Friday, 3 May 2024
จุรินทร์

"จุรินทร์" สั่งลุย "ตลาดข้าวส่งออก" เร่งส่งเสริมการขายในต่างประเทศ เน้นเชิงรุก ทั้ง "เจรจา-โปรโมชั่น-OBM"

นางมัลลิกา บุญมีตระกูลมหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามรายงานสถานการณ์ตลาดข้าวโซนใกล้ โดยสำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 1 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศรายงาน พร้อมนายจุรินทร์ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เร่งดำเนินการตามแผนโครงการและกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกสินค้าข้าวประจำปี 2565 เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-2567 โดยยึดหลักการ “ตลาดนำการผลิต” โดยอาศัยเครือข่ายของทูตพาณิชย์ในฐานะเซลส์แมนประเทศที่กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้การส่งออกข้าวไทยบรรลุเป้าหมายปริมาณ 6 ล้านตันตลอดปี 2564

นางมัลลิกา ระบุว่า ทั้งนี้ตลาดส่งออกข้าวไทยบางประเทศที่ประสบความสำเร็จในการขยายตลาด เห็นได้จากอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ตลาดญี่ปุ่น นำเข้าข้าวจากไทยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 ปริมาณ 215,580 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 คิดเป็นมูลค่า 3,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวขาว 100% เป็นหลัก รองลงมา ได้แก่ ข้าวเหนียวและข้าวหอมมะลิ ตามลำดับ ส่วนใหญ่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ขนมเซมเบ้ ผลิตเหล้าอาวาโมริ ซึ่งเป็นเหล้าพื้นเมืองของจังหวัดโอกินาวา ข้าวหอมมะลิของไทยเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคญี่ปุ่นที่นิยมอาหารไทย และชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นซึ่งนิยมบริโภคข้าวเมล็ดยาวมากกว่าข้าวเมล็ดสั้น

รวมทั้งข้าวเหนียวจากไทยยังได้รับการยอมรับจากชาวญี่ปุ่นว่า มีคุณภาพดีและสามารถนำมาผลิตเหล้าสาเกได้รสชาติดีเยี่ยมอีกด้วย โดยทีมเซลส์แมนที่โตเกียวได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวหอมมะลิและข้าวไรซ์เบอรี่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Rakuten การร่วมกับทีมเซลส์แมนจังหวัดจัดเจรจาการค้าออนไลน์ การประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai SELECT โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง รวมทั้งแพลตฟอร์มแนะนำร้านอาหาร “Tabelog” ซึ่งเป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับซูปเปอร์มาเก็ต Beisia ในเมืองรอง การใช้การ์ตูนคาแรคเตอร์มาประชาสัมพันธ์ข้าวไทย การส่งเสริมการจำหน่ายอาหารไทยผ่านรถอาหารเคลื่อนที่หรือฟู้ดทรัค เป็นต้น

ตลาดจีน นำเข้าข้าวจากไทยปริมาณ 339,177 ตันในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 89.15 คิดเป็นมูลค่า 5,716.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ39.19 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยทีมเซลส์แมนประเทศที่จีนได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสินค้าข้าวไทยทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ การจำหน่ายข้าวไทยผ่านร้านขายสินค้าไทยบนแพลตฟอร์มเถาเป่า การจัดกิจกรรม In-Store Promotion การร่วมมือกับร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ส่งเสริมการใช้ข้าวไทยในเมนูอาหารและให้ Key Opinion Leader (KOL) รีวิว รวมถึงการจัดทำคลิปวิดีโอสั้นเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้าวไทยให้เพิ่มขึ้น

