Tuesday, 20 May 2025
ก้าวไกล

‘เท่าพิภพ’ ค้านฟ้องแอดมิน ‘ประชาชนเบียร์’ ชี้!! กม.มีช่องโหว่ นายทุนทำได้ แต่ปชช. โดนคดี

‘ก้าวไกล’ ค้านฟ้องแอดมิน ‘ประชาชนเบียร์’ ชี้กฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์ แทนที่จำกัดทุนใหญ่ กลับถูกใช้รังแกประชาชน-ผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมเดินหน้าแก้กฎหมายทันทีในสภาชุดหน้า

(27 มี.ค.66) เฟซบุ๊กเพจพรรคก้าวไกลโพสต์แสดงจุดยืนคัดค้าน กรณีที่คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แจ้งข้อกล่าวหาธนากร ท้วมเสงี่ยม หรือแอดมินเพจ ‘ประชาชนเบียร์’ ในคดีควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตรา 32 จากการโพสต์ถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 15 กรรม 15 โพสต์ ระวางโทษปรับ 50,000-500,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี ไม่รวมค่าปรับระหว่างวันที่ไม่แก้ไขโพสต์อีกหลายหมื่นบาทต่อวัน

โดยระบุว่า การฟ้องร้องคดีกับประชาชนดังกล่าว เป็นการใช้กฎหมายที่ขัดเจตนารมณ์ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน และแทนที่จะเป็นการจำกัดการโฆษณาของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ กลับกลายเป็นการใช้กฎหมายเพื่อรังแกประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย

พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 32 ที่ห้ามโฆษณาทั้งทางตรงเเละทางอ้อม อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ มีปัญหาในการตีความที่ผู้ใช้กฏหมายกระทำเกินกว่าขอบเขตเป็นอย่างมาก เช่น การจับกุมผู้โพสต์แก้วเบียร์ในเฟซบุ๊ก ทั้งที่เจ้าพนักงานผู้ฟ้องคดีไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ผู้นั้นรับเงินค่าโฆษณาหรือไม่

ในขณะที่กฎหมายนี้ถูกใช้ดำเนินคดีกับประชาชนทั่วไปอย่างกว้างขวาง แต่เมื่อเป็นกรณีกลุ่มทุนขนาดใหญ่ กลับสามารถอาศัยช่องโหว่ ด้วยการยิงโฆษณามาจากต่างประเทศ ตามข้อยกเว้นในวรรค 3 ที่ระบุยกเว้นการโฆษณาที่มีต้นกำเนิดนอกอาณาจักร ทำให้การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของรายใหญ่ ยิงจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยทำได้ แต่ผู้ประกอบการรายเล็ก แค่โพสต์ข้อความถึงกลับถูกดำเนินคดี

‘ก้าวไกล’ ไม่หวั่น!! หัวคะแนนซื้อเสียงเริ่มเคลื่อนไหว เชื่อ!! ปชช. ไม่รับเงินแลกการถอนทุนจากงบฯ ประเทศ

(28 มี.ค.66) นายสิริน สงวนสิน ว่าที่ผู้สมัครสมาชิก ส.ส. เขตทวีวัฒนา พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้งและกระแสความนิยมในพื้นที่ โดยกล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีการเปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 3 - 7 เม.ย. นั้น ตนได้เตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ รวมทั้งการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครตามที่ระเบียบ กกต.ระบุไว้ ก็มีความถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ และพร้อมยื่นสมัครได้ทันที ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนกระแสความนิยมในพื้นที่นั้น จากการสำรวจพบว่าประชาชนให้การตอบรับดีมาก โดยเฉพาะนโยบายรัฐสวัสดิการต่าง ๆ ที่มุ่งสร้างความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนค่อนข้างมั่นใจว่าสามารถปักธงส้มในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 31 ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน (ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง) ได้อย่างแน่นอน

‘โรม’ ฮึ่ม!! ‘ส.ว.ทรงเอ’ มอบตัว ยังไม่ใช่ความคืบหน้าที่น่าพอใจ  แจ้งเพียงข้อหาสมคบฟอกเงิน ไม่ใช่คดียาเสพติด 

‘โรม’ ชี้กรณี ‘ส.ว.ทรงเอ’ มอบตัว ยังไม่ใช่ความคืบหน้าที่น่าพอใจ แจ้งเพียงข้อหาสมคบฟอกเงิน ไม่ใช่คดียาเสพติด จี้ ปปง. เร่งยึด-อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง อัยการ-ตำรวจ เร่งดำเนินคดีต่อให้บริสุทธิ์ยุติธรรม

