Thursday, 8 May 2025
ค้นหา พบ 47927 ที่เกี่ยวข้อง

ขอนแก่น - 'มทบ.23' จัดกิจกรรม วันกำลังสำรอง ประจำปี 2568 

เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระราชทานกำเนิดกองเสือป่าอันเป็นรากฐานของกิจการกำลังสำรอง และให้เห็นถึงคุณค่า และความสำคัญของกำลังสำรอง ที่พร้อมสนับสนุนในทุกภารกิจของกองทัพ 

เมื่อเวลา 09.00 น. (6 พ.ค.68) ที่ อาคารสโมสรนายทหารค่ายศรีพัชรินทร มณฑลทหารบกที่ 23 ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พลตรีกิตติพงษ์ เนื่องชมภู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 เป็นประธานในการจัดกิจกรรมเนื่องใน 'วันกำลังสำรอง' ประจำปี 2568 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ที่ทรงพระราชทานกำเนิดกองเสือป่าอันเป็นรากฐานของกิจการกำลังสำรอง และให้เห็นถึงคุณค่า และความสำคัญของกำลังสำรอง ที่พร้อมสนับสนุนในทุกภารกิจของกองทัพ 

โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ของประธานและส่วนราชการ, การอ่านสารของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และการกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นกำลังสำรองที่ดี ทั้งนี้มีผู้แทนหน่วยงานองค์กรกำลังสำรองจำนวน 6 หน่วยงานและผู้แทนข้าราชการทหารเข้าร่วมพิธีและวางพานพุ่ม อาทิ สมาคมผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารและนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 23, ชมรมไทยอาสาป้องกันชาติ, ศูนย์ประสานงานเครือข่ายกำลังพลสำรอง มณฑลทหารบกที่ 23, กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2, กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดขอนแก่น และกำลังพล มณฑลทหารบกที่ 23 ร่วมกิจกรรม จำนวน 200 คน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเปิดการแข่งขัน Cops Combat ประจำปี 2568 วางยศ ลดอัตตา ปรับใช้ในการทำงานของตำรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(6 พ.ค. 68) เวลา 13.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาต่อสู้และป้องกันตัว Cops Combat ประจำปี 2568 ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้การต้อนรับ ณ สนามมวยราชดำเนิน ซึ่งการแข่งขันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 6 พฤษภาคม 2568 โดยในวันนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศ

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบรางวัลชนะเลิศกีฬาต่อสู้และป้องกันตัว Cops Combat ประจำปี 2568 จัดขึ้นเพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้ทบทวนการต่อสู้ป้องกันตัว การต่อสู้ระยะประชิด รวมไปถึงเป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของข้าราชการตำรวจไปในตัว โดยปีนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สำหรับคะแนนรวมทั้งประเภทชายและหญิง 12 รุ่นน้ำหนัก โดยคะแนนรวมมากที่สุดของการแข่งขัน เป็นของกลุ่ม 13 ซึ่งเป็นนักกีฬาจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว 

ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ในปัจจุบันคนร้ายได้มีการต่อสู้กับตำรวจมากขึ้น ทำให้ตำรวจต้องมีความรู้ในการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยมือเปล่า เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน นักกีฬาทุกคนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บนสังเวียนแห่งนี้มีแต่มิตรภาพ เพราะเราคือพี่น้องที่หน้าที่เพื่อจุดหมายเดียวกันคือ เพื่อประชาชน พร้อมขอบคุณนักกีฬาตำรวจทุกคน ที่ร่วมแข่งขันกันอย่างมีสปิริตบนเกมกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย วางยศ ลดอัตตา

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า Cops Combat เป็นกีฬาที่มีการผสมผสานระหว่างมวยไทยและทักษะการต่อสู้ป้องกันตัวจากประเทศอื่น น้องๆ ตำรวจที่มาเป็นนักกีฬา สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้ป้องกันตัว ระหว่างปฏิบัติหน้าที่อาจต้องใช้ความรู้จาก Cops Combat มาใช้ในการป้องกันตนเอง จากผู้คลุ้มคลั่ง หรือจากอาชญากร ที่อาจจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ถึงชีวิตได้ ดังนั้น กีฬาต่อสู้ป้องกันตัวที่จัดขึ้นโดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีความจำเป็นกับทุกคน ซึ่งการจัดการแข่งขัน Cops Combat ปีนี้ พบว่ามีนักกีฬาจำนวน  14 กลุ่ม มากกว่า 14 กองบัญชาการ ที่ร่วมส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน และมีนักกีฬาเข้าร่วมจำนวนมากทั้งหญิงและชาย จึงอยากให้ข้าราชการตำรวจและนักกีฬาได้มีการพัฒนาตัวเอง พัฒนากำลังกายและทักษะเป็นประจำและสม่ำเสมอ เพราะตำรวจเรามีความจำเป็นต้องใช้ในภารกิจตำรวจกับชีวิตประจำวัน ขอบคุณนักกีฬาทุกคนที่เข้ามาร่วมการแข่งขัน และคาดหวังว่าในปีต่อๆ ไป จะมีการพัฒนาในการต่อสู่กับฝ่ายตรงข้ามอย่างมีประสิทธิภาพ