ตลาดมาเลเซีย นำเข้าข้าวจากไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 (ก.ค. - ก.ย. 64) มูลค่ารวม 30.97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 5,239.66 และเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 2 ร้อยละ 594.39 ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้การนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นจากความต้องการซื้อเพื่อกักตุนหรือสำรองไว้ที่บ้านช่วงที่มีมาตรการ Lockdown รวมถึงการได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในหลายรัฐซึ่งแหล่งปลูกข้าวสำคัญของประเทศ อาทิ เคดาห์ กะลันตัน ตรังกานู (ฝั่งตะวันตก) ซาบาห์ และซาราวัก (ฝั่งตะวันออก)ตลาดฟิลิปปินส์ ปริมาณนำเข้าข้าวจากไทย 95,999 ตันในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2564 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 51.09 และคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีโดยมีปัจจัยบวกทั้งจากผลผลิตข้าวไทยในปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาข้าวไทยที่มีแนวโน้มลดลงในระดับที่แข่งขันได้ รวมทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง โดยที่ผ่านมา ทีมเซลส์แมนประเทศที่กรุงมะนิลาได้จัดกิจกรรมขยายตลาดข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดประชุมหารือกับผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ และจัดกิจกรรมส่งเสริมข้าวไทยผลิตภัณฑ์ข้าวไทยภายใต้แคมเปญ Think Rice Think Thailand ร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ซึ่งช่วยกระตุ้นการจำหน่ายและการบริโภคข้าวไทยในตลาดฟิลิปปินส์เป็นอย่างดี เป็นต้น 

‘จุรินทร์' มั่นใจ ปชป.ไม่ใช่ยุคตกต่ำ ระบุ คนที่เหลืออยู่ใน ปชป.ยังเหนียวแน่นอยู่กับพรรค หลัง 'นิพิฏฐ์' ลาออก 'เชื่อ' ชิงเก้าอี้รองหัวหน้าพรรคภาคใต้แข่งตามกติกา ปัดไม่รู้ 'บิ๊กตู่' เดินสายกดปุ่มจ่ายเงินประกันรายได้ที่สุพรรณบุรี 13 ธ.ค.นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้มีสมาชิกคนอื่นทยอยลาออก หรือกระทบขวัญกำลังใจของคนที่เหลืออยู่ในพรรค  เพราะไม่มีความมั่นคงภายในพรรค  ว่า  ตนมั่นใจว่าคนที่อยู่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ยังเหนียวอยู่กับพรรค เพราะคนส่วนใหญ่ยังอยู่  ทั้งนี้ ส่วนตัวยังมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังเดินหน้าต่อไปได้  อีกทั้งปัจจุบันเรากำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี แม้อาจจะมีปัญหาอุปสรรคบ้าง แต่พรรคก็ต้องฟันฝ่าต่อไป  ส่วนคนที่อยู่ในพรรคก็ยังต้องจับมือกันเดินไปข้างหน้า

"ผมไม่ขอพูดถึงกรณีของคุณนิพิฏฐ์ แต่ในภาพรวมทั่วไป  ผมเชื่อว่าประชาชนแยกแยะได้ว่าผู้ที่ออกไปแต่ละคนนั้นเกิดจากปัญหาอุดมการณ์ของพรรคหรือปัญหาส่วนตัว เชื่อว่าแต่ละคนก็เป็นแต่ละกรณีไป"นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่านายนิพิฏฐ์ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  หลังจากนายนิพิฏฐ์ลงแข่งขันในตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วแพ้เสียงโหวตภายในพรรค  ตนและพรรคได้แต่งตั้งให้นายนิพิฏฐ์เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีในส่วนของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด เท่าที่พรรคมีแล้วจะให้ได้รองจากตำแหน่งรัฐมนตรี  แต่ถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้ตรวจสอบว่านายนิพิฏฐ์ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วหรือไม่

เมื่อถามย้ำว่านายนิพิฏฐ์ได้แจ้งลาออกกับนายจุรินทร์ด้วยตัวเองแล้วหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ตนทราบจากข่าว และเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าเขาไปลาออกจากพรรคเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.)  ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีนั้น ตนยังไม่ได้ทราบว่าเขาลาออกแล้วหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบ  ส่วนกรณีที่นายนิพิฏฐ์ไปอำลานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพียงคนเดียวนั้น ตนไม่ทราบ คงต้องไปถามนายนิพิฏฐ์ว่าได้บอกใครคนอื่นอีกหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามถึงการชิงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลภาคใต้ ซึ่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส. สงขลา และนายชินวรณ์บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่มีข่าวว่าแข่งขันกันอย่างรุนแรง เกรงว่าจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  พรรคมีกฎเกณฑ์กติกาและมีวิถีทางประชาธิปไตยภายในพรรค  ดังนั้นตำแหน่งใดที่มีผู้สนใจลงสมัครเกิน 1 คน ก็ต้องมีการลงคะแนนภายในพรรค ไม่มีใครชี้ได้ว่าจะให้คนนั้นคนนี้เป็น ยกเว้นเหลือเพียงคนเดียว ซึ่งพรรคก็ต้องลงมติพิจารณาด้วยเช่นกัน ว่าเห็นชอบหรือไม่ เป็นวิถีประชาธิปไตยภายในพรรค ซึ่งเป็นข้อดีและเป็นกติกาที่พักยึดถือมาเนิ่นนาน พรรคประชาธิปัตย์จึงอยู่ได้มา 70-80 ปี เรามีกฎเกณฑ์กติกาที่ชัดเจนแน่นอน และทุกคนยอมรับในกติกา

ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ถือว่าเป็นยุคที่พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำมากที่สุดใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  "ความจริง ถ้าเราจะบอกว่าได้ผู้แทนน้อยถือว่าตกต่ำนั้น เราก็เคยทั้งตกต่ำและหลังจากนั้นก็กลับมารุ่งเรือง และก็ตกต่ำพร้อมรุ่งเรืองอีกครั้ง หลายครั้งหลายรอบ เที่ยวนี้ก่อนที่ผมมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เราเหลือส.ส.เพียง 50 เสียง จาก 159 เสียง ถือว่าได้เสียน้อยลงมา หายไป 2 ใน 3  แต่เมื่อผมเข้ามาก็พยายามรวบรวมสรรพกำลัง มาพื้นฟูพรรค ผมคิดว่ามาถึงวันนี้ก็ค่อยๆดีขึ้น ซึ่งมีทั้งคนเก่าที่เคยออกจากพรรคไปกลับเข้ามา และมีทั้งคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคเยอะมาก ซึ่งเป็นไปตามแคมเปญของพรรคที่ว่า เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ ประสบความสำเร็จพอสมควร 

ชาวนา - ชาวสวนยางได้เฮ!! "จุรินทร์" คิกออฟจ่ายเงินประกันรายได้ "ข้าว-ยาง" พร้อมกันทั่วประเทศวันนี้!!

วันที่ 9 ธันวาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ผู้บริหารกรมข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)แถลงข่าว จ่ายเงินประกันรายได้ ข้าว-ยาง ปี 3 ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ตึกสำนักงานปลัด กระทรวงพาณิชย์

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่สำคัญสำหรับเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับผู้ปลูกยางพารา เนื่องจากมีนโยบายสำคัญคือนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมันและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยดำเนินการมาแล้ว 2 ปี ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ 3

สำหรับประกันรายได้ข้าวกับยางนั้น รัฐบาลได้ค้างจ่ายเงินส่วนต่างที่จะต้องจ่ายให้กับเกษตรกร เพื่อชดเชยกับราคาตลาดที่ไม่ถึงรายได้ที่ประกัน สำหรับข้าวค้างจ่าย 5 งวด และยางค้างจ่าย 2 งวด แต่หลังจากท่านนายกรัฐมนตรีขยายเพดานตามพระราชบัญญัติวินัยการคลัง เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564  มีผลให้เพดานเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 35% สามารถนำเงินที่มีอยู่มาจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับยางพาราได้

สำหรับข้าว ปีที่ 3 เงินที่เกษตรกรจะได้รับ มี 3 ก้อน

>> ก้อนที่หนึ่ง เงินส่วนต่าง โดยงวดที่ 1-2 กับงวดที่ 3 บางส่วน ได้จ่ายให้กับเกษตรกรไปแล้ววงเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท ส่วนงวดที่ 3 ที่เหลือ จะมาจ่ายให้ครบโดยเริ่มจ่ายวันนี้ (9 ธ.ค. 2564) โดยจ่ายงวดที่ค้างอยู่ 5 งวดพร้อมกัน คือ งวดที่ 3 บางส่วนและงวด 4-7 รวมเป็นเงิน 64,847 ล้านบาท