(28 มี.ค.66) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อกรณีที่ อุปกิต ปาจารียางกูร หรือ ‘ส.ว.ทรงเอ’ ที่มีสายสัมพันธ์กับขบวนการค้ายาเสพติดของ ทุน มิน ลัต เข้าพบผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อแจ้งความประสงค์ขอต่อสู้คดีเมื่อวานนี้ (27 มีนาคม) โดยระบุว่าแม้จะเป็นความคืบหน้า แต่ก็ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจอย่างถึงที่สุด เพราะข้อหาที่มีการแจ้งในเบื้องต้นยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงทั้งหมด แม้จะมีข้อหาสมคบกันฟอกเงิน แต่ข้อหาที่ ส.ว.อุปกิตควรได้รับจริงๆ คือข้อหาเดียวกันกับที่ทุน มิน ลัต และพวก ถูกแจ้งไปก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้น เพื่อรักษามาตรฐานทางกฎหมาย จึงควรมีการดำเนินคดีไปในลักษณะเดียวกันมากกว่า

‘อดิศักดิ์’ ประกาศถอนตัวจากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ‘ก้าวไกล’ พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

(29 มี.ค. 66) นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ หรือ ‘จ่าตา’ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม เขต 1 พรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงกรณีที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตสอบคัดเลือกตำรวจเมื่อวานนี้ (28 มีนาคม 2566) พร้อมขอยุติบทบาทผู้สมัครเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นายอดิศักดิ์ ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ตนได้ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ถือหมายมาที่บ้าน ก็ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนพร้อมหลักทรัพย์ประกันตัว ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่า ข่าวที่นำเสนอออกไป เหตุใดจึงมีความคลาดเคลื่อน เพราะตนไม่ได้ถูกบุกจับกุมแต่เป็นการมอบตัวด้วยตนเอง และได้รับประกันตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว

ตนอยู่กับพรรคก้าวไกลมาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ และในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ได้ทำงานให้พรรค นำปัญหาของประชาชนในพื้นที่มาให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลเป็นปากเสียงในสภา ส่งต่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา มีความผูกพัน มีหลายเหตุการณ์ที่เคยถูกคุกคามรังแก เคยถูกฟันคอจนบาดเจ็บสาหัส มาวันนี้ก็ถูกดำเนินคดี ซึ่งตนก็ยืนยันว่ายินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความจริง

แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เมื่อสังคมเกิดความสงสัย ตนซึ่งต้องการให้ทุกฝ่ายสบายใจ ทั้งพรรคก้าวไกลและผู้สนับสนุน ตนจึงขอยุติบทบาทในตำแหน่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกล เพื่อเปิดทางให้พรรคทำการสรรหาผู้สมัครที่มีความเหมาะสมในเขต 1 จ.มหาสารครามต่อไป ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ให้โอกาส และขอให้กำลังใจผู้สมัคร เครือข่ายแนวร่วม สมาชิก และผู้ปฏิบัติงาน ได้เดินหน้าต่อสู้ต่อไป ระหว่างนี้ตนขอถอนตัวเพื่อไปพิสูจน์ความจริง และเมื่อได้รับการพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมว่าไม่มีความผิดแล้ว ก็จะกลับมาลงสมัครอีกครั้ง โดยในระหว่างนี้จะยังคงช่วยงานพรรคก้าวไกลในการรณรงค์หาเสียงต่อไป

‘ธนาธร’ นำทีม ก้าวไกลสุรินทร์ เข้าพบพี่น้องชาติพันธุ์กูย ดัน ‘ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ในสภาฯ-พ.ร.บ.คุ้มครองชาติพันธุ์’

‘ธนาธร’ ช่วยหาเสียงสุรินทร์ พบกลุ่มชาติพันธุ์กูย ยก ‘ก้าวไกล’ ต่อยอดอุดมการณ์อนาคตใหม่ ดันตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ในสภาฯ - ผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองชาติพันธุ์

(29 มี.ค.66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้พรรคก้าวไกลที่จังหวัดสุรินทร์ โดยช่วงบ่ายได้พบพี่น้องชาติพันธุ์กูย ที่กอนกูยปุระ ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมชาติพันธุ์กูย อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องชาติพันธุ์กูย โดยมี ทัตพิชา เข็มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 5 พรรคก้าวไกล ในฐานะลูกหลานชาวกูย ร่วมแลกเปลี่ยนเรื่องประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมชาวกูย

