Friday, 3 May 2024
ชาติพัฒนากล้า

‘อรรถวิชช์’ ชี้!! รัฐบาลบริหารไฟฟ้า-พลังงานผิดทาง ลั่น!! ชพก. มีแนวทางแก้ปัญหา-ลดภาระประชาชน

เมื่อวานนี้ (19 เม.ย.66) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ได้พูดถึงเรื่อง ‘ค่าไฟ แพงแล้ว แพงอยู่ แพงต่อ’ โดยระบุว่า ก็เป็นนโยบายรัฐบาลนะ ลุงตู่บอกว่าเป็นเรื่องของสัญญา เป็นเรื่องของธุรกิจกับธุรกิจที่ต้องเป็นไปตามสัญญา ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ตอนนี้ท่านกำลังบริหารด้านไฟฟ้าและพลังงานผิดเลยนะครับ ราคาพลังงานไฟฟ้า ต้นทุนหลักคือแก๊ส โดยแก๊สกินสัดส่วนอยู่ที่ 56.2% ของภาพรวมทั้งหมด ที่เหลือก็จะเป็นพวกไฟฟ้าสำเร็จรูป น้ำ พลังงานทดแทนต่าง ๆ แก๊สที่ใช้กันอยู่มาจากอ่าวไทย โดยอ่าวไทยกินสัดส่วนอยู่ที่ 63.3% แก๊สจากพม่า 16% และ LNG นำเข้า 20.6% จะเห็นได้ว่าแก๊สจากอ่าวไทยคือหัวใจของเรื่องนี้

ราคาแก๊สจากอ่าวไทยมีราคาลดลงมาตลอดเลย แล้วรัฐมนตรีไปใช้วิธีการทำให้ค่าไฟต่อยูนิตแพงได้ยังไง? การคิดค่าไฟจะคิดทุกๆ 4 เดือน (มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน) ตอนนี้เราอยู่ที่เดือนเมษายน (สล็อตแรก) และค่า Ft ไฟฟ้าอยู่ที่ 0.9343 / หน่วย ซึ่งถือว่าแพงแล้ว แพงกว่าตอนมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน แพงกว่าตอนค่าเงินบาทอ่อนเมื่อปีที่แล้ว แพงกว่าตอนมีวิกฤติส่งแก๊สช้ากว่าปีที่แล้วอีกนะ ตอนนั้นราคาไม่หนักเท่าวันนี้

สิ่งที่ช็อกที่สุด และพี่น้องประชาชนยังไม่รู้คือหากยังบริหารแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้แพงแล้ว แพงต่อ เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม (สล็อตที่ 2) สิ่งที่น่าตกใจคือการทำสำรวจจากกระทรวงพลังงาน เสียงข้างมากร้อยละ 30 ที่เห็นด้วยคือการขึ้นค่าไฟ ขึ้นค่า Ft

'ดร.บลู' นำทัพเลือดอีสาน ชพก. หาเสียงแบบถึงตัว ปลื้ม!! ชาวบ้านถูกใจนโยบายแก้ปัญหาราคา 'ไฟฟ้า-น้ำมัน'

(20 เม ย.66) ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี หรือ ดร.บลู รองเลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เบอร์ 14 ลงพื้นที่ภาคอีสาน ช่วยผู้สมัคร ส.ส. 'เอม อภัสรา' นักร้องหมอลำ เบอร์ 5 เขตเมืองร้อยเอ็ด, 'นุจรีภรณ์ อินทะสร้อย' เบอร์ 5 เขตเมืองมหาสารคาม ลูกชาวนา, 'ธัชชัย คมขำ' ผู้บริหารโรงเรียนเอกชน เบอร์ 4 เขตเมืองอุบลราชธานี ลงติดป้ายและเดินพบพ่อแม่พี่น้องประชาชน

‘กรณ์’ ลั่น!! เกลียดการผูกขาดทุกรูปแบบ ขอโอกาสคนไทยเลือก ‘ชพก.’ ไปสู้กับ ‘ทุนผูกขาด’ ที่ครอบงำการเมือง ย้ำ!! สู้มาตลอดและจะสู้ต่อไป