ส่วนงวดที่ 8 จะจ่ายวันที่ 14 ธ.ค.เป็นเงิน 3,720 ล้านบาท  และงวดที่ 9-33 จะทยอยจ่ายทุก 7 วันจนครบ โดยงวดสุดท้าย วันที่ 27 พ.ค. 2565   

เกษตรกรครัวเรือนที่ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดสำหรับผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ สูงสุด 58,988 บาท  ข้าวหอมนอกพื้นที่สูงสุด 60,086 บาท ข้าวหอมปทุม สูงสุด 36,358 บาท ข้าวเปลือกจ้าว สูงสุด 67,603 บาท ข้าวเหนียว 71,465 บาท สามารถช่วยชาวนาได้ประมาณ 4.7 ล้านครัวเรือน

>> เงินก้อนที่สอง คือเงินในมาตรการคู่ขนานซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางเป็นเวลา 5 เดือนเพื่อไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดมากจนเกินไป ช่วยตันละ 1,500 บาท หรือสหกรณ์เก็บไว้จะช่วยตันละ 1,500 บาท และช่วยเหลือดอกเบี้ย ถ้าสหกรณ์เก็บข้าว 12 เดือน ช่วยดอกเบี้ย 3% ถ้าโรงสี เก็บข้าว 6 เดือน จะช่วยดอกเบี้ย 3% เพื่อไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดมากเกินไปและไปกดราคาข้าวในตลาด

>> ก้อนที่สาม คือ ช่วยค่าบริหารจัดการหรือปรับปรุงคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท โดยจ่ายวันที่ 13 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป เป็นเงิน 53,871 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.7 ล้านครัวเรือน

ส่วนชาวนาที่น้ำท่วมเสียหายจะได้เงินอีกก้อนหนึ่ง คือ เงินชดเชยความเสียหายจากอุทกภัยหรือภัยธรรมชาติ

โดยชาวนาที่ปลูกข้าวแล้วน้ำท่วม จะยังได้รับเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าว เพราะขอให้ปลูกจริง ไปขึ้นทะเบียนแม้พืชผลจะเสียหายเพราะภัยธรรมชาติจะยังได้รับเงินช่วยเหลือส่วนต่างเช่นกัน

สำหรับยางพาราจะเริ่มจ่ายงวดที่ 1-2 ในวันนี้ ( 9 ธ.ค. 2564) เช่นเดียวกัน โดยงวดที่ 1 วงเงินประมาณ 900 ล้านบาท งวดที่ 2 วงเงิน 540 ล้านบาท รวม 1,440 ล้านบาทโดยประมาณ และจะจ่ายงวดที่ 3-6 ทุกเดือนจนถึงเดือน เม.ย. 2565 โดยงวดที่ 3 จะเริ่มจ่ายวันที่ 7 ม.ค. 2565 วงเงิน 8,626 ล้านบาท  สำหรับยางพารามีเงินเตรียมไว้  10,065 ล้านบาท

โดยวงเงินสูงสุดที่ได้รับเฉพาะงวดที่ 1-2 ยางแผ่นดิบสูงสุด 3,835 บาทต่อครัวเรือนน้ำยางข้น 2,975 บาท และยางก้อนถ้วยจะไม่ได้รับเงินส่วนต่าง ที่ผ่านมายางราคาดีกว่าช่วงก่อน สำหรับน้ำยางข้น ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 57 บาท ตอนนี้ราคาไปกิโลกรัมละ 60 บาทแล้ว ยางก้อนถ้วย ประกันที่กิโลกรัมละ 23 บาท ตอนนี้ 25-26 บาทแล้วภาคอีสานมากกว่าภาคใต้ 1 บาทเพราะอยู่ใกล้แหล่งการส่งออก ซึ่งยางก้อนถ้วยราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกันมาเป็นปีแล้ว

 

‘ประชาธิปัตย์’ เคาะแล้ว!! ส่ง “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.

พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารวันนี้

>> เห็นชอบ “ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์”ป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และให้ความเห็นชอบผู้ที่จะลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง 50 เขต 50 คน

>> เห็นชอบ “นายอิสรพงษ์ มากอำไพ” เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขต 1 จังหวัดชุมพร และนางสาวสุภาพร กำเนิดผล เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สงขลา เขต 6

>> เห็นชอบให้จัดตั้งสาขาพรรคเพิ่มเติม 2 สาขา คือ จังหวัดนครนายก เขต 1 และสาขาพรรคจังหวัดสงขลา เขต 2

13 ธันวาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคภาคกทม.ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การประชุมในวันนี้มีวาระสำคัญ 2 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 การพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรค และพิจารณาผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) 50 เขต 50 คน วาระที่ 2 การพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดชุมพร เขต 1 และจังหวัดสงขลา เขต 6

โดยในวาระแรก ที่ประชุม กก.บห.พรรค มีมติเห็นชอบให้ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และให้ความเห็นชอบผู้ที่จะลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง 50 เขต 50 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นอดีต สก. 13 คน และเป็นคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่ ที่ก้าวเข้ามาร่วมงานกับพรรค 37 คน รวม 50 คน

สำหรับ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์นั้น จบปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม จากสถาบัน MIT สหรัฐอเมริกา เป็นอดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นนายกสภาวิศวกรสมัยที่ 7 เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านระบบรถไฟฟ้าในคณะกรรมการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าระดับประเทศ เป็นประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยในอดีต เป็นประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ เคยได้รับรางวัลเกียรติคุณระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัล President Eisenhower Fellowships 2012 เป็นประธานการประชุมงานอุโมงค์โลก 2012 (World Tunnel Congress 2012) นอกจากนั้นเป็นวิศวกรดีเด่นแห่งอาเซียน ปี 2012

“พรรคประชาธิปัตย์ภูมิใจที่ได้ต้อนรับเลือดใหม่คุณภาพ อย่าง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรค นับจากนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับชาวกรุงเทพ และเราหวังว่า ดร.เอ้ จะนำชัยชนะมาสู่พรรค นำชัยชนะมาสู่พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกคน ถ้าได้รับเลือกตั้งหรือได้รับโอกาสผมมั่นใจว่า ดร.สุชัชวีร์ และทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเปลี่ยนกรุงเทพเราทำได้อย่างแน่นอน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

พร้อมกับให้กล่าวถึงผลการพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม จังหวัดชุมพร เขต 1 และจังหวัดสงขลา เขต 6 ว่า ที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ความเห็นชอบ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จังหวัดชุมพร ซึ่งนายอิสรพงษ์ จบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปริญญาโท Coventry university ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีประสบการณ์ทางการเมือง เคยเป็นเลขานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร และเป็นผู้ช่วย ส.ส. นายจุมพล จุลใส จังหวัดชุมพร 

 

“จุรินทร์” เผยประชาธิปัตย์มี “เศรษฐกิจทันสมัย” เป็นคำตอบขับเคลื่อนไทย 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ร่วมงาน FINVERSE Financial TRENDS 2022 New Economic Forum จัดขึ้นที่ไปรษณีย์กลาง บางรัก พร้อมกับกล่าวถึงที่มาของงานว่า เกิดจากความคิดของประชาธิปัตย์ที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศทั้งในปัจจุบันและในวันข้างหน้าถ้าเรามีโอกาสรับใช้บ้านเมืองต่อไปในอนาคต ซึ่งได้เล็งเห็นมาตั้งแต่ 2 ปีก่อนหลังจากตนรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า ลำพังการขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้น เราจะอาศัยเฉพาะทีมงานเศรษฐกิจมหภาคขับเคลื่อนประเทศอย่างที่เคยทำมานั้นไม่พอ แต่เศรษฐกิจทันสมัยเป็นเรื่องที่จะก้าวเข้ามาหาเรา และเราต้องผ่านไปให้ได้ อยู่ด้วยกันให้ได้เพื่อพาประเทศนำไปสู่ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ให้มากขึ้น 

