Friday, 13 June 2025
ค้นหา พบ 48754 ที่เกี่ยวข้อง

'เอกนัฏ' เปิดภาพร่วมโต๊ะ ‘พีระพันธุ์-อัครเดช’ สร้างความเชื่อมั่น ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ต้องไปต่อ

'เอกนัฏ' เปิดภาพทานอาหารเที่ยง ร่วม ‘พีระพันธุ์-อัครเดช’ เพิ่มความเชื่อมั่นรวมไทยสร้างชาติ ย้ำ ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวหน้า ‘เอกนัฏ’ เลขา ‘อัครเดช’ โฆษก เหมือนเดิม

(11 มิ.ย.68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยภาพทานอาหารเที่ยงร่วมกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ  ผ่านเฟซบุ๊ก เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (ขิง) ว่า

"ดีลใหม่ แต่ไม่ลับ ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้น ของหัวหน้าฯ
เบอร์เกอร์ ของเลขาฯ #รทสช ไปต่อ
หัวหน้าฯชื่อ พีระพันธุ์
เลขาฯชื่อ เอกนัฏ
โฆษกฯชื่อ อัครเดช
เหมือนเดิมครับ
#รวมไทยสร้างชาติ #เลขาขิง"

ซีอีโอของหัวเว่ย ยอมรับชิปจีนล้าหลังสหรัฐฯ แต่ไม่ยอมแพ้!!...มั่นใจใช้เทคนิคพิเศษทดแทนได้

(11 มิ.ย. 68) เหริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของหัวเว่ย เทคโนโลยี (Huawei) เปิดเผยว่า ชิป Ascend ของบริษัทยังล้าหลังกว่าของสหรัฐฯ ราวหนึ่งเจเนอเรชัน แต่สามารถบรรลุประสิทธิภาพระดับสูงสุดได้ด้วยเทคนิคการจัดเรียงและการประมวลผลแบบกลุ่ม โดยหัวเว่ยได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีในการวางชิปซ้อนกันเพื่อลดขนาดโปรเซสเซอร์

ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ People's Daily ซีอีโอของหัวเว่ยระบุว่า การคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ไม่สามารถหยุดยั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมชี้ว่าจีนมีข้อได้เปรียบหลายด้าน เช่น พลังงานไฟฟ้า เครือข่ายสื่อสาร และเยาวชนที่เก่งจำนวนมาก

เหริน เจิ้งเฟย กล่าวอีกว่า AI คือ “การปฏิวัติทางเทคโนโลยีครั้งสุดท้ายของมนุษยชาติ” ควบคู่กับพลังงานสะอาดจากนิวเคลียร์ฟิวชัน และระบุว่าอัลกอริธึม AI จะถูกใช้งานจริงในภาคพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน ถ่านหิน และยา ไม่ใช่แค่ในวงการเทคโนโลยีสารสนเทศเท่านั้น

บทสัมภาษณ์นี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดด้านเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ออกคำแนะนำใหม่ว่า การใช้ชิป Ascend ของหัวเว่ยในที่ใดก็ตามทั่วโลก อาจละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ

ซีอีโอวัย 80 ปี เน้นย้ำว่าหัวเว่ยเป็นเพียงหนึ่งในบริษัทชิปของจีนอีกจำนวนมาก พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ “พูดเกินจริง” ถึงความสำเร็จของหัวเว่ย และย้ำว่าจีนควรลงทุนในงานวิจัยพื้นฐานเพื่อพึ่งพาตนเองในระยะยาว แทนที่จะนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างชาติ

15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ‘ศาลโลก’ ตัดสินคดีประวัติศาสตร์ ชี้ขาด ‘ปราสาทเขาพระวิหาร’ เป็นของกัมพูชา

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีคำพิพากษาชี้ขาดให้ ปราสาทเขาพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของประเทศกัมพูชา ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 หลังพิจารณาคดีนานถึง 3 ปี โดยมีการนัดสืบพยานถึง 73 ครั้ง ถือเป็นกรณีพิพาทด้านดินแดนที่ยืดเยื้อและซับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชา

ปราสาทเขาพระวิหาร หรือ 'เปรี๊ยะ วิเฮียร์' เป็นโบราณสถานศิลปะขอมโบราณ ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก สูง 657 เมตรจากระดับน้ำทะเล แม้ทางขึ้นหลักอยู่ฝั่งไทย แต่ตัวปราสาทส่วนใหญ่อยู่ในกัมพูชา ตัวปราสาทถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2442 โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์

