Friday, 13 June 2025
ค้นหา พบ 48772 ที่เกี่ยวข้อง

ผู้นำสาธารณรัฐเซิร์ปสกา ลั่นไม่เอาผู้อพยพจากอังกฤษ ชี้ สหราชอาณาจักร ควรโยกผู้ย้ายถิ่นไปฝั่งบอสเนียแทน

(12 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเซิร์ปสกา มิโลราด โดดิค (Milorad Dodik) กล่าวอย่างชัดเจนว่า เขาปฏิเสธทุกข้อตกลงที่จะนำผู้อพยพมาลงในเขตบริหารของตน ซึ่งรวมถึงข้อเสนอจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อ RT ว่า สาธารณรัฐเซิร์บ (Republika Srpska) จะไม่ยินยอมให้จัดตั้ง 'ศูนย์พักพิง' สำหรับผู้อพยพจากอังกฤษบนดินแดนของตนอย่างเด็ดขาด

โดดิค กล่าวว่า ข้อเสนอของอังกฤษจริงจังและมีการผลักดันจากกระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักร แต่เขาตอบปฏิเสธด้วยหลักการชัดเจนว่า “เราไม่รับผู้อพยพ” และ “พวกเขาไม่ควรนำมาพักไว้ในเซิร์ปสกา พร้อมเตือนว่าหากจะนำผู้อพยพเข้ามา ควรโยกย้ายไปยังเขตสหพันธรัฐของ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ไม่ใช่บริเวณของเขา

ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเซิร์บย้ำว่าการย้ายผู้อพยพที่เสนอมานั้น “ยอมรับไม่ได้” และไม่ควรให้สถานะเป็นพื้นที่สำหรับผู้อพยพที่ถูกส่งกลับจากสหราชอาณาจักร โดยชี้ว่า รัฐบาลอังกฤษต้องคำนึงถึงการตัดสินใจที่สร้างปัญหาขึ้นในอนาคต และจะทำให้เกิดความตึงเครียดภายในประเทศของเขา

คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต่อสู้ทางการเมืองของโดดิค และยังสะท้อนการใช้ประเด็นผู้อพยพเพื่อเรียกร้องเสถียรภาพหรือชี้ให้ผู้นำตะวันตกเห็นว่า สาธารณรัฐเซิร์บ มีแนวทางต่างจากรัฐบาลกลางบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

ในขณะที่สหราชอาณาจักรพยายามดำเนินนโยบายส่งผู้อพยพที่เดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายไปยังประเทศที่ 3 เพื่อบรรเทาภาระภายใน แต่โดดิคแสดงจุดยืนว่า “เซิร์บไม่ใช่ที่รองรับผู้อพยพจากอังกฤษ” และจะไม่ลงนามในความตกลงใด ๆ ที่สนับสนุนการกระทำนั้น

’โอ๋ ฐิติภัสร์‘ ขยายผลตรวจโรงงานลอบนำเข้าเศษยาง พบทะลักจากกัมพูชา ก่อนบดรีดเป็นยางแผ่นในไทยส่งขายจีน

(12 มิ.ย.68) นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์เฟซบุ๊กว่า

"ขบวนการลักลอบนำเข้าเศษยางจากกัมพูชา เอามาบดรีดเป็นแผ่นยางในไทย ส่งขายไปจีน

ตามขยายผลที่เพจ รู้ทันจีน และ พี่บอส ช่องไทยพีบีเอส ช่วยกันตามสืบและส่งเบาะแสขบวนการลักลอบนำเข้าเศษยางจากกัมพูชา ผ่านข้ามแดนมาแถว จ. สระแก้ว และกระจายไปยังโรงงานเถื่อนใน ชลบุรี ระยอง และ สมุทรสาคร

ทีมสุดซอยตามขยายผลมายัง โรงงานเถื่อน ที่ ม.1 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบนายกานต์ อาหยี รับเป็นเจ้าของโรงงานและเศษยาง จนท.ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีข้อหาตั้งและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน

เดินต่อเข้าไปด้านในซอยพบ บ. เถิงฮุย ฮาร์ดแวร์ พลาสติก จำกัด ประกอบกิจการทำเม็ดพลาสติก แต่ประกอบกิจการไม่ตรงตามเงื่อนไขในใบอนุญาต และไม่สามารถชี้แจงที่มาของกองวัตถุดิบที่เป็นเศษพลาสติกสายไฟบดย่อย กองไว้สูงเป็นภูเขาประมาณ 3,000 ตันได้ จนท.สั่งหยุดพร้อมอายัดเศษพลาสติกสายไฟทั้งหมด และดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ประกอบกิจการในส่วนขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