ด้วยเหตุนี้พรรคประชาธิปัตย์ จึงมีทีมเศรษฐกิจทันสมัย โดยมอบหมายให้ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ เป็นหัวเรือใหญ่ และที่ผ่านมามีกิจกรรมหลายอย่าง และวันนี้เป็นอีกครั้งที่จัดหัวข้อเศรษฐกิจยุคใหม่ในรูปแบบซีรีส์ และวันนี้ถือเป็นการนับหนึ่ง เรื่อง New Economic forum Series โดยเริ่มจากเทคโนโลยีทางด้านการเงิน เนื่องจากเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นโดยเฉพาะที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด เพราะคนพบกันยากขึ้น เทคโนโลยีจึงเป็นตัวเชื่อมสำคัญให้คนมีโอกาสพบกันผ่านจอได้ ดังนั้นเทคโนโลยีจึงสำคัญยิ่งและมามาก มาเร็ว กว่าที่คิดไว้ เพราะนั้น Blockchain Cryptocurrency Metaverse และ Digital Art จึงเป็นหัวข้อสำคัญกับยุคสมัย 

ซึ่งในงานจะมีวิทยากรหลายท่านจะมาให้คำตอบ และเป็นประโยชน์กับผู้ร่วมงาน รวมถึงจะเป็นประโยชน์กับประชาธิปัตย์ด้วย ทั้งหมดจะบันทึกไว้และจะได้นำไปปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนประเทศต่อไปในอนาคต เป็นนโยบายของพรรค ซึ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย วันนี้จึงเป็นรูปธรรมของการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาธิปัตย์ในการกำหนดนโยบายเพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป

สำหรับซีรีส์ต่อๆ ไปนอกจากเทคโนโลยีด้านการเงินแล้ว ยังมีเรื่อง Bio Economy ที่ตนให้ความสำคัญ เพราะในอนาคตประเทศจำเป็นต้องขับเคลื่อนหลายด้าน ซึ่งได้มอบหมายให้นายอรรถ เหมวิจิตรพันธ์ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้น แม้จะได้ข้อสรุปหลายเรื่อง แต่ยังต้องการความเห็นเพิ่มเติมเพื่อจะนำไปเติมเต็มต่อไป

นอกจากนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าเรื่อง Bio Economy นั้น นอกจากเป็นทางเลือกสำหรับขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศแล้ว ก็ยังเป็นทางรอดอีกทางหนึ่ง เพราะ Bio Economy เป็นการใช้ Local Content สูงมาก ทำให้โอกาสที่เงินจะไปตกหล่นที่อื่นน้อยกว่าหลายตัว ซึ่งในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำมาเรียงดูแล้วจะเห็นว่าหากนำ Bio Economy มาขับเคลื่อนจะทำให้มีกำไรเหลือในประเทศสูง เนื่องจากประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก และเป็นประเทศที่มีพื้นฐานเกษตรกรรม ที่วัตถุดิบจำนวนไม่น้อยเป็นวัตถุดิบฐานเกษตร ซึ่งจะทำให้สอดรับกับการที่ประเทศไทยจะพัฒนา Bio Economy เพื่อนำรายได้ให้ประเทศอย่างจริงจังต่อไป 

นอกจากนี้ยังมีหัวข้อถัดๆ ไปที่จะจัดขึ้นจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Creative Economy ซึ่งไม่ใช่แค่สร้างผลิตภัณฑ์ หรือสร้างบริการมูลค่าเพิ่มให้ประเทศ หรือทำรายได้ให้เจ้าของกิจการ แต่ Creative Economy ต้องตั้งเป้าหมายที่จะทำให้สินค้า บริการเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงไม่ใช่แค่เพิ่มมูลค่าเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่าง Digital Economy ในภาพรวม เรื่อง Silver Economy ซึ่งเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ที่เราต้องให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของผู้สูงอายุ ที่จะมีจำนวนมากขึ้น และประเทศไทยก็กำลังก้าวเข้าสู่ Aging Society 

'จุรินทร์' นำพาณิชย์ช่วยผู้ประกอบการ SMEs-Micro SMEs บุกตลาดต่างประเทศยุค New Normal 

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้เพิ่มสัดส่วนส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือ SMEs และ Micro SMEsให้สามารถบุกตลาดต่างประเทศอาจจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการทั้งนี้ให้เกิดความเป็นธรรมทางด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศด้วย

