Tuesday, 20 May 2025
ก้าวไกล

‘ธนาธร’ ชี้ ‘กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น’ มีผลดีมหาศาล ช่วยขับเคลื่อน ศก.-เกิดการจ้างงาน-ลดความเหลื่อมล้ำ

(3 เม.ย. 66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย ชำนาญ จันทร์เรือง กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และวสันต์ เหลืองประภัสร์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมวงเสวนาวิชาการ ‘30 ปี ข้อถกเถียงเรื่องการกระจายอำนาจ กับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดของไทย’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแถลงข่าว โดย สันติสุข กาญจนประกร บรรณาธิการ The Voters ที่กำลังเปิดการรณรงค์ล่ารายชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ

ธนาธร ระบุว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในประเทศไทยนั้นยังเป็นโจทย์ที่ต้องมาพูดคุยกันในรายละเอียดอีกมาก แต่หลักการสำคัญที่สุดที่ไม่อาจขาดได้ คือการทำให้หน่วยการปกครองที่มีอำนาจสูงสุดทั้งในระดับจังหวัดและในระดับท้องถิ่นพื้นฐานอย่างเทศบาล และ อบต. ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งไม่ใช่รูปแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของการปกครองท้องถิ่น ภายใต้กลไกราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแน่ ๆ

การจัดความสัมพันธ์ระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของอำนาจและงบประมาณ ที่เต็มไปด้วย ‘งบฝาก’ ให้ท้องถิ่นทำภารกิจที่ไม่ใช่เรื่องของท้องถิ่น แต่แทบไม่มีงบประมาณให้ท้องถิ่นได้ทำเรื่องของตัวเองจริงๆ กลายเป็นอุปสรรคที่บดบังเจตนารมณ์ของประชาชนที่จะสร้างบ้านสร้างเมืองของตัวเอง ทำให้ประชาธิปไตยไม่มีความหมาย ทำให้การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ไม่มีครั้งไหนที่ทำให้ชีวิตดีได้อย่างมีนัยสำคัญ

ธนาธรกล่าวต่อไปว่า ในด้านหนึ่งการรวมศูนย์เช่นนี้คือต้นเหตุหนึ่งของความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงมากในประเทศไทย ที่สะท้อนออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดในต่างจังหวัด งานและรายได้ที่กระจุกตัวอยู่แต่เฉพาะตามเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ระบบราชการรวมศูนย์ยังเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งด้วย นั่นเป็นเพราะภายใต้โครงสร้างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การอนุมัติโครงการใด ๆ แม้กระทั่งการสร้างสะพานลอยสักเส้นหนึ่งในตำบลหนึ่ง ล้วนแต่เป็นเรื่องของส่วนกลาง ต้องรอให้ถูกหยิบยกมาพิจารณาแล้วรอการอนุมัติ ทำให้ทุกการแก้ปัญหาเป็นเรื่องล่าช้า

เรื่องของอำนาจท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องที่ส่งผลโดยตรงในทุกมิติของชีวิตประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง และได้เกิดข้อพิสูจน์มาแล้วว่าการกระจายอำนาจสามารถระเบิดพลังทางเศรษฐกิจได้จริง อย่างเช่นที่ญี่ปุ่น ที่ในปลายทศวรรษที่ 1980 เมื่อเผชิญกับวิกฤติฟองสบู่แตก ต้องหา new s-curve (อุตสาหกรรมใหม่) ที่จะพาประเทศไปข้างหน้าได้ สิ่งที่ญี่ปุ่นทำคือการกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ เกิดการยกเลิกกฎหมายกว่า 100 ฉบับที่เดิมเคยให้ส่วนกลางเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจในทุกเรื่องของท้องถิ่น เปลี่ยนมาเป็นการให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็ม จนแต่ละเมืองเริ่มมีการผลักดันสถานที่ท่องเที่ยว สินค้าและผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นขึ้นมาเป็นจุดขายใหม่ ออกแบบระบบขนส่งสาธารณะ และบริการสาธารณะต่าง ๆ ของตัวเองขึ้นมา