ไม่จบเท่านี้…ขยายผลต่อทั้งขบวนการลักลอบนำเข้าเศษยางจากต่างประเทศ และขบวนการลักลอบทิ้งเศษพลาสติกสายไฟ และโรงงานหลอมเม็ดพลาสติกเถื่อน หากท่านใดมีข้อมูลหรือเบาะแสสามารถส่งเข้ามาได้ค่ะ"

‘คิม จองอึน’ ยกสัมพันธ์รัสเซียคือสายเลือดพี่น้อง ประกาศจับมือแน่น!!...ขอยืนเคียงข้างปูตินตลอดไป

(12 มิ.ย. 68) สื่อทางการเกาหลีเหนือ KCNA รายงานว่า คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ส่งสาส์นแสดงความยินดีถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เนื่องในวันชาติรัสเซีย โดยเรียกปูตินว่า “มิตรและสหายที่รักที่สุด” พร้อมยกย่องความสัมพันธ์ที่หล่อหลอมด้วยเลือดระหว่างทั้งสองชาติ

คิม จองอึน ระบุว่า รัสเซียเป็น “รัฐพี่น้อง” และมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างเปียงยางและมอสโกยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น ภายใต้ความร่วมมือเชิงทหารที่ทั้งสองประเทศได้ต่อสู้ร่วมกันใน “สงครามอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อปกป้องอธิปไตยของรัสเซีย”

ภายใต้สนธิสัญญาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบเบ็ดเสร็จ กองกำลังเกาหลีเหนือได้ถูกส่งไปประจำในแคว้นเคอร์สค์ของรัสเซีย โดยมีบทบาทช่วยขับไล่กองทัพยูเครนออกจากพื้นที่ชายแดน ซึ่งปูตินได้แสดงความขอบคุณและยกย่องทหารเกาหลีเหนือว่า “ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเกียรติและความกล้าหาญ”

ในรายงานจากกองทัพรัสเซียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายพลวาเลรี เกราซิมอฟ ได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของกองทัพประชาชนเกาหลีในการปลดปล่อยแคว้นเคอร์สค์ และปูตินกล่าวว่า “ประชาชนรัสเซียจะไม่มีวันลืมวีรกรรมของทหารเกาหลีเหนือ”

ทั้งนี้ ผู้นำเกาหลีเหนือยืนยันว่าเขาและประเทศจะ “ยืนเคียงข้างปูตินและสหพันธรัฐรัสเซียตลอดไป” สะท้อนถึงแนวโน้มความร่วมมือด้านการทหารและการเมืองระหว่างสองชาติท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังยืดเยื้อในยูเครน

‘กาแล็กซีรีสอร์ต’ หวังรัฐสร้างความเข้าใจกาสิโนในไทย กำหนดคุณสมบัติชัดเจน แนะลดพื้นที่กาสิโนเหลือ 5%

(12 มิ.ย. 68) นายเควิน เคลย์ตัน (Kevin Clayton) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแบรนด์ Galaxy Resorts ประเทศไทย กล่าวในสัมภาษณ์พิเศษว่า ไทยควรกำหนดพื้นที่กาสิโนไม่เกิน 5–10% ของโครงการ Entertainment Complex ทั้งนี้ กาสิโนถึงจะแค่ 5% แต่สร้างรายได้ราว 80% ซึ่งใช้สนับสนุนส่วนอื่นๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรมบันเทิง

นอกจากนี้ เควิน เคลย์ตันเสนอให้รัฐบาลสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจชัดเจนถึงผลดีและเงื่อนไขของโครงการ เช่น การกำหนดอายุและเงื่อนไขการเข้าใช้กาสิโน เพื่อสร้างความสบายใจและลดความกังวลต่อการพนัน รวมถึงเน้นจุดยืนความรับผิดชอบต่อสังคม

นายเควินย้ำว่า ความยั่งยืนของธุรกิจขึ้นอยู่กับการควบคุมอย่างเข้มงวด ทั้งมาตรการป้องกันปัญหาการพนัน การฝึกอบรมพนักงาน การติดสื่อประชาสัมพันธ์ช่วยเตือน และการร่วมมือกับกลุ่มช่วยเหลือทางสังคม พร้อมระบบตรวจสอบการฟอกเงินที่เข้มข้น คล้ายคลึงกับภาคการเงินที่ถูกกำกับดูแล

“Galaxy Resorts พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลและหน่วยงานกำกับชี้แจงข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อปิดช่องว่างข่าวสารที่บิดเบือน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ยิ่งสื่อสารชัดเจนเท่าไหร่ ยิ่งลดความเข้าใจผิด” เควิน กล่าว