นางมัลลิกา ระบุว่า นายจุรินทร์รับรายงานจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่าผู้ประกอบการอีกกว่า 100 ราย ได้เข้าร่วม 50 กิจกรรมขยายตลาดในต่างประเทศทั่วโลก พร้อมเปิดรับสมัครผู้ประกอบการที่ต้องการขอรับการสนับสนุนรอบใหม่เพิ่มจนถึง 20 ม.ค.2565 

" โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างโอกาสเพื่อผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ต้องการทำการตลาดในต่างประเทศ โดยให้นโยบายตั้งแต่เริ่มว่าให้เพิ่มจำนวนสัดส่วนผู้ประกอบการรายเล็กร้อยละ 10-15 เพื่อเปิดโอกาสทางการค้าและให้ถือเป็นทิศทางต่อเนื่องในปี 2565 โดยให้เกิดเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม รายงานกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่าช่วงเดือน ธ.ค.2564 ได้มีการประชุมคณะกรรมการโครงการ SMEs Pro-active ครั้งที่ 4/2564 และมีมติอนุมัติการสนับสนุนผู้ประกอบการกว่า 100 ราย เข้าร่วม 50 กิจกรรมทั่วโลก " นางมัลลิกา กล่าว 

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กิจกรรมที่จะสนับสนุนครอบคลุมทั้งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า บริการในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) กิจกรรมสร้างโอกาสทางการค้าและเครือข่ายทางธุรกิจในต่างประเทศ (Business Opportunities & Partnership : BOP) และงานแสดงสินค้า บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ (Virtual Exhibition) โดยประเภทสินค้าที่ได้รับการอนุมัติมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าอาหาร โดยเป็นกิจกรรมในประเทศแถบภูมิภาคอาเซียนมากที่สุด รองลงมาเป็นประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออก 

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าสำหรับงานแสดงสินค้า บริการในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) ที่ได้รับการอนุมัติที่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการ เช่น 1. AMBIENTE , FRANKFURT ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ซึ่งงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนและสินค้ากลุ่ม LIFESTYLE ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 2.ALIMENTARIA, BARCELONA ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มระหว่างประเทศที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป 3.FOOD & HOTEL ASIA (FOOD & BEVERAGE) ณ ประเทศสิงคโปร์ เป็นงานแสดงสินค้าอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่ม สินค้าเกี่ยวกับโรงแรม และบริการด้านอาหาร 

ส่วนงานแสดงสินค้า บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ หรือ Virtual Exhibition ที่ได้รับการอนุมัติ อาทิ HKTDC.COM SOURCING แพลตฟอร์มของผู้จัดงานแสดงสินค้าที่รวบรวมสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อเชื่อมต่อบริษัทของผู้ผลิตสินค้ากับคู่ค้าจากทั่วโลก และช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงธุรกิจ รวมถึงเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ กระตุ้นยอดขาย และการจับคู่ทางธุรกิจ 

‘จุรินทร์’ สั่งเบรกขึ้นราคาไข่ - เนื้อไก่ เล็งหารือ ‘บิ๊กตู่’ เร่งชดเชยผู้เลี้ยงหมู

วันที่ 10 ม.ค. 65 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะราคาไข่ไก่ และเนื้อไก่ ราคาทยอยปรับขึ้น ว่า ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่อนุญาตให้มีการขึ้นราคาสินค้าดังกล่าว

ทั้งนี้ อาจมีการฉกฉวยขึ้นราคา แต่ก็จะดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค แต่หากมีความจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าในรายการใด ผู้ประกอบการสามารถทำเรื่องมายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิสูจน์เป็นรายกรณีไปว่ามีความจำเป็นแท้จริงหรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรรายย่อย จากการกดราคาทางนโยบาย เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาดอีก โดยมอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปติดตามราคาเนื้อไก่และไข่ไก่ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากกรณีเนื้อหมูได้ขึ้นราคาไปแล้ว ขณะเดียวกันยังต้องช่วยเหลือดูแลกับเกษตรกรรายย่อยด้วย โดยต้องให้สมดุลกันระหว่างผู้บริโภคและเกษตรกรรายย่อย

"จุรินทร์  " นำทัพ ลุยปราศรัย ก่อนโค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อม สงขลา