ธนาธรกล่าวต่อไป ว่า new s-curve คือสิ่งที่ประเทศไทยก็กำลังพยายามแสวงหาอยู่เช่นกัน เพราะอุตสาหกรรมที่เป็นเสาหลักของประเทศไทยมาโดยตลอดอย่างยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ มาถึงจุดอิ่มตัวของมันเองแล้ว แม้จะเพิ่มการลงทุนในรูปแบบเม็ดเงินใหม่ได้ แต่ไม่อาจเพิ่มกำลังการผลิต ไม่สามารถนำไปสู่การจ้างงานใหม่ ๆ ได้อีกต่อไป เรียกได้ว่าอุตสาหกรรมทั้งยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ จบที่ยุคนี้แล้ว

'ก้าวไกล' ตบเท้า ยื่น 92 บัญชีรายชื่อ  ด้าน 'พิธา' ลั่น!! พรรคส้มไม่ได้ส้มหล่น

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแคนดิเคตนายกรัฐมนตรี

นายพิธา กล่าวว่า ตนจะเป็นผู้จับหมายเลขด้วยตนเอง เบอร์อะไรก็ได้ เพราะเราตั้งใจทำงานให้กับประชาชน ตามยุทธศาสตร์ของเรา ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ เราต้องระบุเบอร์ในแต่ละเขต เพราะในบัตรเลือกตั้งแบบเขตไม่มีโลโก้พรรคและรายชื่อ ต้องดูว่าจะทำอย่างไรในการสื่อสารกับประชาชน เพื่อไม่ให้สับสน แต่ตนคิดว่าประชาชนจำโลโก้พรรคได้ หากได้เบอร์ 9 "อย่างที่ก้าวไกลให้ไทยก้าวหน้า"ก็จะดี 

เมื่อถามว่าวันนี้ได้เตรียมตัวมาแตกต่างกับเมื่อวานหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า วันนี้เตรียมเอกสารมาสมัครเอง เมื่อวานเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์  "วันนี้พิธามาสมัครงานกับพี่น้องประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป"

เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ เพราะเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีกรณีพรรคไทยรักษาชาติแล้ว นายพิธากล่าวว่า ไม่กดดัน ที่ทุกคนคิดการอาจจะไม่เป็นความจริงทั้งหมด ว่าเราเป็นพรรคส้มหล่น ต้องขอเรียนกับประชาชนว่า "พรรคส้มไม่ได้ส้มหล่น" มีหลายพื้นที่ ที่มีบ้านใหญ่ แต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ก็ชนะ ทำให้เห็นว่ามีประชาชนจำนวนมาก ที่ต้องการการเมืองแบบใหม่ ต้องการปลี่ยนแปลงประเทศ ที่อยู่ในระบบอุปถัมภ์ และต้องการกระจายอำนาจ เลือกตั้งผู้ว่าราชการด้วยตนเอง และต้องการงบประมาณท้องถิ่นเพื่อจัดการด้วยตนเอง

เมื่อถามว่า มั่นใจว่ากระแสพรรคจะดีกว่าพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ดีขึ้นทุกวัน เราไม่ได้แข่งขันกับอนาคตใหม่ เราแข่งขันกับตนเอง พรรคอนาคตใหม่คือพรรคของเรา และเพื่อนของเราในตอนนี้ที่จะสนับสนุน ให้เราสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับครั้งแรกที่เริ่มแคมเปญ ตนคิดว่าได้การตอบรับที่ดี มากขึ้นทุกวันที่เราหาเสียง และเรายังมีเวลาก่อนถึงการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชน ที่จะทำให้ได้รับการยอมรับและทำให้ประชาชนเชื่อ เชื่อในสิ่งที่เราจะทำให้ประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าในที่สุดจะได้รับโอกาส และได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

‘พิธา’ ยืนหนึ่ง!! ลงสมัครแคนดิเดตนายกฯ ก้าวไกล ย้ำ!! นโยบายพรรคชัดเจน - ทำงานคุ้มภาษี ปชช.

