Friday, 3 May 2024
จุรินทร์

“จุรินทร์-เฉลิมชัย” ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่!!! ส่งออกข้าวไทยล็อตแรก 1,000 ตัน โดย “รถไฟสายจีน-ลาว” ถึงมหานครฉงชิ่งสำเร็จเป็นครั้งแรก “อลงกรณ์” ชี้!เป็นศักราชใหม่ของอีสานเกตเวย์ ตั้งเป้าหมายต่อไปส่งออก ‘ยางพารา ผลไม้ - กล้วยไม้ - สินค้าประมงและปศุสั

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยวันนี้(20 ม.ค.)ว่า ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวสาร จำนวน 20 ตู้ ปริมาณ 1,000 ตันโดยใช้เส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวไปถึงมหานครฉงชิ่ง ( Chongqing )ในภาคตะวันตกของจีนสำเร็จเป็นครั้งแรกถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการขนส่งระบบรางเพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและประเทศโดยส่วนรวมภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ภาคเกษตรกรและภาคเอกชนตามนโยบายการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรและยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต เพื่อการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต้องขอบคุณ สปป.ลาวและจีนในความร่วมมืออันดียิ่ง

สำหรับความสำเร็จก้าวแรกในครั้งนี้แม้ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแล้วระลอกเล่า ซึ่งทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา โดยจะประเมินผลการส่งออกข้าวล็อตแรกครั้งนี้รวมทั้งระบบการจองขบวนรถขนส่งสินค้าและการจองตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งกำลังประสานงานกับผู้ให้บริการของทั้งสปป.ลาวและจีน เพื่อเร่งขยายผลไปสู่การส่งออกสินค้าเกษตรตัวอื่นรวมทั้งเป้าหมายตลาดใหม่ ๆ ทั้งในมณฑลต่าง ๆ ของจีนและประเทศอื่น ๆ ต่อไปโดยเร็ว 

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า เราเดินหน้าสร้างความพร้อมสำหรับวันนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปี สำหรับการขนส่งผ่านทางรถไฟสายใหม่ ซึ่งเพิ่งเปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมาตามยุทธศาสตร์อีสานเกตเวย์(ESAN Gateway)เชื่อมไทย-เชื่อมโลก นับเป็นการเปิดศักราชหน้าใหม่ของการค้าการส่งออกสินค้าไทยไปจีน โดยมีเป้าหมายสู่ตลาดต่อไปคือตลาดเอเชียกลาง เอเชียตะวันออก ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรปและเพิ่มสินค้าเกษตรที่จะขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟสายนี้คือยางพารา ผลไม้ กล้วยไม้ไทย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สินค้าประมงและปศุสัตว์ รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าอื่น ๆ

“สำหรับมหานครฉงชิ่ง เป็นชุมทางรถไฟและการขนส่งหลายรูปแบบ โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการมีที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมใหม่BRI(อีต้าอีลู่) และแม่น้ำแยงซีเกียงจึงมีความพร้อมทางด้านโลจิสติกส์และได้วางนโยบายเชื่อมโยง “ฉงชิ่ง-อาเซียน” เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับรัฐบาลไทย ทั้งนี้ มหานครฉงชิ่งมีเขตโลจิสติกส์อาเซียนและนานาชาติในตำบลหนานเผิง เขตปาหนาน (Chongqing ASEAN International Logistics Park) ถือเป็นเส้นทางขนส่งและระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญและเป็น “ประตูเศรษฐกิจของจีนตะวันตก” สามารถเป็นจุดกระจายสินค้าไปมณฑลต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันตกของจีนและขนส่งผ่านไปยังประเทศต่าง ๆ

 

‘จุรินทร์’ ชู ‘เกษตรผลิต - พาณิชย์ขาย’ ดันส่งออกผลไม้ โกยเงินแสนล้านเข้าปท.

แม้จะมีปัญหาอุปสรรคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และมีปัญหาจากการที่ประเทศจีนปิดด่านบางช่วง แต่ในปี 2564 ที่ผ่านมา การส่งออกผลไม้ไทยยังคงเติบโตได้ถึง 86% (ม.ค.-ต.ค.) โดยมีจีนเป็นตลาดที่สำคัญ เพราะมีสัดส่วนสูงถึง 85% 

ดังนั้น หากจีนปิดด่าน จะส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกผลไม้ไทยทันที แต่อย่างไรก็ดี จากความร่วมมือกันอย่างลงตัว ระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มี ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวเรือใหญ่ ควงคู่ผสานกับ ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมขับเคลื่อนคอนเซปต์ ‘เกษตรผลิต - พาณิชย์ขาย’ ได้อย่างกลมเกลียว

ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีของรัฐบาลชุดนี้ จะเห็นว่าทั้งสองกระทรวง ได้บูรณาการแก้ปัญหาส่งออกผลไม้เฉพาะหน้าร่วมกันหลายครั้ง โดยเฉพาะปัญหาจากประเทศจีนปิดด่าน เพื่อคุมการระบาดโควิด-19 โดยมีด่านสำคัญ คือ ด่านโหย่วอี้กวนกับด่านโม่ฮาน ซึ่งโม่ฮานเป็นด่านใหญ่ เป็นด่านสำรองในการช่วยเวลาเกิดปัญหาที่ด่านโหย่วอี้กวน ให้สามารถมีช่องทางส่งผลไม้เข้าจีนได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ ส่วนหนึ่งนั้น มาจากการป้องกันการปนเปื้อนโควิด-19 ในการส่งออกผลไม้ไปจีน ที่ถือเป็นมาตรการสำคัญ ที่ทำให้จีนยอมรับให้นำเข้าผลไม้จากไทยได้อย่างไม่ติดขัด ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกผลไม้ไทย เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เพราะนโยบายซีโร่โควิด-19 ที่เข้มงวด ทำให้สินค้าไทยได้รับความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 ยังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับการส่งออกของไทย เพราะประเทศคู่ค้าหลายประเทศยังคงเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่า สินค้าไทยโดยเฉพาะผลไม้ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก 

"จุรินทร์" เผย ไม่ทราบ "โบ๊ต อนุกูล" ย้ายซบ ปชป. รอง”เดชอิศม์”รายงานก่อน ปัดตอบ กลิ่นรัฐประหาร  มองไม่ออกใครจะเป็นคนทำ ชี้ เป็นหน้าที่พรรคร่วมรักษาเสถียรภาพรัฐบาล ลั่น อย่ากังวลประชาธิปัตย์รู้หน้าที่ดี 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่อง นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ หรือน้องโบ๊ต อดีตผู้สมัคร ส.ส. เลือกตั้งซ่อม เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ เตรียมย้ายเข้ามาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ ยังไม่ได้รายงานตนในเรื่องนี้ จึงยังไม่ขอตอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามในวันที่ 29 ม.ค.ตนจะเดินทางไปที่จังหวัดสงขลาเพื่อขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวสงขลาเขต 6 ที่ ลงคะแนนเสียงและไว้ใจเลือกน.ส. สุภาพร กำเนิดผล เป็น ส.ส. ในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา 

ส่วนกระแสข่าวการรัฐประหารนั้นนายจุรินทร์ กล่าวว่ายังไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ทราบที่มาที่ไปของข่าวและมองไม่ออกว่าใครจะเป็นคนทำรัฐประหาร ขณะที่เสถียรภาพรัฐบาลนั้นก็เป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ตนยังย้ำเรื่องการเป็นสถาบันทางการเมือง เพราะฉะนั้นเรารู้หน้าที่ว่าจะทำอะไร ตัดสินใจอย่างไร จึงขออย่ากังวลในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่พรรคอื่นก็ให้ไปถามพรรคนั้นๆ 

‘จุรินทร์’ กาง 7 แผนสอดรับ Saudi Vision 2030 เน้นขยายการค้า บุกตลาด ‘ฮาลาล’ เต็มพิกัด

หลังจากที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีคำสั่งให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ วิเคราะห์สถานการณ์การค้าของไทยกับซาอุดีอาระเบีย หากมีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน สืบเนื่องจากการเยือนของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2565 ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียนั้น

ล่าสุด นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงข้อวิเคราะห์และรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมือง เจดดาห์ ระบุว่า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย พระองค์เป็นมกุฎราชกุมารและเป็นว่าที่กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบียองค์ต่อไป ทั้งยังเป็นผู้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ Saudi Vision 2030 ที่ใช้ในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศซาอุดีอาระเบีย การที่นายกรัฐมนตรีประเทศไทยมีโอกาสเข้าเฝ้าหารือกับเจ้าชายนั้น ทำให้เป็นโอกาสที่ซาอุดีอาระเบียจะฟื้นความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวในหลายด้าน เช่น การผ่อนปรนการเข้าออกประเทศ การผ่อนปรนมาตรการทางการค้า การสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น การร่วมลงทุนและการนำแรงงานฝีมือจากประเทศไทยเข้าไปทำงานในซาอุดีอาระเบีย
ส่วนแผนงานและกิจกรรม ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยส่งเสริมการค้าระหว่างไทย วางแผนตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของนายจุรินทร์ กับประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้แก่... 

