Thursday, 22 May 2025
ทักษิณชินวัตร

‘อุ๊งอิ๊ง’ แจง!! ‘ทักษิณ’ ลงสระใช้ดัมเบลฟองน้ำ เพื่อออกกำลังกาย พร้อมบอกไม่คิดว่าจะเป็นประเด็น ขอโทษหากทำอะไรไม่ถูกใจ

(9 เม.ย. 67) ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ได้โพสต์ภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงสระเล่นน้ำกับหลานโดยมีดัมเบล เสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก ว่า จริง ๆ แล้วเป็นดัมเบลฟองน้ำและท่อฟองน้ำ เพื่อใช้ในการออกกำลังกายในน้ำ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกลับมา แต่ไม่ได้ว่ายน้ำเยอะเป็นเพียงการเดินในน้ำโดยใช้ดัมเบลฟองน้ำ ซึ่งไม่มีใครเอาดัมเบลเหล็กลงน้ำ ไม่ใช่นั้นคงจม ซึ่งลูกของตนก็ยังใช้เล่นด้วย เพราะว่ายน้ำไม่เป็น โดยนายทักษิณได้ให้หลานหนีบดัมเบลฟองน้ำ ไว้ทั้ง 2 ข้าง และเดินตาม ซึ่งก็เป็นการบริหารกล้ามเนื้อ

เมื่อถามว่า หากครั้งต่อไปจะโพสต์อะไรจะต้องมีการชี้แจงอย่างละเอียดหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ไม่ตนก็คงจะโพสต์เหมือนเดิมแล้วไม่เป็นไรและอะไรที่เป็นกระแส ตนก็พร้อมที่จะตอบคำถาม ไม่เช่นนั้นชีวิตของตนก็จะต้องเปลี่ยนไป ทำอะไรต้องมา ระวังนู่นนี่นั่น ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะโพสต์เพื่อทำร้ายใคร หรือเพื่อให้เป็นกระแสอยู่แล้ว แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนงานยุ่งมาก 

"และเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา มีเวลาว่างอยู่กับลูก และไปนอนบ้าน รู้สึกว่าคุณตาตื่นมา มีความสุขหลาน ๆ มีความสุข อิ๊งค์ก็มีความสุข จึงเป็นสิ่งที่ต้องการจะสื่อ สื่อให้ตัวเอง ไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็น ถ้าเป็นประเด็นก็อธิบายได้" น.ส.แพทองธาร กล่าว

เมื่อถามว่า ภาพร่างกายของนายทักษิณ ขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขึ้นเยอะ แข็งแรงขึ้น แต่ต้องมีการออกกำลังกายเรื่องกล้ามเนื้อเล็กน้อยเพราะอยู่ในพื้นที่จำกัดมานาน โดยบางส่วนต้องมีการฟื้นฟู โดยการออกกำลังกายในน้ำ เพราะอายุเยอะแล้วไม่ควรที่จะไปวิ่งเพื่อให้เกิดการกระแทก ดังนั้นการว่ายน้ำจึงปลอดภัยที่สุด ทั้งนี้ในทักษิณยังคงต้องไปตรวจเช็คอาการกับแพทย์อยู่อย่างต่อเนื่อง 

เมื่อถามว่าภายหลังจากการมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์นายทักษิณ ว่าอย่างไร นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้เลย ปล่อยผ่าน ก็ปล่อยผ่านไป 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการโพสต์ รูปนายทักษิณอีกหรือไม่ หลังจากมีกระแสหรือจะหยุดโพสต์ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "ใช่ ๆ คงจะโพสต์ต่อ หรือควรจะหยุดโพสต์ไหม" เมื่อย้อนถามกลับว่าเรื่องนี้จะทำให้เกร็งหรือไม่ นางสาวแพทองธารตอบว่า "ไม่เลยค่ะ" 

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่มีคนคอยจ้องจับผิด ความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่โดนจ้องจับผิดแต่ไม่เป็นไร เราก็เป็นธรรมชาติของเราอยู่แบบนี้ ถ้าไม่ชอบหรือไม่ถูกใจก็ต้องขอโทษด้วยก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ"

ทั้งนี้ นางสาวแพทองทานยังกล่าวถึงกำหนดการเดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่ของนายทักษิณว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะ ยังไม่ยืนยันเวลา น่าจะเป็นวันที่ 12 หรือ 13 เม.ย.