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 66 ที่รอยัล พารากอนฮอล สำนักข่าว The Standard จัดเวทีดีเบต เลือกตั้ง 66 END GAME เกมที่แพ้ไม่ได้ มีตัวแทนจาก 10 พรรคการเมือง ร่วมประชันวิสัยทัศน์ โดยพรรคชาติพัฒนากล้า มีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 14 เป็นผู้ร่วมเวทีดีเบตในครั้งนี้

นายกรณ์ กล่าวว่า ตนขอบอกกับพี่น้องประชาชนว่า ทำไมต้องเลือกพรรคชาติพัฒนากล้า ทำไมต้องเป็นกรณ์ จาติกวณิชหลายๆ ท่านอาจจะรู้จักตนในฐานะรัฐมนตรีคลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แต่เชื่อว่า หลายคนไม่รู้ว่าตอนทำงานการเมืองตนรักอะไร และเกลียดอะไรมากที่สุด สิ่งที่รักมากที่สุดคือการสร้างโอกาสด้วยการแข่งขัน โดยมองว่าทุกคนเกิดมารวยได้ จนได้ แต่ทุกคนมีโอกาสที่จะก้าวหน้าในชีวิตด้วยการแข่งขันที่เป็นธรรม 

“ส่วนสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือการผูกขาดทุกรูปแบบ ผมไม่ได้มีปัญหากับทุนใหญ่ แต่ผมมีปัญหากับทุนผูกขาด ผมสู้เรื่องนี้มาตลอดชีวิตการทำงานของผม เมื่อสมัยที่ผมเป็นรัฐมนตรี ผมระงับความพยายามของ ปตท. ที่จะเข้าไปซื้อ โมเดิร์นเทรด เพราะผมกังวลว่าจะนำไปสู่การผูกขาด ผมเพิ่มใบอนุญาตธนาคารที่ต้องการจะเพิ่มการแข่งขัน ลดดอกเบี้ย จนผมพ้นตำแหน่ง ผมก็ยังสู้กับเรื่องนี้ต่อไป เมื่อผมตั้งพรรคการเมืองร่วมกับเพื่อนที่เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ และสู้กับเรื่องของต้นทุนพลังงานและค่าไฟมาโดยตลอด ฉะนั้นสิ่งที่ชาติพัฒนากล้าจะมาสู้วันนี้ คือสู้กับทุนผูกขาดที่ครอบงำการเมือง หลายคนอาจจะข้องใจว่าเราทำได้หรือไม่ แต่ถ้าเลือกชาติพัฒนากล้า เลือกผม เราจะสู้แทนคุณกับทุนผูกขาดเพื่อคุณ” นายกกรณ์กล่าว

‘สุวัจน์’ ควง ‘เทวัญ’ ลงพื้นที่ โว ชพก. มีไม้เด็ดปลุกใจคนโคราช เตรียมปราศรัยใหญ่ 28 เม.ย. นี้ มั่นใจ!! นโยบายอยู่ในใจแน่นอน

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.66 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ลงพื้นที่พบปะประชาชนและช่วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 5 พรรคชพก. ที่ตลาดประปาและตลาดแม่กิมเฮง อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่กล่าวตรงกันคืออยากให้เศรษฐกิจดี อยากให้คนมาจับจ่ายซื้อสินค้ามากๆ และบ่นเรื่องค่าไฟ จึงบอกไปว่าให้จำเบอร์ 5 ประหยัดไฟ คิดว่าตอนนี้อะไรที่ช่วยลดภาระประชาชนได้ต้องรีบทำ โดยเฉพาะค่าไฟซึ่งเป็นต้นทุนของทุกชีวิต เป็นต้นทุนสินค้า หากค่าไฟค่าน้ำมันถูก สินค้าทุกอย่างก็ลดลง เป็นนโยบายที่ทุกพรรคเห็นตรงกัน ต้องแก้ไขเรื่องค่าไฟ ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าให้ความสำคัญกับประเด็นนี้

