Friday, 3 May 2024
ชาติพัฒนากล้า

ฟื้นคืน ศก.ยุคทอง!! ‘สุวัจน์’ เปิดนโยบาย ‘โคราชโนมิกส์’ พัฒนาภาคอีสาน มั่นใจ!! สร้างความมั่งคั่ง-ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

(8 มี.ค. 66) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ตามที่พรรคชาติพัฒนากล้าได้เปิดตัว นโยบายภาพรวมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 12 เรื่องไปแล้ว ภายใต้แนวคิด ‘มีงาน มีเงิน ของไม่แพง’ และได้รับการตอบรับอย่างดีพร้อมข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ นโยบายโดนใจพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนโยบายลดภาษี นโยบายในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ นโยบายเพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทย และนโยบายซ่อมบ้านให้ผู้สูงอายุ

เนื่องจากพรรคชาติพัฒนากล้า มีฐานการเมืองอยู่ที่ภาคอีสานที่จังหวัดนครราชสีมา จึงได้ออกแบบแนวคิดนโยบายเป็นการเฉพาะ ในการสร้างความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสาน จึงได้เตรียมการจัดงานเปิดตัวนโยบาย ‘Koratnomics’ (โคราชโนมิกส์) ในการพัฒนาอีสานและโคราช ที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคมนี้ เวลา 9.00 น ถึง 12.00 น. ที่โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

ปัญหาเรื้อรัง ‘จูรี’ กางโฉนด ‘ชาวชายฝั่งระโนด’ ที่ดินหายกว่าครึ่ง วอนนายกฯ แก้ไข ก่อนชาวบ้านต้องย้ายไปอยู่กลางทะเล

‘จูรี’ ชาติพัฒนากล้าสงขลา อัดคลิปกลางทะเล ร้องนายกดูแลชายฝั่งระโนด หลังโดนมรสุมกัดเซาะที่ดินหายลงทะเลทั้งแปลง ปัญหาเรื้อรังนับ 10 ปี ที่ผ่านมาแก้ปัญหาผิดวิธี

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 นายจูรี นุ่มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สงขลา พรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะเป็น ชาว อ.ระโนด โดยกำเนิด กล่าวว่า ในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ จ.สงขลา รวมถึงตรวจติดตามแนวทางการแก้ปัญหาพื้นที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณ หมู่ที่ 2 ต.นาบอน นั้น อยากให้ท่านดูแลติดตามอย่างจริงจัง เพราะปัญหาดังกล่าวยืดเยื้อเรื้อรังมานาน ในบางจุด มีศาลาและโกฐบรรจุอัฐิของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ถูกกัดเซาะจนพังทลายได้รับความเสียหายอย่างหนัก บ้านบางหลังพังและจมหายลงไปในทะเล

“ปัญหานี้เรื้อรังมานับสิบปี ไม่มีการแก้ไข ชาวบ้านจ่ายภาษีบำรุงท้องที่ทุกปี แต่พอมาดูโฉนดบางพื้นที่หายไปกว่าครึ่งแปลง บางพื้นที่จมหายไปทั้งแปลงก็มี เหลือแต่โฉนดที่เป็นกระดาษ ปีที่แล้วต่อเนื่องถึงปีนี้หนักมาก และหนักขึ้นทุกปี ขอให้ผู้ที่รับผิดชอบ ตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กรมเจ้าท่า ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยดูแล จัดหาที่อยู่ใหม่ และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย โดยด่วนก่อนที่ชาวบ้านจะต้องย้ายที่อยู่ลงไปในทะเล” นายจูรี กล่าว 

สำหรับปัญหาดังกล่าว ชาวบ้านเชื่อว่าเกิดจากการสร้างกำแพงกันคลื่นของกรมเจ้าท่า ซึ่งเป็นปัญหามานับสิบปี และไม่ได้รับการดูแลแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด 

‘กรณ์’ เผย ว่าที่ผู้สมัครเป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง-มีคุณภาพ มั่นใจ ‘ชพก.’ มีโอกาสคว้าชัย พร้อมพาสงขลาไปไกลกว่าเดิม