เมื่อถามว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) นายทักษิณจะเดินทางไปฟังคำสั่งของสำนักงานอัยการสูงสุด ต่อคดีมาตรา 112 น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ทราบจริง ๆ อาจจะต้องไป ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล เขายังไม่ได้คุยกับนายทักษิณในเรื่องนี้ แต่ถ้าทางอัยการนัดก็คงจะต้องไป

ขีดเส้นใต้ 'ปรับครม.-ดิจิทัลวอลเล็ต-ปูกลับบ้าน-พลิกขั้ว' สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง อาจพาประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เปลี่ยนบรรยากาศขอมัดรวมสถานการณ์ด้านการเมือง ที่เป็นแก่นแกนสถานการณ์ ควรแก่การขีดเส้นใต้ให้คอการเมืองได้ติดตามสถานการณ์กันอย่างพินิจ ใคร่ครวญ...ต่อไป...

1) ถ้าไม่ยืดย้วย ภายในเดือน เม.ย.กรรมการดิจิทัล วอลเล็ต จะสรุป-เสนอรัฐบาลเรื่องให้ครม.พิจารณาอนุมัติ ซึ่งขณะนี้ประเด็นสำคัญที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุดคือ การใช้งบประมาณของ ธกส.โดยอาศัย มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง 2561 ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่? ขัดกับกฎหมายการจัดตั้ง ธกส.หรือไม่? ... ประเด็นนี้แบงก์ชาติและนักวิชาการแสดงความกังวล

อีกประเด็นคือ วิธีการใช้จ่ายเงิน ทำไมไม่ใช้ระบบเงินสดตั้งแต่รอบแรก มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ รวมทั้งการพัฒนาแอปฯ 'ทางรัฐ' ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีกเท่าไหร่?

2) ทักษิณ ชินวัตร ได้เปล่งบารมีเป็นศูนย์กลางอำนาจตัวจริงของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ขณะไปปักหลักเชียงใหม่ห้วงเทศกาลสงกรานต์ มีเพียงรัฐมนตรีของพรรค 4 คนที่ติดภารกิจเท่านั้นที่ไม่ไปร่วมคือ เศรษฐา ทวีสิน, ภูมิธรรม เวชยชัย, ปานปรีย์ พหิทธานุกร และ จักรพงษ์ แสงมณี

สายข่าวแจ้งว่า การปรับครม.น่าจะเกิดในช่วงเดือนพ.ค.หรืออย่างช้าหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 ผ่านวาระแรกในเดือน 5-6 โดยวัดจากอุณหภูมิในขณะนี้ รัฐมนตรีที่ไข้ขึ้นสูงถึงขั้นต้องพักผ่อนคือ นายสุทิน คลังแสง และไชยา พรหมมา ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ถ้าจะโยกจาก รมว.สธ.ไปสภาฯ ก็ตีความกันว่า ต้องไปเป็นประธานสภาฯ แทนท่านวันมูหะหมัดนอร์ มะทา เท่านั้น

แต่คำถามมีอยู่ว่า...ท่านวันนอร์จะยอมไหม? ถ้ายอม..แล้วไม่กลัว 'พ่อมดดำ' สุชาติ ตันเจริญ ที่ยอมกลืนเลือดมา 7-8 เดือนจะโวยวายบ้างเหรอ?? งานนี้ยุ่งตาย....

3) สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามความปลอดภัยในนาทีที่ดูเหมือนบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าการปรับ ครม.และ ดิจิทัล วอลเลต ก็คือ...ความรู้สึกอึดอัดของผู้คนจำนวนไม่น้อยกับตัวละครคนสำคัญของ 'ดีลลับ' คือ 'ทักษิณ' ที่ยังเป็นจำเลยสังคมกรณีความเป็นนักโทษเทวดาและพักโทษ...ซึ่งล่าสุดได้พูดชัดเจนกรณีน้องสาว 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ที่หนีคดีจำนำข้าวว่า จะได้กลับบ้านอย่างแน่นอนภายในปีนี้ หรือมาทำบุญกรานต์ปีหน้าร่วมกัน...

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สถาบันนิด้าคนดัง โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 15 เม.ย.67 ตอนหนึ่งว่า...

"สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังตั้งเค้า เป็นเงาทะมึนดำ -ท้องฟ้ากำลังสาดฉายแสงฉานสีแดงอมส้ม-การเปลี่ยนแปลงใดๆ ย่อมรอคอยสถานการณ์และเงื่อนไขที่สุกงอม-แต่สิ่งที่ประวัติศาสตร์สอนเราเสมอมาคือ ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอย..ฯลฯ.."

