และรับความจริงให้ได้ว่าหลังเป็นนายกฯ มา 8 ปี ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร จากผลโพลหลายสำนักพบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แม้เพิ่งเข้าสู่การเมืองไม่นาน ยังเอาชนะใจประชาชนได้ทุกภูมิภาคของประเทศ คะแนนความเป็นผู้นำแซงพล.อ.ประยุทธ์แบบไม่เห็นฝุ่น เพราะพี่น้องประชาชนสิ้นหวังแล้ว อยากได้ผู้นำคนใหม่ที่นำพาความหวังมาสู่ประเทศไทย อยากหลุดพ้นจากวงจรแห่งความตกต่ำนี้เต็มที่แล้ว 

ส่วนที่น.ส.ทิพานันระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากเผด็จการ แต่มาจากการเลือกตั้งที่มีกติกาเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี 2562 นั้น ในคราวนั้นน.ส.ทิพานันลงสมัคร ส.ส.แต่สุดท้ายประชาชนไม่ได้เลือกเข้ามา คงยังไม่เข้าใจว่าการมีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างสง่างามนั้นเป็นอย่างไร อาจจะยังไม่รู้ชัดแจ้งว่าแท้จริงแล้วพล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในปี 2557 ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์มาจากการเลือกของพี่น้องประชาชนเช่นเดียวกับนายทักษิณ ชินวัตร 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า การเข้ามาเป็นผู้นำประเทศจากเสียงบริสุทธิ์ของประชาชน กับผู้นำซึ่งมีที่มาจากปลายกระบอกปืน แบบไหนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสง่างามมากกว่ากัน และในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นรัฐบาล แต่ภายใต้กติกาที่บิดเบี้ยว ให้อำนาจ ส.ว.ที่มาจากการสรรหาโดยหัวหน้าคณะรัฐประหาร สามารถเลือกนายกฯ ได้ แม้แต่สมาชิกของพรรคพลังประชารัฐที่น.ส.ทิพานันสังกัดอยู่ยังออกมายอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับดีไซน์มาเพื่อพวกเรา การเข้าสู่อำนาจจากกติกาที่ไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องที่ไร้ศักดิ์ศรี น่าละอายและขายหน้าไปทั่วโลกใช่หรือไม่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top