Wednesday, 9 April 2025
ทักษิณชินวัตร

‘ทักษิณ’ แนะ!! ส่งสาวอีสาน ไร้ศัลยกรรม ลุย!! ตลาดนางแบบโลก สร้างรายได้เข้าประเทศ

เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค. 67) ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมงานสัมมนา ‘ISANNEXT พลิกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตโลก’ พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘อนาคตอีสาน โอกาสประเทศไทย’

นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ไม่ทราบจะพูดอะไรดี เพราะรัฐมนตรีทุกคนพูดได้ดีมาก ตั้งแต่ตั้งพรรคไทยรักไทยมาจนถึงทุกวันนี้ พี่น้องชาวอีสานก็ยังไว้วางใจตลอดเวลา เพราะตนเองไปเห็นพี่น้องชาวอีสานทุกซอกทุกมุม ก็คิดในใจตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไร ถึงจะพลิกฟื้นได้ โดยประเทศไทย เป็นประเทศที่ไม่มีเจ้าภาพ เวลามีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นหน่วยงานใครหน่วยงานมันทำหน้าที่ไป

นายทักษิณ กล่าวว่า ตนเองขอเริ่มต้นด้วยคำว่า กันดารคือสินทรัพย์ ภาคอีสานมีความกันดารมาก่อนที่จะพัฒนามาจนถึงวันนี้ กันดารคือความยากจน ทำให้คนอีสานต้องดิ้นรน พยามสร้างวัฒนธรรมการสู้ชีวิต นี่คือข้อดีของความลำบาก และหวังว่าเราจะทำให้คนอีสานหมดความลำบาก ถึงเวลาที่จะต้องพลิกฟื้นอีสานให้ได้ด้วยความตั้งใจ

การสร้างความแข็งแกร่งให้กับคนอีสาน คือต้องเริ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว คือการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ เพราะสามารถฝึกทักษะความชำนาญได้ เอาวัฒนธรรมที่มีอยู่ เอาความอดทนของคนอีสานมาแตกแขนงออกไปในแต่ละด้าน เช่น อาหาร หรือกีฬา โดยวัฒนธรรมของคนไทย มักอยากเห็นลูกได้ปริญญา แต่แม้ได้มา ก็หางานไม่ได้ สิ่งที่ได้มาคือต้องได้ความรู้ และปัญญา แต่บางคนไม่ได้มา ได้มาเพียงใบประกาศนียบัตร ทำให้คนเห่อปริญญา และทิ้งสิ่งที่เป็นสาระสำคัญในการเรียนหนังสือคือความรู้ และโลกปัจจุบันสนใจทักษะมากกว่าปริญญา ต่อไปนี้คนอีสานต้องได้รับการพัฒนาการผสมเทคโนโลยีเข้าไปสู่ชีวิตประจำวัน

วันนี้ประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยเยอะ ครูบาอาจารย์เยอะ แต่ใช้ประโยชน์เขาน้อย วันนี้ต้องใช้วิทยาลัยเหล่านี้เป็นแกนหลักในการสร้างผลของอีสานโดยเฉพาะการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ และพัฒนา OTOP

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า คนอีสานจนลง เพราะการผูกขาด เพราะทุกอย่างผ่านระบบนายหน้า แต่วันนี้เทคโนโลยีมาแล้ว ต้องได้รับการบริจาคภาครัฐ ยกเลิกการผูกขาด ให้เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ได้ราคาที่เหมาะสม และสามารถแข่งขันได้

ในวันนี้นายกรัฐมนตรี ได้ให้รัฐมนตรีไปดูกระบวนการผูกขาดทั้งหลาย ว่าจะไปแก้อย่างไร และซอฟต์พาวเวอร์ จะทำอย่างไรให้กลไกภาครัฐ เป็นตัวผลักดัน และใช้มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์ฝึก ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ในแต่ละด้าน ส่วนการเกษตรของภาคอีสานต้องการความแม่นยำที่สุด  เพราะฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล การใช้เทคโนโลยีมาทำนายภูมิอากาศ เพื่อปลูกสิ่งที่เหมาะสม

นายทักษิณ กล่าวว่า รถไฟความเร็วสูงกำลังจะมา ถ้าเราตกลงกันเรียบร้อย ซึ่งจะผ่านเส้นทางอีสาน และกรุงเทพฯ จะส่งเสริมเรื่องการพัฒนาเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร ส่งของสดไปขายยังประเทศจีนได้ ทำให้โอกาสเกิดขึ้นอีกครั้ง

สิ่งที่ห่วงคนอีสานอีกเรื่องคือคุณภาพของประชาชน ที่ถูกมอมเมาด้วยยาเสพติด เพราะจะทำให้คนอีสานอ่อนแอ ซึ่งต้องทำอย่างกว้างขวางและจริงจังทั้งการบำบัดปราบ โดยนายกรัฐมนตรี กำลังสั่งให้ทำแอปพลิเคชัน ให้ได้รับรายงานจากพื้นที่โดยตรงว่าพื้นที่ไหนมีพ่อค้ายาเสพติด ก็จะรายงานโดยตรง

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนได้ใช้เงินส่วนตัวให้ต่างประเทศศึกษาเรื่อง OTOP ช่วงที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี พยายามปรับปรุง OTOP และหลังปีใหม่นี้เขาจะมาอธิบายให้ฟังว่าจะปรับปรุงอย่างไร เช่น ผ้าพันคอแอร์เมส ซึ่งเป็นลายม้า ทำไมเราถึงไม่ใช้ลายบ้านเชียงมาทำบ้าง ดังนั้น เราขายดีไซน์ไทย คุณภาพการตัดเย็บแบบสากล จะต้องใช้เทคโนโลยี และดีไซน์ที่เป็นที่ต้องการต่างประเทศ โดยจะต้องมีการนำมาปรับปรุงให้ขายได้ทั้งโลก ฟื้นด้วยความเป็นสมัยใหม่มากขึ้น โดยไม่ทิ้งวัฒนธรรมของไทย เพียงแต่ประยุกต์ให้เป็นสากล ซึ่งเท่าที่คุยกันไว้จะเริ่มต้นในปีหน้า เริ่มต้นใช้สถาบันการศึกษาเป็นแกนพัฒนาและปรับปรุงทั้งหมด และสิ่งที่คนอีสานต้องเรียนรู้อีกเรื่องคือ Ai เรียนรู้การสั่งการ

วันนี้ประเทศไทยเป็นหนี้เยอะมากสูงยันกว่า 60% ของจีดีพี ซึ่งเรามีเพดานอยู่ที่ 70% เพราะฉะนั้นจึงกู้ไม่ไหว รัฐบาลจึงต้องลดหนี้ด้วยการเพิ่มจีดีพี เป็นเรื่องที่พูดง่ายทำยากแต่ต้องทำ ซึ่งจะเพิ่มจีดีพีได้ ต้องเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากเราดูดเงินจากระบบเยอะ เม็ดเงินเราเลยโตน้อยกว่าประเทศอื่นทั่วโลก

ที่ผ่านมารัฐบาลออกพันธบัตร ขายให้สถาบันการเงินเป็นส่วนใหญ่ โดยโดนัล ทรัมป์ กลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีรอบที่ 2 และเอาจริงเอาจังเรื่องบิทคอยน์ คริปโตเคอร์เรนซี่ ดังนั้น สหรัฐอเมริกากำลังเพิ่มเม็ดเงินเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจในรูปแบบของคริปโต ถ้าเราไม่ทำก็ไม่ทันเขา ทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เกิดความเสี่ยง พันธบัตรที่เราต้องทุกปี ปีละ 8 แสนล้านบาท นำเงินส่วนนั้นออกมา และขายบุคคลทั่วไปดีหรือไม่ ให้อายุพันธบัตรสั้นลง เพื่อหมุนเวียนในตลาดได้ ออกมาในรูปแบบของเหรียญ หรือคอยน์ ซึ่งเงินเหล่านี้ จะอยู่ในเงินของประชาชน ดีกว่านำไปแช่ไว้ในสถาบัน ซึ่งจะนำมาใช้กับทุกภาค ทั้งประเทศเพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ไม่อย่างนั้นจีดีพีเราไม่มีทางโต ทำนายกี่ครั้งก็ 2% ตนเองฟังแล้วทุเรศ และจะทำยังไงให้ถึง 4% -5% ให้ได้ นี่เป็นวิธีเดียวที่ไม่ต้องไปพิมพ์แบงค์ คราวนี้ที่รัฐบาลจะต้องเป็นมาหมุนเวียนเป็นหนี้ประชาชนดีกว่า

สิ่งที่ตนอยากจะลองอีกเรื่อง ผู้หญิงอีสานทำไมถึงมีฝรั่งมาชอบเยอะแยะ ความสวยของธรรมชาติบางทีบางครั้งมีเสน่ห์ ถ้าเราจะประกวดคนอีสาน ที่ไม่ผ่านการศัลยกรรมเลย แล้วนำไปสอน เป็นนางแบบระดับโลกดีหรือไม่ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนอีสาน เช่น คนผิวดำแอฟริกาที่เป็นนางแบบระดับโลก และทั้งหมดที่ตนพูดเน้นที่คนอีสานก่อน และการพัฒนาคนก่อน

