Friday, 13 June 2025
ค้นหา พบ 48754 ที่เกี่ยวข้อง

ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ -เอกชน ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ไลอ้อนแอร์ อุดรธานี-อู่ตะเภา (UTP)

(11 มิ.ย. 68) ณ อาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (UTP) การท่าอากาศยานอู่ตะเภา ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีและระยอง จัดกิจกรรมต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ของสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เที่ยวบินที่ SL588 เส้นทางบินจาก ทำอากาศยานนานาชาติอุดรธานี (UTH) มายัง ทำอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (UTP) 

โดยมี พล.ร.ท.เกียรติกูล สุวรรณ รองผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี และ นางปาณรดา อัตโตหิ รองปลัดเมืองพัทยา ร่วมให้การต้อนรับพร้อมมอบพวงมาลัยดอกไม้ ให้กับผู้โดยสารเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากผู้บริหารท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและผู้บริหารของสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ ผู้แทนภาครัฐ และผู้แทนภาคท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีและระยอง โดยท่าอากาศยานอู่ตะเภา ได้จัดพิธีต้อนรับแบบ Airplane welcome หรือ การทำอุโมงค์น้ำ สร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสาร ซึ่งนั่งอยู่ในเครื่องบินเป็นอย่างมาก

สำหรับสายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เริ่มให้บริการในเส้นทาง อู่ตะเภา – อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป หนุนมาตรการส่งเสริมเปิดเส้นทางบินสู่เมืองรอง  โดยจะมีให้บริการในวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ โดยเที่ยวบินขาไปจะออกเดินทางจากอู่ตะเภา เวลา 13.30 น. ถึงอุดรธานี เวลา 14.50 น. และเที่ยวบินขากลับออกเดินทางจากอุดรธานี เวลา 11.20 น. มาถึงอู่ตะเภาเวลา 12.40 น. ใช้เวลาในการบินเพียง 1 ชั่วโมง 20 นาที ในราคาบัตรโดยสารพิเศษ เริ่มต้นที่ 995 บาทต่อเที่ยวบิน พร้อมจัดส่วนลดพิเศษสำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่ชลบุรีและระยอง อีกด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

‘ไอซ์ รักชนก’ ขยี้ซ้ำผลสอบ ‘ก.มหาดไทย’ ชัดเป็นไปตามที่เคยพูดราคาตึก SKYY9 แค่ 3 พันล้าน แต่ ‘ประกันสังคม’ ทุ่มซื้อ 7 พันล้าน ถามผู้เกี่ยวข้องจะรับผิดชอบอย่างไร เชียร์ ‘อนุทิน’ ทำให้ดูหน่อยฟันให้เด็ดขาด

เมื่อวันที่ (10 มิ.ย.68) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน แชร์ข่าวเปิดผลสอบ กระทรวงมหาดไทย ศึกษาวิเคราะห์ราคาอาคาร SKYY9 ระบุความมีราคาซื้อขายในขณะนั้น ประมาณ 3.4-3.8 พันล้านบาทพร้อมระบุข้อความว่า สุดท้ายผลสอบก็จะออกมายืนยันสิ่งที่ไอซ์และเนมพูดมาตลอด ว่าราคาซื้อขายของตึกควรอยู่ที่ 3,000 ล้าน แต่ประกันสังคม ทุ่มเงิน 7,000ล้าน ซื้อของราคา 3,000ล้าน

ทีนี้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รับผิดชอบยังไง? 

บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน MFC ตัวตั้งตัวตีเสนอตึกและหาคนมาตีราคา พร้อมตั้งทรัสต์ ดูแลจนจบกระบวนการ จะลอยตัวเนียน ๆ ไปแบบนี้ไหม?

กลต. จะทำอะไรกับ บริษัทที่ประเมินตัวเลขเวอร์ ๆ ไร้ธรรมาภิบาลหรือไม่? ต้องให้ไปชี้นิ้วบอกทีละเจ้าอีกไหม? บริษัทรับประเมินถ้าทำงานตรงไปตรงมาจริง อย่ากลัว ออกมาแถลงทีละบริษัทแมน ๆ ไปเลย ว่ายืนยันความบริสุทธิ์ ทำงานตรงไปตรงมา และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่จะขอข้อมูล ส่วนบริษัทไหนที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ กลต. รออะไร?