‘พิธา’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ ยื่นแคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียว ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ชูจำเบอร์ ส.ส.เขตก้าวไกล-บัตรบัญชีรายชื่อจำโลโก้พรรค ย้ำเลือกพรรคก้าวไกลชัดเจน ตรงไปตรงมา ทำงานคุ้มค่าเงินภาษีประชาชน

(4 เม.ย.66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 40 คน เดินทางโดยรถเมล์ NGV ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เพื่อไปสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง กรุงเทพฯ

พิธากล่าวว่า วันนี้พรรคก้าวไกล ยื่นชื่อตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว พร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อจำนวน 92 คน เรามั่นใจว่าทุกคนมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและความท้าทายใหม่ๆ ของประเทศ เป็นมืออาชีพพร้อมเข้าไปบริหาร เป็นคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น ด้านแรงงาน ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้านการเอาจริงกับปัญหาโลกร้อน ความเท่าเทียมทางเพศ สันติภาพชายแดนภาคใต้

ภายใน 100 วันแรก รัฐบาลก้าวไกลจะขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ด้วยการจัดประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด ผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้าทีพรรคก้าวไกลได้ริเริ่มไว้ เช่น สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า ผลักดันนโยบายหวยใบเสร็จ ปฏิวัติหลักสูตรการศึกษา รวมถึงการใช้ประโยชน์จากกองทุนส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นต้น

ส่วนในช่วงนี้ที่มีโพลสำนักต่าง ๆ ออกมาคาดการณ์จำนวน ส.ส. ที่พรรคก้าวไกลจะได้รับ ตนมีความเชื่อมั่นจากการลงพื้นที่ พรรคก้าวไกลได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ บางคนอาจยังไม่เป็นที่รู้จักของประชาชนในวงกว้าง แต่เชื่อว่าหากมีโอกาสได้แสดงความคิดความเห็น แสดงวิสัยทัศน์ผ่านเวทีต่าง ๆ ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทุกคนไม่เป็นรองใครในวงการนั้น ๆ จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้แน่นอน 

“การเมืองเป็นเรื่องของความเป็นไปได้ และทุกการเลือกตั้งคือโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลง พรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วจากการทำงานในสภาฯ ตลอด 4 ปี ว่าเรามีจุดยืนที่ชัดเจน ทำงานตรงไปตรงมา คุ้มค่าเงินภาษีประชาชน พร้อมแก้ปัญหาของประเทศที่ต้นตอ ครั้งนี้จึงมั่นใจเช่นกันว่าด้วยผู้สมัครที่เป็นคนใหม่และมีความสามารถ หากเราได้รับโอกาสจากประชาชนเป็นเสียงข้างมาก รัฐบาลก้าวไกลจะเปลี่ยนประเทศไทยได้” พิธากล่าว

ส่วนเรื่องหมายเลขพรรค พิธาเปิดเผยว่าไม่ว่าได้รับหมายเลขอะไร พรรคก้าวไกลพร้อมสู้ทุกเลข เชื่อว่าประชาชนจำโลโก้พรรคก้าวไกลได้ ขอให้ประชาชนจดจำเลขผู้สมัครเขตใบบัตรผู้สมัครเขต ส่วนในบัตรบัญชีรายชื่อให้จำโลโก้พรรค

“สิ่งที่ต้องขอย้ำไปถึงประชาชน คือการเลือกตั้งครั้งนี้มีบัตร 2 ใบ นอกจากผู้สมัครพรรคเดียวกันแต่ละเขตจะมีเบอร์ไม่เหมือนกันแล้ว ในบัตรเลือกตั้งยังไม่มีชื่อผู้สมัครด้วย จึงขอให้ประชาชนจดจำหมายเลขของผู้สมัครเขต ส่วนบัตรบัญชีรายชื่อที่เลือกพรรคนั้น เลือกเบอร์ที่มีโลโก้พรรคก้าวไกลปรากฏอยู่ เชื่อว่าประชาชนจดจำได้” พิธากล่าว

'ก้าวไกลกรุงเทพฯ' ตั้งเวทีริมถนน ประชาสัมพันธ์นโยบาย เน้นคนสัญจรในเมือง ผลตอบรับดี มีประชาชนมาให้กำลังใจ

