Friday, 3 May 2024
จุรินทร์

‘จุรินทร์’ นำทัพ ปชป. ปราศรัยใหญ่สกลนคร คนร่วมกว่า 3 หมื่น เสียงเชียร์นั่งนายกฯ กระหึ่ม

อีสานสะเทือน!!! ‘จุรินทร์’ นำทัพ ปชป. ปราศรัยใหญ่สกลนคร คนกว่า 3 หมื่นเข้าร่วม อ้อนขอโอกาสให้พรรคการเมืองที่มีนโยบายตอบโจทย์คนอีสานและซื่อสัตย์สุจริต

(16 มี.ค. 66) เวลา 15.00 น.ที่สนามข้างศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สกลนคร อ.พังโคน จ.สกลนคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำทัพผู้สมัครจังหวัดสกลนคร ทั้ง 7 เขต พร้อมกับแกนนำพรรค ตั้งแต่ นายไชยยศ จิรเมธากร ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน ตั้งแต่ หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ เลย อำนาจเจริญ ชัยภูมิ เดินทางมาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่อย่างคับคั่ง ที่สนามข้างศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ สกลนคร อำเภอพังโคน จ.สกลนคร 

ในช่วงที่นายจุรินทร์และคณะพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงเวทีปราศรัย มีพี่น้องประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และผูกผ้าขาวม้าให้กับนายจุรินทร์อย่างใกล้ชิด พร้อมเข้ามากอดนายจุรินทร์ และพูดว่า "รูปหล่อจังเลย ท่านนายก" และส่งเสียงเรียก "จุรินทร์เป็นนายก" “อยากให้นายก ชื่อจุรินทร์” “ท่านคือนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย” ดังกระหึ่ม ทำให้บรรยากาศการปราศรัยซึ่งมีพี่น้องประชาชนมาร่วมฟังในวันนี้กว่า 30,000 คน อย่างมืดฟ้ามัวดิน มีความคึกคักเป็นพิเศษ 

นอกจากนี้บนเวทีปราศรัยมีการจัดเซอร์ไพร์สให้กับนายจุรินทร์ ด้วยการนำเค้ก และช่อดอกไม้มามอบให้ พร้อมกับให้พี่น้องประชาชนที่มาฟังการปราศรัยร่วมกันอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้กับนายจุรินทร์ พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ให้ นายจุรินทร์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป 

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้ปราศรัยแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส. จังหวัด สกลนคร ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย เขต 1 นายณปภัช เสโนฤทธิ์ (เฟิร์ส) เขต 2 นายชาตรี หล้าพรหม เขต 3 ดร.อภิลักษณ์ เคนไขยวงศ์ เขต 4 นายสาคร พรหมภักดี อดีตรองโฆษกรัฐบาล อดีต ส.ส. 5 สมัย เขต 5 นายพงษ์ศักดิ์ สุทธิคีรี เขต 6 นายวีรศักดิ์ พรหมภักดี เขต 7 นางยุพาวรรณ จักรพิมพ์

‘จุรินทร์’ หนุนเงินกู้ประกอบอาชีพผู้สูงวัยกว่า 165 ล้านบาท พร้อมชูเกียรติ ‘ประยงค์ รณรงค์’ เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี 66

จุรินทร์ นั่งหัวโต๊ะ คกก. ผู้สูงอายุแห่งชาติ หนุนเงินกู้ประกอบอาชีพผู้สูงอายุ 5,500 ราย 165 ล้านบาท  
.
(20 มี.ค.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 20 มี.ค.66 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ Zoom เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ 

โดยที่ประชุม เห็นชอบให้ดำเนินการจัดงานสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติรองรับสังคมสูงวัย ปี 2566 ในวันที่ 4 เมษายน 2566 ที่ โรงแรม ทีเค ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร รวมถึงสนับสนุนการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพของผู้สูงอายุ จำนวน 5,500 ราย เป็นเงิน 165,000,000 บาท และโครงการที่ขอรับการสนับสนุนในการดำเนินโครงการ-กิจกรรม ด้านผู้สูงอายุ จำนวน 200 โครงการ เป็นเงิน 20,000,000 บาท  มากไปกว่านั้น ที่ประชุมยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการประกาศสดุดีเกียรติคุณยกย่องผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2566 ให้นายประยงค์ รณรงค์  อายุ 79 ปี ปราชญ์ด้านการเกษตรจาก จังหวัดนครศรีธรรมมราช เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2566