'เล็ก เลียบด่วน' อ่านทางเดาใจ ดร.อานนท์ สรุปแล้วอาจารย์น่าจะคาดหมายว่า...ในอีกไม่นานพรรคส้มกับพรรคแดงคงจะร่วมรวมกันจับมือกัน...แล้ววันนั้นอีกฝ่ายคงจะไม่ยอมให้บ้านเมืองพลิกข้างเปลี่ยนโฉมไปมากขนาดนั้นแน่...อันตราย!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

‘อุ๊งอิ๊ง’ โพสต์โชว์ ‘ลูกสาว-ลูกเขย’ พาพ่อไป ICONSIAM  ครอบครัวสุขสันต์ รอยยิ้มสดใส ไร้อาการป่วย!!

(21 เม.ย.67) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์อินสตราแกรมส่วนตัวระบุว่า พาพ่อไป ICONSIAM ครั้งแรก

‘หมอวรงค์’ โพสต์เฟซบุ๊ก พรุ่งนี้จะไปร้อง ป.ป.ช. ระบุชัด มีหลักฐานสำคัญ ยัน!! เอาเรื่องกรณีช่วยเหลือนักโทษ

(21 เม.ย.67) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า ผมจะไปร้องป.ป.ช. กรณีช่วยเหลือนักโทษป่วยไม่จริงและช่วยเหลือการพักโทษ พร้อมหลักฐานสำคัญ วันจันทร์ที่ 22 เมษายนนี้ เวลา10.30น.

‘สื่อเมียนมา’ เผย ‘ทักษิณ’ ล้มเหลว ไกล่เกลี่ยวิกฤตสงครามเมียนมา

(10 พ.ค. 67) สำนักข่าวอิรวดีของเมียนมารายงานว่า การเดินทางเยือนเมียนมาของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อช่วยเจรจาหาทางยุติสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มต่อต้านและรัฐบาลทหารนั้น ไม่เพียงแต่จะถูกเมินจากรัฐบาลเมียนมา แต่ยังทำให้กลุ่มต่อต้านบางส่วนรู้สึกไม่สบายใจด้วย

ทักษิณและทีมงานได้พบกับตัวแทนของกลุ่มต่อต้าน ได้แก่ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU), พรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNPP), องค์การแห่งชาติคะฉิ่น (KNO) และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ในเดือน มี.ค. และ เม.ย.

การพบปะดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของไทย มาริษ เสงี่ยมพงษ์ ว่าการเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่ดำเนินการเป็นการส่วนตัว และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศอย่างเป็นทางการของไทย

“เราต้องยอมรับว่า คุณทักษิณเป็นที่รู้จักและมีความเชื่อมโยงกับเมียนมา เชื่อว่าเขาสามารถช่วยได้” รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่กล่าว

เชื่อกันว่า ทักษิณมีความใกล้ชิดกับ มิน อ่อง หล่าย ผู้นำเผด็จการทหารเมียนมา เขาเคยไปเยี่ยม มิน อ่อง หล่าย ในปี 2013 และมีผลประโยชน์ทางธุรกิจที่นั่นภายใต้ระบอบการปกครองก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การหารือในเดือน มี.ค. และ เม.ย. รัฐบาลทหารเมียนมาก็นิ่งเงียบในประเด็นนี้ และไม่ตอบรับคำร้องขอเยือนของทักษิณ แหล่งข่าวในไทยซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องนี้บอกกับอิรวดีว่า การหารือดังกล่าวส่งผลย้อนกลับต่อทักษิณ

“ทักษิณกำลังถูกสื่อและฝ่ายค้านโจมตี เป็นการดีสำหรับเขาที่จะถอยออกมาแบบไม่เสียหน้า เนื่องจาก มิน อ่อง หล่าย ไม่ตอบสนองต่อคำขอของเขา” แหล่งข่าวกล่าว

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. คณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรด้านความมั่นคงแห่งรัฐและกิจการชายแดน ซึ่งนำโดยพรรคก้าวไกล ประกาศว่า จะสอบสวนการหารือของทักษิณกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร โดยกล่าวว่า การพบปะอาจทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับบทบาทของประเทศไทยในการฟื้นฟูความสงบสุขในประเทศเพื่อนบ้าน