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ ( 12 ม.ค.) นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ เพื่อหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 6 ให้กับนางสาวสุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครหมายเลข 1  พรรคประชาธิปัตย์ ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา  

นางดรุณวรรณ กล่าวว่าการลงพื้นที่หาเสียงในวันนี้นอกจากการพบปะมวลชนกลุ่มต่าง ๆ แล้ว ไฮไลท์สำคัญคือการปราศรัยใหญ่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ที่นายจุรินทร์พร้อมด้วยขุนพลพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมกันปราศรัย เพื่อชู ‘น้ำหอม’ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครของพรรคเป็น ส.ส.หญิงคนแรกของสงขลา ที่ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป 

โดยนายจุรินทร์ และคณะจะเดินทางไปสงขลาวันนี้ และใช้เวลาทั้งบ่ายเพื่อช่วยหาเสียงให้กับคุณน้ำหอม ผู้สมัครของพรรค และปิดท้ายด้วยการปราศรัยใหญ่ก่อนจะเดินทางกลับในวันเดียวกัน

สงขลา - “จุรินทร์” ย้ำชัด! ”น้ำหอม” สส.หญิงคนแรกของสงขลา ตำหนินักการเมืองบางคนไร้สติ ยกเงินสำคัญกว่าจรรยาบรรณ

บรรยากาศช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 6 สงขลา ค่ำคืนนี้ 12 ม.ค.64  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมด้วยขุนพลพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัคร”น้ำหอม’ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครของพรรคเป็น ส.ส.หญิงคนแรกของสงขลา โดยเปิดเวทีที่อาคารผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองสะเดา จ.สงขลา โดยมีประชาชนเข้าร่วมหลายพันคน

ประเด็นสำคัญที่เป็นไฮไลต์ของทุกเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ในการลุยหาเสียงนั้นคือความพยายามในการสร้างประวัติศาสตร์หรือตำนานบทใหม่ให้ผู้หญิงเป็นสส.คนแรกของจังหวัดสงขลา โดยผู้หญิงคนนั้นชื่อ “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขุนพลหลายคนที๋ขึ้นเวทีพูดตรงกันว่าค่ำคืนนี้ไม่ได้มาหาเสียงแต่มาขอคะแนนเสียงจากประชาชนโดยตรง และไม่พลาดที่จะเอ่ยถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของสนามเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะข้อความที่พูดโจมตีกันในเรื่องของความร่ำรวยเงินทองของผู้สมัคร

 

ถึงรอบชาวสวนยาง!! โอนเงินประกันรายได้ยางงวด 3 แล้ว! เกษตรกรชาวสวนยาง 1.88 ล้านราย ยิ้มออก

ยางพารา เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจหลักของไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตเกษตรกรเกือบ 2 ล้านครัวเรือน สาเหตุที่ประเทศไทยปลูกยางพารามากขนาดนี้ นั่นเพราะยางพาราเป็นพืชที่ทำรายได้สม่ำเสมอ กรีดน้ำยางได้เกือบทุกวัน เป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่มีตลาดรองรับ 100% และยังให้ผลผลิตนานกว่า 15 ปีต่อต้น

แต่ทว่า แม้ไทยจะเป็นประเทศผู้ผลิตยางพาราอันดับหนึ่งของโลก แต่กลับไม่สามารถกำหนดราคายางพาราเองได้ ทำให้เกษตรกรต้องเผชิญกับความผันผวนของราคา ส่งผลให้รายได้ไม่แน่นอน ท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลจำเป็นต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางในช่วงที่ภาวะราคายางตกต่ำ

ดังเช่น รัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่ได้ใช้นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ในการบริหารจัดการ ผ่านกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีหัวเรือใหญ่ ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ขับเคลื่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงการนี้ เป็นนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้หาเสียง เมื่อครั้งเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 นั่นเอง

ในส่วนของยางพารา โครงการดังกล่าวเป็นการประกันรายได้ตามการผลิตแต่ละประเภท ได้แก่ ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพดี ประกันรายได้ที่ราคา 60 บาท/กิโลกรัม, น้ำยางสด (DRC 100%) ประกันรายได้ที่ราคา 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ประกันรายได้ที่ราคา 23 บาท/กิโลกรัม 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top