‘ทักษิณ - อนุทิน’ ตีกอล์ฟ สยบรอยร้าว!! รัฐบาลแตก ยัน!! ความสัมพันธ์ ยังอยู่ใน ‘เรือลำเดียวกัน’

(22 ธ.ค. 67) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์  และนายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมตีกอล์ฟ ที่สนามกอล์ฟ Stone Hill club จ.ปทุมธานี 

หลังเกิดกระแสข่าว พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยระหองระแหงกันในการร่วมรัฐบาล  เมื่อ นายทักษิณ ไปสัมมาของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.และ โจมตีพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่เข้าร่วมประชุมครม.ในการออกพ.ร.ก. ภาษี ว่าเป็นอีแอบ  รวมถึงต่อมา พรรคเพื่อไทย ออก แคมเปญ 180 วัน รอได้เพื่อรัฐธรรมนูญประชาชน อย่าเชื่ออีแอบ ล็อกสองชั้น รัฐบาลต้องลงเรือลำเดียวกัน  และหลังจากที่พรรคภูมิใจไทย โหวตสวนในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ โดยยืนหลักเสียงข้างมากสองชั้น

สื่อตั้งฉายารัฐบาล 2567 รัฐบาล (พ่อ)เลี้ยง - นายกฯ แพทองโพย วาทะแห่งปี 'สามีเป็นคนใต้'

(23 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2567 ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานานของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติส่วนตัว ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล จึงมีมติร่วมกันตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และวาทะแห่งปี ประจำปี 2567 ดังนี้ 

ฉายารัฐบาล รัฐบาล 'พ่อ' เลี้ยง

ด้วยความเป็น 'พ่อ' ของหัวหน้ารัฐบาล ยี่ห้อ 'ทักษิณ ชินวัตร' ขึ้นชื่อดีกรีความรักลูกไม่น้อยหน้าใคร ทั้งปกป้อง เลี้ยงดู อุ้มชู ปูทาง จนได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น ที่มี DNA เดียวกันเป๊ะ จนไม่พ้นเสียงครหา รัฐบาลนี้ 'พ่อคิด ลูกทำ'

1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 
'ฉายา แพทองโพย'

ล้อมาจากชื่อของนายกฯ 'แพทองธาร' กับประเด็นดรามา 'ไอแพด' คู่ใจ โพยยุคไอที ถือติดมือได้ทุกที่ เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว พกโพยเครื่องเดียวอ่าน จด โหลดข้อมูลเสร็จสรรพ จนเกิดเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมเมื่อยกขึ้นอ่าน ระหว่างพบผู้นำ แขกต่างชาติ กลายเป็นประเด็นตอบโต้เผ็ดร้อนกับชาวเน็ต และตอกย้ำแบบโนสนโนแคร์ด้วยภาพชูไอแพดคู่ใจ ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือแม้แต่ยกไอแพด ขึ้นอ่านแถลงข่าวการระบายน้ำภาคเหนือ ลงสู่แม่น้ำโขง จนถูกวิจารณ์ยกใหญ่

2.นายภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รมว.กลาโหม 
ฉายา 'สหายใหญ่ใส่บู๊ต'

รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 ติดโผได้รับฉายาไม่ขาด 'สหายใหญ่' ในเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 วันนั้น สู่ 'บิ๊กอ้วน' แห่งกองทัพไทยในวันนี้ ปรับโฉมกุนซือการเมือง มายกมือตะเบ๊ะ เสื้อตึงเป๊ะ ใส่ 'ท็อปบูต' นั่งเก้าอี้กลาโหม จากที่เคยอยู่กันคนละฝั่ง วันนี้ต้องคุมบังเหียนมาทำงานร่วมกับเหล่าทหาร ส่งท้ายปีจับมือท็อปบู้ตพากันลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม และยังต้องรับบทหนัก ถึงหนักมาก คอยระวังหลังให้กับ 'นายกฯอิ๊งค์' อีกด้วย

3.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย 
ฉายา 'ภูมิใจขวาง'

นอกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี คนที่ 3 ยังสวมหมวกหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ทำงาน 3 เดือนใน 'รัฐบาลแพทองธาร' สร้างสีสันจากบุคลิกและสไตล์การพูดหยิกแกมหยอก พร้อมสโลแกนขอทำงานไม่ขัดแย้งใคร แต่นับจากลงเรือร่วมรัฐบาล มียกมือค้านทั้งร่างกฎหมายสกัดรัฐประหาร ของสส.พรรคแกนนำ ล่าสุดโหวตสวนร่างพ.ร.บ.ประชามติ เห็นต่างจาก พรรครัฐบาล ต้องจับตาบทบาทจากนี้ 'รมต.หนู' จะปล่อยของ โชว์ลีลา สร้างผลงาน ให้ประทับใจอย่างไร

4. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน 
ฉายา 'พีระพัง'

พังอุดมการณ์จากพรรคขั้วตรงข้าม 'ชินวัตร' ตกลงปลงใจมาจับมือร่วมรัฐบาล 'นายกฯอิ๊งค์' คว้าเก้าอี้รัฐมนตรีคุมกระทรวงใหญ่ ถูกคาดหวังจะมาแก้ปมเรื่องพลังงาน ให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำมันถูกลง เจ้าตัวยังหมายมั่นปั้นมือประกาศแก้กฎหมายรื้อโครงสร้างภาษีน้ำมัน จนเปลี่ยนหัวหน้ารัฐบาลแล้ว ก็ยังไม่ชัดเจน หรือจะซุ่มทำเงียบ ๆ งานนี้สังคมช่วยลุ้นจะทำได้ทันรัฐบาลนี้ หรือจะพังพับไปก่อน

ด้านงานการเมืองยุค 'หัวหน้าพี' คุมบังเหียน 'รวมไทยสร้างชาติ' ดูยิ่งโลว์โปรไฟล์ จัดกิจกรรมพรรคได้เงียบกริบตามสไตล์ จนเกิดกระแสข่าวรอยร้าวภายใน ถูกจับจ้องถึงสัมพันธภาพกับลูกพรรค จะกอดคอรักกันนานแค่ไหน

5.พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง ​รมว.ยุติธรรม
ฉายา 'ทวีไอพี'

ล็อกเป้าคุมเก้าอี้กระทรวงยุติธรรม เรียกได้ว่าเลื่อยขาเก้าอี้ไม่มีสั่น ไม่บอกก็รู้ว่า 'นายใหญ่' ไว้ใจแค่ไหน นับตั้งแต่ภารกิจพานายใหญ่กลับบ้าน ถึงอีพี 2 ส่งนายใหญ่ขึ้น 'ชั้น 14' ครองเตียง 'วีไอพี' แทนนอนเรือนจำถึงได้พักโทษ ทำให้สังคมมองว่าเป็นนักโทษวีไอพี

ต่อเนื่องที่เร่งออกระเบียบคุมตัวนอกเรือนจำ เสียงลือ แซ่ดเตรียมปูทางสำหรับ 'วีไอพีหญิง' ตามรอยพี่ชายหรือไม่ เมื่อเดินงานเข้าตา พ.ต.อ.ทวี น่าจะถือบัตรวีไอพี ยึดเก้าอี้รัฐมนตรี ไปอีกยาว

6.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ฉายา 'ประชาธิเป๋'

แปะยี่ห้อ 'ประชาธิปัตย์' รั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ประกาศพาค่ายสะตอกลับมายิ่งใหญ่ ไปๆ มาๆ พลิกหนีบทฝ่ายค้าน ไม่ติดอดีต ไม่ฟาดฟันทางการเมือง กลืนอุดมการณ์คู่ปรับนับทศวรรษกับ 'เพื่อไทย' กระโดดมาร่วมรัฐบาล เดินเป๋จากเส้นทางอุดมการณ์กว่า 70 ปี จนได้ตั๋วคุมงานกระทรวงใหญ่ แต่ผลงาน ได้เห็นเค้าแค่ลางๆ ยังไม่ชัดเจน

7.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม
ฉายา 'รวม(เพื่อ)ไทยอ้างชาติ'

เรื่องจริงหรือฝัน ทำบรรดาแม่ยก แทบไม่เชื่อสายตา ว่า 'ขิง เอกนัฏ' คีย์แมนรทสช.ต้องยอมทำเพื่อชาติ ประกาศร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เคลียร์ประเด็นคุณสมบัติคนเคยมีคดี ก่อนนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแบบใสๆ ภายใต้การนำของ”คนชินวัตร“ลั่นในใจไม่ลบ ไม่เคยลืมอดีต ก่อนยก วาทะเด็ด “ต้องทำงานโดยคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก ถ้าคิดถึงบ้านเมือง ก็ทำงานร่วมกันได้” ทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง เร่งโชว์ผลงานเดินเครื่องกวาดล้างโรงงานเถื่อน สารเคมีอันตราย ให้เข้าตาประชาชน