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า กองทัพไทยกำลังจับตาดูผู้ที่ทักษิณพบปะอย่างใกล้ชิด รวมถึงกลุ่มต่อต้านเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ โดยบอกว่ากลุ่มเหล่านี้ไม่แน่ใจว่ากองทัพไทยยินดีหรือไม่ที่ได้เห็นทักษิณมาพบปะกับกลุ่มดังกล่าว

แหล่งข่าวรายหนึ่งจากกลุ่มต่อต้านที่เข้าร่วมการหารือกล่าวว่า ทักษิณได้นำเอกสารอย่างเป็นทางการมาให้พวกเขาลงนาม เพื่อมอบอำนาจให้ทักษิณทำหน้าที่เป็นคนกลาง แต่ ‘ไม่มีกลุ่มใดลงนามในเอกสารที่ทักษิณนำเสนอ’ โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการทำให้รัฐบาลไทยไม่พอใจ

ขณะที่การประชุมกับ NUG ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาก็ไม่เป็นไปตามที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยคาดหวังไว้ เพราะเขาได้พบเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับกลางเท่านั้น

อู ออง ซาน มยินต์ เลขาธิการคนที่ 2 ของ KNPP บอกกับอิรวดีว่า ในระหว่างการพบปะหารือ ทักษิณกล่าวว่า เขาต้องการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ของเมียนมา

“เราไม่ได้ทำข้อตกลงใด ๆ กับเขา เราบอกว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการเจรจา เราได้พูดคุยกันว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนอย่างไรในขณะที่มีการต่อสู้กัน เราไม่ได้พูดคุยเรื่องอื่นใดอีก” เขากล่าว

'กองทุนหมู่บ้าน' กระดุมเม็ดแรกที่กลัดผิดของประชานิยม เมื่อคนกู้ชักดาบ ไม่มีเงินจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ใครซวย?

นางวาสนา สมพงษ์ อายุ 58 ปี อดีตคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านหนองเรือ หมู่ 6 ตำบลละทาย อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ร้องทุกข์กับสื่อต่าง ๆ ว่า ตนให้สมาชิกและคณะกรรมการกองทุนฯ กว่า 50 คน กู้ยืมเงินจากกองทุนหมู่บ้านฯ รวมกว่า 3.7 ล้านบาท แล้วไม่มีใครชำระหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ย ส่งผลทำให้ตนต้องถูกธนาคารยึดทรัพย์ที่ดินทำกินของตนเอง นำไปเตรียมขายทอดตลาด ทั้งที่มูลหนี้ดังกล่าวไม่ใช่มูลหนี้ที่ตนเองก่อขึ้น จึงทุกข์ใจหนักจนต้องเข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน เพื่อเป็นสื่อกลางขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ

นางวาสนา เล่าว่า เมื่อปี 2561 ตนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านหนองเรือ ซึ่งมีคณะกรรมการฯ รวมทั้งคณะ 10 คน และมีสมาชิกทั้งหมด 53 คน ในขณะนั้นคณะกรรมการและสมาชิกต่างก็ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากกองทุน รายละ 10,000-30,000 บาท โดยช่วงแรก ๆ ก็มีการคืนต้นจ่ายดอกครบถ้วน จนกองทุนหมู่บ้านฯ ได้รับรางวัลผลงานดีเด่นระดับ 3 A+ 

ในเวลาต่อมาธนาคารออมสินได้ให้ยอดเงินกู้เพิ่มอีกเป็นเงิน 2 ล้านบาท จึงมีคณะกรรมการพร้อมทั้งสมาชิกเข้ามาทำสัญญากู้ยืมเงินต่อ บางคนกู้ยืมเงินจากกองทุนหลักหมื่น บางรายก็หลักแสน จากนั้นคณะกรรมการชุดตนก็หมดวาระลง และได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา ซึ่งต่อมาต่างก็ประสบปัญหาตอนโควิด19 ระบาด อีกทั้งเจอกับปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมใหญ่ ส่งผลทำให้สมาชิกซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรเกิดปัญหาติดขัดด้านการเงิน ทำให้เริ่มไม่มีเงินจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย กระทั่งตนได้สำรองเงินตัวเองสำรองจ่ายให้กับสมาชิกไปก่อน