'กรณ์' สวน 'สุพัฒนพงษ์' ค่าไฟแพง คนนั่งคาตำแหน่งต้องรับผิดชอบ  ชี้!! ต้นทุนไฟลด ไม่ต้องเก็บค่า FT ปล่อยสะท้อนต้นทุนแท้จริง

(27 เม.ย.66) นายกรณ์ จาติกวาณิช แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี หัวหน้าชาติพัฒนากล้า กล่าวระหว่างลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงที่จังหวัดร้อยเอ็ด ถึงกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไม่เห็นด้วยกับการงดเก็บค่าเอฟทีในฤดูร้อนนี้ ตามที่พรรคชาติพัฒนาเสนอไป ว่า การลักไก่คิดค่าไฟแพงตั้งแต่ ม.ค.- เม.ย.66 ที่ 4.72 บาทนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะก๊าซถูกในอ่าวไทยผลิตมากขึ้น ราคา LNG  นำเข้าราคาลดลง เงินบาทก็แข็งค่า ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจึงลดตั้งแต่ ธ.ค.65 เป็นต้นมา แต่รอบบิล ม.ค.- เม.ย.66 รัฐไม่ยอมลดค่าไฟให้ แต่ผลักภาระให้ประชาชนแทนในช่วงหน้าร้อนนี้

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ได้ทักท้วงเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปีช่วงอากาศหนาว ที่คนใช้ปริมาณไฟน้อย แต่มาแจ็กพอตแตกก็เดือนเมษาหน้าร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้ไฟมากขึ้น แต่เมื่อต้นทุนถูกลงแล้ว จึงควรลดค่าเอฟที 93.43 สตางค์/หน่วยเป็น 0 บาท 3 เดือนได้ ซึ่งสอดคล้องตามต้นทุนจริง ส่วนการขาดทุนของ กฟผ. 

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะรักษาการรองนายกเศรษฐกิจเอง กำกับดูแลกระทรวงการคลังอยู่แล้วก็สามารถมาช่วยปรับโครงสร้างต้นทุนการเงินของ กฟผ. ได้ไม่ใช่มาผลักภาระให้ประชาชนแบบนี้

‘ชพก.’ เปิดนโยบายเอาใจในวันแรงงาน หนุน ‘ไรเดอร์’ ชี้ 3 ข้อ จ้างงานเป็นธรรม-มีสวัสดิการ-หนุนให้มีโอกาสเติบโต

(1 พ.ค. 66) เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีนโยบาย “งานดี” เพื่อแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งพรรคได้เสนอให้มีการเพิ่มตำแหน่งงานนักวิจัยและนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนให้เกิดการจัดตั้งศูนย์พัฒนานวัตกรรมเพื่อแปรรูปสินค้าเกษตร 1 แห่งทุกจังหวัด, ส่งเสริมการจ้างงานและยกระดับศักยภาพผู้สูงวัยด้วยการ สนับสนุนเงินเดือนลูกจ้างผู้สูงอายุเดือนละ 5,000 บาท รวม 500,000 ตำแหน่งให้แก่หน่วยงานที่จ้างบุคลากรอายุ 60 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีนโยบายการลดจำนวนทหารที่มาจากการเกณฑ์ทหาร และเพิ่มจำนวนทหารประจำการแบบสมัครใจโดยใช้สวัสดิการเป็นแรงจูงใจ พร้อมเปิดตำแหน่งงาน 25,000 อัตราในหน่วยราชการต่างๆ เพื่อรองรับทหารหลังปลดประจำการ

สำหรับกลุ่มแรงงานที่ทำงานบนแพลตฟอร์มเช่นไรเดอร์นั้น หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า กลุ่มไรเดอร์ทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่าพนักงานประจำด้วยซ้ำ ทั้งนี้ไรเดอร์ เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่มีอะไรที่จะต้องปรับเพื่อความยุติธรรมต่อผู้ให้บริการ เพราะพวกเขาก็คือผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงควรได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน การกำหนดค่าแรงขั้นต่ำสามารถทำได้ และต้องมาดูว่าควรมีจุดเริ่มต้นเท่าไร แต่ก็ต้องมีจุดเริ่มต้นที่โปร่งใส  

นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวเสริมว่า จากที่ได้รับฟังปัญหาของไรเดอร์แต่ละคน ซึ่งต้องสู้ชีวิต และไม่ได้รับความเป็นธรรมในหลายๆ เรื่อง ทั้งค่าจ้างแรงงาน สิทธิขั้นพื้นฐาน โอกาสในการเติบโต รวมไปถึงความปลอดภัยในอาชีพ จึงได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ 3 ข้อ คือ 1.การแก้ปัญหาค่าจ้างไม่เป็นธรรม รัฐบาลต้องเป็นคนกลาง ระหว่างแพลตฟอร์ม กับ ไรเดอร์ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นธรรม 2.ไรเดอร์ ควรต้องได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน รวมถึงแพลตฟอร์มต้องทำประกันอุบัติเหตุให้ไรเดอร์ในสังกัด 3.แพลตฟอร์มต้นสังกัดควรส่งเสริมให้ไรเดอร์ได้มีโอกาสเติบโตเป็นผู้ประกอบการ 

‘กรณ์’ ชีพจรลงเท้า!! ลุยช่วย ‘อรทัย-เทมส์’ หาเสียง จ.ภูเก็ต ชาวบ้านพร้อมเทคะแนนให้ มั่นใจ!! เป็นม้ามืดเข้าวิน 2 เขต

(8 พ.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช พร้อมด้วย นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 1 จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง พบแกนนำชาวบ้านกลุ่มธุรกิจประมงชายฝั่ง เลี้ยงปลาช่อนทะเล หรือ Black Salmon เป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ที่หวังจะเป็นตัวขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชนชายฝั่ง ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้มั่นคงให้กับชาวบ้าน โดยนายกรณ์ ได้แนะนำเกี่ยวกับนโยบายกองทุนสร้างสรรค์ สู่การท่องเที่ยว พูดถึงนโยบายกองทุนสร้างสรรค์รายละ 1 ล้านบาท  

ต่อมาได้เข้าเยี่ยมประชาชนที่ตลาดสี่กอ อ.กะทู้ โดยมีประชาชนในตลาดให้ความสนใจกับนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด โดยชาวบ้านเล่าว่า ช่วงโควิดระบาดหนัก แม่ค้ามีภาระจึงไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้จนต้องพึ่งหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยแพงและยังไม่รู้ว่าจะผ่อนหมดเมื่อไร จึงหวังว่า นางสาวอรทัย เบอร์ 1 จะได้เป็นผู้แทนผลักดันให้นโยบายนี้เป็นจริง พ่อค้าแม่ค้ากะทู้พร้อมเทคะแนนให้ 

จากนั้นนายกรณ์ ลงพื้นที่เขต 2 ภูเก็ต เพื่อช่วยนายเทมส์ ไกรทัศน์ ผู้สมัคร ส.ส. เบอร์ 7 ที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ที่ตลาดนาคา โดยมีนักท่องเที่ยว และพ่อค้าแม่ค้าให้การต้อนรับนายกรณ์ และคณะอย่างคึกคัก พร้อมกับส่งเสียงพร้อมสนับสนุนให้นายเทมส์เป็นผู้แทน เนื่องจากที่เป็นคนลงพื้นที่ต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีตั้งแต่ช่วงโควิด

‘กรณ์’ เคลียร์ชัด!! ‘เงินเดือน 4 หมื่นบาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี’ ชี้!! ช่วยลดหย่อนสูงสุด 4.8 แสนต่อปี ผู้เสียภาษีเป็นปลื้ม!!

เมื่อไม่นานมานี้ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรึ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ ฟังหูไว้หู ทางช่อง 9 MCOT HD ดำเนินรายการโดย ชุติมา พึ่งความสุข และอาจารย์วีระ ธีรภัทร ในหัวข้อ ‘The Special: คุยกับ ชาติพัฒนากล้า’ ในบางช่วงบางตอนได้พูดถึงนโยบายเงินเดือน 4 หมื่นบาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี โดยนายกรณ์ระบุว่า..