8.น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ฉายา 'จิราพอ(ล)'

จาก สส.รุ่นใหม่ดาวเด่นในสภา พูดจาฉะฉาน ถูกคาดหวังจะเฉิดฉายเมื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ช่วยปรับโฉมงานของรัฐบาล เพราะคุมทั้งสื่อรัฐ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ. )แต่งานกลับเดินไปเนิบๆ

สังคมมาถึงบางอ้อว่ารมต.น้ำ นั่งคุมสคบ.จากคดีดัง “ดิไอคอน กรุ๊ป”และ “บอสพอล” ถึงได้จังหวะโชว์ผลงาน ทั้งที่ขึ้นชั้นรมต.มาตั้งแต่ปลายรัฐบาลเศรษฐา จนถูกตั้งคำถามเรื่องการทำงาน ขึ้นปีใหม่จะเร่งเครื่องไปต่อ หรือพอใจจะทำงานเงียบๆ แบบสโลไลฟ์

กลุ่ม 'รมต.โลกลืม'
นายสุชาติ ชมกลิ่นรมว.พาณิชย์
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช. พาณิชย์

ทั้ง 3 คน มีบทบาท ได้คุมกระทรวงเกรดเอ ทั้งเรื่องการค้าและการศึกษา ผ่านเก้าอี้รมต.ที่เป็นประตูปูทาง สร้างงานให้โดดเด่นได้ แต่ผลงาน 3 เดือนในรัฐบาล กลับไม่เปรี้ยงแต่เงียบกริบ จนประชาชนเรียกหาให้สตาร์ทเครื่อง ตีปี๊บผลงาน รับศักราชใหม่ สลัดครหารัฐมนตรีโลกลืม

วาทะแห่งปี 'สามีเป็นคนใต้'

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการลงพื้นติดตามการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2567 ซึ่งถูกตั้งคำถามจากสังคม เปรียบเทียบการลงพื้นที่เพื่อฟื้นฟูภาคเหนือของนายกฯแต่อาจละเลยพี่น้องภาคใต้ ที่ถูกน้ำท่วม

นายกฯชี้แจงย้ำหนักแน่น ไม่ได้ละเลยคนใต้ ด้วยประโยคว่า “โอ้ คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้นะคะ” ยืนยันคำตอบจากใจ ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับประชาชนภาคใด เพราะเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ

คำตอบของนายกฯยังไม่ใช่เหตุผลที่ตรงใจชาวโซเชียล จึงไม่วายถูกตั้งข้อสงสัยว่าเหตุที่ไม่ลงใต้ เพราะภาคใต้ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ไร้ที่นั่งสส.มานาน ถึงกับถามย้ำๆขอฟังชัด ๆ จะลงใต้เมื่อไหร่ กระทั่งนายกฯกลับจากเยือนประเทศมาเลเซีย ช่วงฝนเทภาคใต้รอบสอง จึงเปลี่ยนใจ บินลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 17 ธ.ค.2567 จากที่ตั้งใจจะลงไปในช่วงการฟื้นฟู

‘ทักษิณ‘ ลั่น ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ ‘อนุทิน’ ชี้ ลิ้นกับฟัน กัดโดนกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

‘ทักษิณ‘ บอก ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ ’อนุทิน‘ หลังปรากฏภาพตีกอล์ฟสยบรอยร้าว ชี้ เรื่องธรรมดาลิ้นกับฟันจะกัดโดนกันบ้าง ลั่น หลังจากนี้ไม่มีปัญหาแล้ว ‘อิ๊งค์-เสี่ยหนู’ ทำงานร่วมกันได้

(23 ธ.ค.67) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฎภาพตีกอล์ฟร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า สนุกดี แต่ตนตีไม่ค่อยดี ก็จะตีโดนบ้าง ไม่โดนบ้าง 

เมื่อถามว่า เป็นการสยบคำว่าอีแอบหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า จริง ๆ นายสารัชถ์เป็นคนเชิญไป ไม่มีนักการเมือง แต่นายอนุทินเป็นเพื่อนนายสารัชถ์ มา 20 ปี จึงชวนนายอนุทินไปในฐานะเพื่อน นายอนุทินจึงได้ไป ปรากฏว่าไม่มีนักการเมือง แต่มีประเด็นการเมืองเยอะ เพราะเมื่อมีการส่งรูปออกไปก็มีสื่อนำไปตีเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีอะไร 

เมื่อถามว่า นายสารัชถ์ เป็นคนกลางสมชื่อเลยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่รู้ เขาซ้ายขวาหรือไม่” 

เมื่อถามว่า เคลียร์ใจกับนายอนุทินอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ กติกาง่ายนิดเดียว คนเราเมื่ออยู่ร่วมกัน ก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน จบ 

ถามย้ำว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการตีความว่า ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย อาจจะมีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันหลายเรื่อง นายทักษิณ กล่าวว่า เท่าที่ดูไม่น่ามีอะไรมาก เป็นเรื่องธรรมดา ลิ้นกับฟันบางครั้งก็กัดโดนกันบ้างเป็นธรรมดา ส่วนที่ร้องเพลงคนไม่สำคัญนั้น เป็นเพลงเก่งของตน ร้องมานานแล้ว นึกเพลงใหม่ๆ ไม่ออก มีแต่เพลงเก่าๆ คนโบราณ

เมื่อถามว่า เคลียร์กันแล้ว หลังจากนี้รัฐบาลไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกันแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร เพราะนายอนุทินกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ทำงานด้วยกันได้

'ทักษิณ' ปราศรัยเดือด ไม่ทนพวกเห่าหอน ซัดมาซัดกลับ รับสมัครทนายอาสาช่วยฟ้อง

‘ทักษิณ’ อู้กำเมือง เลือก ‘สว. ก๊อง’ ขอคืน สส.เพื่อไทยทั้ง 10 เขต ไม่ทนพวกเห่าหอน ลั่นซัดมาซัดกลับ ประกาศรับสมัครทนายอาสาช่วยฟ้องที เหน็บพรรคประชาชน ขี้โม้ขี้อิจฉา พูดเก่งแต่ทำไม่ได้ บอกไม่ต้องเอาแล้ว "พระเอกเกาหลี" เอา "พ่อนางเอกหนังจีน" ไว้ใช้งานดีกว่า พร้อมซัดนักร้องเจ้าประจำบางคนเคยให้เงินแต่กลับมาแว้งกัด

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ (23 ธ.ค. 67) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดยทันทีที่นายทักษิณมาถึงได้เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย

นายทักษิณ เปิดเวทีด้วยการอู้กำเมืองทักทายประชาชนว่า ตนไปอยู่เมืองนอกมา 17 ปี ยังอู้เมืองคล่องอยู่ มาจ.เชียงใหม่ก็รู้สึกหัวใจพองโต วันนี้ตนมาหาเสียงช่วยนายพิชัย และจะมาเยี่ยมพี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ทั่ว ตนจากบ้านไปหลายปีคิดถึงมาก คิดถึงเชียงใหม่ช่วงที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี พี่น้องทำมาหากินอย่างสบาย มีเงิน แต่วันนี้ จ.เชียงใหม่ไม่สวยเหมือนเดิม งบประมาณเข้าไม่ถึง ตนกลับมาแล้ว ขอให้เอาความงามกลับคืน จ.เชียงใหม่ เอาสตางค์กลับมาคืนใส่กระเป๋าพี่น้องชาวเชียงใหม่ ทำให้หนี้เบาบางลง เอายาเสพติดให้หายไป

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกเสียดายเวลา แต่ไม่ใช่เสียดายเวลาของตนแต่เสียดายเวลาของพี่น้องคนไทยทุกคน ครั้งที่ผ่านตอนนายพิชัยลงเลือกตั้ง ตนเขียนจดหมายน้อยมาฉบับหนึ่ง พี่น้องชาวเชียงใหม่ก็เทคะแนนให้ 4 แสน จึงชนะ แต่วันนี้ตนมาเอง มาตัวเป็นๆ บางคนจับตัวตน แล้วถามว่าอันนี้ตัวจริงหรือไม่ เมื่อมาเองก็ขอคะแนน

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า คู่แข่งของนายพิชัยคือพรรคประชาชน (ปชน.) ซึ่งเขาโม้ไว้ว่า เขามีสส. 7 คน ถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ขอพี่น้องคืนสส.ให้ตน พรรคปชน.เป็นพรรคที่พูดเก่ง คนรุ่นใหม่เขาพูดเก่งทุกคน แต่ยะบ่จ่าง และยังบ่ได้ยะ วันนี้พรรค พท.ยังไงก็ได้ทำ เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีทุกคนก็นึกถึงแต่พรรค พท. ที่ทำให้พี่น้องได้อยู่สุขสบาย หากใครได้อ่านจากสื่อมวลชนจะเห็นว่าเขาตั้งฉายาให้รัฐบาลว่าเป็นรัฐบาลพ่อเลี้ยง สงสัยสื่อมวลชนเห็นว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลคนเมือง เลยใช้คำว่าพ่อเลี้ยง เห็นว่าคนเชียงใหม่เป็นพ่อเลี้ยงหมด จริงๆ แล้วตนไม่ใช่พ่อเลี้ยง แต่ลูกอาจจะเลี้ยง เพราะตนมีเงินเดือนแค่ 700 บาท แต่ลูกเป็นนายกรัฐมนตรีมีเงินเดือนเป็น 100,000 บาท