นักท่องเที่ยวอิสราเอลลั่น ‘เงินฉันสร้างประเทศนี้’ หลังไม่ถอดรองเท้าเข้าร้านอาหาร จุดกระแสวิจารณ์ลามทั้งโซเชียล เจ้าตัวแจงคลิปถูกตัดต่อบิดเบือนความจริง

(7 พ.ค. 68) เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อเพจ “Koh Phangan Conscious Community” เผยแพร่คลิปนักท่องเที่ยวหญิงชาวอิสราเอลรายหนึ่งกล่าวในลักษณะที่ถูกมองว่าเหยียดคนไทย โดยมีใจความว่า “เงินของนักท่องเที่ยวอย่างเธอใช้สร้างประเทศไทย” เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะมีการถกเถียงในร้านอาหารเล็ก ๆ บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีข้อกำหนดให้ถอดรองเท้าก่อนเข้าใช้บริการ

ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหญิงในคลิปแสดงความไม่พอใจเมื่อถูกขอให้ถอดรองเท้า และตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่ถูกตีความว่าไม่ให้เกียรติวัฒนธรรมไทย คลิปถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 และมีรายงานว่ามีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

หลังคลิปกลายเป็นไวรัล ชาวเน็ตไทยจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ มองว่าเป็นการไม่เคารพขนบธรรมเนียมท้องถิ่น และสะท้อนภาพจำด้านลบของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่มองประเทศไทยเป็นเพียง “ประเทศราคาถูก” ที่ต้องพึ่งพารายได้จากต่างชาติ

ต่อมาในวันที่ 6 พฤษภาคม นักท่องเที่ยวหญิงในคลิปได้โพสต์ขอโทษ โดยอ้างว่าคำพูดของตนถูกนำเสนอผิดบริบท พร้อมชี้แจงว่าตนเจ็บเท้าและได้รับอนุญาตให้ใส่รองเท้าเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงดังกล่าวกลับยิ่งจุดกระแสถกเถียงถึงความเข้าใจผิดระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นกับทัศนคติของนักท่องเที่ยว ที่อาจกำลังกลายเป็นปัญหาซ่อนเร้นบนเกาะพะงันที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม

พิษณุโลกแม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ ในพื้นที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เมื่อวันที่ (6 พ.ค. 68) พล.ท.กิตติพงษ์​  แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 เดินทางตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ ของหน่วยฝึกทหารใหม่  ร.4 พัน.3, มทบ.39 และ ส.พัน.4 พล.ร.4  สำหรับวันนี้เป็นวันที่ 6​ ของการฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2568 หลังจากที่ทหารใหม่เข้ามารายงานตัว ในวันที่ 1 พ.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งในห้วงแรกเป็นการดำเนินการเรื่องธุระการและให้น้องๆ ทหารใหม่ได้มีโอกาสปรับตัวหลังจากเข้ามารายงานตัวในหน่วยต่างๆ ซึ่งห้วงแรกนี้เป็นการฝึกบุคคลท่าเบื้องต้น บุคคลท่ามือเปล่า ซึ่งเป็นการปรับตัวของน้องๆ ทหารใหม่จากบุคคลพลเรือนมาเป็นทหารใหม่ สำหรับการฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2568 จะทำการฝึก จำนวน 6 สัปดาห์ และทำการฝึกเฉพาะหน้าที่ จำนวน 3 สัปดาห์ เมื่อการฝึกเสร็จสิ้นก็จะมีกิจกรรม Open house เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและญาติ มาชมการแสดงและดูการเปลี่ยนแปลงของน้องๆ ทหารใหม่ ก่อนที่จะปล่อยน้องทหารใหม่ไปพักบ้านหลังจากผ่านการฝึกมาแล้ว จำนวน 9 สัปดาห์ ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 เน้นย้ำ การฝึกทหารใหม่ ขอให้ปฏิบัติตามข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นในการฝึกทหารใหม่อย่างเคร่งครัด เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องโรคลมร้อน (Heat Stroke) ให้หน่วยฝึกมีมาตราการควบคุมและฝึกซ้อมการส่งป่วย เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และครูฝึกจะต้องอยู่กับทหารใหม่ตลอด 24 ซม. เพื่อคอยกำกับดูแลทหารใหม่ให้เหมือนญาติพี่น้องและ บุคคลภายในครอบครัว ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก

โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยผู้ช่วยเลขานุการประธานรัฐสภา แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีผู้กระทำความผิดแอบอ้างใช้ชื่อและรูปภาพของผู้ช่วยเลขานุการประธานรัฐสภาไปหลอกลวงผู้เสียหาย

(6 พ.ค. 68) ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ ผู้ช่วยเลขานุการประธานรัฐสภา แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีผู้กระทำความผิดแอบอ้างใช้ชื่อและรูปภาพของนายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ ไปหลอกลวงผู้เสียหาย นายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ กล่าวว่า เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ได้มีผู้มายื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภา อ้างว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นผู้ช่วยเลขานุการประธานรัฐสภา หลอกลวงชักชวนให้ลงทุนและวิธีอื่น ๆ ทำให้มีผู้เสียหายหลายรายตามที่ปรากฏเป็นข่าว สร้างความความเสียหายแก่ตนเป็นอย่างมาก  และในปัจจุบันมีตนเพียงคนเดียวที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการประธานรัฐสภา ซึ่งอาจทำให้ประชาชนและผู้ที่ติดตามข่าวเข้าใจผิดว่าตนเป็นผู้กระทำความผิด โดยมิจฉาชีพได้ใช้ชื่อและรูปภาพของตน ปลอมบัญชี Facebook Tiktok Instagram และนำไปหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหายในรูปแบบต่าง ๆ  ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อและได้ทำการโอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพหลายครั้ง จำนวนแตกต่างกันไป โดยผู้เสียหายได้ทำการร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายท้องที่และได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนหลายสำนัก ซึ่งต่อมาตนได้ไปออกรายการถกไม่เถียง ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เพื่อแสดงตัวตนที่แท้จริงและให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปเพื่อไม่ให้ถูกหลอกลวง อันแสดงถึงเจตนาที่จะทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์มิจฉาชีพไปหลอกลวงประชาชนได้อีก ซึ่งผู้เสียหายบางรายที่ได้พบและพูดคุยกับตนที่สถานีตำรวจ ได้ทำความเข้าใจกันแล้ว โดยผู้เสียหายทราบแล้วว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดและไม่มีผู้เสียหายรายใดโอนเงินมายังบัญชีของตนเลย และก่อนหน้านี้ผู้เสียหายก็ไม่เคยพบหรือพูดคุยกับตนแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการปลอมบัญชีที่ใช้ชื่อ นามสกุล และรูปภาพของตน มากกว่า 30 บัญชี โดยตนได้ไปแจ้งความที่ สน.บึงกุ่ม เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 และวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) โดยได้มีหนังสือแจ้งความคืบหน้ามา เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 จาก สน.บึงกุ่ม สาระสำคัญว่า คดีนี้การสอบสวนเสร็จสิ้น มีความเห็นงดสอบสวนเนื่องจากปรากฏพยานหลักฐานการตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำความผิดนั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากฐานข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ Facebook Tiktok line และ Tinder ผู้ให้บริการมีถิ่นที่อยู่ต่างประเทศ อันเป็นข้อจำกัดในการสั่งให้ส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการได้จึงไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำความผิด
ทั้งนี้ ตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายทุกท่าน และเห็นใจที่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวง แต่ทุกสิ่งต้องดำเนินไปตามกฎหมาย ประชาชนทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและรักษาสิทธิของตนเอง จึงขอให้กลุ่มผู้เสียหายและตัวแทน ติดตามทวงถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สน.ที่แจ้งความ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการออกหมายเรียกหรือหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายกับผู้ที่เปิดบัญชีรับโอนเงิน ผู้ที่รับโอนเงิน หรือผู้ที่ทำการเบิกถอนเงิน รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากกว่าที่จะเดินทางไปร้องเรียนกับหน่วยงานต่าง ๆ และหากมีข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่ผู้เสียหายรวมถึงตัวแทนเดินทางไปร้องเรียนตนกับหน่วยงานต่าง ๆ นั้น เป็นการกระทำโดยไม่สุจริตและไม่มีพยานหลักฐานใด ๆ เกี่ยวข้องว่าตนเป็นผู้กระทำความผิด ตนอาจจะต้องใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับตนต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอให้สื่อมวลชนและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้สามารถปกป้องตนเอง ไม่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และไม่ให้เรื่องลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top