‘เสธ.อ้าย’ เข้าพบ ‘จุรินทร์’ พร้อมร่วมทัพประชาธิปัตย์ เผย เชื่อมั่นในการทำงานที่มุ่งทำเพื่อชาติและประชาชน

(23 มี.ค. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ ‘เสธ.อ้าย’ ได้เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเข้าพบ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ภายหลังการหารือกับนายจุรินทร์ พล.อ.บุญเลิศได้เข้าพบ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภา ที่ปรึกษาพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค พร้อมกับได้สมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบตลอดชีพ โดยนายจุรินทร์ และนายนิพนธ์ บุญญามนี ผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคเป็นผู้มอบบัตรสมาชิกพรรคให้ด้วยตนเอง

‘จุรินทร์’ นำทัพ ‘ปชป.’ ขึ้นเวทีลานคนเมือง 7 เมษายน นี้ เชื่อ!! ปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ ช่วยปชช. เทคะแนนให้พรรค

ปชป. ปราศรัยใหญ่ครั้งแรก 7 เม.ย. ที่ลานคนเมือง ‘จุรินทร์’ นำทัพขึ้นเวที พร้อมเวทีต่อไป 23 เม.ย.ที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตากฯ 

(6 เม.ย.66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ดูแลกทม. เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดปราศรัยใหญ่ในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย.ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ที่ลานคนเมือง เขตพระนคร นำการปราศรัยโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. และตน พร้อมทั้งผู้สมัคร ส.ส. กทม.ทั้ง 33 คน และผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งการปราศรัยครั้งนี้จะเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของพรรคฯ ส่วนครั้งต่อไปจะจัดการปราศรัยใหญ่ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ในวันอาทิตย์ที่ 23 เม.ย. สำหรับการปราศรัยใหญ่ปิดท้ายก่อนลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค.ส่วนสถานที่จัดปราศรัยจะเป็นที่ไหนนั้นกำลังพิจารณาอยู่

“พรรคปชป. เชื่อมั่นว่าเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคทั้ง 3 เวทีนี้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่จะช่วยกันลงคะแนนเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคฯทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัครแบบเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสทำงานในฐานะ ส.ส. เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติต่อไป” นายองอาจกล่าว

‘ปชป.’ ลุยหาเสียงสุโขทัย ชู แนวคิดสร้างเม็ดเงินให้คนไทย เน้นส่งออก-ท่องเที่ยว โว!! เป็นพรรคเดียวที่คิดหาเงินให้ประเทศ

(8 เม.ย.66) เวลา 13.30 น.ที่ โรงเรียนเมืองเชลียง อำเภอศรีสัชนาลัยจ.สุโขทัย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำทีมประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ออนทัวร์ภาคเหนือ พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.จ.สุโขทัย ประกอบด้วย น.ส.ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ เขต 1 เบอร์ 9 ,-นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล เขต 2 เบอร์ 2 ,นายนราธิป ภูมิถาวร เขต 3 เบอร์ 1 และนายรวม ล้นเหลือ เขต 4 เบอร์ 1 พบปะ พี่น้องประชาชนชาวสุโขทัย

โดยนายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ ว่า มีความมั่นใจ เพราะกระแสเสียงตอบรับในภาพรวมของจ.สุโขทัยดีขึ้นมาก และพี่น้องชาวสุโขทัยต้องการจะเห็นคนใหม่ๆ ได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวสุโขทัยมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นโอกาสสำคัญของประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะผู้สมัครของพรรคฯเป็นผู้ที่มีคุณภาพ และมีศักยภาพทุกเขต หลายคนได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงเหตุผลที่นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นแนวนโยบายเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ แตกต่างจากพรรคอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นแนวประชานิยมอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความแตกต่างอันหนึ่งคือประชาธิปัตย์ ไม่ได้เน้นเรื่องนโยบายแจกฟรี แต่เราเน้นนโยบายในการหาเงินให้กับประเทศ นอกจากการหาเงินให้กับคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการหาเงินให้ประเทศ หรือการสร้างเงิน ก็ชัดเจนว่า เราจะมุ่งเน้นในการนำเงินเข้าประเทศจากการส่งออก และจากการท่องเที่ยว ซึ่งอย่างน้อยที่สุดตนมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง เพราะได้ทำเรื่องการส่งออก และมีตัวเลขชัดเจนว่ารายได้จากการส่งออกเข้าประเทศเกือบ 10 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 30 ปี ส่วนเรื่องท่องเที่ยว ตนก็เคยเป็นรัฐมนตรีท่องเที่ยวมาแล้ว และเป็นคนทำแคมเปญ อะเมซิ่งไทยแลนด์ ในยุคต้นๆ ด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงเป็นหลักประกันที่มั่นใจว่า ถ้าเราเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะสามารถสร้างเงินให้ประเทศได้อย่างน้อย 85 ล้านล้านบาท เพื่อจะได้นำเงินนี้มาสร้างเงินให้คนไทย และสร้างคน สร้างอนาคตให้กับประเทศต่อไปได้

“นโยบายแจกเงินมันไม่ยั่งยืน หลายพรรคอาจจะเน้นนโยบายเรื่องของการแจกเงิน บางพรรคอาจจะเน้นถึงขั้นแจก แล้วสุดท้ายก็ยอมรับว่าเอาเงินมาจากการไปขึ้นภาษีจากประชาชน ถ้าเป็นอย่างนั้นสุดท้ายประชาชนก็กลายเป็นห่าน ที่จะโดนถอนขนจนเกลี้ยงในที่สุด เพื่อมาสนองนโยบายพรรคการเมือง อันนี้ก็คือสิ่งที่เราต้องรู้เท่าทัน และต้องระมัดระวังว่าสุดท้ายแล้วกรรมจะตกอยู่กับใคร ถ้ามีนโยบายฉาบฉวยในลักษณะนี้ แต่สำหรับนโยบายของประชาธิปัตย์ เราต้องการสร้างเงินให้ประเทศจริงๆ และมีแนวทางที่ชัดเจน ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องที่จะต้องไปขูดรีดภาษีเพิ่มเติมจากประชาชน” นายจุรินทร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคปชป.จะทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องตัวเลขที่เกี่ยวพันกับนโยบายอย่างไรนายจุรินทร์ กล่าวว่า นโยบายที่เป็นรายละเอียดนั้น ตนมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจได้ และเป็นนโยบายที่โดนใจประชาชน เพราะมีรายละเอียดชัดเจน รวมทั้งรายละเอียดไม่ยาว จากนโยบาย 16 ข้อ ของประชาธิปัตย์ที่ได้ประกาศออกไปแล้ว ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคฯทุกคนก็ยืนยันตรงกันว่า เมื่อนำไปบอกกับชาวบ้านแล้ว ก็โดนใจชาวบ้านและชาวบ้านก็ชอบ เข้าใจง่าย เช่น ประกันรายได้ ข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพด จ่ายเงินส่วนต่าง นโยบายนี้ชาวบ้านมีประสบการณ์อยู่แล้ว รู้ว่าเป็นนโยบายของประชาธิปัตย์ หากต้องการให้นโยบายนี้เดินต่อ ก็ต้องเลือกประชาธิปัตย์ ส่วนนโยบาย “ชาวนารับ 30,000 บาทต่อครัวเรือน” ก็ตรงไปตรงมา ส่วนเรื่องที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ มี 2 ข้อ

‘จุรินทร์’ พร้อมคณะ บุก ‘บ้านโป่ง’ ขอคะแนนเสียงกา ปชป. เผย เสียดายคนเก่าออกไป แต่ไม่ท้อ ยังมีคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง

(19 เม.ย.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค พร้อมคณะ เดินทางไปขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้นายธนากร เลี้ยงฤทัย ผู้สมัครส.ส. เขต 4 หมายเลข 4 ที่บริเวณหอนาฬิกาบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่าเชื่อว่าคะแนนที่จังหวัดราชบุรีเราจะได้ดีมาก และเราสู้ทุกเขตทั้ง 5 เขต ซึ่งผู้สมัครทุกคนล้วนมีคุณสมบัติที่ดี มีศักยภาพสูง สู้กับคู่แข่งของพรรคการเมืองอื่นได้ ขอฝากทั้งคนทั้งพรรค และขอฝากสมาชิกพรรคทุกคนที่เป็นฐานกำลังสำคัญที่จังหวัดราชบุรี ช่วยกันหนักแน่นมั่นคง ยืนหยัดอยู่กับพรรค แล้วช่วยกันหาเสียงพาคนใหม่ๆ มาช่วยกันลงคะแนนให้กับพรรคด้วย

“ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมประชาธิปัตย์ก็ชนะ แต่เสียดายที่คนของเราจากไป ย้ายไปอยู่พรรคอื่น แต่พรรคก็ไม่ท้อแท้ ท้อถอย ไม่เป็นไร เรามีคนรุ่นใหม่ สิ่งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญให้ ซึ่งเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสของประชาธิปัตย์ และของพี่น้องชาวบ้านโป่ง ที่จะได้ผู้แทนคนใหม่ที่มีศักยภาพไม่แพ้ใคร” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

‘ปชป.’ ปราศรัยวงเวียนใหญ่ ประกาศยุทธศาสตร์ 20 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ชูนโยบาย ‘4 ทำ 3 ไม่’ มั่นใจ!! แลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริง

(23 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) บัตรสีเขียว เบอร์ 26 จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำพรรค เข้าร่วมการปราศรัยเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตประธานรัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พร้อมด้วยแกนนำและผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 33 เขต เข้าร่วมเวทีอย่างคับคั่ง โดยมี นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค เป็นพิธีกร

สำหรับบรรยากาศรอบบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ มีพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ ทั้งจากฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี รวมถึงบรรดาแฟนคลับ และผู้สนับสนุนพรรคเดินทางร่วมรับฟังปราศรัยอย่างหนาแน่นคับคั่งเต็มพื้นที่

นายองอาจ ขึ้นเวทีเป็นคนแรก เริ่มปราศรัยว่า เหลือเวลาอีก 20 วันจะถึงวันเลือกตั้ง มีคนจากทั่วสารทิศบอกกับพวกเราว่า การเลือกตั้งปี 2562 จะไม่ได้เลือกประชาธิปัตย์ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้พี่น้องประชาชนจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

“จากการเดินสายหาเสียงทั่วประเทศ พี่น้องจากทั่วสารทิศบอกว่า คราวนี้ประชาธิปัตย์นอนมา ขอให้นอนมาดีๆ อย่าให้มีพระนำหน้า แล้วขอให้มีพี่น้องประชาชนนำหน้าพวกเราเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร” นายองอาจ กล่าว

ขณะที่ นายจุรินทร์ ขึ้นปราศรัยประกาศยุทธศาสตร์ใน 20 วันสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง “4 ทำ 3 ไม่” มั่นใจแลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริง และขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง

สำหรับยุทธศาสตร์ 4 ทำ คือ 1.ประชาธิปัตย์จะทำประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้มีความเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป และสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น เพื่อเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยเต็มใบ โดยไม่หมวด 1 และหมวด 2 ที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องมีเงื่อนไข 2 ข้อ 

1 ต้องได้รับเสียงข้างมากในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารวมกัน เกิน 376 เสียงจาก 750 เสียง 

2 ต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนด้วย เพื่อให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เพราะถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากที่ประชุม 2 สภา แต่มีเสียงน้อยในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย สุดท้ายก็จะบริหาร ประเทศไม่รอด

3.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี และ 4.ประชาธิปัตย์จะจัดการกับปัญหายาเสพติดที่คุกคามสังคมไทยให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด ด้วยยุทธศาสตร์ตาต่อตาฟันต่อฟัน และประชาธิปัตย์สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์แต่ไม่เอากัญชาเสรี

‘จุรินทร์’ ลั่น!! ‘ประชาธิปัตย์’ มีนโยบายรื้อสัญญาค่าไฟแพง เพื่อไม่ให้เป็นภาระ ปชช. จ่อเดินหน้ามาตรการลดค่าไฟผู้มีรายได้น้อย