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า มีใครเคยเห็นนายกรัฐมนตรีพูดเรื่องบ้านเพื่อคนไทยหรือไม่ คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะคนที่เรียนจบมาบางคนก็ไม่มีงานทำ หรือมีงานทำก็ไม่มีปัญญาซื้อบ้าน จึงอยากทำให้ความฝันของคนไทยเป็นจริง มีเงินแค่ 10,000-20,000 บาท ก็จะสามารถซื้อบ้านได้ ไม่ต้องไปเสียเงินดาวน์ ผ่อนแค่เดือนละประมาณ 4,000 บาท แต่มีบ้านอย่างดีอยู่ อยากให้คนไทยอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี อยู่อย่างไม่ลำบาก

“พรรคประชาชนเขาเน้นเรื่องความเท่าเทียม ความเท่าเทียมในสายตาของพรรคประชาชนเป็นความเท่าเทียมทางสถานะ แต่ความเท่าเทียมของพรรค เพื่อไทยเป็นความเท่าเทียมทางโอกาส วันนี้ยากดีมีจนเกิดที่ไหนก็ควรมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา เข้าถึงอาชีพ หรือการเงินเหมือนกัน ดังนั้น จึงพยายามแก้ปัญหาทุกอย่างเพื่อให้คนไทยเข้าถึงแหล่งเงินแหล่งทองได้” นายทักษิณ

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า นายพิชัยตอนเป็นนายก อบจ.ใหม่ๆ ก็เมาหมัด แต่ช่วงหลังก็ขยันหมั่นเพียรมากขึ้นดูได้จากผลงาน ตอนน้ำท่วมที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ และเคยไปขอที่ดินตรงข้ามสถานีรถไฟ ที่มองว่าจะนำมาสร้างสวนเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้พี่น้องประชาชน ตนจึงบอกว่าทำไมถึงไม่ทำบ้านเพื่อคนไทยด้วย จะได้เห็นวิวสวยงาม หาใครยังไม่มีบ้าน ก็จะได้มี รวมถึงเรื่องถนนเลียบทางรถไฟไป จ.ลำพูนที่ยังเหลืออีก 11 กิโลเมตร สมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้เริ่มทำไปแล้ว แต่ก็ยังทำไม่เสร็จ นายพิชัยก็ไปขอน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะมาทำต่อ และจะได้ไปจ.ลำพูนโดยที่รถไม่ติด

“เป็นห่วงพี่น้องวันนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เพราะเป็นการบริหารการเงินที่ผิดพลาดมา 10 กว่าปีแล้ว เพราะเป็นการเอาเงินออกจากระบบ ธนาคารมีความพยายามที่จะปล่อยกู้ คนตัวเล็กตัวน้อยตายหมด รัฐบาลจึงพยายามที่จะเอาเงินมาเข้าระบบเพื่อให้คนไทยได้ไปต่อ” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนกำลังปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีว่าเงินที่เราหาได้นั้น ไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ พอหาได้ก็ไปซื้อของกิน เงินก็เข้ากรุงเทพฯ หมด ต่อไปตนจึงจะพยายามว่าทำให้เงินเหล่านี้มาอยู่เชียงใหมม่มากขึ้นเพื่อที่เศรษฐกิจจะได้เดิน ไม่เช่นนั้นเราจะเป็นเหมือนปลาที่ไหว้น้ำในบ่อ ที่เขาดูดน้ำออกทุกวัน ปลาจะไหว้ไม่ค่อยได้ ก็จะตาย ฉะนั้น ต้องเอาน้ำเข้ามาเติมใหม่โดยด่วนจึงจะช่วยพี่น้องได้

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนไปอุดรธานีมา ตนก็บอกว่าคนอุดรฯ เคยให้ สส.ตน 10 คนแล้วหายไปไหน 2 คน ขอคืนได้หรือไม่ เขาก็คืนให้ โดยเขาจะคืนนายกอบจ.ให้ เช่นเดียวกับที่อุบลราชธานี วันนี้ที่เชียงใหม่เป็นภารกิจพิเศษ พี่น้องอย่าลืมตน ตนกลับมาแล้ว อย่างไร ตนก็รักบ้านเมือง ตนนี้ตนกลับมาแล้ว อย่างน้อยต้องทำให้เชียงใหม่ดีเท่ากับตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือดีกว่า

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นพี่น้องไม่ต้องไปใช้ใคร ให้ใช้ทักษิณ กับลูกทักษิณ เขตไหนที่เลือกพรรคก้าวไกลที่ตอนนี้เป็นพรรคปชน. ครั้งหน้าขอให้เลือกพรรค พท. คืนสส.ให้ตน เนื่องจากในสภาฯ หากพรรคไม่ใหญ่ ก็เกิดการต่อรองนั่นนี่ บ้านเมืองก็จะไปยาก ดังนั้น ถึงเวลาที่พี่น้องประชาชนต้องคิดว่าจะให้ใคร และเทไปเลย บ้านเมืองจึงจะไปได้เร็วเหมือนตอนที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี เลือกได้ 300 กว่าเสียง ก็สามารถทำนั่นนี่ได้ไว และจะสามารถทำให้ประเทศไทยมีความสุข อย่าไปขี้ขอย(ขี้อิจฉา)

“การเมืองต้องเป็นปึกแผ่น ต้องเข้มแข็ง ดังนั้นคะแนนพี่น้องอย่าไปขี้เหนียว แบ่งนั้นนิดแบ่งนี่หน่อย ขอให้เอามาให้พรรคเพื่อไทย 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าทำไม่ได้ ให้มันรู้ไป ตนกลับมาแล้วยังไงก็เป็นรัฐบาล แต่อยากเป็นรัฐบาลที่เสียงมันเข้มแข็ง จะได้ทำงานหนักๆ ดังนั้น ต้องเริ่มจากท้องถิ่นคือ อบจ.เพราะเป็นการรับลูกจากรัฐบาลกลาง” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนกำลังคิดพัฒนาคนและสินค้าในแต่ละจังหวัด และต้องมีตัวแทนทำ บางจังหวัดผู้ว่าฯ ก็เต็มใจทำ แต่บางจังหวัดผู้ว่าฯ เหลืออีก 1 ปีจะเกษียณ ก็รู้สึกว่าตนเองขี้เกียจทำ ดังนั้นจึงต้องมาเอานายก อบจ.ของเรา

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า สินค้าที่เค้าขายใน TikTok ขายดิบขายดี แต่สินค้าบ้านเราไม่มีใครเป็นเจ้าภาพ การพัฒนาคนก็เหมือนกัน จะเอาคนมาฝึกเพื่อให้เงินเดือนดีขึ้น และเชื่อว่าหลายคนที่นั่งอยู่ตรงนี้อาจจะมีหัวศิลปะ หัวคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่มีโอกาส ต้องไปทำนาทำไร ซึ่งทำได้แต่ก็รู้สึกเสียดาย ซึ่งคนมีหัวต้องได้รับการพัฒนา ที่เราเรียกว่าซอฟต์พาวเวอร์ ตนจะใช้อบจ.และจังหวัดเป็นแกนกลาง และต้องทำให้คนแข็งแรง และเอาของที่ผลิตในพื้นที่ขายได้ผ่านโซเชียลของเขา

“ดังนั้น ขอพี่น้องประชาชนเลือกนายกก๊องกลับมาอีกครั้ง แล้วผมจะใช้งานให้เต็มที่ ผมมีตำแหน่งอยู่ 3 ตำแหน่ง คือ ส.ท.ร. หรืออดีตเคยเป็นนายกรัฐมนตรี ตำแหน่งที่สองเป็นผู้เฒ่า ตำแหน่งที่สามเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้ครอบงำ เพราะลูกสาวคนเล็กบอกว่าพ่อต้องฟัง อยากขอพี่น้องชาวเชียงใหม่ ว่าไม่ต้องใช้ใครไกล เห็นหน้ามากี่ครั้งก็จำกันได้ ขอให้ใช้ทักษิณและลูกทักษิณก็พอ บางคนบอกคนเชียงใหม่ชอบพระเอกหนังเกาหลี แต่ผมว่าสู้พ่อนางเอกหนังจีนไม่ได้ คนอุดร คนอุบล ผมไป เขาก็ให้คะแนนกลับมาเต็มที่ คนเชียงใหม่อย่าให้น้อยหน้าเขานะ เอาหนักๆ สัก 6 แสนเสียงก็พอ หากนายพิชัยชนะ ทุกพื้นที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ เพื่อที่ครั้งหน้าเราจะเอาสส.คืนมาเป็น 10 เขต ดังนั้น พี่น้องชาวเชียงใหม่ขอคืนด้วย” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนเป็นคนแก่อายุ 75 ปีแล้ว อีกหกเดือนก็จะอายุ 76 ปี แก่มากแล้ว จะให้มาฟังคนแก่ปราศรัย ก็ไม่คึกคักเหมือนสมัยหนุ่มๆ จะไปท้าตีท้าต่อยเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้ เมื่อก่อนเขาแรงมา เราแรงกลับ ตอนนี้ตนใจเย็นมา ขอพี่น้องอย่าไปฟังเสียงเขา พวกขาประจำตน เจอทีไรก็หาเรื่องมาสร้างนิยายน้ำเน่าตลอด ต่อไปนี้ตนจึงบอกว่าใครที่เล่นงานตน ตนจะเล่นงานกลับ ไม่ละไว้ บางคนบอกว่าชั่งมันเถอะ อย่าไปให้ราคา อย่าไปเล่นงานมันคืน