1.) การจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ด้านการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคเปิดกว้างทางวัฒนธรรมของซาอุฯ ภายใต้ยุทธศาสตร์ Saudi Vision 2030 
2.) การจัดคณะผู้แทนการค้านักธุรกิจทั้งจากไทยไปซาอุฯ และจากซาอุฯ มาเยือนประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายระหว่างกัน 
3.) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในซาอุฯ เช่น ข้าว อาหารฮาลาล และผลไม้ เป็นต้น เพื่อให้สินค้าได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น 
4.) การเชิญผู้ประกอบการไทยร่วมงานแสดงสินค้าในซาอุฯ เช่น งานแสดงสินค้าอาหารและสินค้าฮาลาล Saudi Food Expo 
5.) การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าอาหารสินค้าฮาลาล ผ่านช่องทางออนไลน์
6.) การเชิญผู้นำจากซาอุฯ ร่วมเจรจาการค้าผ่านออนไลน์ Online business Matching 
7.) การเชิญผู้นำจากประเทศซาอุฯ ร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติของไทย ทั้งรูปแบบปกติ หรือรูปแบบไฮบริด และรูปแบบออนไลน์ 

โดย 7 แผนงานนี้ จะมีขึ้นในปี 2565 ขอให้ติดตามความเคลื่อนไหวจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และอยากแนะนำให้ติดตามข่าวสารโดยผ่านทุกช่องทางของกระทรวง ผู้ประกอบการที่สนใจจะได้โอกาสและไม่พลาดตลาดสำคัญอีกแห่งหนึ่ง

จันทบุรี - ‘จุรินทร์’ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลนานาชาติ!! ‘พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี’ ประจำปี 2565

ณ บริเวณ ถนนศรีจันท์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิด ASEAN Gems Central market@chantaburi โดยมีการแสดง 3 เชื้อชาติ ได้แก่ ญวน จีน และ ไทย พร้อมทั้งกล่าวเปิดงาน และเยี่ยมชมการจัดแสดงพลอยชนิดต่าง ๆ เยี่ยมชมการสาธิตการทำพลอยประกอบด้วยการโกรน แต่งเจียระไน และการขึ้นตัวเรือนพลอย ต่อมาในช่วงบ่าย ณ ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นประธานในพิธีเปิด “พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี” International Chanthaburi Gems and Jewelry Festival 2021-2022 โดยมี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวต้อนรับ

ไฮไลต์ในพิธีเปิด ได้แก่ การแสดงแฟชั่นโชว์อัญมณีและเครื่องประดับที่ออกแบบและผลิตโดยฝีมือผู้ประกอบการชาวจันทบุรี ภายใต้แนวคิด GO TOGETHER : Chanthaburi City of Gems เปิดโลกอัญมณี...วิถีเสน่ห์เมืองจันท์ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับตลาดพลอยจันท์สู่ตลาดพลอยมาตรฐานและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็งและส่งเสริมการท่องเที่ยว

 

"จุรินทร์" ยัน ไม่ใช้โครงการ ก.พณ. หาเสียงล่วงหน้า ให้ว่าผู้สมัครผู้ว่า กทม.ปชป. ชี้ กมธ.ปปช. ดิสเครดิต "ดร.เอ้"  พร้อมปัดตอบปม รมต.ภท. โดดประชุม ครม.ยกทีม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเหมาะสมในการไปร่วมโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) และกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์กำกับดูแล ว่า ตนไม่ทราบประเด็นดังกล่าว