คำตัดสินของศาลโลกส่งผลให้ไทยต้องยอมคืนพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารประมาณ 150 ไร่ให้กัมพูชา จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยโดยอนุญาตให้นักศึกษาเดินขบวนคัดค้าน และสั่งปิดทางขึ้นปราสาทที่อยู่ฝั่งไทย เหลือเพียงเส้นทางแคบจากฝั่งกัมพูชาเท่านั้น

แม้จะมีความตึงเครียดในช่วงแรก แต่ต่อมาไทยและกัมพูชาได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ เปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางช่วง ซึ่งปัจจุบันอุทยานฯ เขาพระวิหาร ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวผามออีแดงชั่วคราว หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณพื้นที่ช่องบก ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

เคทีซี จับมือ ททท. เดินหน้าแคมเปญ “เมืองน่าเที่ยว” หนุนสร้างรายได้ท่องเที่ยวในประเทศ 1.17 ล้านล้านบาท

(11 มิ.ย. 68) เคทีซี ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือ ททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ภายใต้แคมเปญ "เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration" มอบส่วนลดพิเศษจากโรงแรมชั้นนำสูงสุด 55% และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 500 บาท 

นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคทีซีตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนแคมเปญ เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration ให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และผลักดันให้รายได้รวมด้านการท่องเที่ยวในปี 2568 อยู่ที่ 1.17 ล้านล้านบาท ตามที่ททท. ตั้งเป้าไว้ โดยเคทีซีพร้อมมอบสิทธิพิเศษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่  https://www.ktc.co.th/promotion/hotel-resort/domestic-hotel/amazing-secondary-cities#Northern

สำหรับแคมเปญเมืองน่าเที่ยว Year of Celebration เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 โดยความร่วมมือของภาครัฐบาล เอกชน และพันธมิตรทุกส่วนร่วมผลักดันให้เมืองน่าเที่ยวกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ กระจายรายได้สู่ชุมชน และเสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยให้อยู่ระดับสากล

(สุรินทร์)นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำยึดสันติวิธี ไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย

(11 มิ.ย. 68) เวลา 11.05 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และวางมาตรการช่วยเหลือประชาชนใน 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, บุรีรัมย์, สระแก้ว, จันทบุรี และตราด ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

สำหรับจ.สุรินทร์ มีพื้นที่ชายแดนยาว 125 กิโลเมตร ครอบคลุม 4 อำเภอ ได้แก่ บัวเชด สังขะ กาบเชิง และพนมดงรัก มีจุดผ่านแดนถาวร 1 แห่ง คือ ช่องจอม และช่องทางธรรมชาติ 54 ช่อง โดยพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ได้แก่ บริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาเมือนโต๊จ

จากการประเมิน หากเกิดเหตุสู้รบ อาจส่งผลกระทบต่อ 287 หมู่บ้าน ใน 22 ตำบล 4 อำเภอ มีประชาชนกว่า 144,000 คนอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ปัจจุบันมีหลุมหลบภัย 224 แห่ง แต่บางส่วนชำรุดและไม่เพียงพอ รัฐบาลจึงเร่งซ่อมแซมและจัดสร้างเพิ่มเติม พร้อมขอความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนร่วมบริจาควัสดุจำเป็น เช่น ท่อกลม กระสอบทราย และปูน โดยสามารถนำส่งได้ที่ที่ว่าการอำเภอทั้ง 4 แห่ง หรือในหมู่บ้านเป้าหมาย

ด้านแผนอพยพ จังหวัดสุรินทร์ได้เตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราว 65 แห่ง ในโรงเรียน วัด เทศบาล และ อบต. สำหรับรองรับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งมีจำนวนรวม 746 ราย ใน 4 อำเภอ พร้อมเตรียมย้ายโรงพยาบาลพนมดงรัก และโรงพยาบาลกาบเชิง เป็นโรงพยาบาลสนามหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ในส่วนของงบประมาณ สามารถใช้งบ อปท. และเงินทดรองราชการช่วยเหลือได้ทันที แบ่งเป็นงบเชิงป้องกัน 10 ล้านบาท และกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน 20 ล้านบาท สำหรับใช้ในด้านอาหาร วัสดุอุปกรณ์ ค่าเจ้าหน้าที่ และค่าดำเนินการอื่น หากไม่เพียงพอจะของบสนับสนุนเพิ่มเติมจากส่วนกลางต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top