“ฮาบ่ละมันไว้เป๋นป้อ แม้ฮาจะแก่แล้ว คิงซัดฮามา ฮาซัดคิงไป คิดเล่นๆ สื่อไม่ต้องเอาไปเขียน ผมจะขออาสาสมัครทนายความ หากใครเก่งก็ขอให้มาช่วยฟ้อง แต่ก็รู้สึกว่ามันน่ารำคาญ บางคนเราก็รู้พื้นเพกันอยู่ มันมาเห่าอยู่นั่น เพราะบางคนไม่ได้ทำอะไรเลย บางคนผมเคยให้เงิน และพ่อเคยสอนผมว่าวันนี้เราเลี้ยงข้าวมันมื้อเดียว มันอิ่ม มันก็ขอบคุณเรา แต่มื้อหน้า มันหิว มันหาคนเลี้ยงข้าวใหม่ ถ้าเราไม่เลี้ยงมัน มันก็ขบเรา แล้วเราต้องเลี้ยงมันทุกวันเลยหรือ ลูกเราโตแล้วยังหากินเองได้ แต่บางคนแก่จนจะลงโลงแล้วยังไม่รู้จักหากินเอง เห็นแล้วรำคาญมาก” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า บางคนคิดว่าหาเรื่องวุ่นวายมา เขาบอกว่าทหารก็จะออก แต่ตอนนี้หมดยุคแล้ว ทหารรู้ดีว่าบ้านเมืองเสียหาย ต้องว่าไปตามกลไกรัฐบาล ไปตามกลไกอำนาจ ใครทำผิดกฎหมายก็ว่าไปตามนั้น เราไม่ได้หาเรื่องใคร หากใครหาเรื่องเรา ก็ไม่รู้ว่าจะปล่อยไว้ทำไม ต่างประเทศเขาไม่เข้าใจ เขาไปมองว่าเมื่อมีคนร้องแล้วรัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพ แล้วเขาก็ไม่กล้ามาลงทุน ทำให้ประเทศเราหยุดชะงัก แต่วันนี้องค์กรอิสระเขายึดหลักบ้านเมืองแล้ว เขาไม่ยึดหลักแบบเก่า

“ดังนั้น พี่น้องต้องเลือกหลักบ้านเมือง คือเลือกไปใช้งาน ไม่ใช่เอามาแต่พูด วันนี้ผมมาขอเอง ไม่ได้เขียนจดหมายมา ขอให้เลือกนายกก๊อง และส.อบจ.ไปทำงานกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเพื่อให้งบประมาณถึงมือพี่น้องประชาชนโดยตรง ผมมาขอเอง อ้อนวอนขอหลายครั้งแล้ว ให้ได้หรือไม่ หากหมดฤดูกาล อบจ.แล้ว ผมจะมาเชียงใหม่บ่อยๆ แล้วตอนนี้เขาจะเอาแพนด้ากลับคืนมาให้เรา เอาหรือไม่ และขอให้เร่งทำอยู่ ซึ่งประเทศจีนลดเงื่อนไขทุกอย่างเพื่อที่จะให้หมีแพนด้ากลับมาอยู่เชียงใหม่โดยเร็ว” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันที่ 26 ธันวาคมนี้ ตนจะได้ไปเจอกับเพื่อนตน ที่ตั้งให้ตนเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน เพื่อจะได้นั่งคุยกันว่าจะวางยุทธศาสตร์รวมของอาเซียนอย่างไร เพราะอาเซียนประกอบไปด้วย 10 ประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศต่างคนต่างอยู่ แต่จริงๆ รวมพลังกันอยู่แล้ว และต้องมีแผนยุทธศาสตร์ จึงขอให้ตนช่วย และตนคิดว่าเป็นประโยชน์กับประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นเศรษฐกิจใหญ่ลำดับสองของอาเซียน ดังนั้น คิดว่าจะอาสาไปช่วยกันคิดเพื่ออาเซียน เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนกลับมาแล้ว แต่ก็ยังเห็นพี่น้องประชาชนลำบากอยู่ ดังนั้น ต้องใช้ตนหนักๆ และต้องเลือกตัวแทนของตน ตอนนี้ยังไม่ได้เลือก สส. ขอนายกอบจ.ก่อน และให้ไปขอเพื่อนด้วยบอกว่าทักษิณมาขอเอง เพราะขี้เกียจเอาปี๊บคุมหัว ฉะนั้นคนเชียงใหม่ต้องสู้ให้เต็มที่ นายทักษิณ มาขอเอง

‘ทักษิณ’ หาเสียงวันที่ 2 เหน็บต่อ ปชน. จากพูดเก่งเป็นด่าเก่ง ฟุ้งรถไฟฟ้าใต้ดินแก้รถติดเชียงใหม่ - อ้อนขอคืน สส.ให้ พท. ทั้ง 10 เขต

(24 ธ.ค. 67) ‘ทักษิณ’ ยาหอมปีหน้าม่วนแน่ จบหมดทุกปัญหาทั้งยาเสพติด-หนี้สิน-คอลเซ็นเตอร์-เอา ศก.ใต้ดินขึ้นมาบนดิน ขู่ ผู้การ-ผู้กำกับ-ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ แก้ยาเสพติด ก็ให้จูงมือกันเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ ชู เชียงใหม่เป็นมรดกโลก ยัน รัฐบาลอยู่ครบเทอม แซะ ‘ปชน.’ อู้เก่งแต่เดี๋ยวนี้ด่าเก่ง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ธ.ค. 2567 ที่ตลาดภูสุวรรณ ต.มะขามหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียงเป็นวันที่ 2 โดยมีประชาชนจาก อ.สันป่าตอง หางดง แม่วาง ดอยหล่อ และจอมทองมาร่วมฟังกันปราศรัยกว่า 5,000 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณมาถึงได้เดินลงจากรถบริเวณทางเข้าก่อนถึงเวทีปราศรัยเพื่อเดินทักทายประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย โดยวันนี้นายทักษิณได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียว กางเกงยีนส์ และสวมแว่นตาดำ

ก่อนจะขึ้นปราศรัยด้วยการอู้กำเมืองว่า กลับมาบ้านแล้วรู้สึกม่วนอกม่วนใจขนาด หายไปนานแก่ไปหรือไม่ ปีนี้ 75 ย่าง 76 ปีแล้ว เวลาผ่านไปไว ตั้งใจอยากให้ จ.เชียงใหม่ เจริญรุ่งเรือง การทำมาหากินลำบาก แต่เป็นห่วงพี่น้องที่มาแต่เช้า ตอนนี้รัฐบาลกำลังสร้างกระบวนการแก้หนี้ลดหนี้ โดยให้สมาคมธนาคารมาช่วย ครั้งที่แล้วเขตสันป่าตอง สส.เป็นพรรคไหน พรรคก้าวไกล (ก.ก.) หรือไม่ ใครไม่เลือกพรรค พท.บ้าง และใครเลือก พท.คราวที่แล้ว

“พรรคประชาชนเป็นพรรคก้าวไกลเก่า เขาอู้เก่ง เดี๋ยวนี้เขาเริ่มด่าเก่ง ผมพยายามจะหัดด่า แต่ว่ายังบ่จ้างเตื่อ พี่น้องคราวที่แล้ว เลือกตั้งนายก อบจ. ผมเขียนจดหมายน้อยมา เพราะอยู่เมืองนอก พี่น้องเลือกนายกก๊องได้คะแนนสี่แสนปลาย วันนี้ผมมาด้วยตัวเอง มาขอถึงที่ หวังว่าพี่น้องจะให้สัก 6 แสนเน้อ ผมกลับมาเมืองไทยแล้ว นายกก๊องต้องทำงานหนัก เพราะต้องช่วยกันให้บ้านเราดีขึ้น ร่วมกับรัฐบาล โดยเฉพาะซอฟต์พาวเวอร์ที่จะทำให้คนไทยหมดหนี้หมดสิน ผมจะมาเชียงใหม่บ่อยหน่อย แต่ถ้านายกก๊องไม่ชนะ ส.ส.เหลือน้อย ผมมาเชียงใหม่ก็อายเหมือนกัน ฉะนั้น อย่าให้ผมอายนะ ครั้งนี้เอาให้ชนะขาดๆ ผมจะได้มาบ่อยๆ มาดูว่าที่ไหนเดือดร้อนบ้าง จะได้ช่วยกันเต็มที่ พี่น้องอย่าลืมกัน วันนี้มาแล้ว ผมอายุมากแล้ว เหลือเวลาแค่ 40 ปี ตั้งความหวังไว้ก่อน ทำตัวให้แข็งแรงจะได้มีเวลาดูแลพี่น้อง กลับมาแล้วก็อยากทำให้คนไทยมีเงินใช้ทุกคน” นายทักษิณกล่าว