แต่ในกรณีของโครงการร้านข้าวแกง 20 บาท ถูกใจชุมชน เป็นสิ่งที่ นายชนินทร์ รุ่งแสง อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ประสานงานกับภาคเอกชน และจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อช่วยให้ประชาชนในชุมชนต่างๆได้ซื้อข้าวแกงในราคาถูก ซึ่งมีร้านข้าวแกงหลายร้านที่เข้าร่วมโครงการ ดังนั้นกรณีนี้เป็นเรื่องความร่วมมือของอดีต ส.ส.กับภาคเอกชนให้ช่วยจัดหาวัตถุดิบไปให้ร้านข้าวแกงนำไปปรุงอาหารมาจำหน่ายในราคาถูก ซึ่งโครงการแบบนี้เป็นเรื่องที่ใครก็ทำได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้มีการจับจ้องที่โครงการพาณิชย์ลดราคา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ นำสินค้าอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายให้ประชาชน ปรากฎว่ามีว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปร่วมกิจกรรมพร้อมแจ้งว่าเป็นผู้ประสานงานร่วมกับ นายสุชัชวีร์ให้นำมาจำหน่ายในชุมชน และติดรูปนายสุชัชวีร์ด้วย นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการพาณิชย์ลดราคาเป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการอยู่แล้วและมีการกำหนดวันเวลาและสถานที่ในการนำโครงการนี้ไปตามชุมชนต่างๆ ซึ่งได้มีการประกาศลงในเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนที่อยากซื้อสินค้าราคาถูกสามารถไปตามเวลาและสถานที่ได้ เป็นเรื่องที่รับทราบกันอยู่แล้วทั้งประชาชน ผู้สมัคร หรือใครก็ตาม ส่วนใครทราบเรื่องแล้วจะนำไปประชาสัมพันธ์ต่อก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่แต่ละคนจะไปดำเนินการ 

เมื่อถามว่าการที่มีภาพของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ และรูปนายสุชัชวีร์ ไปติดอยู่ในบูธจัดโครงการดังกล่าว ทำให้ถูกมองว่าเป็นการนำโครงการของรัฐบาลหรือกระทรวงมาหาเสียงล่วงหน้าให้ตัวเอง นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีประเด็นตรงไหนอย่างไร แต่ยืนยันว่าโครงการพาณิชย์ลดราคาเป็นไปตามกำหนดการที่ได้ทำไว้ล่วงหน้า ส่วนจะมีประชาชนหรือใครก็ตามเข้าไปร่วมงานด้วยก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล

ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดำเนินการในทางที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง พรรคการเมืองไหนก็ได้ถ้าอยากเข้ามาร่วมก็สามารถเข้ามาได้ จะพาชาวบ้านมาซื้อสินค้าราคาถูกในบูธโครงการนี้ก็ได้ ไม่ได้มีการจำกัดว่าพรรคไหนพาชาวบ้านมาซื้อของไม่ได้ และยืนยันว่าโครงการนี้ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการหาเสียง 

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าเป็นเกมการเมืองในการพยายามเล่นงานนายสุชัชวีร์ โดยมีการนำหลายๆเรื่องเข้ามาโจมตีใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ก็ต้องเข้าโหมดการเลือกตั้ง ทั้งนี้ เราก็เห็นชัดในหลายกรณีที่นำไปเกี่ยวโยงกับนายสุชัชวีร์ เพื่อดิสเครดิตทางการเมือง อาทิ กรณีคณะกรรมาธิการ ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่อยู่ๆมาตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายสุชัชวีร์ ทั้งที่ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

“จุรินทร์” ยอมรับความขัดแย้งในรบ. ทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ แนะ นายกฯ ต้องเข้าไปจัดการ รวมทั้งปัญหาโหวตในสภาฯ พรรคแกนนำต้องเข้าไปดูให้ลึกเกิดอะไรขึ้น  ยันไม่กังวลซักฟอก ม.152 ยินดีตอบ

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวความขัดแย้งในรัฐบาล จะทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่ตนคิดว่าหลายฝ่ายมีความเป็นห่วง ปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดให้เห็นบ่อยนัก แต่คิดว่านายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลกำลังพยายามคลี่คลายปัญหาและแก้ปัญหานี้อยู่ สุดท้ายนายกฯก็หนีไม่พ้นที่จะต้องเข้าไปดูเพราะท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้น เราเป็นพรรคขนาดกลาง เป็นแค่พรรคร่วมรัฐบาล อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตนได้เรียนย้ำไปหลายครั้งก็คือ เราก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล เพราะเมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว อะไรที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนก็ต้องจับมือกันเดินไปข้างหน้า ไม่อย่างนั้นประชาชนก็ไม่รู้จะพึ่งใคร เราก็มีหลักการ หลักเกณฑ์ของเรา ทั้งในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล เรามีหน้าที่อะไรเราก็ทำหน้าที่เราให้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ ให้เต็มที่เหมือนที่ทำอยู่เดี๋ยวนี้ เมื่อมีปัญหาราคาสินค้าเราก็แก้ได้รวดเร็ว เมื่อมีปัญหาอื่นเกิดขึ้นเราก็จับมือกับรัฐบาลแก้ปัญหา อะไรที่เกินอำนาจกระทรวงก็ใช้มติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในการตัดสินใจ ส่วนในรัฐสภา เมื่อมีข้อตกลงอะไรร่วมกัน เราก็เคารพข้อตกลงและเดินหน้าไปตามนั้น ในสภาฯก็ต้องใช้กลไกวิปเป็นกลไกหลักในการที่จะเป็นตัวกำหนดว่าจะตัดสินใจลงคะแนนไปทางไหน ซึ่งประชาธิปัตย์ก็ให้ความร่วมมือมาด้วยดีตลอด 