สุดท้าย เควินมองว่า Entertainment Complex จะสร้างเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านบาท ดึงนักท่องเที่ยวเป็น 50 ล้านคนต่อปี และสร้างงานหมื่นตำแหน่ง พร้อมระบุว่าสูตรควรรวมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อออกแบบเงื่อนไขให้พอดีทางกฎหมาย เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อประโยชน์ของประเทศ ประชาชน และนักลงทุน

วีโต้สมศักดิ์ไม่เป็นผล!! แพทยสภา ยืนมติเดิม ลงโทษ 3 หมอ ปมคดีชั้น 14 ด้านหมอประสิทธิ์ ขอบคุณคนไทยที่ร่วมให้กำลังใจคณะกรรมการแพทยสภา

เมื่อเวลา 15.00 น. (12 มิ.ย. 68) ที่อาคารแพทยสภา ภายหลังการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาในวันนี้ (12 มิถุนายน 2568) ซึ่งมีวาระพิจารณายับยั้งหนังสือลงโทษแพทย์ จำนวน 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14  โดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกคนที่ 1 ได้ออกมาแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า กรณีการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ที่เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ แห่งแพทยสภา

วาระนี้มีกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนกรรมการแพทยสภาที่มีสิทธิลงคะแนนเสียง 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการที่มีสิทธิลงคะแนนทั้งคณะ ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบต่อไป

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 มิถุนายน 2568) สามารถออกคำสั่งแพทยสภา เพื่อยืนยันตามมติเดิมในการลงโทษแพทย์ 3 คน จากนั้นก็จะดำเนินการแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ ซึ่งโดยกระบวนการ นายกแพทยสภาจะแจ้งให้ผู้ที่ถูกลงโทษทราบ ซึ่งจะมีระยะเวลาหนึ่ง เช่น การยับยั้งใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ก็จะต้องมีช่วงเวลาที่เขาต้องเคลียร์งาน บางคนนัดคนไข้ไว้ก็ต้องเคลียร์ ซึ่งนายกแพทยสภาจะต้องดูตรงนี้และแจ้งให้ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ได้เข้าไปชี้แจงเป็นเวลา 15 นาที ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า กระบวนการของแพทยสภาในวันนี้ เป็นการรับฟังข้อคิดเห็นอย่างชัดเจน

“สภานายกพิเศษ ได้มาให้ความคิดเห็นของท่านต่อมติของแพทยสภา ซึ่งท่านวีโต้ ขณะเดียวกัน คณะกรรมการแพทยสภาทุกท่าน ได้รับเอกสารที่ท่านได้ส่งมาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่แล้ว เหตุผลแห่งการวีโต้ทั้งหมด พร้อมกับวันนี้ กรรมการแพทยสภามีการนำข้อมูลเหล่านั้นมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงมติกรรมการแพทยสภา เพราะเหตุใด เหตุผลของการยับยั้งโดยสภานายกพิเศษ เพราะเหตุใด โดยมีบทวิเคราะห์ ซึ่งกรรมการแพทยสภาทุกท่านได้เห็นข้อมูลเหล่านี้ และใช้ดุลยพินิจของท่านเอง ภายใต้หลักวิชาการ ข้อมูลที่เป็นจริงและเหตุผล จึงมีมติตามนี้” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

ก่อนจบการแถลงข่าว ศ.นพ.ประสิทธิ์ ได้กล่าวขอบคุณคนไทยทั่วประเทศ รวมทั้งที่ได้เข้าชื่อสนับสนุนมติของแพทยสภากว่า 50,000 คน โดยระบุว่า "กราบขอบพระคุณคนไทยทั้งหลาย ที่แสดงออกอยากให้แพทยสภาดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง และวันนี้กรรมการแพทยสภา ได้ทำสิ่งเหล่านั้นแล้ว ที่ท่านให้กำลังใจมา ได้ส่งผลแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวันนี้ กรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุม 69 จาก 70 คน โดยมีกรรมการ 1 คน ที่ไม่ได้เข้าร่วมและไม่ส่งผู้แทนเข้าประชุม ส่วนการลงคะแนนเสียงโหวตในที่ประชุมเป็น 68 เสียง เนื่องจากมีกรรมการ 1 คน ที่ถูกตัดสิทธิเข้าประชุม คือ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวโทษ

ทั้งนี้ ในช่วงเริ่มต้นการประชุม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา ได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างเวลา 12.00-12.15 น. รวมเวลา 15 นาที เพื่อชี้แจงกรณีใช้อำนาจสภานายกพิเศษฯ ยับยั้ง หรือวีโต้มติแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในกรณีที่กล่าวโทษแพทย์ 3 คน จากโรงพยาบาล (รพ.) ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ที่ให้การดูแลและส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาใช้เวลาประชุมในวาระดังกล่าวนานถึง 3 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top