(5 เม.ย.66) หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมเมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ และให้ผู้สมัครจับเบอร์ที่จะใช้ในการเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลทั่วประเทศ ก็เดินหน้าลงพื้นที่หาเสียงอย่างเข้มข้น

ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่ภาพผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ ของพรรคก้าวไกลหลายเขต ใช้วิธีการหาเสียงแบบใหม่ ด้วยการยืนปราศรัยบนเวทีที่ยืนขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ ยางรถยนต์ แล้วใช้เครื่องเสียงขนาดเล็กประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคก้าวไกลและตัวผู้สมัคร

พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่าวิธีการหาเสียงแบบนี้ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายเขตทำแล้วได้ผลตอบรับดีมาก เพราะสอดคล้องกับวิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนท้องถนน หรือเดินทางสัญจรไปมาทั้งบนถนนและบนทางเท้า รวมทั้งมีต้นทุนในการหาเสียงที่ต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับรถแห่หาเสียงหรือเวทีขนาดใหญ่

“หัวใจสำคัญของการหาเสียงด้วยวิธีนี้ คือความใกล้ชิดกับประชาชน เพราะยืนอยู่ในระยะที่ประชาชนเข้าถึงตัว มีปฏิสัมพันธ์กับผู้สมัคร ส.ส. ได้ เราได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากประชาชนที่สัญจรผ่านไป-มา บางคนจอดรถให้กำลังใจ บางคนซื้อน้ำ-ซื้อพวงมาลัยให้ บางคนก็เข้ามาพูดคุยสอบถามนโยบายพรรคก้าวไกล การหาเสียงด้วยวิธีนี้สอดคล้องกับค่านิยมพรรคก้าวไกลที่บอกว่าผู้แทนราษฎรของเราต้องเป็นคนธรรมดา ไม่ทำตัวสูงส่งกว่าประชาชนหรือเข้าถึงยาก รวมทั้งยังเป็นวิธีการที่มีต้นทุนต่ำมากๆ ในการหาเสียง” พิจารณ์กล่าว

'พิธา' เสนอนโยบาย '5 ต.' ดันหวยใบเสร็จ-ลดภาษี SMEs โวย!! ศก.ยังไม่ฟื้น เพราะช่วยเหลือคนตัวเล็กไม่เท่าทุนใหญ่

‘พิธา’ ร่วมวงนโยบายเอสเอ็มอี ชี้แม้โควิดผ่านไปแล้วแต่ยังไม่ฟื้น ได้ความช่วยเหลือไม่เท่าทุนใหญ่ รัฐบาลก้าวไกล พร้อมกิโยตินกฎหมายที่เป็นอุปสรรค เสนอนโยบาย '5ต.' ดันหวยใบเสร็จ-ลดภาษีเอสเอ็มอี

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล บรรยายในงาน Move Forward SME Conference ที่พรรคก้าวไกลจัดขึ้น โดยมีการเชิญตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ด้านต่างๆ มาร่วมพูดคุยกับทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล

พิธา บรรยายปิดท้ายวงพูดคุย ระบุว่าคำถามสำคัญเร่งด่วนสำหรับ SMEs ในขณะนี้ คือสถานการณ์โควิดผ่านไปแล้ว SMEs ไทยฟื้นตัวหรือยัง? วันนี้ทุกคนรู้ดีว่าการเติบโตของ GDP ไทยที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ค่าเฉลี่ยการเติบโตติดลบไป 6.2% แต่เมื่อมองไปในภาพลึก จะพบว่าสำหรับ SMEs การติดลบสูงถึงกว่า 10% สัดส่วนของ SMEs ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ 35% หายไป 1% เต็มๆ คิดเป็นมูลค่ากว่าหลายแสนล้านบาท ที่ผ่านมา SMEs จึงเป็นผู้ที่เจ็บลึกและเจ็บยาว