เมื่อถามว่าในระยะหลังเกิดเหตุสภาฯล่มบ่อยครั้ง มีหลายพรรคที่ออกไปตั้งพรรคใหม่มีการโหวตสวนรัฐบาล รวมไปถึงการตั้งกลุ่ม 16 เพื่อโหวตสวนรัฐบาลโดยยึดประโยชน์ประาชนเป็นหลักจนมีหลายฝ่ายมองว่าอาจทำให้ยุบสภาได้ นายจุรนทร์กล่าวว่า ตนยังไม่อยากมองไกลไปถึงขนาดนั้น และคงไม่ไปวิจารณ์พรรคการเมืองอื่น หรือวิจารณ์กลุ่มการเมืองใด ถือว่าเมื่อท่านเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน เป็นผู้แทนราษฎรก็มีสิทธิ์ในการที่จะดำเนินทิศทางทางการเมืองตามที่เห็นสมควร ส่วนประชาธิปัตย์ก็มีแนวทางของเรา อย่างน้อยในส่วนของรัฐบาล นายกฯก็อาจจะต้องใช้เวลาในการลงมาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็จะต้องลงมาดูลึกเป็นพิเศษ เพราะเสียงส่วนใหญ่อยู่ที่พรรคแกนนำ ไม่ได้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่น 

"ส่วนของเรา เราก็ให้ความร่วมมือ อันนี้ตัดออกไปได้เลยว่าไม่มีปัญหาอะไร" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

“จุรินทร์” โชว์วิชั่น กทม. เปิด 3 นวัตกรรม บริหาร ทั้ง ครม.กรุงเทพฯ-กรอ.กรุงเทพฯ​ และเกรทเตอร์ แบงค็อก

13​ มี.ค.65​ ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงทิศทางแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อนำพากรุงเทพมหานครไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ในงาน The 2 Leaders’ Visions “เศรษฐกิจประเทศ - เศรษฐกิจเมือง” ที่จัดขึ้นที่พรรคฯ โดยได้กล่าวว่า 

ภายหลังการเลือกตั้งปี 2562 ก่อนที่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ ไม่ได้รับเลือกตั้งเลย แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งสิ้น แต่ประชาธิปัตย์ได้ผ่านจุดนี้มาแล้วหลายครั้ง ทั้งที่รุ่งเรืองจนได้รับเลือกตั้งเกือบยกทีมก็มี หรือได้รับเลือกคนเดียวก็มี หลายคนปรามาสประชาธิปัตย์คงจะสูญพันธุ์ แต่ตนยังมั่นใจว่ามาถึงวันนี้เรากำลังเดินขึ้นและมั่นใจว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯ จะต้อนรับประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่ง เพราะประชาธิปัตย์กับชาวกรุงเทพฯ ผูกพันกันมายาวนานนับตั้งแต่ก่อตั้งพรรค คนกรุงเทพฯ มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งประชาธิปัตย์ มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ตั้งแต่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พันเอก (พิเศษ) ถนัด คอมันตร์ ท่านพิชัย รัตตกุล ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลายคนล้วนเป็นคนกรุงเทพฯ ดังนั้น คนกรุงเทพฯ กับประชาธิปัตย์จึงผูกพันกันมาเนิ่นนาน 

เมื่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กำลังจะมาถึง ก็มีคนตั้งคำถามใหม่ว่า ประชาธิปัตย์จะส่งผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ตนเป็นคนหนึ่งที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าประชาธิปัตย์ต้องส่ง ประชาธิปัตย์ไม่ส่งไม่ได้ เพราะเราผูกพันกับชาวกรุงเทพฯ และคนกรุงเทพฯ เลือกเรามาต่อเนื่องยาวนาน เพราะฉะนั้นเราต้องรับผิดชอบต่อคนกรุงเทพฯ การไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร รวมทั้งผู้สมัคร ส.ก. คือการตัดทางเลือกของคนกรุงเทพฯ ดังนั้นจึงเป็นที่มาที่ประชาธิปัตย์มีมติส่ง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรคประชาธิปัตย์ รวมกับเพื่อนผู้สมัคร ส.ก. 50 คน 50 เขต ซึ่งเป็นการนับ 1 ที่ถือว่าประชาธิปัตย์ได้ส่งทางเลือกที่ดีที่สุดทางเลือกหนึ่งให้กับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ได้พิจารณา 

ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวอีกว่า... 