ธนาธร กล่าวถึงแนวทางการทำงานการเมืองในประเด็นกลุ่มชาติพันธุ์ว่า ตั้งแต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ เราต้องการให้พี่น้องชาติพันธุ์ที่กระจายอยู่แต่ละท้องที่ในประเทศไทยได้มีตัวแทนเข้าไปในสภาฯ พรรคอนาคตใหม่จึงมีสัดส่วน ส.ส. ปีกชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น มานพ คีรีภูวดล หรือ ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ซึ่งเป็น 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล

ดังนั้นเชื่อว่าพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคการเมืองที่สานต่ออุดมการณ์อนาคตใหม่ จะโอบรับความหลากหลายและทำให้สภาฯ เป็นพื้นที่แสดงออกถึงความต้องการของกลุ่มชาติพันธุ์เช่นกัน นอกจากนั้น พรรคก้าวไกลยังประกาศด้วยว่าพร้อมผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและประเทศชาติ และสามารถกำหนดวิถีชีวิตตนเอง

ด้าน ทัตพิชา ร่วมเล่าประสบการณ์ของตนในวงพูดคุยว่า แต่เดิมไม่ทราบว่ามีบรรพบุรุษเป็นกูย แต่เมื่อเดินทางมายังกอนกูยปุระ จึงสังเกตว่าลายผ้าของกูยคล้ายกับผ้าของยาย ทำให้ทราบในภายหลังว่าตนมีเชื้อสายกูย ดังนั้น การอนุรักษ์องค์ความรู้และศิลปะวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ จึงมีความสำคัญมาก เป็นเรื่องที่มีคุณค่าทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ ได้เห็นความหลากหลายของสังคมไทย และอาจทำให้อีกหลายคนได้ทราบที่มาที่ไปของบรรพบุรุษตนเอง เช่นเดียวกับประสบการณ์ของตน

‘พิธา’ ควงผู้สมัคร ส.ส.ห้วยขวาง-วังทองหลาง เยือนตลาดโชคชัย 4  ลั่น!! ผลงานในสภา 4 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ ‘ก้าวไกล’ ทำงานคุ้มภาษี

‘พิธา’ ลุยตลาดโชคชัย 4 ช่วยหาเสียงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ห้วยขวาง-วังทองหลาง ย้ำผลงานในสภาพิสูจน์แล้ว ‘ก้าวไกล’ ทำงานคุ้มค่าภาษี ซื่อตรงต่อประชาชน พร้อมเต็มที่บริหารประเทศ

(29 มี.ค.66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ร่วมกิจกรรมหาเสียง พบปะประชาชนและแนะนำนโยบายพรรคก้าวไกล ที่ตลาดโชคชัย 4 พร้อมกับ เฉลิมชัย กุลาเลิศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 5 ห้วยขวาง-วังทองหลาง (ยกเว้นแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) พรรคก้าวไกล โดยได้รับการตอบรับจากประชาชน ทั้งพ่อค้าแม่ขายและผู้มาจับจ่ายใช้สอยอย่างอบอุ่น ระหว่างการเดินหาเสียงมีประชาชนจำนวนมากที่เข้ามาขอถ่ายรูปพร้อมพูดคุยกับพิธาและผู้สมัคร โดยบางคนได้ชูสามนิ้วเป็นกำลังใจให้ด้วย

‘พิธา’ ชู นโยบาย ‘เกษตรก้าวหน้า’ แก้ปัญหาเผาป่า ตัดต้นตอ PM 2.5 ใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนวิถีเกษตรกรรม

(30 มี.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ‘Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เรื่องวิธีแก้ปัญหาไฟป่า โดยข้อความระบุว่า…

ดับจุดแดง PM2.5 ด้วยนโยบาย ‘เกษตรก้าวหน้า’

หลังจากที่ผมได้เสนอต้นตอปัญหา PM2.5 ที่เกิดจากการขยายพื้นที่ทางการเกษตรในต่างประเทศ มีคำถามเข้ามาจำนวนมาก ว่า “ถ้าไม่เผา เรามีทางเลือกอะไร”

การลบจุดแดงที่เกิดจากการเผาในภาคเกษตรจากแผนที่ มองภาพให้ใหญ่กว่านั้นคือประเทศไทยต้องเปลี่ยนจากเกษตรที่พึ่งพาการเผา เป็นภาคเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีที่มีการลงทุนมากขึ้น ใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีเข้มข้นขึ้น และสร้างอุตสาหกรรมแปรรูปวัสดุเศษเหลือจากการเกษตร ให้เปลี่ยนจากขยะที่ต้องเผาทิ้งไปสร้างมูลค่า