(10 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสงขลา ระบุว่า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย พล.ต.ธชา จินตวร รองเลขาธิการพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 เขต ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต 1, นายจูรี นุ่มแก้ว เขต 2 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ เขต 3 และ นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือ ทนายอาร์ม เขต 9 ร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนชาวสงขลา

โดยในช่วงเช้า เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อกวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์และมีคุณธรรมสูงส่งที่ ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ ต่อช่วงบ่ายเข้าร่วมกิจกรรมงานวันสงขลาครบรอบ 181 ปี ณ บริเวณ ถนนนางงาม นครใน นครนอก โดยแต่ละจุดกิจกรรม ประชาชนให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น และชื่นชมในทีมผู้บริหาร และนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ตลอดจนตัวว่าที่ผู้สมัครว่าเป็นคนคุณภาพ เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลง จังหวัดสงขลา ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานมากแล้ว

นายกรณ์ กล่าวว่า นับแต่เปิดเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 4 คนของ จ.สงขลา กระแสตอบรับดีมาก และดีขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกเขต ทำให้มั่นใจว่าเราจะได้ ส.ส.จาก จ.สงขลาอย่างแน่นอน แต่จะครบทั้ง 4 คน หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ส่วนการทำงานของว่าที่ผู้สมัครทั้ง 4 คนก็เป็นต้นแบบของการทำงานเป็นทีม เราเปิดเวทีปราศรัยพบพี่น้องประชาชน ก็จัดแบบธรรมชาติ บนรถกระบะบ้าง ในสวนยางบ้าง แต่เป็นแนวการเมืองบริสุทธิ์ในแนวทางสร้างสรรค์ และจากการพบปะพูดคุยกับประชาชน พี่น้องสงขลาอยากเห็นการเมืองมีการพัฒนา อยากเห็นคนรุ่นใหม่ มีโอกาสเข้ามาทำงานการเมือง

ต่อมาในช่วงเย็น ร่วมทอล์กเศรษฐกิจ ณ ไมอามี สงขลา โดยนายกรณ์ และว่าที่ผู้สมัครทั้ง 4 คน มีผู้สนใจเข้ารับฟังกันอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นการจัดแบบธรรมชาติ ไม่มีการจัดตั้งแต่อย่างใด โดยนายกรณ์ กล่าวว่า อยากฝากพี่น้อง จ.สงชลา ชาวใต้ และพี่น้องทั่วประเทศ แม้พรรคเราจะไม่ใหญ่ แต่ความคิดของเรายิ่งใหญ่มาก เราเห็นและเข้าใจประเด็นปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ เราไม่ได้เน้นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่ต้องใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชน หรือใช้เงินกู้ แต่เราต้องเข้าไปทำความเข้าใจกันตั้งแต่ต้นตอ และมีความกล้า ที่จะเข้าไปรื้อระดับโครงสร้าง ทั้งโครงสร้างพลังงาน เพื่อให้พี่น้องประชาชน เพื่อค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้าถูกลง โครงสร้างทางการเงิน การปล่อยสินเชื่อ เพื่อการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบ ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมกับประชาชน มากยิ่งขึ้น แม้แต่ปัญหาเรื่องของฝุ่นพิษ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นปัญหาระดับโครงสร้าง รอนักการเมืองที่เข้าใจและกล้าจะเข้าไปแก้ปัญหาระดับโครงสร้างให้กับพี่น้องประชาชน

ถึงเส้นชัย! ‘กรณ์’ โชว์ฟอร์มว่ายน้ำ ข้ามทะเลสาบสงขลา 2 กม. มุ่งปลุกการท่องเที่ยว-ปลูกจิตสำนึกรักทะเลสาบ

ถึงเส้นชัย! ‘กรณ์’ ติดสปีด ฟิต ว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา 2 กิโลเมตร ทำลายสถิติตัวเอง มั่นใจปลุกท่องเที่ยว ฟื้นเศรษฐกิจสงขลา ดันมนต์เสน่ห์ท้องถิ่นเพิ่มรายได้ชุมชน 