ประการที่ 1 ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นั้น ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามผู้สมัครอิสระ แต่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจึงหมายความว่า ในการเลือกตั้งรณรงค์หาเสียง รวมทั้งไปถึงภายหลังหากได้รับเลือกตั้ง “ดร.เอ้” ก็ไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีหลังพิงสำคัญที่จะคอยทำงานร่วมกันและขับเคลื่อนกรุงเทพฯไปสู่ความสำเร็จ นั่นการมีหลังพิงที่เป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศ ที่ชื่อว่าประชาธิปัตย์ 

“ก่อนตัดสินใจเลือก ดร.เอ้ ผมกับ ดร.เอ้ ได้นั่งคุยกัน และท่านองอาจด้วยในฐานะรองหัวหน้าพรรค ได้คุยกันบอกว่าถ้าจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องทำงานร่วมกัน และต้องไม่บริหารราชการกรุงเทพมหานครโดยความรับผิดชอบเฉพาะกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ แต่ต้องรับผิดชอบต่อพรรคประชาธิปัตย์ด้วยเพราะประชาธิปัตย์จะต้องรับผิดชอบต่อการบริหารงานราชการกรุงเทพฯ ของ ดร.เอ้ ต่อไปในอนาคต นี่คือความแตกต่างของผู้สมัครอิสระกับผู้สมัครที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมือง โดยเฉพาะสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนที่ชื่อว่าประชาธิปัตย์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

ประการที่ 2 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของประชาธิปัตย์นับตั้งแต่นี้ต่อไป ต้องไม่คิดแค่บริหารเมืองหลวงของประเทศและต้องไม่คิดแค่บริหารหน่วยการปกครองท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และต้องไม่คิดแค่การบริหารอภิมหานครกรุงเทพ หรือ กทม. เท่านั้น แต่จะต้องไปไกลไปกว่านั้น 

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ภารกิจของคนเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ที่ต้องบริหารกรุงเทพฯ แบบ “Mini Thailand” จึงมี 3 ประการ 

ประการที่ 1 ประชากรคนไทยทั้งประเทศมี 65 ล้านคน เป็นคนกรุงเทพฯ ตัวจริงที่มีทะเบียนบ้าน 5.5 ล้านคน ทำให้กรุงเทพฯ มีขนาดประชากร คิดเป็น 1 ใน 12 ส่วนของประชากรทั้งประเทศที่มีรวมกัน 77 จังหวัด 

ประการที่ 2 ด้วยขนาดประชากรดังกล่าว ทำให้มีปัญหาหลายเรื่องที่ ผู้ว่าฯ กทม. ต้องแก้ปัญหา และต้องบริหารจัดการในฐานะผู้ว่าฯ Mini Thailand ซึ่งเมื่อดูขนาดเศรษฐกิจของ กทม. จังหวัดเดียว คิดเป็นร้อยละ 24 ของ GDP ประเทศ  หมายความว่าขนาด GDP ประเทศ อยู่ที่กรุงเทพฯ ถึง 1 ใน 4 และอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP ของกรุงเทพฯ ก็เติบโตมากกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศอีกด้วย  

เมื่อไปดูสัดส่วน GDP ของกรุงเทพฯ ก็พบว่าการที่เศรษฐกิจกรุงเทพขับเคลื่อนอยู่ได้ทุกวันนี้ ขึ้นอยู๋กับ...

อันดับ 1 การค้า คิดเป็น 87 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ดังนั้นการค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งตั้งแต่คนตัวใหญ่จนถึงคนตัวเล็ก 

อันดับ 2 อุตสาหกรรม 13% มีเรื่องเกษตรไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ 