หากคุณมีเงินเดือน 6 หมื่นบาท ถามว่าคุณได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ไหม คำตอบคือ ได้!! เพราะว่าผมเขียนว่า 4 หมื่นบาทแรกไม่ต้องเสียภาษี นี่คือความหมายที่ต้องการจะสื่อนะครับ และก็เป็นแบบนี้ในทุก ๆ เดือน ไม่ใช่เอาเงินทั้งหมด 12 เดือนมารวมกัน แล้วคิดแค่ 4 หมื่นบาทแรกนะครับ แต่ต้องคิดแบบนี้ครับ เอาเงินเดือนในทุกเดือน ๆ มาคูณ 12 และหักลบค่าใช่จ่าย ลดหย่อนต่าง ๆ และหัก 480,000 ออกไป แล้วเหลือเท่าไหร่ค่อยมาเอามาคำนวณภาษี

“ก่อนหน้านี้ เกณฑ์การเสียภาษีอยู่ที่ 26,000 บาท ซึ่งมันนานมาแล้ว และค่าครองชีพทุกวันนี้ก็สูงขึ้น เท่ากับว่า 40,000 บาทในวันนี้ ก็คือ 26,000 เมื่อวันนู่นนั่นแหละ” นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์ ยังกล่าวอีกว่า ผมเจอคำถามที่ว่า แบบนี้รัฐไหวเหรอ? ในแง่ของรายได้จากภาษีมันลดลงจริง ๆ แต่ลดลงแค่นิดเดียว พอเราบอกว่า 4 หมื่นบาทแรกไม่ต้องเสียภาษี ทุกคนที่มีเงินเดือนได้ประโยชน์หมด หรือจำนวนกว่า 4 ล้านคน แต่สมมติว่ามีเงินเดือนเกิน 4 หมื่นบาท ก็จะได้ประโยชน์ 7,500 ต่อเดือน แต่หากคิดเป็นสัดส่วนของรายได้ กลุ่มคนที่มีรายได้น้อยเขาจะประหยัดมากกว่า แต่โดยรวมทั้งหมดจะทำให้รายได้จากภาษีส่วนบุคคลของรัฐลดลงปีละ 2.1 หมื่นล้าน ชาติพัฒนากล้าคำนวณมาเรียบร้อยแล้ว เทียบกับรายได้ปกติประมาณ 1.5 หมื่นล้าน ก็ถือว่าลดลงไม่เยอะ 

นอกจากนี้นายกรณ์ยังกล่าวถึงสาเหตุที่คิดนโยบายนี้ในช่วงเวลานี้อีกว่า…มีเหตุผลอยู่ 3 ประเด็น 

1.ค่าครองชีพที่สูงขึ้น กลุ่มคนมีเงินเดือนคือกลุ่มที่เสียภาษีตลอด และหลีกเลี่ยงไม่ได้ แบกรับภาระมาเยอะ 

2. ลดภาษีนิติบุคคลมา 10 กว่าปีแล้ว จาก 30% ลดลงมาเหลือ 20% ถ้าไปดูกันจริง ๆ มันมีสิ่งที่เรียกว่า ลักลั่นอยู่ ก็เลยเป็นสาเหตุให้คนที่มีรายได้สูง เช่น หมอ นักแสดง เขาไปตั้งบริษัท และรับรายได้ผ่านบริษัท เพราะบริษัทจ่ายภาษีน้อยกว่าภาษีบุคคล

และ 3. ปีนี้ สำนักงบฯ ประเมินแล้วว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.7 หมื่นล้าน จึงมองว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มทำนโยบายนี้

โค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง ปราศรัยใหญ่ 12 พ.ค.นี้

โค้งสุดท้ายก่อนมีการเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ หลายพรรคปักธงสนาม ‘กรุงเทพฯ’ เป็นเวทีปราศรัยใหญ่ เวทีสุดท้าย THE STATES TIMES รวบรวมมาให้แล้วว่าพรรคไหน จัดที่ไหนกันบ้าง พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
 