(12 มี.ค66)  จ.สงขลา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และนางสาววิเวียน จุลมนต์ ที่ปรึกษาทีมนโยบายของพรรค ได้ร่วมกิจกรรม Singora Lake Swim 2023 ด้วยการว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นทะเลสาบแห่งเดียวในประเทศไทยโดยใช้เส้นทางจากโรงสีแดง (หับ โห้ หิ้น) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ไปยังเส้นชัยที่ Songkhla Pier ฝั่งหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา รวมระยะทาง 2 กิโลเมตร โดยมีทีมรักษาความปลอดภัย ตลอดจนการวางแผนกู้ภัยทางน้ำ ที่ได้เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี ปีนี้มีนักว่ายน้ำทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมเกือบ 200 คน จากปีแรก (2021) ที่มีผู้เข้าร่วม 30 คน เนื่องจากปีนี้ มีการโปรโมทผ่านตัวนายกรณ์ และ นายจูรี ทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก   

นอกจากนี้ ดาวติ๊กต๊อกชื่อดัง นายจูรี นุ่มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ให้หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครอีก 3 คนได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 และ ทนายอาร์ม-นายพงศธร สุวรรณรักษา ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขต 9 เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง 

นายกรณ์ กล่าวว่า  ตนเข้าร่วมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา ในกิจกรรม Singora Lake Swim 2023 เป็นปีที่ 2 เพื่อช่วยโปรโมทการท่องเที่ยววิถีชุมชน ตลอดจนอาหารพื้นเมืองที่จัดไว้บริการผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ และอัตลักษณ์ที่สำคัญของ จ.สงขลา ที่มีประวัติศาสตร์ และเรื่องราวยาวนานมาถึง 181 ปี สามารถผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ของจังหวัดได้แท้จริง นอกจากนี้ยังเป็นการรณรงค์ ลด เลิก ทิ้งขยะลงในทะเล อนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ปลูกจิตสำนึกให้รักท้องทะเลสาบที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย และปีนี้พิเศษกว่าทุกปี ตรงที่ผู้จัดงานได้ร่วมระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้กับ รพ.สต.หัวเขา อีกด้วย  

‘สาวชาติพัฒนากล้า’ นำเสนอนโยบายด้วยภาษามือ  พร้อมรับฟังความเห็นจากเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน

(14​ มี.ค.66) ณ​ ห้อง​อินฟินิตี้​ โรงแรมพูลแมน​ รางน้ำ​ กรุงเทพมหานคร​ ว่าที่ผู้สมัครหญิงจากพรรคชาติพัฒนากล้า​ นำโดย ‘วิว’ นางสาวเยาวภา​ บุรพลชัย​ โฆษกพรรคชาติพัฒนากล้า, นางสาวยศยา ชิยาปภารักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตพระโขนง-บางนา​ และ​นางสาวสวิชญา​ วาทะพุกกะณะ ว่าที่ผู้สมัครเขตราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ​ ได้รับเชิญเป็นตัวแทนพรรคเข้าร่วมเสวนางาน "Woman together stand for good society and good politics : สังคมดี การเมืองดี ต้องมีสตรีร่วมทาง" โดยการเสวนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมผลักดันสตรีเพศให้มีบทบาทและสิทธิทางการเมืองเสมอภาคกับเพศสภาพอื่นๆ

นางสาวเยาวภา​ ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาเทควันโดโอลิมปิก กล่าวว่า การนำกีฬาและกิจกรรมสร้างสรรค์​ เข้ามาสร้างสุขภาพ​และสร้างการตระหนักรู้ถึงการมีคุณค่าของตนเองให้กับเด็ก​ เยาวชน​ และคนทุกเพศทุกวัย​ ตลอดจนการพัฒนาเด็กเล็กโดยการเพิ่มทักษะครูพี่เลี้ยง​ และการทำนโยบายที่เน้นให้เด็กได้อยู่ใกล้ชิดครอบครัว​ เพื่อสร้างความอบอุ่นและครอบครัวที่เข้มแข็ง​ รวมถึงการส่งเสริมการศึกษาแบบยืดหยุ่นที่เป็นหลักสูตรเฉพาะเพื่อสร้างความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับเด็กที่จะเป็นอนาคตของประเทศ​ 