พิธากล่าวต่อว่า สำหรับ SMEs แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่กำไร แต่คือสภาพคล่อง ที่เป็นดั่งชีพจรสุดท้าย แต่ระหว่างวิกฤติโควิดที่ผ่านมา ปรากฏว่า SMEs กลับเข้าไม่ถึงสภาพคล่อง ไม่สามารถกู้เงินมาเสริมสภาพคล่องในช่วงวิกฤติได้ แม้จะมี พ.ร.ก.เงินกู้ฯ ออกมา แต่ก็มาพร้อมเงื่อนไขว่าต้องเป็นลูกค้าธนาคารพาณิชย์มาก่อน สิ่งที่ตามมาก็คือในปี 2565 ไตรมาส 2 ธนาคารมีการปล่อยกู้ให้กลุ่มทุนใหญ่ เป็นสัดส่วนกว่า 10% ขณะที่การปล่อยกู้ให้ SMEs มีสัดส่วนน้อยมาก ดังนั้น สิ่งที่ SMEs ต้องการในตอนนี้ คือการอัดฉีดสภาพคล่องโดยเร็วที่สุด ไม่อาจปล่อยให้ล้มหายได้

พิธากล่าวต่อไป ว่าพรรคก้าวไกลเห็นความสำคัญของ SMEs เสมอมา โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด พรรคลงไปทำงานผ่านกลไกกรรมาธิการการเศรษฐกิจ นำงบประมาณที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา อภิปรายให้เห็นจุดบกพร่องของ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ ที่ไม่ทำให้ SMEs เข้าถึงได้จริงๆ รวมทั้งการผลักดันนโยบายทลายทุนผูกขาด เพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันระหว่างทุนใหญ่และธุรกิจ SMEs ผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า เป็นต้น

ส่วนในระยะต่อไป พรรคก้าวไกลเห็นว่าสิ่งที่เป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับ SMEs คือกฎหมายและระเบียบที่ล้าหลังหลายพันฉบับ บางฉบับมีมาตั้งแต่ปี 2490 พรรคก้าวไกลยืนยันว่าสามารถกิโยตินทิ้งได้ถึง 50%

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. กรุงเทพฯ ใครอยู่เขตไหน? ใครได้หมายเลขอะไร? อย่าจำผิด!! มา ‘ซูม’ ดูกันได้เลยจ้า

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. กรุงเทพฯ ใครอยู่เขตไหน? ใครได้หมายเลขอะไร? อย่าจำผิด!! มา ‘ซูม’ ดูกันได้เลยจ้า

‘ฐิติกันต์’ ผู้สมัครก้าวไกลภูเก็ต ชูศิลปะโปสเตอร์วาดมือติดรถแห่หาเสียง ย้ำ!! หนุนคนทำงานศิลปะ เสริมศักยภาพภูเก็ตนอกเหนือรายได้ท่องเที่ยว

‘ฐิติกันต์’ ผู้สมัครก้าวไกลภูเก็ต ใช้โปสเตอร์วาดมือติดรถแห่หาเสียง เผยได้ไอเดียจากรถแห่หนัง เรียกเสียงตอบรับประชาชน ย้ำนโยบายก้าวไกลมุ่งส่งเสริมคนทำงานศิลปะ เสริมศักยภาพภูเก็ตนอกเหนือรายได้ท่องเที่ยว

(6 เม.ย.66) จากกระแสที่เป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย กรณีรถแห่หาเสียงของ ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล ที่มีการนำศิลปินนักวาดโปสเตอร์ภาพยนตร์ มาวาดมือป้ายหาเสียงติดรถ แทนการพิมพ์ป้ายหาเสียงทั่วไป จนกลายเป็นหนึ่งในสีสันของการหาเสียงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังฐิติกันต์ ถึงแรงบันดาลใจและที่มาของการหาเสียงในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งฐิติกันต์ระบุว่าการทำป้ายหาเสียงโดยใช้ศิลปินวาดมือครั้งนี้ ได้จ้างให้รุ่นน้องช่างศิลป์และนักศึกษาศิลปะ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ที่เคยทำงานร่วมกัน เป็นผู้วาดให้ โดยแรงบันดาลใจจากการที่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ได้เห็นภาพรถแห่หนังที่ใช้โปสเตอร์วาดมือเช่นนี้ วิ่งกันอยู่ทั่วไปเป็นปกติ ในโลกที่ยังไม่มีเทคโนโลยีเหมือนปัจจุบัน ต้องใช้ฝีมือคนวาดมาวาดภาพโปสเตอร์หนังติดรถ แห่ไปตามพื้นที่ต่าง ๆ แต่พอโลกพัฒนาขึ้น ทำให้คนเขียนภาพรถแห่หลายคนตกงาน ขาดรายได้ และปัจจุบันการแห่หนังแบบนี้หายไปหมดแล้ว