นายทักษิณกล่าวต่อว่า ตอนนี้เชียงใหม่ไม่ค่อยงามเหมือนเมื่อก่อน เพราะมีควันมาแล้วออกยาก แต่รัฐบาลก็พยายามหามาตรการต่างๆ และตนก็พยายามคิดว่าจะทำอย่างไรให้ PM2.5 หายไป จัดการฝุ่นไวๆ เพราะอยากเห็นเชียงใหม่งามเหมือนเก่า วันก่อนมีคนมาเล่าให้ฟังว่ารถไฟฟ้าในเมืองก็จะทำใต้ดินส่วนหนึ่ง และนอกเมืองจะทำเป็นบนดินเพื่อทำให้เชียงใหม่รถติดน้อยลง รวมถึงจะผลักดันให้ จ.เชียงใหม่เป็นมรดกโลก โดยเอาวัด 6-7 แห่งรวมถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระธาตุจอมทอง เราจะเอาทั้งหมดเข้าเป็นมรดกโลก

นายทักษิณกล่าวอีกว่า ตอนตนอายุ 20 ปี พ่อสมัคร ส.ส. ตอนนั่งรถจี๊ปไปช่วยหาเสียง มาสันป่าตอง และเคยมาหาพระอาจารย์ทองที่มรณภาพไปแล้ว เคยมาออบหลวง แล้ววันนี้มาก็เห็นความเจริญมีบ้าน มีร้านค้ามากขึ้น แต่เศรษฐกิจโดยรวมก็ยังไม่ค่อยดี ปีนี้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งใครอายุเกิน 60 ปี ไม่กี่วันเงินหมื่นบาทจะมาแล้ว หลังจากนี้ก็รอระบบให้เสร็จ คนหนุ่มคนสาวก็จะได้ เมื่อระบบใช้ได้ ก็จะใช้ได้ทุกคน เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลเคยพูดไว้ พี่น้องอยากได้ยินอะไรก่อนระหว่างแก้หนี้กับยาเสพติด แสดงว่ายาเสพติดที่นี่หนัก แต่แสดงว่าคนสันป่าตองเป็นหนี้น้อย มีเงินหมดแล้ว ยาเสพติดเป็นปัญหาหนักสุดของประเทศ ตั้งแต่ปราบไปครั้งที่แล้ว หลังจากที่ตนถูกรัฐประหารทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม พ่อค้าทั้งหลายก็กลับไปสนับสนุนกระบวนการ แต่วันนี้อย่าแหลมมาก็แล้วกัน

นายทักษิณกล่าวต่อว่า ตนไปอีสาน บอกคนอีสานว่า หากใครไปเจอพ่อค้ายา ให้บอกพ่อค้ายาว่าทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณเกลียดพ่อค้ายา ดังนั้นให้เลิกค้ายา ถ้าไม่เลิกค้ายาก็ตัวใครตัวมัน หากพี่น้องไปเจอก็ให้บอกมันด้วยว่าทักษิณกลับมาเป็น ส.ท.ร.แล้ว ฉะนั้น อยากเสือกเรื่องแรกคือยาเสพติด จึงขอให้เลิกเสีย ไม่เช่นนั้นตัวใครตัวมัน เดี๋ยวต่อไปจะมีระบบแจ้งเตือนพ่อค้ายาไปที่ผู้การ ผู้กำกับ ผู้ว่าฯ และนายอำเภอ หากไม่ดำเนินการตามที่ได้รับแจ้งก็จูงมือกันย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ เรื่องนี้หากทำไม่ได้ก็ต้องมีใครสักคนที่ต้องไป ซึ่งเรื่องปราบยาเสพติดในปี 2568 จะเป็นไฮไลต์ใหญ่ของรัฐบาล ควบคู่ไปกับการแก้เรื่องหนี้สินของประชาชน

“เชียงใหม่จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ หากนายก อบจ.ชื่อก๊องได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง รวมถึงได้รับมอบหมายภารกิจจากรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทยต้องมาสนใจเรื่อง อบจ. เพราะต้องการมือไม้ที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลในการดูแลประชาชนถึงที่ เพราะ ส.ส.เราไม่ได้รับเลือก หาก อบจ.ยังแพ้อีก แสดงว่าพี่น้องเชียงใหม่บอกว่าทักษิณไม่ต้องมาแล้ว ไปไกลๆ ไป แต่หากได้รับเลือกก็จะมาบ่อยอย่ารำคาญขี้หน้ากันเน้อ นายกก๊องอยู่กับผมมานาน ผมอยู่เมืองนอกเขาก็แวะมาหาผมเป็นประจำ ไปปรึกษากันเป็นประจำ เป็นคนที่ผมไว้ใจใช้งาน จึงอยากขอให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจ ใช้งานก๊องต่ออีกสมัย ถ้าทำงานช้าผมจะหวด” นายทักษิณกล่าว

นายทักษิณกล่าวต่อว่า เดี๋ยวนี้มีข่าวสองประเภท ข่าวหนึ่งคือข่าวการเมือง ข่าวมีน้อยแต่ขยายจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต และขยันเอาพวกที่เป็นขาประจำตัวมาสัมภาษณ์ ให้มันออกมาด่าตนเพื่อที่จะได้เป็นข่าวและได้รับความสนใจ บังเอิญว่าตนอายุมากแล้วหูตึง เวลามันด่าตนไม่ค่อยได้ยิน แต่รู้ว่ามันด่าว่าอะไรจึงสวนไปบ้าง เมื่อแก่แล้วนิสัยก็เปลี่ยน ใจเย็นขึ้นแต่ว่าใครแรงมาก็แรงไป

“คิงเล่นฮา ฮาก็จะเล่นคิง และเดี๋ยวนี้ฮาไม่หมูนะ คิงอย่ามาเล่นกะฮานะ รำคาญโคตรพ่อโคตรแม่ อะไรนักหนา” นายทักษิณกล่าว

นายทักษิณกล่าวด้วยว่า ข่าวอีกประเภทหนึ่งคือข่าวอาชญากรรม ตอนตนไม่สบายนอนอยู่โรงพยาบาล เห็นข่าวเรื่องยาเสพติด กลุ้มใจที่สุดเพราะบางครั้งคนติดยาทุบตีพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย จึงถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องทุกข์ของคนไทย ตอนตนปราบยาหลายคนเข้ามาขอบคุณตน และบอกว่าดีใจที่ได้ลูกคืน วันนี้กลับมาเที่ยวนี้ตั้งใจอย่างยิ่งว่าจะคืนลูกหลานให้พี่น้องเพื่อที่เขากลับไปจะได้เป็นคนดีของสังคม

นายทักษิณกล่าวอีกว่า ปีหน้าเป็นปีที่จะเอาลูกคืนพี่น้อง ทำหนี้สินให้เบาลงและพัฒนาคน เอาซอฟต์พาวเวอร์มาทำเงิน รวมถึงที่อยู่อาศัย เอาที่หลวงมาทำเป็นสัญญาเช่า 99 ปี สร้างบ้านให้ประชาชน ผ่อนเดือนละประมาณ 4,000 บาท ไม่ต้องมีเงินดาวน์ ส้วมเป็นไฟฟ้าไม่ต้องล้างก้นเอง เอามือไปเล่นคอมพิวเตอร์ ต่อไปงบประมาณจะไปลงที่มหาวิทยาลัยหนักเพื่อที่จะพัฒนาคน ตนจะต้องทำให้คนไทยอยู่อย่างมีความหวัง เพราะหากไม่มีความหวังก็จะไปเล่นยากันหมด

นายทักษิณกล่าวอีกว่า ถ้าไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ตนเคยมีหนี้ เช็คเด้ง ต่อสู้มา จึงเอาเช็คใส่กรอบไว้ให้ลูก เขาจะได้รู้ถึงความลำบากเป็นบทเรียนที่ดีเอาไว้สอนลูกสอนหลาน ไม่มีใครไปประสบความสำเร็จโดยไม่ผ่านความยากลำบาก ในชาติเดียวกันนี้ตนเห็นทั้งนรกและสวรรค์ ทุกข์สุขคืออะไร จากนี้อยากให้คนไทยหมดปัญหา นี่คือสิ่งที่ตั้งใจไว้