ขณะที่นางสาวยศยา นำเสนอนโยบายสิทธิของเด็ก สตรี ผู้พิการและคนชรา​ ผ่าน​ ทั้ง 12 นโยบาย จากพรรคชาติพัฒนากล้า อาทิ อารยสถาปัตย์ โดยสนับสนุนงบประมาณ 50,000 บาทเพื่อปรับปรุงซ่อมบ้านในกับผู้พิการและผู้สูงอายุ, การจ้างงานผู้สูงอายุหลังเกษียณ 500,000 ตำแหน่ง, เด็กไทยต้องรู้ 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ และภาษาโค้ดดิ้ง, กองทุนสร้างสรรค์ สูงสุด 1,000,000 บาท สนับสนุนกลุ่มคนที่มีไอเดียวสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ ไม่จำกัดวุฒิ, เพศ, และวัย และ นโยบายสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ให้เป็นที่ยอมรับ และ เสมอภาคเพื่อสร้างความงดงามทางสังคม และ นำรายได้เข้าสู่ประเทศ​ 

‘อรรถวิชช์’ ร้องศาลปกครอง เพิกถอนแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ชี้ วิธีแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หวั่น ทำประชาชนสับสน

(16 มี.ค. 66) ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ของกรุงเทพมหานครว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 27 (1) กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งเขตให้ ‘รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง’ ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีอำเภอหลักอยู่ในเขตเลือกตั้ง แต่ปรากฎว่าการแบ่งเขตที่ออกมา มีการรวมเฉพาะแขวงโดยไม่มีเขต (อำเภอ) หลัก มาเป็นเขตเลือกตั้งใหม่

ตัวอย่างเช่น เขตเลือกตั้งที่ 8 ประกอบด้วย แขวงทุ่งสองห้องของเขตหลักสี่ และแขวงลาดยาว แขวงจตุจักร แขวงจอมพล ของเขตจตุจักร, เขตเลือกตั้งที่ 9 ประกอบด้วย แขวงอนุสาวรีย์ของเขตบางเขน และแขวงจันทรเกษม แขวงเสนานิคม ของเขตจตุจักร และแขวงตลาดบางเขนของเขตหลักสี่ และยังมีเขตเลือกตั้งอื่น ๆ ที่เป็นการรวมเฉพาะแขวง โดยไม่มีเขตหลักถึง 13 เขตเลือกตั้ง ได้แก่เขตเลือกตั้งที่ 8, 9, 12, 13, 17, 18, 19, 21, 26, 27, 28, 29 และ 30 ซึ่งเป็นการรวมแขวงต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ไม่ได้รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง ขัดต่อหลักเกณฑ์ตามมาตรา 27 (1)

‘กรณ์’ ควง ‘ผกก.หนุ่ย’ อ้อน ปชช. เขตบางแค ชูนโยบาย ‘ดูแลแม่-เด็ก’ ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