เมื่อการหาเสียงเลือกตั้งเริ่มต้นขึ้น ตนซึ่งสนใจนโยบายพรรคก้าวไกล ด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย จึงนำรูปแบบดังกล่าวมาใช้แทนการจ้างโรงพิมพ์ตามปกติ เมื่อทำแล้วปรากฏว่าหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่ต่างเคยมีประสบการณ์เห็นภาพรถแห่หนังเป็นที่ติดตาในอดีต ก็เริ่มนึกถึงภาพบรรยากาศความทรงจำเก่าๆ ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจพรรคก้าวไกลมากขึ้น

ฐิติกันต์ยังกล่าวต่อไปว่า สิ่งนี้ยังเป็นเครื่องสะท้อนนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่ต้องการส่งเสริมงานศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะที่เป็นงานฝีมือคนไทย ซึ่งหลายงานทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ที่ผ่านมาคนทำงานศิลปะขาดการสนับสนุนจากรัฐอย่างจริงจัง มีแต่การเน้นงานของนายทุนจนลืมมองคนตัวเล็กๆ ที่มีฝีมือและประสบการณ์แต่ขาดโอกาส ซึ่งนี่คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลอยากเข้าไปส่งเสริมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นหากได้เป็นรัฐบาล

'ณัฐชา' โหมลงพื้นที่บางบอน-บางขุนเทียน หวั่นสับสนแบ่งเขตใหม่ ชี้!! ปชช. ให้การตอบรับดี พร้อมเชื่อมั่นการทำงานแบบ ‘ก้าวไกล’

(6 เม.ย.66)  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.แบ่งเขตพื้นที่ใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกกังวล ที่ผ่านมาทำงานเข้าถึงพื้นที่และขยายไปยังพื้นที่รอบ ๆ มาตลอดอยู่แล้ว เพราะงานพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นงานเชิงประเด็นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน ไม่ว่าเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยหรือเบี้ยยังชีพคนชราที่ตนขับเคลื่อนอยู่ไม่สามารถแบ่งขาดด้วยการขีดเส้นเขตปกครองหรือมองเป็นเขตใครเขตมันได้ เมื่อลงไปจัดการแก้ปัญหาใด ๆ ก็จะพยามยามแก้ให้ครบถ้วนและครอบคลุมที่สุด

อย่างไรก็ตาม การแบ่งเขตใหม่พี่น้องประชาชนอาจยังไม่รู้ว่าเขตไหน ใครลงสมัครบ้าง ช่วงนี้จึงขยับไปแนะนำตัวในจุดใหม่ ๆ ซึ่งพบว่าเมื่อไปตั้งโต๊ะปราศรัยจุดใดพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แม้ตอนแรกพี่น้องประชาชนสะท้อนว่าการแบ่งเขตใหม่ทำให้สับสน แต่เมื่อรู้ว่าตนจะเป็นตัวแทนที่เขาเลือกไปทำงานในสภาได้ กลายเป็นยิ่งยินดีเพราะเชื่อมั่นในการทำงานแบบก้าวไกลและอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่รวมถึงในระดับโครงสร้างของประเทศ

‘ธนาธร’ ลั่น!! เลือกก้าวไกล ทำงานได้จริง ชี้ หาก 4 ปีไร้ผลงาน เทใจพรรคอื่นได้เลย

ประกาศขอ ปชช.เลือกคนที่ทำงานได้จริง ทำเพื่อประชาชน หาก 4 ปีในสภาฯ บอกหาก ‘ก้าวไกล’ ไม่มีผลงานให้เห็น เปลี่ยนใจเลือกพรรคอื่นได้ ย้ำพรรคเป็นประชาธิปไตยแน่นอน