‘กรณ์’ ลุยเต็มที่โค้งสุดท้าย บุกภูเก็ตขอคะแนนเสียงให้ ‘เทมส์-อรทัย’ ปลื้ม!! ชาวบ้านชมสองผู้สมัครไม่ขาดปาก มั่นใจปักธง 2 เขตแน่นอน

(10 พ.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อย้ำขอคะแนนเสียงช่วงสุดท้ายให้ 2 ผู้สมัคร นายเทมส์ ไกรทัศน์ ผู้สมัคร เขต 2 เบอร์ 7 และนางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 เบอร์ 1

โดยช่วงสาย นายกรณ์ และ นายเทมส์ พบปะพี่น้องประชาชนที่วัดฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต และขึ้นรถแห่ทั่ว ต.วิชิต ระหว่างทางถนนใหญ่มีพ่อค้า แม่ค้า ร้านรวงต่าง ๆ ตลอดจนประชาชนทั่วไปให้ความสนใจและมีเสียงตอบรับดีมาก โดยประชาชนได้เข้ามาทักทาย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอบคุณที่ช่วงโควิด ที่นายเทมส์เป็นจิตอาสาช่วยทำศูนย์วัคซีน พร้อมกล่าวว่า คนแถวนี้ไม่ลืมความขยันและทุ่มเทของนายเทมส์ ถือเป็นภาพติดตาของคนในภูเก็ตทุกคน

ต่อมาในช่วงบ่ายนายกรณ์ เดินทางไปยังวัดศรีสุนทร ซึ่งเป็นพื้นที่ของนางสาวอรทัย เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน ในเขต อ.ถลาง โดยมีสมาชิกพรรค แฟนคลับ และทีมหาเสียงกว่า 90 คน มาช่วยเดินหาเสียงท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ชาวบ้านต.ศรีสุนทรกล่าวว่า อยากส่งนางสาวอรทัยเข้าไปเป็นผู้แทน จากนั้นนายกรณ์ได้เดินทางขึ้นรถแห่ไปตามถนนเส้นหลักของหมู่บ้านและชุมชน โบกไม้โบกมือในระหว่างเวลากลับบ้านของประชาชน ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

ต่อมาในช่วงเย็นได้ขึ้นปราศรัยย่อยที่ตลาดโกเบ๋ง โดยมีกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า วิสาหกิจชุมชนให้การต้อนรับอย่างดีมาก เนื่องจากนางสาวอรทัยได้เคยทำโครงการช่วยเหลือ และให้คำแนะนำเรื่องการยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน ให้เป็นของฝากนักท่องเที่ยวแบบพรีเมียม เพื่อช่วยทำให้ชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งชาวบ้านสัมผัสได้ถึงความตั้งใจและจริงใจของนางสาวอรทัย ที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ประทับใจผู้สมัครทั้งสองคน ที่มีความตั้งใจ เสียสละ อดทน และเต็มที่กับทุกการทำงานเพื่อให้ผลลัพธ์ไปสู่เป้าหมายคือ เข้าไปเป็นผู้แทนของประชาชน โดยพรรคชาติพัฒนากล้า เราตั้งใจที่จะเข้าไปแก้ปัญหาปากท้อง ลดภาระค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ เพิ่มโอกาสในการทำมาหากินให้กับพี่น้องประชาชน

เราเป็นพรรคแรกที่ออกมาต่อสู้เรื่องราคาน้ำมัน ค่าไฟ ที่เป็นต้นเหตุของต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสาเหตุมาจากรัฐบาลเกรงใจทุนผูกขาด ทำให้ประชาชนต้องมาแบกภาระ ดังนั้นเราจึงเสนอให้มีการลดค่าไฟ และค่าน้ำมันลง นอกจากนี้ยังเสนอยกเลิกแบล็กลิสต์ เพื่อให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ซึ่งถ้าเรามีโอกาสได้เข้าไปทำงาน เราจะขับเคลื่อนทุกนโยบายทันที และเราก็มั่นใจว่า ผู้สมัครของเราจะสามารถปักธงชัยได้ทั้งสองเขตพร้อมคว่ำการเมืองแบบบบ้านใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตได้อย่างแน่นอน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top