(17 มี.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่ เขตบางแค เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์เด็กเล็กชุมชนศิริเกษม พร้อมทั้งเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งเขตบางแค ซึ่งมี พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางแค โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มาร่วมให้กำลังใจกันอย่างอบอุ่น ประกอบด้วย นายศราพงศ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา นายธนาวุฒิ รัศมีฉาย นายกฤษณ์ สุริยผล นางสาวอรไพลิน อัครเลิศวรปรีชา นายณัฐวรรธน์ พัชรพรนุกูล นายธนาวุฒิ รัศมีฉาย นายรัชตะ สมบัติลาภตระกูล นายสงกรานต์ พงษ์พันนา รวมถึงนางสาววิเวียน จุลมนต์ ที่ปรึกษาทีมนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า โดยมีประชาชนให้การต้อนรับกันอย่างคึกคัก 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พ.ต.อ.ทศพล หรือ ผู้กำกับหนุ่ย เป็นว่าที่ผู้สมัครฯ ที่พรรคได้คัดมาแล้วว่า ประชาชนพึ่งได้แน่นอน โดยเจ้าตัวเองก็เป็นคนขยัน ทำความคุ้นเคยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ทั้งที่ไม่ได้มีตำแหน่ง บทบาทหน้าที่อย่างเป็นทางการ คนแบบนี้ตนมั่นใจว่าจะมีโอกาสได้สนับสนุน รวมทั้งว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.อีกหลายคนก็มาช่วยเป็นกำลังใจในวันนี้ ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับว่า ยังสับสนกับการแบ่งเขตของ กกต. อยู่ อย่างไรก็ตามแม้พรรคชาติพัฒนากล้าจะเป็นพรรคที่ไม่ใหญ่มาก แต่มั่นใจได้เลยว่า พรรคเราเป็นที่พึ่งให้พี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอน 

นายกรณ์ กล่าวในระหว่างการเข้าเยี่ยมชมศูนย์เด็กเล็กชุมชนศิริเกษม ว่า สิ่งที่ประเทศนี้ไม่เคยลงทุนเลย คือการดูแลเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา จนถึง 6 ขวบ เพราะเป็นช่วงที่สำคัญมากต่อการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ จึงได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญและออกนโยบายว่าจะมีงบให้กับแม่และเด็กเล็ก ตั้งแต่แม่เริ่มตั้งครรภ์ แม่ควรได้รับอาหารการกินที่ดี เพราะจะส่งผลต่อความแข็งแรงของเด็กในครรภ์ ปู่ย่าตายายที่ต้องรับเลี้ยงหลาน งบประมาณที่ได้รับทุกวันนี้ 600 บาทไม่เพียงพอที่จะซื้อนมดี ๆ อาหารดี ๆ และอุปกรณ์การเลี้ยงดูเด็กที่มีมาตรฐาน เราจึงให้ความสำคัญตรงไปที่แม่ เพราะเชื่อว่าโดยสัญชาตญานแม่ทุกคนรักลูก จึงได้เสนองบประมาณในการดูแลแม่และเด็กที่เราคำนวณมาแล้วคือ 2,000 บาทต่อเดือน อีกส่วนคือ สนับสนุนให้มีศูนย์เด็กเล็กที่เราจะจัดงบประมาณ 500 บาท ต่อหัวเด็ก ที่ได้รับการดูแลในศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศ เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอในการเพิ่มมาตรฐานการดูแลเด็ก ทั้งเรื่องโภชนาการที่ถูกต้อง เหมาะสมกับเด็กที่กำลังโต ต้องการสารอาหารมาเสริมพัฒนาการการเติบโต โดยเฉพาะสมองซึ่งเป็นส่วนสำคัญ    

‘กรณ์’ ยัน!! ‘นโยบายเศรษฐกิจเฉดสี’ จับต้องได้จริง มั่นใจ!! ช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจ-สร้างรายได้ให้ ปชช.

(20 มี.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับเชิญจาก บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง (Bualuang Securities) ในเครือธนาคารกรุงเทพ โดยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่ถูกเชิญไปบรรยายให้กับนักลงทุนฟัง เนื่องจากแนวนโยบายที่นำเสนอมาตลอด 2 เดือน นั้นนักลงทุนขานรับว่าจับต้องได้และเป็นไปได้จริง โดย นายกรณ์ กล่าวว่า ชุดนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้าที่นำเสนอมานั้น พรรคได้คิดมาอย่างละเอียดว่าทำได้จริง และทุกนโยบายมุ่งไปสู่เป้าหมาย 3 ข้อ คือ งานดี มีเงิน ของไม่แพง 