น.ส.รักชนก ระบุต่อว่า บอร์ดลงทุนประกันสังคม วันนั้นที่ตัดสินใจลงทุนไม่มีใครขัดขวางสักคนเลยหรอ มันตั้งใจ จงใจเกินไปไหม? เปิดออกมาให้หมดบันทึกการประชุม ใครพูดอะไร ลากชื่อมันออกมา

สุดท้ายนี้* ท่านอนุทิน ท่านปลัดมหาดไทย อย่าให้ใครครหาว่าทำเป็นเล่นขายของ ทำไปอย่างงั้นไม่ทำจริงจัง เอกสารที่บอกว่าขอจากเอกชนไม่ได้ อย่ามาตลกค่ะ กมธ.ติดตามงบยังขอได้เลย แล้วถ้าขอเอกชนไม่ได้ ขอประกันสังคมเลย วันนั้นอ่านอะไรกันบ้างถึงตัดสินใจซื้อตึกเปิดมาให้หมด คณะกรรมการนี้มีอำนาจเข้าถึงเอกสารที่อยากจะอ่านได้ทั้งหมดอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเอาจริงหรือป่าว 

“ทำให้ดูหน่อยค่ะท่านอนุทิน เอาให้เด็ดขาด ฟันมาให้ชัดอย่ากำกวม ดิฉันอยากเห็นคนถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริต ดิฉันอยากเห็นคนที่ตอดกินเงินของผู้ประกันตนออกจากราชการ ดิฉันอยากเห็นคนติดคุก ถ้าท่านเอาจริงไม่มีอะไรเกินอำนาจบารมีที่ท่านจะจัดการได้ แล้วดิฉัน รักชนก ศรีนอก จะจดจำคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะคนจริงที่น่านับถือ” น.ส.รักชนก ระบุ 

น.ส.รักชนก ระบุต่อว่า ปล. บอกไปทุกคนอาจจะไม่เชื่อนะคะ แต่ถ้าเราไม่มาเปิดเผยเรื่องตึก SKYY9 ป่านนี้ผู้ประกันตนคงได้เป็นเจ้าของตึกเพิ่มอีกหนึ่งถึงสองตึกไปแล้ว เพราะมีคนเค้าเตรียมกันไว้แล้วค่ะ

‘ทรัมป์’ ประกาศสงครามการค้ากับจีนจบลง แต่ยังตรึงภาษีสินค้านำเข้าไว้ที่ 55%

(12 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนได้ 'จบแล้ว' โดยมีการคงอัตราภาษีสินค้าจีนไว้ที่ 55% โดยไม่ปรับเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และค้าปลีกเตือนว่า ความเสียหายต่อห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจ และผู้บริโภคสหรัฐฯ ยังไม่สิ้นสุด

อัตราภาษีที่สูงถึง 55% ทำให้บริษัทในสหรัฐฯ หลายพันแห่งเผชิญความเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนหรือตั้งราคาขายเพิ่มได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายรับภาระต้นทุนแทน ซึ่งอาจกระทบต่อราคาสินค้าช่วงเปิดเทอมและเทศกาลปลายปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนล่าสุดแสดงการเพิ่มขึ้นของราคาที่ต่ำกว่าคาด แต่ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีทำให้ผู้ประกอบการยังคงระวังต่อแผนสั่งสินค้านำเข้า โดยเฉพาะจากจีนและสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังเผชิญความลังเลจากผู้นำเข้าสหรัฐฯ

ภาคขนส่งและโลจิสติกส์ยังไม่ฟื้นตัว โดยปริมาณการขนส่งทั้งทางรถบรรทุกและรถไฟลดลงจากปีก่อนอย่างต่อเนื่อง ดัชนีการจองตู้คอนเทนเนอร์ทะเล (Ocean TEU Index) แสดงว่าปี 2025 มีปริมาณการขนส่งน้อยกว่าปีก่อนถึง 14% ซึ่งถือเป็นสัญญาณล่วงหน้าถึงความต้องการผู้บริโภคที่ลดลง

ในขณะที่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์พยายามเร่งนำเข้าสินค้าช่วงระยะเวลาชั่วคราวที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเว้นหรือชะลอการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ก่อนหมดเขตกลางเดือนสิงหาคม ปัญหาการสะสมของตู้คอนเทนเนอร์เปล่าที่ท่าเรือลอสแอนเจลิสและลองบีชยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ซึ่งอาจทำให้ผู้ส่งออกในสหรัฐฯ ประสบปัญหาขาดแคลนตู้สำหรับส่งสินค้า

แม้จะมีข้อตกลงเบื้องต้นกับจีน แต่ภาคธุรกิจยังรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากทั้งสองผู้นำ และจับตาว่าจะมีการเจรจาใด ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงยังเลือก 'รอดูท่าที' ก่อนจะเดินหน้าลงทุนหรือสั่งสินค้าเพิ่มเติมจากต่างประเทศในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

'เชียงราย' นบ.ยส.35 เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย 'SEAL - STOP - SAFE' ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย

เมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.68) ที่ผ่านมา พลโท กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผบ.นบ.ยส.35 พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ภายใต้โครงสร้าง นบ.ยส.35 โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนตามแผนปฏิบัติการ 'SEAL - STOP - SAFE' ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก

การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายในจังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน โดยมีรายละเอียดการลงพื้นที่ดังนี้:

ในช่วงเช้า ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ณ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เพื่อประเมินผลการสกัดกั้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายตามแนวลำน้ำโขง ภายใต้ยุทธศาสตร์ 'SEAL'

ต่อมา ได้เดินทางไปยังด่านศุลกากรแม่สาย เพื่อติดตามมาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าผ่านแดน และสารเคมีที่อาจใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด พร้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วย ณ จุดผ่านแดนแม่สาย 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ 'STOP' และ ได้ลงพื้นที่บ้านวังน้ำริน ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังการบรรยายสรุปการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งในการป้องกันยาเสพติด และการปฏิบัติงานของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ภายใต้ยุทธศาสตร์ 'SAFE'

ภาคบ่าย พลโท กิตติพงศ์ฯ เป็นประธานในการประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานของ นบ.ยส.35 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานพลเรือน สำนักงาน ป.ป.ส. และตำรวจเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อบูรณาการแนวทางปฏิบัติทั้งในระดับยุทธศาสตร์และภาคสนามให้มีเอกภาพ

ภายในงานมีการจัด กิจกรรม Workshop เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ และร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ในพื้นที่จริง พร้อมระดมความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาและพัฒนามาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งหวังให้เกิดการปฏิบัติที่ตอบโจทย์สภาพพื้นที่และนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม

ปัจจุบัน นบ.ยส.35 มีผลการดำเนินงาน ตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 – 8 มิ.ย. 68 มีเหตุการณ์สำคัญ 165 ครั้ง เหตุการณ์  (ปะทะ 35 ครั้ง ตรวจยึด/จับกุม 129 ครั้ง)  จับกุมยาบ้า 238 ล้านเม็ดเศษ, ไอซ์ 14,049 กก., เฮโรอีน 376 กก., คีตามีน 1454 กก., Happy Water 4.8 กก., เคมีภัณฑ์  819 ตัน ผู้ต้องหา 174 คน เสียชีวิต 18 ศพ

‘ดร.กอบศักดิ์’ แนะเร่งหามาตรการช่วยกลุ่มเอสเอ็มอี หลังจีน -สหรัฐฯปิดดีลเจรจาอาจกระทบสินค้าส่งออกไทย

ดร.กอบศักดิ์ เผยจีน-สหรัฐปิดดีลเจรจาภาษี จีนถูกเรียกเก็บภาษี 55% ส่วนจีนเก็บภาษีสหรัฐ 10% กระทบสินค้าส่งออกไทย แนะเตรียมมาตรการช่วยเอสเอ็มอีในประเทศ ลุ้นไทยเจรจาสหรัฐลดภาษีต่ำกว่า 36%

(12 มิ.ย.68) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ว่า “ปิดดีลจีน – โดน Tariff สหรัฐที่ 55% !!” โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สรุปข้อตกลงล่าสุดให้โลกฟังว่า หลังเจรจากัน 2 ครั้ง สหรัฐจะได้เข้าถึง rare earths, magnets ส่วนจีนจะได้ชิป และวีซ่าสำหรับนักเรียนจีน โดยสหรัฐคิดภาษีจีน 55% และจีนคิดภาษีสหรัฐ 10%

“ทั้งหมด รอการพิจารณาของท่านประธานาธิบดีสี (จิ้นผิง) ซึ่งจะมีนัยยะกับไทย เพราะจากที่นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ เคยบอกไว้เสมอ 36% คืออัตราสูงสุดสำหรับไทย หมายความว่า ต่อให้เราไม่ได้ลดเลย ที่อัตรานี้ เราจะยังได้เปรียบสินค้าจีนประมาณ 20% ถ้าเรามีข้อเสนอที่ดี สหรัฐพอใจ ก็คงจะลดให้จากอัตราดังกล่าวบ้าง”

ซึ่งหากไทยสามารถเจรจา (1) ได้เหลือ 10-20% (2) ไม่ต่างจากคู่แข่งของเรามากนัก ในสงครามการค้าโลกรอบนี้ ประเทศไทยก็ถือว่าพอไปได้ ส่งออกไทยก็น่าจะมีทางออก ในช่วงครึ่งหลังของปี สามารถไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐ

“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจีนโดน 55% China Flooding ก็จะเป็นปัญหาให้ไทยหนักใจ คงต้องเตรียมมาตรการช่วย SMEs ในประเทศรับมือบรรเทาผลกระทบและเร่งหาตลาดใหม่ให้สินค้าไทย เพื่อให้ไทยลดสัดส่วนการส่งออกไปสหรัฐให้เหลือ 10% จากปัจจุบันที่ 18.3% จะได้ไม่ต้องเป็นลูกไล่ของเขา เพราะยังจะวุ่นวายอย่างนี้ไปอีกหลายปี”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top