(7 เม.ย. 66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, นางสาวรัชนก ศรีนอก, นายปูอัด ไชยยามพวาน ผู้สมัคร ส.ส.ฝั่งธนบุรี ลงพื้นที่หาเสียงภายในซอยโรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา มาจนถึงห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีพระราม 2

หลังลงพื้นที่หาเสียงแล้ว นายธนาธรพร้อมผู้สมัคร ส.ส.ได้ปราศรัยย่อย บริเวณตลาดนัดหน้าบิ๊กซีพระราม 2 โดยย้ำถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกล ว่ามีความพร้อมมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2562 เพราะ ส.ส.ทุกคนมีคุณภาพ ทำงานเรียนรู้และมีประสบการณ์มาตลอดระยะเวลา 4 ปีในสภาผู้แทนราษฎร มั่นใจจะทำงานตอบโจทย์แก้ปัญหาประชาชนได้ดีกว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ปี 2562 จึงอย่าปล่อยให้ ส.ส.มีคุณภาพหลุดมือไม่ได้รับใช้ประชาชน ‘พวกเราก้าวไกล พร้อมรับใช้ประชาชน’

ขณะที่หลังการลงพื้นที่หาเสียง และปราศรัยย่อยเสร็จสิ้นแล้ว มีประชาชนเดินเข้ามาหานายธนาธร พร้อมยื่นสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ใบ ที่ใบเลขท้ายตรงกับหมายเลขพรรคก้าวไกล คือ เลข 31 และบอกนายธนาธร ว่า หากถูกรางวัลที่ 1 ให้นำเงินไปขึ้นได้ทันที พร้อมสะท้อนเรื่องการประกอบอาชีพของเด็กจบใหม่ว่า สร้างตัวว่ายากแล้ว มีกินมีใช้ไปวัน ๆ ยังยากเลย หางานไม่ยากแต่หาเงินใช้รายวันยากกว่า บางเดือนรายได้รายรับลดลง รายจ่ายกลับสวนทาง

‘พิธา’ ลุยพื้นที่สมุทรปราการ อ้อนขอคะแนน ปชช. ชูนโยบาย ‘หวยใบเสร็จ’ กระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อย

(7 เม.ย.66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย วรรณวิภา ไม้สน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการเพื่อช่วยหาเสียงผู้สมัคร ส.ส. สมุทรปราการ พรรคก้าวไกลในหลายเขตพื้นที่ โดยตลอดการหาเสียง มีพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับและร่วมพูดคุยอย่างคึกคัก ก่อนที่ในช่วงเย็น พรรคก้าวไกลจะจัดเวทีปราศรัยย่อย เพื่อแนะนำนโยบายพรรคและผู้สมัคร ส.ส. ณ ตลาดครุในไนซ์มาร์เก็ต อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

สำหรับช่วงเช้า เริ่มต้นที่ตลาดสุขอนันต์คลองด่าน พิธา และ ตรัยวรรธน์ อิ่มใจ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 8 พรรคก้าวไกล เดินตลาดเพื่อทักทายประชาชนในพื้นที่ ระหว่างหาเสียง มีประชาชนเข้ามาพูดคุยและร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกจำนวนมาก จากนั้นหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ในหลายเขตพื้นที่ ได้ขึ้นรถแห่รอบตลาดตำหรุ พื้นที่เขตบางปู ร่วมกับ รัชนก สุขประเสริฐ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคก้าวไกล เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมฟังปราศรัยย่อยในช่วงค่ำ ระหว่างเดินทักทายประชาชน ได้รับเสียงตอบรับจากพ่อค้าแม่ขายและคนในพื้นที่เป็นอย่างดี

ด้านวรรณวิภา ในฐานะอดีตแรงงานที่อาศัยอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมปราศรัยขอคะแนนพี่น้องประชาชน ให้ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านการเลือกตั้ง กาก้าวไกลเพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ให้คนใหม่ได้เข้าไปทำงานในสภาฯ ให้พิธาเป็นนายกฯ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top