สาเหตุที่เราคิดนโยบายออกมาในลักษณะนี้เพราะประเทศไทยเพิ่งผ่านวิกฤตโควิด เศรษฐกิจโลกผันผวน เกิดภาวะสงคราม ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ประชาชน หมดโอกาสทำมาหากิน มีภาระหนี้สินมาก เราจึงหาทางออก โดยการหาเงินเข้าประเทศ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดต่อไปต้องเร่งทำเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา และสร้างให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาสเหมือนในอดีตที่เคยทำได้มาแล้ว 

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า นโยบาย 7 เฉดสี หรือ Spectrum Economy ของพรรคชาติพัฒนากล้า ไม่มีอะไรสวนกระแส ทุกอย่างอยู่ในกระแสหลักของโลกและในประเทศ ยกตัวอย่าง เฉดสีเขียว มุ่งเน้นเรื่องการแก้ปัญหาโลกร้อน เป็นโอกาสที่จะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ จากการปรับโครงสร้างของภาคเศรษฐกิจ 3-4 ภาค ได้แก่ 

1.ภาคพลังงาน ปัจจุบันพลังงานไฟฟ้า 80% ใช้เชื้อเพลงฟอสซิลเป็นตัวเผา ต้องมุ่งไปสู่การใช้พลังงานทดแทน ปัจจุบันเทคโนโลยีไปแล้ว แต่ต้องปรับโครงสร้าง เปิดโอกาสให้มีการแข่งขัน เพราะปัจจุบันยังมีการผูกขาด 
 

2.ภาคการคมนาคม ระบบขนส่ง 90% ทางถนน ส่งผลให้เกิดปัญหามลพิษ ก็จะมีการปรับโครงสร้างไปใช้ระบบรางหรือรถยนต์อีวี 

3. ภาคอุตสาหกรรม ที่จะมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือ Net Zero 

4. ภาคการเกษตร ที่ปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ถึงเวลาต้องฟื้นฟูป่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีนโยบายออกพันธบัตรป่าไม้ คืนพื้นที่ป่าไม้ให้ได้ 40% ของพื้นที่ป่าทั้งประเทศหรือ 26 ล้านไร่ และดึงเกษตรกลับมาปลูกป่าไม้เศรษฐกิจ แทนพืชไร่ ลดการเผาป่า และช่วยฟื้นฟูป่าทดแทน 

นายกรณ์ กล่าวว่า เฉดสีน้ำเงิน หรือการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี ผู้ที่ต้องปรับตัวมากที่สุดคือระบบราชการที่ต้องไปสู่ Gov Tech ทุกอย่างทำบนมือถือได้ เฉดสีเทา ข้อมูลธนาคารโลกระบุชัดว่า ประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่มาจากธุรกิจใต้โต๊ะ เมื่อเทียบกับจีดีพี มากที่สุดในโลก แต่เราเก็บภาษีไม่ได้เลย เพราะธุรกิจสีเทาจะมีคนได้รับประโยชน์เพียงไม่กี่คน และส่วนใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพลที่จะเชื่อมโยงไปถึงการคอร์รัปชันและการซื้อสิทธิขายเสียงได้ ถึงเวลาที่เราจะนำมาไว้บนโต๊ะและหารายได้เข้าประเทศ แต่ไม่ใช่เสรี ธุรกิจสีเทาต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย 

นอกจากนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า ยังเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยว คือเศรษฐกิจสีเหลือง ที่จำเป็นต้องเพิ่ม ใน 3 ส่วนคือ เพิ่มเงิน เพิ่มวัน และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 2 เท่า จากเดิมก่อนโควิดเรามีนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน และหลังโควิดเราน่าจะได้นักท่องเที่ยว 25 คน การจะเพิ่มจำนวนให้เป็น 80 ล้านนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ โดยเทียบเคียงกับประเทศฝรั่งเศสที่มีจำนวนประชากรและพื้นที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย และรายล้อมด้วยประเทศที่มีศักยภาพสูงรายล้อมทำให้ฝรั่งเศสมีจำนวนนักท่องเที่ยว 80 ล้านคนต่อปี และที่ต้องพัฒนาควบคู่ คือเศรษฐกิจสายมู ที่สามารถกระจายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่ในบางจังหวัด เราจึงมีนโยบายสนับสนุนงบประมาณจังหวัดละ 1,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวสายมู และที่เชื่อมโยงกันมาคือ เศรษกิจสีรุ้ง คือกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง และประเทศไทยก็เป็นประเทศเป้าหมาย 1 ใน 6 ของโลก ที่กลุ่ม LGBTQ+ จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และหากมีการเปิดโอกาสให้มีการสมรสเท่าเทียม ก็จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะเพิ่มรายได้เข้าประเทศได้อีกมากจากคนกลุ่มนี้ที่จะแห่กันเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 