1.) เปลี่ยนเกษตรแบบเผา เป็นเกษตรที่ใช้เครื่องจักร
สิ่งที่รัฐบาลทำได้ทันทีคือไปคุยกับธุรกิจเครื่องจักรทางการเกษตร และทำโครงการร่วมกัน เพื่อให้เกษตรกรสามารถ ซื้อเครื่องจักรในการเก็บเกี่ยว (อ้อย) และเตรียมดิน (ข้าว และข้าวโพด) โดยขอรับสินเชื่อที่ดอกเบี้ย 0% พร้อมการดูแลหลังการขาย สำหรับกลุ่มเกษตรกร/ สหกรณ์/ ผู้ประกอบการในชุมชนที่ให้บริการเกษตรกรในพื้นที่จำนวนมาก รัฐบาลสามารถให้เงินสนับสนุนอีกทางสูงสุด 25% เพื่อเร่งให้ภาคเกษตรไทยในพื้นที่ต่างๆ ให้ใช้เครื่องจักรกลมากยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยลดการเผาแล้ว ยังเป็นการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ของภาคเกษตรกรรมของประเทศในระยะยาว

นี่คือความสัมพันธ์ที่ควรจะเป็นระหว่างรัฐบาลและกลุ่มทุน พรรคก้าวไกลเราไม่ได้มองกลุ่มทุนเป็นศัตรูในทุกเรื่อง แต่ในเรื่องที่ต้องทำงานร่วมกันแล้วเกิดผลดีกับประเทศเราต้องสนับสนุนให้กลุ่มทุนสร้างการแข่งขันให้กับประชาชนคนตัวเล็ก แต่ในเรื่องที่กลุ่มทุนทำธุรกิจอย่างไม่รับผิดชอบจนเกิดผลกระทบกับประชาชน รัฐบาลก็ต้องกล้าจัดการอย่างถูกต้องเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังสนับสนุนให้เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ สามารถเปลี่ยนมาเป็นการปลูกไม้ยืนต้น ที่มีความหลากหลายและมีมูลค่าได้ โดยสามารถเลือกที่ใช้เพื่อการปลดหนี้ หรือการรับเป็นรายได้ประจำเป็นรายเดือนด้วย ซึ่งจะเป็นการลดการเผาวัสดุการเกษตรในระยะยาว

2.) เปลี่ยนขยะที่ต้องเผา เป็นเงินในกระเป๋าเกษตรกร
อีกอุตสาหกรรมที่เราจำเป็นต้องทำให้เกิดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรคืออุตสาหกรรมแปรรูปเศษวัสดุการเกษตร (by-product) ทั้งฟางข้าว ใบอ้อย และต้นข้าวโพด ซึ่งไม่ใช่แค่การลดการเผา แต่เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดและทำให้ผลผลิตจากการเกษตรสร้างเงินในกระเป๋าประชาชนมากที่สุดอีกด้วย

พรรคก้าวไกลมีนโยบาย สนับสนุนงบประมาณผ่านผู้ประกอบการ/ผู้รวบรวมรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตร ทั้งฟางข้าว ใบอ้อย และต้นข้าวโพด ให้สามารถรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตรเหล่านี้ในอัตรา 1,000 บาท/ตัน เพื่อมาใช้ประโยชน์ (เช่น อาหารสัตว์ ปุ๋ยอินทรีย์) และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ (เช่น ภาชนะบรรจุ) เกษตรกรสามารถได้รับการสนับสนุนโดยการขายให้กับผู้รวบรวมรายใดก็ได้

3.) ทุนสร้างตัว 100,000-1,000,000 ล้านบาท สร้างผู้ประกอบการแปรรูปวัสดุการเกษตร
นอกจากการรับประกันราคาฝั่งเกษตรกรแล้ว ผู้ประกอบการที่นำเศษวัสดุทางการเกษตรไปแปรรูป และ/หรือไปใช้ประโยชน์ก็เป็นภาคเศรษฐกิจที่ประเทศไทยต้องส่งเสริมให้เกิดขึ้นเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่จะลดการเผาในระยะยาว

ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลหรือบริหารกระทรวงเกษตรฯ เราจะมีนโยบายจัดสรรเงินทุนหมุนเวียนปลอดดอกเบี้ย+ทุนตั้งตัว 100,000 บาท/ราย เพื่อก่อตั้งธุรกิจ และทุนสร้างตัว 1,000,000 บาท/ราย เพื่อขยายกิจการให้ยั่งยืนในระยะยาว