(26 เม.ย.66) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่หลายพรรคการเมืองชูนโยบายแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ประชาธิปัตย์ยืนยันได้หรือไม่ว่าถ้าเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลหรือได้เข้าร่วมรัฐบาล จะมีวิธีการแก้ปัญหาค่าไฟแพงอย่างไร ว่า ถ้าได้จัดตั้งรัฐบาลประชาธิปัตย์เรามีแนวทางที่จะเข้าไปแก้ปัญหาราคาพลังงานที่มีความชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งหมดจะเดินหน้าอย่างมีวุฒิภาวะ อะไรที่ทำได้จริงเราจะบอกชาวบ้าน อะไรที่มันทำไม่ได้เพราะเป็นสัญญาผูกพันมาช้านานตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้า เราก็จะบอกตรงๆ แต่อะไรที่แก้ได้เราก็จะเข้าไปแก้ เช่น สัญญาที่ผูกพันมาตั้งแต่ในอดีต ตนไม่อยากพูดว่าพรรคไหน เพราะรู้กันทั้งประเทศอยู่แล้วและจะเข้าไปดูว่าเป็นเงื่อนไขที่เราสามารถใช้ข้อกฎหมายเปลี่ยนแปลงสัญญาเพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าไฟกับพี่น้องประชาชนต่อไป ก็จะเร่งทำ รวมทั้งการเดินหน้ามาตรการที่เราทำอยู่ร่วมกับรัฐบาลชุดนี้ เช่น มาตรการลดค่าไฟให้กับผู้มีรายได้น้อยก็จะเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไป 

‘จุรินทร์’ ยกทัพออนทัวร์ ‘เชียงใหม่’ ขอคะแนน 27 เม.ย.นี้ โว!! หลายนโยบายครองใจเกษตรกร ไม่มีประวัติด่างพร้อย เห็นเป็นรูปธรรม

(26 เม.ย.66) พรรคประชาธิปัตย์ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2566 นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะนำ ‘จุรินทร์ออนทัวร์’ พร้อมด้วยแกนนำพรรค เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนร่วมกับผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายจักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ เบอร์ 7 เขต 2 นายกัมปนาท ธิสา เบอร์ 7 เขต 3 นายวิชิต กลิ่นทอง เบอร์ 7 เขต 4 นางสาวจิตพลอย จิตจักรวาลทอง เบอร์ 7 และเขต 5 ว่าที่ ร.ท. วิศธร เถาตระกูล เบอร์ 9 พร้อมกับรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 

สำหรับกิจกรรมในจังหวัดเชียงใหม่นั้น จะเริ่มด้วยการเดินหาเสียง บริเวณกาดแม่คือ อ.ดอยสะเก็ด จากนั้นเดินทางไปหาเสียงที่ตลาดสามแยก อ.สันทราย ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 4 ต่อด้วยกาดสันป่าข่อย อ.เมือง ที่อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 แล้วจะได้เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลเจ้าจีน ที่บริเวณกาดหลวง อ.เมือง ในเขตเลือกตั้งที่ 1 สำหรับในช่วงเย็นจะมีการปราศรัยที่บริเวณลานพลาซ่า สนามกีฬา 700 ปี อ.แม่ริม

‘จุรินทร์’ นำทัพปราศรัยใหญ่ ปลุกพลังเงียบ ที่สนาม 700 ปี เชียงใหม่  ปชช.แห่ต้อนรับ พร้อมบอกยังไงก็เลือก ‘ปชป.’ มั่นใจ!! ปักธงได้แน่

(27 เม.ย. 66) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนใน 4 เขต เพื่อหาเสียงรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 และช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ประกอบด้วย

เขต 1 นายจักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ เบอร์ 7
เขต 2 นายกัมปนาท ธิสา เบอร์ 7
เขต 3 นายวิชิต กลิ่นทอง เบอร์ 7
เขต 4 นางสาวจิตพลอย จิตจักรวาลทอง เบอร์ 7
เขต 5 ว่าที่ร้อยโทวิศธร เถาตระกูล เบอร์ 9
เขต 6 นายวิศิษฎ์ วัชรินทร์ เบอร์ 6
เขต 7 นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ เบอร์ 5
เขต 8 นางพชรพร สุใจคำ เบอร์ 6
เขต 9 นายคูณธนา เบี้ยวบรรจง เบอร์ 7
เขต 10 ว่าที่ร้อยตรีธีรพงศ์ สุขสันต์นิรันดร์ เบอร์ 2