‘ชพก.’ แท็กทีม ผู้สมัคร กทม. ลงพื้นที่วัดระฆังฯ - วังหลัง ชาวบ้าน ลั่น!! อยากให้ ‘กรณ์’ เป็นนายกฯ ช่วย ปชช.ปลดหนี้

(22 มี.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ประกอบด้วย นายศราพงศ์ อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา, นายณัฐวรรธน์ พัชรพรนุกูล, นายธนาวุฒิ  รัศมีฉาย, พ.ต.อ. ทศพล โชติคุตร์, นายสงกรานต์ พงษ์พันนา, นายวรนัยน์ วาณิชกะ, นายพรชัย มาระเนตร์, นางสาววิเวียน จุลมนต์ ลงพื้นที่เพื่อช่วยนายกฤษณ์ สุริยผล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางพลัด-บางกอกน้อย และ นางสาวอรไพลิน อัครเลิศวรปรีชา ว่าที่ผู้สมัครเขตภาษีเจริญ-บางกอกใหญ่ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนที่ ท่าน้ำวังหลัง วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างเดินหาเสียง มีชาวบ้านออกมาให้กำลังใจนายกรณ์ และทีมผู้สมัคร กันอย่างคึกคัก พร้อมกับพูดว่า อยากได้นายกรณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเชื่อมั่นใจในความเป็นมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ ที่จะสามารถปลดหนี้ ปลดสิน ให้กับประชาชน จะได้หมดทุกข์และมีความสุขกับเขาเสียที

‘กรณ์’ เผยโฉม 4 ผู้บริหารมากด้วยประสบการณ์ ลงสมัคร ส.ส. ชิงชัยในสนามกรุงเทพฯ

(24 มี.ค.66) พรรคชาติพัฒนากล้า ทยอยเปิดตัวผู้สมัครกรุงเทพมหานครเขตต่าง ๆ ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนมีนาคมนี้ หลายฝ่ายจับตาโดยเฉพาะเขตใจกลางเมืองเศรษฐกิจ ที่ต้องคัดขุนพลที่มีความรู้ความสามารถได้รับการยอมรับ มาลงชิงชัย 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้าส่ง 4 ผู้สมัคร ซึ่งเป็นคนที่พรรคคัดสรรแล้วว่าเหมาะสมที่สุด ลงในเขตใจกลางเมือง เริ่มจาก นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน หรือ โด้เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถ คร่ำหวอดในวงการธุรกิจบริหารสินทรัพย์มากว่า 10 ปี ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ดีกรีอดีตผู้บริหารบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำ มาลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เขต สาทร ปทุมวัน ราชเทวี  

คนที่ 2 นายปรัชญา อึ้งรังษี หรือ ต๋อง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางคอแหลม ยานนาวา ดีกรีจบปริญญาโท วิศวะ จากสหรัฐอเมริกา และเป็นวิศวกร ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจร้อยล้าน ที่ประสบความสำเร็จ จากการนำเข้าอาหารแช่เข็ง ส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้นายปรัชญา ยังจบนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เป็นปริญญาอีกใบ ก่อนตัดสินใจลงเล่นการเมือง ในนามพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวสนใจพิเศษในเรื่องการผลักดันนโยบายลดขั้นตอนที่ล่าช้าและการคอร์รัปชัน จากการปฏิบัติงานส่วนราชการของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรคชาติพัฒนากล้า


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top