4.) ฟรี! รับรองมาตรฐาน GAP-GMP-เกษตรอินทรีย์ ส่งสินค้าเกษตรคุณภาพดีไปทั่วโลก
เนื่องจากเกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่ยังไม่เข้าถึงการเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าประเภทพืชไร่และข้าว ซึ่งทำให้ไม่สามารถขายสินค้าเกษตรได้ราคาส่งออกต่างประเทศได้ เราจึงมีนโยบาย ‘รับรองมาตรฐาน GAP-GMP-เกษตรอินทรีย์ฟรี! ส่งสินค้าเกษตรคุณภาพดีไปทั่วโลก’

เมื่อเกษตรกรดำเนินการโดยปลอดการเผา และการดำเนินการอื่นๆ ตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (หรือ GAP) เกษตรกรจะสามารถขอรับมาตรฐาน GAP และ/หรือมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ได้ฟรี! โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นเวลา 2 ปี

5.) เลิกงบไฟป่าไม่โปร่งใส ให้งบตรงไปที่ท้องถิ่นและประชาชน
สุดท้าย การลบจุดแดง PM2.5 อย่างยั่งยืน เราต้องแก้ปัญหาไฟป่า ถามว่าทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาไฟป่าได้อย่างยั่งยืนกันแน่?

ส่องนโยบายเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดของ ‘ก้าวไกล’ ความไม่เข้าใจในหลักการจัดระเบียบการปกครองของไทย

วิเคราะห์นโยบายของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๖

น่าแปลกที่พรรคการเมืองพรรคนี้ ไม่เข้าใจในหลักการจัดระเบียบการปกครองของประเทศไทย ซึ่งแบ่ง
เป็น ๓ รูปแบบได้แก่ 

๑. ส่วนกลาง โดยราชการส่วนกลางมีอำนาจการตัดสินใจและการดำเนินการต่าง ๆ ได้แก่ คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่สังกัดราชการส่วนกลาง ที่สามารถใช้อำนาจบริหารครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นหลักที่ถือเอาสิทธิขาดในการปกครองเป็นที่ตั้ง

๒. ส่วนภูมิภาค โดยเกิดขึ้นจากข้อจำกัดของราชการส่วนกลางทำให้ล่าช้า และไม่ทั่วถึงทุกท้องที่พร้อม ๆ กัน ราชการส่วนกลางจึงแบ่งมอบอำนาจการตัดสินใจทางการบริหารในบางเรื่องให้เจ้าหน้าที่ของราชการส่วนกลางที่ส่งไปประจำปฏิบัติหน้าที่ในภูมิภาค/เขตการปกครองต่าง ๆ (Field office) สามารถปฏิบัติงานให้บรรลุ นโยบาย และเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของราชการส่วนกลาง

๓. ส่วนท้องถิ่น โดยราชการส่วนกลาง โอนอำนาจการปกครอง หรือ การบริหารบางส่วนบางเรื่องที่เกี่ยวกับการให้บริการสาธารณะให้องค์กรหรือนิติบุคคลอื่นรับไปดำเนินการแทน ภายในอาณาเขตตามแต่ละท้องถิ่น ด้วยงบประมาณและเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่น โดยมีอิสระพอสมควร มีราชการส่วนกลางทำหน้าที่เพียงกำกับดูแลและสนับสนุน (มิใช่การบังคับบัญชา) เป็นหลักที่ถือเอาเสรีภาพของประชาชนที่จะปกครองตนเองเป็นที่ตั้ง

รูปแบบของหน่วยงานปกครองท้องถิ่น แม้จะมีความหลากหลายในการจัดองค์กร/รูปแบบของหน่วยการปกครองท้องถิ่น แต่โดยทั่วไปอาจสรุปได้ว่า มีหน่วยการปกครองท้องถิ่นอยู่ ๓ รูปแบบ คือ...