ซึ่งต่อมาธนาคารออมสินได้ไปถอดโฉนดที่ดินของตน โดยยึดที่ดินออกมาจาก ธกส. ที่ตนเคยไปกู้ยืมเงินส่วนตัวย้ายไปไว้ที่ธนาคารออมสินแทน เนื่องจากไม่มียอดชำระหนี้ของสมาชิกตามหลักเกณฑ์ และสำนักงานบังคับคดีได้ทำการประกาศขายทอดที่ดินของตนเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา โดยที่คณะกรรมการชุดตนนั้นมีเพียงตนที่มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินเพียงคนเดียว ขณะที่คณะกรรมการคนอื่น ๆ รวมถึงประธานอีก 9 คนต่างก็ไม่มีทรัพย์สินเป็นของตนเองแม้แต่คนเดียว ธนาคารออมสินจึงไม่สามารถไปบังคับยึดทรัพย์สินของกรรมการคนอื่น ๆ ได้

ทำให้ตนต้องนำเงินส่วนตัวไปจ่ายหนี้ให้คนทั้งหมู่บ้านที่เป็นสมาชิก เดือนละ 20,000-30,000 บาท แยกเป็นเงินต้นที่ต้องจ่ายธนาคาร 12,000 บาท และดอกเบี้ยอีกเดือนละ 2.4 หมื่นบาท จนถึงตอนนี้หมดเงินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนบาท ต้องหมดเนื้อหมดตัว ซ้ำยังถูกยึดที่ดินทำกิน ซึ่งตนได้พยายามไปอ้อนวอนขอให้สมาชิกมาใช้หนี้ บางคนก็บอกไม่มี และถูกบอกปัดไปเรื่อย ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้แล้วในตอนนั้น ตนจะไม่เป็นกรรมการกองทุนหมู่บ้านอย่างแน่นอน

‘กองทุนหมู่บ้านฯ’ มีชื่อเต็มว่า ‘กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง’ เป็นโครงการตามนโยบายเร่งด่วนที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนในระดับรากหญ้าของรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร โดยมีการดำเนินการจัดตั้งกองทุนในทุกหมู่บ้าน ๆ ละ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนหมุนเวียนให้ชาวบ้านได้มีแหล่งเงินทุนให้กู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ และดำรงชีพ เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการลงทุนเพื่อพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ และบรรเทาเหตุจำเป็นเร่งด่วนของชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า เป็นการเสริมสร้างการพึ่งพาตนเองด้วยภูมิปัญญาของตนเอง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนทั่วประเทศ

แม้จะมีการกล่าวอ้างถึงผลดีมากมายของกองทุนหมู่บ้าน แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับมีผลเสียปรากฏมากมายกว่า ดังนี้...

- ผลการประเมินของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติระบุว่า ผู้กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้านฯ มีอัตราการชำระหนี้คืนกองทุนลดลง จาก 95.3% (ค้างชำระ 4.7%) ในปี 2547 เป็น 77.3% (ค้างชำระ 22.7%) ในปี 2555
- ในปี 2549 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบผลการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านฯ พบประเด็นปัญหาสำคัญ คือ กองทุนหมู่บ้านฯ 50% มีหนี้ค้างชำระและ/หรือเงินขาดบัญชี โดยบางแห่งมีผลการดำเนินงานอยู่ในภาวะวิกฤติไม่ได้ดำเนินกิจกรรมมาเป็นเวลาหลายปี และไม่มีเงินคงเหลือในบัญชีกองทุน
- ผลประเมินการดำเนินงานโดยกรมบัญชีกลาง ระบุว่า กองทุนหมู่บ้านฯ ได้คะแนนรวมเพียง 2.4982 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเงินทุนหมุนเวียนประเภทกู้ยืม 3.1760 โดยด้านที่ได้คะแนนมากที่สุด คือ ด้านการเงิน 4.6974 ส่วนด้านที่ได้คะแนนน้อยที่สุด คือ ด้านการสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 1.7163
- งานวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (2550) ระบุว่า แม้กองทุนหมู่บ้านฯ จะทำให้รายได้จากกิจการภาคเกษตรเพิ่มขึ้นจริง แต่ไม่เพียงพอจะทำให้รายได้รวมของครัวเรือนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
- ผลสำรวจของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุว่า 22.0% ของผู้กู้ยืมกองทุนหมู่บ้านฯ มีการใช้เงินกู้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุน หากกองทุนที่บริหารจัดการไม่มีประสิทธิภาพ ขาดการฟื้นฟูอาชีพให้กับสมาชิก จะก่อให้เกิดเป็นวงจรหนี้ที่พอกพูนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สมาชิกยังต้องกลับไปกู้หนี้นอกระบบอีก
- แม้ครัวเรือนที่เป็นหนี้จะลดลงจาก 11.50 ล้านครัวเรือนในปี 2550 เหลือ 10.84 ล้านครัวเรือน ในปี 2556 หรือลดลง 6% แต่จำนวนหนี้สินเฉลี่ยตัวครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จาก 116,681 บาท ในปี 2550 เป็น 163,087 บาท ในปี 2556 หรือเพิ่มขึ้น 40%

