‘จุรินทร์' มั่นใจ ปชป.ไม่ใช่ยุคตกต่ำ ระบุ คนที่เหลืออยู่ใน ปชป.ยังเหนียวแน่นอยู่กับพรรค หลัง 'นิพิฏฐ์' ลาออก 'เชื่อ' ชิงเก้าอี้รองหัวหน้าพรรคภาคใต้แข่งตามกติกา ปัดไม่รู้ 'บิ๊กตู่' เดินสายกดปุ่มจ่ายเงินประกันรายได้ที่สุพรรณบุรี 13 ธ.ค.นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้มีสมาชิกคนอื่นทยอยลาออก หรือกระทบขวัญกำลังใจของคนที่เหลืออยู่ในพรรค  เพราะไม่มีความมั่นคงภายในพรรค  ว่า  ตนมั่นใจว่าคนที่อยู่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ยังเหนียวอยู่กับพรรค เพราะคนส่วนใหญ่ยังอยู่  ทั้งนี้ ส่วนตัวยังมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังเดินหน้าต่อไปได้  อีกทั้งปัจจุบันเรากำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี แม้อาจจะมีปัญหาอุปสรรคบ้าง แต่พรรคก็ต้องฟันฝ่าต่อไป  ส่วนคนที่อยู่ในพรรคก็ยังต้องจับมือกันเดินไปข้างหน้า

"ผมไม่ขอพูดถึงกรณีของคุณนิพิฏฐ์ แต่ในภาพรวมทั่วไป  ผมเชื่อว่าประชาชนแยกแยะได้ว่าผู้ที่ออกไปแต่ละคนนั้นเกิดจากปัญหาอุดมการณ์ของพรรคหรือปัญหาส่วนตัว เชื่อว่าแต่ละคนก็เป็นแต่ละกรณีไป"นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่านายนิพิฏฐ์ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  หลังจากนายนิพิฏฐ์ลงแข่งขันในตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วแพ้เสียงโหวตภายในพรรค  ตนและพรรคได้แต่งตั้งให้นายนิพิฏฐ์เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีในส่วนของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด เท่าที่พรรคมีแล้วจะให้ได้รองจากตำแหน่งรัฐมนตรี  แต่ถึงขณะนี้ตนยังไม่ได้ตรวจสอบว่านายนิพิฏฐ์ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วหรือไม่

เมื่อถามย้ำว่านายนิพิฏฐ์ได้แจ้งลาออกกับนายจุรินทร์ด้วยตัวเองแล้วหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ตนทราบจากข่าว และเจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่าเขาไปลาออกจากพรรคเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.)  ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีนั้น ตนยังไม่ได้ทราบว่าเขาลาออกแล้วหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบ  ส่วนกรณีที่นายนิพิฏฐ์ไปอำลานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพียงคนเดียวนั้น ตนไม่ทราบ คงต้องไปถามนายนิพิฏฐ์ว่าได้บอกใครคนอื่นอีกหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามถึงการชิงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลภาคใต้ ซึ่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส. สงขลา และนายชินวรณ์บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่มีข่าวว่าแข่งขันกันอย่างรุนแรง เกรงว่าจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นหรือไม่  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  พรรคมีกฎเกณฑ์กติกาและมีวิถีทางประชาธิปไตยภายในพรรค  ดังนั้นตำแหน่งใดที่มีผู้สนใจลงสมัครเกิน 1 คน ก็ต้องมีการลงคะแนนภายในพรรค ไม่มีใครชี้ได้ว่าจะให้คนนั้นคนนี้เป็น ยกเว้นเหลือเพียงคนเดียว ซึ่งพรรคก็ต้องลงมติพิจารณาด้วยเช่นกัน ว่าเห็นชอบหรือไม่ เป็นวิถีประชาธิปไตยภายในพรรค ซึ่งเป็นข้อดีและเป็นกติกาที่พักยึดถือมาเนิ่นนาน พรรคประชาธิปัตย์จึงอยู่ได้มา 70-80 ปี เรามีกฎเกณฑ์กติกาที่ชัดเจนแน่นอน และทุกคนยอมรับในกติกา

ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ถือว่าเป็นยุคที่พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำมากที่สุดใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  "ความจริง ถ้าเราจะบอกว่าได้ผู้แทนน้อยถือว่าตกต่ำนั้น เราก็เคยทั้งตกต่ำและหลังจากนั้นก็กลับมารุ่งเรือง และก็ตกต่ำพร้อมรุ่งเรืองอีกครั้ง หลายครั้งหลายรอบ เที่ยวนี้ก่อนที่ผมมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เราเหลือส.ส.เพียง 50 เสียง จาก 159 เสียง ถือว่าได้เสียน้อยลงมา หายไป 2 ใน 3  แต่เมื่อผมเข้ามาก็พยายามรวบรวมสรรพกำลัง มาพื้นฟูพรรค ผมคิดว่ามาถึงวันนี้ก็ค่อยๆดีขึ้น ซึ่งมีทั้งคนเก่าที่เคยออกจากพรรคไปกลับเข้ามา และมีทั้งคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคเยอะมาก ซึ่งเป็นไปตามแคมเปญของพรรคที่ว่า เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ ประสบความสำเร็จพอสมควร 

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า  นอกจากนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็จะทำให้ได้เห็นภาพคนรุ่นใหม่เดินเข้าพรรคอีก  เมื่อถามถึงความชัดเจนกรณีที่มีข่าวว่าจะส่งนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์  นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ พรรคจะพิจารณาว่าจะส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้งถึงวันนั้นจะแถลงให้ทราบ

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเดินทางไปยังจ.สุพรรณบุรี เพื่อเป็นประธานการจ่ายเงินในการในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการคู่ขนานปีการผลิต ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ว่า  ตนไม่ทราบเรื่องนี้