(๑) หน่วยการปกครองท้องถิ่นประเภทมหานคร ได้แก่การบริหารมหานครต่าง ๆ อาทิ กรุงโตเกียว นครนิวยอร์ก กรุงลอนดอน สำหรับบ้านเราได้แก่ กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา (ทั้งสองแห่งถูกจัดให้เป็นหน่วยการปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษ) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ฯลฯ

(๒) หน่วยการปกครองท้องถิ่นของชุมชนที่เป็นเมือง อาทิ เทศบาล (บ้านเรามี ๓ ประเภทตามความหนาแน่นของประชากรได้แก่ นคร เมือง และตำบล) หรือ ในสหรัฐอเมริกา เรียกว่า เทศมณฑล (County)

(๓) หน่วยการปกครองท้องถิ่นของชุมชนขนาดเล็ก / ชุมชนชนบท อาทิ เมืองขนาดเล็ก/หมู่บ้าน (Village) ของสหรัฐอเมริกา หรือ องค์การบริหารส่วนตำบลของไทย

ในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ประเทศไทยมีการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดครบทุกจังหวัด โดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๔๙๘ เพื่อทำหน้าที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย สภาจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด โดยสภาจังหวัดประกอบด้วยสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำหน้าที่ทางนิติบัญญัติ กำหนดนโยบายการบริหารและควบคุมฝ่ายบริหาร อันมีหัวหน้าฝ่ายบริหาร คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด (ปัจจุบันหัวหน้าฝ่ายบริหารคือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง) เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารงาน ด้วยการนำมติหรือนโยบายของสภาจังหวัดไปพิจารณาดำเนินการ โดยมีพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดได้แก่พื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ของเทศบาลและสุขาภิบาล (ซึ่งยกเลิกไปแล้ว หลังจากการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลจนครบทั่วประเทศ)

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้มีพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งกำหนดให้สภาตำบลซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยย้อนหลัง ๓ ปีตั้งแต่ ๑๕๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป จัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล มีฐานะเป็นราชการส่วนท้องถิ่น และเป็นนิติบุคคล ทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดไม่มีพื้นที่ในการดำเนินกิจการ จึงสมควรปรับปรุงบทบาทและอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดให้สอดคล้องกันและปรับปรุงโครงสร้างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ได้มีการตราพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ โดยกำหนดให้พื้นที่จังหวัดเป็นพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด มีผู้บริหารสูงสูด คือ ตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด มาจากการเลือกตั้งของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยความเห็นชอบของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ปัจจุบันมาจากการเลือกตั้งโดยตรงแล้ว) เป็นผู้ปกครองและบังคับบัญชาข้าราชการส่วนจังหวัด และดำเนินกิจการส่วนจังหวัดควบคู่ไปกับสภาจังหวัด  

‘ณัฐชา’ แฉ เกมการเมืองเก่า ปล่อยเฟคนิวส์เกลื่อนไลน์ วอนหยุดปั้นน้ำเป็นตัว ชี้!! ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

(30 มี.ค. 66) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เมื่อปี่กลองการเลือกตั้งดังขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ สารพัดวิชามาร ปล่อยข่าวลวงหรือข่าวเท็จป้ายสีกัน เป็นวิธีของการเมืองแบบเก่า ที่เมื่อสู้ด้วยไอเดีย สู้ด้วยนโยบายไม่ได้ก็ใช้ความกลัวจากการโกหกประชาชนสู้แทน

“ขณะนี้ในไลน์เกลื่อนมาก โดยเฉพาะพรรคการเมืองเก่า ที่เล่นการเมืองแบบเก่า ๆ จะเป็นต้นทาง สั่งให้หัวคะแนนพรรคตัวเอง สร้างเฟคนิวส์ส่งเข้าไลน์กลุ่มหมู่บ้าน กลุ่มโรงเรียน กลุ่มชุมชนโจมตีพรรคก้าวไกลแบบถี่ ๆ ด้วยเนื้อหาที่บิดเบือน เช่นบอกว่า ถ้าเลือกพิธาเป็นนายกฯ จะยกเลิกบำนาญข้าราชการ ลูกหลานจะลำบาก เป็นการโกหกมดเท็จที่ไม่มีความจริงแม้แต่นิดเดียว ผมขอยืนยันเป็นครั้งที่ร้อยว่า พรรคก้าวไกลไม่มีและไม่เคยมีนโยบายยกเลิกบำนาญข้าราชการ” นายณัฐชา กล่าว

‘โรม’ จี้!! ‘ปปง.’ ทำหน้าที่ หลัง ‘อุปกิต’ ถูกแจ้งสมคบฟอกเงิน ชี้ หากมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ปปง. ต้องรับผิดชอบ 

(30 มี.ค. 66) นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการติดตามความความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ภายหลัง นายอุปกิต ปาจารียางกูร หรือ ‘ส.ว.ทรงเอ’ ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุน มิน ลัต’ เข้าพบผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และถูกแจ้งข้อกล่าวหาสมคบฟอกเงิน เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top