วันนี้พรรคการเมืองภายใต้ทักษิณ ชินวัตรกลับมาเป็นรัฐบาลแล้ว ปัญหาของกองทุนหมู่บ้านฯ ดังที่ปรากฏเป็นข่าว รัฐบาลชุดนี้จะแก้ไขอย่างไร? ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ คงช่วยอะไรไม่ได้...

ดังนั้นทุกคนที่มีส่วนร่วมในการออกแบบและสร้างกองทุนหมู่บ้านฯ จึงต้องรีบระดมสมองเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของกองทุนหมู่บ้านฯ ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนที่สุดโดยไม่สามารถบ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธความรับผิดชอบต่อปัญหาและความเสียหายที่เกิดขึ้นได้เลย

‘ทนายวิญญัติ’ ยัน!! 18 มิ.ย. ‘ทักษิณ’ เข้าพบอัยการตามนัด ชี้!! ตรงตามเงื่อนไขประกัน พร้อมปัดข่าวยื่นร้องขอความเป็นธรรม

(17 มิ.ย. 67) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งฟ้องคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ฯ

โดยกรณีที่นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) สื่อของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน

ซึ่งด้าน นายวิญญัติ ทนายความ ได้กล่าวถึงการนัดนายทักษิณ เพื่อส่งตัวฟ้องต่อศาลอาญา ในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) ว่า นายทักษิณจะเดินทางไปพบพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ในเวลา 09.00 น. ช่วงเข้าตามนัด เพื่อรับทราบคำสั่งฟ้อง และส่งฟ้องต่อศาลอาญาอย่างแน่นอน เนื่องจากหากไม่ไปพบพนักงานอัยการตามนัด ก็จะผิดสัญญาประกัน ส่วนเรื่องกระแสข่าวการร้องขอความเป็นธรรมไม่มีหรอก เช่นเดียวกับเรื่องถุงขนม ภาค 2 ซึ่งรายละเอียด วันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) ตนพร้อมให้ความเห็นกับสื่อมวลชน

ศาลอาญาให้ประกันตัว 'ทักษิณ' คดี 'ม.112-พ.ร.บ.คอมฯ' หลังทนายยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 500,000 บาท

(18 มิ.ย. 67) ศาลอาญาพิจารณาหมายเลขคดีดำที่ อ.1860/2567 ตามคำร้องของสำนักงานอัยการสูงสุด สั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2519 ข้อ 1 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 8

ล่าสุดเวลา 10.42 น.มีรายงานว่าศาลอาญาให้ประกันตัวนายทักษิณ หลังทนายยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว 500,000 บาท  

ขณะที่นายวรชัย เหมะ เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อร่วมรับฟังคดีของนายทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยว่า เบื้องต้นนายทักษิณ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนนายทักษิณ ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด และโบกมือให้กับตนเองกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาให้กำลังใจในวันนี้

‘ทักษิณ’ เป็น ประธานอุปถัมภ์บรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติในหลวง ที่สุรินทร์  เผย!! มาวันนี้ ไม่มีประเด็นทางการเมือง ‘ปชช.-รมว.-รมช.-สส.’ ในพื้นที่ให้การต้อนรับ

(14 ก.ค.67) นายโรจนินทร์  หิรัญโชคอนันต์  นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน  อำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ในฐานะเป็นผู้ดำเนินการจัดงานบวชเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จเพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ได้จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้มีผู้แสดงเจตจำนงขอเข้ารับการบรรพชาอุปสมบทจำนวน 334 รูป บวชพระ   บวชสามเณร 5 รูป โดยมีการบวชในวันนี้

นายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานอุปถัมภ์ในการอุปสมบท มีนายประเสริฐ จันทรวง  รวงทอง รมว.ดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม  นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายเกรียง กันตินันต์  รมช. มหาดไทย  และสส. ในพื้นที่ภาคอีสานมีหลายสิบคนและแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน หลาย จังหวัดที่มาร่วมงานบวชเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายโรจนินทร์  หิรัญโชคอนันต์  นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน  อำเภอปราสาท ได้ถวายปัจจัย แด่พระสงฆ์ สามเณร ที่อุปสมบทในครั้งนี้รูปละ 13,000 บาท เพื่อใช้จ่ายในขณะอุปสมบท โดยมีประชาชนเป็นจำนวนมากเข้าร่วมงานและมาให้การต้อนรับ  

ทั้งนี้ เมื่อทำการอุปสมบทในวันนี้เพื่อปฏิบัติศาสนกิจต่างๆในพระพุทธศาสนาแล้วบางรูปก็จะปฏิบัติธรรมอยู่จำพรรษาในพรรษาที่จะถึงนี้ บางรูปก็  และจะทำการลาสิกขา ในวันที่ 29 กรกฎาคม  2567นี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองไม่มีการเมืองใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อนายทักษิณ  ประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทแล้วเสร็จก็ไปทานอาหารกลางวันที่โรงสี ส ชัยเจริญ ไปทานข้าวกันเฉพาะคณะของท่านและผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น

ซึ่งนายโรจนินทร์  หิรัญโชคอนันต์  นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน  อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นการจัดงานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯเท่านั้น

‘อดีตสว.วันชัย’ ฟันธงชะตา ‘ทักษิณ’ หลังเดือนเกิด จะมีแต่ความยิ่งใหญ่ ชี้!! นี่คือกำลังเสริม เติมให้รัฐบาล ‘เปรี้ยงปร้าง’ อะไรก็รั้งฉุดไม่อยู่

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.67) นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ...

ดวงคุณทักษิณ ชินวัตร กับราชาโชค คุณทักษิณเกิดวันที่ 26 ก.ค. 2492 เวลาก่อนเที่ยงตรงกับวันอังคารปีฉลู มีทั้งจันทร์เด่นและจันทร์ดับ มีทั้งคนรักคนเกลียด ตรงกับราศีเมษมีดาวพฤหัสกุมเกตุเป็นราชาโชค...ยังมีอีกหลายดวงดาวที่เกี่ยวพันกับดวงชะตา หลังจากเดือนเกิดต่อแต่นี้จะมีแต่แข็งและแรงขึ้น ยิ่งอยู่ในฐานของราชาโชค มีแต่โชคที่ยิ่งใหญ่ เคยดับอับแสงจะกลับมาสว่างไสวเจิดจ้าเป็นโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ไปสุด ๆ จะได้รับการยกย่องตามหลักโหราว่าเป็นปทุมเกณฑ์ ชนิดที่คิดและก็คาดไม่ถึง

จะปล่อยให้คุณเศรษฐา ทวีสิน และพลพรรคเพื่อไทยขับเคลื่อนอยู่เช่นนี้ ยังไม่มีผลงานใดที่โดนใจประชาชน ได้แต่เต้นแร้งเต้นกาไปวัน ๆ ประชาชนก็เห็นแต่ท่าแต่ทางไปเท่านั้น ที่จะชื่นชมนิยมยกย่องยังไม่มีเลย ขืนปล่อยไปเช่นนี้ทั้งเพื่อไทยทั้งครอบครัวทั้งตัวคุณทักษิณ ก็จะถูกจันทร์ดับอับแสงไปด้วย จะอยู่ในที่มืดต่อไปคงไม่ได้ จันทร์ต้องออกมาส่องหล้าด้วยตัวของคุณทักษิณเอง 

สถานการณ์นี้คุณทักษิณต้องออกมาขับเคลื่อนให้เห็นเด่นชัดแบบตรงไปตรงมา เพราะดาวพฤหัสและราชาโชคเปิดโอกาสให้แล้ว ไม่ขยับตอนนี้แล้วจะไปขยับตอนไหน... ดูจากดวงดาวจึงต้องเป็นคุณทักษิณ ชินวัตร... ส่วนจะบริหารจัดการกับอำนาจอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่จะต้องตัดสินใจกันเองให้เกิดความพอดีพอเหมาะ ร่วมมือร่วมใจ รัฐบาลก็เดินไปได้ คุณทักษิณก็เป็นกำลังเสริมเติมให้เปรี้ยงปร้าง...ดาวพฤหัสและราชาโชค มาถูกที่ถูกเวลากับชะตาของเขา...อะไรก็รั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top