ดังนั้นจากข้อมูลพื้นฐานดังกล่าว จึงถือว่าลมหายใจของเศรษฐกิจกรุงเทพฯ จึงเรียกได้ว่าขึ้นอยู่กับการค้า 87% อุตสาหกรรม 13% ขณะที่เมื่อไปดู ตัวเลข Per Capita income หรืออัตรารายได้เฉลี่ยต่อหัว จะเห็นได้ชัดขึ้นว่ารายได้ของคนกรุงเทพฯ เฉลี่ย มากกว่ารายได้เฉลี่ยต่อหัวของประเทศ 3 เท่า แม้จะฟังแล้วเหมือนดีว่าคนกรุงเทพฯ รวย แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เพราะเป็นตัวเลขถัวเฉลี่ย แต่เมื่อดูตัวเลขลึกลงไปพบว่า คนกรุงเทพฯ ตัวจริงที่เป็นคนจน มีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อปี ที่ต้องรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีมากกว่า 5 แสนคน ตรงนี้จึงเป็นโจทย์สำคัญของผู้ว่าฯ กทม. นอกจากรัฐบาลที่ต้องแก้ไข ผู้ว่าฯ กทม. ก็ต้องคิดเป็นภาระของตัวเองด้วยเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ดังนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ประชาธิปัตย์จากนี้ไป จึงต้องคิดเรื่องการบริหารกรุงเทพมหานคร ให้เป็นการบริหารแบบ Mini Thailand 

ประการที่ 3 การบริหารกรุงเทพมหานครของยุคประชาธิปัตย์ ยุค “ดร.เอ้” จากนี้ไป จึงต้องเกิดนวัตกรรมใหม่ทางการบริหารต้องขึ้นอย่างน้อย 3 นวัตกรรม 

นวัตกรรมตัวที่ 1 ครม. กรุงเทพฯ ต้องเกิด ไม่ใช่การบริหารแบบเดิมที่มี ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ด้านบริหาร ด้านโยธา ด้านสาธารณสุข ด้านศึกษา ยุทธศาสตร์ และที่ปรึกษา แต่กรุงเทพมหานคร ยุคอุดมการณ์ทันสมัย ต้องมี ครม. กรุงเทพ เกิดขึ้น เพื่อบริหาร Mini Thailand ที่ชื่อว่ากรุงเทพมหานคร ที่ประกอบด้วย รัฐมนตรีเศรษฐกิจกรุงเทพมหานครต้องเกิด เพื่อรับผิดชอบเศรษฐกิจของชาวกรุงเทพฯ ตั้งแต่คนตัวใหญ่ที่ทำธุรกิจค้าขาย 87 % ของ GDP คนตัวกลางอุตสาหกรรม 13% ไปจนถึงคนตัวเล็ก 5 แสนกว่าคนที่รายได้ต่ำกว่าแสนต่อปี การที่ ดร.เอ้ ประกาศวิสัยทัศน์ให้ กรุงเทพฯ เป็นเมืองสวัสดิการต้นแบบของอาเซียน ดังนั้น รัฐมนตรีสวัสดิการกรุงเทพฯ ต้องเกิด เพื่อขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ที่มีความชัดเจน กว่าการมีแค่รองผู้ว่าฯ ด้านโยธา ด้านศึกษา ด้านสาธารณสุข 

นวัตกรรมตัวที่ 2 ต้องเกิด กรอ. กรุงเทพฯ เนื่องจากเศรษฐกิจกรุงเทพฯ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่คิดเป็น 1 ใน 4 ของ GDP ประเทศ และขับเคลื่อนด้วยการค้ากับอุตสาหกรรม ดังนั้นเอกชนจึงมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร  ซึ่ง กรอ. กรุงเทพฯ จะเป็นเวทีให้ผู้ว่าฯ กทม. ครม.กรุงเทพฯ ได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจกรุงเทพฯ ร่วมกับเอกชน ตั้งแต่คนตัวใหญ่ถึงคนตัวเล็กไม่เว้นแม้แต่คนจนเมือง 

นวัตกรรมตัวที่ 3 คนเป็นผู้ว่ากทมในยุคอุดมการณ์ทันสมัยของประชาธิปัตย์ที่มีตนเป็นหัวหน้าพรรคต้องไม่มองแค่ในกรุงเทพมหานคร เพราะกรุงเทพฯ วันนี้ได้เชื่อมต่อเหมือนเป็นเนื้อเดียวกับปริมณฑล มีประชากรที่เคลื่อนเช้าเย็นกลับมาจากนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ มีโครงสร้างพื้นฐานทั้งสาธารณูปโภค สาธารณูปการ มีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อไปถึงปริมณฑล เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจร่วมกัน ทั้งไฟฟ้า-ประปาต่อข้ามเขตได้โดยไม่รู้ตัว 

เพราะฉะนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องทำงานร่วมกัน ทั้งรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และต้องทำงานร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด และกลไกภาครัฐ ไฟฟ้า ประปาในปริมณฑลด้วย ทั้งหมดต้องสอดประสานกัน ต้องคิดวางแผนขุดทีเดียวไม่ต้องขุด 3 รอบ 4 หน่วยงาน ขุด 4 รอบ เพื่อไม่ให้สุดท้ายแล้วกรรมมาตกกับคนกรุงเทพฯ