“มีเวลาช่วยลูกสาวสองปีปลาย ไม่ต้องห่วง เรื่องยุบสภาลิ้นกับฟันเป็นเรื่องธรรมดา ยังไงก็อยู่ครบเทอม มีเสถียรภาพเช่นนี้จะยุบสภาทำไม ใครจะออกมาเห่าหอนก็ปล่อยเขา เราทำงานอย่างเดียว ได้ยินเสียงนกเสียงกาพี่น้องก็หูทวนลมอย่าไปสนใจ สนใจแค่รัฐบาลจะทำให้พี่น้องพ้นทุกข์อย่างไร เขากำลังทำการบ้านปรับโครงสร้างภาษี ให้คนไทยทุกคน ถึงแม้มีรายได้ไม่ถึงที่จะเสียภาษีก็ต้องกรอกการเสียภาษี หากรายได้ต่ำก็จะเก็บนำภาษีที่เก็บจากคนที่เสียภาษีมาช่วย เป็นเงินทุนหนุนจากรัฐบาลแทน” นายทักษิณกล่าว

นายทักษิณกล่าวต่อว่า ตนกำลังบอกกับทางพม่าและเขมรให้จัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า หากจัดการไม่ได้ ตนขออนุญาตส่งคนไปจัดการ นอกจากนี้ ตนยังพูดกับกะเหรี่ยงเคเอ็นยู แล้วบอกไปทางพม่าแล้วว่าให้ช่วยจัดการหมู่ที่อยู่แถวเมียวดี หากไม่มีกำลัง เดี๋ยวตนจะเอากำลังไปจัดการ ภายในปีหน้าคอลเซ็นเตอร์จะต้องจัดการให้เกลี้ยง เศรษฐกิจใต้ดินจะเอาขึ้นมาบนดิน ต้องทำให้ถูกต้อง เพราะเศรษฐกิจใต้ดินมีขนาดใหญ่มาก เงินเยอะมาก แต่ไม่เสียภาษีสักบาท จึงทำให้เกิดช่องทางที่เป็นปัญหา จึงต้องนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมา

“ปีหน้าม่วนแน่นอน รับรองว่าอะไรที่ทุกข์มานานจะจัดการให้หมด แต่ผมเป็นคนมีจุดอ่อน เพราะเป็นคนที่ต้องการกำลังใจ หวังว่าพี่น้องชาวเชียงใหม่จะให้กำลังใจผม โดยเลือกนายกก๊องให้กลับมาอีกรอบ เพราะเป็นสัญญาณว่าครั้งหน้าพี่น้องชาวเชียงใหม่ ก็จะคืน ส.ส.ให้พรรคเพื่อไทยทั้ง 10 เขต ซึ่งก็จะมีกำลังใจกลับมา เราทุกข์ด้วยกัน เราก็ต้องสุขด้วยกัน เราทุกข์ด้วยกันมาแล้ว ต่อไปนี้เราก็จะสุขด้วยกัน พี่น้องให้ ส.ส. 2 คน ทำให้ผมน้อยอกน้อยใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้หายแล้ว เพราะตอนนี้พี่น้องกำลังจะคืนกำลังใจให้ โดยการเลือกนายกก๊อง และ ส.จ.ทุกคนเข้ามา เพื่อวางพื้นฐานที่จะคืน ส.ส.ให้ผม แล้ววันนั้นเราจะมีความสุขด้วยกัน ขอให้พี่น้องอย่าลืมผม ผมกลับมาแล้ว ผมมาขอเอง ได้หรือไม่ ขอให้เลือกเบอร์สองและ ส.จ.ทุกคนให้เต็มที่ รวมถึงขอให้กลับไปบอกเพื่อนๆ ว่าใช้ทักษิณดีกว่า เพราะมีลูกเป็นนายกฯ” นายทักษิณกล่าว

นายทักษิณกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ เพื่อนตนสมัยที่อยู่พรรคไทยรักไทย เขาบอกตนว่านายกรัฐมนตรีก็คือคนเดิมแค่ผมยาว เพราะนายกรัฐมนตรีที่เป็นลูกสาวเขาหน้าเหมือนตน รับรองได้เลยว่าสไตล์การทำงานก็จะเหมือนกัน เพราะเป็นดีเอ็นเอที่ก๊อบปี้กันมา และนายกรัฐมนตรีก็ช่วยตนมาตั้งแต่เขาอายุแปดปี ตั้งแต่พรรคพลังธรรมที่ไปช่วยตนหาเสียง ฉะนั้น นายกรัฐมนตรีก็รู้เรื่องการเมืองและเข้าใจดี ได้เรียนรู้เรื่องการบริหารมาทั้งหมด คิดว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีเป็นวัยรุ่นที่รู้เรื่องการเมือง และอาจจะรู้ดีกว่าตนด้วย ย้ำว่าขอให้ช่วยกันเลือกเบอร์สอง เลือก ส.จ.ให้ตน แล้วตนจะกลับมาใหม่เพื่อจะกลับมาแก้ไขปัญหาให้ชาวเชียงใหม่มีกินมีใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายทักษิณลงจากเวทีแล้วได้เดินทักทายประชาชนและเซ็นชื่อลงบนธงคนเสื้อแดงขนาดใหญ่
 

'อันวาร์' พบ 'ทักษิณ' แล้ว ขึ้นเรือยอร์ชคุยกลางทะเล ชมเปราะเป็น 'บิ๊กคอนเนคชั่นแห่งอาเซียน'

( 27 ธ.ค.67) นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม โพสต์ภาพพร้อมข้อความในการพบปะกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ในฐานะที่แต่งตั้งให้รับหน้าที่ที่ปรึกษาประธานอาเซียนซึ่งมาเลเซียจะรับบทบาทประธานอาเซียนในปีหน้า

ข้อความจากเฟซบุ๊กของนายกอันวาร์ระบุว่า "ยินดีที่ได้พบกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และเพื่อนที่รัก ดร.ทักษิณ ชินวัตร เราทั้งสองสนทนาอย่างกว้างขวางในหลายประเด็น รวมถึงในฐานะที่ท่านเป็นที่ปรึกษานอกรอบของประธานอาเซียนของมาเลเซีย บทสนทนาของเรามุ่งเน้นไปที่เรื่องสำคัญในระดับภูมิภาค ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ การส่งเสริมสันติภาพในภาคใต้ของไทย และการแก้ไขวิกฤตการณ์ในเมียนมา

เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของทักษิณในภูมิภาค และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของท่าน จะเปิดโอกาสอันมีค่าให้กับมาเลเซียและอาเซียนในการเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ด้วยความมั่นใจและประสิทธิผลที่มากขึ้น

เราได้หารือกันถึงวิธีการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างมาเลเซียและไทยที่มีอยู่แล้วให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยการปรับให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างความสมานฉันท์ในภูมิภาค ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์เดียวกับที่ผมแบ่งปันกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทักษิณและผมเชื่อมั่นว่า มาเลเซียและไทยสามารถทำได้มากกว่าที่เคย โดยไม่เพียงแต่เพื่อประโยชน์ของชาติของเรา แต่เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคโดยรวม เรามุ่งมั่นที่จะทำให้วิสัยทัศน์นั้นกลายเป็นความจริง" ข้อความที่นายกอันวาร์ระบุ 

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม แถลง!! ผลการหารือกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เผย!! พูดคุยประเด็นสำคัญในภูมิภาค เศรษฐกิจ เทคโนโลยี การสร้างสันติภาพในภาคใต้

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม เปิดใจเชื่อ ความเจนจัดของอดีตผู้นำไทย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีเครือข่ายกว้างขวางไปทั่วภูมิภาคจะเป็นประโยชน์ต่อ 'มาเลเซีย' ที่กำลังจะนั่งในตำแหน่งประธานอาเซียนแบบหมุนเวียนคนใหม่ในปี 2025

และเสริมว่า ผู้นำทั้งสองพบกันในวันพฤหัสบดี (26) โดยบลูมเบิร์กกล่าวว่า ประเด็นการหารือประกอบไปด้วยประเด็นสำคัญของภูมิภาค รวมไปถึงการเสริมสร้างสันติภาพในภาคใต้ของไทยและต่อวิกฤตพม่า

“เครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบเคียงของคุณทักษิณไปทั่วทั้งภูมิภาคพร้อมไปด้วยความเชี่ยวชาญที่พิเศษที่โดดเด่นของเขานั้นเป็นเสมือนการสัญญาต่อโอกาสที่มีคุณค่ามหาศาลสำหรับทั้งมาเลเซียและอาเซียน เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายด้วยความเชื่อมั่นและความสามารถที่มากขึ้น” 

อันวาร์ซึ่งเรียกอดีตนายกฯ ไทยว่า ‘เพื่อนรัก’ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความรู้สึกวิตกต่อปัญหาทางกฎหมายและการเมืองในไทยที่รุมล้อมอดีตผู้นำไทยที่ต้องลี้ภัยทางการเมืองนาน 15 ปีจากการโดนทำรัฐประหาร ซึ่งมีประวัติทำความผิดคอร์รัปชันและสามารถรอมชอมกับทหารได้ ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษในเวลาต่อมา