โดยนายจุรินทร์ ได้ร่วมเดินหาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ใน 4 ตลาด ตั้งแต่กาดแม่ คือ อ.ดอยสะเก็ด ตลาดสามแยก กาดสันป่าข่อย ที่ อ.สันทราย และกาดหลวง ตลาดต้นลำไย อ.เมือง พร้อมกับได้เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลกวนอู และศาลเจ้าปุงเถ่ากง ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบรรรยากาศเดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชนทั้ง 4 ตลาด เป็นไปอย่างอบอุ่น มีชาวเชียงใหม่มารอต้อนรับ พร้อมโบกมือทักทาย ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและมอบดอกไม้อย่างใกล้ชิด

จากนั้น นายจุรินทร์ และคณะได้เดินทางถึงสนามกีฬา 700 ปี ที่ อ.แม่ริม โดยมีพี่น้องประชาชนและแฟนคลับของพรรค เดินทางมารอฟังการปราศรัยจำนวนมาก พร้อมกับส่งเสียงเชียร์ “ประชาธิปัตย์สู้ ประชาธิปัตย์ ซาวหก (26)”

โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวแนะนำผู้สมัครทั้ง 10 เขต และปราศรัยช่วงว่า จากการที่ตนได้ตระเวนหาเสียงมาทั่วประเทศจนถึงวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเสียงตอบรับจากทั่วประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร ที่คราวที่แล้วไม่ได้ ส.ส.เลย แต่คราวนี้เชื่อว่าประชาธิปัตย์ปักธงในกรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน ภาคเหนือคราวที่แล้วเราได้ 1 คน จาก 16 จังหวัด แต่เที่ยวนี้ไม่ใช่คนเดียว จะต้องได้มากกว่านี้เยอะ อย่างน้อยที่ จ.เชียงใหม่ ตนจึงต้องมาขอแรงสนับสนุนจากพี่น้องช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ได้มีโอกาสปักธงในเชียงใหม่ และภาคเหนือ ด้วยการเลือกส.ส. ของพรรคทั้ง 10 คน และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ ‘ซาวหก’ หรือ ‘เบอร์ 26’ ส่วนภาคอีสาน ภาคกลาง คราวนี้ก็เชื่อว่าจะได้อีกเยอะ ปักษ์ใต้คราวที่แล้วมี ส.ส. 50 คน เราได้ 22 คน เที่ยวนี้เราต้องได้ไม่ต่ำกว่า 40 คนบวก

นายจุรินทร์ ได้ย้ำจุดยืน ‘4 ทำ’ ‘3 ไม่’ พร้อมกล่าวว่า ที่พูดทั้งหมดนี้ ไม่ได้พูดจากความฝัน ไม่ได้พูดหลอกเอาคะแนนจากประชาชน แต่พูดจากความจริงที่เราทำ ถ้าเราเป็นแกนตั้งรัฐบาลอีก ทำไมเราจะทำไม่ได้

นายจุรินทร์ กล่าวถึงนโยบายที่เกี่ยวกับชาติพันธุ์ ว่า ประชาธิปัตย์มีเจตจำนงที่ต้องการสนับสนุนให้ชาติพันธุ์ที่เกิดเมืองไทยและมาอย่างถูกกฎหมาย ให้มีโอกาสได้สัญชาติไทย สำหรับพี่น้องชาวเชียงใหม่ ประชาธิปัตย์จะขับเคลื่อนให้ไปสู่ความร่ำรวยด้วยนโยบายเหนือเชื่อมโลก และเชียงใหม่เชื่อมโลก ด้วยการคมนาคม ด้วยการท่องเที่ยว ด้วยการค้าชายแดน และด้วยซอฟต์พาวเวอร์ อัตลักษณ์ วัฒนธรรมชาวเหนือที่จะทำรายได้ให้ประเทศ และภาคเหนือ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top