‘จุรินทร์’ ย้ำชัดจุดยืนปชป. ไม่ป้องคนทำผิด ต่อต้านคุกคามทางเพศ ขอความเป็นธรรมให้ฝ่ายเสียหาย ชี้ รองผอ.ศูนย์เลือกตั้งทำหน้าที่ต่อไป

16 เม.ย. 2565 – ที่สนามบินนานาชาติ ดอนเมือง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป. ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวหลายราย ว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ในฐานะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) พูดถึงจุดยืนของพรรคชัดเจนแล้ว คงจะไม่พูดซ้ำอีก แต่ขอเรียนว่าขณะนี้เรื่องไปถึงกระบวนการยุติธรรมแล้ว จึงขอให้กระบวนการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝ่ายที่ได้รับความเสียหาย ส่วนการคัดเลือกผู้อำนวยการ(ผอ.)ศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แทนนายปริญญ์นั้น เรายังมีรองผอ. อีก 9 คน ซึ่งคงทำหน้าที่ต่อไปได้

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ของพรรค หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอประเมิน แต่อย่างไรก็ตาม นายสุชัชวีร์ ยังคงเดินหน้าหาเสียงเต็มที่ ส่วนพรรคเข้าไปช่วยหาเสียงไม่ได้อยู่แล้ว เนื่องจากกฎหมายท้องถิ่นห้ามไว้ โดยเฉพาะผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมือง จึงขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็นไปมากกว่านี้

‘จุรินทร์’ ยืนยันไม่ล้วงลูกคดี ‘ปริญญ์’ ลั่นไม่ทิ้งปัญหา ด้วยการลาออก

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลง 2 จุดยืน คดี ‘ปริญญ์’ ยันไม่ล้วงลูกกระบวนการยุติธรรม พร้อมตั้ง ‘รัชดา’ คุมทีมสอบ-เร่งเยียวยาเหยื่อ ลั่นไม่ทิ้งปัญหา ด้วยการลาออก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงท่าทีพรรคต่อกรณีนายปริญญ์ พาณิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ถูกแจ้งข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต้องขอโทษต่อทุกสิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องและส่งผลมาถึงพรรคประชาธิปัตย์

"ผมมีส่วนเกี่ยวข้องนำนายปริญญ์เข้ามาที่พรรคเป็นรองหัวหน้าพรรคแม้จะต้องผ่านกระบวนการพรรคก็ตาม"

แม้จะไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่เมื่อเกิดเหตุในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคตนและกรรมการบริหารพรรคก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้ ทั้งนี้พรรคมีจุดยืน

1.) พรรคมีจุดยืนชัดเจนการต่อต้านการคุกคามทางเพศ

2.) พรรคมีความชัดเจนในการต่อต้านความรุนแรงต่อเด็กสตรีและคนในครอบครัว

ยืนยันพรรคจะไม่เข้าไปปกป้องและขอให้สังคมได้รับความสบายใจว่าพรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพราะถือเป็นกระบวนการที่ยอมรับได้ ยืนยันว่าพรรคจะไม่เพิกเฉยดูดายต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พรรคจะดำเนินการ

(1) จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นแม้นายปริญญ์จะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้วก็ตาม โดยกรรมการชุดนี้จะพิจารณามาตรการป้องกันเยียวยา รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติคนที่เข้ามาทำหน้าที่ในพรรคหลังจากนี้ด้วย โดยจะมีน.ส.รัชดา ธนาดิเรก เป็นประธาน

(2) พรรคจะมีการตั้งกรรมการตรวจสอบในเรื่องการโพสต์ในไลน์พรรค โดยจะมีการตั้งนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคตรวจสอบต่อไป

นอกจากนี้ ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อป้องกันผลกระทบฯ ตนจะลาออกจากประธานคณะกรรมการ 2 ชุดและต้องขออภัยนายกฯ ที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าที่มาแถลงข่าวครั้งนี้

ยอมรับว่ากรณีที่เกิดขึ้นกระทบกับพรรคเป็นอย่างมากแต่คงไม่ไปพูดถึง เพราะจะทำให้มีการย้อนไปถึงพรรคในอดีต

ส่วนกรณีมีการกล่าวอ้างนายศุภชัย พาณิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี บิดานายปริญญ์ นายชวนหลีกภัยประธานรัฐสภาได้ระบุไปแล้วว่า นายศุภชัยไม่มีพฤติกรรมที่จะก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top