และหลังจากที่นายกฯ อันวาแต่งตั้งทักษิณเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนในฐานะหนึ่งในที่ปรึกษาส่วนตัวในการนั่งทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียนครั้งแรกกลับพบกับเสียงวิจารณ์จากทั้งในไทยและในมาเลเซีย และรวมไปสื่อนอกเช่น รอยเตอร์

มีการหยิบยกการเปรียบเทียบให้เห็นเหมือนเมื่อครั้งการได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและความสัมพันธ์กับฮุนเซน ย้อนให้นึกถึงครั้งที่ ทักษิณ ได้รับการแต่งตั้งจากฮุนเซน ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา แต่หลังจากนั้นไม่นานทักษิณประกาศลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างของฝ่ายตรงข้ามเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากกัมพูชามีข้อพิพาททางทะเลกับไทยในเรื่องเกาะกูด

ขณะที่ฝ่ายค้านมาเลเซียเองออกมาถามอาเซียนจะได้ประโยชน์จริงหรือและจะเสริมภาพลักษณ์ของอันวาร์ได้อย่างไร ซัดตั้งคนที่ถูกพิพากษาจำคุกฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำไมไม่ตั้งนักการทูตหรือนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ ด้าน ‘ดร.มหาเธร์’ งง ทำไมเลือกทักษิณ ทั้งที่มีคนอื่นมากมาย

ซึ่งการพบกันระหว่าง 2 ผู้นำมาเลเซีย-ไทยนี้เป็นที่จับตาเป็นวงกว้างโดยเฉพาะจากโลกตะวันตก เกิดขึ้นหลังสื่อ TASS ของรัสเซียรายงานวันพุธ (25) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้ตอบรับการเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (BRICS partner country) ซึ่งเป็นก้าวที่จะนำไปสู่การเป็นสมาชิกเต็มตัวในอนาคต

กลายเป็นคำถามให้ผู้เชี่ยวชาญว่า กลุ่มอาเซียน 10 ชาติซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1967 นี้จะยังคงวางตัวเป็นกลางอย่างไรในเมื่อ 3 ชาติจากทั้งหมดได้แก่ มาเลเซีย ซึ่งกำลังจะเป็นประธานอาเซียน รวมไทย ที่มีอดีตนายกฯ นั่งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของประธานอาเซียน และอินโดนีเซียนั้นกำลังจะเป็นหุ้นส่วนกับรัสเซีย-จีนผ่านกลุ่ม BRICS

สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า นักวิเคราะห์ต่างชี้ว่า ในฐานะเป็นประธานอาเซียน อันวาร์และมาเลเซียจะผงาดบนเวทีโลกในฐานะชาติมหาอำนาจตัวกลาง (middle power) โดยในการจำกัดความที่หมายถึงประเทศที่ยังไม่มีอิทธิพลโดดเด่นในฐานะชาติมหาอำนาจโลก เช่น สหรัฐฯ จีน รัสเซีย แต่ถูกพิจารณาว่ามีอิทธิพลในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

การทูตของนายกฯ อันวาร์รวมถึงการไปเยือนอเมริกาใต้เพื่อประชุมเอเปกและการประชุม G-20 สะท้อนถึงการสร้างที่ยืนของมาเลเซียและเขาบนเวทีโลกและแผนสำหรับการนำอาเซียนในปี 2025

เรดิโอฟรีเอเชียชี้ว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มักจะย้ำเสมอในการให้สำคัญต่ออาเซียนและกลไกของอาเซียนต่อเป้าหมายในการทำให้มีความเหมาะสมมากขึ้นสำหรับความพยายามอย่างเคลื่อนไหวภายในโลกขั้วใต้ (Global South) ซึ่งโลกขั้วใต้นี้ปักกิ่งได้ประกาศแสดงความเป็นผู้นำ

และเป็นเสมือนสิ่งสำคัญสำหรับผู้นำแดนเสือเหลืองที่ต้องทำให้มั่นใจว่า กลุ่มอาเซียนจะไม่เพียงแต่เป็นกลาง แต่ต้องถูกมองให้เป็นเช่นนั้นด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Matthijs van den Broek แสดงความเห็น

และเสริมว่า ในขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาข่มขู่ว่าจะตั้งกำแพงภาษีสูงลิ่วต่อประเทศใดๆ ที่เขาเชื่อว่ากำลังเป็นศัตรูกับดอลลาร์สหรัฐ หลังกลุ่ม BRICS วางแผนจะตั้งสกุลเงินใหม่ของตัวเอง

ทั้งจีนและสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการซื้อขายต่างชาติระดับต้นและเป็นพันธมิตรทางการลงทุน ดังนั้นแล้ว มาเลเซียในฐานะประธานต้องเพิ่มความสามารถทางการทูตของตัวเองเพื่อไม่ให้มีการทำให้รู้สึกทอดทิ้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

‘จักรภพ’ พาคนรัก!! เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ขอคำปรึกษาทักษิณ เตรียมจดทะเบียนสมรส

(4 ม.ค. 68) นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก และ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (3 ม.ค. 68) ตนพร้อมด้วย นายสุไพรพล ช่วยชู หรือ ป๊อบ คู่ชีวิต  เดินทางเข้าพบ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อเรียนเชิญเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนสมรส รับกฎหมาย พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่ประเทศไทยจะประกาศใช้ ในวันที่ 22 มกราคม 2568 

นายจักรภพ กล่าวว่า การเข้าพบครั้งนี้ เพื่อขอคำปรึกษา ดร.ทักษิณ เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสและการฉลองแต่งงานของเรา ในฐานะที่ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ที่บทบาทสำคัญในการผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในนามพรรคเพื่อไทย จนนำไปสู่ประกาศใช้ในวันที่ 22 มกราคมนี้ นับเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความหมายมาก เพราะว่าคนเพศเดียวกันหรือที่เรียกว่า LGBTQ+ ก็สามารถจดทะเบียนสมรสได้ เหมือนกับมนุษย์คนอื่นในโลกนี้ เพื่ออยู่ภายใต้ระบบกฎหมายเดียวกัน 

“ท่านเมตตาให้คำปรึกษาอย่างผู้ใหญ่ในครอบครัวทั้งในเรื่องวัน เวลา รูปแบบ แม้แต่ฤกษ์พานาที โดยท่านย้ำว่า ต้องยึดหลักโบราณเพื่อหาวันที่เหมาะสม” นายจักรภพ กล่าว นายจักรภพ กล่าวถึงเส้นทางความรักของตัวเองว่า คบหาดูใจกับ คุณป๊อบมายาวนานถึงกว่า 23 ปี พอ ๆ กับ การผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เมื่อปี 2544 ที่รัฐบาล นำโดยนายกรัฐมนตรี ทักษิณ  เริ่มเสนอแนวคิดให้คนรักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตามกฎหมาย แต่ต้องยุติลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกระแสสังคมต่อต้าน รัฐบาลจึงมองเห็นว่าสังคมไม่พร้อม เรื่องนี้จึงตกไป ต่อมา ปี 2555 มีการเรียกร้องจากกลุ่ม LGBTQ+ ต้องการจดทะเบียนสมรส แต่ถูกปฏิเสธ จึงได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง 

ต่อมาในปี 2556 สมัยรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีผลักดันให้มีกฎหมายรองรับของกลุ่ม LGBTQ+ อีกครั้ง โดยได้ยื่นเสนอร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตเพื่อให้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่สำเร็จ และยุติลงในปี 2557  หลังจากนั้นก็มีการเคลื่อนไหวจากภาคประชาชนและพรรคการเมือง และกระแสโลก ที่เรียกร้องสมรสเท่าเทียม และมีการเดินหน้าอย่างจริงจัง จนนำไปสู่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี และจะประกาศใช้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการ ในรัฐบาลของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นับเป็นการผลักดันต่อสู้อย่างยาวนานของพรรคเพื่อไทย ในการสร้างประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์โลกจนประสบความสำเร็จในที่สุด

‘คนเสื้อแดง’ เชียงราย แห่รับ!! 'ทักษิณ' เตรียม!! ปราศรัยหาเสียง ‘นายกฯ อบจ.’

(5 ม.ค. 68) เวลา 09.30 น. ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เดินทางถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยได้ใช้บริการสายการบินพาณิชย์ ก่อนที่จะเดินทางขึ้นเวทีปราศรัยด้วยรถตู้เล็กซัส สีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร

จุดแรกช่วงเที่ยงจะไปที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม อ.เทิง และโรงเรียนห้วยซ้อวิทยาคม อ.เชียงของ ในช่วงบ่าย จากนั้นในช่วงเย็น นายทักษิณจะขึ้นปราศรัยที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม

ทันทีที่มาถึงนายทักษิณ ได้เดินมาพบกับกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงราย ที่มารอให้การต้อนรับ โดยคนเสื้อแดงได้มอบพวงมาลัย ขอกอด และขอถ่ายรูปร่วมกับนายทักษิณ แน่นสนามบินแม่ฟ้าหลวง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top